ความคิดเห็นที่ 1 1. ดิฉันซื้อแมนชั่นค่ะ เหตุผล - อยู่ใกล้สถานีรถไฟ สะดวก สบาย (เดิน 2 นาทีถึงสถานี) - โครงการดี + บริษัทสร้างดี ไว้ใจได้ (Mitsui Fudosanya) - เวลาขาย ๆ ง่าย มีคนต้องการซื้อต่อเยอะ (ดูจากมีใบ ปลิวจากเอเยนต์ซี่สงมาประจำว่าหากอยากขาย ติดต่อมา หน่อย เพราะมีคนต้องการซื้อ) - มีห้องสมุด / ซาวน่า / Gym / ห้องเด็กเล่น / ห้องจัด เลี้ยง / ห้องพักแขก / ห้องชมวิว (ทั้งหมดเป็นออปชั่น แต่ ก็ล่อตาล่อใจผู้ซื้ออยู่ไม่น้อยค่ะ) ข้อเสีย - ต้องเสียค่าmanagement feeรายเดือน (แต่ค่านี้รวมทั้งค่าดูแลรักษาแมนชั่นให้สะอาดอยู่เสมอ ซ่อมแซมส่วนที่แตกหัก ชำรุด รวมถึงการreformตัวตึก ด้านนอกทั้งตึกเมื่อถึงเวลานั้น) * ขนาดหลอดไฟหน้าห้องดิฉันขาด ทางmanagementก็ ส่งคนมาเปลี่ยนให้* - ต้องเสียค่าที่จอดรถรายเดือน - ส่งเสียงดังไม่ได้ จะรบกวนห้องข้าง ๆ รวมถึงกระแทก อะไรตึงตังที่พื้นก็ไม่ได้ รบกวนห้องข้างล่าง - ต้องเคารพกฏของทางแมนชั่น ทำอะไรตามใจฉันไม่ได้ (เช่น ตากผ้าพาดกับเฉลียงข้างนอกไม่ได้ ทำลายภาพ พจน์แมนชั่น / เอาของประดับออกมาวางหน้าประตูห้องไม่ ได้ เพราะถือว่าต้องรักษาอิมเมจร่วมกัน ฯลฯ) ข้อดีของบ้าน - ได้ความเป็นส่วนตัว - ได้ที่ดินเอาไว้ปลูกดอกไม้ ปลูกผักเป็นเรื่องเป็นราว (สำหรับคนชอบทำสวน แต่ดิฉันไม่สันทัด ข้อดีข้อนี้ไม่ ค่อยมีน้ำหนักต่อดิฉัน) - มีที่จอดรถในบ้าน - ไม่ต้องเสียค่าmanagement fee (แต่เวลาจะreformบ้าน ต้องควักกระเป๋าตัวเองทุกบาททุก สตางค์ เป็นเงินก้อนโต) ข้อเสียของบ้าน - อยู่ไกล (เดี๋ยวนี้หาบ้านที่เดินถึงสถานีในระยะ 10 นาที ยากเต็มทีหากคุณอยู่ในเมืองใหญ่) - ขายยาก (เมื่อทำเลไม่ดี ราคาขายก็ย่อมตก ยกเว้นที่ดิน จะเยอะมากมายจนสามารถเอามาสร้างเป็นอพาร์ตเมนต์ให้ คนเช่าได้) - เหนื่อยความความสะอาด (ดิฉันไม่ค่อยขยันค่ะ ไม่ชอบ การทำความสะอาด 2 ชั้น ขึ้น-ลงบันได) - ต้องซ่อมทุกอย่างด้วยตัวเอง จากคุณ : fudge-a-mania - [ 18 เม.ย. 50 08:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2. ยิ่งให้เยอะยิ่งดีค่ะ เพราะผ่อนเร็ว ยิ่งผ่อนนานดอกเบี้ยก็ บานแบะ (หากคุณมีเงินเก็บเยอะ โปะเข้าไปเลยค่ะ อย่า คิดว่าจะเอาเงินฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ย เพราะที่ญป ดอกเบี้ยเงินฝาก กับดอกเบี้ยเงินกู้ต่างกันมาก....ไม่คุ้มค่ะ) ดิฉันดาวน์ 18 ล.ย. ค่ะ ไม่ถึง 30 เปอร์เซนต์ของราคา บ้าน T_T แต่ตังค์หมดแล้วค่ะ (ตอนแรกตั้งใจจะวางดาวน์ สัก 20 ค่ะ แต่ว่าค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเข้ามา ก็เลยไม่ได้ตาม เป้า) เรื่องการดาวน์การผ่อน คุณต้องคำนวณดูรายได้ของครอบ ครัวเองค่ะ อย่างดิฉันผ่อนรายเดือนน้อย ประมาณ 6 หมื่น นิด ๆ เพราะค่าจอดรถ 2 หมื่น + ค่าmanagement 2หมื่น 3 พัน(ทุกเดือน) ผ่อนมากกว่านี้ไม่ไหวค่ะ แล้วก็หนักตอนโบนัสค่ะ ทุกครึ่งปี 4 แสนเยน (ก็ปีละ 8 แสน) ทาบบริษัทจะช่วยคุณคำนวณเสร็จสรรพค่ะเรื่องนี้ไม่ต้อง ห่วงเลย มีแปลน A B C...รวมถึงการเลือกธนาคารที่จะกู้ ด้วยค่ะ คุณกับพ่อบ้านแค่ดูรายรับ-รายจ่ายแต่ละเดือน แล้วตัดสินใจค่ะ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 18 เม.