ความคิดเห็นที่ 1 Museum Studies น่าจะไปเป็นภัณฑารักษ์ จากคุณ : ฝนโอ่ง - [ 2 ม.ค. 50 21:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ง่ะ ภัณฑารักษ์ เวรกำ ทำงานอีกกี่ปีเนี่ย จะคุ้มค่าไปเรียนต่อ ความคิดเห็นต่อไปคะ ตอบหน่อยจ้า ว่าทำงานอาชีพไรได้มั่งคะ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 2 ม.ค. 50 22:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ได้ทำงานที่ชอบ ก็คุ้มค่าไปเรียนต่อแล้วครับ เงินเดือนเริ่มต้นไม่ใช่สิ่งที่จะบอกว่าคุ้มค่าหรือไม่ จากคุณ : Tony Almeida - [ 2 ม.ค. 50 23:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Happiness is learning and doing what you love.. Museum Studies - curator, public programs officer, exhibition officer. Real Estate - I don't really know about this, but I guess you could be a realtor? จากคุณ : noname - [ 3 ม.ค. 50 01:11:07 A:68.167.88.162 X: TicketID:131100 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไปเรียนไม่ได้เพื่อหาเงินอย่างเดียวนะคะ ไม่งั้นเรียนจบก็เล่นหุ้นอย่างเดียวเลยดีมั้ย ^^'' จากคุณ : shory - [ 3 ม.ค. 50 03:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 -*- จริงๆตอนแรกคิดแค่ว่าจะไปเรียน ก็ เพื่อเรียนในสิ่งที่อยากจะเรียน แต่มีคนรู้จักเค้ามาบอกว่า คณะที่เลือกจะเรียนเมืองไทยมันไม่มีสอนนะ แล้วจะหางานทำได้เหรอ ก็เลย จิตตก เลยมาลองถามๆดูค่ะ ว่ามันพอจะมีงานทำมั่งมั้ย คณะพวกนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้สนใจมากว่าจบแล้วงานจะมีมากมายมั้ย เพราะอย่างไรก็ตามมีงานประจำของที่บ้านต้องช่วยดูแลอยู่แล้ว ส่วนการไปเรียนแค่เพิ่มพูนความรู้ และได้ศึกษาสิ่งที่ชอบอย่างจริงจัง แต่ก็อีกนั่นละค่ะ กลัวจะกลับมาแล้วไม่มีงานทำค่ะ ไม่อยากให้แม่ของเพื่อนมาพูดได้ว่า อุส่าได้ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา แต่กลับมาไม่มีงานทำ (ได้ข่าวว่าเค้าพูดไปแว้วว ทั้งๆที่ยังไม่ทันส่งใบสมัครไปสมัครเลย แอบเสียเซลฟ์นิดนึงส์) พี่ๆที่มาตอบหลังๆ แนะนำด้วยนะคะว่า Museum Studies จบมาทำงานอะไรได้มั่งคะ คือชอบสาขานี้ค่ะ แต่ยังดูลู่ทางไม่ได้เลยว่าจะทำงานอะไร ด้วยความที่ว่า ไม่ค่อยเข้าพิพิธภัณฑ์ในไทยเลยค่ะ เพราะเคยเข้าไปแล้วมันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ การจัดแสดงต่างๆอ่าค่ะ แต่ที่เลือกสาขานี้เพราะเคยไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเห็นเค้าทำน่าสนใจมากๆค่ะ รัก + หลงไหลมากๆค่ะ พื้นเดิมเป็นคนชอบของเก่าๆ ชอบอะไรที่มันบ่งบอกถึงความเก่าแก่ มันมีความขลังในตัวของมันเอง รู้สึกมีความสุขที่ได้เดินดูของเก่าๆ มีความสุขที่ได้ไปเที่ยววังเก่าๆ มีความสุขที่ได้ไปเดินวัดชัยวัฒนาราม ถึงจะเหลือเพียงก้อนอิฐ แต่เวลาไปแล้วมันรู้สึกดีที่ได้มาเดินอยู่ในที่แห่งนั้นค่ะ ความฝันลมๆแล้งๆ เมื่อตอนไปลูฟว์(ตอนนั้นอยู่ ป.6)คืออยากจะทำงานที่ได้อยู่ที่นั่นทั้งวัน อยากตื่นเช้ามาแล้วได้เจอ โมนาลิซ่า เจอวีนัส แบบว่า อยากสัมผัสความรู้สึกแบบนี้มากๆอ่านะ ไม่ทราบว่าทุกๆคนเป็นกันมั้ย เวลาไปดูงานตามพิพิธภัณฑ์แล้วจะรู้สึก เหมือนเราหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง สำหรับเราอารมณ์แบบหลงไหลเลยง่ะ ถ้าเป็นอาหารก็ทานเท่าไหร่ไม่เคยพอ มันฝังใจ ถ้ามีโอกาสอยากไปลูฟว์อีกสักครั้งก้ยังดี บริติช มิวเซี่ยม ด้วยรู้สึกตอนเด็กๆที่ไปมันยังไม่เต็มสุดๆอ่านะ มันขาดๆ อ้อ แวร์ซายส์ด้วย ชอบอะไรสวยงาม เก่าๆ ชอบประวัติของพวกนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 3 ม.ค. 50 03:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรียนจบ museum studies มาแล้วจะได้มาช่วยพัฒนาพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยไงคะ   คิดอีกด้านว่าเรียนสาขาที่ไม่มีสอนในเมืองไทยกลับเป็นเรื่องที่ดี   ที่เมืองไทยไม่ค่อยมีพิพิํธภัณฑ์ดีๆ ก็เพราะขาดบุคลากรที่มีความรู้และเข้าใจในงานด้วย   (ไม่นับที่ทางการไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ นักการเมืองเอาเงินไปโปะกับสิ่งไร้สาระที่อาจจะทำเงินมากกว่า)   ปัจจุับัน museum ที่มีอยู่ส่วนใหญ่ ก็แค่เอาของมาวางๆ กองๆ ไม่มีการจัดวาง (display) อย่างน่าสนใจ ไม่มีการให้ข้อมูลอย่างมีระบบ  ไม่มีการทำประชาสัมพันธ์ที่ดีที่จะดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามาชมและบริจาคเงิน   มีส่วนน้อยมากที่จะออกแบบอาคารหรือบริเวณจัดแสดงให้เข้ากับวัตถุและเรื่องราวที่นำเสนอ   ถ้ามีคนที่มีความรู้ในเรื่องนี้โดยตรง น่าจะช่วยผลักดันให้มีโครงการดีๆเกิดขึ้น   หรือพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้วให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นนะคะ ถ้าไม่ทำงานใน museum โดยตรง ก็น่าจะเอาความรู้ไปใช้เกี่ยวกับงาน cultural management ต่างๆได้ด้วย จากคุณ : frappuccino - [ 3 ม.ค. 50 04:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฟังแล้วก็อยากเชียร์ให้เรียน museum studies ด้วยคนครับ...ถ้าทางบ้านไม่เดือดร้อนก็ไปตามที่ฝันไว้เถอะครับ... ลองหางานที่เมืองนอกหาประสบการณ์แล้วเอาไปปรับปรุงให้พิพิธพัณฑ์ไทยดี เที่ยบเท่่าของต่างชาติจะได้ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และ แหล่งศึกษาหาความรู้ของเด็กๆอนาคตของชาติต่อไปครับ อยากบอกเหมือนกันว่าไปเที่ยวต่างประเทศ เข้าพิพิธภัณฑ์ของเค้ามานับไม่ถ้วน แต่ยังไม่เคยเข้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเลย น่าอายจริงๆ แต่เมืองไทยไม่มีการโปรโมท ไม่มีจัดนิทรรศการให้เป็นที่น่าดึงดูดเลย จากคุณ : สู้ สู้ ครับ (eulog) - [ 3 ม.