ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาดูสาว ๆ ส่วนตัวเจอแบบสองกับสามเยอะสุด ไม่เคยเจอแบบแรกเลยครับ ฮาๆ ขึ้นกับฐานะกับงานที่ทำด้วยป่าวครับ ตอนเรียนจำได้ว่ามี อ.คนหนึ่งแต่งตัวดีมาก (จำไม่ได้แล้วว่าเป็น ดร.หรือปล่าว อยู่สถาบันภาษาจุฬา ฯ) แต่เคยเห็นแกขับ เบนส์ sport สองประูตู S-class มา ก็เลยสงสัยว่าแกคงมีฐานะ ที่จะ afford พวก brand name ได้ ถ้า ดร.ตามมหาลัยอาจจะหาแบบ 1 ยาก ลองไปดูพวก ดร.ตามบริษัทเอกชนหรือพวก consulting, law firm สิครับ ผมว่าอาจจะมีนะ เพราะเขาต้องแต่งตัวสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีครับ จากคุณ : ฺB.F.Pinkerton (กายทิพย์) - [ 20 ม.ค. 50 00:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนสมัยเรียนนะ จะเป็นแบบที่สาม เพราะไม่มีเวลาจะให้กับภาพลักษณ์ ลูกกับสามี แล้วก็เรียนอีก ก็ไม่มีเวลาประทินโฉมตัวเองเลย เวลาไปเรียน คือเสื้อยืดแบบ T-shirt เลย และกางเกงยีนส์ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ใส่อย่างนี้ (ที่ฝรั่งเศส) ตอนนั้นคิดแบบที่เขียนจริงๆ ว่า "คุณจะไม่ชอบเป็นอย่างยิ่งถ้ามีใครมาตัดสินคนด้วยภายนอก ในชีวิต PhD ของคุณ แค่มี sweat and jeans ก็พอแล้ว" ซึ่งก่อนเรียน ตอนทำงานที่เมืองไทยนี่ เปรี้ยวสุดๆ นะ ก็เรียกว่าในแต่ละช่วงชีวิตให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์แตกต่างกัน ขึ้นกับเวลาและบทบาทหน้าที่ในขณะนั้นด้วย ซึ่ง 3 ปีของการเชยสุดๆ ทำให้พอช่วงหางานนี่แต่งตัวไม่เป็นเลย ตามแฟชั่นไม่ค่อยทัน พอทำงาน จะเป็นแบบที่สอง คือแต่งบ้าง (อยากแต่งเยอะ แต่แต่งไม่เป็น) อยากสวยบ้าง กำลังพยายามอย่างหนักอยู่ ไม่รู้จะปรับปรุงได้สักเท่าไร หาซื้อหนังสือมาอ่านเลยนะ อยากจะให้เป็นแบบที่สามในที่สุด ถึงอายุไม่ให้แต่ใจรัก อยากให้คนที่ทำงานด้วยสดชื่น เวลาไปพบใคร ก็อยากให้เขาเป็นแบบที่คุณเขียนคือ "แล้วเขามองอย่างไม่เชื่อ (แบบ good disbelief นะ) เพราะผมก็ไม่กระเซิง หน้าตาก็ไม่ปล่อยให้จืดชืด เสื้อผ้าก็ไม่ตกยุคไปเกินสองซีซั่น" ปัญหาคือ ไม่แต่งหน้ามานานมาก จนแต่งไม่เป็น เวลาทาหน้า ใส่ลิปสติก ดูตัวเองยังว่าแปลกเลย ก็ไม่มั่นใจ แต่ตอนนี้กำลังพยายามเรียกความมั่นใจกลัยคืนมา ถ้าเด็กกว่านี้อีกสิบปีนะ หรือถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตอนเนื้อหนังยังไม่เหี่ยวเหมือนตอนนี้ จะแต่งตัวให้สวย จะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ทำแล้วสุขภาพจิตดี เห็นตัวเองดูดีในกระจกก็รู้สึกดีแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาชมก็ได้ เลยโหวตไม่ได้เลย จากคุณ : พธูไทย - [ 20 ม.ค. 50 05:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ชอบๆๆๆ เข้ามาดูๆ อิอิ ชอบกระทู้นี้ จัง แต่โวตไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนเดอร์เตอร์ หุๆ จากคุณ : LittleCho - [ 20 ม.