ความคิดเห็นที่ 1 ลืมไป... ถ้าคุณจัดตัวเองอยู่ในกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด คือไม่ใช่ทั้งหญิงและชาย ขอให้โหวตเลือก category ที่ใกล้เคียงกับ category ของตัวเองมากที่สุด เช่น ถ้าเป็นเกย์ควีน ให้เลือกอยู่ในฝ่ายหญิงที่เลือกฝ่ายชาย ถ้าเป็นทอม ให้เลือกอยู่ในฝ่ายชายที่เลือกฝ่ายหญิง แต่ถ้านอกจากจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดแล้ว ยังมี double competence อีก คือเป็นหญิงก็ได้บางโอกาส เป็นชายก็ได้หากต้องการ กรณีนี้ จำต้องตัดสินใจเลือก category ของตัวเองว่าจะอยู่ฝ่ายไหนค่ะ ช่วยกันโหวตหน่อยเน้อ เดี๋ยวจำนวนคนโหวตเป็นศูนย์ ต่อไปอายไม่กล้าตั้งกระทู้แน่เลย แล้วคนตั้งกระทู้นี่ โหวตเองได้ไหม? จากคุณ : พธูไทย - [ 23 ก.พ. 50 05:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาโหวตประเดิมก่อนไปนอนค่ะ เลือกยากอะ เราเลือกผู้ชายรวยไป มันก็พอมีเหตุผลนะ เพราะเราทำเอกสาขายากจน ไม่ใช่บิสสิเนสหรือวิทยาศาสตร์ที่จะพลิกไปเป็นที่ปรึกษาหรือรับจ้างทำวิจัยให้บริษัทได้ ก็เลยคิดว่าถ้าได้แฟนที่หาเงินให้เราใช้ได้ก็คงดี (เห็นแก่ตัวสุดๆ) ในชีวิตจริงก็ประมาณนี้อะค่ะ คือแฟนเราเป็นหมอฟัน เค้าก็จะบ่นๆว่าชั้นอิจฉาเธอจัง เธอได้ทำในสิ่งที่เธอรักแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ส่วนชั้นวันๆก็เห็นแต่ปากคนไข้ พอเสร็จงานปุ๊บก็ไม่อยากจะคิดถึงอะไรแล้ว ขอนอนดูทีวีอย่างเดียว เราก็เห็นด้วยอะนะ :P แต่ก็ไม่ได้หวังรวยอะไรมากหรอกค่ะ แค่สามารถมีฐานะที่มั่นคง ไม่ร้อนเงินตลอดเวลา ก็ใช้ได้แล้วล่ะค่ะ แต่ เอ่อ ไม่ทราบว่าหมอฟันนี่จัดเป็นดร.หรือเปล่า เราว่าดร.เหมือนกันไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าใจกันเสมอไปหรอกค่ะ ดร.มันก็เหมือน label อย่างหนึ่งมั้งคะ เวลาเราคบใครเราคงไม่คบกันแค่ที่เปลือกว่าเธอมีดร.หรอก ต้องดูถึงความเข้ากันได้มากกว่า บางครั้งก็ช็อคเล็กๆนะที่ได้ยินเพื่อนบางคนบอกว่า ถ้าชั้นทำดร. ชั้นก็ต้องหาแฟนดร. เหมือนกัน ไม่งั้นมันจะดูเหมือนชั้นเหนือกว่า ประมาณนี้ (wording ไม่แรงอย่างนี้นะคะ) คนไทยบางกลุ่มที่ก็เป็นเอามากเหมือนกันนะ เรื่องยศศักดิ์นำหน้าเนี่ย แต่ขอพูดตรงๆเลยว่ามันช่างไร้สาระมากๆ มาบ่นๆเท่านี้ก่อน เดี๋ยวกลับมาแจมเป็นกำลังใจ อ้อ เจ้าของกระทู้โหวตได้นะคะ จากคุณ : Sa-idian - [ 23 ก.พ. 50 07:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หมอฟันก็คงจะบ่น หรือโดนมองว่ามีวิสัยทัศน์แคบ เพราะวันๆ เห็นแต่ช่อง(ปาก)แคบๆ แต่ถ้าหมอสูติฯ คงแย่กว่านี้? มีกระทู้ก็ดีเหมือนกันนะคะ เวลานั่งทำงานดึกๆ เงียบๆ สงัด ก็แวะไปอ่านกระทู้ทั่วๆ ไป ไม่ให้ง่วง จะรอดูไปเรื่อยๆ อีกสัก 3-4 วัน ว่ามีใครมาโหวตอีกไหม? แต่ตัวเองยังไม่โหวต เดี๋ยวคุณ Sa-idian รู้ ว่าดิฉันโหวตอะไร เอ่อ... ไม่ตรงกับคนที่มีอยู่ค่ะ - -" จากคุณ : พธูไทย - [ 23 ก.พ. 50 07:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 A dentist holds a DDS degree. DDS stands for Doctor of Dental Surgery krub...... :) จากคุณ : amatuer translator - [ 23 ก.