ความคิดเห็นที่ 1 มาขอตอบให้เท่าที่รู้นะคะ เพราะเราเองเพิ่งผ่านขั้นตอนต่างๆ นี้มาไม่นานนี้เอง(สี่ส้าห้าเดือนได้แล้วมั้ง) 1..คือไม่ทราบว่าเป็นส่วนไหนของอังกฤษเอ่ย งั้นเหมาเอาเองว่าคงเป็นลอนดอนอ่ะนะคะ.. ไม่ค่อยสันทัดเรื่องอพาร์ตเมนท์/แฟลตใหม่อ่ะคะ เท่าที่เห็น ๆ ที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็น flat/apartment ที่สร้างมาแล้วนานหลายมีแล้วทั้งนั้น  ถ้าทำเรื่องราวนิติกรรมอะไรต่าง ๆ ผ่านเอเยนต์ ข้อพึงระวังนี่(เกือบ)ลืมไปได้เลยต่ะ ไม่ค่อยมีอะไร นอกเสียจากเรื่องพวก  heater หรือ boiler อะไรพวกนั้นอ่ะคะ อ๋อ อีกอย่างหนึ่งคือ เวลาที่เราไปดูบ้าน/แฟลต อะไรพวกนั้น เราจะเห็นในสภาพที่เจ้าของเดิมเค้ายังอยู่ ทุกอย่าง มันจะดูดี ให้ระวังพวก รอย damp ตามหลังโต๊ะ ตู้เตียง อะไรประมาณนั้นอ่ะคะ ถ้าเค้าขนของออกไปเมื่อไหร่ มันอาจจะทิ้งรอ่งรอยไว้ได้... ขอยกตัวอย่างของตัวเอง แฟลตหลังเก่า(อยู่ Wimbledon)ที่ขายไป มันมีจุดที่ว่าชื้น ๆ เนี่ย อยู่เยอะเลย วันไหน มึดครี้ม ฝนตก จะได้กลื่นแบบอับ ๆ ชื้น ๆ เรารู้สึกเองได้เลยว่า มันมีอยู่หลายจุด(เพราะว่าเป็นแฟลตชั้นล่าง) แต่อีตอนที่ Surveyor มาสำรวจ เค้าตรวจพบแค่สองจุด คือ ฝาผนังห้องน้ำ กับห้องนอนที่ดิดสวนข้างหลัง... เราเลยโชตดีไป เพราะถ้าเจอเยอะเนี่ย บางที่เค้าสั่งให้เราปรับปรุงใหม่เลยละคะ 2. อันนี้ควรทำเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น 3. อันนี้ก็ควรค่ะ เพราะว่า 1. ตัวผุ้ให้เช่า(คุณเอง) ไม่ได้อยู่อังกฤษ จะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องจุ๊กจิ๊ก ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ... ถึงเวลาก็คอยรับเงินอย่างเดียว ... เท่าที่รู้ ๆ มานี่ สมมติว่าเช่า 1 ปี เอเยนต์เก็บไป 1-2 เดือน อ่ะคะ แล้วแต่ตกลงกัน(มั้ง) 4. อันนี้ไม่ทราบเลยจริง ๆ ค่ะ 5. ค่อย ๆ หาค่ะ ให้เวลากับมันหน่อย มาดูให้เห็นด้วยตาจะดีที่สุดดดดด ช่วงนี้ราคาบ้านอะไรพวกนี้ กำลังดีเลยค่ะ (พูดแล้วเจ๊บใจ แฟลตที่ขายไป ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี  ราคามันขึ้นมาอีกเกือบ 6 หมื่น ปอนด์...เซ็งจิต) แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 50 18:23:27 จากคุณ : Match Point - [ 12 ก.พ. 50 17:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากคะ คุณ Match Point มองๆ ดูอยู่แถวๆ Suffork คะ (ตอนนี้ที่มีข่าวเรื่องไข้หวัดนกคะ) เพราะมันไม่แพงมากคะ จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 12 ก.พ. 50 19:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Quite similar situation as us ka. We just bought a brand new house last year from the developer. We only had a few weeks to look at the house and made decision before we left UK for oversea assignment. To answer your question 1) Find trust worthy developer ka. Once you have chosen the area, just look around how many deveoper in that estate. For our case, in the same estate, there are 3 developers which are KingsOak, Barrats and Red Row. They are slight different