ค. 50 16:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อ ๓ ค่ะ แต่ไม่ขนาดในรูปตัวอย่างอะ อยู่นี่ไม่ค่อยได้แต่งตัวเหมือนเมืองไทย พูดแล้วคิดถึงร้านทำผมที่เมืองไทย พอเครียดๆทีไรก็เข้าร้านประจำให้เค้าสระผมนวดหัวนวดคอ โอ๊ยมีความสุข อยู่นี่เวลาเครียดก็แทะช็อคโกแลต กินไอติม -_-" เจออาจารย์ทีก็หัวฟู แต่ถึงอย่างไรข้าพเจ้าก็เป็น Ph.D ที่สวยที่สุดในกลุ่ม อิอิ เพราะมีผู้หญิงอยู่คนเดียว :-P จากคุณ : LWWW - [ 20 ม.ค. 50 20:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฟังคุณพธูไทยพูดแล้วเสียดาย น่าจะเพิ่มข้อ all of the above ไว้ด้วย จริงๆเลือกข้อที่ชอบที่สุดก็ได้ค่ะ ที่เขียนไว้เป็นแนวทางเท่านั้น ถ้าคิดว่าตัวเองเหมือนข้อไหนมากที่สุดก็เลือกไปเลย สำหรับเรา เราว่าตัวเองเป็นแบบ 2 นะ แต่เพื่อนจะชอบว่าเราเป็นแบบ 1 เลยสรุปว่าเราเป็นแบบสองค่อนไปทางหนึ่ง เลยเลือกข้อสองละกัน เราจะเข้าโหมดข้อสามต่อเมื่องานมันเร่งมากๆ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันถ้าเป็นแบบนั้น บอกตรงๆอย่างไม่อายเลยว่าไม่ค่อยกล้าออกจากบ้าน เวลาทำงานเสร็จเมื่อไหร่ จะเข้าโหมดหนึ่งทันที คว้ากระเป๋าขึ้นรถเมล์มุ่งตรงสู่ oxford street ทันที ซื้อไม่ซื้อเป็นอีกเรื่อง ขอให้ได้ดูหน่อยเถอะว่าตอนนี้ร้านนี้ออกเสื้อตัวไหนมา เราชอบอ่าน elle  ด้วยสิ แต่จะว่าไปเราก็เคยมี elle woods moment  เหมือนกันนะ คือเราจะชอบพกปากกาสีๆ จะมีบางอันเป็น glitter สีมวงสีชมพู ทีนี้วันนึงเราไปฟัง conference ที่มหาลัยที่ Homi Bhabha มาพูด Bhabha นี่คือหนึ่งในสุดยอดปรมาจารย์ทาง post/colonial/cultural studies ของยุคนี้เลย ตอนนี้สอนอยู่ Harvard ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงนักวิชาการที่ดังมากๆของสายคุณเอาไว้ (ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก) ซึงดิสเซอร์ของเราก็ใช้ทฤษฏีของแกอยู่บ้าง เลยไปฟัง ตอนจบงาน เราก็ไปขอลายเซ็นเค้า ให้เค้าเซ็นบนหนังสือของเค้าเราซื้อมาน่ะแหละ แต่ทีนี้เราไม่มีปากกาเหมือนผู้เหมือนคนซักเท่าไหร่ หยิบขึ้นมาอันแรกเป็นสีชมพู เราก็หันไปยิ้มแหยๆกับเค้าว่า เอ่อ จะรังเกียจไหมถ้าจะต้องเซ็นด้วยปากกาสีชมพู (คิดตามนะคะ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักวิชาการอันดับต้นๆของสาขาคุณ) เค้าก็มองแบบ... (เราคิดเองว่าเค้าคงมองเราหัวจรดเท้าแบบในใจ) แล้วเค้าก็เอาไปเซ็น แต่ทีนี้หมึกมันดันไม่ออก เค้าก็ถามว่ามีแท่งอื่นไหม เรากบอกว่ามีแต่สีม่วง เค้าก็ทำหน้าแบบเสียไม่ได้ปนขำๆ แอบกัดเราว่า ดูสิ เค้ามีปัญญาส่งคุณมาเรียน แต่ไม่ให้เงินคุณมาซื้อปากกาดีๆซักแท่ง เราก็ อยากหัวเราะอะ แต่หัวเราะไม่ออก คิดไปถึงปากกาสีชมพูหวานแหววมีขนนกติดของยาย elle woods แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า เออเนอะ เราก็มาชอบมีของแบบนี้ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เราก็เลยได้ลายเซ็น Homi Bhabha สีม่วงแบบมีประกายสีเงินวิบวับมาประดับอยู่ปกในหนังสือ The Location of Culture ด้วยประการฉะนี้เอง จากคุณ : Sa-idian - [ 20 ม.ค. 50 21:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ ลายเซ็นเท่มั่กมาย เรายังเรียนอยู่เลย... ตั้งแต่เกิดจนโตเป็นแบบ ข้อ 3 ตลอด ...