พ. 50 08:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ เลือกไงล่ะ ขอฐานะพอสมน้ำสมเนื้อ มีศักยภาพจะสร้างตัวได้ ไม่ต้องมี ดร. ถ้ารวยแต่ใช้เงินมือเติบก็ไม่เอาล่ะค่ะ จากคุณ : caffe latte - [ 23 ก.พ. 50 16:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไำม่รู้จะเลือกข้อไหนดี  ปกติเอาแต่อ่านไม่ค่อยมีส่วนร่วมเลยมาช่วยโหวตอีกแรงค่ะ ไมจำเป็นต้องเป็นดร.หรอกค่ะ เพราะไม่รู้จะพาไปงาน (วัด) ที่ไหน อิอิ แต่ถ้านิสัยแย่ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ต่อให้รวย และ เก่งแค่ไหน ก้อไม่เอา แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 50 19:52:33 จากคุณ : ปาท่องโก๋น้อย - [ 23 ก.พ. 50 19:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ AT คะ เราก็คิดงั้นนะ แต่ที่อังกฤษเค้าไม่ได้ให้ DDS น่ะสิ แต่ให้เป็น BDS (Bachelor of Dental Suegery) เราเข้าใจว่าที่อเมริกา คนจะเรียน DDS ได้ต้องจบปริญญาตรีมาก่อนทางด้านวิทยาศาสตร์  DDS มันก็เลยเหมือนการเรียนต่อปริญญาเอก แต่ที่อังกฤษเค้ารับเข้าเรียนเป็นปริญญาตรี หมอฟันที่อังกฤษเลยไม่ได้เป็นดร. แต่ที่เมืองไทยมันเป็นลูกครึ่ง คือรับเข้าเรียนตั้งแต่ปริญญาตรี แต่ได้ดีกรีเป็น DDS เลยไม่รู้ว่าจะจัดยังไง -_-" จากคุณ : Sa-idian - [ 24 ก.พ. 50 01:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังไงขออนุญาติร่วมแสดงความเห็นด้วยการโหวตหน่อยนะคะ จริง ๆ ก็มานั่งอ่านห้องนี้บ่อย ๆ คืออ่านเอาความรู้ และดูคนที่เรียนปริญญาเอกเค้าคุยกันน่ะค่ะ และยิ่งกระทู้นี้เป็นกระทู้ของคุณพธูไทย ซึ่งแอบชื่นชมเธอมานานแล้ว ก็เลยอดขอร่วมแจมหน่อยไม่ได้ คงไม่ว่านะคะ ถ้าคนแค่ปริญญาตรีจะขอร่วมแจมตอบกระทู้ในห้องนี้หน่อย..อิอิ.. ตัวเองขอเลือกโหวต ข้อ 2 เหตุผลก็เกี่ยวเนื่องกับเหตุผลในชีวิตจริง ตอนนี้ก็กำลังยุให้แฟนเรียนปริญญาเอก หลังจากที่แกเพิ่งจบปริญญาโทไปเพียงไม่กี่เดือน และจากนั้นแกก็ได้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม เหตุผลที่ยุให้เค้าเรียนปริญญาเอก ไม่ใช่เพราะคำนำหน้าว่า "ดร." อะไร แต่เป็นเหตุผลในเรื่องหน้าที่การงาน เพราะมองไปว่าถ้าเค้าจบปริญญาเอกในสาขาที่เค้าจบปริญญาโทมา (IT Security) มันก็จะได้เปรียบตรงเรื่องหน้าที่การงานเค้าด้วย ตัวเค้าเองก็ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าหลังจากเกษียณแล้วก็อยากจะเป็นอาจารย์สอนทางออนไลน์แบบพาร์ทไทม์กับมหาวิทยาลัยก็คงจะดี ซึ่งตรงนี้ถ้าเค้ามีปริญญาเอกมา ก็จะเป็นตัวช่วยในเรื่องความหวังของเค้า ก็เลยขอเป็นแรงยุอีกแรง แต่ไม่เคยคลั่งไคล้กับคำว่า "ดร." นะคะ เพียงแต่นึกถึงเรื่องหน้าที่การงานเค้ามากกว่า...เลยขอโหวตข้อ 2 ค่ะ... จากคุณ : JC2002 - [ 24 ก.พ. 50 03:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กำลังเรียนปริญญาเอก และต้องมีคู่ชีวิตเพศชาย มาช่วยกินอาหารฝีมือเราและสำคัญช่วยล้างจาน ตอนนี้กำลังบ้าทำอาหารค่ะ รู้สึกมีเพลินและมีความสุขมากกว่าทำวิจัยอีก จากคุณ : LWWW - [ 24 ก.