ไม่รู้ว่าชะตากรรมเล่นตลกอะไร ฉันเจอกับสามีเมือสมัยเรียนอยู่เมืองนอก คบกันมา 5 ปี ทางบ้านฉันรับรู้ทั้งหมดและไม่ว่าที่จะคบต่างชาติ แต่ทางบ้านแฟน รับไม่ได้ ถึงขนาดตัดพ่อ แม่ ลูกเลยทีเดียว แต่เป็นเพราะรักทำให้ฉันตาบอด และดูเค้ารักฉันมากด้วย ฉันลาออกจากงานและย้ายมาอยู่กับเค้าที่ญี่ปุ่นและจดทะเบียนสมรสกันที่นี่ เค้าไม่เคยพาฉันไปที่บ้านพ่อแม่เค้าเลย แค่บอกว่ายังไม่ถึงเวลา ยังไม่พร้อมจนกระทั่งปีที่4 ฉันท้อง ถึงพาไปแนะนำ หลังคลอดลูกได้แค่ห้าเดือน เริ่มทะเลาะกันรุนแรง ฉันงอนและบอกว่าจะพาลูกกลับเมืองไทยแบบไม่มีกำหนดกลับ(จริงๆคิดว่าแค่เดือนเดียว) เค้าเริ่มไม่กลับบ้าน โทร เข้ามือถือก็ไม่รับ กลับถึงบ้านเช้าอาบน้ำแล้วออกไปทำงาน ฉันเริ่มสงสัย ดูอีเมล์ในมือถือแล้วไม่อยากจะเชื่อว่า มีผู้หญิงส่งมาว่า ฉันรักเธอ ตอนที่รู้ว่าเค้ามีชู้ อีกเพียงไม่กี่วันฉันก็จะต้องกลับเมืองไทยกับลูก จะคืนตั๋วก็ไม่ได้แล้ว ก็เลยจำใจกลับไปเดือนนืง กลับมาที่นี่เค้าขนเสื้อผ้าออกไปอยู่ข้างนอก แยกกันอยู่ราว สองสามเดือน ฉันเรียกเค้ามาคุย เค้าว่าผู้หญิงที่มาชอบเค้าเป็นคนที่ทำงานเก่า และเค้าไม่ได้ยุ่งด้วยแล้ว เค้ากลับมาอยู่ที่บ้าน พาฉันกับลูกออกไปเที่ยว ในระหว่างนี้ฉันไปยื่นขอวีซ่าถาวรด้วย ฉันคิดว่า เค้าคงเลิกกันแล้ว ปรากฎว่าเค้าบอกว่าเค้าไม่รักฉันแล้ว หลังจากที่วีซ่าถาวรผ่านเค้าอยากให้ฉันหย่า เค้าจะจ่ายค่าเรียนให้ลูกจนโตและฉันยังได้เงินช่วยจากทางรัฐอีก และยังบอกอีกว่าสัญญาเช่าบ้านกำลังจะหมด เค้าอยากให้ฉันย้ายออกไปอยู่ที่ไหนก็ได้กับลูก เค้าจะย้ายไปอยู่วันรูมเอง ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าจะทำยังงัย หลักฐานตอนแรกก็มีแต่เบอร์โทรของยัยคนนั้น แต่หลังจากที่สามีกลับมาอยู่ด้วย(ก่อนย้ายบ้าน) ฉันพยายามแอบค้นหลักฐาน
1.พบตารางวันและเวลาทำงานของเค้าและเมเนเจอร์ผู้หญิงที่ทำงานด้วยกัน วันหยุดและเวลาทำงานตรงกันหมด(ที่ทำงานมีเมเนเจอร์ผู้ชายสองคน ผู้หญิงสองคน)เค้าเป็นGM
2.พบในmemory stick ที่ลืมไว้ที่คอม เป็นตาราง trip ไปHawaii(ไปในระหว่างที่แยกกันอยู่ 2-3 เดือน)
3.รูปภาพของ staffs ทั้งหมด ข้างใต้รูปยัยคนนี้เขียน`ชื่อสามีและฉันรักคุณ`
ระหว่างที่เค้ากลับมาอยู่ด้วย ฉันแกล้งทำดีด้วย และทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งหมดจนกระทั่งบัดนี้ พยายามเช็คมือถือ ปรากฎว่าเค้าเปลี่ยนรุ่นใหม่(แบบต้องใส่pass word)บางทีเค้ากำลังอาบน้ำก็แอบย่องไปเปิดดู ไม่รูปถ่ายเลย อีเมล์ก็ลบทิ้งหมด
พาถึงเวลาย้ายบ้าน ฉันขอร้องให้เค้าอยู่ด้วยกันเพื่อลูก แต่เพียงแค่วันแรก เค้าก็ย้ายออกไปเลย(ทั้งๆที่พูดว่า จะอยู่ด้วยกันจนวีซ่าผ่าน) ราวๆกลางปี โชคดี วีซ่าถาวรฉันผ่าน
