ความคิดเห็นที่ 1 ที่รู้นะคะ ทั้งสามประเทศ เดนมาร์ก สวีเดน และนรเวย์ภาษาพูด กฏหมาย เหมือนกันค่ะ จะต่างกันก็แค่ค่าเงินแต่ไม่มากแทบเรียกได้ว่าไม่แตกต่าง จากคุณ : นันช่า (นันช่า) - [ 22 ม.ค. 50 18:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แฟนเพื่อนคุณเป็นคนเดนมาร์กแล้วจะมาขอวีซ่ากับสวีเดนได้ยังไงเหรอคะ ถ้าไม่ได้อยู่สวีเดนแล้วก็ทำงานที่นี่อยู่แล้ว ส่วนตัวเข้าใจว่าที่เดนมาร์กขอวีซ่ายากกว่าที่สวีเดนจริง เพราะสวีเดนนี่ไม่ต้องแต่งงานกันก็ขอวีซ่าอยู่อาศัยให้ได้สำหรับคู่ที่อยู่กินกันเฉยๆ (sambo) แต่มันก็ไม่ได้ง๊ายง่ายอะไรแบบนั้นนะคะ ยิ่งตอนนี้นโยบายเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวเข้มงวดขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ยังไงถ้าแฟนเพื่อนคุณเป็นพลเมืองที่ทำงานมีรายได้ถูกต้องตามกม. การขอวีซ่าไม่ว่าจะประเทศที่เข้มงวดแค่ไหนดิฉันว่าก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร จริงๆกฏเกณฑ์ต่างๆก็สร้างไว้เพื่อคุ้มครองสิทธิและความเป็นอยู่ของคนขอตอนเข้ามาอยู่ในประเทศนั่นแหละ ปล.ขอแก้คคห.ที่หนึ่งนิดนึงนะคะ แหมจะเป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกเหมือนกัน แต่ว่ากม.ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ ภาษาพูดพอฟังกันได้ แต่ก็ไม่เหมือนกันนะคะ ยิ่งเดนนิชกับสวีดิชนี่ต่างค่อนข้างมากเลยนะ เวลาพูด จากคุณ : DropAtearInMyWineGlass - [ 22 ม.ค. 50 21:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนช่วงที่ดิฉันรอวีซ่ามาเดนมาร์ก แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า สามีก็เลยไปปรึกษาสำนักกฏหมายของเอกชน เค้าว่า กรณีของดิฉันอาจจะผ่านยาก (เนื่องจากเดนมาร์กยุ่งยากจริงๆ แล้วสามีเป็นคนเยอรมัน) ก็เลยแนะนำอย่างที่คุณ จขกท บอกว่าให้ขอวีซ่าไปสวีเดนจะง่ายกว่า แต่ก็ไม่ได้ถามแฟนละเอียดว่าง่ายกว่ายังไงอ่ะค่ะ... แต่ก็คิดว่ารอผลวีซ่าก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ได้จริงๆ แฟนก็จะขอวีซ่าให้เข้าสวีเดน แต่ปรากฏว่าวีซ่าก็ผ่านค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 50 21:24:20 จากคุณ : KungGuenter - [ 22 ม.ค. 50 21:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เท่าที่ทราบจากเพื่อน เห็นเธอบอกว่าแฟนของเธอพึ่งเริ่มงานที่ใหม่มาได้เพียง 1 เดือน เพราะเมื่อก่อนเธอทั้ง2 ตั้งใจจะมาทำธุรกิจและอยู่อยู่ที่ประเทศไทย แต่เขาเกิดเปลี่ยนใจเนื่องจากเศรษกิจหรืออะไรไม่ทราบ ทีนี่เขาทั้ง2เปลี่ยนแผนจะไปอยู่ด้วยกันที่โน่น เห็นบอกว่าจะย้ายไปสวีเดนก่อน (ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน) หลังจากนั้นก็จะทำเรื่องขอวีซ่าให้แฟนตามไป เห็นบอกว่าสามารถทำได้ตามกฎ อียู อะไรนี่แหละ ถามเพื่อน เพื่อนก็บอกไม่ค่อยถูก รู้แต่ว่าแฟนให้รอ และย้ายไปสวีเดนง่ายกว่า ดิฉันฟังยังไงมันก็ยังงง งง และไม่เข้าใจว่ากฎ อียูที่เขาหมายถึงมันเป็นยังไง แต่เข้าใจที่คุณ DropAtearInMyWineGlass ว่าถ้าคุณสมบัติครบตามกฎมันก็ต้องผ่าน ก็เลยอยากทราบว่ากฎ เขามีว่าอย่างไรบ้าง สำหรับตัวผู้ที่จะรับรองแฟนไปอยู่ด้วย เผื่อว่าคุณสมบัติเขาไม่ครบ แล้วมาอ้างเพื่อนดิฉันว่า เดนมาร์กยากกว่าสวีเดน ดิฉันร้อนใจแทนเพื่อนเพราะอยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆเร็ว จะได้ไปหาง่ายหน่อย (ตัวเองอยู่ฮอนแลนด์ค่ะ) ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 22 ม.ค. 50 22:04:47 A:62.163.27.142 X: TicketID:121977 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบคำถามข้างบนค่ะ ความยากลำบากที่ว่ามันมาจากเรื่องการเมืองค่ะ เพราะว่าพรรคการเมืองของเดนมาร์กที่ชื่อ  The Liberal ออกนโยบายลดจำนวนผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่อาศัยสวัสดิการรัฐเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เป็นฐานในการหาเสียง แล้วนโยบายนี้ก็ขายดิบขายดีจนพรรคนี้ได้รับได้รับชัยชนะเหนือพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 1920 จากนโยบายก็ต้องนำมาทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งได้แก่ - แก้ไขกฏในการรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัย - เพิ่มระยะเวลาในการรอการได้วีซ่าถาวร จากสามปีเป็นเจ็ดปี - ตัดเงินสวัสดิการลง 30-50% ขึ้นอยู่กับขนาดของครอบครัว - เปลี่ยนกฏหมายครอบครัว กำหนดคนที่อาศัยอยู่ในประเทศเดนมาร์ก (หรือคนเดนส์) จะต้องมีอพาร์ทเมนท์ของตัวเอง พร้อมกับต้องมีเงินจำนวน 50000 เดนนิชโครนา นอนนิ่ง ๆ อยู่ในธนาคารก่อนที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ก็แปลได้ง่าย ๆ ว่า ถ้าตกงานก็หมดสิทธิแต่งงานกับคนต่างชาติ - ถ้าเกิดหย่ากันก่อนครบเจ็ดปี คู่สมรสต่างชาติถูกส่งกลับบ้านสถานเดียว จริง ๆ แล้วนโยบายนี้เล็งตรง ๆ ไปที่การควบคุมการแต่งงานในหมู่ญาติพี่น้องของคนมุสลิม (ตุรกี) ที่มักจะใช้วิธีแต่งงานแบบคลุมถุงชน ด้วยการกลับไปแต่งงานในประเทศเดิม หรืออิมพอร์ตเอาตัวเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวที่อายุน้อย ๆ กลับเข้ามาในเดนมาร์ก เพื่อสร้างครอบครัวผู้อพยพที่อาศัยสวัสดิการรัฐกินสืบไป เคยคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวเดนส์ บางคนก็ชอบนโยบายนี้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่า ครอบครัวผู้อพยพที่ตกงานทั้งสามีภรรยาแต่มีลูกห้าคนมีรายได้จากเงินสวัสดิการรัฐพอ ๆ กับเพื่อนคนนี้ที่ทำงานตั้งแต่เช้ายันเย็น แถมขับรถยี่ห้อดีกว่าด้วย กร๊ากกกก คนที่ไม่ชอบนโยบายนี้ก็มี