in finishing details. Among the 3, we chose KingOak. All the new built house are quaranteed by Government builder (sorry can't remember the name of organization) for 10 years and first 2 years by developer themselves. So it is quite safe ka. You just need to find the good reputation developer that 's all. When we bought it, the house hadn't finished yet. It took 3-4 months after that. 2. For your husband life insurance, obviously it is good to have one, you never know the future. Apart from that when you apply for the mortage, you have to have the insurance for the house in case the house is damage by natural force or unexpected event etc too. 3. Highly recommended ka but you have to do a bit of homework which agency is reputable around that area cos' they have to look after the house on your behalf. We are quite lucky to be in good term of the agent so the house is well taken care by them and we have been given discount :-) 4. It has to be your husband name only ka cos' I assume that you haven't been working/earning in UK so you have no credit in the mortgage people eyes. Therefore, all the agreement has to be done under your husband name only (same as mine, though half of the deposit money was mine 555...). However, just in unfortunate case like divorce, all the assets have to be split up between the two as long as they are legally married unless you have done prenaptual agreement. 5. To let the house, once in awhile I feel sad ka that it is our lovely brandnew house but somebody else in it :-( We never got chance to live there first. By the time we come back to UK it would be an old house. However, this is life, if we coundn't find the tanent we would have been more sad. House hunting is fun and headache at the same time ka.... be prepare to strech out your budget. There is always something nicer if you put a bit more on your budget :-) จากคุณ : kutepim - [ 12 ก.พ. 50 23:45:02 A:62.31.122.63 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบพระคุณ คุณ kutepim มากๆ เลยคะ ที่กรุณาเข้ามาตอบ เป็นข้อมูลที่ดีมากเลยคะ จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 13 ก.พ. 50 15:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พี่ปิ๋มตอบครอบคลุมเกือบหมดแล้ว   แวะมาเพิ่มเติมข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ 1) บ้านใหม่ๆช่วงนี้ราคาสูงมากๆนะคะ แฟลตแบบเดียวกัน (สองห้องนอน) ราคาเป็น 2 เท่าของแฟลตเก่าเลยทีเดียว .. แต่ราคาปล่อยเช่าต่อเดือนที่เราจะเรียกเก็บได้ไม่ต่างกันมากนัก .. แนะนำให้หาแฟลตเก่าที่ค่อนข้างใหม่ดีไหมคะ คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย 2) อันนี้ไม่มีข้อมูลค่ะ .. แต่เรื่องประกันบ้าน เหมือนว่าจะเป็นข้อบังคับตามกฎหมายว่าต้องมีนะคะ (เราสก็อตแลนด์อาจจะต่างกับอังกฤษ) .. แฟลตโดยมากมักจะมีประกันอยู่แล้ว ที่บังคับให้ผู้ซื้อเข้าร่วมและจ่ายรายปี .. ยังไงตอนก่อนซื้อควรจะถามให้ละเอียดค่ะ 3) ถ้าไม่ได้อยู่ดูแลเอง (เห็นว่าอยู่ดูไบ) ควรหาเอเจนซี่ดูแลค่ะ .. 