พ. 50 03:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 To k. Sa-idian; This is what I understood about DDS degree in Thailand. Please correct me if I'm wrong. Previously, anyone who attended the program would receive TWO degrees; 1. BSc in Science (or something like that) and 2. DDS. Right now, the graduates from a dentistry school in Thailand will earn only 1 degree. That's a DDS degree... So, in my understanding, putting Dr in front of a Thai dentist name is valid according to American standard. NOTE: I'm not a DDS, so don't take my comments too seriously. Let's wait for a real Thai DDS to explain, OK? :) P.S. I'm glad that you're impressed with A. Krisana's story... I have no intentions to discourage you or anyone na krub, I just would like to use this as an inspiring example for all of us. จากคุณ : amatuer translator - [ 24 ก.พ. 50 04:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 If there were only two choices, I would choose neither of them. I prefer to be single. In my opinion, these two types of men, in general, have the potential to be self-absorbed and judgemental.  I'd rather be married to an ordinary man whom I can talk to comfortably and not being judged by either his educational level or wealth. As long as he has a broader sense of the world around him and can give me different perspectives on life,  a man with a bachelor's degree is fine with me. However, I have a friend who was also a former fellow Ph.D. student.  He is very down-to-earth and really nice.  Our friendship was purely platonic.  Had it been chemistry between us, though, I would have considered marrying him, not because of his Ph.D., but because of his unique personality. P.S.  I never consider a Ph.D. as a proof of intelligence.  To me, it's more about perseverance, determination, and resourcefulness. If given an opportunity, most graduates can continue and finish their Ph.D. if they possess these qualities. จากคุณ : Northernlife - [ 24 ก.พ. 50 05:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^^ Can I share my story? I can't vote the choices you provide becasue I cannot decide which one suit my case. I've already made my choice, just 9 months ago. Before making any decision, I had 2 guys on my hands ^^' One is the rich; another one is going to be Ph.D. student. Both of them have gotten 2 Master's degrees. I've chosen the last one ^^ because he's only one who inspire me to go to school. He's the one who concerns about my future, even my future is with him or not. He said, you have no need to be clever. Just do you best and respect yourself. That's enought. Everyone equally have 24 hours a day, why don't your make it worth? We might have nothing now, but we can earn it together if we still have our inspiration. I choose this guy, my beloved husband, because of the way he thinks and lives. Whether he changes his gold, Ph.D. student, or not, I still choose him. ^^ Ps. I plan to go school again for my Master's degree next spring, might be fall, any comments or suggestion would be very welcomed. แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 05:18:36 จากคุณ : Living Extreme - [ 24 ก.