ความคิดเห็นที่ 1 คนที่สาม ยังอยู่ในกรณีจ่ายแต่งนะคับ เป็นผุ้หญิงจ้างแต่งงานกับฟิลิปิน คือว่า ตกลงจ่ายเงินกัน 3 ครั้ง ครั้งแรกตอนบินไปทำเรื่องจดทะเบียนที่เมืองไทย ส่วนที่สองก็ก่อนกลับ แล้วส่วนที่สามก็หลังจากที่เข้ามาเมกาแล้ว พอฝ่ายหญิงเข้ามาเมกาเป็นที่เรียบร้อย อ๋อ เล่าตรงนี้ก่อนคือว่า ฝ่ายหญิง น่าตาดีอะคับ แต่อายุแยอะ แต่คนไทยอะคับ อายุไม่สำคัญ หน้าตาไม่ค่อยจะแก่ กันเอาสะเลย นั้นหล่ะเป็นที่หน้าพอใช่ของ ไอ้ผิน พอมาเมกา ไอ้ผินก็บอกว่า ให้มาอยู่ที่บ้านตัวเองเพราะกลัว อินมิเกชั่น จะมาจับได้ว่า จ้างแต่ง ไป ๆ มา ๆ ก็ดันโดนไอ้ผิน ขืนใจ จะโว้ยวายก็ไม่กล้า จะหนีไปอยุ่ที่อื่นก็ไม่ได้เพราะว่าไม่รู้จักใคร จะบอกแฟนหนุ่มที่เมืองไทยก็ไม่ได้เพราะว่ามาช่วยเหลืออะรัยไม่ได้ ก็ได้แต่เสีย... แล้วก็ต้องหาทางป้องกันเอาเอง นั้นหล่ะ พี่แก ก็ต้องทน จนกว่าจะได้ใบเขียว พอได้ใบเขียว พี่แก ก็ร้องสิทธิ์ของความเป็นเมียโดนการฟ้องหย่า ให้ฝ่ายชาย หมดตัว แต่กว่าจะได้รับชัยชนะ พี่แก ก็ต้องโดนไอ้ผินทำอะรัยมากมาย กว่าจะเก่งได้ก็ต้องอาศัยเวลาและความอดทนมากมายยิ่งกว่า ไปรบเอาบ้านเอาเมืองสะอีก กรณีคนที่สี่ก็ยังเป็นฝ่ายหญิง อยู่ แต่งงาน กับแฟนของเพือนตัวเอง ผุ้ชายเป็นคนไทย ซิทิเซ้น คับ คนนี้มีลูกชายมาอยู่ด้วย แล้วก็ผุ้หญิง ไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้อ่านไม่ออก แล้วลูกชาย อายุยังน้อยอยู่ตามมาด้วย คราวนี้ พอมาถึงอเมริกาก็ไม่รู้เรื่องอะรัยทั้งนั้น อีกอย่าง ผุ้ชายเป็นคนขี้งก แล้วก็ไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ เลย เพื่อนของฝ่ายหญิงก็ต้องแอบช่วยเรื่องบ้านเช่า หางาน เรื่องงานก็นั้นหล่ะคับพูดไม่ได้อ่านไม่ออกก็หางานยาก คราวนี้ก็จะต้องไปทำงานในครัวตามร้านอาหารไทยก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าร้านไทยนุกแต่ไหน ทำงานวันละ 12 ช.ม.ได้เงินน้อย แล้วมาถึงลูก คาวนี้จะทำยังงัย ก็ต้องให้เพือนแอบช่วยอีกตามเคยเรืองโรงเรียน แถม ฝ่ายชายอะรัย ๆ ก็จะหย่าถ้าเดียว ทะเลาะกันมากมาย จนคนไทยที่นี้หางานล้างจานในโรงแรมให้พอสิ้นปีก็ดันถูกฝ่านชายเอาฝ่ายหญิงลูก มาแคมภาษี รวมทั้งภาษีของฝ่ายหญิง ได้เงินแยอะอีกแถมไม่แบ่งให้ด้วยสักเซ้นเดียว ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องหย่ากันอยู่ ดึกแล้วเดี๋ยว มาต่อให้พรุ่งนี้ อะคับ จากคุณ : รักเตอร์ - [ วันจักรี 14:25:49 A:71.49.244.230 X: TicketID:136324 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาแปะว่าตาลายจ่ะ - -* แวงขออนุญาตจัดหน้าให้ใหม่ได้ไหมจ๊ะ (โอเคครับ - -*) โอเคจ่ะ จะได้อ่านง่ายๆเนาะ....^^~ จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เล่าให้ฟังเล่น ๆ หนุก ๆ นะคับยังงัยก็อาจจะช่วยให้คนที่จะมาตายเอาดาบหน้า ให้มองเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้นะคับ เอาหล่ะ ผมจะเล่าประสบการณ์ เรื่องตำนานใบเขียวให้ฟังนะคับ (เอาเท่า ๆ ที่จะพอรวบรวมได้นะคับ) อ๋อที่ผมสามารถเขียนเรื่องได้ก็ไม่ต้องสงสัยนะคับผม เป็นหมอดูด้วยอะคับ อย่างที่รู้ ๆ คนไทยมีอะรัยนิดอะรัยหน่อยก็วิงหาหมอดู (แต่ผมไม่ได้หลวกหลวงใครนะคับช่วยคนมากกว่าให้คนที่มาดูแล้วสบายใจ แล้วก็ไม่ได้เขียนเชียร์ตัวเองด้วยเพียงแต่ว่าเป็นข้ออ้างได้ว่าฟังเรื่องราวมาแยอะนะคับ) -มีอยู่กรณีแรก     ขอเล่าเรื่องจ้างแต่งงานก่อนนะคับ เอาเป็นว่าคนแรกเลนคับ เป็นผุ้หญิงแต่งงานกับคนเมกา แล้วมีเพื่อนคนไทยแนะนำให้โดยการแบ่งเงินเป็นค่านายหน้าด้วย ทำสัญญากันว่า จะแต่งงานสองปีและค่อยหย่า พอมาอยู่ที่เมกามาด้วย วีซ่าเค 3 ครบเวลาสองปี แฟนหนุ่มเจ้าก็หย่าโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวอะรัยล่วงหน้า แถมใบเขียวก็ยังไม่ได้ แล้วก็ยังต้องไปสัมภาษณ์อีกครั้งถึงจะได้ใบเขียว แต่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ ก็ดันมาเจอแบบนี้สะก่อน ตอนนี้ก็เดือนร้อนทนาย หาทนาย และก็เสียเงินให้ทนายไปตามระเบียบ แล้วก็ยังไม่มีกำหนดว่าจะได้เมื่อรัย ตอนนี้ก็อยากกลับเมืองไทย ก็ยังกลับไม่ได้ ส่วนเพือนคนที่แนะนำก็ไม่สามารถช่วยอะรัยได้ แถมยังเสียเงินให้ทนายทำเรื่อง 6 พันกว่าเหรียญ ตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่รู้ว่าจะได้ใบเขียวหรือเปล่า แต่ผมดูว่าได้ (อยากให้ได้)เพราะว่า เสียเงินแล้วอย่างน้อยก็ให้ได้อะรัยมาบ้าง ส่วนแฟนเจ้าก็ติดต่อไม่ได้ ก็ต้องรอขึ้นศาลต่อไปยังไม่มีคำตอบ จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -คนที่สองนะคับ คนนี้ เป็นผู้ชายจ้างแต่งงงานกับหญิงคนไทยที่เป็นซิทิเซ้น อันนี้ซับซ่อนหน่อยนะคับเพราะว่า เค้าไม่ได้รักกัน เพียงแต่ว่าเพือนของฝ่ายผุ้หญิงแนะนำให้รู้จัก ฝ่ายผุ้ชาย เห้นว่าอายุยังน้อย 24 - 25 ผุ้หญิงก็อายุใกล้เคียงกัน เลยคุยกันโดยผู้ใหญ่ว่า ถ้ายังงัยก็แต่งงานกันจิง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือว่า บังคับแต่งงานนั้นหล่ะเพื่ออนาคต แล้วฝ่ายชายก็เป็นเด็กดีงานดีอยุ่เมืองไทย แต่ก็อยากมาเลยทำตามให้ผุ้ใหญ่ฝั่งตนเอง โดยที่ไม่รุ้เรื่องอะรัยมากมายของฝ่ายหญิงเลย แต่งัยได้ ผู้หญิงก็มาแต่งงานแล้วก็กลับไปทำเรื่องให้ตามกำหนด แล้วก็มาอยู่ที่อเมริกาก็รู้เรื่องราวความจิงที่ต้องทนทุกข์ก็เพราะว่ารู้ว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว จะหย่าก็ยังหย่าไม่ได้ต้องรอใบเขียวให้ได้ก่อน แล้วก็ยังต้องอยู่บ้านฝ่ายหญิงช่วยครอบครัวเค้าจ่ายค่าใช่จ่ายต่าง ๆ ของที่บ้าน ยังไม่มีอิสระรอจนกว่าจะได้ใบเขียว 10 ปีแล้วค่อยหย่า แล้วก็ต้องทนสามีตัวจิงและหญิงเจ้า ด่าว่าเมือรัยจะได้หย่าสะที จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 -คนที่สาม ยังอยู่ในกรณีจ่ายแต่งนะคับ เป็นผุ้หญิงจ้างแต่งงานกับฟิลิปิน คือว่า ตกลงจ่ายเงินกัน 3 ครั้ง ครั้งแรกตอนบินไปทำเรื่องจดทะเบียนที่เมืองไทย ส่วนที่สองก็ก่อนกลับ แล้วส่วนที่สามก็หลังจากที่เข้ามาเมกาแล้ว พอฝ่ายหญิงเข้ามาเมกาเป็นที่เรียบร้อย อ๋อ เล่าตรงนี้ก่อนคือว่า ฝ่ายหญิง น่าตาดีอะคับ แต่อายุแยอะ แต่คนไทยอะคับ อายุไม่สำคัญ หน้าตาไม่ค่อยจะแก่ กันเอาสะเลย นั้นหล่ะเป็นที่หน้าพอใช่ของ ไอ้ผิน พอมาเมกา ไอ้ผินก็บอกว่า ให้มาอยู่ที่บ้านตัวเองเพราะกลัว อินมิเกชั่น จะมาจับได้ว่า จ้างแต่ง ไป ๆ มา ๆ ก็ดันโดนไอ้ผิน ขืนใจ จะโว้ยวายก็ไม่กล้า