4) ใช้ชื่อเขาตอนขอกู้คนเดียวไม่มีปัญหาค่ะ แต่ชื่อบ้านควรจะเป็นชื่อร่วม สามารถใส่ชื่อสองคนได้ โดยไม่เกี่ยวว่าใครกู้เงินมาจ่ายค่ะ .. 5) ช่วงนี้บ้านราคาแพงมากค่ะ ยังเป็นขาขึ้นอยู่ และคงยังขึ้นต่อไป แต่อาจจะลงตามจังหวะของมันในไม่กี่ปีข้างหน้า (เดาไม่ได้ เดาได้คงรวยไปแล้ว อิอิ) .. ยังไงจะลงทุนซื้อบ้าน ดูด้วยนะคะว่าเขตไหน คนมาเช่าเป็นกลุ่มไหน .. ถ้าใกล้มหาลัย ก็จะปล่อยเช่าง่าย แต่บ้านได้คืนมาอาจจะโทรมมากถึงมากที่สุด .. จะให้ดีหาเขตธุรกิจ ราคาอาจจะแพงแต่ค่าเช่าก็แพงและผู้เช่าคุณภาพดีด้วย ถ้าไม่ยึดติดว่าจะเป็นลอนดอน สำหรับการลงทุนให้เช่า เราว่าเมืองที่เราอยู่ Aberdeen Scotland เนี่ยเวิร์คมากเรื่องธุรกิจแฟลตให้เช่าและ service apartment เพราะมีมหาลัยและยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมน้ำมันด้วย (คนเช่ามีกะตังค์ ดังนั้นราคาเช่าจึงแพงมหาโหด แฟลตห้องเดี่ยว 600-900 ปอนด์ต่อเดือน) .. ยิ่งปล่อยเช่ารายวัน/สัปดาห์แบบ service apartment ยิ่งเงินดีใหญ่ (วันละเกือบ 100 ปอนด์.. เราอยู่เดือนกว่าช่วงแรกๆ ตอนย้ายมาใหม่ รอย้ายเข้าแฟลตที่ซื้อ บริษัทจ่ายอานเลย หุหุ) แต่รายได้อาจจะไม่แน่นอน .. แต่ช่วงนี้ที่ธุรกิจน้ำมันกำลังบูมเนี่ย ห้องทุกห้อง โรงแรมทุกโรงแรมเต็มหมด แต่เมืองนี้ ความเสี่ยงจะผูกกับธุรกิจน้ำมันค่ะ .. ดังนั้นถ้าเกิดวิกฤติน้ำมันราคาตกขึ้นมาอีกเหมือนตอนปี 1998-1999 บ้านคุณจะปล่อยเช่ายาก ขายก็ยาก .. ถ้าผูกกับธุรกิจท่องเที่ยวน่าจะดีกว่า ..  แค่คิดเล่นๆ พอดีเราคิดเรื่องเวลาย้ายไปทำงานที่อื่นแล้วจะทำยังไงกับแฟลตดี เลยเอาไอเดียมาแชร์เล่นๆอ่ะค่ะ จากคุณ : น้ำผึ้งหยดเดียว - [ 15 ก.พ. 50 16:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แฟลตในลอนดอน  เอาเป็น Canary Wharf แล้วกัน เพราะกำลังดูแถบนี้อยู่  สองห้องนอน ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ราคาประมาณสี่แสนกว่าปอนด์เป็นอย่างต่ำค่ะ  ถ้าเช่าก็ประมาณ 350 ถึง 400 ปอนด์ต่ออาทิตย์ถึงจะได้อะไรที่พอใช้ได้หน่อย   แถบ Canary Wharf ถ้าซื้อแล้วทำดีๆ และปล่อยให้เช่าก็คงมีคนเช่าทั้งปีค่ะ เพราะแถบนั้นเป็น financial area ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษแล้ว  ฉะนั้นคนเช่าไม่มีปัญหาเรื่องเงินแน่นอน (แต่จะเรื่องมาก เพราะเป็นนิสัยทั่วๆไปของ bankers) ถ้าจะซื้อ เราว่าดูตาม Auction ดีกว่าค่ะ  ซื้ออะไรที่มันโทรมสุดๆแล้วมาแต่งใหม่ก่อนปล่อยขาย(หรือเช่า)  คนรู้จักประมูลได้มาในราคาหกหมื่นกว่าๆ แต่งอยู่พักนึง ปล่อยเข้าตลาด ขายได้ในราคาสามแสน และก็ไปประมูลใหม่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ กำไรเห็นๆ แต่ธุรกิจนี้ก็จะ work เฉพาะช่วงบ้านบูม (ช่วงนี้เลย)  เราเคยสนใจจะทำแต่ต้องมีเงินก้อนใหญ่จริงๆ และคิดถึงตอนที่ต้องทะเลาะกับผู้รับเหมาแล้วขยาดค่ะ จากคุณ : pervpanda - [ 16 ก.พ. 50 19:10:48 ]