พ. 50 05:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอแจมด้วยคนนะครับ สำหรับผม อยากได้ผู้หญิงที่รวยครับ ในอนาคตผมฝันอยากทำโครงการ Telemedicine เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในชนบทห่างไกล ที่เมืองไทย การที่จะทำโครงการนี้ได้ มันต้องมีแรงหนุนจากนักการเมือง และคนที่นักการเมืองจะตอนรับก็ต้องคนมีเงิน ค่าใช้จ่ายต่างๆก่อนเริ่มโครงการก็มากโข ไหนจะค่าเลี้ยงดู ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศให้มาดูงานที่เมืองไทย เพื่อจะสร้างกระแส ความน่าสนใจของโครงการ ไหนจะค่าวิ่งเต้นล๊อบบี้ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนักการเมืองที่จะอนุมัติ โครงการ อีกทั้ง การหาเสียงสนับสนุนจาก บุคคลากรทางการแพทย์ มันก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเพื่อภาระกิจของชาติ ยังงัยผมก็ต้องเลือกคนมีเงินครับ จากคุณ : TelMed (TelMed) - [ 25 ก.พ. 50 14:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เลือกไม่ถูกเลย... แฟนตัวจริงไม่มีทั้งดร. แล้วก็ไม่รวยด้วย ชีวิตในอุดมคติของเราคือการอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข วันก่อนเพื่อนคนจีนเพิ่งมาบ่นๆให้ฟัง... บอกเรื่องสเปกสาวที่ชอบ มีข้อนึงคือต้องเรียนเก่ง และสามารถมาอยู่ที่นี่ได้ด้วยตัวเอง ...เหตุผลเกี่ยวกับการขอวีซ่า =_=' แปลกๆมั๊ยเนี่ย จากคุณ : r k i - [ 26 ก.พ. 50 01:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านของคุณ TelMed แล้วหัวเราะเลย เขียนจริงๆ หรือว่าเขียนให้ขำเนี่ย มีการสรุปเพื่อยืนยันเจตนารมย์ให้ด้วยว่า "เพราะฉะนั้นเพื่อภาระกิจของชาติ ยังงัยผมก็ต้องเลือกคนมีเงินครับ" จากคุณ : พธูไทย - [ 26 ก.พ. 50 06:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถึงคุณพธูไทย ครับ ที่ผมเขียนนั้นคือความฝันอันสูงสุดในชีวิต และกำลังเซ็งกับภาวะปัจจุบัน โครงการดีกับถูกละเลยเพราะการเมืองในวงการแพทย์ไทย ไม่สนับสนุน ขนาดประเทศเขมรเพื่อนบ้านของเรา เขามีงานวิจัยดีๆเกี่ยวกับ Telemedicine หลายอัน ออกเผยแพร่สู่ชาวโลก แต่พี่ไทยยังไม่ไปถึงไหนเลย ก็เลยคิดว่า อย่างนี้ต้องให้ศรีภรรยาเป็นคนจัดการ ดังนั้น รวยและกว้างขวางทางการเมือง คือผู้หญิง ในอุดมคติ ของผมครับ จากคุณ : TelMed (TelMed) - [ 26 ก.พ. 50 13:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I just want someone who I can talk to... สวัสดีค่ะพี่พธูไทย ขอมาร่วมแสดงความเห็น เรื่องคนมีดีกรี PhD หรือไม่หรือว่ารวยหรือเปล่า ไม่ได้เป็นประเด็นเลยค่ะ เคยคบมาแล้วทั้งสองแบบแต่ก็ลงเอยไม่ได้เพราะท้ายที่สุดคุยกันไม่รู้เรื่อง ส่วนตัวคิดว่า PhD ออกจะเป็น contraindication สำหรับตัวเองด้วยซ้ำ เวลาเจอคนมี PhD degree ก็รู้สึกชื่นชมแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันทำให้คนคนนั้น attractive เพิ่มขึ้นมามากมายเลยค่ะ จากคุณ : Little Red Riding Hood - [ 27 ก.