ความคิดเห็นที่ 1 การเริ่มต้นของเรา  มาจากการที่ตอนเราอยู่ปี 1  พี่รหัสเราไป W&T ที่อเมริกาแล้วมาเล่าให้เราฟังค่ะ   ตอนนั้นพี่เค้าไปที่เวอร์จิเนีย  ทำงานสวนสนุก  เราฟังแล้วก็เหมือนเด็กๆหลายคนค่ะ  ที่คิดว่าดีเนอะ   ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ  แถมได้ทำงานได้ตังค์อีกตังหาก  และพี่รหัสเราก็บอกอีกด้วยว่า  ดี  เพราะว่า ได้ไปฝึกภาษาแล้วได้เพื่อนกลับมาด้วย  เราก็มีถามเรื่องเงินที่ได้เหมือนกัน  พี่เค้าก็บอกว่าแล้วแต่คน   บางคนทำมากได้มาก  ทำน้อยก็ได้น้อย  ทั้งหมดที่พี่เค้าพูดมาเนี่ย  ทำให้เราอยากไปโครงการนี้ค่ะ  ^^ เรากลับบ้านมาเล่าให้แม่ฟัง  บอกแม่ว่าอยากไปมั่งจัง  ตอนปี 2 ขอไปนะ  แม่ก็ถามๆรายละเอียดนิดหน่อยค่ะ   แล้วก็โอเค  ตอนนั้นในใจเรามันร้องว่า  เย้ๆๆๆๆๆ  ^___^  เพราะไม่นึกว่าแม่จะให้ไปค่ะ  แม่เป็นคนห่วงลูก มากทีเดียว  พอแม่ให้นี่...ดีใจแบบนับวันรอให้ถึงปิดเทอมตอนปี 2 เลยค่ะ  จะได้ไปซักที  ฮิฮิ เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกจริงๆค่ะ  ไม่ทันไรเราก็ขึ้นปี 2 แล้ว  แล้วเราก็พูดกับแม่บ่อยๆเรื่องนี้ (ย้ำค่ะ  ไม่งั้นเดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจไม่ให้ไปขึ้นมาแล้วแย่เลย T-T)  แม่ก็เห็นด้วยตลอด  เพราะว่าแม่อยากให้เรา ไปฝึกทำงานหนักๆค่ะ  ส่วนพ่อก็ไม่ว่าอะไรค่ะ  อยากให้ไปเหมือนกัน  ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้ลูกทำงานเป็น กลับมาบ้านจะได้มาเป็นแม่บ้าน 55555 ปล. แก้ไขข้อความให้อ่านง่ายๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 11:23:22 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 10:12:03 จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 10:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราเริ่มสมัครโครงการนี้กับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่เดียวกับที่รุ่นพี่เราไปตอนช่วงตุลาคมค่ะ  เราสอบ ข้อเขียนผ่านแล้ว  และตอนนั้นว่าจะไปที่เวอร์จิเนียกับเพื่อน  แต่ว่า...เราเพิ่งรู้เหมือนกันว่าลูกพี่ลูกน้อง พี่สาวไม่แท้ ก็ไปสอบมาเหมือนกันค่ะ   ตอนนั้นเราตาโตเลย O_o  ดีใจค่ะ  เราเลยเลือกที่จะไปกับพี่สาว  ก็จองคิวสัมภาษณ์เหมือนพี่สาวค่ะ   อ๋อ...ลืมเล่าไปว่าที่บริษัทนี้  พอเราสอบข้อเขียนผ่าน  เราจะต้องไปจองคิวสัมภาษณ์ผ่านเวบไซท์   เหมือนเราเลือกสถานที่  ว่าเราอยากไปทำงานที่ไหน  แล้วเราก็จะได้สัมภาษณ์กับนายจ้างจากที่นั่นค่ะ ^^ แน่นอนว่าเราเลือกสัมภาษณ์ที่เดียวกับพี่สาวเรา...วันนั้นเราก็ไปสัมภาษณ์ที่โรงแรมด้วยกัน 2 คนค่ะ นักศึกษาเยอะมาก   ตอนนั้นคิดในใจว่า...ดีนะเนี่ยที่มากัน 2 คน  ไม่งั้นเหงาตายแน่ๆเลย  55555   แต่ดีได้แป๊ปเดียวค่ะ   เพราะว่าเมื่อเราเดินไปดูบอร์ดที่เค้าแปะรายละเอียดของสถานที่การทำงานไว้ ที่ที่เราเลือกจะไปมันเลื่อน ช่วงเวลาทำงานออกไปถึงเดือนมิถุนายนเลยค่ะ ToT  ซึ่งเราไม่สามารถทำได้  เพราะว่าต้องกลับมาเรียน   จะทำถึงแค่เดือนพฤษภาคมก็ไม่ได้  นายจ้างไม่รับค่ะ   เราเลยไปถามจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทว่าต้องทำยังไง  เราถามพี่เค้าเกี่ยวกับอีกสถานที่นึงที่เราอยากไป   ว่าพรุ่งนี้มีคิวสัมภาษณ์มั๊ย  พี่เค้าเลยบอกว่า  พรุ่งนี้มีนะคะ  แต่น้องต้องมาลงชื่อแต่เช้าเลย( เช้าคือ 8.30 น.ค่ะ ) แล้วพี่จะจัดคิวให้น้องสัมภาษณ์  เรากับพี่สาวก็เลยนัดกันว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ค่ะ  มาเช้าๆเลย  จะได้ได้สัมภาษณ์ก่อนคนอื่น ^__^ แต่ว่าเราคิดผิดค่ะ.....................................วันรุ่งขึ้นเราออกจากบ้านแต่เช้า  ไปถึงตรงตามเวลาทุกอย่าง   ไปถึงแล้วก็ถามพี่คนเดิมเลย  บอกว่าเรามาลงชื่อสัมภาษณ์ก่อนเพราะว่าเมื่อวานเราเข้าสัมภาษณ์ไม่ได้  แต่เค้า ตอบกลับมาว่า  วันนี้นายจ้างของที่ที่เราจะไปไม่มาสัมภาษณ์แล้วค่ะ  ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน................ คำตอบของพี่เค้าทำเอาเรากับพี่สาวอึ้งเลยค่ะ  - -"  เค้าตอบแบบนี้  จะให้เราทำยังไงล่ะ  ก็เท่ากับเราอดไปล่ะซิ  ToT   เราก็ไปเอาเงินค่าสัมภาษณ์คืนค่ะ( ที่นี่ต้องจ่ายค่าสัมภาษณ์ 2000 กว่าบาทมั้งคะ  คงเป็นค่าเครื่องบิน ของท่านนายจ้างทั้งหลายที่อุตส่าห์บินมาจากอเมริหาเพื่อสัมภาษณ์เราน่ะค่ะ )  แล้วเราก็โทรไปบอกแม่ว่าอดไป   บ่นๆเล็กน้อยค่ะ  แม่ก็บอกเราว่าไม่เป็นไรนะ  เดี๋ยวแม่พาไปเที่ยวที่อื่นแทน.........แต่ว่าเราไม่ยอมค่ะ   ตอนนั้นเราบอกแม่เราเลย  ว่าจะต้องไปให้ได้นะ  ตั้งความหวังแบบมุ่งมั่นสุดๆเลยค่ะ  555555 ปล. แก้ให้อ่านง่ายๆค่ะ ปล. แก้ให้อ่านง่ายกว่าอีกค่ะ ฮิฮิ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 20:34:48 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 11:26:21 จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 10:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้นเราก็เปิดเทอม  ToT ยังหาที่ไปไม่ได้เลยค่ะ  ช่วงนั้นเราก็ไปเฝ้าลุงที่ผ่าตัดที่โรงพยาบาลใกล้ๆ มหาวิทยาลัยเราค่ะ   ไปเฝ้าทุกวันเลย  กลับมาบ้านแล้วก็เข้าเวบไซต์หาโครงการเจ้าพวกนี้  แต่ว่าเจอแต่บริษัทที่ เราไม่เคยได้ยินชื่อน่ะค่ะ  เราเลยไม่ไว้วางใจซักเท่าไหร่   จนวันนึงตอนเฝ้าลุงอยู่  พี่สาวก็มาเยี่ยม  แล้วบอกว่าไปเปล่า ทำโรงงาน Hershey's ชั่วโมงละ 7.5 เหรียญนะ   เราก็หูผึ่งตาโตอีกรอบค่ะ  ในใจนึกไปถึงเรื่องโรงงานช็อคโกแลตของคุณวิลลี่ วองก้าแล้ว  ว่าเราจะได้ไปทำงานแบบนั้นมั๊ยนะ  ฮิฮิ   ตอนนั้นฝันหวานพอสมควรค่ะ  ว่าทำงานในนั้นแล้วจะกินช็อคโกแลตทั้งวันเลย  คิดแบบมีความสุขมากค่ะ ^_____^   กลับมาบ้านเราก็หาเบอร์ของบริษัทเอเจนท์นั้น  แล้วโทรไปถามเค้าว่ามีงานของ Hershey's จริงเปล่า  เค้าก็ตอบกลับมา ว่ามีค่ะ  เราก็เลยบอกแม่ว่า  เนี่ยๆๆได้ที่ใหม่แล้วนะ  ขอไปนะแม่  แม่เราก็บอกว่ารีบๆสมัครเลยลูก  เดี๋ยวไม่ได้ไปอีก   ฮิฮิ  แม่อยากให้ไปมากๆเลยค่ะ เราก็ไปสมัครสัมภาษณ์กับบริษัทนั้นกับพี่สาวเราค่ะ  สัมภาษณ์ผ่านแล้ว  พี่เค้าก็บอกว่าให้ตัดสินใจให้แน่ก่อนนะ   แล้วค่อยเอาเงินค่าโครงการงวดแรกมาให้  แล้วพี่เค้าก็จะใส่ชื่อเราลงในลิสท์คนที่จะไป Hershey's  เราก็อีกแล้วค่ะ ..............ช้าค่ะ ToT  ประมาณว่าเอาให้แน่จริงๆ  จนวันที่แน่อ่ะค่ะ  เอาเงินไปให้เค้า  แต่เค้าบอกว่า Hershey's เพิ่งเต็มไปเมื่อวานเองน้อง  คิดแค้นใจตัวเองค่ะ  ว่าทำไมเต่าอย่างนี้นะ  เลยอดไปเลยดูซิ  :(   พี่ที่เป็นเจ้าของบริษัทเค้าเลยมาแนะนำเราว่า  ลองดูสถานที่อื่นดูซิ  ว่าอยากไปที่ไหน  เราก็ดูๆแล้วเลือกกับพี่สาวเราค่ะ   แล้วก็โทรไปบอกแม่ด้วยว่าต้องเปลี่ยนที่ไปแล้วนะ  เพราะว่ามาช้าไป  แม่ก็บ่นๆนิดหน่อยค่ะ  แต่ก็ไม่ว่าอะไร ^^" เราก็เลยเลือกโครงการที่จะไป  ชื่อว่า APEX  ซึ่งเป็นโครงการที่จะพาเด็กๆเหล่านี้ไปทำงานที่ฟลอริดาค่ะ   จะส่งไป 2 เมืองคือ ปานามาซิตี้กับเดสทิน   แล้วเค้าก็บอกว่าส่วนใหญ่เป็นงานร้านฟาสท์ฟู้ดหรือไม่ก็โรงแรม  พูดง่ายๆคือไปล้างจาน  ไม่ก็ไปทำความสะอาดน่ะค่ะ 5555   เราเลือกโครงการนี้  เพราะว่าเราอยากไปฟลอริดามานานแล้วค่ะ  พอดีชอบดู CSI Miami แล้วคิดว่าฟลอริดาน่าจะสวยแบบนี้แหละ เลยอยากไปค่ะ ฮิฮิ  แต่ตอนนั้นยังไม่รู้นะคะว่าจะได้งานอะไร  ไปถึงที่นั่นถึงจะรู้ค่ะ ปล.  แก้ให้อ่านง่ายๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 20:36:58 จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 11:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวเย็นนี้มาต่อให้นะคะ  ต้องออกไปเรียนแล้วค่ะ ToT จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 11:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สนใจเรื่องของคุณลูกสนมากเลย อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้มาก เป็นโครงการที่น่าสนใจทีเดียว ช่วยแอดเมล์มาคุยกันหน่อยนะจ้าที่ oat_kn@hotmail.com จากคุณ : คิมคานา - [ 13 พ.ย. 49 11:40:56 A:58.8.45.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอรออ่านนะคะ ขอเป็นแฟนคลับ Work &Travel จากคุณ : อยู่ที่ห้องนี้นะคะ (< Siam Citizen >) - [ 13 พ.ย. 49 12:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รอฟังอยู่นะ แต่ผมอยู่เมกาอยู่แล้วอะ จากคุณ : _NutBoy_ - [ 13 พ.ย. 49 12:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รอฟังด้วยคน จากคุณ : xingto16 - [ 13 พ.ย. 49 16:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^^ กลับมาแล้วค่ะ   ขอบคุณคุณคิมคานา  คุณSiam Citizen  คุณ_NutBoy_  คุณxingto16  ที่เข้ามารอนะคะ  :) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- พอเลือกโครงการนี้แล้ว  เราก็ต้องส่งเอกสารให้ทางบริษัทเยอะแยะเลยค่ะ  เค้าจะเอาไปเตรียมไว้ให้เราทำวีซ่า   แล้วก็ต้องส่งเรียงความไปให้ทางโครงการ APEX ด้วย  มีทั้ง resume แล้วก็เรียงความหัวข้อที่ว่า   ทำไมอยากเข้าร่วมโครงการนี้  - -" ได้ใช้ประโยชน์จากวิชาภาษาอังกฤษที่เรียนก็ตอนนี้ล่ะค่ะ 5555   แล้วเราก็ต้องไปสัมภาษณ์กับนายจ้างที่มาจากโครงการ APEX ด้วย  สัมภาษณ์ง่ายๆค่ะ  ไม่มีอะไรเลย   ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ  ^^ มาถึงตอนนี้เราขอพูดถึงเอกสารที่จำเป็นในการขอวีซ่านะคะ  เพราะมันละเอียดกว่าที่คิดค่ะ  เท่าที่เราจำได้นะคะ - สำเนา Passport พร้อมตัวจริง - บัตรประชาชนของเรา - บัตรนักเรียน - ทะเบียนบ้านของผู้ปกครองกับของเรา - ใบแสดงผลการเรียน(Transcript) พร้อมตราประทับของมหาวิทยาลัย - ใบแสดงสภาพความเป็นนักศึกษาพร้อมตราประทับของมหาวิทยาลัย - Financial Statement  อันนี้หลายๆคนเข้าใจว่าแค่ถ่ายเอกสารของบัญชีพร้อมชื่อผู้ปกครองมาได้เลย แต่ที่จริงไม่ใช่นะคะ  ต้องถ่ายเอกสารของบัญชี  พร้อมชื่อเจ้าของบัญชี  ต้องมีตราประทับของธนาคาร แล้วก็ลายเซ็นของเจ้าของบัญชีด้วยค่ะ - ใบแสดงสถานะการทำงานของผู้ปกครอง  อันนี้บอกให้พ่อหรือแม่ขอแต่เนิ่นๆเลยค่ะ  เพราะถ้าไป เร่งเอาตอนใกล้ๆเวลาส่งเอกสาร  อาจโดนดุได้ ฮิฮิ นี่คือเท่าที่จำได้นะคะ  ความจริงอาจมีมากกว่านี้ก็ได้  ทางที่ดีพวก Transcript กับใบแสดงสถานภาพความ เป็นนักศึกษาขอไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเลยก็ดีค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 16:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องวีซ่า  พี่ทางบริษัทเค้าจะโทรมาบอกเราว่าได้คิวสัมภาษณ์วีซ่าวันไหน  ตอนกี่โมง  เราก็ไปตามที่เค้านัดอ่ะค่ะ การไปสัมภาษณ์ที่กงสุลอเมริกาเป็นอะไรที่เสียเวลาสุดๆเลยค่ะ  ตอนนั้นรู้สึกว่าเราจะได้คิวสัมภาษณ์ตอน 10.30 น. แต่ว่าเราต้องไปถึงสถานทูตก่อน 1 ชั่วโมง   เราก็ไปตามนั้นล่ะค่ะ  ไปเอาเอกสารที่พี่ทางบริษัทจัดให้แล้วก็เข้าคิว  ยืนรอขาแข็งเลยค่ะ 5555  กว่าจะได้เข้าไปข้างใน   พอเข้าไปก็ต้องฝากกระเป๋าฝากมือถือ  แล้วก็ยื่นเอกสาร  พอยื่นเสร็จก็ต้องรอคิวเข้าสัมภาษณ์  เราขอสัมภาษณ์เป็น ภาษาอังกฤษค่ะ   นั่งรอนานเหมือนกันค่ะว่าจะได้เข้าไปสัมภาษณ์   และแล้วเค้าก็ประกาศ " หมายเลข XXX เชิญช่อง 8 ค่ะ " มาตอนนี้ต้องขอเล่าย้อนอดีตหน่อยค่ะ  เมื่อก่อนตอนเราอยู่ ม.ปลายเนี่ย   เราเข้ามาอ่านห้องไกลบ้านบ่อยมากๆเลยค่ะ   แล้วรู้สึกว่าจะมีกระทู้แนะนำซัก 2  กระทู้ได้มั้งคะ  ที่บ่นเรื่องการไปขอวีซ่าที่กงสุลอเมริกา  แล้วเจอแจ๊กพอตแตก   ได้ป้ามหาภัยช่อง 8 น่ะค่ะ  เท่าที่จำได้รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่จะบอกว่า  ป้าช่อง 8 ไม่ให้วีซ่า  หยิ่ง  ดุ  อย่างนู้นอย่างนี้   เคยอ่านกระทู้แล้วเค้าบอกว่า  ป้าไม่ให้วีซ่าเค้า  เพราะว่าเค้าเลี้ยงแมวไว้ที่บ้าน  ป้ากลัวไม่มีคนให้อาหารแมวค่ะ - -" ตอนนั้นเราคิดว่าป้าช่อง 8 นี่น่ากลัวเนอะ  ถ้าไปขอวีซ่าก็ขออย่าให้เจอป้าแกเลย....สาธุ กลับมาต่อดีกว่าค่ะ.........พอเราได้ยินคำว่าช่อง 8  แปด แปด แปด แปด.......ความรู้สึกมันประมาณว่า  เอาละ   โดนซะละเรา ToT  แต่ตอนนั้นรู้สึกมีคนบอกว่าที่สถานทูตเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ใหม่  เลยยังพอมีลุ้นค่ะ  ในใจเราก็บอกว่า   อาจจะไม่ใช่ป้าก็ได้น่า  ป้าเค้าไม่อยู่แล้วมั้ง  เดินไปลุ้นไปค่ะ  จนมองไปเห็นช่อง 8  เป็นฝรั่งผู้ชายหน้าตาดีค่ะ ^__^   ใจชื้นเลยค่ะตอนนั้น  เราก็เดินเข้าไปยื่นเอกสารให้เค้า  แล้วก็ปั๊มนิ้วมือ  แล้วเค้าก็สัมภาษณ์เราเป็นภาษาอังกฤษค่ะ   คำถามแรก "ไปที่ไหน" คำถามที่สอง "ไปทำอะไร" เท่านี้เองค่ะ  แล้วเค้าก็บอกว่าขอให้เราโชคดีนะ ^^  เสียเวลาไป 2 ชั่วโมง   แล้วเค้าสัมภาษณ์เรา 2 วินาทีค่ะ  55555555  ได้วีซ่ามาง่ายๆเลย  เอาเป็นว่าใครที่ได้ช่อง 8  ไม่ต้องกลัวป้าแล้วนะคะ   ไม่มีป้าค่ะ  มีแต่หนุ่มน่ารัก ฮิฮิ ปล. แก้ให้อ่านง่ายๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 20:38:59 จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 16:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากได้วีซ่าแล้วก็มีปฐมนิเทศคนที่จะไปโครงการ W&T ของทางบริษัทค่ะ  ไปนั่งฟังตั้งแต่เที่ยงยัน 5 โมงได้มั้งคะ   พาแม่ไปด้วยค่ะ  ฮิฮิ  แม่ก็คอยจดๆๆๆทุกอย่างที่เค้าบอก  เค้าก็พูดเรื่องวัฒนธรรมอเมริกา  พูดเรื่องกฏต่างๆ   แล้วก็เอาคนที่เคยไปมาเล่าเรื่องให้ฟังค่ะ   แล้วก็แน่นอนว่ามันคงไม่พ้นเรื่องเงินค่ะ  บางคนก็บอกว่าได้ 6000   บางคนได้ 4000 บางคนก็ 3000  พวกเราที่นั่งฟังอยู่ก็ตาโตกันค่ะ  ได้เงินเยอะกันจังเลยเนอะ  ไปแล้วเราจะได้อย่างนั้น บ้างรึเปล่า  คำตอบคือ  ตัวเราเองได้ค่ะ  แต่ว่า...แต่อะไรรออ่านเอานะคะ หลังจากนั้นก็มีเรื่องตั๋วค่ะ  ที่ๆเราจะไปคือต้องไปลงที่สนามบินของปานามาซิตี้  ซึ่งต้อง transit หลายรอบมากๆค่ะ   ตอนแรกเรากับพี่สาวจะเอาไมล์การบินไทยของอาไปใช้ค่ะ  อาให้  แต่ว่าตอนหลังอาเป็นห่วงว่าไปกันสองคนเอง   เดี๋ยวไปหลงทางอยู่ในสนามบินแล้วต้องเป็น The Terminal จะทำยังไง 55555   อาเราเป็นคนที่เดินทางบ่อยมากๆค่ะ  มีไมล์เยอะมากเลย  แต่ขนาดเดินทางบ่อยอาเรายังเคยเป็น The Terminal ครั้งนึงเลยค่ะ  ไปติดอยู่ที่สนามบินที่ไหนที่อเมริกาไม่รู้ตั้ง 10 ชั่วโมงได้ค่ะ 5555   อาเลยเป็นห่วงหลานไงคะ  สุดท้ายเรากับพี่สาวเลยซื้อตั๋วกับทางบริษัทนี่แหละค่ะ   โดยเค้าจะซื้อตั๋วเหมารวมให้กับพวกนิสิตนักศึกษาที่จะไปโครงการ W&T  แล้วจะได้ราคาถูกลง(มั้งคะ) ปล.ขอเรียบเรียงข้อมูลให้อ่านง่ายๆหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 07:49:25 จากคุณ : ลูกสน - [ 13 พ.ย. 49 17:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากลองไปมั่งจังเลย เสียดายที่อายุไม่ถึง เอ๊ย อายุเกินแล้ว อิอิ จากคุณ : Susie - [ 13 พ.ย. 49 20:06:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มารอฟังค่ะ จะไปปีหน้า =) จากคุณ : [[ T-pc ~ ]] - [ 13 พ.ย. 49 22:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เยี่ยมครับ รออยู่นะครีบ จากคุณ : _NutBoy_ - [ 14 พ.ย. 49 02:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 T-T ขอโทษนะคะที่ให้รอ  เมื่อวานเครื่องเราช้ามากหรือไม่ ก็พันทิบอืดมากๆๆค่ะ  เลยมาลงไม่ได้เลย ------------------------------------------------------------ ------------------------------------ แต่แล้วมันก็มีเรื่องอีกจนได้ค่ะ - -"  ตอนใกล้ๆวันที่จะบิน( เราจองวันที่ 16 มี.ค.ค่ะ )  ทางบริษัทเค้าโทรมาบอกว่า   เรากับพี่สาวอาจจะไม่ได้บินตามวันที่จองไว้นะ  อาจจะหลังจากนั้น  เพราะว่าทางเอเจนท์ที่ออกตั๋วเครื่องบิน เค้ามีปัญหาอะไรก็ไม่รู้  เราก็เออๆออๆไปค่ะ  ยังไงก็ได้  ขอให้เราได้ไปกับพี่สาวเราวันเดียวกันไฟลท์เดียวกันก็พอแล้ว   ช่วงนั้นเราก็เริ่มๆเตรียมของค่ะ  เอามาวางใส่กระเป๋าไว้บ้างแล้ว  แต่ของยังไม่ครบทั้งหมด  เพราะคิดว่ายังไงก็คงได้ หลังวันที่ 16 แน่ๆ แต่พอวันที่ 14 มี.ค.  พี่ที่บริษัทโทรมาบอกถามเราว่า  น้องบินคืนนี้ได้มั๊ยคะ   พอเจอคำถามนี้เราคิด ในใจเลยค่ะ ว่าจะบ้าหรอไง  มาบอกให้บินวันนี้ได้ไงฟระ :(  เราจองไว้วันที่ 16 นะ  จะเลื่อนให้เราบินเร็วขึ้นได้ไง   เราก็เลยตอบเค้าไปเสียงแข็ง  ว่าไม่ได้ค่ะพี่  กระเป๋ายังจัดไม่เสร็จเลย  เค้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะ  คงโทรหาเด็ก คนต่อไปให้บินวันที่ 14 แทน - -" จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 07:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พูดถึงเรื่องจัดกระเป๋าดีกว่าค่ะ ^^  เราก็เอาของที่คนไทยแทบทุกคนต้องเอาไปกันน่ะค่ะ   " ของกิน "  ไงคะ   ทั้งมาม่า  อาหารกระป๋อง  น้ำพริก  ซีอิ๊ว  น้ำมันหอย  บลาบลาบลา  เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ  แล้วก็พวกเสื้อผ้า   ยาประจำตัว  แชมพู  สบู่  ยาสีฟัน  แปรงสีฟัน  รองเท้า 3 คู่  เสื้อกันหนาว  ผ้าเช็ดตัว   ที่ตัดเล็บ  ของจุกจิก เยอะและเลยค่ะ  ใครที่ชอบทานเผ็ดๆเอาพริกป่นไปด้วยก็ดีค่ะ  ที่นั่นหาซื้อยากจัง   กระเป๋าของเราจัดแล้วได้ 2 ใบใหญ่ๆเลยค่ะ  แม่มาช่วยจัด  ไม่งั้นท่าทางปิดไม่ลงแน่ๆค่ะ 55555   ใบใหญ่มากๆๆแบบว่าตอนเอาไปชั่งที่ counter น้ำหนักเกินอ่ะค่ะ   อ๋อ...ลืมบอกค่ะ  ว่าเรานั่งสายการบิน NorthWest ค่ะ  รู้สึกว่าเค้าให้ได้ 70 ปอนด์มั้งค่ะ  ของเราเกินมานิดหน่อยเค้าก็หยวนๆให้น่ะค่ะ ^^" จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 07:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พอเตรียมตัวทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว  เราก็รอแค่ให้เค้าโทรมาบอก  ว่าเราบินวันไหน  จนถึงวันที่ 15 ตอนกลางวัน   เค้าก็ยังไม่โทรมาบอก( ถ้าตามที่เราจองไปเราต้องไปบินตอนตี 5 ของวันที่ 16 ค่ะ )  วันนั้นเราออกไปแลกเงินค่ะ   แล้วกลับมานั่งรอที่บ้าน  เมื่อไหร่จะโทรมานะ ???  ไม่มีเสียงโทรศัพท์เลยค่ะ  เราเลยต้องโทรไปหาทางบริษัทเอง - -"   ว่าตกลงแล้วเราได้บินวันไหน   พี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า  บินคืนนี้ค่ะน้อง(คืนของวันที่ 15 ก็หมายถึงวันที่ 16 ตอนตี 5 น่ะค่ะ   แต่ว่าเราต้องไปถึงสนามบินตอนตี 3)  ตอนนั้นเราดีใจค่ะ  อารมณ์ประมาณว่าได้ไปซักที  ลืมถามเลยค่ะ  ว่าได้บินพร้อม พี่สาวรึเปล่า(แต่ตอนนั้นในใจคิดว่าได้แน่ๆ  เพราะว่าบอกเค้าไปแล้วว่าจะไปพร้อมกัน)  เราเลยโทรไปบอกพี่สาวว่า   ได้บินคืนนี้นะ  อาแจ้จัดกระเป๋าเสร็จยัง  พี่สาวเราเลยโทรไปถามทางบริษัทค่ะ  ว่าเค้าได้บินคืนนี้เปล่า จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 07:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แต่คำตอบคือ.......ไม่.......  พี่สาวเราได้บินถัดจากเราวันนึงค่ะ  ToT  พอเรารู้เราก็โวยๆว่าทำไมไม่ได้บินพร้อมกัน   พี่สาวเราก็บอกว่าพี่ก็โวยวายเหมือนกัน  แต่ทางบริษัทบอกว่าเค้าจองตั๋วของวันที่ 16 ได้แค่ 5 ใบ(แต่ 1 ใน 5 ไม่มีพี่เรา)   เค้าบอกว่าถ้าเราไม่บินคืนนี้  คนอื่นที่จะบินไปกับเราที่ฟลอริดาอีก 4 คนจะไม่ได้บินหมดเลย  แล้วทางบริษัทก็ต้องจ่าย ค่าอะไรก็ไม่รู้ให้ทางเอเจนท์ขายตั๋วด้วย  แย่จริงๆเลย :(   เราก็โกรธ  แต่ก็ต้องบินค่ะ  มองโลกในแง่ดีว่าอย่างน้อยก็มีคนไปกับเราอีกตั้ง 4 คนแน่ะ  ไปเป็นเพื่อนกัน  แล้วเดี๋ยว พี่สาวก็ตามมาแล้ว( แต่ในใจกลัวเหมือนกันค่ะ ว่าเค้าจะพาเราไปส่งอีกเมือง พี่สาวไปอีกเมือง T-T )  แม่รู้ก็โกรธทางบริษัทค่ะ   แม่บอกว่าเดี๋ยวจะเอาไปเขียนประจานในอินเตอร์เนต 555555   คืนนั้นเราออกจากบ้านตอนตี 2 ครึ่งค่ะ  ไปถึงดอนเมืองตอนตี 3  ก็ไปเจอกับกรุ๊ปที่จะไปอเมริกาด้วยกัน   หลายคนเลยค่ะ  สามสิบกว่าคนได้....ที่เยอะก็เพราะว่าบางส่วนจะไปลงที่เพนซิลเวเนียค่ะ  ไปทำงานที่ Hershey's ที่เราอดไป T-T  ส่วนที่เหลืออีกนิดเดียวคือพวกเราเอง  ที่จะไปลงที่ฟลอริดาน่ะค่ะ   ตอนเราเดินไปเจอกรุ๊ปที่จะไปด้วยกัน  ก็มีน้องคนนึงมาทักค่ะ  แล้วถามว่าเราชื่ออะไร  จะไปไหน  พอเราบอกว่าไปฟลอริดา น้องเค้าก็ดีใจใหญ่เลยค่ะ ^^  เพราะเค้าก็ไปฟลอริดาเหมือนกัน  ขอตั้งชื่อสมมติให้น้องเค้าว่า  กบ  ละกันค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 07:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เราได้คุยกับน้องกบนิดหน่อยค่ะ  น้องเค้าบอกว่าเดี๋ยวไปที่เคาท์เตอร์ แล้วจองที่นั่งข้างๆกันนะ  เราก็โอเคค่ะ  แล้วก็ เดินไปเข้าห้องน้ำกับน้องสาว  แต่พอกลับมาน้องเค้าก็หายไปแล้ว ToT  เลยต้องไปที่เคาท์เตอร์คนเดียวเลย จองที่นั่งเสร็จก็ออกมาลาพ่อแม่แล้วก็น้องสาวค่ะ   แม่บอกว่าไม่ต้องทำงานหนักนะ  แม่แค่อยากให้ฝึกงานเท่านั้นเอง  เรื่องเงินไม่ต้องสนใจ  ส่วนพ่อบอกว่า   กลับมาบ้านพ่อหวังว่าจะเห็นลูกสาวจัดบ้านให้พ่อใหม่ค่ะ 55555  ส่วนคุณน้องสาวบอกว่า  เธออย่าลืมซื้อขนมกับ กระเป๋ามาฝากชั้นนะ - -"  ร่ำลากันเรียบร้อยเราก็หันหลังกลับแล้วเดินเข้าไป ตม. เลยค่ะ  ไม่มีการหันหลังกลับมามอง แล้วน้ำตาคลอแบบในละครไทยใดๆทั้งสิ้น  55 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 08:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เล่ามาตั้งนาน.................