มันเป็นนิสัยไปแล้ว เพื่อนยังถามอยู่ว่าเมื่อไหร่จะโตเป็นสาวซักที =_=' ตอนแรกเคยคิดว่าเรียนจบตรีทำงานแล้วคงหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ก็เปล่าเลย... นี่กลับมาเรียนอีกรอบ ก็คิดอยู่ว่าถ้าเรียนจบคราวนี้แล้วน่าจะหันมาดูแลตัวเองบ้างนะ (แต่ก็คิดว่าคงเหมือนเดิม =_=') จากคุณ : r k i - [ 21 ม.ค. 50 00:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าอย่างนั้น โหวตข้อที่ 1 ค่ะ เพราะจริงๆ แล้วชอบและอยากแต่งตัวสวยๆ ให้คนตะลึง ตอนนี้ถ้าทำ คนคงจะตะลึงเหมือนกัน แต่แบบแปลกๆ นะ เพราะเขาคงยังไม่ชิน ตัวเองก็ยังไม่ชินเหมือนกัน เสียดายจริงๆ อยากย้อนเวลากลับไปมากๆ เลย รู้สึกว่าช่วงที่ตัวเองโทรมเนี่ย เป็นช่วงที่น่าเสียดาย น่าจะดูแลตัวเองมากกว่านี้ ตอนนี้คงยังไม่สาย จากคุณ : พธูไทย - [ 21 ม.ค. 50 17:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราเป็นมันทั้งสามแบบ ขึ้นกับสถานการณ์ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบสอง แบบสามนี่ตอนทำ lab เลย เอาง่ายเข้าว่า แบบหนึ่งมีน้อยครั้ง แต่มีบางอารมณ์เหมือนกัน แบบอยากสวยพิเศษ จนคนรอบข้างเหลียวมอง สงสัยว่าอะไรเข้าสิงมัน การดูแลตัวเอง  ผิวพรรณ การแต่งตัว ทำให้สดชื่นขึ้นค่ะ มันไม่ได้ทำให้คิดงานออก แต่ทำให้อยู่กับมันอย่างไม่เคร่งเครียด   สนัยสนุนให้การเรียนรู้อยู่คู่กับความสวยค่ะ จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise - [ 21 ม.ค. 50 21:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เหอๆ เรามีโหมดแบบ1 กับแบบ 3ค่ะ สุดโต่งไปเลย โหมดอยู่บ้านจะเป็นแบบ 3 หัวกระเซิง หน้าตาไม่แต่ง หมีแพนด้า บางทีใส่แต่ชุดนอนทั้งวันทั้งคืน กินแต่มาม่า อิอิ  แต่พอไปมหาลัย ขอแอบแต่งตัวหน่อยค่ะ  เวลาแนะนำตัวเอง นี่ๆเรียนเอกสาขานี้ คนก็จะมองแบบ เธอเนี่ยนะเรียนเอกเหรอ คือสามารถใส่บูทส้นเข็ม ถีบจักรยานไปเรียนได้ค่ะ  ที่โต๊ะเราก็จะมีของเล่นเยอะหน่อย ที่แน่ๆ มีขนม low fat หลากหลายยี่ห้อและ herbal tea อีกเพียบ แต่คงไม่ขนาด Elle ค่ะ นั่นก็เกินไป แต่ขอดูดีนิดนึง ไหนๆก็ออกบ้านแล้ว  ถ้าหน้าตาโทรมจะหดหู่อ่ะค่ะ ส่วนอยู่บ้านก็ไม่เป็นไร พยายามไม่ดูกระจกเอา จากคุณ : MissDenning - [ 22 ม.ค. 50 05:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชีวิตนี้เครื่องสำอางค์ไม่เคยได้แอ้มเราหรอก ตอนเรียนโทมีโอกาสเป็นแบบที่หนึ่งบ้างเพระหุ่นให้ใจรัก พอมาเรียนเอกชีวิตนี้มีแต่กางเกงยีนส์เสื้อยืด แบบว่าลูกสาวขโมยซีนการแต่งตัวไปหมด อาศัยว่าอันไหนซักแล้วใกล้มือก้อหยิบเลย เคยมาแล้วไปพบซุปสามอาทิตย์ติดกันใส่เสื้อตัวเดิมเลย มารู้ตัวตอนซุปแซว ยูท่าจะชอบเสื้อตัวนี้มาก โอยแม่เจ้า แทบจะถอดทิ้ง แต่อาทิตย์ถัดไปก้อยังเผลอหยิบ อิอิ แหม ก้ออยากจะกลับไปเป็นแบบที่หนึ่งน่ะนะ แต่ว่าเวลาไม่อำนวย แถมอากาศก้อไม่เอื้อ อากาศที่นี้มันอึมครึม เอาแน่เอานอนไม่ได้ อิ อิ อีกที จากคุณ : @norwich - [ 22 ม.ค. 50 13:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หุหุ ...มะได้เป็นสาว PhD ...แต่อยากแจม พยายามจะเป็นข้อ 2 แต่ออกมาเป็นข้อ 3 ทุกทีเลย ให้ตายสิ จากคุณ : shory - [ 22 ม.