พ. 50 14:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 There is no given choice that matches with mine... Hmmm, I picked a smart girl krub. Because, with her intelligence, she and my children can move on with their lives with or without me... Well, I like pretty girls also... but, physical beauty decays when time passes. Intelligence doesn't.... does this analogy make any sense? :) (and, there was one sour-graped proverb... It said; the more beautiful she is, the dumber she is.... She might have spent too much time in front of a mirror maybe). :) แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 05:18:54 จากคุณ : amatuer translator - [ 28 ก.พ. 50 04:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาปิดโหวตแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่มาร่วมโหวตกันสนุกๆ นะคะ ดูผลแล้วก็น่าสนใจดีมากๆ เลยค่ะ แต่ดิฉันไม่บอกค่ะ ว่าดิฉันโหวตหรือไม่ อิอิ ไม่รู้คนอื่นเป็นไง แต่สำหรับผู้หญิงแบบดิฉันและหลายๆ คน ดิฉันว่า การตั้งสเป็กเอาไว้คร่าวๆ ก็เป็นการดี คือเป็นการลิมิตขอบเขตการเลือก และทำให้รู้ว่าจะเสียเวลากับคนแบบไหน หรือแบบไหน เพราะวันๆ หนึ่งเรามี 24 ชม. เราก็ต้องคิดว่า ถ้าต้องอยู่กับคนที่ไม่ใช่สเป็ก มันทั้งเสียของเราและของเขา บางคนอาจว่า เรื่องของความรักนั้นมันมาเอง ไม่มีสเป็ก เรียกว่า รักแรกเห็น ราวกับชาติก่อนทำบุญร่วมขันกันมายังไงยังงั้น แต่สำหรับตัวเองเชื่อว่า รักแรกเห็นนั้น มันเป็น sex appeal ภายนอก จะไปรู้ว่ารักจริงหรือไม่ หวังแต่งหวังใช้เวลาแบบมีคุณค่า 24 ชม. ก็ต้องเรียนรู้กัน ดังนั้นองค์ประกอบที่ว่าความร่ำรวย กับการมี ดร. บางทีมันก็อาจเป็นข้อพิจารณาในการเลือกด้วยเช่นกัน (ใครจะไปรู้) บางคนโชคดี ได้ทั้ง คนที่รวย ซึ่งก็มีโอกาสมากๆที่จะไปเรียนให้ได้ ดร. ดังนั้นจึงเป็น ดร. ที่มีทรัพย์ศฤงคารมาจากบรรพบุรุษ แหม พูดไป ก็น้ำลายไหล คนที่เจอนี่ เขาไปหากันที่ไหนเนี่ย แต่ถ้าใครเจอผู้หญิงแบบที่มี ดร. และรวยด้วย สวยหรือไม่ ไม่สำคัญไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะถ้ารวย ก็ไปทำศัลยกรรมได้ ขอให้มาแนะนำให้คุณ TelMed รู้จักมักจี่กันไว้ด้วย เพราะอาจจะเป็นสาวที่ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง โดยที่คุณไตรภพไม่ต้องมามอบรถเข็นให้ เอ๊ะ รายการนี้ยังมีไหมสมัยนี้ ที่ชื่อว่า "ฝันที่เป็นจริง" น่ะ คุณไตรภพเป็นผู้ดำเนินรายการ และตอนจบรายการ ต้องจบด้วยประโยคที่คล้ายๆ ว่า "เพราะคุณเป็นคนดี ทางรายการจึงมอบรถเข็นให้เพื่อทำให้ฝันของคุณเป็นจริง" แล้วจะได้เอาไปเข็นขายของประกอบอาชีพได้น่ะ เอาไว้ไปเจอกันที่กระทู้ใหม่ (ที่ตอบได้) นะคะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 16:03:33 จากคุณ : พธูไทย - [ 28 ก.พ. 50 15:57:44 ]