ได้เวลาขึ้นเครื่องซักทีค่ะ  ลำแรกจะไปลงที่สนามบินนาริตะ  เรานั่งข้างตี๋ญี่ปุ่นค่ะ ฮิฮิ   นั่งไป 6 ชั่วโมง  เล่นเอาเมื่อยก้นเลยค่ะ T-T  ที่ญี่ปุ่นหิมะตก  เย็นเชียวค่ะ  พอลงเครื่องก็ไปเจอกับน้องกบ   ก็เลยเดินไปด้วยกันค่ะ  เราก็เดินหา Gate ที่ต้องไปขึ้นเครื่องใหม่  เครื่องนี้จะไปลงที่ Minneapolis  เดินแบบรีบๆค่ะ   กลัวเป็น The Terminal  ฮิฮิ   พอขึ้นเครื่องเราก็ไม่ได้นั่งแถวๆน้องกบหรอกค่ะ  ได้นั่งติดสาวญี่ปุ่น  มาชวนเราคุยด้วยนะ  ^^   แต่ว่าสำเนียงอังกฤษแบบญี่ปุ่นนี่ฟังยากมากเลยค่ะ  ต้องให้เค้าพูดอีกรอบถึงฟังออก ^^"  ไม่รู้ว่าเค้าจะคิดว่า สำเนียงไทยฟังยากรึเปล่าเนอะ  ไฟลท์นี้นั่ง 12 ชั่วโมงค่ะ T______T  นั่งจนอยากลุกขึ้นมาเต้นแอโรบิคเลย 555 แต่ไม่กล้าทำค่ะ  เดี๋ยวเครื่องบินตก  :P จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 08:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาขั้นป่าวไม่ทราบ .. ถ้าใช่ขอออภัยค่ะ แค่อยากบอกน้องลูกสนว่า ป้าอ่านอยู่นะคะ อ่านอยู่จ้า จากคุณ : < Siam Citizen > - [ 14 พ.ย. 49 10:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ^^ สวัสดีค่ะพี่ < Siam Citizen >  ขอบคุณนะคะที่ติดตาม  เมื่อกี้ลูกสนไปปั่นมาน่ะค่ะ   เดี๋ยวลงต่อให้นะคะ :) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่ Minnaepolis ก็หิมะตกค่ะ  หนาวมากๆเลย  มาทีนี่แล้วเราก็ต้องผ่าน ตม. ของเค้าแล้วค่ะ   ก็กรอกแบบฟอร์ม Immigration  แล้วให้เจ้าหน้าที่ตรวจดู Passport  เจ้าหน้าที่ก็ถามอะไรนิดหน่อยค่ะ   เราเจอเจ้าหน้าที่ใจดีมากๆเลยค่ะ  เป็นคุณลุงน่ารักสุดๆเลย  เค้าถามว่าเรามาที่นี่ครั้งแรกหรอ  เราบอกว่าใช่   เค้าก็เลยถามว่า  " What took you so long? " 5555  ลุงคนนี้เป็นมิตรมากๆเลยค่ะ  ยังจำได้จนทุกวันนี้เลย ^^ พอผ่าน ตม. เราก็ต้องไปเอากระเป๋าค่ะ  กระเป๋า 2 ใบหนักๆ  ต้องให้น้องกบช่วยยกออกมาจากสายพานค่ะ   ถ้าไม่มีน้องกบนี่แย่เลย T-T  กระเป๋า 2 ใบนั้นจะถูกเอาเข้าเครื่องสแกนค่ะ  แล้วก็ส่งไปที่ปลายทางต่อ   แล้วเรากับน้องกบก็ออกมาเดินเล่นค่ะ  เพราะว่ามีเวลา 3 ชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก ^^   พูดถึงเรื่องของในกระเป๋าดีกว่า  ตอนเราไปเราไม่ได้เอาของต้องห้ามอะไรเข้าไปค่ะ  เท่าที่เรารูนี่ พวกหมู  เอาเข้าไม่ได้เลยค่ะ  น้องข้างบ้านเราเรียนอเมริกา  แล้วเคยเอาข้าวตังหมูหยองเข้าไป โดนเลยค่ะ 55555  ขนาดมีหมูโปะหน้าอยู่หน่อยเดียวเองนะคะ  ส่วนพวกปลานี่เอาเข้าได้ค่ะ เช่น ปลาสลิดทอด  ต้องทอดก่อนนะคะ  อย่าเอาแบบสดๆไปทอดกินเองที่นั่น  เดี๋ยวอดซะก่อน แล้วก็ต้องซีลถุงไปดีๆด้วยค่ะ ที่สนามบิน Minnaepolis  หรือที่เรียกว่ากันว่าสนามบิน St.Paul นี่ใหญ่มากๆเลยค่ะ  ร้านค้ามีพอสมควรค่ะ   ของสวยๆน่ารักๆทั้งนั้นเลย  เห็นแล้วอยากซื้อตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ ฮิฮิ  แต่ไม่ได้  เราต้องประหยัดค่ะ   ยังไม่ได้ทำงานเลยจะช้อปได้ไง  ที่น่าสนใจที่สุดในสนามบินคงเป็นของกินค่ะ  เบอร์เกอร์คิง  ไอศครีมEdy's   Ben&Jerry's  น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ  แต่เราก็ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ ^^"  ดูเฉยๆ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เครื่องที่เราไปต่อนั้นบินไปลงที่ Memphis ค่ะ  เกือบถึงละ ^^"  สนามบิน Memphis ก็ดูเก่าๆหน่อยค่ะ  แต่คนเยอะ พอลงที่นี่  เราก็ต้องไปขึ้นเครื่องต่อเพื่อไปลงที่ปานามาซิตี้คะ  พอถึงที่ปานามาแล้วก็มีคนของโครงการ APEX มารับพวกเราค่ะ ^^     คนที่มากับเรามีทั้งหมด 3 คน คือน้องกบกับผู้ชายคนนึงแล้วก็ผู้หญิงคนนึง  แต่อีกคนที่ตอนแรกทางบริษัท บอกว่าจะมาด้วย  หายไปไหนไม่รู้ค่ะ - -"  สงสัยถูกจับแยกบินกับเพื่อนเลยไม่มามั้งคะ 55555   สรุปว่าเรานั่งเครื่องบิน + เวลาที่ใช้รอเครื่องบินไปทั้งหมด 26 ขั้วโมงค่ะ....นานสุดๆๆ คนที่มารับพวกเราชื่อ Alex ค่ะ  เค้าพาเราขับรถไปเรื่อยๆ  ข้างทางก็มืดๆค่ะ  เรา 4 คนก็เริ่มงง  ว่าจะพาเราไหน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเค้าค่ะ  ตอนนั้นง่วงนอนมากๆๆเพราะว่าอยู่บนเครื่องหลับไม่สบายเลยค่ะ ToT  นั่งรถไปนาน เหมือนกัน  จนในที่สุดเราถามเค้าว่าจะพาเราไปไหนหรอ  เค้าตอบว่า  จะพาไป Alabama Road.............. จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราก็งงค่ะ  Alabama Road มันอยู่ในฟลอริดาหรอไง  แต่ก็คิดว่าคงอยู่ในฟลอริดาค่ะ  เพราะว่าอย่างเมืองไทย ยังมีถนนนราธิวาส  ถนนเพชรบุรีเลย 555555  แต่ที่นั่นคืออเมริกาค่ะ  ไม่ใช่เมืองไทย  สรุปว่า  เค้าพาเราไป ที่รัฐ Alabama ค่ะ(แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้นะว่ามันคือ Alabama  มารู้เอาอีก 2 วันถัดไปค่ะ - -") ขับรถไป 2 ชั่วโมงกว่าๆค่ะกว่าจะถึงบ้านพัก  เฮ้อ.....ตอนนั้นอยากนอนแล้วค่ะ  คิดว่าขึ้นไปบนบ้านขนกระเป๋าแล้ว จะได้นอนลงบนเตียงเลย  แต่......มันไม่ใช่ค่ะ ToT  บ้านพักเนี่ย  มันก็ควรจะสะอาดแล้วก็พร้อมอยู่อาศัยใช่มั๊ยคะ แต่ว่าที่เราไปเห็นเนี่ย  มันตรงกันข้ามค่ะ :(   เนื่องจากว่าบ้านพักเราเป็นบ้านตากอากาศ  อยู่ริมทะเลเลยค่ะ  ทำเลดีในตัวบ้านเลยมีทรายเต็มไปหมดเลยค่ะ T-T   ไม่รู้คนอยู่คนก่อนไม่ได้ทำความสะอาดบ้านหรือว่ายังไง  เรา 4 คนต้องมาทำความสะอาดบ้านตอนประมาณตีสามน่ะค่ะ   เรากับน้องกบทำห้องน้ำ  อีก 2 คนทำห้องครัว  แล้วห้องนอนก็ทำด้วย  ผ้าปูที่นอนไม่สะอาดเลยค่ะ  พรมก็ไม่สะอาด   ทำเอาเกือบบ้าค่ะ >.<  ทำความสะอาดอยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ  แล้วถึงได้นอนค่ะ   พูดถึงลักษณะบ้านหน่อยดีกว่าค่ะ ^^  บ้านเป็นแบบมีใต้ถุน  ตัวบ้านมี 2 ชั้นค่ะ  คือชั้นล่างมีห้องครัว  โซฟา  ห้องน้ำ แล้วก็ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องค่ะ  ส่วนชั้นบนมีห้องนอนเล็ก 2 ห้องกับห้องน้ำ 1 ห้อง  บ้านมี 2 ฝั่งค่ะ  อีกฝั่งนึง ก็เป็นแบบเดียวกัน  เรากับน้องกบเลือกนอนห้องนอนใหญ่ข้างล่างค่ะ  เพราะว่าขี้เกียจขนกระเป๋าขึ้นข้างบน ส่วนตัวเราว่า  บ้านหลังที่อยู่นี่ใช้ได้เลยค่ะ  อยู่ริมหาดด้วย  ออกไปเดินเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ :) จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันรุ่งขึ้น  ตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงได้ค่ะ 5555  นอนตื่นสายเลย  ตื่นมาก็หิวเลยค่ะ มาม่ากับอาหารกระป๋องที่เอามานี่มี ประโยชน์มากๆเลยค่ะ  เราทำกินเป็นมื้อกลางวันเลย  วันนั้นยังไม่ได้เริ่มทำงานค่ะ  รอนายจ้างของที่นั่นพาไปอยู่ ก็เลยคล้ายๆว่าวันนั้นเป็นวันพักผ่อนน่ะค่ะ ^^  อยู่บ้านดูทีวี(ที่ไม่ชัดเอาซะเลย - -")  จนตอนเย็นๆถึงมีคนมาหาที่บ้านค่ะ คนที่มานี่  เค้ามาพาเราออกไปช้อปปิ้งค่ะ  พาไป WalMart น่ะค่ะ  ฮิฮิ  เราดีใจมากๆๆที่จะได้ออกไปนอกบ้าน เพราะว่าอยู่มาทั้งวันแล้วมันไม่มีอะไรให้ทำเลยค่ะ ToT แดดนอกบ้านก็แรงมากจนไม่อยากออกไปเดินทะเลเลย ได้ไปช้อปปิ้งนี่ค่อยทำให้หายเบื่อหน่อยค่ะ ^__^ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 WalMart นี่เป็นสถานที่ที่เราอยากไปมานานแล้วค่ะ  เพราะเราเรียนวิชา Marketing เค้าบอกว่า WalMart เป็น Retailer ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  เราเลยอยากมาเดินมากๆเลย(ที่จริงอยากมาดูขนมน่ะค่ะ 5555)  พอไปถึงที่นั่น เราก็ขอเวลาผู้ชายที่พาเราไป 2 ชั่วโมง  เค้าก็โอเคค่ะ  ^^  พวกเราก็เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลยค่ะ  เห่อใหญ่ ฮิฮิ เข้าไปข้างใน WalMart แล้วรู้สึกได้ถึงความใหญ่ค่ะ  กว้างมากๆ  เป็นห้างชั้นเดียว  เหมือน Carrefour ที่ไทย แต่ใหญ่กว่าค่ะ  ของเยอะมากๆๆเลย  แต่ที่เราสนใจตอนนั้นก็มีแต่ของกินค่ะ  พวกผลไม้นี่มาอันดับ 1 เลย   เราเป็นคนชอบทานพวกแอปเปิ้ล  สตรอว์แบร์รี่อยู่แล้วด้วยค่ะ  เลยถูกใจมากๆๆ  ฮิฮิ  สตรอว์ที่นั่นอร่อย แล้วก็ถูกด้วย  ปอนด์ละ 2 เหรียญเองค่ะ  ซื้อมากินซะอิ่มเปรมเลย ^______^ ส่วนพวกขนมนมเนยไม่ต้องพูดถึงค่ะ  พรึ่บไปหมดเลย  ฮิฮิฮิ  เราเป็นคนชอบกิน  ก็หยิบนู่นหยิบนี่ไปหมดเลยค่ะ แล้วพวกเราก็ซื้อของใช้ภายในบ้านอื่นๆไปด้วย  2 ชั่วโมงนี่เดินไม่พอค่ะ  5555 ของมันน่าหยิบลงตะกร้าไปหมด แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย  ถ้าใครที่คิดจะไปแล้วทำอาหารทานเองล่ะก็  ทำได้เลยค่ะ  แล้วราคาถูกด้วย  เพื่อนเรา ซื้อกะหล่ำปลีมา 2 ลูกใหญ่ๆ(ใหญ่กว่าหัวคนอีกค่ะ)  หัวละ 50 เซนต์เองค่ะ  ถูกมากกกกกกกกกกก จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาถึงบ้านคืนนั้น  พวกเราทานขนมกับผลไม้เป็นอาหารกันค่ะ  อิ่มมากๆเลย  แล้วก็แยกย้ายกันเข้านอน คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลยค่ะ  เพราะว่าถ้าพี่สาวเราได้บินถัดจากเราวันนึง  และได้มาลงที่เดียวกันล่ะก็ พี่สาวเราจะต้องมาถึงที่บ้านคืนนี้เลยแหละ(ลืมบอกไปค่ะ  ว่าตอนมาถึงที่นี่  เราบอกคนที่พามาส่งเลย ว่า  พรุ่งนี้พี่สาวเราจะมา  ให้พามาส่งที่นี่ด้วยนะ  เค้าก็โอเคค่ะ)   เมื่อนอนไม่หลับ  เราก็เลยลุกออกมานอนตรงโซฟาข้างนอกค่ะ  นอนไปกินขนมไปรอพี่สาวค่ะ ^^"   ทำตัวไม่เป็นผู้หญิงเลย 5555 นอนจนหลับ  จนปวดฉี่ไปเข้าห้องน้ำค่ะ^^"  นั่งๆอยู่ในห้องน้ำ  ได้ยินเสียงรถมาละ  ในใจก็คิดว่า เป็นพี่สาวเรามาแน่ๆเลย  น้องกบเป็นคนไปเปิดประตูบ้านค่ะ  แล้วก็มาบอกเราหน้าห้องน้ำว่า  พี่สาว เรามาแล้ว  เราก็เลยรีบออกมาจากห้องน้ำเลยค่ะ  วิ่งออกไปตรงประตูเห็นพี่สาวนี่  กระโดดกอดๆๆ ใหญ่เลยค่ะ  5555  เหมือนเด็กๆเลย  ความรู้สึกมันอุ่นใจค่ะ  ที่ว่าอย่างน้อยพี่เราก็มาอยู่ด้วยนะ ^^ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คืนนั้นเหมือนมีปาร์ตี้เลยล่ะค่ะ 5555  ไม่หลับไม่นอนกันเลย  นายจ้างที่มาส่งพี่พวกพี่สาวเราชื่อ คอสต้า ค่ะ อ๋อ  ลืมบอกไปค่ะ  ว่ากรุ๊ปที่มากับพี่สาวเรามีทั้งหมด 13 คนค่ะ  เยอะมากๆเลยเนอะ  เราเห็นแล้วยังงง ว่าจะเอา 13 คนมาอยู่ด้วยกันหมดเลยหรอไงเนี่ย  - -"  รวมพวกเราที่มาก่อน 4 คนก็เป็น 17 แล้ว แล้วเห็นเพื่อนเราบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาอีก 4 คน แต่ก็อยู่กันจริงๆค่ะ  คอสต้าให้กุญแจของบ้านอีกฝั่งนึง  ให้กระจายๆกันอยู่น่ะค่ะ  แต่รู้สึกว่าคืนนั้น ไม่ค่อยมีใครได้นอนหรอกค่ะ 5555  คอสต้าพาพวกที่มาใหม่ไป WalMart พาไปซื้อของค่ะ  แล้ว ภายในบ้านเตียงมันก็ยังไม่ครบ  เค้าก็พาไปซื้อที่นั่นน่ะแหละ(ซื้อแต่เตียงยางอ่ะค่ะ  เอามาเป่าลมเอา) พี่สาวเรากับเราก็ไปด้วยค่ะ  พี่สาวเราก็ซื้อของกินมา  กลับมาบ้านนี้เปิดงานกินแหลกกันค่ะ ทำมาม่า  ขนม  ไอติม  เยอะแยะไปหมดเลย  ไม่หลับไม่นอน  หารู้ไม่ว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน กันแล้วนะจ๊ะ  ฮิฮิ   งาน  งาน  งาน  งาน  งาน  T____T จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 10:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลูกสนพิมพ์ถึงแค่ตอนนี้เองค่ะ  เดี๋ยวลูกสนขอตัวออกไปเรียนก่อนนะคะ  แล้วกลับมาบ้านจะพิมพ์ต่อค่ะ :) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- พอพูดถึงเรื่องงานแล้ว  เราลืมเล่าไปน่ะค่ะ  ขอย้อนกลับมานิดนึงนะคะ ^^ คืนที่เรานั่งรถจะมาที่บ้านพักน่ะค่ะ  เราได้เจอคอสต้าก่อนแล้ว  แล้วเค้าก็บอกว่าพวกเราที่มาจะได้ทำงาน Beach Store นะ   วันละ 12 ชั่วโมงได้วันละ 100 เหรียญค่ะอยากทำสัปดาห์ละ 5  6  หรือ 7 วันเลยก็ได้  ทำมากก็ได้เงินมากค่ะ ตอนนั้นเราฟังแล้วก็คิดว่า  เออ......เงินเยอะดีนะ  แต่ว่างานที่ร้านนั้นจะเป็นอะไรล่ะ  ขายบิกินี่หรอ หรือว่าขายแล้วเซิร์ฟบอร์ด  ตอนนั้นนึกภาพงานไม่ออกจริงๆค่ะ  แต่เราก็โอเคไป  เพราะว่ามันก็ ดูเป็นงานที่ไม่น่ามีอะไรมากค่ะ  ทำๆไปเหอะ  5555 พี่สาวเราก็รู้รายละเอียดเรื่องงานเหมือนกันค่ะ  ตอนเจอกันเรากับพี่สาวก็ยังคุยกับคนอื่นๆเลย  ว่าจะทำงาน กันกี่วันต่อสัปดาห์  เชื่อมั๊ยคะ  ทุกวันตอบหมดว่า 7 วันค่ะ  เราฟังแล้วตกใจเลย O_o  จะไม่มีวันหยุดกัน เลยหรอไง(ตอนนั้นคิดในใจว่า  คนอื่นอยากได้เงินมากขนาดนี้เลยหรอ)  มีแต่เรากับพี่สาวค่ะ  ที่บอกว่า อยากทำแค่ 6 วัน  อย่างน้อยเราก็ขอพักซักวันค่ะ  ไม่งั้นแย่แน่ๆ T-T แต่ว่าพอได้ทำงานจริงๆแล้ว  ไม่มีใครเลยค่ะ  ที่ได้ทำ 7 วัน  เพราะอะไรตามอ่านดูนะคะ ปล. สะกดผิดค่ะ ขอแก้นะคะ ^^" แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 11:05:22 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 11:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ได้ความรู้ดีจัง.. แต่ไม่ชอบ T-T 555 ไม่รู้หมายถึงอะไร อ่านเพลิน ได้ความรู้ดีครับ ขอบคุณลูกสนนะครับ จากคุณ : จูล่ง - [ 14 พ.ย. 49 12:19:14 A:10.2.3.6 X:203.154.97.224 TicketID:107147 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณจูล่ง........   เจ้าตัวพวกนั้นเป็นตัวแสดงอารมณ์ของลูกสนเองค่ะ  แหะแหะ T-T แปลว่า ร้องไห้ไงคะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ^^ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลังจากที่พวกเราจัดปาร์ตี้ย่อมๆกันไปแล้วคืนนั้น  ไม่ยอมหลับยอมนอนกัน  รุ่งเช้าก็มาถึงค่ะ.... คอสต้าโทรมาบอกพวกเราว่า  เดี๋ยวจะมารับตอน 8 โมง(คอสต้าให้มือถือพร้อมซิมพวกเราไว้ใช้ 1 ตัวค่ะ) พวกเราก็กระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวกันใหญ่เลยค่ะ  แต่ห้องน้ำมันมีแค่ 4 ห้อง  คนที่อาศัย 17 คน ยังไงก็ต้องเกิดการช้ามั่งล่ะค่ะ ^^"  ก็กลัวกันว่าจะไม่ทันที่คอสต้านัดไว้  เพราะที่นั่นเค้าถือเรื่องเวลา เป็นสำคัญมากๆค่ะ ปรากฏว่านายคอสต้ามาเอาตอน 9 โมงค่ะ - -"  สายซะเองเลย  แต่เอ๊ะ  คอสต้าไม่ใช่อเมริกันนี่   เค้าเป็นคนยูเครนค่ะ 5555  สำเนียงแบบรัสเซียเลย   ส่วนพวกเราก็พร้อมอยู่แล้ว  คอสต้า ขับรถพาพวกเราไปร้านที่จะต้องทำงานค่ะ  ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย  จะได้ทำงานแล้ว ฮิฮิ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 17:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ซ้ำค่ะ  อ่านข้างล่างนะคะ ^^" แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 18:46:58 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 17:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โปรดติดตาม ตอนต่อไป อิอิ เล่าได้ละเอียด เห็นภาพเลยครับ อ่านแล้วหนุกดี ครับถ้าอ่านจบน่าจะได้ความรู้อีกเยอะ เดียวต้อง Bookmark ไว้สะหน่อย จากคุณ : Sprite_Zaa - [ 14 พ.ย. 49 17:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ร้านที่คอสต้าพามาเป็นร้านริมชายหาดค่ะ  แค่เดินข้ามถนนเล็กๆไปก็เห็นทะเลแล้วค่ะ  พอพวกเรา เดินเข้าไปในร้านก็สำรวจกันใหญ่เลยค่ะ 55555  แบบว่าในร้านมีอะไรขายบ้าง  อันไหนน่าซื้อบ้าง เดินอยู่ซักพักค่ะ  ก็มีผู้ชาย 2 คนมาหาพวกเรา  คอสต้าก็แนะนำพวกเรากับเค้าค่ะ ผู้ชายที่มา 2 คนดูใจดีค่ะ  เค้าก็ให้พวกเราเขียนชื่อลงในกระดาษ  จากนั้นคอสต้าก็ถามว่ามีใครบ้าง ที่พร้อมจะทำงานในวันนี้เลย..............................เรากับพี่สาวเงียบค่ะ................................. เพราะว่าพี่สาวเราเพิ่งบินมาเมื่อคืนเองไงคะ  เลยอยากนอนมากกว่า  ส่วนเราถ้าได้ทำงานก็อยากทำ พร้อมๆกับพี่สาวค่ะ  ^^" แต่คนอื่น................alert สุดๆค่ะ  ยกมือหมด  เรากับพี่สาวเลยหันมามองหน้ากัน  คิดในใจว่า เอาไงดีฟระ  คนอื่นทำงานหมด  เราไม่ทำ  ดูขี้เกียจไปมั๊ยเนี่ย  5555  ก็เลยยกมือมั่งค่ะ  เอาน่า ยังไงๆก็มาถึงร้านละ  ทำไปเหอะ..... พอทุกคนยกมือกันว่าจะทำงาน  คอสต้าก็ให้พวกเราแบ่งเป็นกลุ่มๆค่ะ  กลุ่มละ 2 บ้าง 4 บ้าง 7 บ้าง  เพราะว่าเค้าจะแยกพวกเราไปทำงานตามสาขาต่างๆน่ะค่ะ  แต่ละสาขาก็อยู่ไม่ไกลกันค่ะ เราก็เลือกอยู่กลุ่ม 7 คนค่ะ  เพราะจะได้ทำงานที่ร้านใหญ่  ซึ่งก็คือร้านที่อยู่ตอนนี้เลย ส่วนคนอื่น  ก็ต้องแยกย้ายกันไปค่ะ  คอสต้าพาไปส่งที่สาขาอื่นค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 17:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณSprite_Zaa  ขอบคุณสำหรับคำชมมากๆเลยค่ะ  ปลื้มใจจัง ^_______^ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ถึงตอนนี้ก็มาพูดถึงร้านเราที่ทำงานกันดีกว่า  พวกเราเรียกว่าร้านใหญ่ค่ะ  เพราะว่าใหญ่ กว่าสาขาอื่น  ฮิฮิ  แล้วก็มี 2 ชั้นด้วย ชั้นล่างของร้านจะขายพวกอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการอาบแดดค่ะ  เก้าอี้ผ้าใบ  ห่วงยาง เซิร์ฟบอร์ด  ครีมกันแดด  ลูกบอลชายหาด  เยอะแยะเลยค่ะ  แล้วก็มีพวกของที่ระลึก เช่น  แจกัน  แก้วน้ำ  เปลือกหอย  หินสีๆ(หลอกเด็ก)  เสื้อเชิ้ตที่มีคำว่า Alabama อยู่บน ตัวเสื้อ  ของเยอะมากๆเลยค่ะ พูดถึงคำว่า Alabama แล้ว  ก็ขอเล่าแทรกนึดนึงค่ะ   เราเองเพิ่งมารู้ว่าตอนนี้อยู่ Alabama  ไม่ใช่ Florida ก็ตอน เดินเข้ามาในร้านนี้ล่ะค่ะ  เห็นป้ายปิดไว้ว่า State of Alabama................................. งงเลยค่ะ O_o  ไหนบริษัทบอกว่าจะให้เราอยู่ที่ฟลอริดาไง  ทำไมกลายเป็นงี้เนี่ย   เรากับพี่ๆคนอื่นก็แอบโวยวายเหมือนกันค่ะ  เพราะว่าก่อนมาที่นี่คำว่า Alabama ไม่เคยอยู่ ในหัวเราเลยค่ะ  พอฟังคำนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่อง Sweet Home Alabama ขึ้นมาทันที หนังตลกค่ะ  ในเรื่องนางเอกเป็นคนที่ Alabama  แล้วจะแต่งงานกะหนุ่มนิวยอร์ค  เลยต้อง หลอกหนุ่มว่า  ตัวเองไม่ได้เกิดที่นี่นะ(เพราะว่า Alabama มันดูบ้านนอกค่ะ) มันทำให้เราคิดว่า  ขนาดฝรั่งมันยังว่า Alabama บ้านนอกเลย  แล้วเราล่ะ  จะไม่คิดได้ไง ให้มาอยู่ที่นี่ได้ไงฟระเนี่ย  ไม่เป็นอย่างที่บอกนี่หว่า  บ่นๆๆๆอยู่ในใจค่ะ  แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร สรุปว่า  เราก็ได้ทำงานที่ Alabama จนได้  ^^" ปล. สะกดผิด  ขอแก้นะคะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 18:10:18 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 17:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อกี้เล่าไปแล้วว่าชั้นล่างขายอะไร  ทีนี้ก็มาต่อที่ชั้นบนเลยค่ะ ^^ ชั้นบนขายพวกเสื้อผ้าค่ะ  เสื้อผ้าเด็ก  เสื้อผ้าผู้ชาย  เสื้อผ้าผู้หญิงและบิกินี่ บิกินี่ที่นี่ไม่ได้เป็นราวเตี้ยๆให้เลือกแบบที่เมืองไทยนะคะ  ที่ร้านนี้บิกี่นี่เป็นราว ที่แขวนไว้กับตัวผนังน่ะค่ะ  แขวนขึ้นไปยาวๆหลายๆราวเลย  ประมาณ 7-8 ราวได้ค่ะ  7-8 ราวนั้นจะเป็นบิกินี่แบบเดียวกันหมด  มีทั้งแบบกระโปรง แบบที่เป็นเหมืองกางเกงในเว้าสูง  เว้าไม่สูง  แล้วก็แบบเสื้อชั้นในสายไขว้ หรือเกาะอก  หรือว่าสายธรรมดา  เยอะมากๆๆค่ะ แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่ลายเดียวค่ะ - -"  มีซักเกือบ 70 ลายได้ค่ะ  แขวนยาวเป็น พรืดไปตามผนังของชั้นบนเลยค่ะ  เยอะมากจริงๆ  แบบว่าเลือกได้เป็นหลายๆ ชั่วโมงเลยค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 18:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผู้ชาย 2 คนนั้นแบ่งให้พวกเรา 7 คนทำงานข้างล่างกับข้างบนค่ะ  เราเลือกทำข้างบน แล้วก็ได้อยู่ดูแลพวกเสื้อผ้าผู้หญิง  พี่สาวเราได้ดูแลเสื้อผ้าเด็ก  งานที่ต้องทำก็คือ Keep Clean&Clear ค่ะ ฟังดูสั้นๆง่ายๆนะคะ  งานที่ต้องทำน่ะค่ะ  แต่ว่าจริงๆแล้วมัน......................... ไม่ง่ายเลยค่ะ  เพราะว่าแผนกเสื้อผ้าผู้หญิงมันใหญ่มากๆๆ  แล้วพวกเสื้อผ้าก็ไม่ได้ อยู่ตามราวที่มันควรอยู่ค่ะ  คุณลูกค้าชอบเอาไปแขวนไว้ราวอื่น  แบบเห็นที่ว่างๆก็ แขวนไปน่ะค่ะ นึกภาพเวลาเราไปซื้อเสื้อผ้านะคะ  เราเอาเสื้อเข้าไปลอง  แล้วพอไม่ถูกใจเราก็เอากลับ ออกมา  แล้วก็แขวนไว้ราวอื่นมั่วๆน่ะค่ะ  หน้าที่ของเราก็ต้องเอาเสื้อผ้าพวกนั้นกลับไป ราวที่มันเคยอยู่ค่ะ T-T  ไม่ง่ายเลย  เพราะว่าตอนที่เราไปนั้น  ร้านมันเละมากๆค่ะ   เพราะว่าเป็น high season ของที่นั่นพอดี เรามีเพื่อนอีก 2 คนที่อยู่แผนกเสื้อผ้าผู้หญิงเหมือนเราค่ะ  คนนึงต้องไปอยู่หน้าห้องลองเสื้อ คอยเอาป้ายที่มีหมายเลขให้ลูกค้า(หมายเลขจะเท่ากับจำนวนชิ้นของเสื้อผ้าที่ลูกค้าเอาเข้าไปลองค่ะ)   พอลูกค้าออกมาก็ต้องนับว่า  เสื้อผ้าที่เอามาคืนเท่ากับจำนวนที่บอกตามป้ายรึเปล่า  แล้วถ้าลูกค้า ไม่ชอบก็ต้องเอาเสื้อผ้าพวกนั้นแขวนกลับบนไม้แขวนให้เรียบร้อย  แล้วก็ให้เรากับเพื่อนอีกคน เป็นคนเอากลับไปแขวนราวค่ะ ปล. แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 09:35:42 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 18:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาลงชื่อรออ่านด้วยคน ^^ คุณลูกสนเล่าได้ละเอียด น่าติดตามมากๆครับ อ่านแล้วอยากไปลองใช้ชีวิตแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : มาแจมแมน - [ 14 พ.