ค. 50 06:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยค่ะ ถ้าชอบแล้วก็ไม่ติดปัญหาภาระทางบ้านอะไร ก็อยากเชียร์ให้เรียน museum นะคะ จะได้กลับไปพัฒนาพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งทางโบราณคดีของไทย เราเองก็เป็นค่ะ รักมากๆเลย อ ยุ ธ ยา เวลาไปทีไรก็เคลิ้มทุกที มองอิฐ มองปูน แล้วก็นึกถึงอดีต แต่อย่าลืมนึกถึงกิจการที่บ้านด้วยนะ ในความเห็นเรา ต้องพัฒนากิจการ- ต่อยอดให้ครอบครัวไปพร้อมๆกับตามฝันของเราด้วย มันถึงจะอยู่ในโลกความจริง ถึงความเห็น 8 : เราไปมาแล้วนะคะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถึงจะโดนถามตลอด ว่าไปทำไม ไปทำรายงานอะไรเหรอ^^" จากคุณ : AnEsthESia @ Amberley Way - [ 3 ม.ค. 50 07:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อาจจะออกนอกเรื่องไปหน่อย  แต่ว่าพออ่านแล้วนึกถึงหนัง Night at the Musuem เราว่าหนังสนุกดี น่ารัก แฝงเรื่องราวพ่อลูก เพื่อน...เนื้อหาก็เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ด้วย จขกท ไปดูยังค่ะ จากคุณ : AccordingTo - [ 3 ม.ค. 50 08:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย เหมือนมีคนที่เข้าใจจ๊ะอยู่ในโลกนี้ด้วย จากเมื่อคืนเครียดๆ แบบว่า อยากเรียนสาขานี้ตั้งแต่ปริญญาตรีใบแรกแล้ว แต่แม่ไม่อยากให้ไปนอกตอนยังเด็กๆค่ะ ตอนนี้ฮึดแล้ว ไม่แน่อาจจะเอาตรีอีกใบเป็นสาขานี้ แบบที่เค้าเรียน 5 ปีแล้วได้ตรีกับโท อยากจะ เอกซ์เปิร์ทด้านนี้ไปเลยค่ะ เคยไปดูพิพทธภัณฑ์สถาณแห่งชาติมาแล้วค่ะ รู้สึกว่าเค้าเอาของมาวางๆแล้วบอกว่าอันนี้ใช้ทำไร แต่มันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยค่ะ เหมือนโรงเก็บของเก่ามากกว่า ถ้าไปเรียนแล้วสามารถกลับมาพัฒนาได้ก็น่าสนใจนะคะ อ้อ อีกที่ก็พิพิทธภัณฑ์เครื่องถ้วยของที่มหาลัยค่ะ จัดสไตล์ของต่างประเทศเลย แนะนำนะคะ ใครชอบดุของเก่าๆ เชิญที่ มหาทิยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขต รังสิตค่ะ มีเครื่องถ้วยสวยๆเยอะ การจัดแสดงน่าสนใจค่ะ ใช้แสดงสวยมากๆเลยละค่ะ มีประวัติบอกด้วย ละเอียดพอตัวเลย เพราะมีชาวต่างชาติมาเป็นผู้จัดตั้งค่ะ พอดีมีช่งนึงไปเดินเล่นบ่อยๆเวลาว่างๆ ก็เจอเค้ามาทำลิสตืของเลยรู้ว่าอ๋อ มิน่าทำไมจัดเหมือนเมืองนอกเลย อย่างนี้นี่เอง จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 3 ม.ค. 50 14:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หาทางสายกลางสิ เอาแบบ Interdisciplinary มีหลายมหาวิทยาลัยที่อนุญาตให้เลือกแบบผสม ๆ ได้ อย่าไปห่วงชื่อใบปริญญา แต่ห่วงวิชาที่จะไปเรียนจะดีกว่า ถ้าไม่ได้เรียนศิลปะอย่างเดียว แต่เรียนบริหารธุรกิจ การตลาด บางวิชาไปด้วย มีหลาย ๆ คนเรียนสิ่งที่รักและไปได้ดีมากมาย เรียนออกแบบเฟอร์นิเจอร์แต่ก็มาเปิดบริษัทเฟอร์นิเจอร์ได้ แน่นอนนอกจากความรู้เฉพาะทางแล้ว สิ่งที่ควรจะมีก็คือ ความสามารถในการบริหารงาน (เอาเข้าจริงมาลงคอร์สที่ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ หรือที่ไหนก็ได้เปิดที่กรุงเทพฯ เรียนแบบเสาร์ อาทิตย์ก็พอ) คุณน่ะโชคดีแล้ว ที่รู้ว่าชอบอะไรแต่เด็ก และยังลุ้นที่จะทำ ผมสิ รู้ว่าตัวเองชอบหลายอย่าง แต่ไม่ได้ทำ เสียดายเวลามาก ๆ กว่าจะรู้ว่าชอบอะไรก็ยี่สิบกว่าแล้ว พอเลยวัย เรียนสูงจะไปทำก็ยาก เช่น อยากเป็นไกด์ ล่ามแบบเด็ก ๆ เที่ยวแบบถึงลูกถึงคน แต่เรียนมาจนเอ็ม บี เอ สองใบ ไปถึงบริษัท โหย มีแต่เด็ก อายุยี่สิบหน่อย ๆ ทั้งนั้น จากคุณ : 1234 - [ 3 ม.ค. 50 16:24:22 A:58.181.184.103 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ เหอะๆ ปีนี้จ๊ะก็ 21 แล้วค่ะ แต่ไม่เคยคิดว่าอายุมันจะเป็นปัญหาในการเรียน เรียนเมื่อพร้อม เรียนเมื่ออยากจะเรียนค่ะ ตอนนี้อยากจะเรียนก้จะทำให้เต็มที่ พอไม่อยากจะเรียนแล้วก็ลุยทำงานค่ะ เมื่อเจอกองไฟอีกเมื่อไหร่ก็อาจจะกลับมาเรียนอีก ชวิตจ๊ะคงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ โดยพื้นไม่ค่อยอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่บางสิ่งที่คิดมากมายก็เพราะคนรอบข้างมาเป่าหูค่ะ เหอะๆ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 3 ม.ค. 50 17:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #10 เพิ่งไปดูเรื่องนี้มาเหมือนกันค่ะ คนที่เรียน museum studies ได้ ต้องชอบ history ด้วยแหละเราว่า ^^ จากคุณ : PoUpeE - [ 4 ม.ค. 50 01:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากเรียน virtual museum จากคุณ : parn (componice) - [ 4 ม.ค. 50 11:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมืองไทยมีบริษัทออกแบบexhibition พอสมควรน่ะครับ ที่รับทำงานออกแบบ museum ก็พอมี จะเอาแบบ"เหมือน" เมืองนอกสักแค่ไหนก็ได้ เห็นมีแบบ"เหมือน"เมืองนอกเต็มไปหมด ถ้าชอบแนวนั้น น่าจะเริ่มจากหาข้อมูลของคนทีทำงานแนวนี้ก่อน แล้วค่อยไปเริ่มว่าจะไปเรียนแนวไหนถึงกลับมารับงานแบบนั้นในเมืองไทยได้ (นอกจากหน้าตาของงานที่เหมือนในหนังสือต่างประเทศแล้ว เมืองไทยไม่มีอะไรเหมือนเมืองนอกสักอย่าง โดยเฉพาะวิธีเข้าหาผลประโยชน์หรือเข้าหางานจากผู้มีอำนาจ) แต่ปัญหามันน่าจะอยู่ที่การวาง content มากกว่า จะว่าไปก็เหมือนการเขียนบทในหนัง ซึ่งหาดีดียากมากมากในบ้านเรา ส่วนมากก็คือนำเข้ามาแต่เปลือกและผิวของการจัดนิทรรศการ ซื้อเทคโนโลยี่เข้ามา(แบ่ง%กันกับคนมีอำนาจอีกที) แล้วก้ทำทำไปให้มันดูเหมือนหนังสือ ดังนั้นถ้าสนใจทำงานแนวนี้ ก่อนอื่น น่าจะรู้ก่อนว่าคุณต้องรู้อะไรบ้าง แล้วคนอื่นที่ทำอยู่เขารู้อะไรบ้าง จะได้ไม่เสียเวลาพายเรือในอ่างครับ คนเก่งๆเรื่องนี้เมืองไทยเยอะครับ แต่คนเก่งๆที่ได้โอกาสเข้าไปรับงานจากหน่วยงานต่างๆ แทบไม่มี มันเลยเป็นแบบที่เห็นมากกว่า จากคุณ : ein. - [ 4 ม.ค. 50 14:34:16 ]