จะหนีไปอยุ่ที่อื่นก็ไม่ได้เพราะว่าไม่รู้จักใคร จะบอกแฟนหนุ่มที่เมืองไทยก็ไม่ได้เพราะว่ามาช่วยเหลืออะรัยไม่ได้ ก็ได้แต่เสีย... แล้วก็ต้องหาทางป้องกันเอาเอง นั้นหล่ะ พี่แก ก็ต้องทนจนกว่าจะได้ใบเขียว พอได้ใบเขียว พี่แก ก็ร้องสิทธิ์ของความเป็นเมียโดนการฟ้องหย่า ให้ฝ่ายชาย หมดตัว แต่กว่าจะได้รับชัยชนะ พี่แก ก็ต้องโดนไอ้ผินทำอะรัยมากมาย กว่าจะเก่งได้ก็ต้องอาศัยเวลา และความอดทนมากมายยิ่งกว่า ไปรบเอาบ้านเอาเมืองสะอีก จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 -กรณีคนที่สี่ ก็ยังเป็นฝ่ายหญิง อยู่ แต่งงาน กับแฟนของเพือนตัวเอง ผุ้ชายเป็นคนไทย ซิทิเซ้น คับ คนนี้มีลูกชายมาอยู่ด้วย แล้วก็ผุ้หญิง ไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้อ่านไม่ออก แล้วลูกชาย อายุยังน้อยอยู่ตามมาด้วย คราวนี้ พอมาถึงอเมริกาก็ไม่รู้เรื่องอะรัยทั้งนั้น อีกอย่าง ผุ้ชายเป็นคนขี้งก แล้วก็ไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ เลย เพื่อนของฝ่ายหญิงก็ต้องแอบช่วยเรื่องบ้านเช่า หางาน เรื่องงานก็นั้นหล่ะคับพูดไม่ได้อ่านไม่ออกก็หางานยาก คราวนี้ก็จะต้องไปทำงานในครัวตามร้านอาหารไทยก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าร้านไทยหนักแค่ไหน ทำงานวันละ 12 ช.ม.ได้เงินน้อย แล้วมาถึงลูก คาวนี้จะทำยังงัย ก็ต้องให้เพือนแอบช่วยอีกตามเคยเรืองโรงเรียน แถม ฝ่ายชายอะรัย ๆ ก็จะหย่าถ้าเดียว ทะเลาะกันมากมาย จนคนไทยที่นี้หางานล้างจานในโรงแรมให้พอสิ้นปี ก็ดันถูกฝ่านชายเอาฝ่ายหญิงลูก มาแคมภาษี รวมทั้งภาษีของฝ่ายหญิง ได้เงินแยอะอีกแถมไม่แบ่งให้ด้วยสักเซ้นเดียว ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องหย่ากันอยู่ ดึกแล้วเดี๋ยว มาต่อให้พรุ่งนี้ อะคับ จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านๆแล้วก็เหนื่อยใจปนอนาถใจแฮะ - -* ทองที่อเมริกามันน่าขุดก็จริง แต่ก็นะ - -'' เฮ้อออออ - -* จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง - [ วันจักรี 20:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างกลับนิยาย คนเราแลกได้ทุกอย่าง ศักดิ์ศรี จิตใจ เพื่ออะไร เพื่อโอกาสที่ดีในวันข้างหน้า บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าชีวิตมันหมดสิ้นหนทางกันขนาดนั้นเลยหรือ ใบเขียวใครก็อยากได้แต่เอามาลิขิตชีวิตตัวเอง เฮ้อ ไม่เห็นจะคุ้มเลย จากคุณ : Piglet-Yorkie - [ วันจักรี 21:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเล่าบ้าง... 1). หญิงไทยมาวีซ่าท่องเที่ยว แล้วโดดวีซ่าทำงานร้านอาหารไทย จนได้รู้จักฝรั่งคนหนึ่งที่มากินข้าวที่ร้านประจำ...คุยกันถูกคอยังไงไม่รู้ ฝ่ายชายก็เสนอว่าจะช่วยให้ได้ใบเขียว...ฝ่ายหญิงก็ตกลงทันที...แต่หลังแต่งงานฝ่ายหญิงถึงรู้ว่า "ถูกหลอก" เพราะมารู้ทีหลังว่าฝ่ายชายไม่มีงานทำ วันๆ ก็ได้แต่ล่องลอยไปนั่นไปนี่...จะขอใบเขียวให้เธอก็ไม่ได้เพราะ "ไม่มีรายได้"...เลยกลับกลายเป็นว่าฝ่ายหญิงต้องทำงานหาเงินให้ฝรั่งคนนี้ใช้...ยื่นขอใบเขียวก็ไม่ได้... 2). หญิงไทยอีกเหมือนกัน โดดวีซ่ามาหลายปี...