ค. 50 23:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านข้อ1แล้วตรงทุกอย่างเลย ปากกาก็มีห้อยๆ หมึก glitter ก็มีทุกสีมีเป็นกระเป๋าเลยค่ะ ฮ่าๆ ยกเว้นตรงที่ไปพบ PI ไม่ได้พิถีพิถันอะไรเป็นพิเศษ เพราะปกติก็พิถีพิถันอยู่แล้วค่ะ ฮา ใช้ ibook เหมือนกัน แต่อยากเปลี่ยนเป็น macbook แล้ว ^^ เราว่าการช้อปปิ้งและการแต่งตัวทำให้ชีวิตไม่เครียดดีค่ะ :) จากคุณ : Little Red Riding Hood - [ 23 ม.ค. 50 09:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยีนส์ ยืด เสื้อหนาว รองเท้าผ้าใบ ทุกวันเลยอ่ะ อยากสวยบ้างแต่ต้องทำแลบอ่ะ เลยโทรมทุกวันเลย เอาแลบมาอ้างงั้นแหละค่ะ ปกติก็เซอร์ๆอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : kleine - [ 23 ม.ค. 50 18:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 No 2 ka (improves from no3)... I'm quite lazy  and down to earth person but  my classmates (and most of them are italian women) are very trendy, so I do take care of my looking  more than when I was in Thailand... I cannot imagine myself being like Elle Wood  :P จากคุณ : Minnie the Pooh - [ 24 ม.ค. 50 07:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Like this kratoo . Umm definitely #1 ka. ให้สมกับที่เพื่อนๆตั้งฉายาว่า หน้าบัญชี ดีกรีวิศวะ 555 (เอ่อ จริงๆแล้วก็ไม่ได้ใกล้เล้ยยยยย  แต่เพื่อนๆเรียกเอามันส์ไปอย่างนั้นอ่ะ) P.S. modeนี้ยกเว้นช่วงจิตตกค่ะ จากคุณ : Guiness Draft - [ 24 ม.ค. 50 12:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยก่อน Master/PhD เป็นแบบ 3 ค่ะไม่ค่อยแต่งตัว (อิอิ) แต่สมัย Master/PhD เป็นแบบ 2 ค่ะ เพราะมหาลัยฝึกให้แต่ง (^^') คือที่มหาลัยชอบฝึกให้เข้าสังคมไปด้วยน่ะค่ะ เช่นมีการให้ไปนั่งโต๊ะ high table มี dress code หรือกิน formal hall ฝึกหยิบช้อนหยิบซ่อม ฝึกวางตัววางบุคลิก มีอาจารย์มาคอยสอนเป็นหลักสูตรบุคลิกภาพ(ฟรี) วิจารณ์การแต่งตัวเวลาไปติดต่อคน ให้ฝึกออกเสียง เดิน พูด ทำงานกลุ่ม แสดงความคิด ต่อรอง ตอบคำถาม ฯลฯ เลยพอเป็นขึ้นมาบ้าง... (แต่ก็ไม่ถึงกับให้แต่งตัวตลอดเวลา คือสอนแค่ว่าตอนจะเนี๊ยบ การวางตัวเนี๊ยบควรเป็นยังไง ตอนไปคณะจะหัวฟูครูไม่ว่า แต่ถ้านัดกินข้าว formall hall ถ้ามาไม่เรียบร้อย ครูจะดุ) ถึงวันนี้ยังนึกขอบคุณมหาลัยฯ ไม่หาย ที่ไม่ได้สอนเรื่องเรียนอย่างเดียว @^_^@ จากคุณ : ไร้นาม - [ 28 ม.ค. 50 15:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอปิดโหวตเลยละกันนะคะ สรุปว่าสาวๆ PhD ห้องนี้เป็นประเภทสอง คือประเภทน่าเบื่อ เอ้ย ได้ทั้งสองแบบเป็นส่วนใหญ่ จริงๆก็ดีแล้วล่ะค่ะ ที่ดูแลตัวเอง ยิ่งผู้หญิงแก่เร็วกว่าผู้ชายด้วย พูดไปก็คิดไปว่าผู้หญิงนี่เสียเปรียบจริงๆ องเปรียบเทียบอาจารย์ผู้ชายกับผู้หญิงอายุเท่าๆกันดู ถ้าประมาณซักสามสิบกว่า อ.ผู้หญิงอาจจะโดนนินทาว่าเป็นป้าได้ แต่ไม่เห็นมีใครว่าอ.ผู้ชายว่าเป็นลุงเลย จากคุณ : Sa-idian - [ 29 ม.ค. 50 02:36:54 ]