ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีค่ะคุณปู ขอแนะนำความรู้อันน้อยนิดที่พี่มีนะค่ะ การขอ residence permit คุณปูจะขอได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานค่ะ ไม่เกี่ยวกับว่าคุณปูจะเคยมาเดนมาร์กรึเปล่า ถ้าแต่งงานแล้ว เราก็ได้ permit visa 2 ปี ก่อนแล้วค่อยต่อทุกๆ 2 ปี ถ้าจำไม่ผิด 3 หน หนที่ 4 ก็จะได้วีซ่าถาวรค่ะ ส่วนเรื่องงานดีๆ มีแน่นอนค่ะ ถ้าคุณปูเรียนภาษาจบและเรียนต่อไปตามสายงานที่คุณปูอยากเรียน เรื่องมาแต่งงานที่เดนมาร์ก วีซ่าท่องเที่ยวแต่งไม่ได้นะค่ะ ต้องเป็นวีซ่าเยี่ยมแฟน แต่พี่เข้าใจว่าคุณปูหมายถึงวีซ่าเยี่ยมแฟน ใช่มั้ยค่ะ แต่อาจจะเรียกผิด ถ้ามาแต่งงานที่เดนมาร์กและไม่กลับไปหลังจากวีซ่าเยี่ยมแฟนหมด เงินประกันโดนยึดแน่นอนค่ะ และถ้าแฟนคุณปูไม่เคยมีลูกอายุไม่เกิน 18 ปี มาแต่งที่เดนมาร์กจะต้องมีเงินประกันอีก 56000 โครน (จะได้คืนก็ต่อเมื่อเรียนโรงเรียนภาษาจบแล้วครึ่งนึง และอีกครึ่งนึงหลังจาก 7 ปีค่ะ) รอพี่ๆ คนอื่นมาแนะนำนะค่ะ มีมือโปรอีกเยอะเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 50 14:34:43 จากคุณ : peeyaporn - [ 24 มี.ค. 50 14:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะพี่ จริงๆปูน่ะอยากจะขอ residence permit ค่ะ แต่แฟนปูบอกว่าเนี่ยนะ ยากมากเลยไม่ได้หรอกเพราะไม่เคยไปเดนมาร์ก ปูก้อเอ๊ะจริงเหรอ ไม่จริงมั้ง เพราะเช็ครายละเอียดแล้วดูเหมือนไน่จะมีปัญหา ปูว่าอย่างน้อยเรามีความรู้ มีความพยายาม และมีความตั้งใจจริง มันต้องได้สิหน่ะ แต่แฟนเค้าก้อจะบอกว่า เนียโทรไปเช็คมาแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้หรอก ปูก้อเลยบอกว่าที่ปูเช็คจากพี่ๆที่เค้าไปมาแล้วหรืออยู่ที่นั่น มันไม่ใช่นี่ บางครั้งเจ้าหน้าที่เค้าอาจจะบอกไม่หมดก้อได้ ไอ้เรารึอุตส่าห์ตั้งใจจะลองซักตั้ง แต่แฟนหนุ่มผู้(ยังคงสับสนในชีวิต)เริ่มเจื่อนๆอย่างนี้ก้อท้อเหมือนกัน อยู่ที่นี่เราแชร์ค่าใช้จ่ายกันทุกอย่า ปูไม่มีปัญหา ที่ตัดสินใจจะไปกันเป็นเพราะเค้าไม่สามารถทำงานที่นี่ได้ เราก้อยังไม่อยู่ในฐานะจะเลี้ยงดูเค้าได้ ก้อต้องทำใจว่าเอาน่ะ ถ้าลองไปโน่น อาจจะมีอะไรดีขึ้น เพราะเป็นบ้านเค้า เค้าน่าจะดูแลรับผิดชอบเราในช่วงเราเริ่มต้นได้ เราคบกันประมาณปีกว่าๆ เค้าเป็นคนดีแต่ความเป็นผู้ใหญ่อาจจะยังไม่มากพอในสายตาปู พ่อแม่เค้าก้อเป็นห่วงตรงจุดนี้ ตอนนี้ก้อกำลังเช็ครายละเอียดให้ปูจากทางเดนมาร์ก แต่ปูกังวลว่าข้อมูลทางทฤษฎีกับปฎิบัติจริง อาจจะแตกต่างกันก้อได้ เราวางแผนจะไปเดือนสิงหานี้ แต่คงอาจจะลำบากแน่นอน เพราะเรายังไม่ได้ยื่นเอกสารเลยนะค่ะ ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสเลย พี่ๆมีคำแนะนำมั๊ยค่ะว่า ควรจดทะเบียนก่อนล่วงหน้ายื่นเรื่องขอ residence permit นานเท่าไหร่ค่ะ ปูทำงานที่บิษัท real estate agent ลูกค้าจากเดนมาร์กเยอะมาก ปูก้อเลยแอบหวังว่า ถ้าเราสามารถไปที่โน่น เพราะเราขอresidence permit ได้เนี่ย อะไรๆก้อคงง่ายขึ้น เรียนภาษา แล้วค่อยเริ่มปรับตัวเข้ากับหลักสูตรอะไรก้อได้ที่จะส่งผลให้เราก้าวหน้า พี่ๆคิดว่าจะเป็นไปได้มั๊ยค่ะ อีกอย่าง ปูก้อไม่อยากลาออกเพราะถ้าความเป็นไปได้ไม่สูงพอ ไอครั้นจะไปด่วนๆก้อไม่อยากทำเพราะเมือนไม่มีความรับผิดชอบ แต่ถ้าจะลาบ่อยๆเพื่อๆปกรุงเทพก้อสงสารเจ้านายและกังวลเรื่องงาน กลุ้มใจมากๆค่ะพี่ ช่วยตอบหน่อยนะค่ะว่า ควรทำอย่างไร เริ่มจากจุดใดก่อนดี ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ปู (lalune_poem) - [ 24 มี.ค. 50 15:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบอีกรอบนะค่ะ พี่เดาว่าที่แฟนน้องปูโทรไปถามอาจจะถามในกรณีที่ ไม่ได้แต่งงานมากกว่า ถ้าไม่ได้แต่งงานก็ยื่น residence permit ไม่ได้ค่ะ ไม่เกี่ยวกับน้องปูเคยมาเดนมาร์กรึเปล่า และอีกกรณีที่ไม่ได้เจ้าหน้าที่เค้าอาจจะพิจารณาตรงที่แฟนน้องปูไม่มีงานและที่พักอาศัยที่แน่นอนในเดนมาร์กด้วยก็ได้ค่ะ อันนี้ก็สำคัญค่ะ ถ้าจะแต่งงานที่เมืองไทย แฟนน้องปูต้องมีเอกสารจากคอมมูนที่เดนมาร์กติดไปด้วยนะค่ะ ถึงจะแต่งที่เมืองไทยได้ แต่ถ้าเค้าไม่มี แฟนต้องกลับมาทำที่เดนมาร์กอ่น หรือไม่งั้นน้องปูก็ต้องมาแต่งที่เดนมาร์กแล้วก็ยื่น residence permit ปีที่แล้วที่พี่ยื่นรอ 3 เดือนค่ะ แต่เดือนมกราคม มีพี่คนไทยยื่น รอแค่ 1 เดือนเองค่ะ (จดทะเบียนแล้ว ยื่น residence permit  ในวันถัดไป) อิมมิเกชั่นอาจจะทำงานเร็วขึ้นหรืออาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละเมือง แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 50 17:18:34 จากคุณ : peeyaporn - [ 24 มี.ค. 50 17:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านแล้วก็ช่วยตอบไม่ได้จริงๆๆ ยังไงเอาใจช่วยแล้วกันค่ะ จากคุณ : แม่น้องวิน - [ 24 มี.ค. 50 23:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็แต่งงานแล้วที่เดนมาร์ค จะกลับไทยต้นเดือนหน้า ไปทำ family reunion ก็ขอให้ทาง อิมมิเกรชั่น เซ เยสสสส แล้วเรื่องเงินประกันเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังได้รับคำตอบ YES นะค่ะ ขอให้คุณlalune_poem โชคดีนะค่ะ จากคุณ : takom - [ 25 มี.