ย. 50 08:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หุๆๆ คนข้างบนมาเร็วจัง ตอนนี้เจี๊ยบจังก็กำลังเลือกอยู่เหมือนกัน แต่ในใจส่วนลึกๆ อยากได้บ้าน แต่ก็คิดถึงอนาคต แบบที่พี่ฟัดจ์บอกเลย ว่าถ้าอยากขาย อาจจะลำบาก ถ้าทำเลไม่ดี ตอนนี้ก็สองจิตสองใจค่ะ เพระบ้าน กับแมนชั่นที่เล็งๆไว้ ราคาพอๆกันเลย แต่เป็นคนชอบปลูกต้นไม้นี่สิ มีลูกอีก2คน เสียงดังน่าดูเลย เฉพาะคนพี่เนี่ย กระโดดทั้งวัน อย่างกับมีสปริงที่เท้าแน่ อิ อิ.. ตกลงจะแนะนำ หรือจะบ่นส่วนตัวเนี่ย... คุณแม่บ้านตัวยุ่งค่ะ ยังไงก็ไม่ต้องรีบซื้อหรอกค่ะ ดูไปเรื่อยๆ หาที่ถูกใจเรา และเผื่อลูกด้วยก็ดีนะค่ะ ใกล้โรงเรียนหน่อย เด็กจะได้ไม่ลำบาก แต่ว่าจะซื้อแถวไหนค่ะเนี่ย.... จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 18 เม.ย. 50 08:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จริงค่ะ อย่างที่สาวเจี๊ยบว่า....คุณไม่ต้องผลีผลาม ค่อย  ๆเลือก คุณพ่อญปของดิฉันท่านบอกว่า บ้านที่เราซื้อในวันนี้อาจจะ ไม่ใช่บ้านที่เราต้องการจะอยู่จนแก่เฒ่า ท่านเคยซื้อแมน ชั่นไว้ 1 หลังที่โอซาก้าค่ะ แต่สุดท้ายท่านก็มาซื้ออีกหลัง ที่โยโกฮาม่า ซึ่งเป็นหลังที่ท่านคาดว่าจะอยู่ไปจนตาย.... หากคุณยังไม่ผลีผลามซื้อบ้านวันนี้ ในอีก 1-20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเก็บเงินได้ 1 ก้อน ซื้อเงินสดเลยก็ได้ ไม่มีดอก เบี้ยด้วย (คุณพ่อญปท่านก็ทำวิธีนี้ค่ะ เพราะหลังที่ 2 ซื้อ ตอนอายุ 70 แล้ว ธนาคารไม่ปล่อยกู้แล้วค่ะ) ค่อย ๆ เลือกนะคะ ไปดูหลาย ๆ ที่ ประสบการณ์ตรงนี้ดิฉัน แชร์ไม่ได้ เพราะว่าไปดูทีเดียว แล้วก็ซื้อเลย เพราะอยาก จะได้แมนชั่นที่อยู่ใกล้พ่อแม่ แล้วก็เป็นโครงการของ บริษัทเดียวกับที่ท่านซื้อ เราก็เลยซื้อค่ะ (แต่ไม่ผิดหวังค่ะ อยู่สบายค่ะ :) ) ปล. สาวเจี๊ยบ เลือกได้ยังจ๊ะ สนใจแถวบ้านพี่มั้ย แบบว่า แมนชั่นดาระเกะมาก ๆ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 18 เม.ย. 50 08:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณแม่บ้านตัวยุ่งถ้าไม่มีลูกเล็กๆเลือกแมนชั่นแบบคุณfudge-a-mania ดีกว่าสะดวกสะบายใกล้สถานนีรถไฟถ้าอยุ่ในตัวเมืองใหญ่ๆนะค่ะ แต่พี่ชายที่บ้านซื้อบ้านค่ะผ่อนเกือบหมดแล้วเหลืออีก10ปีผ่อนทั้งหมด28ปีแต่ว่าพี่ชายไม่วางเงินดาวน์หรืออะไรเลยผ่อนเดือนหนึง่ประมาณ1แสน3หมื่นเยนแต่สมัยก่อนบ้านแพงดอกเบี้ยแพงไม่เหมือนสมัยนี้ผ่อนน้อยดอกเบี้ยไม่ค่อยแพงแล้วจ่ายโบนัสปีละ3แสนเยน แต่บ้านจะมี2แบบถ้าราคาไม่ถึง30ล้านเยนในตัวเมืองลองถามบริษัทขายบ้านดูนะค่ะว่าที่ดินนี่เช่าหรือว่าซื้อขาดเพราะที่ยปจะมี2แบบที่ดินซื้อขาดกับที่ดินเช่าราคาจะแตกต่างกันมากถ้าต่างจังหวัดก็ราคาไม่แพงเพราะที่ดินต่างจังหวัดไม่แพงเท่าไหร่ แล้วบ้านจะมีเสียภาษีที่ดินและบ้านตกปีละประมาณ150000เยนขึ้นไปถึง4แสนเยนแล้วแต่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือต่งาจังหวัดแล้วก็แบ่งจ่ายได้ปีละกี่ครั้งหรือจะจ่ายทั้งหมด ส่วนบ้านจะมีข้อดีอย่งาตรงถ้ามีลุกเล็กๆไม่ต้องห่วงเรื่องห้องข้างเคียงเพราะอย่างไรเด็กๆก็ต้องเสียงดังอยุ่แล้วเจอคนไม่ค่อยชอบเด้กยิ่งไปใหญ่ จากคุณ : ฮารุกะ (ฮารุกะ) - [ 18 เม.ย. 50 08:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พี่ฟัดจ์ สาวเจี๊ยบยังเลือกไม่ได้เลย แต่ชอบแถวที่อยู่ตอนนี้มากกว่า ซามูไรหนุ่ม(ไม่น้อย) ก็ถาม ว่าโยโกฮาม่าดีป่ะ ก็ดีนะแต่เอาที่เคยอยู่แถวนี้ดีกว่า เพราะรู้จักแถวนี้มากกว่า อิ อิ คุณแม่บ้านตัวยุ่งค่ะ เจี๊ยบจังมีประสบการณ์ดูบ้านมา ไม่โชกโชนนะค่ะ แต่พอแนะนำได้บ้าง เพราะพ่อบ้านซื้อหนังสือเกี่ยวกับการซื้อบ้าน แมนชั่น ไม่ว่าจะบ้านใหม่ แมนชั่นเก่า พี่แกสอยมาทุกเล่มเลยค่ะ จนตอนนี้จะโดนหนังสือทับตายแล้ว คริๆๆๆ บ้านนะค่ะ บ้านใหม่ 1.คุณต้องตั้งสเปคคุณก่อนว่าคุณชอบทำเลไหน มีสิ่งอำนวยความสะดวกไหม โรงเรียนอนุบาล ประถม มีรถเมล์วิ่งผ่านหรือเปล่า 2.ตัวคุณสามี สะดวกไหมกับการเดินทางไปทำงาน ถ้าแถวบ้านไม่มีรถเมล์ทำยังไง ยกตัวอย่าง เพื่อนของพ่อบ้านนะค่ะ แถวบ้านไม่มีรถเมล์ พี่แกปั่นจักรยายไปจอดไว้ที่สถานี ฤดูหนาวยังไม่เท่าไหร่ หน้าร้อนนี้ไม่ต้องคิดเลยค่ะ ตัวเปียกเหมือนกับอาบน้ำมาอย่างนั้นแหล่ะ (ปั่นประมาณ20นาที) หรือว่าเดิน หรือว่าคุณจะขับรถไปส่งที่สถานี ถ้ายังไม่มีลูกคุณอาจทำได้ แต่ถ้ามีลูกเล็กๆๆไม่ต้องคิดเลยค่ะ 3.เนื้อที่ของบ้าน ต้องตั้งไว้ในใจก่อนว่าชอบบ้านเนื้อที่เท่าไหร่ ราคาประมาณไหน 4.คุณจะซื้อบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว หรือว่ายังดำเนินการสร้างอยู่ เคยดูทีวีที่ จะมีแบบว่าออกมาบอกว่าบ้านที่ซื้ออยู่ตอนนี้ ทรุดมั่งหล่ะ น้ำรั่วมั่งหล่ะ ที่ญี่ป่นเขามีบริษัท ตรวจเช็คบ้านก่อนที่เราจะซื้อค่ะ ยกตัวอย่างนะค่ะ เจี๊ยบเคยไปดูบ้านมาแห่งนึง ทั้งหมดมี3หลัง ขายไป2แล้ว เหลืออยู่หลังเดียว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขาย ตอนแรกเจียบก็ตัดสินใจกับพ่อบ้านว่า เอาหลังนี้แหล่ะ แต่พอไปปรึกษาบริษัทตรวจเช็คบ้าน เขาก็แนะนำมาว่า จริงๆๆที่ดินนะแค่20ล้านเยนเอง แต่ตัวบ้านแพงนะ (บ้านราคา4430ล้านค่ะ) ถนนหน้าบ้านก็ไม่ใช่ของรัฐบาล ของเอกชน ทุกๆๆ10ปีต้องเสียเงินค่าภาษีหถนนหน้าบ้านให้เจ้าของถนน ท่อน้ำทิ้งก็ไม่ใช่ของรัฐบาล ทุกเดือนต้องให้บริษัทเอกชนมาดูดไปทิ้งเดือนละ5หมื่นเยน แต่คุณสามารถเปลี่ยนท่อได้ 5แสนเยน ถ้าอยากจะซื้อก็จะเช็คบ้านให้ (เช็คตัวบ้านว่าแข็งแรงไหม ประมาณนี้ค่ะ ) ส่วนราคาค่าเช็คบ้านประมาณ5แสนเยนค่ะ คุณต้องจ่ายเอง แต่ชัวร์กว่าเพราะบ้าน ไม่ใช่ถูกๆๆ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 09:20:03 แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 09:17:03 จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 18 เม.ย. 50 09:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนไปขุดทอง.... สาวเจี๊ยบ....นี่ ๆ เชียร์มาแถบโยโกฮาม่าจ้า อยู่ใกล้ไชน่า ทาวน์ไง ของกินไม่แพง ดีป่ะ ๆ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 18 เม.ย. 50 09:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 งพี่ฟัดจ์ โยนทองมาทางนี้สักก้อน สองก้อน สิคริๆๆๆ ไปรับลูกก่อนเดี่ยวมาต่อค่ะ จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 18 เม.ย. 50 09:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณฟัดจ์ คุณเจี๊ยบจัง แล้วก็คุณฮารุกะ มาก ๆๆๆ เลยค่ะ ที่เข้ามาช่วยตอบความคิดเห็น อืม...ตอนนี้ดิฉันก็ชักจะสนใจแมนชั่นเหมือนที่คุณฟัดจ์บอกซะแล้วสิ...(ดูแล้วมันสะดวกสบายดีจังนะค่ะ) ....แต่มันติดอีกนิ๊ดดด ตรงที่ตอนนี้กะลังท้องได้เดือนกว่า ๆ อ่ะค่ะ.... แล้วอยู่แมนชั่นนี่ เสียงเด็กร้องนี่ห้องข้าง ๆ ได้ยินใช่ไหมค่ะ ...แล้วจะทำไงดีละเรา...จะห้ามเด็กร้องก็ไม่ได้อีก... ...ว่าแต่ว่า จะไปขุดทองที่ไหนกันคะ ขอไปด้วยคนสิคะ จากคุณ : แม่บ้านตัวยุ่ง - [ 18 เม.