ทำงานเก็บเงินได้ก็เอาไปหาซื้อใบต่างๆ ปลอมไว้ในครอบครอง จนวันหนึ่งมีคนแนะนำให้รู้จักกับหนุ่มเอเชียที่เป็น citizen ก็มีคนชักชวนให้จ้างหนุ่มนี้แต่งงานในสนนราคา $20,000 โดยต้อง make up เอกสารทุกชิ้นให้ดูเหมือนว่าแต่งงานกันจริงๆ เช่น เปิดบัญชีร่วม, ใช้ชื่อเช่าบ้านด้วยกัน, etc. เพื่อเอาไป "ตบตา" ตอนสัมภาษณ์ การจ่ายเงินก็จ่ายเป็นงวดๆ แต่หลังแต่งงานได้ 1 ปีก็ยื่นเรื่องไม่ได้สักที....สุดท้ายก็มารู้ว่าหนุ่มคนนี้ยังไม่ได้หย่ากับภรรยา (ชาติเดียวกัน) จะไปเดินเรื่องขอใบเขียวให้ใครก็ไม่ได้...สรุปเสียเงินฟรี... 3) ชายไทย (นักเรียน) มาอเมริกาแล้วก็ไปทำงานร้านอาหาร ก็มีคนแนะนำให้ซื้อใบเขียวปลอมในสนนราคา $500...(เขาโทรมาเล่าให้ฟัง ก็ห้ามไม่ให้ซื้อแล้วนะคะ...แต่เขาไม่เชื่อ)...วันหนึ่ง Immigration มาตรวจที่ร้านฯ น้องคนนี้ก็ยื่นใบเขียวให้ดู...Immigration ดูแล้วก็ไม่ว่าอะไรส่งบัตรคืนให้...น้องเขาก็เลยคิดว่า "fake card" นี้แจ่มจริงๆ หลอก Immigration ได้ด้วย...อีก 2 อาทิตย์ต่อมา Immigration กลับมาใหม่พร้อมด้วยเครื่องรูดบัตรและเรียกหาน้องคนนั้น...หลังจากเช็คข้อมูลบัตรกับเครื่องแล้ว...ไม่มีข้อมูลใดๆ เพราะเป็น fake card...น้องเขาก็เลยโดนจับ...ติดคุก...ขึ้นศาล...โดนปรับ + ติดคุก (โดนหลายกระทง) + ส่งกลับประเทศ + blacklist... ยังมีอีกเยอะค่ะ...เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า... แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 50 23:13:28 จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ วันจักรี 23:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ยังมีอีกพวกนึงที่ไม่มีใครเอ่ยถึง คือพวกเกย์และเลสเบี้ยนที่มีคู่รักเป็นอเมริกัน กรณีจ้างแต่งรวมคนเหล่านี้เยอะเหมือนกัน ถ้าจะบอกว่าคนพวกนี้แลกได้ทุกอย่าง ศักดิ์ศรี จิตใจ ก็คงไม่ถูกนักเพราะถ้ากฎหมายไม่ใจแคบ คนเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ในใบเขียวอย่างเต็มขั้น จากคุณ : Hotlver - [ 7 เม.ย. 50 00:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11  น่าจะตั้งชื่อกระทู้นี้ว่า "ตำนานอดใบเขียว"นะ เพราะเท่าที่อ่านมาข้างบนนี้ ยังไม่มีคนไหนได้ดังใจสักคน        "The Legend of Fake - Fraud and Failure"                           สังเกตได้ด้วยว่า เรื่องเล่าตำนานอดใบเขียวทำนองนี้ คนเล่าจะมีความหวังดี และไม่อยากจะเห็นเพื่อนๆที่มาใหม่ ต้องประสบเคราะห์กรรม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ลักษณะนั้น แต่...ผลสะท้อนทางความคิดเห็น  (บนจอบอร์ดไกลบ้าน) ไม่ใช่ว่าทุกเสียงจะเข้าใจเจตนาของผู้เล่าว่ามีความห่วงใย เท่าที่เคยปรากฏ จะมีอดีตผู้เผชิญชะตากรรมที่รอดไปได้ หรือว่าที่ผู้อยากลองเสี่ยง เพราะเห็นว่าท้าทายโชคชีวิตดี กับผู้ที่สนับสนุนด้วยความเข้าใจว่าปัญหาสถานภาพอัตคัด ที่บ้านเกิดเมืองนอน ตามความรู้สึกของคนที่อยากเริ่มใหม่ ด้วยความหวังว่า อเมริกา (และประเทศอื่นๆ)จะมีทางไปได้ พวกเขาเหล่านี้ จะไม่รู้สึกสนุกกับข้อความในกระทู้แบบนี้ โดยเฉพาะคนที่ฝันไว้เต็มที่ กับการหลุดพ้นความเดียวดาย เขาจะคิด (ด้วยความเชื่อมั่น) ว่า เมืองนอกและการเสี่ยงนี้ เป็นการเดินทางสู่ดวงดาวอันสดใส ทั้งๆที่ยังไม่เคยเผชิญ กับเรื่องที่อาจจะเหมือน หรือคล้ายคลึงกับตำนานถูกหลอก แต่เขาจะไม่ยอมเชื่อ ว่าเขาจะเป็นคนต่อไปที่มีใครล่อลวง คนไหนล่ะ จะวาดภาพตนเองมาพบเสือสิงห์ กระทิงทะโมน แต่ละใจย่อมหมายว่าจะมีคนดีๆมาพบพานอุปการะเป็นคู่ให้ (ซึ่งลางเนื้อชอบลางยา) ต่อให้เขามาพบร้ายยิ่งกว่าที่เล่านี้ แต่คนใจเด็ดบางกลุ่มก็มีความทนทรหดที่จะอยู่ซ่อนต่อไป โดยใช้วิธีการอีกหลายรูปแบบ ที่จะทำให้เขาได้กรีนคาร์ด บางนางสาว..