ค. 50 04:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หากแฟนไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเองนี่มันก็มีปัญหาเรื่องขอวีซ่าแน่เลยค่ะ เพราะทางกฏเขาระบุไว้ว่าแฟนคุณต้องมีที่อยู่เป็นของตัวเอง จะเช่าเขาอยู่หรือเป็นเจ้าของเองก็ได้ แต่หากเช่าก็ต้องมีสัญญาระยะยาวไม่จำกัดเวลา หรือหากถือสัญญาเช่าระยะสั้น สัญญาก็ต้องมีระยะเวลาเช่าอย่างน้อยสามปีจากวันที่ยื่นในสมัครขอวีซ่า แบบเช่าต่อจากคนอื่น (fremleje) นี่ไม่ผ่านกฏค่ะ เรื่องงานนี่ก็สำคัญ ไม่ทราบว่าแฟนคุณปูมีงานทำที่เดนมาร์กหรือเปล่า ถึงแม้ตามกฏเขาบอกว่าขอวีซ่าได้ เพราะแฟนคุณไม่เคยรับเงินช่วยเหลือบางอย่างจากทางรัฐ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากแฟนไม่มีงานทำไม่มีรายได้ประจำ คุณสองคนจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายกินอยู่ในชีวิตประจำวัน อัตราค่าครองชีพที่เดนมาร์กมันสูงมาก หากมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจยอบแยบ มันก็อาจส่งผลกระทบทางลบกับชีวิตคู่ได้นะคะ สำหรับเรื่องที่คุณตั้งความหวังว่าหากมาที่ประเทศของแฟนแล้ว เขาอาจจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมามีความรับผิดชอบมากขึ้น หากเป็นจริงก็ดีไป แต่หากว่าอะไรๆยังเหมือนเดิม คือคุณปูต้องทำหน้าที่รับผิดชอบทั้งชีวิตเขาและชีวิตคุณในประเทศใหม่ที่คุณปูไม่คุ้นเคย คุณปูจะรับได้หรือเปล่าคะ ขอเอาใจช่วยให้คุณปูหาทางออกได้นะคะ จากคุณ : Smilla - [ 25 มี.ค. 50 05:45:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรณี คล้ายๆกัน ลองดู ว่า แม่บ้านท่านอื่นๆ เค้าให้ คำแนะนำไว้ อย่างดี http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5237419/H5237419.html จากคุณ : Varnamo - [ 26 มี.ค. 50 13:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้องปู พี่ว่าน้องปูสามารถ sense ได้นะ ว่าเค้าสามารถจะรับผิดชอบชีวิตน้องปูในเดนมาร์กได้รึเปล่า และช่วงแรกจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุด คือช่วงที่ต้องเริ่มต้นในการสร้างครอบครัว โดยน้องปูก็ต้องเรียนภาษา และเข้ารับการอบรมสำหรับการหางาน ส่วนแฟนก็ต้องตั้งใจหางานและสร้างความมั่นคงในช่วงเริ่มต้น ส่วนเรื่องกฏการขอ resident permit ก็ตามลิ้งค์ที่คุณ Varnamo เอามาแปะไว้เลยค่ะ เรื่องที่เคยหรือไม่เคยมาแล้วขอไม่ได้นั้น พี่ไม่คิดว่าทาง Danish Immigration Service จะนำมาเป็นหลักฐานในการประกอบการพิจารณาในการออก resident permit ค่ะ (หลังจากได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องแล้ว) จากคุณ : MingDK - [ 26 มี.