ก่อนที่แยกกันอยู่ฉันบอกให้เค้าต้องโอนเงินเข้าบัญชีแบงค์120,000เยน หักอัตโนมัติจากวันเงินเดือนออก และเปิดบัญชีแบงค์ใหม่ให้ลูกต้องโอน 25,000 เยนทุกเดือน เพราะค่าเช่าบ้านใหม่ถูกกว่าที่เคยอยู่ และเค้าต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง ไม่ว่าเป็น ค่าเช่าบ้าน 65,000 เยน, ค่าไฟ, ค่าน้ำ, แก๊ส, โทร, internet, รวมถึงค่ามือถือของฉัน และทิ้งรถให้ฉันใช้ด้วย(ค่าน้ำมันฉันต้องจ่ายเอง)ปรากฎว่า ปีที่ผ่านมา เค้าจ่ายทั้งหมด แต่ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะมาหาลูก ไม่เคยโทรมาติดต่อเลย จนกระทั่งช่วงปีใหม่ พี่สาวฉันมาเยี่ยมหลานที่นี่ ช่วงพอดีกับที่ลูกไม่สบายมากต้องเรียกรถพยาบาลมารับ พี่สาวบอกว่าให้ย้ายไปอยู่ที่ๆใกล้คนรู้จัก เวลาลูกไม่สบายหรือมีอะไรจะได้มีคนช่วยเหลือกันได้ ฉันเรียกเค้ามาคุยที่บ้าน บวกกับเงินของเดือนที่แล้ว ไม่เข้าในบัญชีแบงค์เลย มีแต่เข้าของลูก
เค้าบอกว่าที่ทำงานถูกลดเงินเดือน ต่อจากนี้ไปเค้าสามารถให้เงินฉัน แค่ 60,000เยนต่อเดือน ถ้าคิดว่าไม่พอเลี้ยงลูกก็ให้เค้าเลี้ยงลูกเอง หรือไปยื่นฟ้องศาลเองถ้าอยากให้เค้าจ่ายมากกว่านี้ เค้าคิดว่าฉันไม่กล้าเพราะภาษาก็ไม่เก่ง ก่อนหน้านี้เคยคิดเรื่องหย่า เพราะทางบ้านที่เมืองไทยก็อยากให้กลับมาเริ่มชีวิตใหม่ที่บ้านเรา แต่ด้วยท่าทีว่าสามีจะต้องไม่ยอมเสียเงินให้แน่นอน เพราะผู้ชายที่ถูกหย่าเพราะมีชู้จะต้องเสียค่าสินไหม ให้ฝ่ายภรรยามาก(เค้าถึงพูดว่าเค้าไม่มีชู้แล้ว) ตอนนั้นเคยไปปรึกษากับทนายหลายๆคน เค้าบอกว่าจะได้ประมาณ 3 ล้านเยนจากสามีและจากชู้ 1 ล้านเยน แต่หลักฐานไม่แน่นพอเพราะไม่มีรูปของทั้งคู่ด้วยกัน อีกอย่างที่กลัวคือ เราไม่มีงานทำ ถ้าฟ้องหย่า เค้าอาจได้ลูกไป ยังงัยก็ไม่ยอมให้ลูกไปเด็ดขาด
จะไปที่ทำงานเค้า บอกหัวหน้า ก็ไม่ได้ (ปรึกษากับเพื่อนแล้ว เค้าว่าระบบที่นี่เค้าถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อาจจะไม่ช่วยเราก็ได้) ไปปรึกษาที่อำเภอ ก็ไม่เห็นช่วยอะไรได้ แถมยังพูดในทำนองว่า ที่ก็มีให้อยู่ เงินก็ได้ทุกเดือน รถก็มีให้ขับ สามีก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แล้วยังจะมาปรึกษาอะไร อ้าว ก็เราไม่ได้เป็นคนบ้านเค้านิ แล้วอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ อนาคตของลูกล่ะ คิดว่าอยู่แบบนี้แล้วมีความสุขหรอก เวลาพาลูกไปห้างก็เห็น พ่อ แม่ ลูก ด้วยกัน แต่ทำไม เราไม่เป็นเหมือนเค้า
ในที่สุดฉันไปขอความช่วยเหลือกับองค์กร NPO ที่ช่วยเหลือต่างชาติที่มีปัญหา เค้าจะพาฉันไปศาลครอบครัวในวันพุธนี้ คุณที่ว่าฉันคิดถูกหรือเปล่า ฉันกลัวว่ามันจะกลายเป็นขึ้นศาล(แบบที่ต้องจ้างทนายจริงๆ)แล้วเรื่องมันใหญ่ และที่สำคัญคือไม่อยากให้เค้าได้ลูกไป ทุกวันได้แต่คิดว่าจะทำยังงัย นอนไม่หลับมาตลอด ไหนจะต้องดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่อีก
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้ที่สามารถให้คำตอบและคำแนะนำค่ะ
จากคุณ :
แม่ลูกอ่อน
- [
22 ม.ค. 50 16:50:37
A:220.98.15.137 X:
]
สามีมีชู้ จะทำเรื่องขึ้นศาลครอบครัวที่ญี่ปุ่น เป็นทางออกที่ดีหรือไม่