กระทำยุทธกลด้วยการแย่งคู่รักหรือคู่สมรส ของคนอื่นและประสบความสำเร็จหลังจากสร้างวีรกามและ ทำลายความสุขในครอบครัวของคนอื่นอย่างไม่เหลือชิ้นดี และในวิถีทางนี้ ท้ายสุดกรรมก็จักเป็นวงวนไปสู่ผู้กระทำ.. ได้เห็น ได้ยิน ได้ผ่านตามานักต่อนัก ตำนานกรรมพิฆาต.. ถ้าจะถามว่า มีทางแก้ไขอะไรได้บ้างหรือเปล่า กรณีต่างๆ เพราะเล่าไปก็เท่านั้น มันจะมีคนไม่พอใจเข้ามาบริภาษคุณ (ใช้บัตรผ่าน หรือล้อคอินก็ตามที) เขาจะว่าไม่มีใจเมตตา ไม่ยอมรับรู้ว่าชะตาคนเกิดมาไม่เหมือนกัน เขาต้องดิ้นรน ในที่สุดคนเล่าอาจจะเป็นคนใจแคบที่ไม่ยอมเห็นอกใจเขา ครั้งมีผู้เข้ามาลุ้นร่วม ให้ความกรุณาปรานีต่อกลุ่มที่อยู่ผิด ในที่สุด ตำนาน(อด)ใบเขียว มักจะต้องจบลงที่วิวาทกรรม ระหว่างคนที่หวังดี แต่กลับกลายเป็นคนประสงค์ร้ายไปเลย กับคนที่มีความมุ่งมั่น ว่าเขาจะทำทุกทางให้ได้อยู่อเมริกา ที่แย่ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาฉุนสุดขีด ที่ใครไปเล่าเรื่องเหล่านี้ เขาจะตามราวีในทุกวิถีทาง ไม่ยอมรับฟังในเจตนาห่วงใย เขาไม่สนใจเนื้อหาของเรื่อง ว่ากฎหมายมีอำนาจแข็งเข้ม ประเด็นที่ฝ่ายเล่านำทางให้ จะโดนเบี่ยงเบนไปสู่เรื่องอื่นๆ ปัญหาการถูกหลอกลวง การปลอมแปลงเอกสาร หรือแม้ แต่การรับโทษ ไม่ว่า exclusion, deportation ,removal จะไม่มีใครอยากจะเข้าใจ ระบบการทำงานของหน่วยงาน ICE หรือ Homeland Security ว่าเขากำจัด จัดเก็บส่งกลับ อย่างต่อเนื่อง คนที่ไม่เคยมาต่างประเทศ ยังไม่ทราบเลย ว่าจะกรอกวีซ่าเองได้อย่างไร ต้องถามหาพี่เลี้ยงอยู่ตลอด การช่วยตลอดเวลา ก็ใช่ว่าจะส่งผลดีเสมอไป เพราะทำให้ ไม่รู้จักช่วยตนเอง คนจะไปรอดได้ไกลต้องช่วยตนเองได้ นับตั้งแต่ด่านที่หนึ่ง ต้องเริ่มตรงนั้น คนช่วยต้องใจแข็งบ้าง เพราะว่าเมื่อมาถึงเมืองนอกจริง จะมีใครไปชี้ทิศทางชีวิตให้ ยังมีเรื่องต้องดำเนินการเองรออยู่ ถ้าเข้ามาง่ายจนเกินไป เขาจะมีความเข้มแข็งพอไหมที่จะสู้กับปัญหาอื่น ลองคิดดู จะกรอกข้อความในแบบฟอร์มเอง ยังไม่มีความมั่นใจเลย แล้วเขาจะเข้าใจได้ไหมว่า หน่วยงานทางการและนโยบาย ของสหรัฐฯ คุมเข้มในการเลือกคนเข้ามาทำงานในประเทศ เขาจะเคยเปิดอ่าน Link ที่เชื่อมให้ดูฐานข้อมูลกฎหมายนั้น บ้างหรือเปล่า...จะมีกี่คนในร้อย ที่สนใจติดตามเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับปัญหา Illegal Aliens อย่างลึกซึ้ง (และเชื่อฟัง) ใคร..