Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เคล็ดลับทุน กพ. ครับ

    สำหรับชีวิตการเป็นนิสิต นักศึกษา พอเรียนจบปริญญาตรีแล้วถ้าไม่ทำงาน ก็อยากเรียนต่อ ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ ซึ่งอย่างหลังนี่ดูเหมือนว่าจะใช้งบประมาณไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นทุนการศึกษาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของหลายๆ คน ในการไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

    ทุน กพ. เป็นทุนรัฐบาลทุนหนึ่งที่ในแต่ละปีมีคนสอบค่อนข้างมาก และเป็นทุนที่จ่ายให้หมดทุกอย่างตั้งแต่ค่าหนังสือเดินทาง ค่าการเตรียมตัวเดินทาง ค่าคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต้องใช้ ค่าเล่าเรียน ตั๋วเครื่องบิน ค่ากินอยู่ ฯลฯ โดยจุดประสงค์คือเพื่อให้นักเรียนผู้ได้รับทุนเหล่านั้นกลับมารับใช้ชาติตามที่ต้นสังกัดขอทุนไป โดยสำนักงานข้าราชการพลเรือนจะเป็นผู้คัดสรรตามความต้องการของหน่วยงานต่างๆ จากการสอบ โดยช่วงของการเปิดรับสมัครจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม (ปี 50 นี้จะปิดรับวันที่ 23 มีนา ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.ocsc.go.th)

    ผมในฐานะนักเรียนทุน กพ. ที่กำลังรอไปศึกษาต่อจึงอยากใช้การโพสต์นี้ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการสอบและรายละเอียดต่างๆ ผมเกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง ครั้นจะหาเงินไปเรียนต่างประเทศเองคนต้องเก็บอีกหลายสิบปี ดังนั้นทุน กพ. ก็เป็นเป้าหมายของผมเช่นกันกับอีกหลายๆ คนครับ

    เริ่มด้วยเรื่องการสมัครสอบเลยนะครับ คนที่จ้องจะคว้าทุนนี้ก็ต้องทราบกันอยู่แล้วว่าผู้ที่จะสมัครได้นั้น เกรดเฉลี่ยปริญญาตรีต้อง 3.00 ขึ้นไป ยกเว้นผู้ที่เรียนด้านวิทยาศาสตร์ วิศวะ และบางสาขา อนุญาติที่ 2.75 ได้ครับ ส่วนถ้าใช้วุติปริญญาโท เกรดต้อง 3.50 ขึ้นไป มียกเว้นได้แล้วแต่กรณี เมื่อคุณสมบัติเป็นไปตามที่ กพ. กำหนดก็รอเวลาที่ กพ. เปิดรรับสมัครได้เลยครับ ใบสมัครสามารถโหลดได้ที่เวปของสำนักงาน กพ.

    ในใบสมัครคุณจะต้องดูว่าอยากได้ทุนเพื่อเรียนสาขาอะไร ส่วนใหญ่แล้วก็จะแบ่งเป็นทุนของรัฐบาล (กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ไม่รวมกระทรวงวิทย์) และทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ครับ โดยสามารถสมัครได้ทั้งสองประเภททุน แต่ละทุนสมัครได้ 1 หน่วยทุนและจะสมัครข้ามหน่วยไม่ได้ (ถ้าโหลดเอกสารมาดูจะเข้าใจจุดนี้ครับ) เรื่องการเลือกทุนผมคิดว่าต้องเลือกให้ไปในทางสาขาที่ตัวเองจบมาครับ เนื่องจากตอนคัดเลือกคณะกรรมการก็จะดูวุฒิที่คุณจบมาเช่นกัน เนื่องจากจะมีผลต่อการสมัครมหาลัยต่อไปในกรณีที่ได้รับเลือกครับผม การเลือกทุน ยิ่งคนสอบน้อย คุณก็มีโอกาสมาก คราวนี้จะทราบได้อย่างไรว่าคนสอบจำนวนเท่าไร

    ผมจะอธิบายตรงจุดนี้นะครับ คือในการสมัครสอบแต่ละครั้ง คุณจะได้เลขที่ใบสมัครและเลขที่สาขาที่สมัคร ในเวปของ กพ. เมื่อปิดรับสมัครช่วงนึงแล้ว จะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบในแต่ละหน่วยทุน โดยคุณสามารถหาชื่อคุณโดยการพิมพ์ในเวปของ กพ. ได้ครับ และถ้าคุณลองใช้ trick นิดนึ่ง ใส่เลขที่หน่วยทุนลงไปแทน โปรแกรมก็จะนำข้อมูลของคนที่สมัครหน่วยทุนดังกล่าวแสดงให้เห็นเช่นกัน ตอนนี้คุณก็จะทราบคู่แข่งของคุณแล้ว และถ้าปีนี้ยังสอบไม่ผ่าน ปีหน้าคุณก็น่าจะคาดคะเนได้ว่าแต่ละหน่วยทุนน่าจะมีคนสมัครประมาณเท่าไรครับ