แถมบอกว่าเป็นเรื่องน่าอับอายของประเทศที่มีรัฐบาล Racism ประมาณนี้ แต่กฏหมายนี้มันก็่ส่งผลกระทบไปถึงคนเดนนิชทั่ว ๆ ไปที่ต้องการอยู่กินกับคนต่างชาติ (ที่ไม่ได้มาจากกลุ่มประเทศ EU, ประเทศกลุ่มนอร์ดิคและอเมริกาเหนือ ) รวมถึงตั้งถิ่นฐานสร้างครอบครัวในประเทศเดนมาร์ก ก็ความรักมันเลือกกันได้ที่ไหนล่ะ ตัวอย่างเช่น เพื่อนคุณ กับแฟนของเพื่อนคุณ หนึ่ง  ถ้า Herr A หนุ่มเดนนิชแต่งงานกับคุณสมศรี สาวไทยพร้อมกับอยู่กินตั้งรกรากมีลูกหลานอยู่ในเมืองไทยเป็นระยะเวลาหนึ่ง และครอบครัว Herr A และคุณสมศรีมีความผูกพันธ์กับเมืองไทยมากกว่าเดนมาร์ก คุณสมศรี สาวไทยหมดสิทธิได้สิทธิพำนักในเดนมาร์ก กรณีนี้มีข้อยกเว้นว่า ถ้า Herr A ถือสัญชาติเดนนิชติดต่อกันมานานกว่ายี่สิบแปดปี คุณสมศรีก็มีโอกาสได้ Resident permit แต่คุณสมศรีก็ต้องไปร่ำเรียนภาษาเดนนิชและอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมเดนมาร์ก สอง ถ้าคุณสมศรี สาวไทย มีอายุน้อยกว่า 24 ปี คุณสมศรี สาวไทย หมดสิทธิได้ Resident permit โดยสิ้นเชิง สาม ถ้า Herr A และคุณสมศรี สาวไทย มีอายุน้อยกว่า 24 ปี ทั้งคู่หมดสิทธิแต่งงานกันตามกฏหมายเดนมาร์ก ต้องรอให้เกิน 24 ปี ก่อนนะคร๊าบ สาม ถ้า Herr A อยาก apply วีซ่าให้คุณสมศรี สาวไทย ที่มีอายุเกินกว่า 24 ปีแล้ว Herr A ต้องมีเงินนอนเล่น ๆ อยู่ในแบงค์ไม่น้อยกว่า 50 000 เดนนิชโครนา (บางกระแสบอกว่าเงินนี้ต้องนอนเล่น ๆ อยู่ในธนาคารถึงเจ็ดปี)  นอกจากนี้ Herr A ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่ามีรายได้มาก (เท่าไรก็ไม่รู้ ตามแต่รัฐกำหนดมั้ง) เพียงพอที่จะเลี้ยงดูคุณสมศรี สาวไทยและลูก เพื่อไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ระบบรัฐสวัสดิการของเดนมาร์ก แถมต้องมีอพาร์ทเม้นเป็นของตัวเองด้วย กรณีที่สามนี้ Herr A กับคุณสมศรี จะต้องยื่นคำร้องซ้ำทุก ๆ สองปีจ้ะ ถ้า Herr A ตกงานขึ้นมาหรือว่าต้องย้ายไปอยู่ในอพาร์ทเมนที่เล็กลงกว่าเดิมเมื่อไร Resident Permit ของคุณสมศรีจะถูกยกเลิกทันที (โหดจริง ๆ ) ด้วยข้อบังคับยากลำบากแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้คนเดนส์และเนื้อคู่ต่างชาติต่างภาษาที่มาจาก ”ประเทศกำลังพัฒนา” จำต้องกระเด็นกระดอนไปอาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนของเดนมาร์กอย่างเช่น มัลเม่อ ในสวีเดน ตามที่เพื่อนคุณบอกเล่าให้คุณฟัง   หรือไม่ชายแดนแถบเยอรมัน แล้วก็ข้ามแดนกลับมาทำมาหากินในเดนมาร์ก ถามว่าแล้วอยู่ในสวีเดนลำบากไหม ไม่ลำบากหรอกค่ะ ถ้าแฟนของเพื่อนคุณมีงานมีการทำในฝั่งประเทศเดนมาร์ก ก็แค่ขับรถหรือนั่งรถไฟข้ามสะพานไป ๆ มา ๆ เท่านั้นเอง และภายใต้ข้อตกลง Nordic convention   หนุ่มเดนนิช แฟนของเพื่อนคุณสามารถอยู่กินกับเพื่อนคุณ (สาวไทย) ในประเทศสวีเดนได้เป็นเวลาสองปี หลังจากนั้นหนุ่มเดนนิชค่อยเปลี่ยนสัญชาติเป็นสวิดิช แล้วย้ายกลับไปอยู่เดนมาร์กทีหลัง แต่เพื่อนคุณคงจะรู้สึกแปลก ๆ หน่อยว่าแต่งงานกับหนุ่มเดนนิชทั้งที แล้วทำไมการได้อยู่อาศัยในประเทศของสามีถึงได้ลำบากยากเย็นจะปานนั้น แล้วจริง ๆ แล้วประเทศสวีเดนก็ไม่ค่อยปลื้มกับวิธีการแก้ปัญหาเรื่องผู้อพยพหลั่งไหลเข้ามากินสวัสดิการของรัฐบาลเดนมาร์กสักเท่าไร ก็เพราะว่าผู้อพยพพวกนี้ก็ข้ามฟาก ย้ายฝั่งมากินเงินสวัสดิการฝั่งประเทศสวีเดนแทน คำตอบนี้มาจากประเทศสวีเดนนะคะ ผิดตกยกเว้นประการใด รอแม่บ้านเดนมาร์กมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงค่ะ จากคุณ : A-Chee - [ 22 ม.ค. 50 22:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคุณ A-Chee ทุกข้อเลยค่ะ แต่มีอีกกรณีที่ฝ่ายชายไม่ต้องมีเงินนอนนิ่งๆ อยู่ในธนาคาร (ตอนนี้ปรับเป็น 56000 กว่าๆ โครนแล้วค่ะ) คือ ฝ่ายชายเคยแต่งงานและมีลูกอายุไม่เกิน 18 ปี   เคยมีเพื่อนเล่าว่า บางคู่เค้าเรียกเงินสดเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เงินนอนนิ่งๆในธนาคาร 7 ปี ถ้าถามว่ายุ่งยากมั้ยก็ไม่ยุ่งยากขอให้มีเงิน 56000 โครน ฝ่ายชายมีงานทำที่มั่นคง และแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย  ก็ได้วีซ่า 2 ปี ค่ะ ต่อ 3 หน ก็ได้วีซ่าถาวร จากคุณ : peeyaporn - [ 23 ม.ค. 50 00:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับคุณ A-Chee และคุณ Peeyaporn ค่ะ ว่าตั้งแต่พรรค Liberal (Venstre) มาเป็นรัฐบาล ได้แก้กฎหมายต่างๆ เรื่องเงิน 56000 โครนนี่ ขอเพิ่มเติมด้วย ว่า ถึงแม้ได้มาอยู่แล้ว แล้วถ้าหากมาขอเงินช่วยจากรัฐภายในระยะเวลา 3 ปีแรก เงินจำนวน 56000 โครนนี้ก็จะโดนหักลงเรื่อยๆ (รัฐบาลชุดนี้พยายามป้องกันการเอื้อสวัสดิการการช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ชาวต่างชาติสุดๆ เพราะรัฐบาลต้องการจะใช้งบประมาณให้เหลือ เป็น surplus เพราะจากที่ได้คำนวน ถ้าหากรัฐบาลไม่ใช้งบประมาณให้เหลือ เป็น surplus แล้วละก็ อีก 20 ปีข้างหน้า จะไม่มีเงินบำนาญเพียงพอสำหรับผู้ที่เกษียณอายุ แต่ว่ารัฐบาลก็มีมาตรการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับชาวต่างชาติในการที่จะประหยัดงบประมาณเหมือนกัน จนมีคนเดนส์หลายๆ คนที่ได้รับผลกระทบออกมาประท้วงซะหลายรอบเลย เช่นปิดโรงพยาบาลบางแห่ง หรือลดจำนวนครูที่ดูแลเด็กเล็ก หรือ พยายามรณรงค์ไม่ให้คนเดนส์ early retire หรือ จำกัดจำนวนปีที่นักศึกษาสามารถขอเงินเดือนสวัสดิการนักศึกษา ฯลฯ) ส่วนความยุ่งยากในการทำเรื่องมาอยู่เดนมาร์กนี่จริงค่ะ กฎเหล็กๆ หลายๆ ข้อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อลดจำนวนคนต่างชาติในเดนมาร์ก ได้แก่ 1. หากผู้มีภูมิลำเนาในเดนมาร์ก