ย. 49 19:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามมาอ่าน อิอิ จากคุณ : amited - [ 14 พ.ย. 49 19:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เราต้องทำงานในร้านวันละ 13 ชม.ค่ะ  ที่จริงทำตั้งแต่ 9 โมงยัน 5 ทุ่มน่ะค่ะ ToT แต่มีเวลาพัก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที  เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆๆๆๆเลยค่ะ เพราะว่าร้านมันก็มีอยู่แค่นั้น  เดินๆไปก็เจอแต่อะไรเดิมๆ  จัดเสื้อใส่ราว  แล้วก็ เดินไปเรียงบิกินี่ตามราวให้เรียบร้อยดูเป็นระเบียบ  งานมีเท่านี้เองค่ะ............... เวลาพักนี่  เค้าให้เราออกไปหาอะไรทานเองก็ได้ค่ะ  หรือว่าเอาอาหารมาทานเอง ที่ร้านก็ได้  เราก็นั่งทานใน Stock Room น่ะค่ะ  เรียกง่ายๆว่า ห้องเก็บของ - -" บรรยากาศไม่ได้น่าชวนมีอารมณ์ให้ทานข้าวเลยค่ะ  แต่ทำไงได้  เรามีเวลาน้อย ก็ต้องทานในนั้นล่ะค่ะ ทำงานแค่วันแรกก็เล่นเอาจะตายเลยค่ะ T______T  มันเหนื่อยเพราะว่าเราต้อง move ตลอด  ยังไงก็อย่าให้มือว่าง  อย่ายืนเฉยๆ  อย่างน้อยเดินไปเดินมาคอย ดูนู่นดูนี่  คอยหยิบๆจับๆอะไรบ้างก็ยังดีค่ะ  ไม่งั้น manager เห็นเข้าก็จะใช้งาน เราอย่างอื่นแทน  เค้าใช้งานเราคุ้มสุดๆเลยค่ะ ปล. แก้ไขสะกดคำค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 21:00:20 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 20:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุยกันระหว่างทำงานก็ไม่ได้นะคะ  ถ้า manager มาเห็นพวกเราเกาะกลุ่มกันเค้าก็ จะทำหน้าดุ  แล้วบอกว่าให้แยกย้ายไปทำงานค่ะ......คนไทยนี่คุยเก่งจริงๆค่ะ....... สถานที่ที่เราชอบมาสุมกันคุยก็คือ ตรงเคาท์เตอร์หน้าห้องลองเสื้อผ้าน่ะค่ะ  แล้ว หลังเคาท์เตอร์นั้นก็คือ Stock Room  แล้วใน Stock Room ก็จะมีห้องของ District Manager ค่ะ แล้วใกล้ๆกับเคาท์เตอร์อีกค่ะ  ก็จะเป็นบันไดที่พวกเราพนักงานใช้เดินขึ้นลงระหว่าง ชั้นบนกับชั้นล่าง  เพราะฉะนั้น...District Manager หรือ Managerธรรมดา จะเดินขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้ค่ะ เวลาเค้าเดินขึ้นมา  พวกเราที่สุมๆคุยกันอยู่ตรงเคาท์เตอร์ก็จะแตกฮือรีบแยกย้ายไป ทำงานค่ะ 5555  ทำเป็นแบบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เค้าก็จะเขม่นๆหน่อย  ถ้า Manager จะไม่ดุค่ะ  แต่จะแบบบอกว่าไปทำงานไป  อย่ามาคุยกัน  แต่ถ้าเป็น District Manager จะมีดุค่ะ  เค้าจะบอกว่าไม่อยากเห็นเรามายืนคุยกันแบบนี้  ให้แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ไม่งั้นเดี๋ยวไล่ออกนะ   ฮือออออ..............แอบกลัวนิดหน่อยค่ะ(แต่จริงๆแล้วเค้าใจดีมากค่ะ) ปล. สะกดผิด ขอแก้ค่ะ T-T แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 21:04:21 จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 21:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ทำงานวันแรกผ่านไป...........อย่างเหนื่อยและเมื่อยมากๆๆๆๆค่ะ  เมื่อยแบบว่า ปวดไหล่ไปหมดเลย  วันนั้นความรู้สึกมันเหมือนกับเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์เลยค่ะ เรากับพี่สาวพูดกันเลยว่า  ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ไม่ได้แล้ว  คนที่อยากทำ 7 วัน ก็บอกว่าทำไม่ไหวเหมือนกัน  งานมันน่าเบื่อมากๆๆแล้วก็เหนื่อยด้วย และที่สำคัญ  Big Boss...นายใหญ่ค่ะ  พี่ชายของ Destrict Manager  เค้าไม่ให้ ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ด้วยค่ะ  เค้ากลัวพวกเราทำงานไม่ดี  ไม่มีประสิทธิภาพ  เพราะ ร่างกายต้องการการพักผ่อนค่ะ  เลยกลายเป็นว่าคนที่อยากทำ 7 ก็ทำไปแค่ 6 ส่วนเรากับพี่สาวที่อยากทำ 6 ในตอนแรก  ก็บอกเค้าไปว่าขอทำแค่ 5 วันพอนะ ^^" วันนั้นคอสต้ามารับพวกเรากลับบ้านค่ะ  พอกลับมาถึงบ้านเราก็บอกคอสต้าไปเลย ว่าทำไมต้องทำงานทั้งวัน  เราขอทำแค่กะเดียวได้มั๊ย  แค่ครึ่งเช้าหรือไม่ก็ครึ่งเย็น คอสต้าก็บอกว่าไม่ได้ค่ะ  ถ้าอยากทำแค่ครึ่งวันเค้าจะย้ายเราไปเมืองอื่น  ที่ปานามา ไม่ก็เดสทิน(ที่เราอยากไปตอนแรกน่ะค่ะ)  แต่เรารู้สึกว่ามันมาอยู่ที่ Alabama แล้ว ขี้เกียจย้ายแล้ว  ก็ทำๆไปเหอะ เฮ้อ....................... จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 21:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นคอสต้าก็เอาสัญญาออกมาให้เซ็นค่ะ  เป็นสัญญาเรื่องบ้าน  เรื่องค่าเช่า แล้วก็กฏอื่นๆในบ้าน  ว่าเราต้องทำตามนะ........พวกเราทุกคนก็อ่านค่ะ  แล้วก็ เซ็นไป - -"  ตกลงว่าที่ต้องจ่ายเนี่ย  เดือนละ 400 เหรียญต่อคนค่ะ  แพงโหดมากๆ แยกเป็นค่าบ้านวันละ 10 เหรียญ  ค่ารถอีกวันละ 3 มั้งคะ  แล้วค่าจิปาถะอะไรอีก นิดหน่อย  แต่รวมแล้วก็จ่ายเดือนละ 400 เหรียญน่ะค่ะ ToT พูดถึงเรื่องรถดีกว่าค่ะ  คอสต้าเค้าให้รถพวกเราไว้คันนึงค่ะ  เป็น Toyota Van เป็นรถ 3 ตอนถ้านั่งสบายๆก็ได้ 8 คนอ่ะค่ะ  แล้วคอสต้าให้มาคันเดียว - -" แล้วคิดดูซิคะ  อยู่กันตั้งหลายคนให้มาคันเดียว  มันจะสะดวกมั๊ยเนี่ย  ฮ้วย...... คอสต้าให้คนที่มีใบขับขี่อินเตอร์ขับค่ะ  ในบ้านเรามีพี่ 2 คนที่มี  ก็เลยขับได้ พี่ 2 คนนี้ก็เป็นคนขับไปส่งพวกเราตามสาขาต่างๆน่ะค่ะ  แล้วก็ต้องขับไปทำงาน ที่ร้านของตัวเองด้วย   ส่วนค่ารถที่บอกว่า 3 เหรียญนั้นจริงๆแล้วคงเรียกว่าค่าน้ำมันมากกว่าค่ะ  เพราะว่าคอสต้า จะให้พวกเราจดไมล์ของรถเวลาไปเติมน้ำมัน  แล้วก็เก็บใบเสร็จค่าน้ำมันไว้  แล้วสามารถ ไปเบิกกับคอสต้าได้ค่ะ(ตอนหลังเอาเรื่องค่ารถไปเล่าให้ manager ที่ร้านฟังค่ะ  เค้าบอกว่า ถ้าคอสต้าเก็บวันละ 3 เหรียญต่อคนล่ะก็......พวกยูเติมน้ำมันแล้วขับกลับเมืองไทยเองยัง ได้เลย 555555555) จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 21:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วันถัดมา  ก็มีเพื่อนมาอยู่ที่บ้านเดียวกับพวกเราอีก 4 คนค่ะ  สรุปแล้วบ้านเราก็มี ทั้งหมด 21 คนค่ะ  เยอะมั๊ยค่ะ ^^"  ไม่เหมือนกับที่เราคิดตอนแรกเลยค่ะ  ว่าคง อยู่แบบห้องอพาร์ตเม้นท์  ห้องละ 4 คนก็พอ 21 คนที่มาอยู่ด้วยกันนี่  หญิง 13 ชาย 8 ค่ะ  ฮิฮิ  แต่พูดตรงๆว่าเวลานอนน่ะ ไม่ได้แยกชายหญิงหรอกค่ะ - -"  เพราะว่าบางคนเป็นแฟนกัน  อยากนอนด้วยกัน ก็เรื่องของเค้าค่ะ ^^"  ไม่ว่าอะไรกัน  ส่วนเรานอนกับพี่สาวในห้องนอนใหญ่ห้องเดิมค่ะ พอคนมากขึ้น  เราก็ต้องมาจัดการเรื่องอาหารค่ะ...เรื่องกินเรื่องใหญ่เสมอนะคะ 555 เนื่องจากว่าพวกเรามีเวลาพักระหว่างทำงานแป๊ปเดียว  เราก็เลยต้องทำอาหารใส่กล่อง ไปกินกันค่ะ  ก็ต้องจ่ายเงินส่วนกลางคนละ 10 เหรียญต่อสัปดาห์  แล้วก็เอาเงินนั้น ไปซื้ออาหารสดสำหรับทำอาหารกันค่ะ  ส่วนเรื่องทำอาหารก็แบ่งเวรกันทำค่ะ  แล้วก็มี แบ่งเวรล้างจานด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 21:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาถึงตอนนี้แล้วเราขอพูดถึงเรื่องจานหน่อยค่ะ ^^" เนื่องจากคนมาอยู่รวมกันเยอะมาก  แล้วทุกคนก็ตัดสินใจกันว่า  จะทำอาหาร ในห้องครัวของบ้านฝั่งที่เราอยู่เท่านั้น  เพราะว่าอุปกรณ์ทำอาหารมันอยู่ ฝั่งเราหมดแล้ว - -"  นั่นทำให้บ้านฝั่งเราเละง่ายมากๆค่ะ ตอนเช้าๆ  พอเพื่อนๆตื่นมา(ตื่นสายๆ)ก็จะลงมาทานอาหารเช้ากันอย่างรีบเร่ง พอทานเสร็จก็วางๆทิ้งไว้อย่างนั้นล่ะค่ะ  ชามคอร์นเฟลค  แก้วนม  ช้อนส้อม คาไว้อย่างนั้นเลยเต็มโต๊ะ  เละมากๆค่ะ :(  ผสมกับคนที่ต้องทำอาหารตอนเช้า ก็วางพวกกะทะ  หม้อ  เขียงไว้อย่างนั้น  เลยยิ่งสกปรกใหญ่ค่ะ ToT ใครที่ไม่ต้องไปทำงานวันนั้น(วันหยุดเราเรียกว่า day off  ค่ะ)  ถ้ามีน้ำใจหน่อยก็จะช่วย ทำความสะอาดจานชามที่ทิ้งไว้ตั้งแต่เช้าค่ะ  แล้วก็ทำความสะอาดบ้านด้วย  ดูดฝุ่นน่ะค่ะ ^^   พวกเวรล้างจานวันนั้นก็จะสบายไปเพราะว่าจะเหลือที่ต้องล้างแค่กล่องข้าวของทุกๆคนที่เอาไปที่ทำงาน ล้างกล่องข้าวก็ง่ายๆค่ะ  แค่เช็ดๆให้คราบมันๆออก  แล้วเอาเข้าเครื่องล้างจาน แล้วก็ให้เครื่องมันทำงานไปค่ะ  ง่ายมั๊ยคะ  ฮิฮิ ตัวเราเองช่วงที่ไปสัปดาห์แรกๆมักจะได้หยุดวันที่คนอื่นเค้าไปทำงานกันค่ะ ^^" บางวันเราหยุดคนเดียวก็มี  บางวันก็มีพี่คนอื่นหยุดด้วยอีกคน...แต่หยุดเพราะว่า ป่วยนะคะ ^^"  ไม่ได้หยุดตามตาราง   งานมันหนักค่ะ  พี่ๆคนอื่นก็ป่วยกันบ้าง เมื่อเราหยุด  แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรทำค่ะ ToT  เราก็ทำความสะอาดบ้านน่ะค่ะ ล้างจาน  ดูดฝุ่น  ขัดโต๊ะ  เป็นนังแจ๋วค่ะ 5555  หลายๆคนชอบบอกว่ามี day off ก็เหมือนไม่ได้หยุด  เพราะว่าต้องทำความสะอาดบ้านค่ะ  ซึ่งเราก็ว่าจริงทีเดียว  หุหุ จากคุณ : ลูกสน - [ 14 พ.ย. 49 21:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มารออ่านต่อนะค่ะ  เราก็ไป alabama มาเหมือนกัน แต่ประสบการณ์เราต่างกันแน่เลย จากคุณ : SOOOS - [ 14 พ.ย. 49 22:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ กลับมาเล่าอีกนะคะ อายุเลยวัย work and travel มานานแล้ว ถ้ายังเด็กอยู่ล่ะก็ ไม่พลาดหรอก จากคุณ : แมวต่างแดน - [ 15 พ.ย. 49 01:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณมาแจมแมน  ลองไปดูนะคะถ้ามีโอกาส ^^ ประสบการณ์เพียบค่ะ คุณamited   ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^_________^ คุณSOOOS  ทำที่เดียวกันเลยหรอ ฮิฮิ  ลูกสนไม่คิดว่าจะมีคนไป AL เยอะน่ะค่ะ เลยลองเอามาเล่าดู ^^ คุณแมวต่างแดน  ขอบคุณสำหรับคำชมมากๆเลยนะคะ ^^  อ่านแล้วมีกำลังใจค่ะ :) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ กลับมาเรื่องงานต่อนะคะ....... งานแต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อที่สุดเลยค่ะ  เพราะมันไม่มีอะไรเลย  อย่างที่บอกไปอ่ะแหละค่ะ แค่ทำให้ร้านดูเรียบร้อยก็พอแล้ว  และลองคิดดูนะคะ  เดินไปเดินมารอบร้านวันละ 13 ชั่วโมง จะไม่ให้เบื่อได้ไงล่ะคะ - -" บางวันที่คนเยอะมากๆๆๆๆๆ  เช่น วันหยุด  แผนกเราจะยุ่งสุดๆค่ะ  เพราะสาวๆจะมาซื้อบิกินี่กัน เรียกได้ว่า บิกินี่ เนี่ย  เป็นตัวยุ่งสำหรับพวกเราเลยค่ะ  เพราะอะไรหรอคะ..... เพราะเวลาสาวๆเค้าลองบิกินี่กันเนี่ย  เค้าไม่ได้ลองกันแค่ 2-3 ชุดนะคะ(ทางร้านให้ลองได้มากสุด ครั้งละ 6 ชิ้นค่ะ)  พวกเธอลองกันทีเป็น 20 ชิ้นเลย ToT  เอาเข้าไปทีละ 6  พอไม่ชอบก็เอาออก มากองตรงเคาท์เตอร์ค่ะ  แล้วก็หยิบเข้าไปลองใหม่  แล้วมาลองกันทีก็หลายๆคน  บิกินี่ที่พวกเธอ ลองกองเป็นภูเขาเลยค่ะ  ภูเขาจริงๆค่ะ  เยอะไปหมดเล่นเอาพวกเราแทบบ้าน่ะค่ะ มาถึงตรงนี้ก็ขอแทรกวัฒนธรรมอเมริกาหน่อยค่ะ ที่อเมริกาเนี่ย  เค้าไม่ว่าอะไรค่ะ  เวลาลองเสื้อผ้ากันเยอะๆแต่ไม่ซื้อ  อยากลองกี่หนกี่รอบลองได้ค่ะ ถ้าไม่พอใจก็เอาออกมาวางไว้ให้เราเอาใส่ไม้แขวนเหมือนเดิม  แล้วก็เอากลับไปแขวนที่ราว  เค้าไม่ถือ ว่าเป็นการเรื่องมากค่ะ  ไม่เหมือนที่ไทย  เวลาไปลองนานๆแล้วไม่ซื้อเนี่ย  โดนพนักงานที่ร้านมองค้อน แถมแอบด่าเราในใจอีก T-T จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 09:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 วันไหนที่คนเยอะมากๆนี่  พวกเราวิ่งกันไม่หยุดเลยค่ะ  เพราะว่าต้องเอาบิกินี่ กลับไปแขวนที่ราว  ต้องเอาไม้แขวนไปสอยบิกินี่ที่อยู่บนราวสูงๆให้ลูกค้า แล้วเจ้าไม้แขวนก็มีแค่อันเดียวค่ะ - -" บางทีต้องรีบวิ่งไปสอยราวนู้น  แล้วก็ วิ่งมาสอยราวนี้  วิ่งพล่านเลยค่ะ 55555  แต่ก็ดีนะคะ  ที่มีงานให้ทำ  ดีกว่า ไม่มีงานแล้วต้องเดินไปรอบๆร้าน  แล้วทำท่าเป็นเหมือนกำลังทำงานน่ะค่ะ ^^" วันไหนที่คนน้อยๆ  แล้วเราจัดเสื้อผ้าทุกอย่างตามราวเรียบร้อยเป็นระเบียบแล้ว เราก็จะไปพับผ้าเช็ดตัวค่ะ  ฮิฮิ  ยังไม่ได้เล่าเรื่องผ้าเช็ดตัวเลยเนอะ  ^^ ผ้าเช็ดตัวเป็นอีกมุมนึงค่ะ  ที่อยู่บนชั้นสอง  ผ้าเช็ดตัวที่นี่มีเป็น 100 ลายเลยค่ะ เค้าจะแขวนตัวอย่างผ้าเช็ดตัวไว้บนผนังของชั้นสอง  แขวนตรงที่สูงๆเลยค่ะ แล้วก็เอาหมายเลขปิดไว้  เวลาลูกค้าอยากได้อันไหนก็มาบอกเบอร์เอา  แล้วเรา ก็ไปหยิบให้เค้าค่ะ วันแรกที่เราได้ทำงานที่ร้านนี้  ผู้จัดการก็สอนให้เราพับผ้าเช็ดตัวค่ะ  แล้วก็ให้เรา ไปพับๆเจ้าผ้าเช็ดตัวที่มันยู่ยี่ๆ  ที่ยู่ยี่ก็เพราะว่าลูกค้าเค้ามาคลี่ๆดูลายน่ะค่ะ  แล้ว ก็พับกลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้  มันก็เลยเละๆ ^^" จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 09:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หลังจากนั้น  เวลาที่เราเบื่อๆเราก็จะไปอยู่มุมผ้าเช็ดตัวค่ะ  คอยพับให้มันเรียบร้อย จัดให้มันอยู่ตรงตามเบอร์ของมัน(บางทีลูกค้าวางมั่วๆค่ะ)  ผ้าเช็ดตัวอันไหนใหญ่ๆ เราก็ต้องนั่งพับเอาค่ะ  เอาออกมากางบนพื้นแล้วพับเอาเลย  ซึ่งดีมากๆๆเพราะว่า เป็นโอกาสที่ให้เราได้นั่งค่ะ ^^ หายเมื่อยหน่อย พูดถึงเรื่องนั่งแล้วเนี่ย......ที่ร้านเค้าไม่ให้เรานั่งนะคะ  ยืนหรือเดินและวิ่งเท่านั้นค่ะ ToT ถ้านั่งจะโดนดุ  พี่ที่ทำงานร้านอื่นเคยแอบนั่ง  แล้ว Destrict Manager ไปเห็นเข้า   เค้าบอกเลยค่ะว่า  ถ้าอยากนั่งก็ไม่ต้องทำงาน >.<  ดุเนอะ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารักมุมผ้าเช็ดตัวมากๆค่ะ  เพราะว่าเป็นมุมเดียวที่เราสามารถนั่ง ทำงานได้โดยไม่มีใครดุ  แล้ว manager เค้าจะชอบด้วยค่ะ  เวลาเห็นเราไปทำงานที่มุมนั้น เพราะว่ามุมนั้นไม่ค่อยมีใครสนใจ  มันจะแอบเละค่ะ ฮิฮิ อีกสาเหตุนึงที่เราชอบมุมนั้นก็เพราะว่า  ตรงมุมนั้นเวลามองออกไปจะเห็นทะเลค่ะ ^___^ ถ้าเราทำแผนกผู้หญิงจะไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าและบิกินี่  แต่ที่มุมผ้าเช็ดตัว พอมองออกไปจะเห็นทะเลสีครามค่ะ  สีครามสวยจริงๆ  ส่องประกายระยิบระยับเลย   เป็นการผ่อนคลายสายตาที่ดีเลยล่ะ ฮิฮิ จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 09:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยังติดตามอยู่นะครับ ^_^ ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆแฮะ แต่เอาน่ะ สู้เพื่อเงิน อิอิ จากคุณ : มาแจมแมน - [ 15 พ.ย. 49 09:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เล่าเรื่องงานมาเยอะเหมือนกัน  ตอนนี้มาเล่าเรื่องเพื่อนมั้งดีกว่าค่ะ......... แต่ละคนก็แน่นอนว่านิสัยต่างกันไป  ถูกเลี้ยงดูมากจากครอบครัวที่แตกต่างกัน ความคิดเห็นก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วค่ะ ช่วง 2-3 วันแรกนี่  ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันหรอกค่ะ  กลับมาบ้านก็คุยกันสนุกดี มาเล่าให้ฟังว่าร้านของตัวเองเป็นไงมั่ง  manager ที่ร้านดุมั๊ย  อย่างนู้น อย่างนี้  หัวเราะเฮฮาค่ะ แต่พอหลังจากนั้นมันก็เกิดปัญหาขึ้นระหว่างเราและพี่สาว  กับคนกลุ่มนึงค่ะ T_T ปล. ขอเติมข้อความนิดนึงค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 10:06:42 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 10:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รออ่านอยู่ค่า เขียนได้ละเอียดดี จากคุณ : อาดาจิ - [ 15 พ.ย. 49 14:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดีค่ะ คุณลูกสน จะไปซํมเมอนี้ค่ะ แต่ไม่ค่อยมีความรู้ พูดง่ายๆคือยังบ้านนอกอยู่  เลยอยากมาฟังประสบการณ์คุณลูกสน ขอชมจิงๆว่าขยันเขียนมั่กๆๆๆๆ และละเอียดยิบๆๆๆๆเรย จำได้ไงคะเนี่ย ขนาดเราเพิ่งส่งเอกสารวีซ่า ยังจำไม่ได้แล้วเลยว่าส่งอะไรไปบ้าง อุอุ  งั้นขอยิงคำถามที่อยากรู้หน่อยนะคะ 1.ไปกะสายการบิน north west เนี่ย พี่ที่บริษัทจัดให้หลอ เคยได้ยินว่าแพงมาก แพงจิงรึป่าวคะ? 2.ที่บ้านมีแต่คนไทยหรือมีต่างชาติด้วย 3.ใบขับขี่อินเตอร์รับต้องทำเองใช่มั้ย คือตัวเองขับรถเป็น แต่อยากขับรถที่โน่นเหมือนกันค่ะ แสดงว่าต้องไปทำก่อนใช่มั้ยคะ 4.คุณลูกสนจำได้เยอะขนาดนี้ เขียนไดอารี่มาก่อนรึป่าว แล้วคุณแนะนำให้เราเขียนมั้ย ตอนแรกขี้เกียจเขียน แต่พอคิดไปเขียนไว้ก้อดีเนอะ จะได้กลับมาเล่าสู่กันฟัง ***อยากบ่นหง่า*** อิอิ คุณลูกสนเก่งนะไม่ร้องไห้ตอนลากะพ่อแม่ เป็นเราคงฟูมฟายอายประชาชีจิงๆ   ชอบกระทู้แบบนี้มั่กๆมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน บางคนอาจขี้เกียจเขียนเพราะเห็นว่าไม่เกี่ยวอะไรกะเราแล้ว เขียนไปก้อเสียเวลาป่าว แต่เราว่าไม่เลยนะ แม่เราคนนึงหล่ะ ชอบบ่นว่าอ่านกระทู้ทำไม ไม่รู้โกหกหรือไม่หวังดีป่าว อิอิ แต่เรามองโลกในแง่ดีไว้ก่อนอ่า  สุดท้ายก้ออยากบอกว่าเขียนให้จบไวๆๆๆๆๆๆๆนะ ขอร้อง หรือไม่ก้อสรุปเอา เพราะกลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน แล้วจะเข้ามาบ่อยๆค่ะ  อยากบอกอีกว่ามีคนเข้ามาอ่านเยอะนะกระทู้นี้ แต่อาจไม่มีเวลา comment อ่ะจ่ะ จากคุณ : น้ำหวานค้างคืน (namwaan_3) - [ 15 พ.ย. 49 18:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณมาแจมแมน ชีวิตต้องสู้ค่ะ 555555 อดทนอย่างเดัยวเลย คุณอาดาจิ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆเลยนะคะ ^^ ดีใจจังค่ะ คุณน้ำหวานค้างคืน  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ^__^  ลูกสนดีใจจังเลย ตอนแรกนึกว่าไม่มีใครอยากอ่านแล้วค่ะ 555  นึกว่ามันละเอียดไปจนน่าเบื่อ จะพยายามเขียนจบให้ไวๆนะคะ :) ตอบคำถามก่อนนะคะ 1. บริษัทจัดให้ค่ะ  ทางบริษัทบอกว่าซื้อกับเค้าจะถูกกว่าซื้อเอง  เพราะว่าเค้าซื้อที หลายๆใบเลยค่ะ  เราว่าที่เค้าพูดก็จริงนะคะ  เพราะว่าเราลองโทรถามเอเจนซี่ดูแล้ว ราคาแพงมากๆค่ะ  และถ้าไปหาซื้อเองเนี่ย  อาจจะไม่ได้ตั๋วด้วยก็ได้ค่ะ ^^"  เพราะว่าเส้นทางที่ เราไปต้อง transit หลายรอบมาก แต่ว่าถ้าไปเส้นทางที่ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเนี่ย  ลองหาตั๋วเองก็อาจจะพอได้ค่ะ แต่เรื่องราคาเราก็ไม่ทราบค่ะ  ว่าจะถูกกว่ารึเปล่า 2.  ที่บ้านมีแต่คนไทยค่ะ  แต่ตอนเราจะออกจากบ้านจะมีคนต่างชาติที่มาทำงานเหมือนเรา มาอยู่ต่อค่ะ 3. ใบขับขี่อินเตอร์ต้องทำตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทยค่ะ  ไปทำก่อนไว้ก็ดีค่ะ  แต่ว่าถ้าไม่ได้ทำ ก็ขับได้เหมือนกัน.....เพื่อนเราหลายๆคนที่ไปขับค่ะ  แต่พวกนั้นมีใบขับขี่ไทยนะคะ แต่ถ้าเอาให้ชัวร์  ทำไว้ก่อนดีกว่าค่ะ 4.  ลูกสนไม่เคยเขียนไดอารี่ค่ะ ^^"  ตอนไปอยู่ที่นั่นก็ว่าจะเขียนทุกวัน  แต่ปรากฏว่าไม่ได้ เขียนเลยซักวันค่ะ 5555 ทำงานกลับบ้านดึกแล้วอยากนอนน่ะค่ะ  เลยไม่ได้เขียนเลย อาศัยจำเอาแล้วก็นึกออกตอนเขียนน่ะค่ะ ฮิฮิ ส่วนเรื่องร้องไห้นั้น  เราตั้งใจว่าจะไม่ร้องค่ะ  เพราะว่าเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะไปเอง เราก็ต้องไม่ร้องค่ะ  เก็บน้ำตาไว้ไปร้องเรื่องที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าค่ะ  ฮิฮิ รออ่านต่อนะคะ ^^  อยากได้คอมเม้นต์เยอะๆจังเลยค่ะ  ลูกสนว่าเป็นกำลังใจดีน่ะค่ะ ^____^ ไม่งั้นแอบน้อยใจค่ะ >.< ปล. สะกดผิด ขอแก้นะคะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 19:03:04 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 19:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องที่ทำให้เค้าเหล่านั้นไม่ชอบเรากับพี่สาว  มันมาจากเรื่องของกินค่ะ - -" และเรื่องอื่นอีกนิดหน่อย(เรื่องงานน่ะค่ะ  เค้าบอกว่าเรากับพี่สาวไม่ช่วยเค้า ทำงาน - -"  จะบ้าหรอไง  ช่วยนะคะ  ไม่ได้เอาเปรียบ  แต่ตอนนั้นสถานการณ์ ไม่เปิดโอกาสให้เราเถียงเค้าน่ะค่ะ  เราก็เลยต้องขอโทษเค้าไป) ส่วนเรื่องของกินเนี่ย  ที่มันเกิดขึ้นก็เป็นเพราะว่า  ทุกๆวันเราจะมีข้าวกล่องไปทาน กันที่ร้านใช่มั๊ยคะ  ทีนี้เรากับพี่สาวเกิดไม่อยากกินข้าวกล่องที่เค้าทำให้น่ะค่ะ.... เราเลยเตรียมกันเอง 2 คน  เพราะคิดว่าคนที่ทำเค้าจะได้ไม่ต้องลำบากทำให้ เราด้วย........