ย. 50 10:02:25 A:202.213.129.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอแจมด้วยคนนะคะ อันนี้กระทู้นี้สดๆ ร้อน ปุ้มพึ่งซื้อบ้าน ยังไม่ถึงปีเลย ที่เลือกบ้านเพราะสารมีบอก ต้องคุมรายจ่ายให้เท่ากับตอนเช่าอพาร์คะ เลยเลือกบ้าน เพราะไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถ ไม่ต้องจ่ายรายเดือนค่าบำรุงรักษาต่างๆ และบางที่มีเสียยิบย้อย คล้ายภาษีบ้าน แต่แมนชั่นดีตรงที่ความเป็นส่วนตัวสูงคะ ถ้าเลือกแมนชั่นที่ผนังเป็นซีเม้นไม่ต้องกลัวเรื่องเสียงคะ แล้วระบบรักษาความปลอดภัยเขาดีกว่าบ้าน เซลทั้งหลายไม่สามารถเข้าถึงเราได้ง่ายๆ ต่างจากบ้านคะ เดินดุ่มๆๆๆ เรียงแถวเข้าถึงหน้าบ้านเลย มีเพื่อนส่วนมากชอบซื้อแมนชั่น เพราะดูแลง่าย แล้วถ้าเลือกชั้นล่าง เราก็จะได้ สนามหญ้า ไว้สูดอากาศ (แต่เพื่อนบอกว่าวิ่งหนีง่าย) แล้วก็ไม่ต้องมารำคาญใจเรื่องประชุมหมู่บ้าน ซื้อบ้านแต่เกิดปัญหาอะไร ทั้งหมู่บ้านต้องช่วย กันลงความเห็น ถ้าไม่ผ่านปัญหานั้นก็ตกไป ปุ้มเลยได้บ้านมาแบบคาใจ แต่ก็ดีตรงที่รายจ่าย เราเท่าเดิมกับตอนอยู่อพาร์ ก็ดีกว่าเพื่อนที่อยู่ แมนชั่นตรงที่กว้างขวาง โล่งๆ ลูกวิ่งได้ หน้าร้อนเอาสระน้ำวางเล่นได้ บาร์บีคิวได้ ดาดฟ้าเราก็นอนดูดาวได้ เท่านี้สรุปแล้ว ต้องเลือกตามเม็ดเงินคะ ถ้าอายุสามีมากขึ้น เราก็จะยิ่งผ่อนมาก และดาร์วก็จะสูง ดีกว่าเช่าเขาคะ ลืมๆ เรื่องผ่อนไป ไม่นานก็เป็นของเราคะ หนูเจี๊ยบข้อมูลแน่น พี่ว่าชอบที่ช๊อปแถวนั้นมาก กว่ามั้งคะ เลยไม่อยากย้าย อิๆๆๆ ใจเย็นๆ นะคะถ้ามันจะเป็นของเรา มันก็รอเราคะ อ้อแล้วเวลาดูบ้านนะคะ พยายามดูซ้ำๆ คะแล้วจะรู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบ ...........จบแย้ว...... จากคุณ : แม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) - [ 18 เม.ย. 50 10:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เย้พี่ปุ้มมาแล้ว ตอนแรกว่าจะหลังไมค์ไป ว่าให้มาช่วยความกระจ่างหน่อย เพราะเพิ่งซื้อบ้าน... http://www.sakurajimusyo.com/ เวปนี้ เป็นเวปของบริษัทเช็คบ้านค่ะ ต่อคะ.. บ้านเก่า 1.อันนี้ต้องไปดูถึงที่ค่ะ ดูทุกซอก ทุกมุม ดูตั้งแต่ตัวเจ้าของบ้านเลยค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ ลูกร้องแล้ว.... จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 18 เม.ย. 50 11:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรามองต่างมุมว่า เราไม่ค่อยอยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ใดๆที่ญี่ปุ่นเล๊ย พ่อแม่สามีมีแมนชั่นอยู่ใกล้โกเบ เมื่อสิบปีที่แล้วมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แมนชั่นพังทะลาย ต้องรวบรวมเงินมาซื้อกันใหม่ โชคดีที่บริษัทฯพ่อเค้าให้เงินช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก หลักๆก็ต้องจ่ายกันเอง ดังนั้นพ่อแม่สามีเลยคอยห้ามเราเรื่องซื้อบ้านหรือแมนชั่น อย่างน้อยบ้านก็ยังเหลือที่ดินไว้ให้ หากเกิดภัยธรรมชาติ แต่แมนชั่นนั้นไม่เหลือ การจะให้สมาชิกแมนชั่นทุกคนมาลงขันสร้างหรือซ่อมแซมกันใหม่คงยาก และบริษัทก่อสร้างแมนชั่นนั้นเค้าจะซัพพอร์ตได้แค่ไหนกันเชียว แต่เรากับสามีก็ชอบไปดูแบบบ้าน แมนชั่นกัน ค่าผ่อนบ้านถ้าจะว่าไปแล้วพอๆกับค่าเช่าแมนชั่นเราตอนนี้เลย (ทุกวันนี้ค่าเช่าบ้านเดือนละ 150,000 