ค. 50 21:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะ พี่ๆ ทุกคน ปูนะก้อลองตรองดูแล้วล่ะค่ะว่าตอนนี้เค้าอาจจะดูแลเราไม่ได้ในระดับที่เราซึ่งเคยชินกับการมองเพื่อนพี่น้องผู้ชายคนไทยของเราควรจะดูแลผู้หญิงของเค้า ก้อคงไม่เป็นไรค่ะเพราะเค้าเองก้อมาจากต่างวัฒนธรรมกับเรา มันก้อคงต้องเจอกันที่ครึ่งทางตรงจุดใดจุดนึงล่ะนะ แอบหวังนะเนี่ย ;) ครอบครัวเค้าก้อระดมสมองกันน่าดูเลยล่ะค่ะ ว่าจะทำอย่างไรดี เอกสารตัวไหน อย่างไร มันก้อเลยทำให้ปูเนี่ย ใจชื้น และก้อฮึดขึ้นมาอีกนะค่ะ ตอนนี้เราก้อพยายามที่จะรวบรวมข้อมูล เรื่องที่อยู่แฟนบอกว่าเช็คกับคอมมูนบ้านเค้าที่โคเปนเฮเกนแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะตอนนี้ชื่อเค้าอยู่ในทะเบียนบ้านของพ่อแม่ เพราะก่อนกลับมาเมืองไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เค้าเพิ่งบอกเลิกสัญญาไปนะค่ะ (ตอนนั้นเรากะว่าจะเปิดบริษัทเอเจนท์อสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน แต่โชคไม่ดี ทั้งกฏหมายและสถาณการณ์บ้านเมืองไม่เอื้ออำนวย) แต่วันนี้คุณลุงเค้าก้อบอกว่าจะให้ไปอยู่อพารท์เมนท์ของเค้าในกรณีที่เราได้ไปอยู่ที่นั่นจริงๆ เพราะเค้าไม่ได้ใช้เนื่องจากต้องไปดูแลคลินิคที่มัลม่า ก้อดีนะค่ะเพราะปูนะทำอะไรก้อไม่เป็นเลย จะได้เริ่มเรียนรู้ก้อคราวนี้แหล่ะ แต่ก้อคงไม่ต้องเคอะเขินอะไรเพราะเราไม่ต้องอยู่บ้านพ่อแม่เค้าตลอด แถมอพาร์ทเมนท์ที่ว่าก้ออยู่ที่ฮาร์เบอร์ที่ใกล้กับเมโทรรึอะไรนี่แหล่ะค่ะ (แฟนบอกว่าน่าจะสะดวกดี) เรื่องงานของแฟน แฟนบอกว่าเค้ายังถือว่าตัวเองมีงานทำอยู่แต่เพีงขอลาพักร้อนระยะยาวโดยไม่เรียกเงินเดือน และสามารถกลับไปทำงานได้ทุกเมื่อนะค่ะ ตรงนั้นเค้าบอกว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะเค้าไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่พี่ค่ะปูไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้างกังวลมากเลยเรื่องที่ปูไม่เคยไปเดนมาร์กมาก่อน เค้าบอกว่ายังไงๆเค้าก้อจะให้ปูยื่นวีซ่าท่องเทียวไปด้วยพร้อมกันกับตอนที่ไปยื่นเอกสารการขอแฟมิลี่รียูเนี่ยน เค้าบอกว่าอย่างน้อยถ้าคำขอแฟมิลี่รียูเนี่ยนไม่ผ่าน ปูก้อจะไม่ต้องรอนานในการขอวีซ่าท่องเที่ยวอีก ไปซัก1เดือน อย่างน้อยก้อยังจะได้ถือว่าเราไปเดนมาร์กมาแล้ว ปูก้อเลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ หรือว่าการที่เค้าอายุยังไม่ถึง28ปีนี่มีผลมากขนาดนี้เลยเหรอค่ะ ตอนนี้ก้อกำลังนั่งเตรียมเอกสารที่จะยื่นขอแต่งงานกันอยู่ค่ะ มีข้อสงสัยอย่างนึง เอกสารตัวนี้มันเป็นภาษาเดนมาร์กปูก้อเลยไม่รู้เรื่อง แต่จะเป็นตัว แมริจ ดีแคลแรชั่นนะค่ะที่เป็นพื้นหลังสีฟ้า ช่องว่าที่เค้าเว้นไว้ให้ใส่เนี่ยว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ที่ไหน เราจะทราบได้อย่างไรล่ะค่ะ รึว่าให้เว้นไว้ก่อนดีค่ะ เพราะเอกสารตัวนี้นี่ต้องส่งไปให้คอมมูนเค้าเซ็นด้วยก่อนหน้าที่แฟนจะเอามายื่นดำเนินเรื่องขอแต่งงานกับเรา (ประกอบพร้อมกับสำเนาพาร์สพอร์ต ใบรับรองทางด้นการแพทย์ health insurance เอกสารเกี่ยวเนื่องกับภาษี และสำเนาบัตรประจำตัวของชาวเดนมาร์ก2คน ที่เราจะนำมารวมยื่นจดการแต่งที่เมืองไทย) พี่ๆมีคำแนะนำหรือคอมเมนต์มั๊ยค่ะ เด็กน้อยตาดำๆ (แถมตัวดำๆด้วย)จะได้พบเห็นทางสว่างซะทีนะค่ะ เพราะบางครั้งเอกสารบางอย่างที่เป็นในส่วนที่เค้าต้องเตรียม ปูไม่ค่อยอยากจะไปก่าวก่ายเค้านะค่ะ แต่อีกใจก้อกังวลว่าเค้าจะเตรียมครบแล้วหรือยัง เค้าชอบลืมนั่นลืมนี่บ่อย ปูกลัวว่าถ้าเกิดลืมอะไรขึ้นเราต้องรออีกนานเลยนะค่ะ ตอนนี้ก้อจะเมษายนอยู่แล้วด้วย ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ จากคุณ : ปู (lalune_poem) - [ 26 มี.ค. 50 22:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หวัดดีปู เอาใจช่วยอีกแรงในการเตรียมเอกสารนะ เข้าใจความรู้สึกเลยแหละว่า กดดันขนาดไหน ยังจำได้ว่าตอนเรายื่นขอ Permanent Resident ของแคนาดาเมื่อสามปีที่แล้ว  เอกสารเยอะมาก ตรวจแล้วตรวจอีกอยู่นั่นแหละ จนส่งเอกสารไปแล้วก็มาพะวงว่ากลัวจะไม่ได้อยู่กับแฟนที่นี่ เราแนะนำว่า ต้องช่วยกันเตรียมเอกสารกันทั้งสองคนดีที่สุด สองหัวดีกว่าหัวเดียวไง แต่ข้อเสียอาจได้จะทะเลาะกันนิดหน่อยแบบกระปริบกระปรอย ฮาๆๆ หวังว่าจะได้เจอปูที่เดนมาร์กภายในปีนี้นะอยากหาเพื่อนเที่ยวอยู่พอดี   จากคุณ : JumboNanaimo - [ 27 มี.ค. 50 07:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น้องปูคะ (ขออนุญาตเรียกน้องเลยก็แล้วกัน) ครอบครัวของแฟนน่ารักดีจัง มีพวกเขาคอยช่วยเหลือแบบนี้ มันก็ทำให้อุ่นใจดี :) เรื่องที่อยู่นั้น หากสามารถแยกตัวไปอยู่กันเองได้ก็น่าจะทำนะคะ จะได้ทำอะไรๆได้สบายๆ มีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องคอยอึดอัดเกรงใจกลัวว่าจะรบกวนพ่อแม่ของแฟน