ความคิดเห็นที่ 1 text ทั่วๆ ไป --- ถ้าเข้าใจ main idea แล้ว มีว่าเป็นสิ่งดีครับ ทำให้อ่านรายละเอียดได้ง่าย แบบนี้น่าจะสนุก มากกว่าเบื่อนะครับ เพราะว่าน่าจะอ่านรู้เรื่อง และพอมีแนวทางว่าจุดไหนข้ามได้ textbook --- textbook น้ำเยอะกว่าเนื้อครับ การอ่านข้ามๆ ไปถูกต้องแล้ว ขอให้เข้าใจเนื้อหาโดยรวมก็โอเคแล้วครับ อ่านรอบเดียวไม่รู้เรื่อง --- การอ่านส่วนมากต้องอ่านมากกว่า 1 รอบครับ ยกเว้นอ่านแบบง่ายๆ หรือว่าอ่านแบบไม่ซีเรียส เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านขายหัวเราะ ฯลฯ ต้องเข้าใจก่อนครับว่า "Reading is re-reading" ยิ่งเจอ text ยากๆ ยิ่งต้องอ่านหลายรอบ แต่ส่วนมากการอ่านรอบที่ 2 จะเร็วกว่ารอบที่ 1 และรอบที่ 3 จะเร็วกว่า 1 และ 2 ครับ เข้าใจนี่ยังดีนะครับ เพราะว่าผมเคยอ่านบาง text นี่ อ่าน 5-6 รอบยังไม่เข้าใจเลยครับ (ถ้าใครจำได้ ผมเคยตั้งกระทเมื่อู้เดือนก่อนถามว่าถ้าเจอ text ยากๆ แต่ละคนมีวิธรับมือยังไง) บางคนชอบจดโน้ต บางคนชอบไฮไลท์ อันนี้แล้วแต่ความชอบครับ เมื่อก่อนผมจนโน้ต กับไฮไลท์ แต่ตอนนี้ไม่ว่าอ่านอะไรผมขอแค่ดินสอแท่งเดียวครับ ไม่เคยซื้อไฮไลท์เตอร์ หรือว่ากระดาษจดโน้ต ผมชอบ annotate มากกว่าครับ "Understanding comes in fruition only in the response" ครับ ทำไมผมชอบ annotate?  เพราะว่ามันไม่ใช่เพียงแค่สรุป (เหมือนจดโน้ต) หรือว่าเพียงแค่หาประเด็นสำคัญ (hilight) แต่การ annotate เป็นการคุยกับนักเขียนครับ (the response) ทำให้เราจำได้ในขณะืที่สนุกกับมันครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ 2 ธ.ค. 49 08:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 i feel for you. i like to read almost anything except textbooks, academic papers, and research articles. i cannot think of a word, but textbooks, research articles, etc. are way beyond dull. i think academics love pretentious language. they like to use big words. they like gobbledygook. i don't understand why they need to use big words when simpler words can be used just as effective or even more effective and are much easier for readers as myself to understand. perhaps using pompous language is the sign of being "highly educated". but if they want to educate people, why can't they just write in plain english so that people can read just once and get it?... instead, they make me bored. i'll tell you textbooks are the most effective and the most reliable anti-insomnia known to man. ;) sorry for my gibberish...i am no help, aren't i?... i'm taking one class which i should not and i'm tired of studying... จากคุณ : complainer - [ 2 ธ.ค. 49 08:38:23 A:4.155.51.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 In science, there are always technical terms specifically coined for those fields. Even native speakers have difficult time understanding those..... I don't think that I could promptly understand an article in physics at first glance either.... However if I need to learn it, I will invest more time to it.... If I don't understand one sentence, I will skip that... My understanding/answer may lie in the following sentence.... When I finish the article and there are some points that I cannot understand... I will re-read it or go to more basic sources (or cited references in those parts) about it to get a better idea/explanation about it. No pain, no gain krub.... Sorry about that... If you didn't do this, you wouldn't get better tomorrow.... จากคุณ : amatuer translator - [ 2 ธ.ค. 49 09:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 I think that to improve reading skill is to read as much as possible. For me this method proves to be useful. I tried to read textbook when I was an undergraduate. It was not easy for the first textbook, but it became tolerable for the next. I moved to reading reseach articles from professional journals when I was a graduate. Reading also cultivates into my mind vocabulary, idioms, etc. You won't believe that the for first TOEFL exam I took, there were paragraphs about buckminsterfullerene! (You mak ask about what?).  