เยน) ดังนั้นมักจะมีเซลล์คอยมาตามตื้อให้ซื้อบ้านอยู่เสมอๆ  เรายังสองจิตสองใจ เพราะราคาบ้านหรือแมนชั่นดีๆมันแพงเว่อร์ แถมต้องเป็นหนี้เค้าไปอีก 30 ปี คือสามีต้องทำงานใช้หนี้จนเกณียณนั่นเอง  นึกแล้วเค้าคงต้องเครียดน่าดู  แต่ชีวิตคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่เราเห็นๆกันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น แต่ดิฉันกับสามีไม่ชอบเป็นหนี้ใคร เท่านั้นเองค่ะ แล้วถ้าสามีเกิดต้องเปลี่ยนงาน เราก็ย้ายที่อยู่ตามไม่ได้อีก มีคนรู้จักที่ซื้อบ้านหรือแมนชั่นแล้ว สามีใช้เวลาเดินทางไปทำงาน ไปกลับวันละ 4 ชั่วโมง เหนื่อยแย่ใช่มั้ยคะ  ถ้าเป็นบ้านเช่า จะย้ายเมื่อไหร่ก็ได้ แถมย้ายไปอยู่ที่ใหม่กว่าก็ยังได้ อีกอย่าง ลองคิดดูนะคะ ว่าผ่อนเสร็จแล้ว บ้านหรือแมนชั่นอายุ 30 ปีคงจะอยู่ไม่สบายเหมือนเก่าแล้ว   ลูกๆเราก็อาจมีงานมีการทำซึ่งอาจไม่สะดวกที่จะอยู่บ้านพ่อแม่อีกต่อไป   หากจะยกเป็นมรดกให้ลูก ภาษีก็แพงหูฉี่ และอาจจะขายต่อไม่ค่อยได้ราคาด้วยเพราะเก่าแล้ว ดิฉันคิดอยากไปใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เชียงใหม่บ้านเกิดค่ะ หากจะซื้อบ้านหรือที่ดิน ดิฉันเลือกไปซื้อที่เมืองไทย เพราะถูกกว่า และจะได้อยู่ใกล้ชิดญาติพี่น้อง ได้คอยดูแลกันยามแก่ชรา  สำหรับการซื้อบ้านหรือแมนชั่นที่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ปิดประตูตายซะทีเดียว อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน เราอาจจะตัดสินใจซื้อก็ได้ ถ้าจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ญี่ปุ่น คงต้องดูว่าไลฟ์สไตล์ตอนนั้นเราเป็นอย่างไร ถ้ายังมีลูกกระจองอแงอยู่ ก็คงหาซื้อบ้านเก่าๆ ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ตามแบบที่เราต้องการ  ถ้าลูกเต้าโตกันหมดแล้ว ก็คงซื้อแมนชั่นอยู่ในเมือง ที่ทำเลสะดวกๆ  และแน่นอนกระท่อมหลังเกษียณที่เมืองไทยค่ะ จากคุณ : เจด้า@เจแปน - [ 18 เม.ย. 50 11:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากซื้อบ้านด้วยจังเลยคะ แต่พ่อปู่ แม่ย่า คงไม่อนุญาตคะ เพราะที่ทำงานคุณสามี อยู่ใกล้บ้านมาก ขับรถ ห้านาทีถึงคะ จากคุณ : Kana Jan (Kana Jan) - [ 18 เม.ย. 50 12:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาอ่านอีกรอบคะ คิดเหมือนกับคุณเจด้า@เจแปนด้วยคะ คิดว่าเกษียณ คงจะกลับไปอยู่บ้านที่เมืองไทยคะ แต่คนเราก็มีไลฟ์สไตล์ ไม่เหมือนกันนะคะ แต่ติ๊ก คงไม่ได้มีบ้านของตัวเองแน่ ๆ คะ พ่อปู่แม่ย่าบอก ยังงัย ๆ บ้านหลังนี้ ก็ต้องเป็นของพวกเธออยู่แล้ว จะซื้อบ้านหลังใหม่ทำไม เก็บเงินเอาไว้ให้ลูกเรียนเถอะ.... (แต่เราก็อยากมีบ้านของตัวเองเนาะ) ก็เลย เก็บเงินอย่างเดียวคะ.....เอาไว้ให้ลูก กับเผื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ที่ขอนแก่นคะ (ที่ไหนจะสุขใจเท่าบ้านเราเนาะ) จากคุณ : Kana Jan - [ 18 เม.ย. 50 13:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืม เจี๊ยบก็เห็นด้วยกับคุณเจด้านะค่ะ อนาคตก็จะหอบเงินไปซื้อที่เมืองไทยปลูกบ้านอยู่ แต่วันก่อนโน้นดูทีวี เห็นมีรายการเกียวกับLong Stay ที่เมืองไทยด้วย บ้านที่เชียงใหม่ก็ไม่ถูกเลยน่ะค่ะ เหยียบๆ20ล้านบาท โอ้แม่เจ้า... แต่มองกลับกันนะค่ะ  ถ้าเราเช่าเขาทุกๆเดือนนะ สมมติ สามีทำงานที่เดิม อีก30ปีข้างหน้า ไม่ได้ย้ายไปไหน  ถ้าเราซื้อบ้าน/ห้อง อนาคตก็เป็นของเราค่ะ (เหมือนกับเราเก็บเงินค่ะ แต่ได้ห้องมาแทน) แต่ถ้าเช่า เหมือนกับเราเสียไปเปล่าๆๆ ไม่ได้ตอบแทนมาค่ะ แหม่ตรงนี้มันพูดยากซะด้วยสิ ต่อค่ะ บ้านเก่า..