ช่วงแรกคนที่ทำข้าวกล่องมี 2-3 คนเองค่ะ(เวรทำข้าวมาตั้งตอนหลังค่ะ)   เราก็เกรงใจเค้า  เพราะว่าเค้าต้องตื่นแต่เช้ามาทำให้  เรากับพี่สาวเลยเตรียมกันเองน่ะค่ะ เรื่องนี้ทำให้บางคนเค้าคิดว่าเรากับพี่สาวเห็นแก่ตัวค่ะ ToT  แบบว่าทำกันเอง 2 คน ไม่ยอมทำเผื่อคนอื่น  แล้วก็ทำตัวแตกแยก  แบบว่าทานเหมือนคนอื่นไม่ได้   เราเองก็เลยบอกเค้าไปว่า  เราไม่ได้คิดแบบนั้นนะ  เรากับเค้ามองคนละมุมกันเลยต่างหาก แล้วเราก็เล่าเหตุผลของเราให้เค้าฟังไปค่ะ  แล้วก็บอกเค้าว่า  ทานเหมือนกันก็ได้ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำตัวแตกแยกหรอก  ก็ขอโทษเค้าน่ะค่ะ เรื่องงานกับเรื่องกินเนี่ย  เป็น 2 เรื่องที่เรารู้ว่าเค้าไม่พอใจเรา  เราก็ขอโทษเค้าไปค่ะ เค้าก็โอเคค่ะ   ก็กลับมาคุยกับเราดีๆตามเดิม  ก็ถือว่าเคลียร์ไปค่ะ ^___^ แต่มันมีอีกเรื่องนึงที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าไม่ชอบเรา  เรามารู้เอาทีหลังค่ะ ToT จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 19:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อีกเรื่องนึงที่เกิดเป็นปัญหาก็คือ  การใช้ห้องครัวค่ะ   อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าบ้านเรามี 2 ฝั่ง  ห้องครัวแต่ละฝั่งก็มีให้ใช้อยู่แล้ว  เราก็เลยคุยกับพี่สาวว่า  น่าจะ ให้แบ่งกันทำนะ  ในเมื่อมี 2 ครัวก็น่าจะใช้ให้คุ้ม  แบ่งๆกันทำไป  จะได้ไม่ต้องลำบาก คนที่ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารให้วันละ 21 กล่อง(คือถ้าแบ่งกันทำ  ก็ทำฝั่งละ 10 กล่อง ก็พอน่ะค่ะ) เราเอาเรื่องครัวไปพูดกับเพื่อนๆกลุ่มเล็กๆค่ะ  เพื่อนผู้ชายกับน้องกบมั้งคะ  แต่ไม่ได้ พูดแบบว่า  ต้องทำแบบนั้นนะ  แค่เหมือนเสนอความคิดเห็น  ว่าถ้าทำแบบนั้น  มันจะ สะดวกกว่ามั๊ย  พวกนั้นเค้าก็ไม่เห็นด้วยค่ะ  เค้าบอกว่าทำครัวเดียวไปเลยง่ายกว่า - -" เรากับพี่สาวก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ  คนเราความคิดเห็นต่างกันอยู่แล้ว ^^ แต่เรื่องห้องครัวที่เอาไปพูดนี่แหละค่ะ  ทำให้คนอื่น(หลายๆคนแต่ไม่ทุกคน)ไม่ชอบเรา กับพี่สาว  เราก็งงค่ะ  ว่าเราแค่เล่าให้เพื่อนกลุ่มเล็กๆฟัง  แล้วใครเอาไปเล่าให้คนอื่น ฟังล่ะเนี่ย จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 19:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ในความคิดเรา  ถ้าคนคนนั้นเอาไปเล่า  แบบไม่บิดเบือนความจริงเลยมันก็ไม่น่าจะทำให้เค้า ไม่ชอบเรากับพี่สาวได้ค่ะ  เรามารู้เอาทีหลังว่า  คนที่เอาไปเล่าเล่าในเชิงแบบสุมไฟน่ะค่ะ   แบบเอาไปเม้าธ์ว่าเรากับพี่สาวเรื่องมากอีกแล้ว - -" เราเองยังไม่อยากเชื่อเลยค่ะ  ว่าคนที่ เอาไปเล่า  จะเป็นคนคนนั้น(ขอเรียกเค้าว่า u know who นะคะ)   เรามองว่า u know who เป็นคนที่ตลก  นิสัยดี  ดูเป็นมิตรมาตลอดเลยค่ะ  พอมารู้เรื่อง แบบนี้เข้าทีหลังเนี่ย  เฮ้อ........ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ  ว่าเป็นคนแบบนี้ไปได้  แต่ว่าตอนเรา มารู้ว่า u know who เป็นคนที่ใส่ไฟเรากับพี่สาว  เราไม่รู้สึกโกรธเลยค่ะ  งงอย่างเดียวเลย   ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 5555 ความรู้สึกมันไม่อยากไปยุ่งกับเค้า  แต่ถ้าเค้ามาคุยกับเรา  เราก็คุย ดีๆกับเค้านะคะ  ความรู้สึกมันเฉยๆไปแล้ว  แบบว่า  อภัยให้เค้าไปเถอะ - -" ปล. ลงซ้ำค่ะ  ขอตัดออกนะคะ ^^" ปล.2  แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 19:33:28 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 19:14:45 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 19:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เนี่ยแหละค่ะ  ปัญหาของเรากับเพื่อน  ที่ทำให้ลำบากเหมือนกัน  เพราะคนอื่นเค้ามองเราผิด ไปหมดเลยค่ะ ToT  มองว่าเราคุณหนู  ทานแบบเค้าไม่ได้  มองว่าเราอู้งาน  ไม่ยอมช่วย แล้วไอ้เรื่องห้องครัวอีก  มองว่าเราเห็นแก่ตัว  ไม่อยากทำให้ทำอาหารให้คนอื่นทานด้วย T-T แต่ละอย่าง  ทำเอาเราเป็นนางมารร้ายสุดๆไปเลยค่ะ เรากับพี่สาวมานั่งคุยกันค่ะ  ว่าเค้ามองเราว่าเป็นคุณหนูได้ไงฟระเนี่ย - -" ห้องน้ำชั้นล่าง  เรากับพี่สาวก็เป็นคนขัด  เรารับหน้าที่ขัดส้วมค่ะ  พี่สาวขัดอ่าง คุณหนูที่ไหนเค้าทำกัน  ขัดส้วมน่ะ ฮ้วย.......พวกนั้นนี่  ไม่ได้ดูคนที่การกระทำเลย พอพูดถึงเรื่องห้องน้ำแล้วขอบ่นหน่อยนะคะ ^^"  ห้องน้ำชั้นล่างเนี่ย  เรากับพี่สาวใช้ค่ะ แล้วคนอื่นก็ใช้เหมือนกัน  คนที่อยู่บ้านทางฝั่งเราจะมาใช้ห้องน้ำข้างล่างกันเกือบทุกคน แต่คนที่ขัด  คือพี่สาว(รักสะอาดมากค่ะ) กับเรา(ผู้ที่อยู่ไทยไม่เคยขัดห้องน้ำมาก่อน) คนอื่นมาใช้ห้องน้ำข้างล่าง  แล้วก็ทำห้องน้ำเปียกค่ะ :(  พี่สาวเราเบื่อมากเลยเวลาห้องน้ำเปียก เค้าเลยแปะกระดาษไว้ตรงกระจกเลยค่ะ  ว่าช่วยรักษาความสะอาด  และอย่าทำห้องน้ำเปียก โดยเฉพาะบริเวณรอบๆอ่างล้างหน้า แต่ว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่เขียนหรอกค่ะ  คุณเพื่อนบ้างคนที่ไม่ชอบพวกเรา  ตื่นมาตอนเช้า ลงมาใช้ห้องน้ำข้างล่าง  แล้วคงล้างหน้าเพลินมั้งคะ  น้ำก็กระฉอกออกมารอบๆอ่างล้างหน้า เปียกไปหมดเลยค่ะ  หยั่งกับเล่นโฆษณาโฟมล้างหน้าน่ะค่ะ  ที่เวลาล้างหน้าต้องเอาน้ำสาดๆ ไปข้างๆแก้ม - -"  รอบอ่างก็เปียกหมดเลยค่ะ  แย่จริงๆ  :( ขอบ่นต่อค่ะ  ห้องครัว  จานชาม  เวลาวันไหนพี่สาวหรือเราอยู่  เราก็ช่วยทำความสะอาดค่ะ บนพื้นก็ดูดฝุ่นด้วย  ไม่ได้นั่งนิ่งเป็นคุณหนูเลยค่ะ  ที่บ่นๆมาทั้งหมดเนี่ย  อยากบอกพวกนั้นว่า " ชั้นไม่ใช่คุณหนูนะยะ  ถ้าเป็นจริงๆล่ะก็  ไม่มาทำตัวเป็นนังแจ๋วแบบนี้หรอก "  55555 แต่ก็พูดไม่ได้ค่ะ  ToT  ขอมาระบายในนพันทิบละกัน .......บ่นจบแล้วค่ะ  กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่า  แหะแหะ แต่พอเคลียร์เรื่องที่เป็นปัญหาแล้วแล้วทุกๆอย่างก็ดูดีขึ้นค่ะ  ตอนแรกคนอื่นก็จะยังมองเรา แบบแปลกๆเหมือนกันว่าแบบ  ยัยนี่เรื่องมาก คุณหนู 55555  เราก็เฉยๆค่ะ  ถือว่าเคลียร์ แล้วก็ขอโทษไปแล้วทำดีที่สุดแล้ว  จะมาตัดสินว่าเราเป็นคนยังไง  จากการฟังคนอื่นพูดเท่านั้นนี่   ก็ตามใจพวกเค้า พอจบเรื่องนี้ไปแล้ว  ก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่กับชีวิตเราอีกแล้วค่ะ  ฮิฮิ ...............เรากับพี่สาวได้ไปทำงานที่ร้านใหม่ค่ะ...................... ปล. เพิ่มเติมเนื้อหาค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 19:51:10 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 19:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เข้ามาให้กำลังใจค่า ชอบจัง เรื่องละเอียดมากๆ อ่านแล้วเพลินดี เห็นภาพชัดเจนอีกต่างหาก แล้วมาต่ออีกนะคะ จากคุณ : พราว - [ 15 พ.ย. 49 20:18:39 A:125.25.132.124 X: TicketID:115193 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เราได้ไปทำงานที่ร้านใหม่ก็เพราะว่า  กินการของร้านที่เราทำอยู่เค้าไป take over กิจการ Beach Store เหมือนกันน่ะค่ะ  แล้วก็จะเปิดร้านใหม่ 3 สาขา  เค้าเลย ต้องแบ่งคนจากร้านสาขาต่างๆที่มีอยู่  ไปทำงานที่ร้านใหม่ค่ะ เราเป็นคนขอไปทำงานร้านใหม่กับ District Manager ค่ะ  อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ตอนแรกแค่อยากไปลองทำเฉยๆ  แต่พอทำไปทำมาแล้วก็ชอบร้านใหม่มากกว่าร้านเก่าค่ะ District Manager เลยส่งเรากับพี่สาวไปทำงานที่ร้านนั้นซะเลย ฮิฮิ ปล. สะกดผิด ขอแก้ค่ะ ^^" แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 21:05:34 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 20:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณพราว  ^^ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆเลยค่ะ  ยิ้มหน้าบานอยู่เลยค่ะ ^________^ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ร้านใหม่อยู่ใกล้ๆร้านเก่าเลยค่ะ  เดินแค่ 3 นาทีก็ถึงแล้ว  และแน่นอนว่าร้านใหม่ เราก็ต้อง มี manager คนใหม่ค่ะ ฮิฮิ Manager คนใหม่ของเราชื่อ Jannina ค่ะ  ขอเรียกย่อๆว่าเจน ละกันนะคะ ^^ แล้วก็มีอีกคน ชื่อ Kimmy ค่ะ  เป็นผู้หญิงทั้งคู่เลย เจนเป็นแฟน Big Boss ค่ะ  ร้านเก่าที่เธอทำงานคือร้านของน้องกบ  พอร้านนี้เปิด เธอก็เลยย้ายมาค่ะ  เธอบอกเราว่ามันท้าทายดี  ที่จะได้ทำงานที่ร้านใหม่ที่เละเละอยู่ ให้ดูเป็นรูปเป็นร่างสะอาดตาขึ้นมา เจนเป็นคนที่ทำงานเก่งมากๆเลยค่ะ  เธอทำงานที่ร้านเก่ามา 6 ปีแล้วค่ะ  ทำงานไว แล้วก็เรียบร้อยมากๆเลยค่ะ  เวลาทำงานกับเธอเนี่ย  เราจะรู้สึกว่าอยากทำให้ได้ แบบที่เธอทำค่ะ  เพราะว่าทำได้เนี้ยบจริงๆ  ที่สำคัญคือ  เธอเป็นคนที่ขยันมากๆค่ะ เธออายุแค่ 23 เองค่ะ ส่วน Kimmy นี่  เราขอเรียกว่า คิม ละกันนะคะ  คิมเป็นผู้หญิงตัวอ้วนๆค่ะ หน้าตาคล้ายๆ ดรูว์  แบรี่มอร์ เลยค่ะ  แต่อ้วนกว่าเยอะ  ฮิฮิ  คนนี้พูดได้เต็มปาก เลยค่ะ  ว่าเป็น manager ที่ขี้เกียจมากๆเลย  ชอบทำแต่งานสบายๆ  แล้วก็ ชอบใช้ให้พวกเราทำงานหนักๆค่ะ   เวลาคิมมี่ลุกขึ้นมาทำงานหรือว่าเดินไปทำงานนี่  พวกเราจะเซอร์ไพรส์มากๆเลยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น  ถึงได้ทำงานด้วย 5555  เวลาที่ Owner(เจ้าของกิจการ) จะมา ตรวจร้าน  คิมมี่ก็จะลุกขึ้นมาทำงานค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 20:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 63 นอกจากเรากับพี่สาว  แล้วยังมีเพื่อนผู้ชายอีกคนนึงค่ะ  ที่ได้ทำงานที่ร้านนี้ นอกจากนั้นก็มีเด็กฝรั่งอีก 2-3 คนค่ะ  แต่พวกฝรั่งจะทำแค่กะเดียว  เช้าหรือเย็น เท่านั้นค่ะ  ส่วนพวกเราเด็กไทย 3 คน  ทำทั้งวันค่ะ  9 โมงยัน 5 ทุ่ม ToT เพื่อนผู้ชายที่ได้ทำงานอีกคน  เราขอตั้งชื่อสมมติว่า เจ ละกันค่ะ  เจเป็นคนที่ ดูภายนอก...ท่าทางดูดุๆหยิ่งๆค่ะ  ไม่ค่อยกล้าไปคุยด้วยเท่าไหร่  แต่พอวัน day off ของพี่สาวเรา  ก็เหลือเรากับเจ  ที่เป็นหัวดำทำงานกันอยู่ 2 คนน่ะค่ะ  เราก็เลยได้คุย กับเจมากขึ้น ครั้งแรกที่ได้คุยกับเจเนี่ย  ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ  ว่าเจจะคุยเก่งได้มากขนาดนี้  ฮิฮิ แบบว่าเรายืนทำงานอยู่หน้าห้องลองเสื้อ  เจก็เดินมาจับๆแขวนๆนู่นนี่ไปเรื่อย แล้วก็ชวนเราคุยค่ะ  เราก็คุยเรื่องทั่วๆไปก่อนค่ะ  แบบว่าอยู่เมืองไทยเป็นยังไง เรียนหนุกมั๊ย  บลาบลาบลา แล้วคุยไปคุยมา  ก็เข้ามาเรื่องเพื่อนๆในบ้านเดียวกันอ่ะค่ะ  เจบอกเราว่า  ตอนแรก ที่เห็นเรากับพี่สาว  ก็นึกว่าเป็นคุณหนูๆเหมือนกัน  แล้วก็ไม่ค่อยชอบ(เพราะว่าไปฟัง เรื่องของพวกเรามาจากคนอื่นเยอะ)  แล้วเจก็บอกว่า  พอได้มารู้จัก  ถึงได้รู้ว่าเรากับพี่สาว ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น     การได้มาอยู่ร้านเดียวกับเจนี่ดีมากๆเลยค่ะ  เพราะตอนแรกเรานึกว่าเจเป็นแบบคุณชายๆ ไม่ค่อยทำอะไร  แต่พอเอาเข้าจริงๆเค้าก็ gentleman ค่ะ  ทำงานหนักๆทั้งหลาย  เช่น ยกของ  ทิ้งขยะ  ถึงแม้จะชอบบ่น  แต่เค้าก็ทำงานค่ะ ฮิฮิ ปล. สะกดผิดค่ะ ขอแก้นะคะ ^^" แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 21:44:24 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 20:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 64 วันไหนที่เรากับพี่สาว  แล้วก็เจ  ทำงานกันครบ 3 คนนี้  มักจะมีเรื่องตลกๆ เสมอเลยค่ะ  เพราะว่าเจชอบแกล้งพี่สาวเรา 5555  พี่สาวเราก็เป็นพวกตลกๆ เราก็เลยตลกไปด้วยค่ะ  ฮิฮิ ช่วงนั้นทุกอย่างเริ่มลงตัวมากขึ้นค่ะ  เพื่อนๆคนอื่นเค้าดีกับเราหมดแล้ว เราก็จำไม่ได้ว่าอยู่ๆเค้ามาดีด้วยตอนไหนอ่ะค่ะ  55555  แต่รู้สึกดีนะคะ ที่เค้ามาคุยกับเราแบบเป็นมิตรมากๆ  สงสัยอยู่ด้วยกันนานขึ้น  จนเค้ารู้ว่า เราไม่ใช่คนแย่ๆแบบที่เค้าคิดมั้งคะ พี่ๆที่เมื่อก่อนเคยไม่ชอบเรา  กลายเป็นว่ามานั่งคุยกัน  หัวเราะกันสนุกสนาน นอนเล่าเรื่องตลก  สนุกมากๆเลยค่ะช่วงนั้น  ทุกคืนเวลากลับมาเรากับพี่สาว จะไปนั่งเล่นอยู่ที่บ้านอีกฝั่งค่ะ  บ้านฝั่งนั้นนี่ฮาสุดๆแล้ว บางคืนก็มีเปิดผับกันค่ะ  ก็เต้นๆกันใหญ่  บางคืนก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะ 555 นวดค่ะ  ฮิฮิ  นวดแบบนั่งเรียงเป็นวงกลมหลายๆคน  แล้วก็นวดๆให้คนข้างหน้า ส่วนคนข้างหลังก็นวดให้เราน่ะค่ะ ^^ ..........ตอนนี้ทุกๆอย่างเข้าที่หมดแล้วค่ะ  เป็นช่วงเวลาที่ Happy มากๆค่ะ........... จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 20:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ช่วงที่เรา Happy อยู่นั่นก็ช่วงประมาณเกือบปลายๆเมษาน่ะค่ะ ^^ ช่วงนั้นเริ่มเป็น low season แล้วค่ะ  คนเข้าร้านไม่เยอะค่ะ  บางวันน้อยมากๆๆ แบบว่ามีคนมาลองชุดแค่คนเดียว  บางวันนับคนเข้าได้เลยค่ะ  แค่ 3 คนเอง - -" เพราะช่วงนั้นฝนตกค่ะ  ไม่มีใครอยากอาบแดดแล้ว เมื่อคนน้อย  ทางร้านทุกๆร้านก็ต้องลดเวลางานของลูกจ้างลงค่ะ  พวกเราก็โดนไปด้วย เพื่อนๆแทบทุกคนค่ะ  จากที่ทำงานวันละ 13 ชั่วโมง  กลายเป็นเหลือวันละ 7 ชั่วโมง แล้วทำงานแค่ 5 หรือ 6 วันต่อสัปดาห์เอง  เงินก็น้อยค่ะ  ส่วนเราไม่โดนค่ะ  เจนเธอให้ เวลางานเราเท่าเดิมน่ะค่ะ  เลยไม่มีปัญหา แต่ช่วงนั้นเจ ก็ถูกย้ายไปทำงานร้านอื่นแล้วค่ะ  ก็สาขาอื่นน่ะค่ะ  ตอนนั้นในร้านเลยเหลือ แค่เรากับพี่สาว  แล้วลูกจ้างคนอื่นๆก็ผู้หญิงหมดเลยค่ะ  เป็นร้านหญิงโสด 5555555 อยู่กันแบบเงียบเหงาค่ะ  เพราะคนเข้าร้านก็น้อยอยู่ดี จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 21:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เพื่อนๆคนอื่นที่ถูกลดชั่วโมงงาน  เค้าก็ไปหา second job ทำค่ะ  ทุกคนในบ้าน  ยกเว้นเรา ไปสมัครงานที่ McDonald ค่ะ  พี่สาวเราก็ไปสมัครกับเค้าด้วยค่ะ  ฮิฮิ  พี่เราอยากลองทำ แต่เราไม่สมัครค่ะ 555  ขี้เกียจ  อยากพักอ่ะค่ะ ^^" พอพูดถึงเรื่อง Mc นี่  เราก็มีเรื่องมาแทรกอีกแล้วค่ะ   เป็นเรื่องของการขอ Social Security Card ค่ะ  เราขอเรียกว่า SSC นะคะ เจ้า SSC นี่สำคัญค่ะ  คอสต้าพาพวกเราไปทำ SSC ตอนช่วงสัปดาห์แรกๆของการ ทำงานค่ะ  SSC จำเป็นสุดๆสำหรับคนที่ต้องการหา second job ค่ะ  ถ้าไม่มี  เค้าจะ ไม่รับเราเข้าทำงานเลย  ใครที่กะจะหางานอื่นทำล่ะก็......บอกนายจ้างของคุณนะคะ ว่าให้รีบๆพาไปทำ SSC เลย  ถ้านายจ้างไม่พาไปก็ตื๊อๆๆๆไปค่ะ  ไม่งั้นอดแน่ๆ อีกอันนึงนี่  ไม่แน่ใจนะคะ  แต่มีคนบอกว่า  ถ้าไม่มี SSC  เราจะไม่สามารถทำ Tax Refund ได้ค่ะ  ต้องมีหมายเลขของ SSC  เราถึงจะสามารถได้ภาษีคืนมาได้  ตัวเราเองตอนนี้ยัง ไม่ได้ทำเรื่องขอภาษีคืนเลยค่ะ  ยังไม่แน่ใจ  แต่ว่ายังไงมี SSC ไว้อุ่นใจค่ะ  เราว่ามันคล้ายๆ บัตรประชาชนน่ะค่ะ ^^ กลับเข้าเรื่องต่อดีกว่าค่ะ ^^ คนที่ไปทำ McDonald บางคนก็ทำแค่กะเดียวค่ะ  บางคนเกือบตั้งแต่เช้ายันดึกก็มี เราก็เห็นเพื่อนๆที่ไปทำมีความสุขดีนะคะ  เห็นบอกว่า manager ใจดี  แล้วงานก็สนุก กว่าทำใน Beach Store ค่ะ ปล. แก้ไขคำตกหล่นค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 16:47:01 จากคุณ : ลูกสน - [ 15 พ.ย. 49 21:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เข้ามาติดตามอีกคน เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : T@Mbaqui - [ 15 พ.ย. 49 22:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาอ่านทุกวันเลย เราทำ McDonald's,alabama ล่ะ เราหลังไมล์ไปแล้วน้า เห็นหรือป่าว จากคุณ : SOOOS - [ 16 พ.ย. 49 00:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ติดตามอ่านอยู่เช่นเดียวกันนะคะ ^^ จากคุณ : ก้านหญ้า * - [ 16 พ.ย. 49 01:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านอยู่นะคะ จากคุณ : < Siam Citizen > - [ 16 พ.ย. 49 14:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เล่าเรื่องการทำงานที่ McDonald ให้ฟังดีกว่าค่ะ  พอดีเราเห็นว่าหลายๆคน จะไปทำงานที่นี่น่ะค่ะ  ฮิฮิ  เรื่องที่เราเอามาเล่านี่  เราฟังมาจากเพื่อนๆในบ้าน ที่ไปทำมานะคะ ^^ เท่าที่ฟังเพื่อนๆพี่ๆในบ้านที่ไปทำร้าน Mc เค้าบอกเนี่ย  เราสรุปได้ว่า  ที่ร้านจะมีงาน ให้ทำอยู่ประมาณ 4 แอเรียหลักๆค่ะ  มีส่วนที่ย่างเนื้อเบอร์เกอร์  ส่วนประกอบเบอร์เกอร์ ส่วนทอดเฟรนช์ฟรายด์  แล้วก็ส่วนที่อยู่ตรงช่อง Drive Thru น่ะค่ะ สองส่วนแรกที่เราพูดถึงนี่  ทำงานกับความร้อนค่ะ  แล้วก็งานหนักเหมือนกัน  คนที่ปิ้งเนื้อ ต้องระวังนะคะ  ไม่งั้นโดนเตาเป็นแผลแน่ๆค่ะ  มีพี่ผู้หญิงไปทำแล้วได้แผลกลับมาเป็น ลายเตาย่างเลยค่ะ   ส่วนที่ประกอบเบอร์เกอร์ก็ต้องจำให้ได้ค่ะ  ว่าเบอร์เกอร์อันไหน  ใส่อะไรบ้าง  แล้วเมนู ที่นั่นไม่ได้มีน้อยๆแบบที่เมืองไทยนะคะ  มีทั้งเบอร์เกอร์  ทั้งแซนวิช  แล้วก็แมคมัฟฟินด้วย เมนูเยอะมากๆเลยค่ะ  เพื่อนๆเราต้องมานั่งท่องกันค่ะ  ว่าอันไหนใส่อะไรบ้าง 555555 เหมือนท่องข้อสอบเลย จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 15:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ยังตามอ่านอบู่ น้องสน!! จากคุณ : amited - [ 16 พ.ย. 49 16:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณT@Mbaqui   ลูกสนยิ้มรับกำลังใจเลยค่ะ ^^ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ :) คุณSOOOS  add ไปแล้วจ้า ^^  ไว้คุยกันนะคะ คุณก้านหญ้า *  ^__^ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  จะพยายามเล่าให้จบไวๆค่ะ  ^^ พี่< Siam Citizen >  ^^ ขอบคุณนะคะ  ที่ตามอ่านมาตลอดเลย  มีคำแนะนำอะไร บอกลูกสนได้นะคะ  ลูกสนจะได้เอาไปปรับปรุงค่ะ ^___^ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ยังมีเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกค่ะ  สำหรับแผนกประกอบเบอร์เกอร์  คือว่าเวลาฝรั่งเค้าสั่งกันเนี่ย เค้าไม่สั่งแบบธรรมดาๆหรอกค่ะ  บางคนจะสั่งแบบไม่เอาหอมใหญ่  แต่ใส่แตงกวาดองแทน บางคนเพิ่มชีส  บางคนก็ไม่เอามะเขือเทศแต่เพิ่มเนื้อเป็นดับเบิ้ลแทน  ยุ่งเหมือนกันค่ะ ต้องทำให้ตรงตามออเดอร์ค่ะ  แต่มันไม่ยากเกินไปหรอกค่ะเรื่องแบบนี้ ^^ ส่วนตรงที่ทอดเฟรนช์ฟรายด์นี่ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ  แค่ระวังน้ำมันกระเด็นเท่านั้นเอง เวลาทอดเค้าจะมีตัวจับเวลาน่ะค่ะ  พอตัวจับเวลามันร้อง  ก็เอากะทะทอดขึ้นมาได้เลย พักไว้ซักแป๊ป  แล้วก็เอาไปเทรวมกับกองที่เราทอดไว้แล้ว  โรยๆเกลือลงไปก็เสร็จแล้วค่ะ ส่วนที่สบายที่สุดคือตรง Drive Thru ค่ะ  เป็นช่องที่เอาไว้ใช้ส่งออเดอร์ให้ลูกค้าค่ะ ที่อเมริกานี่  ช่อง Drive Thru เป็นตัวทำรายได้เลยค่ะ  คนที่เข้ามานั่งทานในร้านไม่ค่อยมีค่ะ ส่วนมากจะเข้ามาสั่งแล้วเอากลับบ้าน  ไม่ก็ Drive Thru เลยค่ะ คนที่อยู่ช่องนี้ก็มีหน้าที่เช็คว่า  ของที่ส่วนอื่นส่งมา  ตรงกับออร์เดอร์รึเปล่า  แล้วก็เอาใส่ถุงยื่นให้ลูกค้าผ่านตรงช่องน่ะค่ะ แล้วก็มีหน้าที่เอาพวกซอสมะเขือเทศ  ซอสพริก  หรือว่าน้ำสลัดต่างๆใส่ลงไปในถุงด้วย Mc ที่อเมริกาขายสลัดอยู่ประมาณ 4-5 ชนิดค่ะ  อร่อยด้วยนะ ฮิฮิ  เพื่อนๆที่ไปทำงาน ยังเอาน้ำสลัดกลับมาที่บ้านเลยค่ะ(แอบจิ๊กค่ะ 555) หน้าที่อีกอย่างนึงของคนที่อยู่ตรง Drive Thru จะเป็นการไปกดไอศครีมแล้วเอามาส่ง ให้คนในรถน่ะค่ะ  บางทีก็แกล้งกดผิดค่ะ  แล้วก็เอามากินเอง ฮิฮิ  เมเนเจอร์เค้าก็ไม่ว่าอะไร นะคะ  เพราะไม่ได้ทำบ่อยๆ   เราเองยังเคยได้ไอติมฟรีที่ Mc เลยค่ะ  ตอนนั้นเค้ากดผิด เค้าเลยเอามาให้เราค่ะ  กินสบายเลย  โคนที่นั่นใหญ่ค่ะ  อิ่มเลย  ฮิฮิ ปล. แก้คำสะกดผิดค่ะ ปล.2 เพิ่มเติมเนื้อหาค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 17:24:07 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 16:50:35 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 16:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 74 พี่amited  ^^ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  ลูกสนไม่รู้จะพูดว่าอะไรนอกจากขอบคุณน่ะค่ะ ^^" แต่ดีใจจริงๆนะคะ  ที่มีคนสนใจเรื่องที่เขียนค่ะ :) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาพูดเรื่องเครื่องแบบของ Mc กันบ้างนะคะ ที่นี่เค้าจะมีเสื้อ  กางเกงและหมวกให้ค่ะ  เสื้อไม่ได้เป็นสีเหลืองแดงเหมือนที่ไทยนะคะ เป็นสีฟ้าลายทางค่ะ  ก็สวยดีเหมือนกันนะ ^^  ส่วนกางเกง  ใครไม่ชอบใจกางเกงที่เค้าให้ ก็สามารถใส่กางเกงของตัวเองได้ค่ะ  แต่ว่าต้องเป็นกางเกงขายาวสีดำเท่านั้น แล้วเวลาทำงานก็ต้องใส่หมวก  และรวบผมให้เรียบร้อย(สำหรับคนที่ผมยาวหรือประบ่า) รองเท้าก็ต้องเป็นสีดำค่ะ  แนะนำให้เอารองเท้าสบายๆไปใส่นะคะ  อย่าแฟชั่นมากค่ะ  ไม่งั้นเมื่อยแน่ๆ   จบเรื่องของ McDonald แล้วค่ะ  มาเข้าเรื่องชีวิตประจำวันต่อดีกว่า ช่วงนี้คนไหนที่ขับรถเป็นก็ต้องขับรถไปส่งทั้งคนที่ทำงาน Beach Store แล้วก็ Mc ด้วยค่ะ ตารางขับรถยุ่งเหยิงไปหมด  ตอนนี้ใครที่ขับรถเป็น  ไม่ต้องมีใบขับขี่อินเตอร์ก็ขับรถกันทั้งนั้น แล้วค่ะ ฮิฮิ แต่ขับรถเป็นก็เหนื่อยนะคะ  เพราะต้องขับรับขับส่งหลายรอบเลย คนไหนที่ day off ก็ออกไปเที่ยวค่ะ  บางทีก็ไป Outlet  ที่อยู่ห่างจากบ้านไปซัก 20 นาที(ขับรถไป) ที่ Outlet เป็นสถานที่ที่พวกเราได้จ่ายเงินกันค่ะ  ฮิฮิ  ไปกันบ่อยเลยล่ะค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 16:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 75 Outlet ก็คือสถานที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ  มาขายในราคาถูกค่ะ  เรียกว่าถูกมากๆ เลยแหละ  ถ้ารู้จักเลือกซื้อ  พวกเสื้อ QuikSilver  หรือว่า Roxy ราคาไม่แพงค่ะ  นอกจากนั้น ก็มีพวกนาฬิกา Fossil  ร้านกระเป๋าหรูๆอย่าง Coach ก็มี  ร้านเครื่องครัว  ร้านขายพวก ขนมหรูๆ  ร้านขายเครื่องสำอางค์ก็มีค่ะ  แต่ไม่แนะนำให้ซื้อเครื่องสำอางค์นะคะ  เพราะว่า เค้าอาจจะเอาของเก่าๆมาขายน่ะค่ะ   พอพวกเราช้อปที่ Outlet เสร็จแล้ว  ก็จะไปทานข้าวที่ร้านประจำต่อค่ะ  ฮิฮิ  อยู่ใกล้ๆกันนั้นแหละ เป็นร้านอาหารจีนแบบบัฟเฟต์  คนละไม่ถึง 10 เหรียญน่ะค่ะ  อาหารก็อาหารจีนพื้นๆ  พวกผัดผัก ผัดหมู  บะหมี่ผัด  ของทอด  ซุป  แล้วก็มีพวก seafood แบบเย็นๆให้ทานค่ะ  เรียกว่าทำให้พอ หายคิดถึงอาหารที่เมืองไทยได้นิดหน่อยค่ะ  555 แต่ช่วงหลังๆนี่  พวกเราไป Outlet กันจนเบื่อแล้วค่ะ  ไปก็เจอแต่ของเดิมๆ  พวกเราเลย ไปหา Outlet ที่อื่นไปกัน  บางที่ต้องขับรถไปประมาณชั่วโมงนึง  บางที่ก็อยู่ที่ฟลอริดาเลย พอดีว่าเมืองที่เราอยู่ใน Alabama เป็นเมืองที่ติดกับรัฐฟลอริดาพอดีค่ะ  เลยขับไปได้ วันที่ขับไปช้อปที่ฟลอริดา  ก็นั่งรถไปประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ  เราเคยไปครั้งนึงค่ะ ฮิฮิ ที่นั้นเหมือนเป็นช้อปปิ้งมอลล์เลย  มีหลายๆมอลล์  แล้วก็มีร้านเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ราคาไม่ได้ถูกเหมือนที่ Outlet นะคะ  แต่ข้อดีของมันก็คือ  ของที่ขายเป็นสินค้าที่ ไม่เก่าเหมือนที่ Outlet ค่ะ  แล้วก็มีให้เลือกเยอะกว่าด้วย จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 16:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาถึงตอนนี้ก็พูดเรื่องช้อปปิ้งอีกดีกว่า ฮิฮิ (อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ ที่ลูกสนชอบเล่านอกเรื่อง T-T) พูดถึงเรื่องช้อปของผู้หญิงเนี่ย  คงไม่พ้นพวกเครื่องสำอางค์ใช่มั๊ยค่ะ ^^ เราก็เหมือนกันค่ะ  และพี่ๆเพื่อนๆคนอื่นๆที่ไปด้วยกันก็ชอบค่ะ  ส่วนใหญ่ที่เราเห็นเค้าซื้อ กลับมาเป็นของฝากให้จะไม่พ้นโลชั่นทาผิวยี่ห้อ Bath & Body Works ค่ะ เราเองก็เคยได้รับของฝากเป็นเจ้าครีมนี่เหมือนกันค่ะ  ฮิฮิ  ก็ตอนที่เราเข้ามหาวิทยาลับปี 1 แล้วพี่รหัสเราที่ไปทำงานที่นั่นมาซื้อมาฝากแหละค่ะ ^_____^  แล้วเราก็ชอบมากๆด้วย ใครคิดอยากจะซื้อโลชั่นยี่ห้อนี้ล่ะก็......