จะยอมรับรู้ว่าอเมริกันซิติเซ่น (เจ้าของประเทศ) มี กระบวนการต่อต้านผู้อยู่ผิดกฎหมาย (ที่ไม่ยอมจ่ายภาษี) แล้วเข้ามาร่วมใช้สวัสดิการสำหรับพลเมืองที่เขาสู้ทำงาน แลกด้วยหยาดเหงื่อ แต่แล้วต้องโดนกลุ่มที่เขาเรียกว่า เป็นคนนอกกฎหมายนี้ มาตัดหน้าสิ่งดีๆที่พวกเขาควรได้รับ อย่างสำคัญคือการรักษาพยาบาล กับกรณีปิดโรงพยาบาล คนที่ไม่เคยมาเลย จะทราบได้อย่างไรว่า กลุ่มอิลลิกั้ลเอ. ในความหมายที่หนึ่ง ของประเทศนี้คืออะไรกันแน่ ไม่ใช่ แค่หลบมาทำงาน แต่ว่าแทรกซึมในระบบเศรษฐกิจที่นี่.. (ไม่ได้หมายถึงเฉพาะกลุ่มคนไทยนะ หมายรวมทุกเผ่า) มีกี่คน เข้าไปตามดูสถิติที่เพิ่มสูงขึ้นของประชากรอพยพ เขาทำตารางกลุ่มแยกประเทศไว้ให้ เป็นรายปีที่เพิ่มสูงขึ้น และในอีกหลายฐานข้อมูล ที่ระบุว่าคดีอาชญากรรมต่างๆ เกิดจากฝีมือของกลุ่มคนที่มาอยู่ผิดกฎหมายมากขึ้นทุกที ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าของประเทศ รู้สึกไม่ปลื้ม คนที่ไม่ผ่านวีซ่าเอย ไม่ผ่านด่านตม. ไม่ผ่านสัมภาษณ์งาน เพราะอะไร โดยสาเหตุใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาส่วนบุคคลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนทั้งกลุ่ม (คนกลุ่มที่ปรารถนาชีวิตดีขึ้น) ส่วนหนึ่ง ที่ได้สมหวัง เพราะอะไร เพราะทำมาตามขั้นตอน ต้องผ่านระบบ มีหลักฐาน มีความบริสุทธิ์ใจ มีความเคารพ ต่อกฎบ้านเมืองของเขา ยอมปฏิบัติตามเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ และส่วนที่เหลือ คือไม่เป็นไปตามกฎ ถึงบ่อนทำลายระบบ กลุ่มผู้ยอมทำผิดมาตรการอันเข้มงวด ต้องเลือกมาใต้ดิน แม้นสำเร็จได้ ก็มีอะไรบางอย่างฝังใจอยู่ หาสุขแท้ไม่พบ ความพยายามที่จะเล่าเรื่องความทุกข์และความล้มคว่ำของ ชีวิตหลากหลายที่ต้องการเปลี่ยนสถานภาพ คงดำเนินต่อ แต่...ผลคงไม่เป็นตามคาด ซ้ำร้ายจะเป็นการเปิดช่องทาง ให้ผู้ที่จ้องหาผลประโยชน์จากความต้องการได้ใบเขียวนี้ ใช้เป็นทางล่อใจ หลอกเอาเงินทอง(ซึ่งก็แทบไม่มีอยู่เดิม) ของพวกเขาที่ต้องกลายเป็นเหยื่อ มาพบชะตากรรมขื่นขม เรื่องมันซับซ้อน และจะบานปลายไม่รู้จบ เป็นปัญหาชาติ เป็นปัญหาที่ทางการต้องใช้งบประมาณมากนับล้านเหรียญ และต้องอาศัยเวลา เป็นเครื่องช่วยให้เกิดความรู้และเข้าใจ เขียนเล่าไปอักสักพันเรื่อง ก็หาได้ช่วยให้ยอมรับง่ายๆไม่ บางทีการปล่อยให้เขามาเรียนรู้เองจะเป็นบทเรียนที่ดีที่สุด เพราะว่า เราช่วยได้ แค่คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ส่วนนี้เท่านั้น เราไม่สามารถช่วยอะไรได้ กับกลุ่มอิลลิกั้ลเอ.โดยเจตนา เพราะเขาเป็นผู้เลือกกันเอง และยืนยันว่าสิ่งนั้นเขาพอใจ เมื่อเขาพอใจ คุก ใครจะไปเล่าถึงเสรีภาพให้ เขาจะฟังฤา                           แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 50 01:29:51 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 7 เม.ย. 50 01:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อืม... ถ้าฝรั่งมันหล่อยังกะปีเตอร์ครอป จบปริญญา มีดีกรีเสียหน่อย ทำงานทำการ ขยัน นิสัยดี ปกติ จิตใจดี แบบคนดี ๆ ทั่วไป คงถูกหวย ทั้งได้กรีนการ์ด และแฟนที่ดี เห้อ แต่คนดี ๆ แบบนั้น จะรอดมาโสดเรอะ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 9 เม.ย. 50 11:14:43 A:124.183.29.52 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ง ๆ สำหรับคนที่อยากได้ใบเขียวเพื่อขุดทอง ประมาณว่าทำงานเอาเงินดอลล่าส่งมาไทยอ่ะนะ ไม่เห็นจะน่าไปที่เมกาเลย ตอนนี้เงินดอลล่ายูเอสอ่อนลงมาก ๆๆๆ แค่ 34 -35ต่อดอลอ่ะ ในขณะที่แคนาดาไม่ลงเลย ประมาณ 29-30 ลองเทียบดูว่า ที่เมกาถ้าได้ชม.7-8 ดอล ขั้นต่ำสุด ที่เค้าจะจ่ายให้ กับที่แคนาดาขั้นต่ำสุด ชม 10 ดอล ลองคิดเป็นเงินไทยแล้ว มาแคนาดาไม่ดีกว่าเรอะ แถมหนทางได้พีอาร์แคนาดาก็เยอะกว่าดีกว่าไม่รู้กี่เท่า สมัครพีอาร์นอกแคนาดาได้กันก็เยอะแยะเหมือนที่ออสเตรเลียน่ะแหล่ะ ค่าเงินออสก็ลงนะ ประมาณ 28 กว่า ตอนนี้ แต่ว่าแคนาดาเงินแข็งกว่าดอลล่าออส เงินยูเอสตกลงเยอะมาก เทียบกับหน่วยของดอลเป็นค่าแรงขั้นต่ำต่อชม. คิดเป็นเงินไทย เราคิดว่าตอนนี้แคนาดาจะได้เยอะกว่าอีก แถมสิทธิอยุ่อาศัยหรือแบบกรีนการ์ดน่ะแหล่ะ ไม่ได้ยากขนาดเมกาเลย แล้วถ้ามีพาสปอร์ตของแคนาดาแล้วก็เดินทางไปเที่ยวในเมกาไม่ยากด้วย รวมทั้งพอมีเงินก็ทำเรื่องไปลงทุนในเมกาง่าย ๆ กว่าเป็นคนไทยแล้วไปทำเรื่อง คนที่คิดจะจ้างแต่งเพื่อกรีนการ์ดเมกา น่าจะพิจารณาตรงจุดนี้ด้วย แคนาดาเป็นซอฟออพชั่นที่ไม่ง่ายแต่ยากน้อยกว่าอเมริกาเยอะมาก ๆ แถมดูจากค่าเงินตอนนี้ก็คิดเอาเอง สำหรับคนขุดทอง จากคุณ : เหมียวโหด - [ 9 เม.ย. 50 11:24:09 A:124.183.29.52 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ๆ คุณนายแมวข้างบนน่ะ ฉันจำได้ว่าค่าเงินแคนาเดี้ยน เคยแข็งอยู่พักหนึ่งถึง 33-34 บาทไม่ใช่ดอกรึ มันก็อ่อนปวกเปียกตามค่าดอลล่าไอ้กันนั่นแหละ ฉันก็อยากไปเหมือนกันนะแคนาดา แต่งานหายาก จะทำก็ต้องรอให้มันอนุญาตก่อนว่าไม่มีคนของมันทำ ทั้งๆที่คนขาดแคลน เอาเหอะรอให้ได้พาสปอร์ตก่อน แล้วจะไปสอบเอาไลเซ่น จากคุณ : อยากไปขุดทองเหมือนกัน - [ 9 เม.ย. 50 19:28:02 A:60.234.106.165 X: TicketID:083310 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นี่ ๆ คุณอยากไปขุดทองข้างบนน่ะ เรทเงินณ.เช้าวันนี้ ยูเอส 34.57-35.22 เมื่อก่อนเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 37 ปลาย - 39 คานาเดี้ยน 29.69-30.66 เมื่อก่อนเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29 ปลาย - 30 -31 ลองเทียบดูว่า คานาเดี้ยนอ่อนลงนิดนึง อาจจะเพราะบาทที่แข็งขึ้นมาก แต่ตกจากแนวรับมานิดเดียว แต่ดูยูเอสสิคะ ทะลุแนวรับลงมาตั้งกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว บาทแข็งก็มีส่วน แต่หลัก ๆ เงินยูเอสอ่อนลงมามาก ๆ คานาเดี้ยนเรามีความเห็นว่าเงินเค้าอ่อนลงนิดหน่อย และมาเจอบาทแข็ง ก็เลยลงมาเท่าที่เห็น แต่เทียบกับยูเอสไม่ได้หรอก ยูเอสลงมาเยอะมาก รวมทั้งแจ๊บเยนด้วย แต่ที่ว่า แคนาดาหางานยากกว่า เอ จริง อันนี้ใช่เลย เมกาหางานง่ายกว่าเยอะ แต่ถ้าคนที่มีงานรออยู่แล้ว แคนาดาก็ถือว่าได้เปรียบเรื่องการได้สิทธิอยู่อาศัย ไม่ใช่แค่ตัวคุณเองเท่านั้น ลองนึกดูว่าถ้าคุณคิดจะทำเรื่องให้คนในครอบครัว ลองนึกว่าเป็นอเมริกาจะอีกนานสักแค่ไหนและยากแค่ไหน กว่าเค้าจะมาอยู่กับเราได้ ลองเทียบกับของแคนาดาดู ส่วนค่าเงินตอนนี้ก็อย่างที่บอก แต่ประเทศแคนาดาคนอาจจะไม่อยากไปอยู่ เพราะเมกามีสีสันมากกว่า และคนไทยเยอะกว่า งานมีเยอะกว่า น่ะใช่ ก็ลองพิจารณาดูละกันค่ะ ไม่อยากบอกว่าออสเตรเลียก็ไม่ได้ยากแบบอเมริกา และหางานง่ายกว่าแคนาดา อากาศอะไรก็ปรับตัวง่ายกว่าเยอะ ตอนนี้ 28.19-29 นิด ๆ อยากให้อยู่แบบถูกต้องกันน่ะค่ะ เพราะการอยู่แบบหนีวีซ่ามันขาดโอกาสอะไรเยอะ ถ้ามีโอกาสจะอยู่ให้ถูกต้องในประเทศอื่นที่ไม่ใช่เมกาก็ลองศึกษาดูค่ะ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 11 เม.ย. 50 06:56:28 A:124.183.29.52 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต๊าย.............คุณนายแมวรอบรู้ไปหมด คุณอยู่แคนาดาเหรอ เห็นข้อมูลเยอะ แล้วภาษีล่ะแคนาดาเก็บแพงกว่าไอ้กันมากไหม อยากไปนะแคนาดาน่ะแต่ก็กลัวอากาศนะ เมืองที่ค่าครองชีพไม่แพงก็อากาศหนาวจัด แล้วฉันจะรอดไม๊เนี่ย...... ฉันเก็บเงินฝากสกุลออสซี่ กีวี นะ ดอกเบี้ยดี สกุลแคนาเดียน ดอกเบี้ยน้อย รอๆ ให้ได้พาสปอร์ตก่อนเหอะ แล้วจะได้เข้าแคนาดาไปดูลู่ทางทำมาหากิน ฉันไปไหนมาไหนไม่เคยหนีวีซ่านะ ได้สิทธิอยู่ต่างประเทศถาวร (ที่นี่) รอเข้าออสซี่ เป็นประเทศต่อไป แต่ใจมันอยากนะ อ่านที่คุณนายแมวเขียนแล้วของมันขึ้น อยากมาขุดทองเพิ่มอีกไว้ใช้ยามแก่ ว่าแต่ว่าแก่ๆ อย่างฉันแคนาดามันจะให้สมัครวีซ่าถาวรเหรอ ตอนนี้ก็ได้แต่เตรียมจอบเตรียมเสียม รอคุณนายแมวช่วยนำหน้าพาไปแซะ จากคุณ : อยากไปขุดทองเหมือนกัน - [ 11 เม.ย. 50 15:49:20 A:60.234.108.175 X: TicketID:083310 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณนายขุดทอง ดิฉันไม่ได้อยู่แคนาดาหรอกค่ะ ก็อยู่ที่ออสเตรเลียเก็บเงินเอดอลล่านี่แหล่ะ แต่มีแพลนว่าอาจจะไปอยู่แคนาดาในอนาคตก็เป็นได้ ก็มอง ๆ ไว้อยู่ ก็เลยศึกษาเรื่องอิมมิเกรทกะค่าเงินชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ ไว้เป็นประจำ เพื่อความเพลิดเพลิน เป็นเสมือนงานอดิเรก จริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ไปอยุ่หรอก ขี้เกียจย้ายประเทศเหมือนกันอ่ะ ก็ศึกษาไว้ เป็นความรู้รอบตัวอ่ะแหล่ะ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 12 เม.ย. 50 12:10:33 A:124.183.29.52 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จ้า...........คุณนายแมว อยู่ออสเตรเลียก็ดี ไว้ไปแคนาดาเมื่อไหร่บอกฉันด้วยน๊า.....จะไปด้วย ฉันวางแผนเข้า ออสซี่ ปีหน้ากำลังดูๆ อาเดเลด แคนท์ส์ อยู่ ตะก่อนเคยคิดสมัครวีซาแคนาดาเหมือนกัน แต่เอเย่นต์ที่ปรึกษามันไม่ได้เรื่อง ค่าธรรมเนียมค่าโง่ก็จะเอาสองแสน บวกค่า ธรรมเนียมจริงต่างหากอีกเกือบแสนนึง แถมดูถูกเราอีกต่างหาก ของขึ้นเลยมาหาข้อมูลสมัครเอาเองอีกประเทศหนึ่ง ถูกใจถูกเงินไม่ต้องเสียค่าโง่ให้เอเยนต์ ทำเอง แปลเอกสารเอง ยื่นเรื่อง เดินเรื่อง ติดตามเรี่องเอง เสร็จสิ้นแค่ สามหมื่นกว่าบาทเอง ได้วีซ่าถาวรยังเอาไปอวดเอเยนต์เลย จากนั้นไม่นานเอเยนต์สองแห่งที่ฉันเคยติดต่อก็ปิดกิจการ มีเพื่อนมาจากแคนาดาก็บอกๆ ฉันเหมือนกันว่า ค่าสาธารณูปโภคแคนาดาถูก เพราะรัฐอุดหนุน ยังไงๆ ก็ขอบใจนะ ที่ช่วยจุดประกายความหวัง หลายๆ ปีมาแล้วก็มีคนจุดประกายคล้ายๆ แบบคุณนายแมว นี่แหละ ถึงได้ฮึดมาอยู่ที่นี่ทุกวันนี้ไง สบายดีแท้ แถมได้เงินอีกต่างหาก เกินคุ้มค่าวีซ่า จากคุณ : อยากไปขุดทองเหมือนกัน - [ 12 เม.ย. 50 14:37:32 A:60.234.103.149 X: TicketID:083310 ]