ดูเจ้าของด้วยค่ะ ถ้าเจ้าของดูรวมๆแล้วเป็นคนรักสะอาด บ้านก็คงไม่น่าห่วงค่ะ เพราะเขาคงดูแลบ้านเป็นอย่างดี รอบๆๆบ้าน  แล้วก็สอบถามจากเจ้าหน้าที่ตัวแทนขายบ้านด้วยค่ะ ว่าเหตุผลอะไรที่เจ้าของเก่าถึงอยากขาย เพราะบางทีเจ้าของเก่า กับข้างบ้านไม่ถูกกัน อาจจะมีปัญหาตามมาก็ได้ค่ะ แมนชั่น อืม ตอนนี้มีข้อมูลน้อยค่ะ แต่อย่างที่ พี่ฟัดจ์ แนะนำก็โอเคค่ะ แต่ของพี่ฟัดจ์จะเป็นแบบใหม่ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าของใหม่ อะไรๆๆก็ดีค่ะ แต่ถ้าเป็นแมนชั่นมือสอง อย่างน้อย ไม่ควรเก่า25-30ปีค่ะ เพราะแมนชั่นเก่า ยังไม่มีระบบปเองกันแผนดินไหว เหมือนแมนชั่นใหม่ค่ะ แล้วก็คอนกรีตอาจจะบางกว่าของใหม่ ทำให้เสียดังกระทบข้างห้องได้ อืม อ่านมาว่าตอนนี้ท้องอยู่ใช่ไหมค่ะ ยังไม่ต้องรีบค่ะ ยังมีเวลา อีกนิด ตอนนี้เจียบ2จิต2ใจค่ะ ชั่งน้ำหนัก นึกตามนะค่ะ บ้านนะ ถ้ามีลูก ช่วงที่ลูกเดินได้ ต้องระวังค่ะ เพราะบ้านมีบันได อาจจะเผลอแอบขึ้นบันได  ส่วนแมนชั่น เราสามารถดูแลลูกได้ทั่วถึงค่ะ   ตอนนี้คิดได้เท่านี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 13:19:06 จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 18 เม.ย. 50 13:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 """"ตอนนี้เริ่มสับสนละคะ....มันคงต้องใช้เวลาคิดเยอะๆๆๆๆ ...แต่ยังไงก็ขอขอบคุณคุณแม่บ้านทุก ๆ คนด้วยนะคะ ได้ความรู้จากทุกท่านเยอะเลยคะ ยังไงถ้าว่าง ๆ กันอีกก็เข้ามาให้คำแนะนำอีกได้นะคะ จากคุณ : แม่บ้านตัวยุ่ง - [ 18 เม.ย. 50 14:10:24 A:202.213.129.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 สาวเจด้า แสดงว่าคุณพ่อของพี่สับปะรดไม่ได้ทำประกันภัยธรรมชาติใช่ป่ะจ๊ะ เพราะในทันทีที่ซื้อบ้าน มันจะมี ประกันให้ทำเยอะ พวกประกันแผ่นดินไหว ประกันอัคคีภัย --------------------------------------------------- แมนชั่นเดี๋ยวนี้ (บ้านก็ด้วย) บริษัทจะออกแบบมาป้องกันแผ่นดินไหว ยกตัวอย่างแมนชั่นที่อยู่นี่ ถือว่าจุดนี้เป็นจุด ขายอย่างนึงเลย ตอนไปตรวจดูความเรียบร้อยก่อนเซ็นจ่ายดาวน์ก้อนใหญ่ ทางคอนโด(ขอเรียกเป็นคอนโดดีกว่า เพราะแมนชั่นสูง 32 ชั้นค่ะ) จะจำลองระบบป้องกันแผ่นดินไหววางตั้งไว้ รู้สึกฐานข้างล่างจะใช้เป็นสปริง(ไม่แน่ใจ เพราะตอนคุณKumagai Gumiอธิบาย มัวแต่บ้าถ่ายรูป...เลยไม่ได้ฟัง >*<) เพื่อนฝรั่งคนหนึ่ง บอกว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ญป แพงกว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะบ้านใหม่ (คนญปจะบ้า ซื้ออะไรใหม่ ๆ ) พอซื้อแล้วบ้านก็จะdepriciateทันที (เป็นเรื่องปกติ) เพื่อนคนนี้มีความคิดว่า หากจะซื้อแมนชั่น ที่ญป จะซื้อแมนชั่นมือสอง แล้วมาreformเอง... ก็แล้วแต่คนชอบ คุณพ่อญปบอกว่า ให้สังเกตดูเองว่าบ้านที่เราซื้อคุ้มทุนหรือไม่ คือ 5 ปีหลังจากที่เราซื้อ หากมูลค่าของบ้านดรอป ลงไม่เกิน 20 เปอร์เซนต์ ถือว่าเราซื้อบ้านได้ดี -------------------------------------------------------- ขอบอกก่อนเลยว่าดิฉันไม่ได้ร่ำรวย มีเงินเหลือกินเหลือใช้ แต่เวลาเลือกซื้อบ้านขอเลือกโครงการที่มีคุณภาพ+ ทำเลดี+ บริษัทก่อสร้างดี คอนโดดิฉันออกแบบ+สร้างโดย Kumagai Gumi Co. เป็นโครงการของ Mitsui Fudosan Co. โดยมีบริษัทร่วมสร้างคือ Nippon Oil Real Estate Corporation Sotetsu Railways Kumagai Gumi Co. เหตุผล.... 1. อยู่สบาย เรื่องนี้สำคัญ เพราะบริษัทสร้างบ้านบางบริษัทไม่รับผิดชอบกับของที่ตัวเองสร้างมา ไอ้นู่น เสีย ไอ้นั่นเสีย เจ้าของบ้านต้องปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิม คิดดูว่าจ่ายเงินก้อนโตแล้ว ยังต้องมานั่งซ่อมบ้านเองอีก (คอนโดดิฉัน หลังจาก 1 ปีที่เข้าอยู่ หากจุดไหนพัง หรือทรุดโทรม ทางบริษัทสร้างจะมาทำการซ่อมให้ฟรี เพราะ ถือว่าอยู่ในประกัน เมื่อเสาร์ที่แล้ว ก็มาทำวอลเปเปอร์ให้ใหม่ในห้องpowder room และปรับประตูตู้เก็บรองเท้าให้ ใหม่ / ส่วนใดในcommon areaชำรุด ทางผู้ดูแลคอนโดก็จะรีบซ่อมแซมให้ / มีคนทำความสะอาดดูดฝุ่นตรงทาง เดินข้างหน้าห้องให้ทุกเช้า ฯลฯ) 2. เมื่อเป็นโครงการดี + ทำเลดี ย่อมมีคนต้องการ (ในอนาคตหากครอบครัวอยากย้ายกลับไปอยู่ไทยหลัง เกษียณ อย่างน้อยการจะขายคอนโดย่อมเป็นไปได้ง่าย หรือหากจะอยากให้คนเช่า ก็ย่อมเป็นไปได้ง่ายเช่นกัน * คอนโดของพ่อ เดินไกลจากสถานี 4-5 นาที โครงการเดียวกัน พื้นที่ประมาณ 120 ตร.ม. บ.เอเยนซี่เคยส่งใบ ปลิวหากมีผู้ใดสนใจอยากจะให้คนเช่า....เดือนละ 40 มังค่ะ) ---------------------------------------------------------- แต่แน่นอน หากครอบครัวเรายังไม่มีบ้านที่ไทย ก็คงไม่กล้าซื้อบ้านที่ญปค่ะ ดิฉันยุให้ผบทบ.ซื้อคอนโดที่ญปนี้ เพราะเมื่อ 5 ปีก่อน ดิฉันซื้อบ้านที่ไทยไปแล้วด้วยเงินสด ทำให้ไม่ต้องมีหนี้ 2 ที่ (เป็นบ้านดิฉันเองค่ะ เงินของดิฉันที่ ได้จากการทำงานเป็นแอร์ 5 ปี+เงินที่ได้จากการทำงานที่ฮ่องกงอีกนิดหน่อย) คอนโดที่ญป ดิฉันก็ช่วยออก 4 ล้านเยนค่ะ ตอนนี้ก็ตั้งต้นเก็บเงินใหม่...ถามว่าเสียดายเงินไหม เสียดายค่ะ แต่ก็คิด ว่ามันก็เป็นสินทรัพย์ของเราไปจนตาย ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ะ เงื่อนไข + ความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างดิฉันเลือกคอนโดดิฉันก็ว่าดีแล้ว ในขณะที่คนอื่นอาจจะ มองว่าไม่ดี เพราะว่าไม่ได้ที่ดิน หากคอนโดพังลงมาเราก็ไม่เหลืออะไร จริงค่ะ....แต่แลกกับความสะดวกสบายทุก วัน สำหรับดิฉัน มันคุ้มมาก ในอีก 30 ปีข้างหน้า - ดิฉันอาจจะขายคอนโดห้องนี้ ไปซื้อบ้านริมทะเลเล็ก ๆ หลังนึง(ในญป)อยู่ 2 คนตายายก็อาจจะเป็นได้ - หรืออาจจะย้ายกลับไปอยู่ไทย แล้วเอาคอนโดให้คนเช่า เอาเงินนี้มาเป็นค่าใช้จ่าย+ค่าอาหารแต่ละเดือนที่เมือง ไทยก็ได้ - หรืออาจจะให้ลูก/หลานอยู่ หากพวกเขาเลือกที่จะมาทำมาหากินในญป ก็ได้ ดิฉันคิดอยู่เสมอว่า หากเราเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตในวันนี้ ในอนาคตชีวิตเราก็จะดี (แต่ต้องไม่ทำอะไรเกินกำลัง ของตัวค่ะ) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 50 09:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฮ่าๆ นู๋เจี๊ยบนะข้อมูลมากกว่าพี่อีก เสือสุ้ม ส่วนมากคุณแม่บ้านก็คิดคล้ายๆ กันนะคะ ตรงที่ว่าบั้นปลายชีวิตเรายังไงก็ขอกลับไปอยู่บ้านเรา เนาะปุ้มกลับสาวติ๊กเราจูงมือกันกลับขอนแก่เด้อ ........