หางานเสร็จ ก็เรื่องของลูกชายต่อ โรงเรียนที่นี่มีทุกเขต ถ้าจะเทียบก็ทุกหมู่บ้านจะมี 1 โรงเรียน โดยจะแยกเป็น Elementery, Junior High School, High School, College, University ส่วนพวกรับเลี้ยงเด็กก็มีมากมายให้เลือกว่าที่ไหนใกล้และสะดวก เพราะกฏหมายของที่นี่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี อยู่บ้านตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล ถ้ามีคนแจ้งให้ตำรวจมาดู เราอาจจะได้ย้ายไปนอนในห้องที่มีเหล็กกั้นได้นะคะ ตอนนี้ลูกชายคนโต 6 ขวบ สามารถสมัครเข้าเรียน Kindergarten ได้แล้ว ปีหน้าจะได้ขึ้น First Grade ส่วนคนเล็ก 4 ขวบต้องรอเข้า Pre-school on August 07 การสมัครเข้าเรียนก็ไม่ยาก ถ้าคุณมีเอกสารให้อยู่อเมริกาอย่างถูกกฏหมาย (ทุกอย่างถ้าคุณทำถูกต้องก็ไม่ยากคะ) โรงเรียนส่วนใหญ่ที่จะได้เรียนต้องเลือกใกล้บ้าน เพราะแต่ละเขตของบ้านจะมีโรงเรียนประจำหมู่บ้าน (เรียกภาษาบ้านเราเลยนะคะ) ตอนเราไปสมัครก็เตรียมใบจ่ายค่าไฟ+ค่าน้ำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีบ้านอยู่ในเขตของโรงเรียนจริง ส่วนของ Kindergarten จะเรียนวันละ 3 ชม. ห้องเช้าเรียน 8.30-11.30 ห้องบ่ายเรียน 12.30-15.20 โดยประมาณ บางแห่งอาจจะได้เรียนทั้งวันคือตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสาม อันนี้ไม่แน่ใจว่านโยบายของเขตหรือว่าห้องเรียนมีเด็กเยอะเกินไป ในห้องจะมีเด็กไม่เกิน 20 คน ต่อคุณครู 1 คน ผู้ช่วย 1 คน ลูกชายพอมีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองไทยมาพอใช้ได้ เลยไม่ค่อยมีปัญหาในด้านการสื่อสาร เค้าใช้เวลาปรับตัวในการฟังคุณครูพูดประโยคยาว ๆ และตอบกลับกว่าจะเข้าที่ก็ประมาณ 2 อาทิตย์ (2 อาทิตย์แรกร้องไห้ก่อนเข้าห้องทุกวันเลยคะ) ที่โรงเรียนจะมีห้อง ESL English secound language สำหรับเด็กที่พูด 2 ภาษา (ส่วนใหญ่เด็กต่างชาติ เช่น Mexican) จะต้องมาฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ลูกชายบอกว่า จะมีการสอนฟัง,พูด,อ่าน ให้แบบตัวต่อตัวที่ห้องนี้ จะใช้เวลาครั้งละประมาณ 30 นาที ตอนนี้เรียนมา 4 เดือนครึ่ง เพิ่งจะนับ 1-30 เองคะ การเรียนเค้าจะไม่เข้มงวดเหมือนเมืองไทย เรียน+เล่น มากกว่า ค่าใช้จ่าย ฟรี ตลอดคะ
จากคุณ :
แม่ไข่หก
- [
17 ธ.ค. 49 08:13:58
]