And I got accustomed to that, because I read similar articles before! 555 ดีใจจัง จากคุณ : TsPl - [ 2 ธ.ค. 49 11:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 That's one of the fact that would help you to improve your reading skill is to read but a good listening skill is a plus because once you know how to listen then you would know the words when you read them.Most importantly... read anything...try to get used to the word's meaning IN ENGLISH for example when you see the word " home"...it can mean "house" right? and "shelter" or try to picture the meaning of the word "big" "huge" "large" or "tiny" "small" "little"....I hope that would be one more way to help you na ka จากคุณ : FoneUSA - [ 2 ธ.ค. 49 12:47:18 A:75.55.157.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็มีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว เพราะสาเหตุเป็นที่คุณเป็นคนไม่ชอบอ่าน ไม่มีความอดทนในการอ่านว่างั้นเถอะ ทางแก้คือคุณต้องเลิกตั้งอคติกับการอ่านซะก่อน ทุกครั้งที่คุณ(จำเป็น)ต้องอ่าน ก็ตั้งมั่นกับตัวเองว่า "จะต้องอ่านให้จบ ค่อยๆไป ไม่ต้องรีบ" แล้วก็ตั้งใจทำอย่างที่คิดไว้ คุณต้องเอาความรู้สึก "คิดอย่างเดียวว่าเมื่อไหร่จะจบซะที" ออกไปให้ได้ก่อน ถ้าแก้ความรู้สึกนี้ได้เราว่าไม่ยาก แต่ดูเหมือนพอคุณเริ่มจะอ่าน คุณก็บอกกับตัวเองแล้วว่า "จะไม่อ่าน ให้รู้เรื่อง" เอาคะพยายามเข้า จากคุณ : อะอา - [ 2 ธ.ค. 49 13:02:25 A:141.155.24.185 X: TicketID:112262 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับผม สมัยเรียนนาคั้บ ผมก็ขี้เกียจอ่านหนังสือ ยกเว้นแต่เรื่องที่ผมชอบและสนใจจริงๆ เคสของคุณอาจคล้ายกันกับผม คือ ถ้าเราเข้าใจสารแล้ว เราจะไม่อยากอ่านน้ำอีก เท็กซ์ที่ดีจะต้องทำให้เราเข้าใจได้โดยง่าย (นี่ผมคิดแบบผู้บริโภคเน้อ)  ดังนั้น อะไรข้ามได้ก็ควรข้ามไป แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือ การอ่านข้ามคำที่ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่ภาษาเราครับ วิธีเดียวก็คือต้องแปลให้ได้ ต้องเปิดดิก แล้วจดไว้บนหัวมัน แล้วรีบๆจำให้ได้ การอ่านข้ามทั้งๆที่ยังไม่รู้ความหมายเลยจะทำให้เสียเวลาและต้องกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรเพราะแต่ละคนก็มีสไตล์การอ่านเฉพาะตัว บางคนอ่านช้า บางคนอ่านเร็ว แต่ก็อ่านรู้เรื่องได้เหมือนๆกัน แนะนำได้เพียงว่า ถ้าอยากอ่านรอบเดียวก็ให้อ่านช้าๆ ให้แน่ใจว่าเราเข้าใจและ "ได้" สิ่งที่เราต้องการจากแต่ละย่อหน้าแล้ว ค่อยผ่านไปยังย่อหน้าต่อไป ปล. คุณ คคห. 3 จงใจสะกดชื่อแบบนั้นหรอคับ???? จากคุณ : your humble servant - [ 2 ธ.ค. 49 14:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พยายาม เพิ่มขึ้นอีก คงพอช่วยได้ จากคุณ : ScaRECroW - [ 3 ธ.ค. 49 12:25:05 A:69.255.141.91 X: TicketID:117171 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ คห1 อยากบอกว่าทริกดินสอแท่งเดียวนั้นปรมาจารย์มาก เริ่ดสุดริด ที่มหาลัยมีวิชา academic writing เค้าแนะนำทริกเดียวกันกับของพี่เลยล่ะ คุยกับคนเขียน แล้วก็โน้ตไปข้าง ๆ ว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย สงสัยอะไรยังไง เวลากลับมาอ่านจะได้จำได้ว่าตอนนั้นเรามีความคิดยังไงบ้าง นอกจากที่รู้แค่ว่าคนเขียนอยากพูดอะไร เรียกกันว่าการอ่านเชิงวิเคราะห์มั้ง ส่วนตัวเองนั้นก็มีปัญหามากค่ะ แค่จะหยิบมันมาเปิดหน้าแรกยังอิดออดเลย ต้องเริ่มที่ทัศนคติอย่างที่หลาย ๆ คนบอกไว้ แฮ่ ๆๆ เรามาสู้ร่วมกันเถิด จขกท ที่น่ารัก ขอบคุณที่ตั้ง กท น้า จากคุณ : chivaya0 - [ 3 ธ.ค. 49 23:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบอ่านหนังสือทุกอย่าง ยกเว้นหนังสือเรียนเหมือนกันค่ะ บางทีอ่านจบไปแล้ว ยังงง ๆ ว่าอ่านผ่านอะไรไปบ้าง สงสัยจะต้องยืมทริก ไปใช้บ้างแล้วค่ะ จากคุณ : น้องเล็ก (sanow) - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:31:27 ]