    การกรอกใบสมัครต้องกรอกให้ชัดเจน(อยู่แล้ว) มีความสามารถอะไรหรือเข้าร่วมกิจกรรมอะไรใส่ไปให้หมด เราต้องเด่นที่สุด ดีที่สุดครับ ส่วนเรื่องการสอบจะแบ่งออกเป็นสองแบบคือสอบภาษาอังกฤษและตรรกศาสตร์ การสอบภาษาอังกฤษ ผมว่ามันก็ประมาณสอบ Toefl นะครับ เป็น multiple choices ทั้งหมด ลองเอาข้อสอบ toefl มานั่งทำดูก็ได้ ข้อสอบมี 100 ข้อในระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทำเสร็จทั้ง 100 ข้อก็มักจะไม่มีเวลาทวนเสมอ ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันมองคนอื่น แล้วก็ต้องทนกับสนามสอบบ้างบางครั้ง บางทีร้อนมาก บางทีมีเสียงจากข้างนอกหรือคนข้างๆ คนซ้ายหมุนปากกา คนขวาอ่านฮึมฮัมในลำคอ ข้างหน้ากระดิกเท้า ข้างหลังไอค่อกแค่ก ก็อย่าไปสนใจครับ มีสมาธิให้มากๆ

    ช่วงหลังจะเป็นการสอบตรรกศาสตร์ สามารถหาข้อสอบที่ใช้สอบเข้าข้าราชการมาลองทำดูได้ครับ ซื้อได้ที่สำนักงานของ กพ. มี 100 ข้อในเวลา 2 ชั่วโมงเหมือนกัน ภาษาอังกฤษว่ายากแล้ว มาเจอตรรกศาสตร์นี่ยากกว่า มีทั้ง logic คณิตศาสตร์ เลขอนุกรม วิเคราะห์ภาษาไทย อ่านจับใจความ ฯลฯแต่ถ้าเตรียมดีๆ ต้องทำให้ได้ครับ

    จะสอบผ่านข้อเขียนได้คือ เขาจะ rank 5 คนแรกและสอบได้มากกว่า 70% ขึ้นไป แล้วแต่ว่าอะไรจะถึงก่อน เมื่อผ่านการสอบข้อเขียนมาแล้วก็เตรียมสอบสัมภาษณ์ หลายๆ คนจะสังเกตได้ว่า ชื่อคนที่ผ่านการสัมภาษณ์นั้นจะซ้ำๆ กันในแต่ละทุน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนเลือกไปกี่ทุน

    จากนั้นถึงเวลาสอบสัมภาษณ์ ในใบประกาศผล อันนี้เราจะรู้เลยว่าใครเป็นคู่แข่งเราบ้าง ดังนั้นขั้นตอนต่อไปคือการหาข้อมูลครับ พิมพ์ชื่อเขาใน google หาเลยก็ได้ครับ ดูว่าได้เกรดเท่าไรกันบ้าง ทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง แล้วดูจุดเด่นและจุดด้อยทั้งของเขา ของเรา จากนั้นก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้ตัวเราดูเด่นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในมหาลัยที่เคยทำ งานที่เคยทำ อาจจะเป็นงานสอนพิเศษก็ได้ ใส่ไปให้หมด ตอนสอบสัมภาษณ์จะมีให้เขียนเรียงความภาษาอังกฤษในเวลา 20 นาที และสอบ EQ สำหรับทุน กพ ส่วนทุนกระทรวงวิทย์ มีเรียงความทั้งไทยและอังกฤษ รวมทั้งให้กรอกข้อมูลบางอย่างอีกครั้ง(อ้างอิงจากปีที่แล้วนะครับ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง) จากนั้นสอบสัมภาษณ์ ของทุน กพ. จะสัมภาษณ์โดยการอภิปรายกลุ่ม โดยจะมีหัวข้อมาให้ แล้วนั่งล้อมวงอภิปราย โดยคณะกรรมการจะนั่งอยู่วงนอกคอยให้คะแนน (เราจะได้รับป้ายชื่อให้ติดที่หน้าอก) เหมือนกับการให้คะแนนตะกร้อลอดห่วงอ่ะครับ ถึงตรงนี้ความอายอย่าให้มีนะครับ คิด แล้วพูด แสดงความคิดเห็นอย่าให้คนอื่นพูดอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ต้องรู้จักหวะในการแสดงความคิดด้วยครับ จากนั้นจะเป็นการสัมภาษณ์เดี่ยว ต้องพรีเซ็นต์ตัวเองให้เต็มที่ครับ จะมีการสัมภาษณ์ทั้งไทยและอังกฤษ ส่วนทุนกระทรวงวิทย์หลังจากเขียนเรียงความแล้วก็สัมภาษณ์เดี่ยวเลย แต่ผมว่าเขาให้คะแนนbackground เยอะกว่าการให้คะแนนสัมภาษณ์นะครับ

    เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็รอผลครับ ถ้าได้ก็เตรียมเข้าฟัง กพ. พูดถึงการสมัครมหาลัยต่อไป เงื่อนไขทุน การกลับมาใช้ทุน ฯลฯ ต้นสังกัดอาจจะเรียกเราเข้าพบบางครั้งด้วย ก็ถือว่าเป็นการดูที่ทำงานในอนาคตครับ

    ก็มีประมาณนี้ครับ การสอบทุน กพ. ก็หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับหลายๆ คนที่สมัครสอบในปีนี้และปีถัดไปครับใครมีคำถามก็เชิญนะครับผม โชคดีครับ

    แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 12:46:58

    จากคุณ : ชายโสดไม่โหดร้าย - [ 22 มี.ค. 50 12:40:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom