ความคิดเห็นที่ 1 ฝรั่ง: most western people were completely shocked by that news เรา: we have laws about king....laws are laws... ฝรั่ง: that doesn't make them right or just ฝรั่ง: I think he should have been punished... but maybe he should have met the king... or done community service... or something positive ฝรั่ง: putting him in jail for 10 years is completely ridiculous ฝรั่ง: to western people... it makes it look like the King is oppressive ฝรั่ง: Thai people love him... but people should be allowed to express their views ฝรั่ง: if they have to live in fear... then it becomes a dictatorship ฝรั่ง: u have to understand western history ฝรั่ง: most western countries don't trust kings/queens ฝรั่ง: because they were often cruel and evil... and people fought very hard to get democracy ฝรั่ง: so.. although Thai people love their King... they stil have laws that oppress people เรา: :'( ฝรั่ง: do u understand? ฝรั่ง: it is 2 issues ฝรั่ง: no one questions the fact that Thai people love their King ฝรั่ง: but if the King can stand by and allow people to be punsihed so strongly ฝรั่ง: then people say: how can he do that? ฝรั่ง: because in the west we don't think kings are gods... they are men ฝรั่ง: 10 years for a drunken insult is crazy ฝรั่ง: we call those kinds of laws "draconian" ฝรั่ง: meaning that they should have changed hundreds of years ago ฝรั่ง: don't be mad at me ฝรั่ง: I am giving u the perspective from outside ฝรั่ง: to be honest... most western people think Thai people are brainwashed เรา: well....we have laws about king...if you break the laws you have to go in jail not only western but thais also ฝรั่ง: your laws are cruel and injust เรา: with the king ka ฝรั่ง: I know ฝรั่ง: but people think Thai people are brain-washed ฝรั่ง: indoctrinated ฝรั่ง: because ever since u have been born ฝรั่ง: all u have ever heard is good things about the king ฝรั่ง: all the media and information about the king is good ฝรั่ง: 2 possible reasons ฝรั่ง: 1. he is completely good ฝรั่ง: 2. no bad information is allowed ฝรั่ง: both are true ฝรั่ง: he IS good ฝรั่ง: BUT ฝรั่ง: in Thailand... any negative information is punished ฝรั่ง: sooooooo... there is NO balance ฝรั่ง: u all think he is wonderful ฝรั่ง: but u have have VERY strong laws making sure that u all think he is wonderful ฝรั่ง: NO ONE is allowed to question him at all ฝรั่ง: western countries got rid of these kinds of laws maybe 200-300 years ago ฝรั่ง: I guess ฝรั่ง: no one questions the fact that he is good ฝรั่ง: I mean Nelson Mandela is good ฝรั่ง: but... people MUST be allowed to express their opinion ฝรั่ง: if they can't .... then people start saying that the King is oppressive... and bad ฝรั่ง: I hope u aren't mad ------------------------- แก้ไข: Copy บทสนทนามาซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 14:01:39 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 14:00:22 จากคุณ : Krapook-_-' - [ 4 เม.ย. 50 13:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้จะถูกลบรึป่าว แต่ว่าอยากจะโต้ตอบเค้าได้มากกว่านี้ ไม่อยากนั่งอ่านเงียบๆ อย่าว่าเรา stupid หรือไม่รักชาติเลยนะคะ ตอนนั้นเราไม่รู้จะตอบอะไรยังไงจริงๆ ค่ะ ไม่สบายใจเลยที่เราไม่สามารถโต้ตอบ หรือพูดอะไรกลับได้ :'( คือเพื่อนคนนี้เค้าไม่ได้เป็นคนเลว หรือดูถูกอะไรนะคะ เค้าแค่ พยายามจะเข้าใจน่ะค่ะ เพราะว่าคนไทยทุกคนรัก เทิดทูน บูชา พระมหากษัตริย์กันทุกคน แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 13:23:38 จากคุณ : Krapook-_-' - [ 4 เม.ย. 50 13:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่รู้สินะครับ ผมว่าที่เพื่อนฝรั่งคุณพูดน่ะ มีเหตุผลมาก (ยกเว้น ประโยคนี้ Thailand has ridiculous laws about the King... maybe that is why people are angry ซึ่งผมว่าไม่เป็นเหตุเป็นผล)  แต่อย่างที่เห็น เค้าบอกว่า maybe ก็ไม่ได้แปลว่า เค้าคิดว่าต้องเป็นอย่างนั้นอ่ะครับ ผมว่าที่เค้าพูดมีเหตุผลมากคือ Maybe thai people are brainwashed: all they have heard about since they were born are only good sides....ฝรั่ง: 2 possible reasons  ฝรั่ง: 1. he is completely good ฝรั่ง: 2. no bad information is allowedผมว่าอันนี้จริงนะ   ในเมื่อสื่อแสดงความคิดเห็นได้ด้านเดียว  คนที่ไม่ได้ใกล้ชิดอย่างเราๆ จะรู้อะไรด้านอื่นๆ  (หรือแม้แต่คนที่ใกล้ชิด  ถ้าเค้ามาเล่าออกสื่อสาธารณะ มันก็ได้ด้านเดียวอยู่ดี) ถ้าข่าวที่เพื่อนฝรั่งคุณได้มาถูกจริง (ฝรั่ง: 10 years for a drunken insult is crazy ฝรั่ง: we call those kinds of laws "draconian)  คุณไม่ว่า กฎหมายมันมากไปหน่อยหรือ กับ 10 ปี กับการกระทำที่ไม่ได้อยู่ในสติสัมปชัญญะแบบนั้น?   อันนี้ก็ถูกอีก  Thai people love him... but people should be allowed to express their views ฝรั่ง: if they have to live in fear... then it becomes a dictatorship การวิพากษ์อย่างมีวิจารณญาณ น่าจะทำให้ประเทศพัฒนาได้มากกว่าการที่ไม่ยอมให้มีการวิพากษ์ หรือยอมให้พูดแต่ด้านดี โดยรวมๆ (อ่านคร่าวๆ เพราะยาวเหลือเกิน)  คุณไม่มีทางเถียงฝรั่งคนนี้ได้ครับ  เพราะว่า เค้าพูดมีตรรกะ เเต่เรื่องการวิพากษ์สถาบัน กับ กฎหมายเกี่ยวกับสถาบันนี่เป็นสิ่งที่มันไม่มีตรรกะอ่ะครับ   (เหมือนกับถามว่า ทำไมคนไทยทำไมใช้ เท้า เขี่ยของมันไม่สุภาพ)  มันเป็นเรื่องที่คนถือกันอย่างนั้นเอง (จนกว่าคนกลุ่มใหญ่จะลุกมาเปลี่ยนแปลง)  เพราะฉะนั้น ไม่แปลกที่คุณเถียงกลับไม่ได้  เพราะว่ามันหาเหตุผลที่จะเถียงกลับไม่ได้ไงครับ   อย่างดีก็พูดได้แค่ เรารักสถาบันกษัตริย์ สถาบันกษัตริย์สำคัญอย่างนั้นอย่างนี้ ทำเพื่อประเทศชาติ ฯลฯ  แต่อย่างไรก็ดี คุณไม่ได้ตอบคำถามว่า "ทำไมวิพากษ์(อย่างมีเหตุผล)ไม่ได้"  และ "ทำไมกฎหมายจึงดูรุนเเรง ไม่สมกับการกระทำผิด" ใช่ป่ะครับ จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 4 เม.ย. 50 13:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็เหมือน ฝรั่งคนหนึ่งจู่ไป จีนแล้วไปพ่นรูปประธานเหมาที่จตุรัสน่ะ คุณว่ามันจะโดนจับไหม อะไรก็ตามที่คนในชาตินั้น เคารพรัก เมื่อเราเป็นเพียงแขกมาเยี่ยมเยียน ก็ควรจะเคารพกฎบ้านเขาง่ายๆ แค่นี้ ฝรั่งเป็นชนชาติที่เอาแต่ความคิดแบบตัวเอง เป็นศูนย์กลาง ฝรั่งสวิสที่โดนจับ เพราะอยู่ดีๆ ไม่ว่าดี ก็เอารูปในหลวงที่เขาติดฉลองวันเฉลิม มาพ่นสีเสียนี่ คือคนสติดีๆ เขาจะทำกันไหมคะ ไม่ใช่เด็กแล้วด้วยนะ เเก่เเล้ว ทำเพื่ออะไร เหมือนคนมาบ้านคุณ เเล้วฉวยรูปพ่อคุณลงมา เอาสีสเปรย์พ่นใส่ ดิฉันว่ามันไม่โดนเตะออกจากบ้านก็คงต้องเจ็บตัวแน่ๆ กฎหมายใดๆ ขึ้นอยู่กับคนชาตินั้น ฝรั่งคนนั้นไม่มีสิทธิ์จะมาบอกว่า เราควรมีสิทธิ์ทำอะไร พูดอะไร ทำอะไร กับราชวงศ์ตราบใดที่เรา ไม่รู้สึกว่า สิ่งที่กฎหมายขีดให้เราทำ มันมาละเมิดหรือนำความเดือดร้อนให้เรา และถ้าเป็นดังนั้น คนในประเทศก็คงจะเปลี่ยนมันเอง เพราะกฎหมายนั้นมาจากประชาชน เรื่องนี้ไม่มีข้อยุติ ดิฉันว่ามันไม่น่ามาหาเหตุผลด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นเรื่องไม่มีเหตุผล ความรัก เคารพ เทิดทูนบูชา มันไม่ได้เป็นเหตุผล เป็นอารมณ์   แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 14:12:13 จากคุณ : mrs.night owl - [ 4 เม.ย. 50 14:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฝรั่งเขาไม่สนใจใครหรอก เขาแค่รักตัวเขาเอง - ส่วนพวกฝรั่งขี้นก ในเมืองไทยนะดิ โอโห้ คุยโม้โอ้อวด มาก  ขนาดข้าด้วน แขนด้วน แก่งัก หัวล้าน พุงโย  ยังเอาไปคุยโม้โอ้อวดเลยว่ามีเมียไทยสวยๆ   - คนไทยนะซิ กราบไว้ฝรั่งซะขนาดนั้น - ขี้ยา โจร ฆาตรกร  บินมาอยู่เมืองไทย ได้เป็นถึงอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ เงินเดือน 2 หมื่น - 3หมื่น - ส่วนคนไทย เก่ง ดี ฉลาดแค่ไหนก็ได้เงินเดือนไม่เท่าฝรั่งแน่นอน - เวลาคนไทยย้ายไปอยู่เมืองนอก คนไทยต้องโดนดูถูก เป็นประชากรชั้นที่ 2  อย่างมากก็ทำงานเสริฟ ล้างจาน ล้างห้องน้ำ  น้อยมากที่คนไทยจะได้ทำงานดีๆ ในเมืองนอก นึกดูแล้ว น่าสงสารคนไทยเน่อะ จากคุณ : kreuzberg - [ 4 เม.ย. 50 14:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฝรั่งเค้ายึดถือเรื่อง freedom of expression ค่ะ   แฟนเราก็พูดทำนองนี้บ่อยๆเหมือนกัน เถียงกันไม่เคยจบ  ประเด็นของแฟนเรามีแค่จุดเดียวจริงๆคือ "people should be allowed to question everything including the royals"   ปล. เห็นบทสนทนาแล้วตกใจ อิอิ นึกว่าแฟนเรามาเองนะนั่น จากคุณ : pervpanda - [ 4 เม.ย. 50 15:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ช่างฝรั่งปะไร เขาว่าเขามีอิสระด้านความคิดคำพูดก็เรื่องของเขา แต่อย่ามาวุ่นวายก้าวก่ายกับเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา ความจงรักภักดี ของคนไทยทุกคน เพราะเท่ากับเข้าบ้านแล้วมาด่าเจ้าบ้านนั่นแหละ..ไม่มีใครว่าหรอก แต่อาจหัวแตกไม่รู้ตัวก็ได้นะ เราคนไทย ไม่ต้องอึ้งทึ่งชื่นชมไปกับความคิดของเขาทุกอย่างหรอกค่ะ รายละเอียดเนื้อหา ไม่ได้อ่านหมดหรอกค่ะ มันยาวมาก เท่ากับจดจำคำพูดมาทุกคำเลยนะเนี่ย และไม่เห็นความสำคัญของทุกประโยคว่าจะสื่ออะไรให้สร้างสรรค์ ตอบไปเลย ถ้าพูดเรื่องนี้ เลิกพูด ยูมีสิทธิคิดแต่ยูไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด บ้านเมืองแต่ละที่มีกฎหมาย วัฒนธรรมของเขาอยู่แล้ว. ว่างๆยูลองไปอยู่หมู่บ้านที่มีความเชื่อ..หมู่บ้านผีปอบ.หรือหมู่บ้านผีกระสือ สัก 3 วัน.แล้วยูเสนอไอเดียที่คิดว่า เจ๋งสุด ของยูเลยนะ  แล้วไอจะกลับมาเยี่ยมยู..ดูสิว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับยู.. จากคุณ : jeejeeberry - [ 4 เม.ย. 50 16:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เหอๆ คุณก็ลองถามเค้าสิครับ สมมุติว่าเค้าเป็นคนคริสต์ แล้วคุณไปว่าพระเยซู หรืออะไรที่เค้ารักและนับถือคิดว่าเค้าจะโกรธไหม เรื่องของ วัฒนธรรม ความเชื่อถือ ศรัทธา มันเอาเหตุผลอะไรมาอ้างมาเถียงกันไม่ได้หรอกครับ เหมือนพวกผู้ก่อการร้ายที่ระเบิดพลีชีพแล้วคิดว่าได้ขึ้นสวรรค์นั่นแหละ คุณมองว่าพวกเค้าโง่บ้า แต่เค้ากลับมองไปคนละอย่างกับคุณไงครับ เพราะงั้นเวลาเถียงกับมันเรื่องเหตุผลของขนบ ประเพณี และวัฒนธรรม ความเชื่อ ก็ต้องเปรียบเทียบกับสิ่งเหล่านี้ครับ ถึงจะเปรียบเทียบได้ อย่างที่ว่า ฝรั่งบอกว่าพระเจ้าสร้างโลก มันเป็นไปตามตรรกะไหมล่ะครับ จากคุณ : พีท - [ 4 เม.ย. 50 17:04:20 A:61.7.175.241 X:61.7.175.241, 61.7.175.241 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยูมีสิทธิคิดแต่ยูไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด บ้านเมืองแต่ละที่มีกฎหมาย วัฒนธรรมของเขาอยู่แล้ว. ^ ^ ^ ^ เห็นด้วยยยยย จากคุณ : Gigolina - [ 4 เม.ย. 50 17:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งืมๆๆๆ เค้าดันเป็นคนที่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลยน่ะค่ะ เลยไม่รู้จะเอาอะไรไปเปรียบเทียบ แต่เห็น คห.ทุกๆ ท่านแล้วก็คงต้องหาอะไรไปเปรียบเทียบให้เค้าเห็น ว่าคิดแบบ logic ไม่ได้สำหรับเรื่องนี้ แต่จุดที่เค้ามองคือ คิดเป็น logic ไม่ได้แต่เราใช้ Laws ที่ส่วนมาก จะถูกตัดสินอย่างเป็น Logic เค้าเลยคิดว่ามันเป็นอะไรที่ส่วนทางกันละมั๊งคะ เราก็บอก ไปแล้วหละว่า Laws are Laws จากคุณ : Krapook-_-' - [ 4 เม.ย. 50 17:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เปรียบเทียบง่ายๆ ค่ะ ว่า ถ้ามีคนเข้าไปบ้านเขา เอารูปพ่อแม่เขา คนที่เขาเคารพ มาเลา่นพ่นสี ด่าว่า พิพากษ์วิจารณ์คนในครอบครัวเขา ที่โต็ะอาหารเย็น ทั้งๆ ที่กินของของบ้านเขา นั่งในบ้านเขา ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรเลย แต่ถามว่า สมาชิกในครอบครัวชอบใจไหม จะทนฟัง ทนพฤติกรรมนั้นไปเรื่อยๆ หรือว่าจะฟาดกระบาลตัวสป่วนไปสักที ก่อนถีบออกจากบ้านคะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 4 เม.ย. 50 17:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยาวหน่อยนะ แต่เอาไว้ไปอธิบายให้เพื่อนฝรั่งละกันนะ นี่ให้แฟนเราช่วย ขนาดเค้าไม่ใช่คนไทยเค้ายังเข้าใจถึงความรักที่เรามีต่อในหลวง ดีกว่าคนไทยบางคนในนี้ "ฝรั่ง: but if Thai people don't want people to question the king... then they shouldn't put people in jail... that is oppressive ฝรั่ง: does that make sense?" -The man who was put in jail was not questioning the king he was only looking for a drink and made a stupid mistake which insulted a man the entire country loves and there are laws in place so this means that if you break a law you get punished, (same as in any country). ฝรั่ง: to western people... it makes it look like the King is oppressive ฝรั่ง: Thai people love him... but people should be allowed to express their views ฝรั่ง: if they have to live in fear... then it becomes a dictatorship" -It would only seem oppressive if the king was actually doing something wrong, the thai people are not stupid so they would realise if their king was not taking their best interests to heart and they would speak up against him. They dont love him simply because he is the king but because he has (almost) always only had the good of the country in mind. An oppressive king would need to control the population in order to maintain their love and adoration. The thai king doesnt do this. The thai people are allowed to express their views and in todays modern age anything that the king did wrong would be common knowledge both nationally and internationally and therefore the love for him would be diminished. "ฝรั่ง: I know ฝรั่ง: but people think Thai people are brain-washed ฝรั่ง: indoctrinated ฝรั่ง: because ever since u have been born ฝรั่ง: all u have ever heard is good things about the king ฝรั่ง: all the media and information about the king is good ฝรั่ง: 2 possible reasons ฝรั่ง: 1. he is completely good ฝรั่ง: 2. no bad information is allowed" -Its not that they are only hearing the good side of their king its that there is only a good side. Any bad information would of course spread to the entire country, you cannot hide it in todays society like you could 300 years ago. The thai people would definitely know if he had dome something wrong or even if he didnt have the countries best interests at heart. Believe it or not but he has actually been a good, loving king, whose best trait was the fact that he didnt interfere with the people governing themselves. Just like the Queen of England who never interferes with the politics of the country for fear of dividing it. "ฝรั่ง: in Thailand... any negative information is punished ฝรั่ง: sooooooo... there is NO balance ฝรั่ง: u all think he is wonderful ฝรั่ง: but u have have VERY strong laws making sure that u all think he is wonderful ฝรั่ง: NO ONE is allowed to question him at all" -There are no laws against spreading truthful information and even if there were in todays age it would be impossible for the information not to spread (at least outside of thailand so we would know as well). People will question if there are real issues surrounding him (for example the people in North Korea, they have been told ever since they were very young to love their leader but they still know there is something wrong because their society has so many problems so of course the love is forced unlike the love for the thai king). "ฝรั่ง: but... people MUST be allowed to express their opinion ฝรั่ง: if they can't .... then people start saying that the King is oppressive... and bad" -See above จากคุณ : Nick and Mint - [ 4 เม.ย. 50 18:06:58 A:203.184.51.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ Krapook คะ ดูเหมือนคุณจะใส่ใจและแคร์ความคิด ความรู้สึกของฝรั่งคนนี้มากเลยนะคะ ตอนนี้ชักเป็นห่วงคุณแล้วนะคะ ในคห.ที่ 10 คุณเองเขียนบอกว่า เค้าดันเป็นคนที่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลยน่ะค่ะ..โอ..รู้อย่างนี้แล้วคุณยังจะกล้าคบกับเขาอีกหรือคะ อันนี้พูดตรงๆโกรธก็ยอมล่ะ.. คนที่ไม่มีศาสนาน่ะ พวกนี้ไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้งจิตใจตนเองหรอกนะคะ เพราะเค้าอุปโลกน์ตัวเค้าเป็นเทพเจ้าซะเอง ..ป่วยการอธิบายไปก็ไม่ซาบซึ้งหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ ที่เป็นห่วงเพราะว่า หากคุณคบกับเขาไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเขาอาจจะจับคุณกดคอลงโถชักโครก..แล้วบอกว่า..ไอคิดว่าไอมีสิทธิทำน่ะเนี่ย.. เตือนไว้ด้วยเป็นห่วงจริงๆนะคะ..เสียวต้นคอแทนอ่ะ จากคุณ : jeejeeberry - [ 4 เม.ย. 50 18:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยู่ที่ไหนก็ต้องเคารพกฏระเบียบและธรรมเนียม ณ ที่นั้น จบข่าว จากคุณ : ingenioer student - [ 4 เม.ย. 50 18:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 555+ ขอบคุณค่ะคุณ Nick and Mint สำหรับคำแนะนำ ฝากขอบคุณแฟนคุณด้วย ขอบคุณ คุณ jeejeeberry ที่เป็นห่วงค่ะ ฝรั่งคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานาน น่ะค่ะ เป็นพวกคิดทุกอย่างแบบเป็นตรรกะ ซึ่งบางครั้งอาจจะดู เย็นชา แต่พอคุยเรื่อง King เราแล้ว เราก็ไม่อยากจะทำเมินเฉย คงต้องหาอะไรไปตอบโต้กับเค้าบ้าง โดยที่การคุยกันไม่เป็นการ หมิ่นประมาทเบื้องสูงเลย แค่เอาความจริงมาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ที่เป็นความรู้สึก หรือเป็น Logic และขอบคุณ คุณ mrs.night owl ด้วยที่ให้คำแนะนำที่ตรงประเด็น อ่านแล้วนึกภาพออกเลยค่ะ จากคุณ : Krapook-_-' - [ 4 เม.ย. 50 18:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับคุณ mrs.night owl, kreuzberg, jeejeeberry, พีท, Gigolina และคุณ Nick and Mint แต่ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับคุณ krisdauw ถ้าคุณคิดจะโต้แย้งจริงๆ คุณก็สามารถทำได้ตามคำแนะนำต่างๆ ที่หลายๆ ท่านเสนอมาแล้วนะคะ และเราคิดว่าไม่จริงเลยที่จะบอกว่านายฝรั่งคนนั้นพูดมามีเหตุผล ตามที่ข้างบนได้กล่าวกันหลายครั้งแล้วนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของวัฒนธรรม สิ่งที่ถูกที่ควรสำหรับคนชาติหนึ่งอาจจะไม่ถูกไม่ควรสำหรับคนอีกชาติหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเรื่องการใส่รองเท้าเข้าบ้านคนอื่น (หรือแม้จะบ้านตัวเองก็เถอะ) ถ้าเป็นคนไทยถือว่าคนคนนั้นไร้มารยาท ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเลย ในขณะที่ถ้าเราไปอยู่ในสังคมตะวันตก เรื่องนี้กลับเป็นเรื่องที่ต้องทำและถือเป็นสิ่งถูกต้องเหมาะสม ตามความเห็นของเรา เราว่าเพื่อนฝรั่งคุณคนนี้มี attitude ค่อนข้างแย่นะ ไม่รู้เรื่องแล้วยังอวดฉลาดอีก คิดแต่ว่าความเห็นของตัวเองถูกอย่างเดียว แล้วก็เอาแต่อ้างถึงความคิดและสังคมตะวันตกอย่างเดียวว่าถ้าเป็นบ้านเมืองเค้า ชาวตะวันตก (ซึ่งก็พวกเดียวกับเค้าอ่ะนะ) ไม่มีทางเป็นอย่างนี้ blah blah blah ไม่แน่ใจว่าเคยเดินทางไปต่างประเทศหรือศึกษาวัฒนธรรมชาติอื่นบ้างรึเปล่าถึงมองโลกแคบอย่างนี้ ที่เค้าพูดว่า most western pepople don't understand ก็อาจเป็นเพราะพวกคนเหล่านั้นคงมีโลกทัศน์แคบเหมือนกัน (ฝรั่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยไปเที่ยวเมืองนอกกันเยอะนักแล้วก็ไม่ได้สนใจความเชื่อความคิดคนอื่นมากนักเช่นกัน เพราะคิดว่าตัวเอง “ดีกว่า”) ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะเราทำงานในบริษัทที่เป็น multinational organization มา แล้วก็เจอแต่พวกฝรั่งมีการศึกษา หูตากว้างไกล และพยายามเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ที่เค้าต้องร่วมงานด้วย แล้วเค้าก็เคยถามถึงเรื่อง King เหมือนกัน เพราะก่อนเค้าเดินทางมาเมืองไทยเค้าศึกษาเรื่องราววัฒนธรรมรวมไปถึงความเชื่อและสถาบันอันเป็นที่รักของชาวไทย แต่สิ่งที่เค้าถามเป็นสิ่งที่ถามเพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นโดยไม่มีการเอาเรื่องวัฒนธรรมตะวันตกของเค้ามาเปรียบเทียบ เพราะมันเทียบไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเค้าไม่มีสถาบันกษัตริย์แบบประเทศเรา ส่วนเรื่องกฎหมายที่เค้าว่า to western people... it makes it look like the King is oppressive เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับ "the King" เลยซึ่งคุณสามารถแย้งได้นะคะ ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้ร่างกฎหมายแล้วพระองค์ก็ทรงเห็นชอบลงพระปรมาภิไธยเท่านั้น เป็นเพราะประชาชนของพระองค์ต่างหากที่รักและเทิดทูนพระองค์ เพราะคุณงามความดีและพระเมตตาของพระองค์ถึงได้ออกกฎหมายแบบนี้มา เพื่อป้องกันไม่ใครมาหลบหลู่หรือแสดงอะไรก็ตามที่ไม่เคารพต่อสถาบันที่ประชาชนชาวไทยเคารพรัก ความรักและความเคารพที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยความบังคับ แต่เกิดขึ้นเพราะคุณงามความดีและพระเมตตาของพระองค์ เพราะพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงมีทศพิธราชธรรมซึ่งชาวตะวันตกไม่เคยได้สัมผัสในสมัยที่เค้ามี king ความรักและเคารพของชาวไทยจึงเป็นแบบที่เรียกว่า charismatic power ซึ่งพวกฝรั่งคงไม่เคยได้เจอ จึงไม่เข้าใจ หาว่าคนไทยโดนล้างสมอง พวกนี้ชอบมองว่าคนเอเชียด้อยกว่าตัวเอง ไม่ฉลาดเท่าและเป็น white burden ที่ต้องคอยการช่วยเหลือจากพวกเค้า และที่ว่า people MUST be allowed to express their opinion พูดอย่างกับว่าทุกวันนี้เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้อย่างนั้นแหละ นี้ขนาดสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงมี คมช. นะ ยังมีคนมาประท้วงมากมายเรื่องให้ปลด พล.อ. เปรม ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างมาก ก็ยังทำกันเลย เราว่าคุณ Krapook คงอยากจะตอบโต้ แต่แน่นอนว่ามันคงจะลำบากมากขึ้นที่จะต้องอธิบายเรื่องเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษอ่ะนะ เราแนะนำวิธีการเปรียบเทียบง่ายๆ ให้เข้าใจได้เร็วแบบคุณ mrs.night owl รับรองเข้าใจแน่นอนเลยค่ะ หรือตามที่คุณ Nick and Mint post ไว้ก็ถือว่าดีเหมือนกัน ถ้าเค้าเป็นคนคิดอะไรเป็น logic จริงอ่ะนะ ปล. ไม่ชอบแระโยคนี้มากๆ ถึงมากที่สุด "u all think he is wonderful" We don't think นะ He is really wonderful เป็น Fact นะคะ We don't fancy ขอโทษนะคะถ้าเกิดพิมพ์แล้วอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรือไม่ต่อเนื่อง หรือไปกระทบความรู้สึกใครเข้า แต่มันรู้สึกหงุดหงิดแบบห้ามไม่ได้เวลามีคนคิดอะไรแบบนี้ จากคุณ : ขาจร (ผ่านมาเจอ) - [ 4 เม.ย. 50 19:28:28 A:124.120.206.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเหมือนคุณ mrs.night owl เด๊ะๆๆๆ เลยค่ะ แต่คงเรียบเรียงคำพูดออกมาไม่ได้ดีเท่านี้ จากคุณ : Prinzessin auf der Erbse - [ 4 เม.ย. 50 23:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คนที่ไม่มีศาสนาน่ะ พวกนี้ไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้งจิตใจตนเองหรอกนะคะ เพราะเค้าอุปโลกน์ตัวเค้าเป็นเทพเจ้าซะเอง ..ป่วยการอธิบายไปก็ไม่ซาบซึ้งหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ ^ ^ ^ ขอเถียงอย่างเต็มปากว่าไม่จริงครับ คุณกำลังใช้อคติของตัวเองเหมารวมไปซะหมด ผมคบกับคนพวกนี้หลายคน บางทีกลับรู้สึกดีซะอีก เวลาคุยอะไรกัน ว่ากันด้วยเหตุผลล้วนๆ ไม่มีเรื่องของม่านวัฒนธรรมความเชื่อ ที่เอาแน่เอานอนด้วยไม่ได้ เข้ามาเกี่ยวข้อง เท่าที่อ่านของจขกท.มา จนมาถึงตรงที่บอกว่า เค้าไม่ใช่คนที่นับถือศาสนา ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบทสนทนาที่ออกมาถึงเป็นลักษณะนั้น ตัวผมมีเพื่อนที่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลยก็ค่อนข้างเยอะ ก็มีดีเลวปะปนกันไป แต่คนที่ดีจริงๆ แม้ว่าตัวเค้าจะไม่นับถืออะไร (เพราะเค้าแข็งแกร่งมั่นคงจากภายในพอ เค้าจึงไม่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวที่มองไม่เห็นนะครับ ไม่ใช่ว่าอุปโลกคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าเอง) แต่เค้าจะเข้าใจว่าแต่ละคนก็มีความเชื่อต่างกันไป ในคำถามหลักของกระทู้ ผมคงเป็นอีกคนนึงในชนกลุ่มน้อย ที่ต้องบอกว่า คิดค่อนข้างเหมือนกับคุณ krisdauw ความเห็นที่ 3   ผมคิดว่าปัญหาของประเด็นแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่คำตอบของคำถามที่เพื่อนของเจ้าของกระทู้ถามมาหรอกครับ แต่ว่าหัวข้อนี้เป็นหัวข้อละเอียดอ่อน ที่คนไทยก็ยังไม่พร้อม หรือไม่อยากที่จะพูดถึง อย่าไปว่าฝรั่งเลย เอาคนไทยด้วยกันที่เป็นพวกวิจารณ์เจ้านายทั้งหลาย คนไทยก็ไม่ชอบแล้ว ไม่ฟังด้วยซ้ำไปว่าเค้าพูดถึงเรื่องอะไร ข้อเท็จจริง เหตุผลมากน้อยแค่ไหน แค่ขึ้นไปสะกิดแตะ คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมรับแล้ว ซึ่งผมไม่ได้มองว่าเป็นของที่ผิดหรือไม่ดีแต่อย่างใดนะครับ ผมแค่บอกว่า ในมุมมองผม นั่นคือลักษณะที่เป็นอยู่ มีอยู่ ในสังคมไทย และก็คงจะอยู่ต่อไป จะบอกว่าเป็นวัฒนธรรม ความเชื่อ อะไรก็ตาม เอาเป็นว่ามันคือลักษณะที่มีอยู่ของสังคมและวัฒนธรรมนี้ก็แล้วกัน จากคุณ : Baritone - [ 4 เม.ย. 50 23:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าฝรั่งไม่เข้าใจก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปแคร์ความรู้สึกเค้านี่นา ปล่อยมันไปเหอะ ผมอ่านบนเว็บ BBC NEWS นะมีฝรั่งที่อยู่ในไทยมาโพสสนับสนุนเยอะแยะ ก็ไอ้คนสวิสคนนี้อยู่ไทยมา 10 ปี ไม่ได้พึ่งเข้ามาอยู่ อยู่10ปีนี่จะไม่รู้เรื่องกฏหมายบ้านเรา หรือเรื่องที่คนไทยรักในหลวงมากๆ เชียวเหรอ ถ้ามันเกลียดนัก ทำไมไม่กลับสวิสไปหละ ถ้าไม่ชอบก็ควรจะไปที่อื่นซะ When in Rome do as the Romans do. ถ้าจะคิดว่าไปเที่ยวที่อื่นแล้วจะทำตัวเหนือกฏหมายก็ผิดแล้ว แล้วบอกมันไปด้วยนะว่า King หนะไม่ได้ก่าวก่ายหรอกเรื่องพวกนี้ กฏหมายหนะมีคนตั้งขึ้นมา แล้วคนที่จับหนะตำรวจ ไม่ใช่ King ในหลวงท่านคงไม่ใส่ใจหรอกเรื่องแบบนี้ แต่ประชากรชาวไทยที่รักท่านสิทนไม่ได้เลยจับมันติดคุกซะเลย จากคุณ : Milo - [ 5 เม.ย. 50 01:11:31 A:209.7.38.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณขาจรครับ ที่คุณพูดว่า "ถ้าคุณคิดจะโต้แย้งจริงๆ คุณก็สามารถทำได้ตามคำแนะนำต่างๆ ที่หลายๆ ท่านเสนอมาแล้วนะคะ และเราคิดว่าไม่จริงเลยที่จะบอกว่านายฝรั่งคนนั้นพูดมามีเหตุผล ตามที่ข้างบนได้กล่าวกันหลายครั้งแล้วนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของวัฒนธรรม สิ่งที่ถูกที่ควรสำหรับคนชาติหนึ่งอาจจะไม่ถูกไม่ควรสำหรับคนอีกชาติหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเรื่องการใส่รองเท้าเข้าบ้านคนอื่น (หรือแม้จะบ้านตัวเองก็เถอะ) ถ้าเป็นคนไทยถือว่าคนคนนั้นไร้มารยาท ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเลย ในขณะที่ถ้าเราไปอยู่ในสังคมตะวันตก เรื่องนี้กลับเป็นเรื่องที่ต้องทำและถือเป็นสิ่งถูกต้องเหมาะสม" ผมว่านี่ไม่ใช่การ โต้แย้งครับ มันเป็นการ เลี่ยงออก (cop out) ต่างหาก ถ้าการ"โต้แย้ง" ของคุณคือบอกว่า "มันเป็นวัฒนธรรมของชนชาตินั้น" หรือพูดง่ายๆ มันเป็นอย่างนั้นเอง ภาษาฝรั่งก็ต้องพูดว่า It's just the way it is. อันนี้ผมไม่ถือว่าเป็นการโต้เเย้งที่มีเหตุผล เพราะมันคือการเลี่ยงที่จะพูดถึงเนื้อหาต่างหาก เป็นการสรุปง่ายๆด้วยซ้ำว่า เป็นอย่างนี้เอง เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้านักสังคมศาสตร์ นักมนุษยวิทยา นักภาษาศาสตร์ หรือนักวิทยาศาสตร์พูดอย่างนี้ หรือคิดอย่างนี้กันหมด คงไม่สามารถทำความก้าวหน้าทางวิชาการได้ เพราะว่าถึงแม้ว่าการที่จะบอกว่า "มันเป็นวัฒนธรรมอย่างนี้" ก็ต้องสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมมันถึงเป็นมาอย่างนี้ มันมีที่มาที่ไปอย่างไร คำถามที่ฝรั่งคนนี้ (อย่างที่ผมเรียนข้างต้น)มี สรุปคร่าวๆคือ "ทำไมวิพากษ์(อย่างมีเหตุผล)ไม่ได้" และ "ทำไมกฎหมายจึงดูรุนเเรง ไม่สมกับการกระทำผิด สำหรับในบางกรณี เช่น คนเมาแล้วไปพ่นสีใส่เป็นหนวด ตามตัวอย่าง" แต่คำตอบของคุณที่ให้ คือ คนไทยเรารักกษัตริย์ เราเป็นของเราอย่างนี้ บ้านเมืองมีกฎหมายอย่างนี้ มันดูเป็นตรรกะไหมล่ะครับ คุณขาจร ได้ตอบหรือยังว่า ทำไมกฎหมายมันถึงเป็นอย่างนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงวิพากษ์สถาบันนี้ไม่ได้ (นอกจากด้านบวก และบวกบวก) ไอ้เรื่องที่ว่า ไปบ้านเมืองไหน ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ใครๆ ก็เข้าใจครับ แต่ที่ไม่เข้าใจ (และฝรั่งเพื่อนจขกท)ไม่เข้าใจคือ ทำไมมันมีกฎหมายอย่างนี้ และทำไมกฎหมายจึงยังไม่เปลี่ยนแปลงสักที (จะตอบว่า เพราะความรักเทิดทูน ก็คงเป็นคำตอบที่กำปั้นทุบดินเกินไป) ส่วนตัว ผมคิดว่าคำตอบคือ เพราะคนบางกลุ่ม (อย่างเช่นคุณผ่านมา ขาจร) คิดว่า สิ่งที่ผ่านสื่อต่างๆออกมา "เป็น Fact นะคะ We don't fancy" อะไร คือ "ความเป็นจริง" หรือ fact? นี่คือคำถามที่เป็น metaphysical สิ่งที่เราเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์? สิ่งที่เห็นตามโทรทัศน์ ? หรือ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตา? ในทางวิชาการ (โดยเฉพาะสายภาษา) สิ่งที่คนเราคิดว่าเป็น fact เป็นสิ่งที่ถูก represent มาทางภาษาทั้งสิ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ "พวกกบฎ" กับ "ผู้ปลดปล่อย" ทั้งสองคำสามารถ refer ถึงคนกลุ่มเดียวกัน แต่คำนึงเป็นบวก คำนึงเป็นลบ เพราะฉะนั้น ถ้าสื่อในเมืองไทย ได้รับอนุญาตให้เสนอแต่แง่บวก เพราะฉะนั้น "fact" ที่คุณพูดถึง มันก็มีแต่แง่บวกน่ะสิครับ เหมือนกับหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไทย ที่เหมือนจะเขียนว่า พม่า นั้นชั่วร้ายเสียเต็มประดา โดยเฉพาะช่วงเสียกรุง มาปอกลอกทองจากวัด มาเผาวัง บ้านเรือน คุณเคยคิดไหมว่านี่คือ "ความจริง" หรือไม่ หรือมันเป็น "ความจริง" ที่เฉพาะคนไทย(ที่อ่านหนังสือเรียนแล้วเชื่อ)บางกลุ่มเท่านั้นที่รับรู้ ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ด้วยเเล้ว คนไทยบางคนชอบ ตีข่าว ประโคมข่าวหรือ เพิ่ม ค่าความจริง กับเหตุการณ์ดียิ่งๆขึ้นไปอีก เช่น สำหรับคนทั่วๆไป ถ้าไปทำบุญวันเกิดที่บ้านคนชรา ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ แต่ถ้าเป็นบุคคลในสถาบันกษัตริย์ทำ ถือว่า เป็นเรื่องพิเศษ มีจิตใจงามอย่างยิ่ง คนในสังคมไทย (หรือที่อื่นก็ตาม) ที่ทุ่มเทให้ประเทศชาติ หรือคนยากจน หรือ คนพิการมีอีกมากมาย ที่เราไม่รู้ แต่ว่าลองดูว่า ถ้าเป็นสถาบันกษัตริย์ทำแล้ว ถือว่ายิ่งใหญ่กว่ามาก (ผมไม่ได้ว่า ไม่ดีนะครับ อย่ามองเจตนาผมผิด แต่ผมคิดว่า บางที things are blown out of proportion ไปหน่อย) หรือเรื่องง่ายๆ ถ้าคนธรรมดาเรียนได้เกียรตินิยม โอเค เก่ง แต่ถ้าเป็นเจ้า ถือว่า ปราดเปรื่อง อัจฉริยะมากๆ (ลองดูจากการเขียนข่าว) ฝากไว้เท่านี้แหละครับ ว่า สิ่งที่คุณคิดว่าเป็น "ความจริง" มันประกอบขึ้นด้วย "คำพูด"ที่จะปั้นแต่งให้ดีงามหรือไม่ดีอย่างไรก็ได้ (จากเหตุการณ์ๆเดียวกัน) จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 5 เม.ย. 50 01:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคยเจอฝรั่งแก่ๆคนนึงบินจากเมืองไทยมาอังกฤษ คุยกันไปคุยกันมา มาถึงเรื่องงานฉลองครองราชครบ 60 ปี อีฝรั่งเริ่มพูดจาเห่ยๆ เลยเลิกคุยด้วยเลย คือเราเดาเหตุการณ์ได้แบบนี้นะ คือพวก King,  Queen  ของฝรั่งน่ะ ส่วนมากเค้าไม่ด้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ในประเทศเค้างัย ประชาชนไม่เคารพเลื่อมใส เลยเข้าใจว่า Kingของเราเป็นแบบนั้น แต่พอเราบอกว่า King ทรงงานหนักจริงๆ เราเห็นมาตั่งแต่เรายังเล็กๆ อีฝรั่งมันก็เริ่มบอกว่าเป็นการสร้างภาพ มันไม่เชื่อ ยังงัยก็ไม่เชื่อ สุดท้ายเลยบอกมันว่า  "I think you shouldnt compare my King with your King or your Queen and i think you shouldn't go back to Thailand again, to be honest you're not worth it" แล้วไม่พูดกะมันีกเลย มันบอกว่ามันชอบไปพัทยา ด้วย ฝรั่งนรก ถ้าคุยเรื่องนี้ตอนอยู่น่านฟ้าไทยคงต่อยปากมันไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 02:48:35 จากคุณ : hamble pie - [ 5 เม.ย. 50 02:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องสถาบันเป็นเรื่องคลุมเครือในเมืองไทย  ข่าวสารที่ได้รับเกี่ยวกับสถาบันมักจะเป็นข่าวสารแบบเปิดก็เปิดไม่หมด ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วให้สังคมไปตีความกันเอาเอง เวลาตีความก็ตีความกันแบบ อันไหนเป็นประโยชน์แต่ฝ่ายตนก็เลือกเอาส่วนนั้นมาใช้ การวิพากษ์กันด้วยเหตุและผลมันจึงเป็นเรื่องที่ยากในสังคมไทย เพราะข้อเท็จจริงที่คนเราได้รับรู้จากข่าวสารมันไม่ครบ และสิ่งที่ได้รับรู้เป็นเพียงด้านบวกเพียงด้านเดียว คนไทยจะรักสถาบันแบบเทอดทูน เป็นมุมที่ฝรั่งมองมักจะไม่เข้าใจ เพราะสังคมตะวันตกสิทธิ เสรีภาพ โดยพื้นฐานถือว่าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่เป็นระบบชนชั้นแบบประเทศไทย ฝรั่งที่ไม่ได้คลุกคลีกับเมืองไทยนาน ๆ จึงไม่เข้าใจนัก ตรงนี้มองว่าเป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของสังคมไทย อยากให้ข้อมูลข่าวเปิดมากกว่านี้ ทั้งด้านบวกและลบ และการวิพากษ์วิจารณ์ โลกมันอยู้ของมันอย่างนี้มานานแล้ว แต่การรับรู้ข่าวสารของคนมันตรงกันข้าม มันมีมากขึ้น หาได้หลายทาง จะปิดกั้นอย่างไรก็ปิดไม่ได้ น่าจะเปิดให้หมดเพื่อป้องกันความคลุมเครือและหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่จะมีเนื่องจากการตีความที่ไม่เหมือนกันซึ่งคือจุดอ่อน  ส่วนจุดแข็งอย่างที่รู้ ๆ กันเช่นพฤษภาทมิฬก็ได้สถาบันเนี่ยทำให้เหตุการณ์ราบรื่น หากรัฐยังสามารถครองสื่อ การรับรู้ของคนได้ตลอดมันก็ดีไปแต่ถ้าทำไมได้ ต่างคนต่างตีความมันก็คลุมเครือไม่รู้อันไหนจริง-ไม่จริง จากคุณ : sri123 - [ 5 เม.ย. 50 02:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเพิ่มค่ะว่าเห็นด้วยกะความเห็นข้างบน ที่ว่าคุณเข้ามาบ้านใครแล้วเอารูปพ่อ รูปแม่เค้ามาพ่นสี ทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่น มันเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง แล้วก็ต้องเน้นว่าเมื่อคุณเข้าเมืองตาหลิ่วคุณก็ต้องหลิ่วตาตาม จะมานั่เป็นจรเข้ขวางคลองเพื่ออะไรไม่ทราบ กฏหมายประเทศเรามี  ทีเวลาคนไทยอยู่ต่างประเทศทำผิด มันก็ติดคุกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ กรณีฝรั่งสวิสเนี่ยก็สมคววรแล้ว รู้ทุกอย่างแต่ยังดันทำ มันผิดกฏหมายชัดๆ  ไม่เห็นจะต้องมานั่งถามว่าทำไมออกกฏหมายแบบนี้  ไม่ใช่ธุระ มันไม่เกี่ยว อธิบายไปก็ยาวเสียเวลาเปล่าๆ เอาเป็นว่ากฏหมายแต่ละประเทศต่างก็ถูกกำหนดมาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชนในชาตินั้นๆ มีกฏหมายในเมืองนอก     อย่างประเทศในแถบอาหรับ มีบางอย่างที่เราเห็นว่าเล็กน้อยไม่เห็นว่าน่าจะถือว่าผิดกฏหมาย แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ของชาติเค้าอ่ะถ้าคุณทำผิดกฏหมายคุณก็ต้องถูกลงโทษ  หรืออย่างอเมริกา แต่ละรัฐก็มีกฏหมายแปลกๆ แตกต่างกันไป บางอันเราว่าปัญญาอ่อนที่สุด แต่คนก็ยังกลัวไม่กล้าแหก มันเพราะกฏหมายเค้าแรงงัย คนไทยก็ควรที่จะปฏิบัติอย่างเดียวกัน ซึ่งในกรณีนี้ มันก็สมควรแล้วนี่ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 03:29:36 จากคุณ : hamble pie - [ 5 เม.ย. 50 03:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ hamble pie ครับ กรณีฝรั่งข้างบน มันเป็นกรณีเมา ไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เดินเข้าไป พ่นสีหนวด ตามที่คุณว่าสักหน่อย (ลองอ่านคำวิจารณ์ของฝรั่งเพื่อนคุณ จขกทให้ดีๆ ก่อนวิพากษ์สิครับ) เพราะฉะนั้นจุดของเรื่องที่เพื่อนฝรั่งเค้าไม่เข้าใจคือ 10 years in prison กับ การกระทำที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสติสัมปชัญญะ ทำไมกฎหมายถึงไม่ลดหย่อนให้เลย???????? ผมเชื่อว่า ไม่มีในปัจจุบันใคร ไม่รู้ หรอกครับว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว หรือไปเยื่ยมเยือนประเทศไหน ควรปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นการอ้างว่า พวกฝรั่งโง่ หรือว่า อยู่ดีๆ"อยากทำ"ผิดกฎหมายนั้น ผมว่าคงมีฝรั่งบางคนที่เป็นอย่างนั้น   แต่คงน้อยเต็มที  (แต่บางคนอาจจะทำไปเพราะความไม่รู้ถึงกฎหมายดีพอ อันนี้เราต้องเข้าใจเขาด้วย เหมือนตอนผมมาอเมริกาใหม่ๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นกฎหมายและทำผิดไปก็เเยะ ไม่ได้เพราะ "อยากทำ" หรือไม่ได้เพราะ "ไม่เข้าใจว่าเข้าเมืองตาหลิ่วฯ" แต่ยังไม่ได้เรียนรู้ทุกอย่างต่างหาก) อีกกรณีหนึ่งที่คุณพูดข้างบน ผมว่าไม่ใช่ว่า king หรือ queen หรือ เชื้อพระวงศ์เมืองนอกไม่ได้ทำอะไรนะ เค้าทำ เยอะ ด้วย (ลองตามสื่อดูสิ เช่น เจ้าหญิงไดอาน่า ฯลฯ) แต่ว่า สื่อไม่ได้ "ประโคมข่าว" ด้านบวก และบวกบวก เท่านั้นเอง แถมสื่อยังได้ลงข่าวด้านลบ (และลบลบ) ด้วย เช่น ภาพใครจูบกับใคร หรือ ใครที่ไปทำผู้หญิงท้อง และไม่ยอมรับ ฯลฯ เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลย ที่ถ้าข่าวมีสองด้าน สถาบันกษัตริย์ของฝรั่งจะเหมือน "คนธรรมดา แต่เกิดในตระกูลที่มีอำนาจ" เท่านั้นเอง เพราะคนเรามีทั้งด้านดี และด้านลบ แต่กลับกัน ในประเทศไทย เจ้าคนไหนมีภรรยาหลายคน ถือเป็นเรื่องปรกติ แถมลูกเจ้าไม่ว่าจะมาจากภรรยาหลวงหรือน้อย ถือว่าเป็นเจ้านายเสียอีก (ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาอาจจะโดนดูถูกด้วยซ้ำ)    ถ้าเจ้าไปทำใครท้องและไม่ยอมรับหรือเรียกใครเข้าวังไป "รับใช้" ข่าวปิดเงียบ   ถ้าเจ้าแต่งงาน ข่าวใหญ่ครับ  แต่ถ้าเจ้าหย่า จะเป็นแค่ข่าวลือ   และถ้าเจ้าทำอะไรดีๆ ขึ้นมาสักอย่าง (ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วๆไปก็ทำกันอยู่แล้ว) ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษต้องตีข่าวกันให้ก้องครับ เช่น ถ้าเจ้านาย ปิดไฟ ในห้องพักเอง ถือว่าเป็นเจ้านายที่รู้ค่าของเงิน ประหยัด (ซึ่งปรกติเราๆก็ทำกันอยู่แล้วหรือเปล่าครับ) ถ้าเจ้าช่วยเหลือสัตว์ตกยาก ถือว่าเป็นคนที่ใจบุญอย่างที่สุด (ทั้งๆที่บางคนทำกันเป็นปรกติ) ที่เจ้าเมืองไทยทำอะไร เเล้วข่าวมันจะ "บวกบวก" เพราะว่า คนไทยส่วนใหญ่เราคิดกันลึกๆว่า ถ้าเป็นเจ้าแล้ว ไม่ต้องทำอะไรหรือเปล่าครับ นั่นคือถ้าเป็นเจ้าแล้ว ควรจะมีคนปิดไฟให้ (ถ้าลุกเดินมาปิดไฟเอง ถือว่าเป็นการทำความดีแบบบวกบวก) หรือถ้าช่วยเหลือกิจการการงานในประเทศ ก็ถือว่าอุทิศตนเพื่อคนไทย (เเต่นั่นเพราะความคิดลึกๆที่คนไทยมีหรือเปล่าครับว่า เป็นเจ้าแล้วไม่จำเป็นต้องทำ เเทนที่คิดว่าจะเป็นหน้าที่) แต่อย่างที่ผมเรียน เจ้าฝรั่งก็ทำครับ แต่ว่า ข่าวไม่ได้ บวกๆๆๆๆๆ เท่านั้นเองครับ แถมยังมีข่าวลบออกมาด้วยต่างหาก หรือเปรียบเทียบว่า สื่อในประเทศไทย ลงข่าวเจ้าฝรั่งได้ทั้งด้านลบและด้านบวก บางทีชื่อของเจ้า สื่อเมืองไทยเรา ตัดคำนำหน้าเสียเรียบ เช่น อาจจะพาดหัวว่า "ไดอาน่า...."  เป็นต้น   แต่ถ้าเป็นเจ้าเมืองไทยต้องมีแต่ข่าวดี และชื่อเจ้านี่อย่าให้ตกเลย  ผมว่ามันเป็น double standard แบบแปลกๆ    ถ้าจะพูดแบบชาวบ้านๆ เจ้าไทยดีหมด  เจ้าฝรั่งเป็นอย่างไรก็ได้   ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าผมเกลียดเจ้าไทย หรือเห่อเจ้าฝรั่ง หรือว่าเจ้าไทยไม่เคยทำอะไรดีเลย แต่ผมคิดว่า เรื่องบางเรื่องมันดีจริง  แต่มันก็ out of proportion ป่ะครับ ฝากไว้เท่านี้แหละครับ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 05:18:10 จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 5 เม.ย. 50 05:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับบางความเห็นและไม่เห็นด้วยกับบางความเห็นค่ะ เราว่าคุณ จขกท.ควรอธิบายให้เพื่อนคุณเข้าใจนะคะ ว่าทำไมคนไทยถึงได้รักและปกป้องในหลวงกันถึงขนาดนี้ ถ้าคุณแค่อธิบายว่า เรามีกฎหมายแบบนี้และเราต้องทำตามเพราะมันคือกฎหมาย มันดูฟังไม่ขึ้นและดูเผด็จการเหมือนโดนล้างสมองแบบที่เพื่อนคุณพูดจริงๆแหละค่ะ เท่าที่ได้อ่านคร่าวๆ (อ่านละเอียดไม่ไหวจริงๆค่ะ เยอะเกิน) เราว่าเพื่อนคุณเป็นคนมีเหตุมีผลนะคะ ถ้าอธิบายว่า ในหลวงเราให้อะไรกับประเทศชาติมากมาย ไม่ได้นั่งเป็นคิงอยู่บนบัลลังก์รับเงินประชาชนเฉยๆ แต่ท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชน เดินลุยน้ำแบกกล้องนั่งพื้นเหงื่อหยดแหมะๆคุยกับชาวบ้าน ทั้งๆที่จริงแล้วท่านไม่ต้องทำก็ได้ สิ่งนี้ทำให้คนไทยรักในหลวงมากมาย ถ้าเพื่อนคุณไม่ได้นับถือศาสนาอะไร ลองเปรียบเทียบแบบคุณmrs.night owlบอกก็ได้ค่ะ เห็นภาพชัดดี เราว่าถ้าอธิบายไปแบบนี้เพื่อนคุณก็คงเข้าใจค่ะ ในความเห็นเรา การปกป้อง"ในหลวง" เป็นการทำด้วยความรัก และเทิดทูน ไม่ใช่ทำเพราะมีหน้าที่ต้องทำนะคะ สิ่งที่คุณkrisdauwว่ามาก็ถูกค่ะ เราเห็นด้วย ว่าเจ้าก็คือคนคนหนึ่งค่ะ มีทั้งด้านบวกและด้านลบ และเราควรมองสองด้าน เราแค่อยากจะบอกว่า คนคนหนึ่ง ถ้าเค้าพิสูจน์ได้ว่า เค้าเป็นคนดี ทำอะไรเพื่อสังคมเพื่อประเทศ ทุกคนก็จะรักเคารพและศรัทธาเค้าเองค่ะ แบบในหลวงไงคะ แต่ถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้น ความเคารพและความศรัทธามันจะค่อยๆหายไปเองค่ะ อย่าลืมนะคะ การปกครองคนด้วยความกลัวน่ะ มันอยู่ได้ไม่นานหรอกค่ะ เรารักและเคารพในหลวงเพราะสิ่งที่ท่านทำและสิ่งที่เราได้เห็นมา เราเชื่อว่าคนไทยหลายๆคนเป็นเหมือนเราค่ะ เราคงไม่สามารถไปสั่งให้คนอื่นมาคิดเหมือนเราได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อค่ะ  ถ้ามองมุมกลับด้วยเรื่องพื้นฐาน พ่อแม่ก็เป็นคน มีข้อดีข้อเสีย เราก็รู้ แต่ถ้าเพื่อนมาด่ามาลบหลู่พ่อแม่เราเราก็ไม่ชอบไม่ใช่เหรอคะ ประเด็นพ่อแม่กับประเด็นพระมหากษัตริย์ละเอียดอ่อนและคล้ายคลึงกันค่ะ แต่ครอบครัวคนละไซส์กันเท่านั้นเองในความเห็นเรา   ความเชื่อความศรัทธาไม่มีใครถูกใครผิด หรอกค่ะ เถียงกันให้ตายยังไงก็ไม่จบ แต่การทำร้ายจิตใจคนอื่นมันก็ไม่ควรไม่ใช่เหรอคะ คุณ คห13เราไม่เห็นด้วยนะคะ ว่าคนไม่มีศาสนาเป็นคนไม่ดี เราว่าโดยพื้นฐานของบุคคลที่มีความเจริญทางด้านจิตใจแล้วเนี่ย เค้าก็ทำความดีกันด้วยความรู้สึกว่าควรจะทำ เพราะคนรอบข้างจะมีความสุขและสังคมจะดีขึ้นไม่ใช่เหรอคะ เราว่าเวลาคนหนึ่งคนจะทำอะไรดีๆซักอย่างเนี่ย ไม่มีใครมาคิดให้ปวดหัวหรอกค่ะ ว่า พระพุทธองค์ตรัสว่า หรือพระศาสดาตรัสว่า แค่ทำเพราะอยากทำและรู้สึกว่าควรทำ ในทางกลับกันการทำชั่วเนี่ยที่ไม่ทำเพราะ ทำแล้วมันไม่สบายใจไม่ใช่เหรอคะเลยไม่ทำ คนที่นับถือศาสนาแต่ทำชั่วมีเยอะแยะมากมายนะคะอย่าลืม ศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณมีสิ่งอื่นยึดเหนี่ยวแล้วและคุณทำดีเพราะตัวคุณใฝ่ดี เราว่าบางทีศาสนาก็ไม่จำเป็นนะคะ จากคุณ : หมาน้อยเดียวดายใต้เงาจันทร์ - [ 5 เม.ย. 50 06:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ประทับใจกับความเห็นของคุณ (krisdauw) และ หมาน้อยเดียวดายใต้เงาจันทร์ ที่ pour your heart out ได้แสดงความเห็นอย่างสุภาพชัดเจน ตรงไปตรงมาดี เรื่อง sensitive อย่างนี้หลายคนคงคิดว่าไม่พูดดีกว่า เพราะพูดไป ไม่เข้าใจกันก็ทะเลาะกันหรือมีเรื่องกันได้ง่ายๆ ฝรั่งเองก็ยังพยายามเลี่ยงหัวข้อสนทนาในเรื่องศาสนาหรือการเมือง unless, that's what they want to talk about. เมื่อเป็นเรื่องที่ไม่อยากพูด เวลาจะต้องพูดหรืออธิบายขึ้นมาก็พูดไม่ออก พูดออกไปแล้วคนที่เขาไม่เข้าใจ เขาก็ไม่เข้าใจ ( เห็นใจ จขกท ใน situation นี้มาก) เพราะคนไทยเรา มีความเชื่อ ความรักในสถาบันกษัตริย์ เป็นความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขที่เรามีให้ในหลวง ที่จริงว่าไปแล้ว ตาฝรั่งขี้เมาติดคุกสิบปีก็ยังนับว่าดี ดีกว่าที่จะโดนสหบาทาจากคนไทยที่ทนไม่ได้ ที่เห็นฝรั่งมาทำอย่างนั้นกับบุคคลที่เรารักเคารพสุดหัวใจ รอดตายรอด teen มาได้ก็นับว่าบุญหนักหนาแล้ว จากคุณ : PatPDX - [ 5 เม.ย. 50 09:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความเฺห็นคุณ (krisdauw) อธิบายได้เ็ป็นเหตุเป็นผลดี จากคุณ : โต๊ะดาร์ฟ (โต๊ะดาร์ฟ) - [ 5 เม.ย. 50 11:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชื่นชมความเห็นของคุณ กฤษ ค่ะ มีความพยายามในการอธิบายมากๆ ชอบกระทู้นี้นะ ความเห็นของทุกคนน่าสนใจ และเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นเหมือนหรือไม่เหมือนกัน จากคุณ : mrs.night owl - [ 5 เม.