แต่งงานกับชาวต่างชาติ และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอายุไม่ถึง 24 ปี ชาวต่างชาติคนนั้นก็จะไม่สามารถทำเรื่องขอ Resident Permit ได้ อันนี้มีกรณีมาเยอะแล้ว ที่ได้ยินคือ มีคนเดนส์ แต่งงานกับสาวชาวโปแลนด์ (ตอนนั้น Poland ยังไม่ได้เป็นสมาชิก EU) รู้สึกว่าฝ่ายผู้หญิงอายุไม่ถึง 24 แถมท้องอีกต่างหาก แต่ก็ต้องกลับไปอยู่โปแลนด์ จนกว่าอายุจะครบ 24 ปี 2. ฝ่ายที่มีภูมิลำเนาในเดนมาร์ก จะต้องมีงานประจำทำอย่างน้อย X ปี (จำไม่ได้แล้วว่ากี่ปี) ไม่งั้นฝ่ายที่ขอ Resident Permit ก็อาจจะเสี่ยงต่อที่จะไม่ได้ Resident Permit 3. ฝ่ายที่มีภูมิลำเนาในเดนมาร์ก จะต้องมีที่พำนักเป็นหลักแหล่ง (เช่น ไม่ได้พำนักอยู่กับพ่อแม่แล้ว) ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ หรือจะเช่าก็ได้ (ต้องมีสัญญาเช่าแสดงเป็นหลักฐาน) 4. เรื่องเงินประกัน (อย่างที่คุณ A-Chee กับ คุณ Peeyaporn ว่า) 5. เมื่อก่อนอยู่ครบ 3 ปี ก็สามารถขอ Permanent Resident Permit ได้แล้ว ปัจจุบันต้องอยู่ครบ 7 ปี ถึงจะขอ Permanent Resident Permit ได้ 5. ต้องสอบผ่านภาษาเดนิชขั้น 3 (Dansk Proeve 3) ถึงจะสามารถขอสัญชาติเดนิชได้ ตอนนี้ใครที่ได้ resident permit มาอยู่ที่นี่ จะต้องโดน kommune (เทศบาล) จัดการเรียกไปคุยและทำ integration contract กันทุกคนด้วยค่ะ คือจะเป็นสัญญาที่จะมีการวางแผนอนาคตของคุณไว้ทุกอย่าง อย่างเช่น เป้าหมายระยะสั้น (1 - 3 ปีแรก ที่เรียกว่า Introduction Program) ของคุณคืออะไร และระยะยาวคืออะไร และจะต้องทำยังไงบ้างที่จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้น โดยผู้ที่ได้ resident permit จะมี case worker (sagsbehandler) ประจำตัว ซึ่งจะคอยจัดการเรื่องสัญญานี้และให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิต การปรับตัวต่างๆ การช่วยเหลือด้านการเรียนภาษา การหางาน และสัญญานี้จะมีผลต่อการขอ permanent resident permit ด้วย ที่จำพวกกฎเหล็กๆ นี่ได้ก็เพราะว่า รีบทำเรื่องแต่งงาน และขอ resident permit  ก่อนที่กฎข้อ 1 และข้อ 4 มีผลบังคับใช้ไม่ถึง 1 อาทิตย์ค่ะ ไม่งั้นก็คงจะมีปัญหาแน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องอายุ ตอนนี้ได้ข่าวว่าทางพรรค Danish People Party (พรรคนี้ขึ้นชื่อว่าไม่ชอบชาวต่างชาติเอามากๆ) พยายามผลักดันให้ชาวต่างชาติที่ต้องการจะทำเรื่องขอ Resident Permit ต้องเรียนภาษาเดนิชให้ได้ระดับหนึ่งก่อนที่จะได้มาเดนมาร์ก และก็ได้มีการเริ่มขั้นตอนบางส่วนแล้ว (ทางอิมมิเกรชั่นของที่นี่ ติดต่อบริษัทที่แฟนทำงานอยู่ ให้ develop solution สำหรับ speech recognition เพื่อให้ชาวต่างชาติที่ทำเรื่องขอ resident permit ทดสอบการพูดภาษาเดนิชผ่านทาง PC ได้) ปล. คุณ A-Chee ข้อมูลปึ๊กดีมากเลยค่ะ นับถือ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 02:21:01 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 02:14:33 จากคุณ : MingDK - [ 23 ม.