หากคิดถึงกันก็ไปหากัน ไปเที่ยวหรือไปทานข้าวด้วยกัน แบบนั้นคงจะดีมากกว่า ที่ว่าแฟนปูกังวลเรื่องปูไม่เคยไปเดนมาร์กมาก่อนนั้น อาจเป็นเพราะเขากลัวว่าปูจะอยู่ไม่ได้หรือเปล่าคะ ที่เดาเอาแบบนี้ก็เพราะที่นี่อะไรๆมันไม่ได้ฟู่ฟ่าหรูหรา ไม่สนุกสนานเฮฮาเหมือนชีวิตที่กรุงเทพ ชีวิตความเป็นอยู่แต่ละวันของคนส่วนมากที่นี่มันก็เรียบๆง่ายๆ ของก็แพง เวลาหน้าหนาวนี่ก็หนาวนาน แถมอากาศก็มืดๆครึ้มๆจนผู้คนพากันเป็นโรคจิตซึมเศร้าหดหู่ไปตามๆกัน ขอย้ำอีกครั้งเหมือนที่คนอื่นเคยตอบมาก่อนว่าเรื่องปูเคยมาเดนมาร์กหรือไม่นั้น ไม่มีผลต่อการขอวีซ่าค่ะ เดาไม่ออกค่ะว่ากระดาษสีฟ้าที่ปูกล่าวถึงนั้นคืออะไร ลองเขียนมาสิคะ แล้วจะแปลให้ จากคุณ : Smilla - [ 28 มี.ค. 50 03:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากค่ะพี่ ฟังแล้วใจชื้นขึ้นมาหน่อย นี่อ่ะค่ะ http://www.ambbangkok.um.dk/NR/rdonlyres/4FDA83F5-0D4C-4BE8-B7BF-2DDE32117C38/0/Ægteskabserklæring.pdf จากคุณ : poo (lalune_poem) - [ 28 มี.ค. 50 16:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตามลิ้งค์ไปดูมาแล้วค่ะ มันคือใบรับรองสถานภาพความเป็นโสดของฝ่ายหญิงและชายนั่นเอง ดูๆแล้วเขียนง่ายสำหรับกรณีของปูกับแฟน เพราะน้องทั้งสองไม่เคยแต่งงานมาก่อน เมื่อกรอกข้อความและส่งไปยังคอมมูนที่แฟนปูอยู่แล้ว เขาก็จะตรวจสอบดูว่าโสดจริงหรือเปล่า หากจริง ก็โอเค ผ่านการทดสอบและแต่งงานได้ หากแต่งงานที่คอมมูนนั้นๆ ก็ไม่ต้องเรื่องมากยุ่งยากอีก เพราะเขามีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว แต่หากไปแต่งงานที่อื่น ทางคอมมูนเขาก็จะออกใบรับรองให้ว่าชายหญิงคู่นี้โสดจริงๆสามารถทำการสมรสกันได้ มีอยู่ข้อหนึ่งในใบสมัครที่ปูต้องเริ่มคิดได้แล้ว คือแต่งงานแล้วจะใช้นามสกุลใคร หากใช้นามสกุลเดิม ก็ช่อง beholde nuvaerende efternavn หากจะใช้นามสกุลสามี ก็ต้องเลือก antage mandens efternavn หากใช้นามสกุลไทยเป็นนามกลาง แล้วตามด้วยนามสกุลแฟนก็เลือก anvende eget efternavn som mellemnavn foran giftenavn หากแฟนอยากจะมาใช้นามสกุลปู ก็มีให้เลือกได้เช่นกัน :) เรื่องวันแต่งงานที่ทางการเขาต้องการทราบนั้น เดาเอาว่าคงเพราะเมื่อขอใบรับรองแล้ว ใบรับรองจะใช้ได้ 4 เดือนจากวันที่ออกเอกสารมาให้ และหากแต่งที่ที่ว่าการอำเภอ (rådhus) ทางนั้นเขาจะได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ทำพิธีให้เรา ที่เขาถามเรื่องนี้มันก็ค่อนข้างธรรมดานะ เพราะที่เห็นมาส่วนมากนี่เขาเตรียมงานกันเป็นปี กำหนดวันที่และอื่นๆไว้พร้อม ของพี่นั้นตอนแต่ง ขนาดว่าเป็นงานเรียบๆง่ายๆ ยังต้องเตรียมตัวล่วงหน้าหลายเดือน เพราะต้องจองโบสถ์และจองตัวบาทหลวงน่ะค่ะ ขอตัวไม่แปลให้ทั้งเอกสารนะคะ เพราะมันยาวจัง ยิ่งเป็นคนพิมพ์อะไรช้าๆอยู่ด้วย :) ก็เลยเลือกตอบเฉพาะแต่ที่ถามมา หวังว่าคงพอช่วยเหลือให้ความกระจ่างได้นะคะ จากคุณ : Smilla - [ 29 มี.ค. 50 03:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะพี่ แล้วถ้าจะอยู่ที่โน่น ใช้นามสกุลใครจะดีกว่ากันค่ะ ปูคิดว่าใช้ของเค้าน่าจะดีกว่า ง่ายในการติดต่อเรื่องต่างๆ (หรือปล่าวค่ะ) แต่ถ้าอยู่ที่เมืองไทย ปูคงจะใช้ของตัวเองนะค่ะ เรากะว่าจะจดที่บางรักนะค่ะ :) ขอบคุณจ๊ะหนูป้อม :) จากคุณ : ปู (lalune_poem) - [ 29 มี.ค. 50 09:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น้องปู อืม ตอบไม่ถูกเหมือนกันเรื่องนามสกุล เพราะพี่เองก็ไม่รู้ว่า นามสกุล มีผลต่อการริดต่อธุระแค่ไหน แต่มีประเด็นเรื่องการหางานมาให้คิดๆ กัน แต่ก็ไม่ได้สรุปให้นะว่าเปลี่ยนนามสกุลดีหรือไม่ดี ก็ขอใช้ประสบการณ์ส่วนตัวเล่าให้ฟังแล้วก็ แล้วก็น้องปูก็ลองคิดพิจารณาดูเอาเองละกันนะ ตอนพี่แต่งงานมาใหม่ๆ (ยังไม่ได้เรียนเพิ่มเติม) ก็ร่อนจดหมายสมัครงานไปทั่ว (ตอนนั้นเปลี่ยนนามสกุลเป็นนามสกุลแฟนแล้ว) แต่ก็ไม่มีผลอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เคยได้เรียกไปสัมภาษณ์งานทั้งนั้น ก็เลยคิดว่า เอ๊ สงสัยเรื่องชื่อนามสกุลนี่ไม่น่าจะมีผลมั้งเนี่ย จนกระทั่งวันนี้พอดี ได้มาเจอคนรู้จัก ที่เป็น นักศึกษาไทยที่เรียนที่มหาลัยเดียวกัน แต่ว่าไม่ได้คุยกันมานานมาก ก็เลยนั่งคุยกับเค้า เค้าเรียน ป.โท สาขา finance แถมมี ป. โท สาขาเดียวกันมาจากอเมริกาแล้ว แล้วก็มีประสบการณ์ด้วย (เรียนเก่งอ่ะ) แต่พอมาสมัครงานที่นี่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็หางานค่อนข้างลำบาก (เค้าบอกว่า หรือจะเป็นเหตุผลว่าชื่อและนามสกุลเค้า) ไม่ขอสรุปว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนดี ให้ลองไปคิดดูเล่นๆ ละกันนะ จากคุณ : MingDK - [ 30 มี.ค. 50 04:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอรบกวนถามค่ะ พอดีมีน้องคนนึงบอก หญิงว่าเด๊ยวนี้เปลี่ยนนามสกุลไม่ได้แล้วเพราะเขาจดทะเบียน ที่เดนมาร์คก่อน หญิงแล้วขอเปลี่ยนนามสกุล คอมมูน บอกไม่ให้ แล้วต้อง ได้ ซิติเซ่น หรือ อะไรสักอย่างก่อนจริงหรือเปล่าค่ะ? กรณี หญิงแต่งงานยังไม่เปลี่ยนเพราะไม่อยากมาเปลี่ยนอะไรที่ไทยตอนนี้ แต่จะไปเปลี่ยนตอนได้ เรซิเด้นแล้วนะค่ะ รบกวน พี่ๆ ชี้แนะด้วย ปล จะกลับไทยวันที่หนึ่งเมษา นี้แล้วจ้า บายๆ สาวๆ เดนมาร์ค นะค่ะ ไว้เจอกัน ใหม่จ๊ะ จากคุณ : ying (takom) - [ 30 มี.ค. 50 20:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้องหญิง จากประสบการณ์ของตัวเองเรื่องการเปลี่ยนนามสกุลนี่ เค้าจะมีให้เลือกตั้งแต่ให้กรอกแบบฟอร์ม  marriage declaration แล้วค่ะ ว่าหลังจากแต่งงานแล้วอยากที่จะเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ของแฟน หรือใช้นามสกุลตัวเอง หรือว่าจะแบบเก็บนามสกุลตัวเองไว้เป็นชื่อกลาง แล้วเอานามสกุลสามีมาต่อท้าย พอแต่งงานแล้วก็จะมีการระบุในทะเบียนสมรสว่าเปลี่ยนนามสกุลแต่งงานหรือไม่อย่างไร  จากนั้นเวลาขอ resident permit ก็เอาใบทะเบียนสมรสนี่ไปยื่นด้วยค่ะ ถ้าเราได้ระบุขอเปลี่ยนนามสกุลไปตอนทำเรื่องแต่งงานแล้ว เวลา Danish Immigration Service ออก resident permit ให้ ก็จะออกให้พร้อมระบุชื่อเราตามที่ได้ระบุไว้ในทะเบียนสมรสค่ะ เรื่องเปลี่ยนชื่อที่คอมมูนนี่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำอย่างไร เพราะไม่มีประสบการณ์ค่ะ   ส่วนถ้าจะเปลี่ยนนามสกุลเราในพาสปอร์ตไทย ก็สามารถทำได้ โดยต้องมีเอกสารสามอย่างคือ 1. พาสปอร์ตตัวจริง 2. ใบทะเบียนสมรส 3. ใบแปลทะเบียนสมรสภาษาองกฤษ รับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก (ถ้าทางคอมมูนออกใบทะเบียนสมรสเป็นภาษาอังกฤษให้ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย) / หรือไม่ก็ถ้ายุ่งยากเรื่องแปลและรับรองเอกสาร ก็ลองติดต่อคอมมูนที่ได้ทำเรื่องจดทะเบียนสมรสว่าสามารถออกใบทะเบียนสมรสเป็นภาษาอังกฤษได้รึเปล่า 4. เงินค่าธรรมเนียม (จำไม่ได้แล้วว่ากี่โครน แต่ไม่เกิน 200 โครนค่ะ) ปล. ถึงเราจะเปลี่ยนนามสกุลในพาสปอร์ตแล้ว แต่ก็จะยังไม่มีผลอะไรถึงบัตรประชาชนไทยทั้งนั้น นอกจากว่าเราต้องไปติดต่ออำเภอที่เราอยู่เพื่อขอติดต่อเปลี่ยนนามสกุลเอง (แต่ก็ไม่เคยทำเหมือนกัน) เพราะระบบพาสปอร์ตกับบัตรประชาชนไม่ได้เชื่อมต่อกัน ที่ไปเปลี่ยนในพาสปอร์ตเพราะในสติกเกอร์ resident permit ระบุชื่อตัวองเ และนามสกุลใหม่ (ของสามี) ในขณะที่ในพาสปอร์ตยังเป็นนามสกุลเดิม เวลาจะซื้อตั๋วเดินทางไปไหนก็กลัวว่าจะมีปัญหา ก็เลยจัดการให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย น้องหญิงขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ จากคุณ : MingDK - [ 1 เม.ย. 50 03:13:27 ]