ย. 50 12:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านผ่าน ๆ เราว่าเรื่องนี้แยกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 ความเห็นเกี่ยวกับ king โดยทั่วไป ประเด็นที่ 2 ความเห็นเกี่ยวกับการลงโทษฝรั่งสวิส ถ้าเป็นประเด็นแรกเห็นด้วยกับเพื่อน จขกท. คุณ krisdauw คุณ sri123 แต่ถ้าเป็นประเด็นที่ 2 เห็นด้วยกับ mrs. night owl คือมาอยู่เมืองไทยต้องเคารพกฎหมาย และความรู้สึกคนไทย และเห็นด้วยกับการโต้แย้งของคุณ nick and mint ประเด็นการ offend ความรู้สึกของคนไทย แต่เราไม่คิดว่าในเรื่องอื่น ๆ คนไทยสามารถแยกแยะได้ขนาดนั้น มันถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด เรื่องนี้ถ้าอยู่ในประเทศเรา คุณสามารถลงโทษด้วยกฎหมายของเรา หรือยังไงก็ได้ แต่ถ้าออกนอกประเทศไปแล้ว ยากที่จะไปห้ามความคิดของคนอื่น ถ้าจะโต้ด้วยเหตุผลและตรรกะ เปอร์เซนต์ชนะน้อยมาก จากคุณ : The Reader - [ 5 เม.ย. 50 12:33:25 A:58.8.12.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 Agree with Khun Krisdauw, Khun Baritone, and Khun หมาน้อยเดียวดายใต้เงาจันทร์ I just wanna added that about criticism on the Royal, our king has mentioned his view quite clearly in his birthday speech. จากคุณ : yuy - [ 5 เม.ย. 50 12:52:45 A:87.247.20.2 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามที่คุณ krisdauw บอกว่า จุดของเรื่องที่เพื่อนฝรั่งเค้าไม่เข้าใจคือ 10 years in prison กับ การกระทำที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสติสัมปชัญญะ ทำไมกฎหมายถึงไม่ลดหย่อนให้เลย???????? ใช่เลยค่ะ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เค้าเอามาอ้างถึงเพื่อบอกให้ชัดว่าเค้าไม่เข้าใจระบบกษัตริย์ของไทยเราค่ะ ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่เรายอมรับกันโดยเต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับให้ยอมรับ เราก็คิดอีกแง่มุมว่า คนที่เค้าไม่ได้อยู่ในประเทศไทย อธิบายยังไง เค้าก็คงไม่เข้าใจเหมือนที่คนไทยเข้าใจหรอกเนอะคะ แต่ถ้าจะเอาไปรวมกับการลงโทษตามกฏหมายก็คงจะขัดแย้งกัน เค้าก็คงจะมอง เหมือนกับว่าเราเอาความรู้สึกส่วนตัวไปตัดสินความผิด ให้กับหนุ่มสวิสคนนั้น ซึ่งถ้าเป็นตามหลักกฏหมายจริงๆ แล้วไม่ควรจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาใช้ ร่วมกับกฏหมายจริงมั๊ยคะ? เราก็เอาความเห็นของคุณ Nick and Mint และของท่านอื่นๆ ไปคุยกับเค้าอีกรอบ เค้าก็เข้าใจเรื่องจิตใจที่มีความรัก และเทิดทูนในหลวง แต่เมื่อไหร่ที่เค้าเอามาคิด รวมกับการตัดสินคนสวิสตามกฏหมายนั้น เค้าก็จะกลับไปไม่เข้าใจเหมือนเดิมค่ะ ฝรั่ง: Thai King is good, as u say... then everyone will love him ฝรั่ง: so why do they even need laws to stop people?? ฝรั่ง: why do they have such strict laws then? why do they NEED them?? เมื่อวานเราก็เลยจบบทสนทนากับเค้าซะเลย พูดต่อคงจะยาวค่ะ เร็วๆ นี้เราจะไปออสเตรเลีย อาจจะมีคุยถึง Topic นี้อีกครั้ง คราวนี้ก็จะมีแนวทางที่ไปคุยกับเค้ามากขึ้น คุยยาวรอบเดียวจบ ดีกว่าคุยติดๆ ขัดๆ หลายๆ รอบ เรารัก King เรา เราก็อยากให้เพื่อน มอง King เราและประเทศเราดีขึ้นจริงมั๊ยคะ? ถึงแม้จะมองแบบไม่ค่อย เข้าใจก็ตาม... :o) จากคุณ : Krapook-_-' - [ 5 เม.ย. 50 13:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ ^ คุณจขกท คิดเหมือนผมเลย พูดๆในกระทู้เนี่ยะพูดได้ครับ แต่พอไปเถียงกับฝรั่งจริง ผมก็เข้าข้างประเทศไทยอยู่วันยังค่ำ (ไปๆมาๆ ก็เถียงไม่ออกเเบบคุณ Krapook แหละครับ เพราะว่าบางเรื่องมันต้องเป็นคนชาตินั้นจริงๆ และมันหาเหตุผลที่ดีมาสนับสนุนไม่ได้อ่ะครับ) สวัสดีทุกๆท่านด้วยแล้วกันครับ จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 5 เม.ย. 50 13:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เราว่าเค้าเสรีก็จริง แต่มองกลับกันนะ เค้าไม่อ่อนโยน และมีน้ำใจเท่าคนไทย  นั่นก็แสดงให้เห็นว่า เค้าใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก ในการตัดสินใจอะไรต่อมิอะไร เพราะฉะนั้น ถ้าเค้าไม่เคยคลุกคลีกับคนไทย กับเมืองไทย ไม่รู้วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความรัก ความเป็นคนไทยจริง ๆ เค้าไม่มีวันเข้าใจหรอก ว่าที่คนไทยบอกว่า we love our king น่ะ มันเป็นยังไง เค้าอาจจะคิดว่าคนไทยถูกล้างสมอง ถูกปลูกฝัง ว่าต้องรักในหลวง ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเค้าเป็นคนไทย เค้าจะรู้และเข้าใจ ว่าพวกเรารักกษัตริย์ของเราจากใจและวิญญาณจริง ๆ ไม่ใช่รักเพราะถูกสอนให้รัก อีกอย่าง ในหลวง ก็มีบุญคุณล้นพ้นกับประเทศ เคยมี king ที่ไหน ตรากตรำทำงานหนักเท่าในหลวงของเรา แล้วจะแปลกอะไร ที่ในโลกนี้ คนไทยจะรักและเทิดทูนท่านสุดชีวิตและหัวใจ  พวกฝรั่งเค้าไม่เข้าใจ เพราะเค้าไม่เคยได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ อย่างที่เค้าบอกแหละ ว่า ฝรั่ง: u have to understand western history ฝรั่ง: most western countries don't trust kings/queens ฝรั่ง: because they were often cruel and evil... and people fought very hard to get democracy ตรงนี้เราเข้าใจเป็นที่สุด ว่าเค้าคิดยังไง เค้าคิดว่าประเทศไทยเทิดทูนพระเจ้าแผ่นดินมากเกินไป  แต่สำหรับเราแล้ว มันไม่เกินไปหรอก เพราะสิ่งที่ท่านทำให้พวกเราชาวไทย  มันก็ควรได้รับความรักและการเทิดทูนเท่าชีวิต สำหรับเรา เราก็มีเพื่อนต่างชาติ  แต่เค้ากลับมองว่า เค้าชอบที่คนไทยรักพระเจ้าแผ่นดิน ไม่เห็นมีประเทศไหนในโลกที่เป็นเหมือนคนไทย เค้าชื่นชม และภูมิใจแทนพวกเรามาก ๆ  โดยเฉพาะปีที่แล้ว ที่มีงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เค้าก็ทึ่งกันมาก นั่นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เค้าได้รู้ว่า พวกเรารักในหลวงจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำร่ำลือ หรือแค่การถูกล้างสมอง เราไม่โกรธนะ ถ้าคนต่างชาติจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมพวกเราต้องรักในหลวงมากมายขนาดนี้  แต่เรากลับคิดว่าบางทีเค้าอาจจะแอบอิจฉาพวกเราก็ได้  ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย  ถึงเราจะยังไม่เจริญเท่าเค้า  ไม่ร่ำรวยเท่าเค้า  แต่จิตใจเราแข็งแกร่งกว่าเยอะ เพราะมีพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ สำหรับเพื่อนของคุณ จขกท เนี่ย เราคิดว่า เค้าคงไม่เคยมาสัมผัสความเป็นไทย เค้ายังไม่รู้จักคนไทยดีพอ ยังไม่รู้จัก king ของเราอย่างที่เรารู้จัก แต่เค้าก็โอเค คือคุยแบบใช้ความรู้สึกที่อิงกับหลักความเป็นจริง เราก็เข้าใจนะ  แต่สรุปคือ  ต่อให้ใครในโลกจะหาว่าเราถูกล้างสมอง เราก็จะยังรักในหลวงเหมือนเดิม จากคุณ : Flower_kiss - [ 5 เม.ย. 50 16:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ในหลายๆครั้งที่พบปะชาวต่างประเทศ จะมีคำพูดที่ว่า "คนไทยรักในหลวง" นี่พอที่จะแสดงให้เห็นว่าถ้าเขาเหล่านั้นสนใจในเรื่องราวของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และติดตามข่าวสาร เหตุการณ์ในประเทศไทย เขาย่อมรู้ดีว่า "ทำใม เหตุใด คนไทยถึงเทิดทูน เคารพรัก พระพ่อหลวง พระเจ้าอยู่หัวของเราอย่างถึงที่สุด" เขาจะไม่มีข้อสงสัย ข้อโต้แย้งมาหักล้าง มาสั่นคลอนความรู้สึกของเราแต่อย่างใด วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวามหาราช เราจะเห็นชาวต่างชาติมาร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรกับพวกเราคนไทยอย่างยินดี ร้านขายเสื้อเหลืองในตลาดนัดสวนจตุจักร จะเห็นชาวต่างชาติเข้าไปซื้อเสื้อเหลือง ถามดูเขาบอกว่าเขาอยากมีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองกับคนไทย เขาบอกว่าคนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่รักประชาชน ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน บ้านเมืองเขาไม่มีอย่างนี้ ที่ผ่านมายังไม่มีใครมาถกเถียงในเรื่องนี้ มีแต่รีบบอกทันทีว่า "คนไทยรักในหลวง" เขาพูดอย่างนี้เราก็ยิ้มหวานน่ะซี แต่ถ้ามีฝรั่งแบบที่ จขกท เจอมาก็จะพูด จะบอก แต่จะจะไม่เสียเวลาอธิบายนานถ้าฝรั่งคนนั้น ตั้งหน้าตั้งตายกคำพูด เหตุผลที่ตัวเองเชื่อถือมาหักล้างสิ่งที่เราคนไทยเคารพรัก เทิดทูน แต่ถึงอย่างไรก็จะอธิบายด้วยเหตุด้วยผล ถ้าไม่ยอมรับก็ช่าง จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 5 เม.