ค. 50 02:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แวะเข้ามาดักรอคุณมิ๊งค์จ้ะ ขอบอกว่าประทับใจกับ Intregation contract จริง ๆ ฟังดูคล้าย ๆ utvecklingssamtal ที่บริษัทเลยค่ะ จากคุณ : A-Chee - [ 23 ม.ค. 50 02:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ A-Chee และคุณ MingDK สุดยอด คม ชัด ลึก แจ่ม แจ้งทั้งหมด ถู..........ก ต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบ มิ้งค์ เป็นไงบ้างจ๊ะ ยังจำพี่จิ๋วได้ไหมเอ่ย จากคุณ : Jasee - [ 23 ม.ค. 50 10:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกความคิดเห็น ได้ความรู้เพิ่มและเข้าใจมากขึ้น จะรีบบอกให้เธอเข้ามาอ่านกระทู้นี้ด่วนเลย จะได้เข้าใจว่าทำไมเธอต้องย้ายไปสวีเดน ส่วนตัวดิฉันเข้าใจว่า แฟนของเพื่อนคงคุณสมบัติไม่ครบเรื่องอายุ งาน เพราะพึ่งเริ่มงานใหม่ได้ 1 เดือน หลังจากที่ลาออกจากงานเดิมเพื่อจะไปตั้งรกรากที่ประเทศไทย ส่วนที่อยู่ กับเรื่องเงินคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เดาเอาว่าผู้ชายคงไม่อยากรอนานจนอายุงานครบตามที่กฎหมายกำหนด เธอถึงเปลี่ยนใจไปสวีเดน อีกอย่างผู้หญิงก็เร่งด้วย เพราะดิฉันเร่งเธออีกที (อยากเจอเธอไวๆ ) ฮิๆๆๆ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ โดยเฉพาะคุณ A-Chee และ คุณ MingDK ที่เสียสละเวลามาให้รายละเอียด .... ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 23 ม.ค. 50 21:13:57 A:62.163.27.142 X: TicketID:121977 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอยืมพื้นที่ในกระทู้หน่อยนะคะ หวัดดค่ะคุณ A-Chee ปลื้มที่คุณ A-Chee ถึงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ก็มีความรู้กว้างขวางอ่ะค่ะ เรายังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสวีเดนมากมายเลย เมื่อไหร่จะมีเวลามาช็อปของตกแต่งบ้านสวยๆ ที่โคเปนเอ่ย :) ตอนนี้มีหลายๆ อย่างลดราคาเพียบเลย พี่จิ๋ว จำได้สิคะ ไม่ได้คุยกันนานมากเลย หวังว่าพี่คงสบายดีนะคะ แล้วว่างๆ เมื่อไหร่จะมาทำบุญที่ Sjaelland อีกคะ จะได้เจอกัน มิ้งเพิ่งไปทำบุญที่วัด(เดิมที่เราเจอกัน) มาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเอง ขอโทษด้วยนะคะที่เพิ่งจะโผล่มาตอบ เพิ่งกลับมาจาก holiday เมื่อวันจันทร์ตอนค่ำๆ แล้วก็แถมเจอเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดเรียน 1 อาทิตย์ล่วงหน้า จากที่คำนวณไว้ (เราคำนวณผิดเองแหล่ะ ฮือๆ นึกว่าเปิดเทอมอาทิตย์หน้า กลายเป็นเปิดอาทิตย์นี้ไปซะ) จากคุณ : MingDK - [ 31 ม.ค. 50 17:01:04 ]