ขอให้รอโอกาสทองค่ะ  อย่างพี่สาวเราไปช้อปมาที่ Outlet อีกที่นึง(ไม่ใช่ที่ใกล้ๆบ้านนะคะ)  เค้าก็ซื้อเจ้าโลชั่นทามือทาผิวยี่ห้อนี้มาได้ตอนที่เค้ากำลังทำโปรโมชั่นค่ะ ซื้อ 5 ขวดขึ้นไปลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์น่ะค่ะ  ถูกมากๆๆๆเลยค่ะ  เค้าจะมีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆค่ะ สาวๆก็รอดูละกันค่ะ  ว่าช่วงไหนที่เค้าจะลดราคา  แล้วค่อยไปช้อปเอานะคะ ^^ อาจจะมีคนคิดว่า  5 ขวด  ซื้อไปทำไมเยอะแยะ  ฮิฮิฮิ  ขอให้ลองเข้าไปดูในร้านก่อนค่ะ  แล้วจะรู้ ว่า 5 ขวดน่ะ  ธรรมดามากๆ Bath & Body Works มีหลายกลิ่นมากค่ะ  ซัก 20 ได้มั้งคะ เข้าไปเดินดมได้เป็นชั่วโมงๆ จนงงกลิ่นไปหมดเลยค่ะ  จะเลือกอันไหนก็แล้วแต่คนชอบค่ะ มาถึงตรงนี้นี่  ขอบอกว่าเราไม่ได้มาโฆษณา Bath & Body Works นะคะ  เราเห็นหลายคน ชอบซื้อไปฝากคนที่ไทยน่ะค่ะ ^^" ก็เลยมาเล่า  แหะแหะ  คงเพราะกลิ่นเค้าหอมมั้งคะ คนเลยนิยมกัน   เราเองก็ซื้อของเค้ากลับมาเยอะเหมือนกันค่ะ ^^ ปล. ขอเพิ่มเติมข้อความนะคะ ^^ ปล.2 แก้คำที่สะกดผิดค่ะ ^^" แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 16:40:00 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 16:39:01 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 16:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ติดตามอยู่ครับ เขียนได้ละเอียดมากๆ ผมก็จะไปปีหน้าเหมือนกัน ที่ alabama เหมือนกันครับ จากคุณ : Spa si ba (V_Accy) - [ 16 พ.ย. 49 16:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อีกอย่างนึงที่ถูกกว่าที่เมืองไทยมากๆเลยก็คือของของร้าน Body Shop ค่ะ ที่เมืองไทยขายแพงเท่าไหร่  เราจำราคาไม่ได้หรอกค่ะ  รู้แต่ว่าที่นั่นขายถูกกว่าแน่นอน เราซื้อลิปสำหรับทาปากรสผลไม้มา 2 อัน 7 เหรียญเองค่ะ  ถูกมากๆแล้วก็ดีด้วย ^^ ส่วนใครที่อยากได้ของถูกๆๆๆ  เราขอแนะนำให้ไปที่ Ross ค่ะ ที่ Ross นี่เป็นแหล่งรวมของหลายอย่างเลยค่ะ  ตั้งแต่เสื้อผ้า  รองเท่า  กระเป๋า เครื่องครัว  สมุด  หนังสือ  ของตกแต่งบ้าน   เยอะแยะเลยค่ะ  ที่นี่จะขายของ ราคาถูกมากๆค่ะ  เสื้อผ้าบางตัวก็เป็นสินค้าแบรนด์เนม  ต้องเลือกดีๆค่ะ แล้วจะได้ทั้งของถูกและดี  ที่นี่เราแนะนำให้ไปค่ะ  ฮิฮิ แต่มีข้อแนะนำอีกอย่างนึงนะคะ ^^  เราว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อของเยอะค่ะ  เพราะว่า พอทำงานเสร็จเราก็จะไปเที่ยวกันใช่มั๊ยคะ  ส่วนใหญ่ก็ไป 1 สัปดาห์  ช่วงนั้น จะเป็นช่วงที่ได้ใช้เงินอย่างแท้จริงเลยค่ะ  เดี๋ยวตอนท้ายๆเรื่องเราจะเล่าให้ฟังค่ะ :)   .............จบเรื่องบันเทิงแล้ว  เดี๋ยวเราเล่าเรื่องงานต่อดีกว่าค่ะ............. จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 19:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ตามอ่านอยู่ค่ะ ละเอียดมากๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเยอะแยะเลย ชอบๆ แต่บอกอักษรย่อเอเจนซี่ที่ไปไม่ได้เหรอ แบบว่าอยากรู้อ่ะ เพราะมีเลื่อนวันเดินทางไปมาและเปลี่ยนรัฐด้วย ขอบคุณนะคะที่มาเล่าให้ฟัง จากคุณ : JuSt Walking - [ 16 พ.ย. 49 19:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณนะคะ ที่มีเรื่องดีดี แบบนี้มาเล่าให้ฟัง เรากำลังจะไป wat ที่ฟลอริดา ปีหน้าคะ จากคุณ : KindNess_KiLLer (KindNess_KiLLer) - [ 16 พ.ย. 49 19:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณSpa si ba ไปทำงานอะไรคะ ^^   ----------------------------------------------------------------------------------- อย่างที่เราบอกไว้ข้างบนค่ะ  ว่าร้านเราตอนนี้กลายเป็นร้านหญิงล้วนไปแล้ว  5555 พอเจถูกย้ายไปทำงานร้านอื่น  เรากับพี่สาวก็ต้องทำงานมากขึ้นค่ะ T-T พวกเราต้องยกกล่องสินค้าที่เอามาส่งแทบทุกวันค่ะ  แต่ละกล่องก็ไม่ใช่เบาๆนะคะ หนักค่ะ  ต้องช่วยกันยก 2 คน  เราก็ไม่รู้ว่าจะส่งของอะไรกันนักหนา  ของที่ร้าน ก็เต็มไปหมดแล้ว  เอามาทำใมให้รกเนี่ย - -" เวลาคนยกกล่องมาเนี่ย  เค้าจะมาเรียกเราค่ะ  ฮิฮิ  เราสนิทกับคุณลุงยกกล่องค่ะ เค้าใจดีแล้วก็เป็นมิตรมากๆเลย  เค้าชอบคุยกับเราค่ะ  เราก็ชอบถามเค้าว่า วันนี้มีกี่กล่อง  แล้วพรุ่งนี้เค้าจะมาส่งกล่องอีกมั๊ย  ถ้าเค้าตอบว่าไม่  เราจะดีใจค่ะ จนเค้าชอบแกล้งทำท่าน้อยใจ  ว่าเราดีใจที่จะไม่ต้องเจอเค้าหรอ 55555 เวลามีกล่องที่หนักๆ  เรากับพี่สาวช่วยกันยก  เราก็จะคำเรียกว่า "คลีนแอนด์เจิร์ก" ค่ะ ฮิฮิ  มันเป็นท่ายกน้ำหนักท่านึงอ่ะค่ะ  เราไม่ได้ยกของท่านั้นหรอกค่ะ 5555 แต่เป็นระหว่างรหัสเรากับพี่สาวว่า  กล่องหนักๆมันมาอีกแล้ว  ToT ปล. เพิ่มเติมข้อความค่ะ ปล. แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 08:06:55 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 19:28:28 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 19:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คุณJuSt Walking  ขอบคุณที่ชอบเรื่องของลูกสนนะคะ ^^   ส่วนเรื่องเอเจนซี่  ลูกสนส่งให้ทาง หลัง + ไมค์  แล้วค่ะ :) คุณKindNess_KiLLer   ไปทำงานอะไรคะ ^^ โครงการเดียวกับเรารึเปล่าเอ่ย -------------------------------------------------------------------------------------------------------------- พอกล่องมาส่งหมด  เราก็ต้องเปิดกล่องแล้วเช็คสินค้าค่ะ  ว่ามีครบจำนวนรึเปล่า สินค้าบางอย่างที่สามารถเอาออกมาวางขายได้เลย  เราก็จัดการเอาไปวางเลยค่ะ แล้วกล่องเปล่าๆที่เหลืออยู่เราก็ต้องทำให้มันแบนๆน่ะค่ะ  แล้วก็เอาออกไปทิ้งถังขยะ ข้างนอกร้าน ถังขยะที่นั่นมันใหญ่มากๆๆๆค่ะ  เค้าเรียกว่า dumpster  ใหญ่ขนาดที่ว่าถ้าตกลงไป เราคงปีนขึ้นมาไม่ได้อ่ะค่ะ  ทั้งใหญ่ทั้งสูงเลย   เวลาเราเอากล่องที่แบนๆแล้วออกไปทิ้ง เราก็จะเอามันใส่รถเข็นไปน่ะค่ะ  รถเข็นที่เหมือนอยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตน่ะค่ะ ^^   เราชอบออกไปทิ้งขยะเพราะว่ามันได้ออกไปนอกร้านอ่ะค่ะ  อยู่ในร้านมันน่าเบื่อ  งานก็เดิมๆ ออกไปสูดอากาศ  มองวิวข้างนอกดีกว่า  ถึงจะร้อนแดดเปรี้ยงๆก็เถอะ  ยอมดำค่ะ ไม่งั้นเซ็งมากๆๆๆ  อยู่แต่ในร้าน  เห็นแต่เสื้อผ้า - -" วันไหนที่ออกไปทิ้งขยะ  ถ้าเซ็งมาก  เราก็ร่อนกล่องค่ะ  เนื่องจาก dumpster นี่มันใหญ่มาก แล้วกล่องก็แบนแล้ว  เล่นร่อนกล่องได้สบายๆเลย  เหมือนร่อนจานบินน่ะค่ะ 555555 ทำแล้วสนุก  หายเบื่อไปได้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 19:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาปาดดดดดดดดดดดค่ะ ยังอยู่หรือเปล่าเอ่ย 55+ ตามอยู่เช่นเคยค่า จากคุณ : พราว - [ 16 พ.ย. 49 19:49:43 A:125.25.130.253 X: TicketID:115193 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เราชอบทำงานที่ร้านนี้ค่ะ  ร้านนี้มีอะไรให้ทำเยอะกว่าร้านเก่ามาก  เหมือนเราได้เรียนรู้ งานใหม่ๆเยอะขึ้นน่ะค่ะ  แล้วพอมีงานให้ทำ  มันก็ทำให้เราไม่เบื่อด้วย ^^  แต่บางทีที่ ไม่มีงาน  เราก็มีวิธีแก้เบื่อค่ะ  ฮิฮิ บางวันเราเบื่อๆ  ยืนอยู่หน้าห้องลองเสื้อแล้วไม่มีใครมาลอง  เราก็เดินไปพับเสื้อค่ะ ร้านนี้มีชั้นเดียว  แล้วก็พื้นที่กว้างมากๆ  เลยเดินไปได้ทั่วเลยค่ะ  ฮิฮิ  พับเสื้อนี่ดีนะคะ ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน 55555  เพราะมีงานทำ  พับเสื้อสนุกด้วยอ่ะค่ะ  อยู่เมืองไทยไม่ทำ ไปอยู่ต่างประเทศถึงชอบทำ  แปลกคนเนอะ  ^^" หลายๆคนอาจจะสงสัย  ว่าเสื้อมันมีให้พับเยอะนักหรือไง  คำตอบคือ  เยอะค่ะ มีเป็นร้อยลายเลยแหละ  พับๆวางซ้อนกันไว้เรียงตามไซส์   เวลาลูกค้ามาลอง ก็มาคลี่ๆเสื้อดูลาย  แล้วถ้าไม่ชอบก็วางขยุมๆไว้น่ะค่ะ  เละเทะไปหมด  แต่เราชอบนะ  แหะแหะ เพราะว่าเวลามันเละๆเราก็เดินไปพับมัน  พับเสร็จแล้ว  กองอื่นมันก็เละต่อ(เพราะคุณลูกค้า) เราก็ไปพับใหม่จนมันเรียบร้อยหมด หรือบางทีเบื่ออีกค่ะ  ก็ไปเอาเจ้า Windex กับกระดาษมาขัดกระจกในร้านให้ทั่วเลยค่ะ ฮิฮิ  เรามีเรื่องสารภาพเรื่องนึงค่ะ  เราเพิ่งรู้ว่าที่เมืองไทยมี Windex ด้วย  เพราะว่าอยู่บ้าน เราไม่เคยขัดกระจกอ่ะค่ะ  ไม่รู้ว่าเค้าใช้อะไรขัดกัน  พอไปที่นั่นถึงรู้ว่า Windex เนี่ยแหละเจ๋ง พี่สาวเรางงใหญ่เลยค่ะ  ที่เราไม่รู้จัก Windex มาก่อน 55555   คุณเมเนเจอร์ Kimmy appreciate มากค่ะเวลาเราขัดกระจก  เค้าบอกว่าเราช่างขยันเหลือเกิน  5555 ถ้าเบื่ออีก  เราก็ไปขัดห้องน้ำค่ะ 55555 เรากับพี่สาวช่วยกันขัด  พี่สาวสอนเราขัด ขัดไปก็คุยไป  ฮิฮิ   ตัวเราเองไม่อยากอยู่เฉยๆน่ะค่ะ  เพราะว่า Manager เราที่ชื่อ เจน   เค้าไม่อยากให้พวกเราอยู่เฉยๆ  เราก็โอเคค่ะ  ทำอะไรก็ได้  ให้ร้านมันดูดีขึ้น  ฮิฮิ บางวันเราเหมือนเป็นคนบ้าเลยค่ะ  เมื่อยจะแย่อยู่แล้ว  แบบเดินไปทำงานทั่วร้านเลยไงคะ แต่เราก็ยังขยับขาต่อค่ะ  ทำงานๆๆๆๆเข้าไป  เวลามันจะได้ผ่านไปเร็วๆ  อันนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ  ^___^ "Time always passes very fast when you have something to do."   ประโยคนี้เจนบอกเราค่ะ ...........เพราะฉะนั้น  เพื่อนๆที่จะไปก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆนะคะ  แป๊ปเดียวได้กลับบ้านแล้วค่ะ........... ปล. ขอแก้ประโยคนิดนึงค่ะ ^^" ปล. แก้ประโยคค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 20:01:56 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 19:59:42 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 19:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณพราว  ^^  ยังอยู่ค่ะ  ฮิฮิ  กำลังปั่นอยู่เลย  ตอนนี้เขียนแล้วมันส์ค่ะ  ไม่อยากหยุด 555 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ อีกเรื่องนึงที่เราชอบของร้านนี้คือ  ของกินค่ะ  แหะแหะ ที่ร้านนี้ข้างขวาเป็นร้านขายพิซซ่าร้านเล็กๆ  แต่รสชาติอร่อยอย่าบอกใครเลยค่ะ  แล้ว ส่วนทางด้านซ้าย ถ้าเดินไปซัก 2 นาทีก็จะเป็นร้านไอติมค่ะ  ฮิฮิ  สวรรค์แท้ๆเลย  ^o^ Manager เราทั้งสองคนใจดีค่ะ  เค้าให้เดินออกไปซื้อไอติมได้เวลาอยากกิน  ฮิฮิ แล้วเค้าก็ฝากเราซื้อด้วย  55  เราก็เดินไปแป๊ปเดียว  กลับมาก็ยืนกินไอติมอยู่หน้า ห้องลองเสื้อนั่นแหละค่ะ  อร่อยมากๆๆเลย ร้านไอติมเจ้านี้เราไปซื้อจนคุณป้าที่ร้านจำได้แล้วค่ะ  ฮิฮิ  เราได้บัตรสะสมแต้มของเค้าด้วยนะคะ เราไปซื้อบ่อย  ในร้านมีให้เลือกหลายรสค่ะ  รสที่เมืองไทยไม่มีที่นี่ก็มีค่ะ  อร่อยๆๆๆๆๆๆๆ เรา enjoy กับไอติมมากๆเลยค่ะ  กลับมาเลยพองเลย   ฮือออ  T__T  น้ำหนักยังไม่ลงเลยค่ะ ส่วนร้านพิซซ่าเนี่ย  เราก็ไปที่ร้านจนเค้าจำได้แล้วค่ะ^^  เราชอบสั่งอาหารของร้านเค้ามาทานบ่อยๆ เวลาเบื่ออาหารที่เพื่อนทำน่ะค่ะ  พวกแซนวิช  สลัด  breadsticks  อร่อยหมดเลยค่ะ  เลยเป็น ที่พึ่งพาของเรา  ฮิฮิ แล้วเนื่องจากว่า manager เราทั้งสองคนชอบทานน้ำอัดลม Dr.Pepper น่ะค่ะ  แล้วที่ร้านพิซซ่าก็มีขาย   พอหมดแก้วเราก็เดินกลับไปรีฟิลน้ำใหม่ได้ค่ะ  เราก็เลยได้เดินไปซื้อน้ำให้ manager ประจำเลย   รวมถึงเดินไปรีฟิลด้วยค่ะ  ไม่รู้ว่าคนขายจะเบื่อหน้ารึเปล่า  5555  ยัยนี่  มาเติมน้ำอยู่ได้  ขี้งก  :P ปล.  แก้ให้อ่านง่ายๆค่ะ ^^" แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 20:25:12 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 20:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มะกี้ข้างบนพูดถึงเรื่องรีฟิลน้ำ  เราก็ขอเล่าอะไรนิดนึงค่ะ  ^______^ น้ำที่ขายในอเมริกาส่วนใหญ่เป็นน้ำอัดลมทั้งนั้นเลยค่ะ  ถ้าแบบอยู่ในตู้ขาย  ขวดนึงก็ประมาณ 600 ml. คะ ราคาแต่ละตู้จะไม่เท่ากัน  1.25 หรือ 1.5 เหรียญโดยประมาณค่ะ  แต่ว่าถ้าแบบที่เราไปซื้อตามร้านทั่วๆไปนั้น เราสามารถเติมน้ำแข็งได้ด้วย  แก้วใหญ่ก็จะราคาประมาณ 2 เหรียญค่ะ เพื่อนๆอาจจะนึกว่าแพงนะคะ  แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ค่ะ  ไม่ว่าจะร้าน McDonald  ร้าน Taco Bell หรือว่า Wendy's และร้าน Fast Food อื่นๆ  จะมีน้ำอัดลมให้รีฟิลตลอดเลยค่ะ  เพราะฉะนั้น เจ้า 2 เหรียญหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยที่เราเสียไปนั้น  เติมน้ำให้คุ้มนะคะ ^^  รีฟิลได้ค่ะ ไม่มีใครว่าอะไร  ^_______^ ส่วนเรื่องน้ำเปล่านี่  ที่อเมริกาไม่นิยมดื่มกันค่ะ  เค้าชอบน้ำอัดลมกันมากกว่า  น้ำเปล่าถ้าไปซื้อตามตู้ ก็ราคาเท่าน้ำอัดลมค่ะ  แพงเนอะ ToT  ที่จริงน้ำเปล่าจากก๊อกก็ทานได้ค่ะ  แต่เราคนไทย  ไม่ชินเลย เราก็เลยมีคำแนะนำเรื่องซื้อน้ำเปล่าค่ะ  ฮิฮิ ไป WalMart นะคะ  แล้วเดินไปแผนกเครื่องดื่ม  เค้าจะมีน้ำเปล่าแพคๆขาย  ยี่ห้อที่เราซื้อประจำ และคิดว่าถูกที่สุดแล้วคือ Nestle Pure Life ค่ะ ^^  แพคนึงจะมี 24 ขวด  ขวดนึงก็ 500 ml. เราจำไม่ได้ค่ะว่าราคามันกี่เหรียญ  แต่เมื่อเอามาหารแล้วคิดเป็นเงินไทยแล้ว  ตกขวดละไม่ถึง 10 บาทค่ะ  ถูกมากๆๆเลย  เป็นน้ำยี่ห้อเดียวที่เราซื้อเลยล่ะค่ะ :) ...............ขอจบเรื่องของกินดื่มไว้เท่านี้ค่ะ ^^................ จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 20:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มาถึงตอนนี้  เราขอเล่าเรื่องการฝึกภาษาอังกฤษนะคะ ^^ เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนอยากไป  เพราะอยากฝึกภาษาค่ะ :) การทำงานในร้านวันละ 13 ชั่วโมง  ทำให้เราได้ประโยคภาษาอังกฤษใหม่ๆ มาเพิ่มขึ้นนิดหน่อยค่ะ  แต่ว่าส่วนใหญ่ก็ซ้ำๆกันทุกวันน่ะค่ะ  ตอบอะไรซ้ำๆ พูดประโยคซ้ำๆ  น่าเบื่อค่ะ ส่วนเรื่องการใช้คำศัพท์และการออกเสียงคำ  ก็ได้มามากขึ้นพอควรเลยค่ะ แต่ว่าตอนนี้อาจจะลืมไปแล้ว  5555  เราจะยกคำที่เราจำได้นะคะ -  restroom หรือ bathroom  จะเป็นคำที่เค้าใช้เรียกห้องน้ำกันค่ะ ตอนแรกเรางงค่ะที่ลูกค้ามาถามหา bathroom  คิดในใจว่านี่กะจะมา อาบน้ำกันที่ร้านก่อนไปอาบแดดเลยหรอไง - -" ลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านถามหาห้องน้ำกันบ่อยมากๆค่ะ  บางคนพอรู้ว่าห้องน้ำเสีย ก็เดินกลับไปเลยค่ะ  ของก็ไม่ซื้อ  5555 - คำว่า mirror  ที่นั่นเค้าออกเสียงว่า  เมียร์  ค่ะ   ตอนแรกเราฟังแล้วงงเลย ฝรั่งมาถามหาอะไรเมียๆ  ที่นี่ไม่มี๊.......  ตอนหลังถึงเข้าใจว่ามันคือกระจกค่ะ 555 - bathing suit หมายถึงชุดว่ายน้ำหรือไม่ก็พวกบิกินี่ค่ะ  เค้าไม่เรียกว่า swiming suit ตอนแรกเค้ามาถามหา bathing suit  เราก็นึกว่าเค้ามาถามหาชุดคลุมอาบน้ำค่ะ  - -" งงเลย  เลยตอบไปว่า  ไม่มี  55555  ที่เค้าเรียกว่า bathing suit  เราว่าคงมาจากการที่ เค้าใส่ไปอาบแดดมั้งคะ  ไม่ได้ใส่ไปว่ายน้ำ :P - mayonnaise ออกเสียง  แม๊นเนส  ออกเสียงแบบนี้จริงๆค่ะ  ไปออกเสียง  มา-ยอส-เนส เค้าไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ  ว่าเราจะเอาอะไร  เพราะฉะนั้นเราต้องกล้าที่จะกระแดะค่ะ  ฮิฮิ ฝึกไว้นะคะ  แม๊นเนส  ค่ะ     - salad  ออกเสียงว่า  แซแหลด(อาจออกเสียงได้กึ่งๆระหว่าง  "แซแหลด" กับ "แซหลัด" ค่ะ) ถ้าไปบอกเค้าว่าเอา สะ-หลัด เค้าคงแบบ Again,please ไปจนกว่าเราจะพูดถูกน่ะค่ะ 55555 เผอิญว่าก่อนหน้านี้ห้องไกลบ้านมีกระทู้แนะนำอันนึง  ที่พูดถึงเรื่องคำที่คนไทยมักจะออกเสียงผิด แล้วเราเข้าไปอ่านก่อนไปอเมริกาน่ะค่ะ  เราเลยไม่มีปัญหาเรื่องเจ้าแม๊นเนสกับแซแหลดน่ะค่ะ ^o^ เพื่อนๆลองไปหาอ่านเอานะคะ  เราว่าน่าจะยังอยู่ในคลังกระทู้เก่าค่ะ ฮิฮิ ตอนนี้เรานึกพวกคำออกเท่านี้เองค่ะ  ไว้ถ้าคิดออกอีกเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ  เรื่องพวกนี้ตลกดีค่ะ 555 ปล. แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 21:03:35 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 21:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตามมาดู เลิฟ จากคุณ : superchain - [ 16 พ.ย. 49 21:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เนื่องจากภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่แต่ละวันมันเดิมๆค่ะ  ไม่มีอะไรมากเลย เหมือนเป็น pattern ว่าลูกค้าถามอย่างนั้นก็ต้องตอบอย่างนี้ มันเลยเลยไม่ได้พัฒนาการพูดซักเท่าไหร่ค่ะ ^^" เราเลยใช้วิธีชวนลูกค้าคุยเอาค่ะ  ฮิฮิ  เวลาลูกค้ามาลองเสื้อผ้าเนี่ย เค้าจะก็พาครอบครัวมาด้วยค่ะ  คนที่นี่น่ารักค่ะ  มากันทั้งพ่อแม่ลูก บางทีลูกสาวมีลูกแล้ว  ก็ยังพาคุณพ่อคุณแม่มาเลยค่ะ  ดูอบอุ่น ไม่เหมือนที่เราคิดไว้เลยค่ะ  ^___^ ฮิฮิ  นอกเรื่องไปหน่อย ^^"  มาต่อค่ะ  เมื่อลูกค้าเข้าไปลองเสื้อ ก็จะเหลือคุณแฟน  เพื่อนหรือไม่ก็ครอบครัว  ยืนรออยู่ข้างหน้าค่ะ ก็อยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์ที่เรายืนอยู่แหละ  ฮิฮิ  เราก็เลยชวนคุยซะเลยค่ะ หรือไม่บางทีฝรั่งเค้าก็ชวนเราคุยเอง ขอยกตัวอย่างให้ฟังเท่าที่เราจำได้นะคะ  เริ่มจากที่เค้าถามเราบ่อยๆเลย -  เค้าถามเราว่า  ร้านนี้รอดมาจากพายุแคทรีนาได้ไงค่ะ  55555   เราจำแบบเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้แล้วว่าเค้าถามไง  แต่แปลมาได้แบบนี้ล่ะค่ะ ^^"  เราก็ไม่รู้จะตอบว่าไงค่ะ  เราก็บอกว่า เราเป็นนักเรียนที่มาทำงานช่วงปิดเทอมเฉยๆนะ  เค้าก็ชวนเราคุยค่ะ  ว่ามาจากไหน  บลาบลาบลา ส่วนข้างล่างนี่เราชวนเค้าคุยเองค่ะ ฮิฮิ - คุณลุงมารอคุณป้าลองบิกินี่  แล้วตอนนั้นเรากำลังเคี้ยวขนมเจลลี่บีนส์หนุบหนับๆอยู่ค่ะ เห็นคุณลุงไม่มีไรทำ  เราก็เลยยื่นขนมให้เค้าแล้วบอกเค้าว่า เรา : Do u want some? คุณลุงหยิบขนมไปดู nutrition fact ค่ะ  แล้วตอบว่า ลุง : Ummm...it contains a lot of sugar. เรา : Are u on diet? ลุง : Not really. I lost 30 lbs in 5 months. I eat low carb food right now. เรา : Is it Atkin's Diet? ลุง : No. It's South Beach Diet. บลาบลาบลา สรุปว่าวันนั้นเราชวนเค้าคุยเรื่องลดความอ้วนค่ะ 55555 คุยตั้งนานแน่ะ  จนป้าเค้าลองเสร็จ เค้าก็หันมายิ้มให้เราค่ะ  แล้วก็ไปจ่ายตังค์กัน  ^_____^ จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 21:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คุณsuperchain  ขอบคุณที่ตามมาดูค่ะ  ฮิฮิ  อยากบอกว่าหมายเลขสมาชิกของคุณ สวยมากๆๆเลยค่ะ  ฮิฮิ  ขอประมูลได้มั๊ยคะเนี่ย  ^o^ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หรืออีกตัวอย่างนึงค่ะ  วันนั้นเราเกิดอยากกินซี่โครงหมูย่างมากๆ  เลยไปถาม คุณลุงคนนึง ที่มารอคุณป้าลองบิกินี่ค่ะ  สถานการณ์เหมือนเดิมเลย ฮิฮิ เรา : Do u know where the best steakhouse in this town is? I want to have BBQ ribs for a dinner. ลุง : (ตอบมางึมงำๆๆ)  @#$%^%^%#$%%&*$#%&^*(!#$%$#^*)()&!!$%# เราฟังไม่ออกค่ะ 555555  ได้แต่พยักหน้า  อืมๆๆ แล้วก็ถามเรื่องอื่น  แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ปรากฏว่าวันนั้นเราฟังที่ลุงเค้าพูดรู้เรื่องน้อยมากๆค่ะ 555555 หรืออีกเหตุการณ์นึง  เป็นผู้ชายอายุ 30 กว่าๆ  มาซื้อกางเกงที่ร้านค่ะ  แล้วก็เข้าไปลอง พอเค้าออกมาก็ถามว่าเค้าดูใส่แล้วดูดีมั๊ย  เราก็บอกไปว่าดูดีค่ะ  เค้าก็ชวนเราคุยใหญ่เลยค่ะ เราก็คุยๆๆๆ  ถือว่าได้ฝึกภาษาละกัน  คุยนานมากๆ   ไปๆมาๆ ปรากฎว่าเค้าจะจีบเราค่ะ  55555  ถามว่าเราเลิกทำงานตอนกี่โมง  เราบอกไปว่า 5 ทุ่ม เค้าก็บอกว่า  ว้า...งั้นก็ไปดินเนอร์กันไม่ได้สิ  ว่าจะพาไปกินซีฟู๊ด  เราก็  เหอเหอเหอ  อยู่ในใจค่ะ ว่าชั้นไม่ไปด้วยหรอก 55555   เราเอาไปเล่าให้ manager ฟัง  เค้าก็อมยิ้มใหญ่เลยค่ะ  แล้วก็บอกว่า  วันหลังไม่อยากให้ใครมาจีบ ก็บอกไปเลยนะ  ว่าเรามีแฟนแล้ว   ฮิฮิ หลังจากนั้น 2 วันผู้ชายคนนั้นก็กลับมาอีกค่ะ >.<  เราเลยไปหลบอยู่ตรงเคาท์เตอร์เช็คเงิน  5555 manager ช่วยซ่อนเราเต็มที่เลยค่ะ  หลังจากนั้นเค้าก็ไม่โผล่มาที่ร้านอีกเลย  5555 .............ที่เล่ามาทั้งหมดเนี่ย  เราอยากบอกว่า  ถ้าอยากไปฝึกภาษาก็ต้องขวนขวายเอาค่ะ  ชวนลูกค้าคุย ชวนเพื่อนร่วมงานคุย  แล้วภาษามันจะมาเอง  เพราะไม่งั้นกลับไปบ้านเจอเพื่อนไทยก็คุยกันแต่คนไทย ภาษาอังกฤษก็ไม่กระเตื้องขึ้นหรอกค่ะ.............. ******  โอกาสที่เราจะได้ฝึกภาษาอังกฤษอยู่ตรงหน้าแล้ว  อย่าปล่อยให้พลาดไปนะคะ   ****** ปล. แก้เขียนผิดค่ะ ^^" ปล. แก้คำผิดอีกค่ะ T-T แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 08:17:33 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 49 21:50:10 จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 21:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 91 วันนี้ขอลาแต่เพียงเท่านี้ค่ะ  พรุ่งนี้จะมาต่อนะคะ บ้ายบายค่ะ ^^ จากคุณ : ลูกสน - [ 16 พ.ย. 49 21:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 92 หงะ มาทันซะที พอดีเพิ่งเปิดมาอ่านเจอ เหอๆ อ่านแล้วสนุกดี ช้อบชอบ กำลังจะไปปีหน้าเหมือนกัน ไปฟลอริด้า อ่า เห็นมีคนข้างบนๆ ไปฟลอริดา เหมือนกันด้วย สงสัยจะไปที่เดียวกันรึเปล่าหนอออ หิหิ จากคุณ : IzE-KunG - [ 16 พ.ย. 49 22:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อ่านกระทู้มาหลายวันแล้ว แต่ไม่เคยคอมเม้นสักที เพราะว่าไม่ได้มี user ในนี้ ก็เลยสมัครซะ (อารมณ์อยากคอมเม้นมาก) คุณลูกสน เล่าสนุกมากเลย แล้วยังแทรกเกร็ดความรู้ระหว่างทำงานด้วย ชอบๆๆ เล่าละเอียดๆแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ ทุกขั้นตอน เป็นกำลังใจให้อยู่ค่ะ เข้ามาอ่านทุกวันเลย ก่อนและหลังเรียน 55 ไม่ได้เวอร์นะ จริงๆ เข้ามาทีก็ update ตลอด รวดเร็วดี เราจะไป summer 07 นี้อ่ะค่ะ Six Flags , NJ มีไรแนะนำมั้ยคะ จากคุณ : shamdal (shamdal) - [ 16 พ.ย. 49 23:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมไปล้างจานครับ ติดตามครับ จากคุณ : Spa si ba (V_Accy) - [ 17 พ.ย. 49 01:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เมื่อเราเริ่มชินกับงาน  แล้วมองงานต่างๆว่าเป็นเรื่องสนุกแล้ว  เวลามัน ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วค่ะ ทุกๆวันที่ไปทำงาน  ช่วงเช้าเราจะ count down ว่าเมื่อไหร่จะ 5 ทุ่มนะ แต่พอช่วงเย็นๆเราไม่ count down แล้วค่ะ  เวลามันผ่านไปเร็วมากๆ เดินๆไปรอบร้าน  ทำนู่นทำนี่  แป๊ปเดียวก็ถึงเวลาดูดฝุ่นแล้วค่ะ   ช่วงเวลาดูดฝุ่นก็คือเวลาก่อนปิดร้านน่ะค่ะ ^^ เวลาที่ได้กลับมาบ้านก็เป็นเวลาที่เรามีความสุขมากๆเลยค่ะ  จากที่เคยรู้สึกว่า บ้านเป็นแค่ที่นอน  แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่า  บ้านเป็นที่ที่ให้มิตรภาพกับเราค่ะ อย่างที่เล่าไปข้างบนค่ะ  ว่าเมื่อกลับมาแล้ว  เรากับพี่สาวชอบไปนอนเล่นอยู่ที่ บ้านอีกฝั่งนึง  ก็เพราะว่าอีกฝั่งมีแต่เพื่อนๆพี่ๆที่สนิทกันค่ะ  ก็น้องกบ  มีเจ แล้วก็มีอีกประมาณ 7 คนได้ค่ะ  ไม่น่าเชื่อค่ะ  ว่าเราจะสนิทกันได้  เพราะเมื่อตอน ที่เกิดปัญหากัน  เราไม่เคยเข้าไปในบ้านฝั่งพวกเค้าเลยค่ะ  แต่เราว่าเวลาเป็นตัว ที่ทำให้เรารู้จักตัวตนของแต่ละคนดีขึ้น  แล้วมันก็กลายมาเป็นสนิทกันค่ะ ^^ พี่ๆทุกคนนิสัยดีค่ะ  แล้วก็ตลกด้วย  ฮิฮิ  เล่าเรื่องตลกกันทุกคืนเลย  พวกเรา มักจะเล่าเรื่องที่เกิดที่ร้านในแต่ละวันค่ะ  ว่าลูกค้าเป็นไง  เมเนเจอร์เป็นไง  มันก็มี เรื่องขำๆเยอะค่ะ  ได้หัวเราะกันทั้งคืนเลยล่ะ  ^_____^ บางวันเราก็ทำอาหารทานกันตอนกลางคืนค่ะ  ทำสเต็คบ้าง  ทำง่ายๆค่ะ  ไปซื้อของ ที่ WalMart แล้วหยิบเนื้อกับผงหมักสเต็คมาค่ะ  แล้วก็ผสมๆกัน  เอาไปย่าง ไม่ก็ทอด  แล้วก็ทานได้แล้วค่ะ  ทานกันหลายๆคนมันมักจะอร่อยเสมอเลย  ฮิฮิ บางวันก็ทำมาม่าค่ะ  หม้อใหญ่ๆ  พอเอามาวางบนโต๊ะแล้วหมดภายในพริบตาเลยค่ะ ^^ หรือไม่ก็ทำไข่เจียว  พี่สาวเราทำไข่เจียวอร่อยค่ะ  ทุกคนเรียกร้องไข่เจียวกันบ่อยมาก พี่สาวเราเลยเป็นเหมือนพี่เลี้ยงเลยค่ะ 555  ต้องคอยทำอาหารให้เด็กๆกิน บางวันพวกเราทั้งหมดก็ย้ายที่ทำการไปเป็นริมทะเลค่ะ ^o^  ริมทะเลตอนกลางคืน อากาศเย็นสบายมากๆค่ะ  พวกเราเอาเสื่อไปปูแล้วนั่งคุยกัน  นอนมองดาว  เป็นช่วงเวลา ที่ผ่อนคลายสุดๆเลยค่ะ  ริมทะเลเป็นสถานที่ที่ทำให้เราสบายกายและสบายใจจริงๆค่ะ  ^___^ เราเชื่อว่า ฟ้าหลังฝน ต้องสดใสอย่างแน่นอนค่ะ  หลังจากที่ผ่านปัญหาต่างๆมาแล้ว จะต้องมีสิ่งดีๆรอเราอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน  เหมือนที่เกิดขึ้นกับตัวเรา   เพื่อนๆก็เหมือนกัน  ถ้าเกิดปัญหาก็อย่างเพิ่งท้อใจนะคะ  พยายามแก้ปัญหาด้วยเหตุผล  และคิดไว้เสมอ ว่าแต่ละคนมีมุมมองและความคิดที่ต่างกัน  รับฟังซึ่งกันและกัน  มันจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นค่ะ  :) จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 08:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณIzE-KunG  ขอบคุณที่ตามอ่านค่ะ ^^  ลูกสนเขียนยาวมากๆเลย อ่านจนเมื่อยตาเลยป่ะคะเนี่ย :) คุณshamdal   ลูกสนดีใจจังเลยค่ะที่คุณshamdal อุตส่าห์สมัครอมยิ้ม เพื่อมาคอมเม้นต์  ^^  ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆเลยนะคะ ส่วนเรื่อง 6 Flags รู้สึกว่าเพื่อนเราไปมาเหมือนกันค่ะ  เดี๋ยวเราถามให้นะคะ :) คุณSpa si ba ลูกสนก็ไปเจอเพื่อนคนไทยที่นั่นที่ทำล้างจานเหมือนกันค่ะ ฮิฮิ อยู่แถวๆร้านที่ลูกสนทำงานเลย  ได้ ชม. ละ 8 เหรียญค่ะ ^^ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอค่ะ  ไม่ทันที่เราจะรู้ตัว การทำงานสัปดาห์สุดท้ายก็มาถึงซะแล้ว  นั่นก็หมายความว่าเราจะได้อยู่ กับเพื่อนๆอีกแค่สัปดาห์เดียวน่ะซิ  T-T ใครที่คิดว่าสัปดาห์สุดท้ายจะขยันๆทำงานล่ะก็.....อยากบอกว่าตรงข้ามเลยค่ะ 555 เพื่อนๆทุกคนรวมทั้งเราออกอาการเฉื่อยมากๆค่ะ  ไม่อยากทำงานแล้ว   ตอนนั้นคิดถึงแต่เรื่องไปเที่ยวค่ะ  เราตัดสินใจว่าจะไปเที่ยว Orlando กับ LA ไปกับน้องกบแล้วก็พี่ผู้หญิงอีกคนค่ะ  รวมพี่สาวเราด้วยก็เป็น 4 คน พวกพี่ๆที่สนิทกันก็จะไป Orlando เหมือนกันค่ะ  พวกเรานัดกันว่าพอไปถึง Orlando แล้วเราไปเที่ยวด้วยกันนะ  ก็วาดภาพตอนไปเที่ยวซะสนุกสนานเลย งานการมันไม่อยากทำแล้วล่ะค่ะ 5555 วันสุดท้ายที่เราทำงานเนี่ย  เราไปทำแค่ครึ่งวันค่ะ ฮิฮิ  เพราะmanager เค้ารู้ว่าเรา ต้องกลับบ้านมาจัดกระเป๋า  ทำครึ่งวันสบายสุดๆค่ะ  ทำแบบล่องลอยๆๆๆ เอากระดาษปากกาออกมาเขียนลิสท์ของที่อยากซื้อ  เอาออกมาเขียนความรู้สึก ที่ได้มาทำงานที่นี่  ^^ ฝรั่งมาเห็นกระดาษที่เราเขียนภาษาไทยแล้วมองกันใหญ่เลยค่ะ คงงง  ว่ายัยนี่เขียนคาถาแม่มดอยู่รึเปล่า  55555 พอ 5 ทุ่มปุ๊ป  ก็จบค่ะ................เย้ๆๆๆๆๆๆ  เราเป็นอิสระแล้ว  ฮ่าฮ่า District Manager ขับ Lexus มารับเราไปถ่ายรูปที่ร้านใหญ่ค่ะ  ฮิฮิ  เกิดมา เพิ่งเคยได้นั่ง Lexus ก็วันนั้นแหละ  5555  นั่งแป๊ปเดียวเองค่ะ - -" เพื่อนๆเราเกือบทุกคนอยู่ที่นั่นหมดแล้ว  พร้อมทั้งลูกจ้างของร้านใหญ่ทุกคนเลย กำลังถ่ายรูปกันใหญ่^^  เราก็เข้าไปถ่ายรูปด้วยค่ะ  ถ่ายกับฝรั่งที่ทำงานในร้านทุกคน เลยค่ะ ^_____^  ถ่ายกันไปไม่รู้กี่สิบรูป  แชะๆๆๆๆไปหมด  เราอยากเก็บความทรงจำ ไว้ให้มากที่สุดน่ะค่ะ :) การร่ำลาใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ  ฝรั่งผู้หญิงคนนึงร้องไห้เลยค่ะ ToT  เค้าสนิทกับเรา มากๆเลย  พวกเราเด็กไทยมาช่วยงานเค้าไว้เยอะ  แล้วพวกเราก็ตลกด้วยค่ะ  เลยฮาไงคะ เค้าบอกว่าพอพวกเราไปแล้ว  เค้าต้องคิดถึงพวกเรามากแน่ๆค่ะ   แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเสมอค่ะ ................เอาเป็นว่าตอนนี้  เราจะเตรียมตัวไปเที่ยวแล้วนะคะ  ฮิฮิ................. จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 09:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เพิ่งเข้ามาอ่านคะ ยาวมากๆ ตอนแรกว่าจะแวะมาอ่านใหม่อีกรอบ แต่เรื่องให้น่าติดตามมากค่ะ เลยอ่านรวดเดียวจบเลย ยังไงจะมารออ่านอยู่เรื่อยๆนะคะ กำลังจะไปปีหน้าคะ ไป Mc ที่ wyoming ยังกังวลเรื่องตั๋วเครื่องบินเลยคะ เพราะเช็คดูๆแล้วแพงมากๆ จากคุณ : cinnamon gum - [ 17 พ.ย. 49 13:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มาอ่านต่อค่ะ จะไปเที่ยวแล้วก็แสดงว่าเรื่องจะจบแล้วสิคะเนี่ย อ่านไปเรื่อยๆสนุก เพลินดีค่ะ ไม่อยากให้จบเลยแฮะ ^^' จากคุณ : ก้านหญ้า * - [ 17 พ.ย. 49 14:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ยังตามอยู่ น้องสน...อิอิ จากคุณ : amited - [ 17 พ.ย. 49 14:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ตามมาอ่านต่อ สนุกดี ^^ แต่ตอนสุดท้ายมีแอบเศร้านะเนี่ย เวลาอยู่ด้วยกันนานๆแล้ววันหนึ่งก็ต้องร่ำลา มันก็ทำใจลำบากเนาะ T_T ว่าแต่ กว่าจะเลิกงานก็ห้าทุ่ม กลับถึงบ้านแล้วยังมีเวลาสังสรรค์กันอีก คุณลูกสนคงไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่แน่ๆเลย กลับมาไม่ผอมแย่หรอครับ ^^ เพิ่มเติม: อ๊ะ... ที่ 100 พอดีเลยแฮะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 15:22:50 จากคุณ : มาแจมแมน - [ 17 พ.ย. 49 15:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 คุณcinnamon gum  ^^ชื่อน่าทานจังเลยค่ะ  ขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับกำลังใจ ส่วนเรื่องตั๋ว  ลูกสนว่าถ้าซื้อกับทางบริษัทได้ก็ดีค่ะ  เพราะอย่างน้อยเราก็มีเพื่อนคนอื่น ไปไหนจะได้ไปด้วยกันค่ะ  แต่ก็มีนะคะ...เพื่อนพี่สาวเราซื้อเอาเองกับข้างนอก   ได้ราคาถูกกว่าซื้อกับบริษัทเยอะเลยค่ะ ^^ คุณก้านหญ้า *   ^____^  ตามอ่านตลอดเคย  ลูกสนดีใจจังค่ะ  ที่มีคนไม่อยากให้เรื่องจบ ความจริงแล้วรายละเอียดที่ว่าจะเขียนมีเยอะกว่านี้อีกค่ะ แต่มันเป็นเรื่องการใช้ชีวิตในบ้าน ไม่เกี่ยวกับงานเท่าไหร่  ลูกสนเลยไม่ได้เล่าน่ะค่ะ ^^" พี่amited  ^o^  ลูกสนว่าจะเขียนให้จบไม่เกินวันอาทิตย์ค่ะ  รออีกแป๊ปเดียวนะคะ เดี๋ยวก็จบแล้วค่ะ :) คุณมาแจมแมน  กลับมาอ้วนค่ะ ToT เพราะว่ากินเยอะ 5555555555 ไปทั้งทีไม่กินได้ไง  ต้องลองให้หมดค่ะ  ฮิฮฺ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ก่อนเล่าเรื่องจะไปเที่ยว  เราเพิ่งรู้ว่าเล่าข้ามเรื่องสำคัญไปเรื่องนึงค่ะ^^" เรื่องการติดต่อกลับมาหาคนที่ไทยค่ะ ^^ ก่อนไปอเมริกา  เพื่อนๆไปหาซื้อบัตรโทรศัพท์ทางไกลของ CAT นะคะ  ใบนึงราคา 800 บาทค่ะ  หาซื้อได้ที่องค์การโทรศัพท์  จะมี 2 แบบ คือแบบโทรเข้ากรุงเทพฯ และแบบโทรเข้าต่างจังหวัดค่ะ ใครที่คิดจะโทรกลับมาที่เมืองไทย  โดยโทรเข้าเบอร์มือถือ  เราแนะนำให้ซื้อ CAT แบบที่โทรเข้าต่างจังหวัดค่ะ  เพราะราคาที่โทรเข้ามือถือจะถูกกว่าแบบ CAT แบบโทร เข้ากรุงเทพฯ  ส่วนใครที่คิดจะโทรหาคนที่ไทยโดยโทรเข้าเบอร์บ้าน  ก็ซื้อ CAT แบบโทรเข้ากรุงเทพนะคะ ^^   หลายๆคนเอา CAT ไปหลายใบมากๆค่ะ  ส่วนเราเอาไป 3 ใบเองค่ะ  ตอนแรกคิดว่าไม่พอ แหงๆเลย  แต่เอาเข้าจริงๆเราใช้ไปแค่ใบเดียวเองค่ะ 5555  อีกใบพี่สาวใช้  แล้วอีกใบ ก็เอาให้น้องกบใช้  เราโทรกลับหาที่บ้านแค่ช่วงแรกๆเองค่ะ  หลังจากนั้นก็คุยผ่าน MSN กับน้องสาวเอาค่ะ (คอสต้าเอาอินเตอร์เนทมาให้ใช้ตอน 2 สัปดาห์หลังจากที่พวกเราเข้าบ้านค่ะ) แม่เราจะคอยบอกน้องสาวให้ออนไลน์ MSN ไว้ 2 ทุ่มค่ะ  เพราะช่วงนั้นที่อเมริกาจะเช้า ก่อนเราไปทำงานเราก็มาออนไลน์ค่ะ  แล้วก็เจอคุณน้องสาวออนไลน์อยู่  ก็คุยกัน ถามว่าเป็นไงมั่งเธอ  ลูกชาย(คุณหมา)ของชั้นเป็นไงมั่ง  บางทีลูกชายเราก็เห่าส่งเสียง ความคิดถึงข้ามทวีปมาหาเราด้วยล่ะค่ะ ^____^  น่ารักเนอะ  ฮิฮิ แม่ก็โทรมาหาเราเหมือนกันตอนช่วงเช้าๆที่เรายังนอนอยู่ค่ะ 5555  แม่ไปซื้อบัตรมา ตอนโทรมาเสียงเราก็งัวเงียๆ  เลยคุยกันแป๊ปเดียว  เพราะเราคุยไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ 555 แม่เป็นคนที่คอยให้กำลังใจเราตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นเลยค่ะ  ช่วงแรกๆที่เราโทรกลับไปบ้าน ก็มีบ่นๆๆๆๆว่างานมันน่าเบื่อ  จะแย่อยู่แล้ว  เค้าใช้แรงงานเด็ก  บลาบลาบลา  แม่จะคอย บอกว่า  อดทนนะลูก  แม่เป็นกำลังใจให้  ไม่ต้องทำงานหนัก  เรื่องเงินช่างมันเถอะ ทำให้เรารู้ว่า  แม่เค้าเป็นห่วงเรามากๆค่ะ  ^_____^ ส่วนพ่อ  เราก็โทรหาช่วงแรกๆของการทำงานเหมือนกันค่ะ  บอกพ่อว่าไม่ไหวแล้วนะ  บลาๆๆๆ พ่อบอกว่า  ทำไปซักพัก  เดี๋ยวก็ชินเอง  แล้วก็บอกว่าเราได้เงินเยอะจัง  วันละ 100 เหรียญแน่ะ 555 พ่อบอกว่าเก็บตังค์กลับมาซื้อ laptop ละกันนะ  ปลายปีนี้เดี๋ยวมันจะลดราคาอีกละ  ฮิฮิ พอดีว่าก่อนไปเราบอกพ่อว่าเราไปทำงานแล้วจะเก็บตังค์มาซื้อ laptop น่ะค่ะ ^^ ..............คราวนี้จะพาเตรียมตัวไปเที่ยวจริงๆแล้วนะคะ  ^^ ............... ปล. เพิ่มข้อความค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 16:48:30 จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 16:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ทุกๆคนที่ไปโครงการ W&T เนี่ย  ก่อนไปต้องเตรียมโปรแกรมไว้แล้วใช่มั๊ยคะ ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี  อยู่กี่คืนดี  มีสถานที่ให้หัวใจอยู่แล้ว  ฮิฮิ เราเองก่อนไปเนี่ย  ก็ตกลงกับพี่สาวค่ะ  ว่าจะไป New York นะ  เพราะว่า เพื่อนพี่สาวเรามาเล่าว่าต้องไปให้ได้นะ  museum ที่นั่นสวยมาก   central ปาร์คก็สวยๆๆๆ  ต้องไปให้ได้นะ  แล้วก็มีที่ช้อปคือ Time Square กับ Fifth Avenue แค่ฟังก็อยากไปแล้วค่ะ  จะเราลอยไปถึง NY แล้วตอนนั้น  ไม่ได้คิดเรื่องงานเลย ตัวเราเองอยากไปเที่ยวอยู่แล้วน่ะค่ะ  ฮิฮิ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว  เราไม่ได้ไป NY หรอกค่ะ  เราไป Orlando กับ L.A. แทน ไปกับพี่สาว  น้องกบแล้วก็พี่ผู้หญิงอีกคนนึง   ที่เราต้องเปลี่ยนสถานที่ที่จะไปเพราะว่าเราจองที่พักใน NY ไม่ได้ค่ะ  เราจองผ่านอินเตอร์เนต   แต่ที่พักส่วนใหญ่มันเต็มหมดเลยค่ะ  ToT  ส่วนที่พักอื่นๆเราก็กลัวว่าจะไปไม่ถูก  แล้วถ้าไปกับพี่สาว แค่ 2 คนมันก็อาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ค่ะ  เห็นเค้าบอกว่า NY เป็นเมืองที่อันตรายเหมือนกัน  T-T เราก็เลยตกลงจะไปกับน้องกบค่ะ  ฮิฮิ  แต่ว่าการเปลี่ยนที่ไปเที่ยวมันทำให้เราเสียเงินมากขึ้นอีกค่ะ T_T เนื่องจากว่าตอนแรก  เรากับพี่สาวจองตั๋วแบบที่จะไปขึ้นเครื่องบินที่ NY เพื่อกลับเมืองไทย แต่พอเปลี่ยนที่แล้ว  เราเลยต้องเปลี่ยนเป็นแบบขึ้นเครื่องจาก L.A. เพื่อกลับไทยแทนค่ะ ซึ่งเราต้องเสียค่าเปลี่ยนตั๋วถึง 100 เหรียญ T-T  ตอนนั้นเรตมัน 38 มั้งคะ แต่พี่ที่เอเจนซี่ก็คิด 4000 ไม่ลดราคาเลยค่ะ T_____T เราต้องโทรไปบอกเอเจนซี่ที่ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เราที่ไทยค่ะ(ไม่ใช่บริษัท W&T นะคะ)   แล้วก็ฝากคนที่ไทยจ่ายเงิน  เรายังโชคดีหน่อยค่ะ  ที่น้องกบเป็นคนโทรไปบอกเปลี่ยนให้ แล้วน้องกบเนี่ย  เธอก็โทรไปเปลี่ยนให้คนอื่นในบ้านหลายคนแล้วค่ะ  ของเราเลยเสียค่า เปลี่ยน 100 เหรียญ   ตอนแรกเค้าจะเรียกตั้ง 250 เหรียญแน่ะค่ะ  แพงโหดมากๆๆๆ  เพื่อนที่ทำงานล้างจาน ที่เมืองเดียวกับเราโดนไป 250 เหรียญ  ซวยสุดๆค่ะ T-T ****เพื่อนๆที่จะไปเตรียมแผนการเที่ยวให้ดีๆนะคะ  อย่าไปเปลี่ยนเหมือนเรา  ไม่งั้นเสียเงินโดยไม่จำเป็นเลยค่ะ****   ปล. เพิ่มเติมข้อความค่ะ ปล. จัดเรียงข้อความค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 17:27:49 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 17:26:46 จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 17:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 103 กลับมาเรื่องเตรียมไปเที่ยวต่อดีกว่าค่ะ  ^^ เราจัดกระเป๋าโดยมีน้องกบกับพี่อีกคน(ขอเรียกว่า พี่นุส นะคะ)คอยช่วยค่ะ เพราะว่าเราจัดกระเป๋าไม่ค่อยเก่ง  สองคนนั้นเค้ารู้จักใช้พื้นที่มากๆค่ะ ช่วยให้เราสามารถปิดกระเป๋า 2 ใบลงไปได้  ฮิฮิ พอจัดกระเป๋าเสร็จก็ต้องเอาเช็คเงินที่ได้จากการทำงานไปขึ้นค่ะ พอดีเราได้เช็คใบสุดท้ายตอนวันที่ทำงานสุดท้ายเสร็จค่ะ  แล้วมีเช็คใบอื่น ที่ยังไม่ได้เอาไปขึ้นอีก 3 ใบ  เลยเอาไปขึ้นทีเดียวให้หมดเลย  ฮิฮิ จะได้เอาไปช้อปละ การเอาเช็คไปขึ้นใช้ verb ว่า cash ค่ะ  ไปถึงธนาคารก็เอาเช็คให้เค้า  แล้วก็ บอกว่า cash,please  ค่ะ  ตอนแรกเราไม่รู้หรอกว่าต้องพูดไง  ฮิฮิ เจ้าหน้าที่ที่ธนาคารเค้าบอกค่ะ  :) การเอาเช็คไปขึ้นเงินต้องเอา passport ไปด้วยค่ะ  แล้วก็หลักฐานอะไรอีกอย่างก็ได้ ที่ยืนยันว่า  เราคือคนๆเดียวกับใน passport  เราใช้ SSC เอาค่ะ ^^ เช็คที่เอาไปขึ้น  เราได้มาเป็นเงินสดหมดเลยค่ะ  เพราะว่าเราไม่ได้เปิด account ไว้ที่นั่น ถ้าใครต้องการซื้อ traveller cheque  ก็ต้องเปิด accountไว้ที่นั่นด้วยนะคะ เราขอเล่าเรื่อง traveller cheque หน่อยละกันค่ะ traveller check  คือ  การที่เราเอาเงินที่เรามีให้เค้าใส่เป็นเช็คให้น่ะค่ะ  แล้วเราก็สามารถ ถือเช็คนี้ไปที่ไหนต่อไหนได้  ทำหายก็ไม่มีใครเอาไปใช้ได้ค่ะ  เหมาะมากๆกับการเอาไปเที่ยว traveller cheque สามารถเอามาขึ้นเป็นเงินบาทได้ที่ไทยด้วยค่ะ ^^   พี่ที่เรารู้จักเล่าให้ฟังว่าเพื่อนเค้าไปซื้อของที่ร้าน  แล้วไม่มีเงินสด  ก็ส่ง traveller cheque ให้ แทนเงินเลยค่ะ  ทางร้านก็ทอนเช็คด้วยเงินสดด้วย  เห็นบอกว่าแค่สลักหลังเช็คให้ทางร้านเอาไปขึ้นเงิน เท่านี้ก็เอาไปจ่ายได้เหมือนเงินสดแล้วค่ะ ^o^  แต่เราไม่รู้นะคะว่าทุกร้านเค้ารับรึเปล่า ^^" ทางที่ง่ายที่สุด  ใครที่คิดจะซื้อ traveller cheque กลับเมืองไทย  ก็ให้ไปเปิด account ไว้ ที่ธนาคารที่นั่นนะคะ  แล้วก็ถอนออกมาเป็นเงินสดจำนวนเท่าที่เราคิดว่าจะใช้ตอนไปเที่ยวน่ะค่ะ แล้วที่เหลือใน account ก็ให้ทางธนาคารเอาเข้า traveller cheque ไปเลยค่ะ ปล. แก้คำสะกดผิดค่ะ ^^" แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 12:05:07 จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 17:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ปูเสื่อรอฟัง ไม่ไปไหนแล้ว เป็นกำลังใจให้คะ อย่าเพิ่งเหนื่อยซะก่อน มีคนรออ่านเยอะแยะเลยคะ จากคุณ : cinnamon gum - [ 17 พ.ย. 49 18:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 105 มาถึงตอนนี้แล้ว....เราก็ขอเปิดเผยรายได้เลยละกันค่ะ  ฮิฮิ คิดว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่อยากรู้แน่ๆเลย  ^^ เราได้เงินจากการทำงานทั้งหมดประมาณ 57xx เหรียญค่ะ(ชั่วโมงนึงเราได้ 8 เหรียญ)   แต่ต้องหักค่าบ้านแล้วก็ค่า move ออกจากบ้านอีก 50 เหรียญ....ไม่รู้จะเก็บค่า move out ไปทำไม ไอ้คอสต้าหน้าเลือด  แล้วก็หักภาษีจากรายได้ด้วย  ไปๆมาๆก็เหลือแค่ 43xx เหรียญค่ะ หายไปเยอะเลยเนอะ ToT  แต่ว่า tax เราสามารถเรียกคืนได้  เมื่อกลับมาเมืองไทยค่ะ :) 43xx นี่ไม่ใช่ที่เราเหลือเอาไปเที่ยวหมดหรอกค่ะ  พอดีว่าเราชอบกิน  ฮิฮิ  แล้วก็ช้อป ไปแล้วบ้างตอนอยู่ที่นี่  มันก็เหลือประมาณ  3700 ค่ะ  แหะแหะ  หายไปไหนเนี่ย สงสัยค่ากินเยอะน่ะค่ะ  55555 เงินที่เหลือนี่  เราเอาไปจ่ายค่า Package Tour(เครื่องบิน + โรงแรม) ที่จะไป Orlando 200 เหรียญค่ะ  สรุปว่าก็เหลือเงินไปช้อปประมาณ 3500 เหรียญค่ะ อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นค่ะ  ว่าเงิน 6000  5000 เนี่ย  เราหาได้  คนอื่นก็หาได้ค่ะ เวลามีคนมาบอกว่าได้เงินเท่านี้นี่  อย่าลืมถาม Net Pay นะคะ  พวกคนที่มาแนะนำส่วนใหญ่ ที่บอกว่าได้จำนวนเงินเยอะๆนี่  เราว่าเค้าบอกแค่รายได้รวมแต่ยังไม่ได้หักค่าอื่นๆน่ะค่ะ ไหนๆก็พูดเรื่องนี้แล้ว  ใครที่ไปแล้วหวังว่าจะได้เงินกลับมาเยอะๆล่ะก็  เราว่าทางที่ดี อย่าหวังอะไรค่ะ  เพราะบางคนไม่ได้มีงานทำหลายๆชั่วโมงนะคะ  บางคนก็หา second job  ไม่ได้ เด็กที่อยากทำ second job มีเยอะค่ะ  ก็แย่งงานกัน  บางที่เค้ามองว่าเรามาทำงานก็แป๊ปเดียว   เค้าก็ไม่รับ  เค้าจะรับคนที่จะทำงานกับเค้าไปนานๆค่ะ บางคนที่ตอนแรกคิดว่าจะทำงานหลายๆงานเก็บเงิน  ก็เหนื่อยจากงานประจำ  แล้วไม่ อยากทำก็มีค่ะ  แล้วแต่ความอดทนของแต่ละคน   เพราะฉะนั้นเราอยากบอกว่า ............อย่าไปคาดหวังเรื่องของเงินมากค่ะ  สิ่งอื่นที่เราได้รับมีค่ามากกว่าเงินอีกค่ะ............. จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 20:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณcinnamon gum  ลูกสนจะพยายามเอาลงให้เร็วที่สุดนะคะ ^^" ตอนนี้ความจำมันเข้ามาเยอะไปหมดเลยค่ะ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- พูดถึงสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินเนี่ย   ง่ายๆเลยก็คือ priceless experience ค่ะ ลูกน้องของคอสต้าคนนึง  เค้าเป็นคนพาเราไปทำ SSC เราก็คุยกับเค้าค่ะ เค้าก็เป็นคนยูเครน  สำเนียงก็รัสเซียๆค่ะ  ตลกมากๆๆเลย  เค้าจะออกเสียงตัว ร ชัดมากค่ะ เหมือนลิ้นมันพันๆกันเลย  เรายกตัวอย่างให้ดูดีกว่า ฮิฮิ - Good morning everybody  เค้าออกเสียงว่า  กุ๊ด-มอร์นิ่ง-เอฟริ่-บร้ะดิ - bring your passport ออกเสียงว่า  บริ๊ง-ยัวร์-พัส-ปรอด - I try ออกเสียงว่า  ไอ-ตร๊าย  ไอ-ตราย    (ขำมากๆค่ะ) - Alabama ออกเสียงว่า  อะ-ร่ะ-บ่ะ-ม่ะ แล้วก็ คำว่า priceless experience นี่ล่ะค่ะ  ที่เค้าเป็นคนบอกเราเอง  เราคุยกับเค้า ว่าเราไม่คิดมาก่อน  ว่าต้องมาอยู่ที่ Alabama  เค้าก็บอกว่า  เค้าเข้าใจ  แต่เค้าก็บอกว่า เราจะได้ priceless experience กลับไปค่ะ  เค้าออกเสียงว่า ไปร๊-เลส-เอ๊กซ์-ปี๊-เรี๊ยน   ค่ะ  555555555  เราเอาคำนี้มาพูดจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ แล้วมันก็จริง  ว่าสิ่งที่เราได้มัน  ไปร๊เลส  มากๆเลยค่ะ  ไม่ว่าจะได้เรียนรู้การทำงาน ได้มาเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  ได้เรียนรู้การอยู่กับคนอื่น  และที่สำคัญคือ เราได้เพื่อนกลับมาเยอะแยะเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเพื่อนไทยหรือเพื่อนฝรั่ง  ^____^ สิ่งเหล่านี้ล่ะค่ะ  ที่มันมีค่ามากกว่าเงิน  แล้วมันก็ไม่ได้หายไปง่ายๆเหมือนเงินค่ะ   มันเป็นทั้งความทรงจำและประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานเลยค่ะ ^^ จากคุณ : ลูกสน - [ 17 พ.ย. 49 20:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาอ่านอีกวันแล้วค่ะ ยังสนุกเหมือนเดิมเลยนะคะ มีความคิดเห็นเหมือนพี่ๆข้างบนค่ะ ว่าไม่อยากให้จบเลย เล่าสนุกมากๆ ตอนนี้รู้สึกเป็นเหมือนกิจวัตรไปเลย ว่าเข้าเนท ก็ต้องเข้าเว็บบอร์ดนี้มาอ่าน อืม .. ถ้าให้ดี มีรูปปลากรอบบ้างมั้ยคะ อยากดูอ่ะค่ะ ว่าอลาบามาสวยเพียงใด อิอิ เอ่อ ขอถามคุณลูกสนหน่อยนะคะ ว่ามีเพื่อนที่แวะทรานซิมประเทศไหนแล้วออกมาบ้างมั้ยคะ พอดีขากลับอยากแวะญี่ปุ่นมากๆค่ะ กะว่าจะไปทำวีซ่าทรานซิทญี่ปุ่นเอาไว้ ถ้ามีเพื่อนคุณลูกสน ทรานซิทประเทศไหนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ว่าเป็นยังไงบ้าง ^^ ขอบคุณค่ะ สุดท้ายก็อยากบอกว่ายังเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิม มิเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ จากคุณ : shamdal (shamdal) - [ 17 พ.ย. 49 22:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เพิ่งมาอ่านคาบ  นานมากกว่าจะจบแบบว่าอ่านที่เดียวรวด  สนุกมากๆคาบ  มันๆ อิอิ  ละเอียดดีนึกภาพออกเลยเหมือนไปขายบิกินนี่เอง หุหุ เปนกำลังให้นะคาบ จารอตอนต่อไป จากคุณ : aj-speed - [ 18 พ.ย. 49 00:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พึ่งมาอ่านรวดเดียวจบเหมือนกันครับ สนุกมากๆเลยครับ ขอบคุณลูกสนมากๆครับที่เล่าเรื่องได้สนุกและได้ความรู้มาก จากคุณ : ^_^Ohng^_^ - [ 18 พ.ย. 49 02:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เข้ามาอ่านรีเฟรชรอตั้งกะมะวานแล้วค่ะ แต่รอไม่ไหวเลยมาอ่านต่อวันนี้อีกที ^^' เล่าสนุกเช่นเคยค่ะ ยิ่งสำเนียงรัสเซียเนี่ย ออกเสียงตามแล้วเห็นภาพเลย 55 ว่างๆก็เอารูปมาลงให้ดูบ้างละกันนะคะ :) จากคุณ : ก้านหญ้า * - [ 18 พ.ย. 49 11:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 111 น้องสนอย่าเพิ่งจบเร็วน่ะ เก็บรายละเอียดให้หมด ทำเป็น Favorite ไว้แล้ว อิอิ จากคุณ : amited - [ 18 พ.ย. 49 16:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เพิ่มให้ ภาษารัสเซีย เวลาออกเสียงต้องใช้ ตัว ร เรือ อย่างมาก แล้วต้องกระดกลิ้นด้วย เราคิดว่าเวลาเขาพูดเหมือนคนไทยกระแดะพูดอ่ะครับ ปล.เรียนรัสเซียมานิดหน่อย ปล.2 รออ่านอยู่ครับ จากคุณ : Spa si ba (V_Accy) - [ 19 พ.ย. 49 03:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 113 มาตามต่อคับๆ แหะๆ ที่ไป orlando นี่ไปเที่ยว seaworld มาป่าวอ่าพอดีจะไป W&T ที่ seaworld พอดี เป็นยังไงบ้างเล่าให้ฟังด้วยเน้อ ขอบคุณมากๆ ปล. เล่าเรื่องละเอียดดีช้อบชอบ ^^ จากคุณ : IzE-KunG - [ 19 พ.ย. 49 11:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ToT  ขอโทษทุกๆคนที่รออ่านนะคะ  เมื่อวานอินเตอร์เนตที่บ้านเจ๊งค่ะ   เลยเอามาลงไม่ได้เลย  ฮืออออ  ลูกสนขอเลื่อนวันจบไปเป็นไม่เกินพุธหน้า ละกันนะคะ ^^" ---------------------------------------------------------------------------------------------------- มาถึงตอนนี้  ก็จัดกระเป๋าแล้ว  เกือบได้ไปเที่ยวแล้วค่ะ  แต่ว่ายังเหลือ อีกอย่างนึงที่ต้องทำ  แล้วก็เป็นอะไรที่ไม่อยากทำด้วยค่ะ  T_____T พวกเราต้องช่วยกันทำความสะอาดบ้าน  เพื่อที่จะได้ค่ามัดจำบ้านคืนค่ะ ตอนที่เราเซ็นสัญญา  เราต้องจ่ายค่ามัดจำบ้านคนละ 200 เหรียญ แล้วจะคืนเมื่อตอนเราออกจากบ้าน  โดยมีข้อแม้ว่าบ้านต้องสะอาดเอี่ยมอ่อง แล้วคอสต้าก็เขี้ยวมากค่ะ  ท่าทางจะไม่ให้ค่ามัดจำคืนง่ายๆแน่ๆ พวกเราเลยต้องมาทำความสะอาดกันยกใหญ่ค่ะ ครั้งแรกที่คอสต้ามาตรวจดูบ้าน  ก่อนที่เราจะออกจากบ้าน Alabama กัน เค้าบอกว่าใช้ไม่ได้ค่ะ  บ้านไม่สะอาดเลย  ห้องน้ำก็ไม่สะอาด(ทั้งๆที่ห้องน้ำเพิ่งขัด กันไปเมื่อวานเอง - -")  เค้าจะไม่ให้เงินค่ามัดจำคืนแล้วค่ะ  ไอ้หน้าเลือด  :( พวกเราก็ไม่ยอมกันค่ะ  ก็โวยวายๆๆ  จนคอสต้าคงรำคาญมั้งคะ  เลยบอกว่า จะให้เงินไปซื้อพวกอุปกรณ์ทำความสะอาด  น้ำยาต่างๆ  มาทำความสะอาดบ้าน แล้วพรุ่งนี้ตอนกลางคืนจะมาตรวจดูบ้านใหม่อีกทีนึง  พวกเราก็โอเคค่ะ ไม่ยอมให้มันยึดเงินเราไปง่ายๆหรอก พวกเราที่เหลืออยู่มนบ้านตอนนั้นมี 12 คนค่ะ  เพราะว่ากลุ่มที่เราสนิทเค้าออกเดินทาง ไปก่อนแล้ว(เค้าบอกว่า  รู้สึกผิดมากค่ะที่ไม่ได้อยู่ช่วยทำความสะอาด  แต่ว่าเราก็เข้าใจค่ะ ว่าเค้าจองรถที่จะไป Orlando ก่อนแล้ว  ก็เลยอยู่ช่วยไม่ได้)  ที่เหลือก็เลยต้องมาช่วยกัน ขัดบ้านใหญ่เลยค่ะ   เราจำได้ว่ามาขัดกันตอนช่วง ตี 1 มั้งคะ  แล้วรุ่งเช้าของวันถัดไป(8 โมง)กลุ่มเรา 4 คน ก็ต้องเดินทางไป airport เหมือนกัน  เราก็ช่วยเค้า  แล้วก็เดินไปหลับ  แล้วก็ตื่นมาช่วยเค้า แล้วก็หลับค่ะ  แบบว่าสลับกันหลับภายในกลุ่ม  แล้วคนที่ไม่หลับก็ออกมาช่วย   แต่นั่นก็คือทำ แค่ชั้นล่างของบ้านฝากเดียวนะคะ  ยังเหลือที่ต้องทำความสะอาดอีกเยอะเลยค่ะ ToT ตอนเช้าตื่นขึ้นมาเราก็ออกเดินทางกันค่ะ  ก็เหลือคนในบ้าน 8 คนที่ต้องช่วยทำความสะอาด ขากลับไทยเราเจอบางคนที่ airport  เค้าบอกว่า  เค้าต้องขัดๆๆๆ  ถูๆๆๆ ทั้งวันเลยค่ะ จนในที่สุดคอสต้าก็ยอมจ่ายค่ามัดจำบ้านคืนให้พวกเราทุกคน...ให้มาเป็น cheque ค่ะ ฝากเพื่อนที่อยู่บ้านกลุ่มสุดท้ายมา  แล้วพอมาถึงไทย  เราก็ไปเอาจากเค้าน่ะค่ะ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆกลุ่มที่เหลือ 8 คนมากๆเลยค่ะ  ที่ทั้งขัดทั้งถูจนคอสต้าหน้าเลือด ยอมแพ้ให้เงินพวกเราคืน  ขอบคุณมากๆๆๆเลยค่ะ ปล. พิมพ์ผิดค่ะ ToT ขอแก้นะคะ ปล.2 เพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 49 06:58:12 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 12:03:46 จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 12:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คุณshamdal  ขอบคุณที่ตามอ่านตลอดเลยนะคะ ^^  ส่วนเรื่องรูปนี่ อยู่กับพี่สาวเราหมดเลยค่ะ  เรายังไม่ได้ให้พี่สาวไรท์รูปให้เลย ^^" แต่รูปที่ Disney World นี่พอมีค่ะ  เดี๋ยวขอหาดูก่อนนะคะ :) ส่วนเรื่องทรานซิทที่ญี่ปุ่น  ตอนแรกลูกสนก็อยากทำค่ะ  แต่ว่าเอาจริงๆ ลูกสนว่ามันยุ่งค่ะ ToT  เพราะว่าถ้าจะพักที่ญี่ปุ่นเราก็ต้องหอบหิ้วกระเป๋าหนักๆ ไปด้วย  แล้วก็ไปช้อปอีก  เปลืองเงินอีก  และต้องจัดกระเป๋าใหม่อีกค่ะ ลูกสนก็เลยไม่แวะที่ญี่ปุ่นค่ะ ^^"  แวะอยู่แต่ในแอร์พอร์ต แต่ว่าถ้าอยากไปจริงๆเนี่ย  ลูกสนแนะนำว่าไปแบบไม่ต้องค้างค่ะ  เช้าเย็นก็พอ แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบิน(ที่ญี่ปุ่นน่าจะมีบริการฝากกระเป๋าค่ะ)  แล้วก็เดิน ตัวปลิวไปช้อปได้เลยค่ะ  ฮิฮิ คุณaj-speed   ใช่เลยค่ะ ^^  บิกินี่เป็นรายได้หลักของร้านเลย  เห็นจนเบื่อค่ะ^^" ขอบคุณสำหรับคำชมมากๆเลยนะคะ :) คุณ^_^Ohng^_^   ดีใจจังเลยค่ะที่มีหลายๆคนชมว่าสนุก   ลูกสนเขียนแล้วก็มันส์ค่ะ อยากเขียนไปอีกนานๆเลยค่ะ ฮิฮิ คุณก้านหญ้า *   ^^จะพยายามหารูปมาลงให้นะคะ  ขอบคุณที่ติดตามมากๆเลยค่ะ ภาษารัสเซียยังมีอีกเยอะค่ะ  ฮาๆทั้งนั้นเลย 5555 พี่amited  ลูกสนจะพยายามเก็บทุกรายละเอียดให้ได้เหมือนกล้อง Canon เลยค่ะ ฮิฮิ มุขแป้กมั๊ยเนี่ย  >.< คุณSpa si ba   ^____^  เจอผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว  ภาษาอังกฤษแบบรัสเซียลูกสน ยังเอามาพูดเล่นทุกๆวันจนถึงวันนี้เลยค่ะ 555  มันตลกจริงๆ คุณIzE-KunG   ลูกสนไป Seaworld มาค่ะ ^^  เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ :) ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆเลยค่ะ  ^__^ ----------------------------------------------------------------------------------------------------- มาถึงตอนนี้เราก็มีคำแนะนำ(อีกแล้ว)ค่ะ  ^^" เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราเนี่ย  ตอนที่เพื่อนๆย้ายเข้าที่พักครั้งแรก  ทำตามนี้นะคะ เช็คดูค่ะ  ว่ามีอะไรในที่พักที่ดูไม่เรียบร้อย  อะไรที่เสียหาย  เช่น  วอลเปเปอร์ลอก  เบาะโซฟาขาด ท่อน้ำรั่ว   แล้วถ่ายรูปไว้เลยก็ดีค่ะ(เผื่อไว้เป็นหลักฐานจริงๆ)  แล้วก็บอกคนที่ให้เช่าบ้านเลย ว่าบ้านเนี่ยมีความไม่เรียบร้อยตรงไหนบ้าง  แล้วให้เค้าหาคนมาซ่อมให้เราค่ะ ถ้าไม่ทำอย่างนี้  พวกให้เช่าหน้าเลือดทั้งหลายอาจถือโอกาสยึดเงินค่ามัดจำเราได้ค่ะ ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำไรเสียหายเลย  แต่เค้าไม่ฟังเราหรอกค่ะถ้าเค้าคิดจะเอาเงินจริงๆ ทางที่ดีเราก็บอกให้เค้ารับรู้ตั้งแต่แรกไปเลยค่ะ  ว่าตรงไหนเสียหาย  ให้เค้ารับทราบ เค้าจะได้ไม่มาเอาเปรียบเราค่ะ ปล. สะกดผิดอีกแล้วค่ะ ToT ขอแก้นะคะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 12:22:27 จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 12:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เอาล่ะ  คราวนี้หมดเรื่องที่ Alabama จริงๆแล้ว  เราไปเที่ยวกันเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเราออกจากบ้าน Alabama ตอน 8 โมงเช้า  ก็ไปที่ airport ของเมือง Pensacola ซึ่งอยู่ในรัฐฟลอริดาค่ะ ^^  พวกเราเรียกแท๊กซี่เอา  ให้เค้าไปส่ง ก็นั่งรถไปประมาณชั่วโมงนึงเองค่ะ พอไปถึงเราก็เอาตั๋วไปเช็คอิน  ที่นั่นถ้าเราไม่อยากเข้าแถวยาวๆ  เราก็ใช้เครื่อง check in เอาค่ะ สะดวกแล้วก็รวดเร็วดีด้วย ^___^ พวกเราใช้เวลาบินจาก Pensacola ไป Orlando ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ  แป๊ปเดียวเอง เย้ๆๆๆๆ..............ได้เที่ยวจริงๆแล้วค่ะทีนี้ ที่ airport ของ Orlando เนี่ย  สวยเชียวล่ะค่ะ ^^  ในตัวแอร์พอร์ตจะมีโรงแรมด้วย โรงแรม JW Marriot ค่ะ  ลักษณะของโรงแรมจะเป็นเหมือนรูปตัวยูค่ะ  แล้วตรงกลาง ก็โล่งๆ  จะเป็นพิ้นที่ของตัวแอร์พอร์ตเค้า  ก็มีน้ำพุ  แล้วก็ร้านขายของที่ระลึก  เราว่า โรงแรมนี้น่าอยู่เลยล่ะค่ะ ^^  แต่ว่ามันห่างจากสถานที่เที่ยวจัง >o< ถ้าเดินออกที่พื้นที่แอร์พอร์ตส่วนอื่นๆแล้ว  ก็ยังมีร้านอีกเยอะแยะเลยค่ะ  ที่นี่มีร้านให้ช้อป เยอะเลย  ฮิฮิ  ส่วนที่ขายของกินก็มีค่ะ  ร้าน Fast Food ทั้งหลาย  เป็นเหมือน Food Center น่ะค่ะ ^^ พวกเราเรียกแท๊กซี่จากแอร์พอร์ตให้ไปส่งที่โรงแรมค่ะ  ที่ Orlando นี่  ตอนนั้งรถไป เราก็มองข้างทางไปเรื่อยๆเลยค่ะ  ถนนที่นี่ดูรถไม่หนาแน่น  แล้วการจราจรก็ flow มากค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย.....ว่าเมืองนี้จะเป็นที่ตั้งของ Disney World ที่คนมาเที่ยวเยอะแยะ.... เค้าออกแบบเส้นทางถนนได้ดีมากๆเลยค่ะ ถนนใน Orlando ใหญ่ค่ะ  ใหญ่กว่าถนนราชดำเนินบ้านเราอีก ^^  นอกจากถนนก็มี Highway สะพาน  ดูคดโค้งน่างงไปหมดเลยค่ะ ^^"  แต่ขอบอกว่า  เท่าที่เราได้นั่งรถในเมืองนี้เนี่ย ไม่เคยเจอรถติดแม้ซักครั้งเดียวเลยค่ะ  ^________^ ตอนนั่งรถเรามองวิวไปเรื่อยๆ  ข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ค่ะ  สีเขียวเต็มไปหมดเลย จนถึงใกล้ๆโรงแรมเราแล้ว  เราถึงเห็นพวกร้านอาหาร  ร้านขายของต่างๆน่ะค่ะ เรียกว่า  มองข้างทางแล้วสบายตาจริงๆ ^^ ปล. พิมพ์ผิด แก้หน่อยนะคะ >.< แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 19:36:52 จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 12:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ติดตามอ่านนานละคะ ดีมากๆเลยค่ะ โหวตให้แล้วนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากไป จะได้เห็นง่ายๆ จากคุณ : Citron - [ 19 พ.ย. 49 12:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เมื่อมาถึงโรงแรมเราก็เช็คอินค่ะ^^  ห้องที่เราพักมี 2 เตียง  เตียงใหญ่เหมือนกัน เห็นห้องแล้ว happy เลยค่ะ  ฮิฮิ  ในห้องก็มีของใช้ให้เหมือนโรงแรมทั่วๆไปเลย พอพวกวางกระเป๋าเสร็จแล้วก็พร้อมลุยค่ะ  ^__________^ พวกเราโทรไปหากลุ่มเพื่อนที่สนิทค่ะ ^^  ที่มา Orlando เหมือนกัน  ฮิฮิ  ไม่ได้เจอกันตั้ง วันนึงแน่ะ  คิดถึงจังเลย  เรานัดกันว่าเดี๋ยวจะไปเจอกันที่ Outlet ค่ะ   ที่ Orlando นี่มี Outlet ใหญ่ๆอยู่ 2 ที่มั้งคะ  ที่ที่เราไปชื่อว่า Premium Outlet ค่ะ เรานั่งแท๊กซี่ไป  ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ  ที่จะได้เจอที่ช้อปใหม่ๆ  เรียกว่าเตรียมตัว จ่ายเงินกันเต็มที่เลย ฮิฮิ พอพวกเรากับกลุ่มเพื่อนมาเจอกันแล้วก็ดี๊ด๊าๆๆค่ะ  ก็แหม....นอนคุยกันทุกคืน พอไม่ได้คุยคืนนึงมันก็คิดถึง  เลยดี๊ด๊าไงคะ  55555  เราตัดสินใจว่าจะแยกกันช้อปค่ะ แล้วค่อยมาเจอกันที่น้ำพุตรงกลาง Outlet ตอน 5 ทุ่ม  Outlet ที่นี่ปิด 5 ทุ่มค่ะ ^^ ช้อปกันนานเลยแหละ :) ที่นี่มีของมากกว่า Outlet ที่ Alabama เยอะเลยค่ะ  แล้วของก็น่าสนใจมากด้วย พวกแบรนด์เนมทั้งหลายมีเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ  มีตั้งแต่ Tod's  Dior Burberry ลงมาถึงพวกที่เราพอซื้อได้ เช่น Coach Guess Gap ค่ะ  ฮิฮิ  ที่จริงมีอีกเยอะ แต่เราจำไม่ได้อ่ะค่ะ ^^" เราเดินเข้าแทบทุกร้านเลยค่ะ  แว่บเข้าไป  ถ้าไม่สนใจก็เดินออกมา  วันนั้นเราได้ของมาเยอะค่ะ เยอะกว่าเพื่อนๆคนอื่นที่ไปด้วยกันเลย  แล้วของที่ได้มาส่วนใหญ่มักจะเป็น last piece ค่ะ  ฮิฮิ คนอื่นๆเห็นแล้วยังอิจฉาเลยค่ะ  ว่าเราได้แต่ของดีและถูก 55555 ยกตัวอย่างของที่เราได้ก็เช่น  กระเป๋า Fossil ใบสีชมพูผ้ายีนส์  น่ารักค่ะ เป็นใบสุดท้าย เราว่าจะซื้อมาให้น้องสาว  ราคาแค่ 30 เหรียญเองค่ะ  พี่สาวเราเห็นแล้วยังอยากได้เลย  ฮิฮิ อีกอย่างที่ถูกใจเรามากก็คือกระเป๋า Coach ค่ะ  เป็นกระเป๋ากึ่งๆผ้า  สีเขียวมะนาวค่ะ สวยมากๆเลย  ถูกใจเราสุดๆ  เป็นใบสุดท้ายอีกแล้ว ^^  ราคาเต็ม 168 เหรียญ เราซื้อมาในราคา 68 เหรียญเองค่ะ  ฮิฮิ   Outlet นี่เค้าขายของราคาถูกลงเยอะจริงๆ  แม่เราชอบกระเป๋าใบสีเขียวมากเลยค่ะ   บอกว่าน่ารักจัง  ทำไมไม่ซื้อให้แม่มั่ง ToT เราเสียดายมากเลยที่ไม่ได้ซื้อให้แม่  เพราะว่ามันมีสีเบจ   เหมาะกับแม่มากค่ะ  แต่ตอนนั้นเรานึกว่ามันวัยรุ่นไปสำหรับแม่อ่ะค่ะ ^^" ของอย่างอื่นก็มีเสื้อผ้าค่ะ  ได้มาเยอะเหมือนกัน  แล้วก็ซื้อเสื้อให้พ่อ  พี่สาวเราได้ดินสอ Sanrio มาด้วยนะคะ 5555  ขายของหลายอย่างจริงๆที่นี่   วันนั้นหมดเงินไปเยอะค่ะ^^" แต่ก็ happy นะคะที่ได้ช้อปปิ้ง  ^______^   เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยว Disney World กันค่ะ  :) จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 12:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แต่ก่อนที่จะไป Disney World  เรามีเรื่องตลกของพวกเรา 4 คนมาเล่าให้ฟังค่ะ คือว่าคืนนั้นหลังจากกลับมาจาก Outlet แล้ว เราก็หิวค่ะ  เลยออกไปเดินหาของกินนอกโรงแรม ^^" เดินออกไปกันตอนตี 2 ค่ะ มืดๆแต่ข้างทางยังมีแสงไฟค่ะ ^^  หิวจัง   เดินไปเจอ McDonald  เลยแวะเข้าไปค่ะ ที่ Mcdonald เค้าจะเปิดบริการตรงช่อง Drive Thru ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ เราก็เลยกะว่าจะไปสั่งแบบ Drive Thru ละกัน  ทั้งๆที่ไม่ได้ขับรถไป  เราจะเดินสั่งอ่ะ ทางร้านมีปัญหาอะไรมะ  :P แล้วมันก็มีปัญหาค่ะ - -" เพื่อนๆนึกภาพดูนะคะ  เวลาเราจะสั่งแบบ Drive Thru เนี่ย  อย่างแรกเราต้องเลี้ยวรถมาตรง ป้ายเมนูก่อนค่ะ  แล้วก็ดูว่ามีเมนูอะไรบ้าง  เราอยากกินอะไร  แล้วก็กดอินเตอร์คอมตรงแถวๆ ป้ายเมนูเพื่อสั่งของค่ะ  จากนั้นเราถึงจะเลี้ยวรถไปที่ช่องจ่ายตังค์  แล้วสุดท้ายก็ไปช่องรับของค่ะ ทีนี้  ในเมื่อเราไม่ได้ขับรถมา  แต่อยากสั่งนี่หน่า  หิวจะแย่แล้วToT  เราก็เลยเดินไปตรงอินเตอร์คอมค่ะ  ฮิฮิ พี่สาวเราเป็นผู้กล้า  ก็กดอินเตอร์คอม  แล้วพูดด้วยเสียงแบบโมโนโทนสุดๆไปว่า  "Hey"   หรือเป็นภาษาไทยได้ว่า  "เฮ่"  เหมือนกับจะทักก่อนน่ะค่ะ  ว่ามีใครอยู่รับออร์เดอร์มั๊ย  5555 ไม่มีใครตอบกลับค่ะ  พี่สาวเราเลย "Hey" ไป 2-3 ครั้ง  เมื่อไม่มีใครแล้วเราเลยเดินไปที่ช่องแคชเชียร์แทนค่ะ ทำเหมือนคนมีรถเลยนะ  555555 ไปที่ช่องแคชเชียร์  กระจกมันปิดอยู่ค่ะ  พวกเราเลยเคาะๆกระจกกัน  คนที่ทำงานในร้านเค้าก็หันมามองนะคะ แต่ว่าตอนดึกๆคนทำงานไม่เยอะเท่าไหร่  เค้าก็ไม่ได้เดินมาเปิดให้พวกเราค่ะ  คงคิดว่าคนพวกนี้บ้า 555555 ในเมื่อไม่ได้อีก  เราก็เลยไปที่ช่องส่งออร์เดอร์ค่ะ  เคาะๆกระจกอีก  55555  คราวนี้ได้ผลค่ะ มีพนักงานหนุ่มผิวดำท่าทางเป็นพนักงานใหม่  เปิดกระจกออกมาถามพวกเราค่ะ  เราบอกเค้าไปว่า อยากสั่งอาหารได้มั๊ย  เค้าก็ตอบมาว่าไม่ได้  เราก็ถามว่าทำไม  เค้าบอกว่าเพราะเราไม่ได้ Drive Thru(ขับรถมา) เรื่องตลกมันเริ่มหลังจากนี้ล่ะค่ะ  55555  ด้วยความหิว  พี่สาวเราเลยตอบไปว่า พี่สาว : But we are hungry อ่าาาาาาาาาาาาา  (ออกเสียง อ่า........จริงๆค่ะ  เสียงแบบอ้อนวอนมากๆ) พนักงานบอกว่ายังไงก็ไม่ได้  เพราะว่าไม่ได้ขับรถมา - -" เรา : Can we walk Thru?  (อารมณ์หิวค่ะ  แล้วก็ทำหน้าขอความเห็นใจจากเค้าด้วย 5555) พนักงานบอกว่ายังไงก็ไม่ได้ - -" พี่สาวเราเลยทำท่าขับรถบรื๊นๆหมุนพวงมาลัย เดินย่ำอยู่กับที่  ในขณะที่น้องกบพูดว่า "บรื้นๆ" เป็น sound effect ให้ค่ะ  แล้วพี่สาวเราก็พูดว่า "We are Drive Thru."   ตอนนี้ขำมากค่ะ  เหมือนคนบ้าเลยอ่ะ 5555 พนักงานก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยค่ะ  คงคิดในใจว่าจะทำไงดีฟระเนี่ย  ยัยพวกนี้ท่าทางบ้าไปแล้ว - -" เค้าก็เลยไปถามผู้จัดการร้านค่ะ  ผู้จัดการร้านเลยบอกว่าขายได้  เราก็ออเดอร์ของกินไปค่ะ  ฮิฮิ ในที่สุดด้วยความกล้าบ้าบิ่น เราก็ได้ของกินมาจนได้   เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ   ^______^ นอกจากนี้คุณผู้จัดการร้าน  ยังแถม nuggets มาให้พวกเราอีกกล่องนึงด้วยค่ะ  มีตั้ง 12 ชิ้นแน่ะ ^^ ไม่รู้ว่าชื่นชมในความกล้าของพวกเรา  หรือสงสารเด็กตาดำๆผู้หิวโหย  555555555 วันหลังถ้าเพื่อนๆคนไหนหิวตอนดึกดื่นมืดค่ำ  จะลองไปทำแบบพวกเราก็ได้นะคะ  ไม่ผิดค่ะ  ฮิฮิ จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 12:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 120 คุณcitron   ^_____^ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  แล้วก็โหวตให้ด้วย  ^^ ลูกสนก็หวังให้เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆคนเหมือนกันค่ะ :) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ กินเสร็จก็นอนค่ะ  รอแป๊ปเดียวก็เช้าแล้ว  วันนี้เราจะไปสวนสนุกที่ดังที่สุดในโลกกันค่ะ  ^_______^ นั่งแท๊กซี่ไปเหมือนเดิมค่ะคราวนี้  ทางที่จะเข้าไปถึงตัวสวนสนุกจริงๆนี่ก็คดโค้งนิดหน่อยค่ะ^^" ตามทางก็เขียวไปด้วยต้นไม้  แล้วก็มีรีสอร์ทต่างๆของ Disney อยู่ในพื้นที่รอบๆสวนสนุก เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ ^^  ตามป้ายบอกทางก็รู้สึกว่าจะมีรูปมิคกี้เม้าส์ด้วยค่ะ  น่ารักจัง ^o^ ใครที่มาพักที่รีสอร์ทของ Disney จะได้สิทธิพิเศษคือเที่ยวได้จนถึง 5 ทุ่มค่ะ  แต่ถ้า นักท่องเที่ยวที่พักที่อื่นก็เที่ยวในสวนสนุกได้ถึง 3 ทุ่ม   สังเกตคนที่มาพักรีสอร์ท ได้โดยกำไลสีฟ้า(หรือว่าริบบิ้นก็ไม่รู้)ที่อยู่รอบข้อมือค่ะ :)   พวกเรานัดเพื่อนๆกลุ่มเดิมไว้ตรงหน้าประตู้ทางเข้า Magic Kingdom ของ Disney World ค่ะ  แต่พอไปถึงแล้ว..........ทางเข้ามันอยู่ไหนหว่า ?????? ตรงที่เหมือนจะเป็นทางเข้าก็ไม่ใช่ค่ะ  มันเป็นแค่ที่ขายตั๋วเอง  ตั๋วที่ขายมีหลายแบบค่ะ  จะซื้อตั๋ววันเดียว หรือได้มากที่สุดก็ตั๋วสัปดาห์เลยมั้งคะ(ถ้าจำไม่ผิดนะ)  ตั๋ววันเดียวยังแยกไปอีก  ว่าตั๋ววันเดียวสำหรับ ปาร์คเดียว  หรือว่าตั๋ววันเดียวสำหรับเที่ยวหลายปาร์คค่ะ เนื่องจากที่นี่ไม่ได้เล็กๆค่ะ  ใหญ่มากๆๆๆ  ประกอบไปด้วย 4 ปาร์ค  มี - Magic Kingdom   ที่ๆเป็นแดนในนิยายค่ะมิคกี้เม้าส์  สโนว์ไวท์  ซินเดอเรลลาและพวกการ์ตูนทั้งหลาย ก็อยู่ที่นี่หมดเลยค่ะ  น่ารักมากๆเลยที่นี่ ^^   - Epcot Park เป็นที่ที่มีเครื่องเล่นนิดหน่อยค่ะ  แล้วก็มีสถานที่จำลองของประเทศ 10 ประเทศ   จำลองออกมาใหญ่มากๆเลยค่ะ  แล้วก็มีโชว์แสงสี  สวยมากๆเลยค่ะ ^o^   - Animal Kingdom  อันนี้เราไม่ได้ไปค่ะ  แต่เค้าบอกว่าใหญ่มากๆๆแล้วก็มีเครื่องเล่นมันส์ๆเยอะเลย แถมได้ดูสัตว์ด้วย  ที่นี่จะออกแนว Adventure ค่ะ  เราเสียดายมากๆเลยค่ะที่ไม่ได้ไปปาร์คนี้ ToT เพื่อนๆลองไปดูนะคะ ^^ - MGM Studio อันนี้เป็นอะไรเราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ^^"  ไม่มีใครในกลุ่มพูดถึงเลย นอกจากนี้ก็มี water park อีก 2 อันค่ะ  แต่เราไม่ได้ไปค่ะ ^^" เล่าเรื่องปาร์คต่างๆไปแล้ว  กลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะคะ ^^ หาทางเข้า Magic Kingdom ไม่เจอค่ะ  แต่แล้วเราก็เหลือบไปเห็นรถไฟลอยฟ้าที่จะพานักท่องเที่ยว ไปส่งยังปาร์คต่างๆ  เราก็เลยขึ้นเจ้ารถไฟที่พาไปส่งที่ Magic Kingdomเลยค่ะ ^^ ตอนนั่งรถไฟเนี่ย  มองลงมาเห็นวิวของ Disney World แล้ว......มันกว้างไปหมดเลยค่ะ เห็นเครื่องเล่นอยู่ไกลๆ  เห็นพวกเมืองจำลองด้วย  ตอนนั้นเรารู้สึกว่าอยากอยู่ที่นี่ซักสัปดาห์นึง ไปเลยค่ะ  แต่ว่าจริงๆแล้วมีเวลาแค่วันเดียว - -" พอรถไฟหยุดแล้วเราก็เดินลงมา  เจอทางเข้า Magic Kingdom แล้วค่ะ  ^________^ แล้วก็เจอเพื่อนๆรออยู่ด้วย  เราก็ไปซื้อตั๋ว  ตั๋วที่เราซื้อเป็นแบบ 1 วัน 2 ปาร์คค่ะ ราคา 110 เหรียญค่ะ  แพงง่ะ  T___________T  แต่ยอมจ่ายค่ะ ทีนี้เราก็เข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยายกันเลยนะคะ  :) ปล. ขอเติมข้อความค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 13:03:54 จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 13:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 121 รอๆๆๆ อ่านต่อนะค่ะ อยากไปเที่ยว Disney World จากคุณ : Yes!!! - [ 19 พ.ย. 49 14:58:39 A:161.246.65.129 X:161.246.1.33 TicketID:132147 ]

ความคิดเห็นที่ 122 พอได้ตั๋วมาแล้วเราก็เดินเข้าไปสอดตั๋วที่ช่องทางเข้าค่ะ  แล้วก็มีปั๊มนิ้วมือด้วย ^^ เข้าไปนี่  โอ้โห...............ใหญ่มากๆๆเลยค่ะ  มองตรงไปจะเห็นปราสาทอยู่ไกลๆ แล้วใกล้ๆเราก็เป็นรูปปั้นคุณลุงดิสนีย์กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งยาวกับมินนี่เม้าส์ค่ะ พวกเราก็เข้าไปถ่ายรูปแชะๆๆกันใหญ่เลย ^^  แต่น่าเสียดายว่าวันที่ไปเนี่ย ฝนตกปรอยๆค่ะ  รูปเลยถ่ายออกมาไม่ค่อยสวย ToT คนเยอะมากๆเลยค่ะ  เดินกันยุ่บยั่บๆๆ  ไม่หวั่นเกรงสายฝนเลย   เรารู้สึกว่า Magic Kingdom นี่มันเหมือนเมืองๆนึงเลยค่ะ  ตามทางที่เดินผ่านไป จะมีร้านต่างๆอยู่เยอะแยะไปหมด  ส่วนใหญ่ก็ขายสินค้าของ Disney เค้าล่ะค่ะ มีให้เลือกมากมายหลายแบบเลย  แล้วก็มีร้านของกินประปรายอยู่บ้างค่ะ ^^ เอารูปประกอบไปดูนะคะ  ค้นเจอพอดีเลยค่ะ  ^_____^ หลังเสาธงจะเห็นรูปปั้นคุณลุง Disney ค่ะ  แล้วมองไปไกลๆก็เป็นปราสาทเจ้าหญิง  :) จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 15:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 123 คุณYes  ^^ลูกสนจะพยายามหาภาพมาให้เยอะๆนะคะ  เพราะว่าภาพส่วนใหญ่ ไปอยู่กับพี่สาวหมดเลยค่ะ ToT  ลูกสนผิดเองที่ไม่ใด้บอกให้พี่สาวไรท์มาให้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------- พวกเราเดินกันแบบตื่นเต้นมากค่ะ  มองไปทางไหนมันก็น่าสนใจไปหมดเลย ส่วนใหญ่เราจะแวะร้านขายของน่ะค่ะ ^^  ข้างในก็จะมีตุ๊กตาดิสนีย์ขาย หลายแบบเลยค่ะ  ตั้งแต่เจ้าหญิงต่างๆ ไปจนถึงตุ๊กตาสัตว์  น่าซื้อหมดเลย แต่ว่าราคาก็ใช่ย่อยนะคะ ^^" พอเราเดินไปจนถึงปราสาทแล้วก็แน่นอนว่าต้องถ่ายรูปค่ะ ^o^  ตรงหน้าปราสาท มีรถม้าด้วยค่ะ  ลูกสนอยากเล่นกับม้า  แต่ว่ากลัวมันเตะเอา ToT  เลยอยู่ห่างๆดีกว่า ไม่ได้ไปถ่ายรูปมันม้าเลย  กลัวมันอ่ะค่ะ >.< รถม้านี่จะเป็นพาหนะพาคนที่ไม่อยากเดินไปส่งรอบๆปาร์คนี้ค่ะ  นอกจากรถม้า ก็ยังมีรถรูปแบบอื่นๆอีก  รถน่ารักด้วยค่ะ  แต่เราไม่ได้ขึ้น  เราเดินเอาค่ะ ^^ เอาม้ามาฝาก ฮิฮิ จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 15:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เราจะไปทำที่ซีเวิลคะ ช่วยเล่าในซีเวิลเยอะๆ เลยนะค้า จากคุณ : kindNess_KiLLer (KindNess_KiLLer) - [ 19 พ.ย. 49 16:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 125 รออ่านอยู่น๊ะค๊ะ เก็บไว้เป็นข้อมูลค่ะ จากคุณ : อาดาจิ - [ 19 พ.ย. 49 18:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 126 พวกเราเดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆค่ะ  เราว่าร้านต่างๆในนี้มันเหมือนบ้าน ในนิยายเลยค่ะ  บางร้านก็เหมือนบ้านคนแคระ  บางร้านก็เป็นบ้านอิฐสวยๆ มุมไหนๆก็น่าถ่ายรูปไปหมดเลยค่ะ  ที่ปาร์คนี้ใหญ่จริงๆ  มีอะไรให้ชมเยอะมาก แต่ละที่คนเข้าแถวรอยาวเหยียดเลยค่ะ  เราเลยไม่ได้แวะมาก  เพราะว่าเดี๋ยว ต้องไปเที่ยวอีกปาร์คนึงด้วย พวกเราตัดสินใจที่จะเล่นเครื่องเล่นที่เรียกเสียงกรี๊ดได้มากที่สุดค่ะ  ฮิฮิ มันก็คือ.................Splash Mountain นั่นเอง................... คนต่อแถวรอเล่นเยอะมากๆเลยค่ะ  เป็นเครื่องเล่นที่ขายดีที่สุดเลยล่ะ พวกเราใช้ช่อง Fast Track เอาค่ะ  ก็จะสามารถเล่นได้เร็วขึ้น ^^ ช่อง Fast Track ก็คือช่องที่เราเอาตั๋วไปสอด  แล้วเค้าจะขึ้นเวลามาบน ตั๋วว่าเราจะได้มาเล่นตอนกี่โมงค่ะ  มันจะเร็วกว่าเราต่อแถวค่ะ   เท่าที่เราจำได้เนี่ย  ถ้าเราเอาตั๋วไปตอกไว้ที่ Fast Track ของเครื่องเล่นไหนแล้ว   เราจะไม่ได้สามารถเอาไปตอกFast Track ที่เครื่องเล่นอื่นได้  จนกว่าเราจะได้ เล่นเครื่องเล่นแรกที่เราเอาตั๋วไปตอกไว้น่ะค่ะ  แล้วจากนั้นก็ค่อยเอาไปตอกที่ เครื่องเล่นอีกได้ค่ะ  อันนี้เป็นข้อมูลในความทรงจำที่แสนจะเลือนลางของเรานะคะ^^" เรามีเวลาก่อนที่จะได้เล่น 1 ชั่วโมงค่ะ  ตอนนี้ฝนตกด้วย  พวกเราก็เลยแวะไปทานข้าว ในร้านแถวนั้นซะเลย^^  ร้านที่เราเข้าไปขายพวกเบอร์เกอร์  แซนวิช  สลัดค่ะ  แล้วก็มี เครื่องดื่มพวกน้ำอัดลมต่างๆพอสั่งแล้วเราก็สามารถไปตักพวกผัก  พวกเห็ดผัด แล้วก็ซอสต่างๆได้ตรงตัวบาร์ค่ะ  เค้าให้ตักแบบบัฟเฟต์เลย  ร้านนี้คนทานเยอะมากค่ะ  :) พอฝนหยุดตก  ฟ้าก็ใสแล้วค่ะ ฮิฮิ  ทันเวลาที่พวกเราจะได้เล่น Splash Mountain พอดีเลยค่ะ  ตอนนี้ได้เวลาเตรียมเสียงกรี๊ดแล้วนะคะ ^o^ ดูรูปนี้แล้วเพื่อนๆคงรู้แน่ๆเลยค่ะ  ว่าทำไมต้องกรี๊ดดดดดดดดดดดดด ปล. แก้ไขคำตกหล่นค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 19:03:32 จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 18:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 127 คุณkindNess_KiLLer จะพยายามขุดความจำให้มากที่สุดนะคะ ^^" เราก็เจอเพื่อนคนไทยที่ไปทำงานที่นั่นเหมือนกันค่ะ :) คุณอาดาจิ  ^^อ่านไปเรื่อยๆอย่าเพิ่งเบื่อนะคะ  ลูกสนเล่าเรื่อยๆ สบายๆน่ะค่ะ ------------------------------------------------------------------------------------------------------ เมื่อเราเริ่มก้าวไปใน Splash Mountain แล้ว  เราก็เริ่มป๊อดค่ะ  55555 ถึงป๊อดแต่ก็ชอบเล่นนะคะ  พวกเครื่องเล่นน่าหวาดเสียวทั้งหลายเนี่ย กลุ่มพวกเราที่ไปเล่นมีทั้งหมด 9 คนค่ะ  ก็เลยลงเรือลำเดียวกันเลย เป็นเรือไม้คะ   เราเลือกนั่งหลังสุดเลย  ฮิฮิ  จะได้ไม่หวาดเสียวมาก(มั้งคะ) เรือพาพวกเราแล่นไปเรื่อยๆในถ้ำค่ะ  ในถ้ำจะออกมืดๆหน่อยค่ะ  ข้างในก็จะมีตัวการ์ตูน ต่างๆคอยทักทายเรา  แล้วก็ทำท่าตลกๆก็มีค่ะ  เค้ายังมีป้ายทางออกสำหรับคนที่คิดว่า จะไม่กล้าเล่นต่อด้วยนะคะ 5555 เรานั่งเพลินเลยค่ะ  มองซ้ายมองขวาไปเรื่อยๆ  พวกตัวการ์ตูนก็ร้องเพลงให้ฟังซะด้วย ^^ นั่งไปซักเกือบ 10 นาทีมันก็มาถึงตรงทางลาดลงภูเขาแล้วค่ะ  ตื่นเต้นมากๆๆๆเลย และแล้วมันก็..................กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด.............................. พวกเรากรี๊ดกันใหญ่เลยตอนเรือมันลื่นลงมาตามภูเขา  ช่วงเวลาอึดใจเดียวเท่านั้นค่ะ อะดรีนาลีนพุ่งกระฉูดเลยตอนนั้น  555555  ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้พิชิตเลยค่ะ เราทำได้  ฮิฮิ พอออกมาจากเรือแล้วเราก็ต้องเดินไปตามทางออกที่เค้าจัดให้ค่ะ  แล้วเราก็เจออะไรที่เด็ดมาก  ฮิฮิ มันมี Station ที่ใช้โชว์รูปตอนที่เรากำลังอ้าปากกรี๊ด(ตอนที่เรือมันลื่นลงมาน่ะค่ะ)  เค้าจะมีกล้อง ไว้แคปภาพตอนนั้น  พวกเราทุกคนหน้าตาดูไม่จืดเลยค่ะ 55555  เราก็เลยสั่งอัดรูปกลับบ้าน ไปเป็นที่ระลึกซะหน่อย  เราอัดแบบ 5*7 นิ้ว  1  แผ่นมี 4 รูป  แล้วหารกับพี่คนอื่นค่ะ ก็ตกราคารูปละ 8 เหรียญได้   สวนสนุกนี่เข้าใจหาเงินจริงๆเลยค่ะ จากนั้นพวกเราก็ไปเที่ยวสถานที่น่ากลัวกันค่ะ  ฮิฮิ  เพื่อนๆคงทายถูกใช่มั๊ยคะว่าที่ไหน  ^^ จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 19:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 128 จะไปปีนี้ค่ะ แต่ยังไม่เลือก work site เลยค่ะ ยังไง ช่วยแนะนำ หน่อยค่ะ ที่ให้เลือกก็มี Florida AL GA WY ยังไงพี่ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ AL WY เป็น Mc Donald ค่ะ งานที่ Mc เป็นไงบ้างค่ะ ช่วยหน่อยค่ะ จะใกล้จะเลือกแล้วค่ะ patchara82@hotmail.com จากคุณ : Pandapple (เค้าเรียก"ตัวเล็ก") - [ 19 พ.ย. 49 21:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ยังเล่าสนุกเหมือนเดิมเลยนะคะ เลื่อนวันจบไปเป็นก่อนวันพุธเหรอคะ ว๊า...ก็ใกล้แล้วสิ ยังไม่อยากให้จบเลยจริงๆ ขอเป็นเล่าไปเรื่อยๆจนถึงวันก่อนเดินทางเลยได้มั้ยคะ 555 เล่ากันข้ามปีไปเลย ส่วนรูปสวยดีนะคะ ถ่ายสวยดี สีสดดี เห็นแล้วอยากเล่นบ้างจัง ว่าแต่ว่าบัตรแพงจริงๆค่ะ ยิ่งคูณก็ยิ่งแพงค่ะ แต่ก็คุ้มนะคะ น่าสนุกดี เรื่องที่จะแวะทรานซิท เอ่อ แล้วถ้าเราไปหลายวันจะฝากของไม่ได้เหรอคะ เพราะอยากแวะญี่ปุ่นมากค่ะ อยากเที่ยวมากกว่าบางที่ใน usa ซะอีก อิอิ เสียดายค่ะ ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจเหมือนเดิมนะคะ เมื่อวานเข้ามาอ่านแล้ว ไม่เจอเลยไม่ได้ comment ไว้ค่ะ แอบ งง เหมือนกัน เป็นไปได้ยังไง เห็นปกติมาอัพทุกวัน พอวันนี้เข้ามาแล้วเจอข้อความใหม่ๆ ดีใจค่ะ ^^ จะรออ่านไปเรื่อยๆจนจบนะคะ ปีหน้าใช่มั้ย?? ล้อเล่นค่ะ ก่อนวันพุธ... แล้วจะเข้ามาทักทายอีกนะคะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 22:18:18 จากคุณ : shamdal (shamdal) - [ 19 พ.ย. 49 22:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 130 work and travel เป็นโอกาสที่ดีน่ะครับ ผมเองก็มีความสุขมากๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่สหรัฐ ได้เจอกับสิ่งที่ไม่เคยเจอ บางเหตุการณ์ เจอแบบเหลือเชื่อ ระทึกขวัญก็มี เจอเพื่อนๆ น่ารักมากมาย ไปเที่ยวเยอะมาก ขอให้เพื่อนๆที่ไปปีนี้มีความสุขมาก ๆน่ะครับ จากคุณ : ลิเบอร์ลัท (Austin Dash) - [ 19 พ.ย. 49 22:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 131 คุณPandapple เราไม่ได้ทำงาน McDonald นะคะ  พอรู้แค้เผินๆเท่านั้นเอง จากที่เพื่อนเล่าให้ฟังค่ะ  ^^  เดี๋ยว add ไปละกันจ้า :) ------------------------------------------------------------------------------------------------------ พวกเรามาที่ "บ้านผีสิง" กันค่ะ  หรือว่า Haunted House นั่นเอง  ฮี่ฮี่ฮี่ เราเป็นคนที่กลัวผีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ  ไม่ว่าใครจะว่าไง   เราก็ขอกลัวไว้ก่อนล่ะ >.< ตอนเดินเข้าไปในบ้านผีสิงก็ป๊อดเลยค่ะ 55555  ห้องแรกที่เข้าไปเนี่ย มันจะเป็นห้องเพดานสูงๆ  แล้วก็...........ไม่บอกดีกว่าค่ะ  ฮิฮิ เผื่อใครที่อยากไปแล้วมาฟังก่อนมันก็คงไม่หนุกเท่าไหร่เนอะ  :P แต่บอกได้อย่างนึงว่า  มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ค่ะ  พอผ่านจากห้องนั้นไปแล้ว ก็สนุกละ  เราจะได้นั่งเก้าอี้ที่แล่นไปตามรางค่ะ ใครเคยดูเรื่อง Casper แล้วคงนึกภาพออกค่ะ ^o^  ตอนที่นางเอกนั่งรถไปตามรางนั่นแหละ แล้วก็จะมีผีอยู่ 2 ข้างทางของรางค่ะ  ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ฮิฮิ   เก้าอี้เค้านั่งสบายด้วย  นั่งเพลินเลย  แป๊ปเดียวก็จบแล้วค่ะ T-T พอออกมาเราก็เดินย้อนกลับไปที่ปราสาทค่ะ  เราขึ้นไปบนปราสาทกัน เท่าที่เราเดินบนปราสาทก็ไม่มีอะไรมากนะคะ^^"  มีร้านขายของอยู่ร้านนึง ขายพวกแก้วที่ทำเป็นรูปตัวการ์ตูนค่ะ  แล้วก็ขายพวกภาพตัวการ์ตูนอัดกรอบ^^ ร้านนี้สินค้าน่าซื้อมากๆเลย  แต่ว่าราคาก็แพงมากๆด้วยเหมือนกันค่ะ เดินๆอยู่บนปราสาทซักพัก..........เอ๊ะ! ได้ยินเสียงอะไรมาจากข้างล่างหว่า??? เป็นเสียงขบวนพาเหรดค่ะ ^____________^  โชคดีจังเลย ขบวนพาเหรดของที่นี่ตระการตาค่ะ  คนมุงดูเยอะเลย  เราต้องแทรกๆตัวเข้าไปค่ะ^^" การ์ตูนออกมาเดิน  ออกมาเต้นเต็มไปหมดเลย  แล้วก็มีเจ้าชายเจ้าหญิงจากเรื่องต่างๆ ปีเตอร์แพน(หล่อมากๆ)  แล้วก็บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์(เบลล์สวยมากค่ะ  เหมือนในเรื่องเลยล่ะ) ดูกันเพลินเลยค่ะ  พาเหรดก็ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 20 นาทีค่ะ :) จากนั้นเราก็เดินไปดูอย่างอื่นอีกนิดหน่อยค่ะ  แล้วก็เข้าไปซื้อของที่ระลึก  ฮิฮิ ร้านใหญ่มากๆเลย  ที่จริงในปาร์คนั้นมีหลายร้านค่ะ  แล้วแต่เราจะเลือกเข้า เราได้กรอบรูปมา(เอาไว้ใส่รูปที่กรี๊ดดดดดดตอนเล่นเครื่องเล่น)  เป็นแบบ made in Thailand ด้วยนะคะ  สวยเชียวค่ะ  ต้องสนับสนุนของไทยหน่อย ^^ พอดูเวลาแล้วเราก็ต้องไปแล้วค่ะ ToT  ยังเดินไม่ทั่วเลยอ่ะ  เราต้องไปต่ออีกปาร์คแล้ว .......................เราจะไป Epcot กันค่ะ......................... จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 22:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ไม่ได้เข้าห้องนี้นาน มาได้จังหวะพอดี ติดตามอ่านอยู่นะคะคุณลูกสน จะไปปีหน้าเหมือนกัน =D เขียนได้ละเอียด และเป็นประโยชน์มากๆค่ะ จากคุณ : Paradise is Nowhere - [ 19 พ.ย. 49 22:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 133 คุณshamdal   T-T ขอโทษมากๆเลยค่ะ  เมื่อวานเนตเจ๊งบ๊งไปเลย  ฮือออ ลูกสนเลยพิมพ์มาลงวันนี้ให้เยอะๆค่ะ :) แล้วก็  ลูกสนเบ๊อะบ๊ะเองค่ะ 5555  ลืมนึกไปว่าอยู่ที่ญี่ปุ่นหลายวันก็ฝากกระเป๋าได้ค่ะ  ยัยบื้อเอ๊ย 55555  ยังไงถ้าไปเที่ยวที่นั่นก็แลกเงินไปเยอะๆนะคะ ของน่าซื้อเยอะแยะแหงๆเลยค่ะ  ^^  ฮือออ  อยากไปจังเลย ToT ส่วนเรื่องจบ  ถ้าให้จบปีหน้านี่  สงสัยลูกสนต้องเอามาลงวันละ 1/2 ตอนพอค่ะ  ฮิฮิ ไม่อยากให้จบเหมือนกันค่ะ  เพราะว่ามาเขียนแบบนี้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆในพันทิบเยอะเลย แต่ยังไงก็ต้องจบอ่ะเนอะ ^^"  เอาไว้ถ้ามีไรสงสัยนอกเหนือจากนี้ก็หลังไมค์ได้ค่ะ  :) คุณลิเบอร์ลัท  ไปที่ไหนมาคะ ^^  ท่าทางได้เรื่องดีๆกลับมาเยอะเลยนะคะ   เราเองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้ไปค่ะ  คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจไปค่ะ :) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เรานั่งรถไฟฟ้าไปที่ Epcot กันค่ะ  ที่นั่นนี่จะมีสัญลักษณ์คือ  ลูกกลมๆใหญ่ยักษ์ ตั้งอยู่ตรงหน้าทางเข้าเลยค่ะ  ใหญ่มากๆๆๆ ที่นี่เราก็ต้องสอดบัตรแล้วก็ปั๊มลายนิ้วมือเหมือนเดิมค่ะ ^^  เค้าเข้าใจทำเนอะ จะได้ไม่มีใครเอาบัตรของเราไปใช้ได้  เพราะว่ามีลายนิ้วมือของเราอยู่   พอเข้าไปแล้วสิ่งแรกที่พวกเราไปทำก็คือ...หาของกินค่ะ  ฮิฮิ  หิวง่ะ   แต่ก่อนที่เราจะไปหาของกินเนี่ย  เราเดินผ่านสะพานอันนึง   ซึ่งเค้าบอกว่า ถ้าเราหันหลังให้สะพานแล้วโยนเหรียญลงไปในน้ำ  มันจะทำให้เราได้กลับมาที่นี่อีกค่ะ ^^ พวกเราก็บ้าเห่อทำกันค่ะ  โยนพร้อมๆกันเลย  แล้วแต่ศรัทธาว่าเอาเหรียญอะไรโยน ในน้ำนี่มีเหรียญเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ  เก็บไปใช้คงรวยแน่ๆเลย  555555 เดินหาของกินเจอแล้วก็มานั่งทานกันเรียบร้อยเลยค่ะ ฮิฮิ  หิวโหยมากๆ ของกินใน Epcot ราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ  แต่ก็กิน - -" ความหิวทำลายทุกอย่างค่ะ ฮิฮิ พอกินเสร็จเราก็เริ่มหาที่เที่ยวกันละ  มีเครื่องเล่นอันนึงที่พวกเราอยากเล่นกันมาก ต้องเล่นให้ได้  ฮิฮิ  พอไปเล่นแล้วไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 22:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ลูกสนขอไปนอนก่อนนะคะ  แล้วพรุ่งนี้มาต่อค่ะ   ฝันดีทุกคนค่ะ :) จากคุณ : ลูกสน - [ 19 พ.ย. 49 23:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เข้ามาดู สวีตโฮมอลาบามา จนลืมคนแถวๆออสเตรเลียไปซะแล้ว ฮี่ๆๆ จากคุณ : Zaezar - [ 20 พ.ย. 49 01:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 136 โฮ่ ... อ่านจนมึนเลยยย ... ยุ่งๆ ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน อยากบอกว่าเรื่องขัดบ้านเนี่ย คนที่ได้ทำ housekeeping จะทำเป็นเรื่องขำๆ ไปเลยล่ะค่ะ ขัดมันทุกวันอยู่แล้ว... ส่วนเรื่องกับข้าว ที่ทำงานเราไปกันนิดเดียว เลยไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ แถมแถบที่พักก็มีแต่พ่อครัว ... กินของอร่อยฟรี บ่อยมั่กๆ ... สุดท้ายก็กลายเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอาหารไปซะงั้น *o* คุยด้วยๆ จากคุณ : asaka - [ 20 พ.ย. 49 03:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เพิ่งมาอ่านหลังจากเป็นกระทู้แนะนำ น้องเขียนได้สนุกดี พี่อยากถามเรื่องกระเป๋าค่ะ ตอนมาจากเมืองไทยขนมา 2 ใบใหญ่ แล้วตอนขึ้นเครื่องภายในประเทศทำยังไงกับกระเป๋าใบใหญ่ๆคะ? จากคุณ : pixp - [ 20 พ.ย. 49 03:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 138 เยี่ยมครับ เล่าเรื่องได้ดี แล้วก็น่าสนใจ ดีใจด้วย ที่มาแล้ว ได้อะไรดีๆกลับไป ผมเริ่มอ่านตอน 11 โมงครึ่ง (PT) ตอนนี้บ่ายโมงละ อ่านรวดเดียวจบเลย แล้วจะติดตามอ่านต่อครับ จากคุณ : Hed Question - [ 20 พ.ย. 49 04:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 139 พี่เพิ่งเห็นกระทู้เพราะนานๆจะเข้าห้องไกลบ้านที วันนี้นึกไงไม่รู้คลิกกระทู้แนะนำนี้อ่านเลยรู้ว่าตาโตนี่เอง ตาโตเล่าเรื่องได้สนุกดี แถมแทรกสิ่งข้อควรทำที่ดีมากๆ พี่คิดว่ามีประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะไป w&t ในอนาคตแน่ๆจ้ะ จากคุณ : Regenbogen ^_^ - [ 20 พ.ย. 49 05:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 140 อ่านถึงคห.กลาง ๆ กะทู้ ขอมาโพสก่อน แล้วเดี๋ยวว่าง ๆ กลับมาอ่านต่อค่ะ น่าเห็นใจค่ะ ทำงาน 9-5 ทุ่ม ใช่ป่าว นานเกินไปจริง ๆ วันละ 100 ยูเอส ไม่ไหว ๆ ทำชม.ยาวขนาดนี้ ถ้าจ้างคนที่นั่นทำคงได้จ่าย 200 ต่อวันละมั้งนี่ ดูท่าทางปัยหาเยอะจริง ๆ ค่ะ คนยิ่งมากยิ่งปัญหาเยอะ เหมียวก็เป็นคนนึงละที่เคยเข็ดการอยู่รวมกันเยอะ ๆ แค่เมื่อก่อนมาเรียนใหม่ ๆ แชร์บ้านกะเพื่อน 4 คน ขนาดเป็นเพื่อนเราสมัยเรียนที่เมืองไทย ใส่ชื่อมันลงในรายงานไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่ม จนเป็นผลให้มันผ่านวิชาแล้ววิชาเล่า จนเรียนจบ หลายครั้งทั้งใส่ชื่อในรายงานแต่ตัวมันไม่ได้ช่วยงานอะไร และใส่ชื่อให้ตอนอาจารเช็คชื่อคนเข้าเรียน... ไม่นึกว่าพอเรามาแชร์บ้านกะมันที่ออส มันจะใช้ความเป็นเพศผู้ และถือว่ามันมาอยู่ก่อน ทำตัวสารเลว สุนัข ๆ กะเพื่อนมันที่เคยช่วยมันมาขนาดนี้ได้ เหอะ ๆๆๆ งูเห่าชัด ๆ ถึงขนาดกินเสร็จแล้วทิ้งให้เราล้าง กล่องข้าวที่มันเอาไปกินที่โรงเรียนเอามาวางให้เราล้าง เราไม่ล้าง มันหาเรื่องอื่นมาเล่นงานเราต่อ คือ บ้ามาก ๆ ประมาณนี้อ่ะค่ะก็เลยทำให้เหมียวขออยู่ส่วนตัว ๆ ไม่ไปแชร์กะใครดีกว่า อืม........ ก็ยังมีคนเกลียดเราจนได้ ที่ขับรถผ่านมันรอรถเมลล์ แล้วเราไม่ได้จอดรถรับมัน ถึงขนาดนี้ก็บ้ายบายล่ะ ตัวใครก็ตัวเผือกละกัน อิอิอิ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 20 พ.ย. 49 08:31:37 A:124.183.28.134 X: TicketID:098609 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เข้ามาติดตามตลอดอ่านนะคะ คุณลูกสน ยินดีด้วยตอนนี้ได้เป็นกระทู้แนะนำแล้ว ว่าแล้วโหวดให้ความน่าติดตามคะ จากคุณ : cinnamon gum - [ 20 พ.ย. 49 12:06:31 ]