ย. 50 18:20:49 A:125.25.13.174 X: TicketID:134511 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต่างคน...ต่างสัญชาติ...ต่างวัฒนธรรม...ต่างความคิดคะ ในฐานะที่เราเป็นคนไทย...เราขอใช้คำว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามคะ เวลาเราไปอยู่ประเทศเค้า...ก็ต้องทำตามกฎของเค้า...เค้ามาประเทศเรา...ก็ต้องทำตามกฎของเรา   ทุกที่มีกฎระเบียบที่ต้องทำตาม ฝรั่งหลายคนที่เรารู้จักเค้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงได้รักและเคารพในหลวงมาก ๆ  จะว่าไปเราเองก็ไม่เข้าใจความคิดฝรั่ง...ฝรั่งเองก็ไม่เข้าใจความคิดของเรา   ทางที่ดีไม่ควรจะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดเพราะมันจะทำให้หมองใจกันเปล่า ๆ จากคุณ : Repetition (RTKOW) - [ 5 เม.ย. 50 19:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อญี่ปุ่นเคยกินแต่มะม่วงจากฟิลิปปินส์ รสอมเปรี้ยว ยากที่จะบอก ญ๊ปุ่นว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ หวานปานละลายในปาก ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น หาก ฝรั่งรู้จักเพียงกษัตริย์ เลว ยากจะบอกว่า กษัตริย์ที่อยู่เหนือใจประชาชนเป็นอย่างไร ป่วยการ จากคุณ : คนไทยก็ทำได้ - [ 5 เม.ย. 50 21:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เขาบอกว่า King เป็นคนธรรมดา มีทั้งดีและไม่ดี ทุกคนสามารถวิจารณ์ได้ แต่.... ขอโทษครับ เขาไม่ใช่คนไทยไง เลยไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ในต่างประเทศ King ของเขาในประวัติศาสตร์ของเขาใช้การสืบทอดอำนาจคล้ายๆเรา แต่แน่นอน King ของเขาต้องมีทั้งดีและไม่ดี พอมี King ไม่ดี ย่อมทำให้คนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผู้คนทนไมไหว ออกมาปฏิวัติ ล้มล้างระบบ King และกลายร่างมาจนประบอบประชาธิปไตยที่ใครก็ได้ ที่ดีที่สุด ปกครองประเทศ จนเป็นรากฐานว่า คนที่จะมานำประเทศเขาได้ ต้องดีพอที่จะทนคำวิพากษ์วิจารณ์ และหลุดมาเป็นผู้นำประเทศได้ เขาเลยไม่คิดว่าการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งเสียหาย แต่ระบอบ King ของไทยยิ่งใหญ่กว่า King ของต่างชาตินัก เนื่องจาก King ของไทยแต่ละพระองค์จะดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม นั่นหมายถึงการดูแลปกครองราษฎรอย่างลูกหลาน มีเมตตาธรรม เปรีบประดุจดั่ง พ่อ และ แม่ ซึ่งเป็นสถาบันที่สำคัญมากของสังคมไทย (ฝรั่งเป็นประเภทมั่นใจในตัวเอง เขาไม่คิดว่าตัวเองต้องง้อพ่อ แม่ เลยไม่มีความรู้สึกในแง่กตัญญูรู้คุณ รู้แค่ถูก ผิด วิพากษ์ วิจารณ์ ) ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมระบอบกษัตริย์ในไทยจึงเข้มแข็งมาก ซึ่งอาจจะเป็นระบอบกษัตริย์ที่เข้มแข็งที่สุดในโลกก็เป็นได้ เนื่องจากเป็น King ที่มีความเมตตา กรุณาเป็นที่ตั้ง ยิ่งเป็นรัชกาลปัจจุบันด้วยแล้ว ผมเชื่อว่าเป็น King of the Kings ครับ ส่วนเรื่องกฎหมายที่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแค่เรื่องเล็กน้อยต้องจำคุกกันด้วย..... ผมขอย้ำประวัติศาสตร์ชาติไทยให้คนรุ่นใหม่ๆฟังอีกครั้งนึงนะครับ... ความเชื่อในอดีตกษัตริย์ไทยเป็นสมมุติเทพ นั่นหมายความว่าถ้าเปรียบเทียบในแง่ฝรั่ง King ของเราไม่ต่างจาก God ในความเชื่อของเขา แน่นอนเขาเองก็บางกลุ่มเทิดทูน God และไม่สนใจ God แต่อย่าไปทำตามเขาครับ King ของไทยยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะเอาสิ่งใดมาเปรียบ ขอให้คนไทยทุกคนอย่าหวั่นไหวกับสงครามจิตวิทยาของคนไม่เลวบางกลุ่ม และขอให้นึกถึงความเป็นไทย และประวัติศาสตร์ชาติไทยให้มาก ขอบคุณครับ จากคุณ : OAt - [ 5 เม.ย. 50 21:35:00 A:1.1.1.197 X:58.8.133.86 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตอน Jade Goody ทะเลาะกับดาราสาวอินเดีย ใน Celebrity Big Brother อังกฤษแทบลุกเป็นไฟ เจดโดนขู่ฆ่า สปอนเซอร์รายใหญ่ ๆ ถอนตัว Dan Brown โดนประท้วงจากกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับเนื้อหาใน Da Vinci Code Salman Rushdie โดนขู่ฆ่าเพราะงานเขียนที่วิจารณ์คำสอนศาสนาอิสลาม คนผิวดำก็แสนจะเว็นซิทีฟกับประเด็นเรื่องสีผิวเหลือเกิน ทุกคนมี God อยู่ในใจค่ะ เราเก็บรักษาสิ่งนั้นไว้บนที่สูง ทนไม่ได้เมื่อมีใครมาลบหลู่ เรื่องขัดแย้งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้ายึดหลักใจเขาใจเรา เราไม่รู้สึกอะไรถ้าชาวต่างชาติจะไม่รู้สึกต่อในหลวงเหมือนพวกเรา  แต่อย่าลบหลู่ เพราะคนที่มีจิตสำนึกและการศึกษาพอจะไม่เล่นกับความรู้สึกของคนแบบนี้ ที่ ICT บล็คเว็บนั้นสมควรแล้ว อย่าให้พวกเขาคิดว่าว่าประเทศนี้เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีปากมีเสียง จากคุณ : Macavity - [ 5 เม.ย. 50 23:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ridiculous law ในอเมริกาก็มี anti-Sodomy law in Texas ไง ที่เกย์ (ผู้ชายสองคน หรือ ผู้หญิงสองคน) มี sex กันไม่ได้ ทั้งจำทั้งปรับเลย จริงๆแล้วกฎหมายประหลาดๆก็มีทุกประเทศนี่แหล่ะ และคนชาติอื่นๆก็ไม่มีสิทธิ์จะมาตัดสินว่าอะไรผิดไม่ผิด จากคุณ : Hotlver - [ 5 เม.ย. 50 23:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่เห็นด้วยกับข้อความที่บอกว่าคนที่ไม่มีศาสนาเป็นคนไม่ดีเพราะไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อนเราคนนึงเป็นคนไม่มีศาสนา แต่เค้าเป็นคนที่ดีมาก จิตใจดี วางตัวดี จะว่าไปดีกว่าตัวเราที่มีศาสนาด้วยซ้ำ (อันนี้หมายถึงเฉพาะตัวเรานะ เราไม่ดี) เค้าเคยถามเราว่า ทำไมต้องมีศาสนา ทำไมเราถึงนับถือศาสนา เราตอบเค้าไปว่า มีศาสนาไว้เพื่อให้คนเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี ทำแต่ความดี เค้าถามต่อว่า ถ้าไม่มีศาสนาเนี่ย เราทำตัวดี จิตใจดีไม่ได้เลยใช่มั๊ย อือออ ตอบไม่ได้เลยอ่ะ เค้าบอกว่า ตัวเค้าไม่มีศาสนา แต่เค้าเชื่อว่าเค้าทำตัวดีได้ด้วยตัวของเค้าเอง เค้ารู้ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ เค้ายังบอกอีกว่า สงครามก้อเกิดมาจากศาสนาทั้งนั้นแหละ โดนคนไม่มีศาสนาสอนซะพูดไม่ออกเลยเรา แต่ยังไงเราก้อขอนับถือศาสนาพุทธต่อไปนี่แหละ ส่วนเรื่องสถาบันกษัตริย์ เราไม่ขอพูดถึง เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากสำหรับคนไทย อันนี้ก้อเป็นอีกกระทู้ยอดฮิตที่ไม่เคยเถียงเพื่อนฝรั่งชนะซักที เซ็งตัวเอง จากคุณ : snygging - [ วันจักรี 01:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชื่นชมคนไทย แต่เป็นห่วงประเทศไทย( ในอนาคต ) จากคุณ : bunkuru - [ วันจักรี 04:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 what do you think about this man's comment in youtube about thai queen? http://www.youtube.com/watch?v=AE_vybndFTI จากคุณ : a - [ 7 เม.ย. 50 13:09:30 A:151.197.49.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 something very true but not necessarily right or wrong just positive not normative จากคุณ : หัวหอมกะซาวครีม - [ 9 เม.ย. 50 22:53:19 ]