นอกเรื่องเยอะแล้ว ก็ที่ซื้อบ้านก็คล้ายเจี๊ยบนั้นหละลืมๆๆ ไปมันก็เป็นของเรา ของลูกเรานะคะ มีลูกคนเดียวก็เลยอยากทำให้เขา สุดๆๆๆ เรื่องเงินมรดก ปุ้มไม่เคยรู้เลยคะ แต่พอสามี 55 ออกก่อนคงจะมีเงินเหลือไว้ให้ลูกบาง ที่เหลือก็คงพอไปปลูกบ้านหลังเล็กอยู่ สองตายายได้ แม่ปุ้มก็เคยเตือนว่าญี่ปุ่นภัยธรรมชาติเยอะ อย่าซื้อเลยบ้าน แต่ก็สงสารหลานไม่มีที่วิ่ง ไอ้ครั้นจะเช่าแมนชั่น อาร์พใหญ่เงินจะผ่อน เราไม่มี สรุปเลยลงที่บ้าน เพราะซื้อแล้วจบ ผ่อนแต่บ้านอย่างเดียว ปีหนึ่งจ่ายภาษีที่ดินเท่านั้น เราก็เลือกบ้านที่มันสมตัวคะ ผ่อนเท่ากับอพาร์ต เกิดอะไรเราก็ยังเหลือที่ดิน ขายหนีกลับบ้านเราได้ พูดง่ายๆ นะคะ แต่ปุ้มเห็นส่วนมากบางคนที่เขาเลือก ซื้อบ้านเก่าก็มีเพราะ ว่าเขาชอบทำเล บางคนเลือก ว่าใก้ลที่ทำงาน ใก้ลโรงเรียน หรือชอบทะเล แล้วถ้าเราย้ายบ้านบ่อยนิ เข็ดแล้วคะ ค่าย้ายก็แพง ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้าเยอะ ไม่เหมือนบ้านเราใส่ปิกอัพ ขนกันก็เสร็จ (เมืองไทยดีที่สุด) ค่าประกัน ค่าที่จอด รถล่วงหน้า สามีปุ้มย้ายงาน ย้ายบ้านสองครั้ง เงินหายแว๊ป ใจแทบสลาย เลยปักเสาเข็มสะ .......ปุ้มเห็นด้วยและยกมือสนับสนุนคะว่า ต้องไม่ทำอะไรเกินกำลังของตัวเอง พอใจเท่าที่เราทำได้....... จากคุณ : แม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) - [ 19 เม.ย. 50 12:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงสาวฟัดจ์   แมนชั่นเก่าของพ่อคุณสับปะรดเค้าทำประกันไว้รึเปล่าไม่รู้สิ แต่เค้าซื้อกันตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว พอพังแล้วต้องจ่ายเงินซื้อใหม่อีก ของใหม่ก็แพงมากๆเพราะสร้างแบบป้องกันแผ่นดินไหวนั่นแหละ เค้าถึงได้ช้ำใจไงล่ะ แผ่นดินไหวที่โกเบนั้น รุนแรงสิบกว่าริกเตอร์เห็นจะได้ โทลเวย์ยังหักครึ่งท่อนเลย คนตายเยอะมาก โชคดีที่ตอนนั้นครอบครัวคุณสับปะรดแกอยู่โตเกียว  ตึกที่สร้างใหม่สมัยนี้เค้ายังทำให้รับแรงสั่นสะเทือนซัก 7-8 ริกเตอร์เองใช่ปะ เราน่ะ บางทีก็ไปโมเดลรูม ดูเล่นๆ กลับมาก็มานอนฝันเฟื่อง อืม  อยากได้ห้องแบบนี้มั่ง ช่วงพีค อยากซื้อ อยากได้มันก็มีนะ  แต่เรื่องซื้อบ้านที่นี่ เราปล่อยให้สามีตัดสินใจเองว่าถึงตอนที่พี่แกพร้อมแล้วค่อยซื้อก็ได้ ไม่รีบไม่ร้อน เพราะแกต้องจ่ายของแกเอง แฮ่ๆ เงินบาทเราซื้อพันธบัตรระยะยาวเก็บไว้กินดอกที่เมืองไทยจ้ะ   ทำงานกับบริษัทฯต่างชาตินั้น จะโดนไล่ออกวันไหนก็ไม่รู้นะ ความเสี่ยงสูง แต่ความจริงบริษัทญี่ปุ่นก็ใช่เล่น จะบีบให้ออกแบบอ้อมๆ เช่น ให้ย้ายไปทำงานที่ไกลๆบ้าน หรือต่างเมืองไปเลย ถ้ายังมีภาระหนี้อยู่และไม่มีที่ไปก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำกันต่อไปจนผ่อนหมด  ตอนนี้ที่เราทำได้ก็คือเก็บเงินให้ได้ก้อนใหญ่ๆ จะได้ดาวน์เยอะๆ ผ่อนสั้นๆ นี่ๆคุณสับปะรดกำลังจะย้ายไปเป็นคุณชีสแล้วนะ ยังไงช่วยอุดหนุน คราฟท์ชีส ฟิลลาเดลเฟียชีส ด้วยนะจ้ะ  ช่วงนี้เลยเห็นพี่แกเปิดเน็ทดูแบบบ้านกับรถบ่อยมากๆ ท่าทางเตรียมทำการบ้านอย่างหนัก สงสัยอยากซื้ออยู่เหมือนกันแหละ จากคุณ : เจด้า@เจแปน - [ 19 เม.ย. 50 12:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เสริมนิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องย้ายบ้าน พวกบริษัทขนย้าย นี้ราคาไม่เท่ากันนะคะ แล้วแต่เดือนด้วยช่วงเดือนไหน ถูกแพง ประสบการณ์ปุ้มมีเท่านี้ คงพอช่วยคุณแม่บ้านตัวยุ่งได้บางนะคะ .....ไม่เคยตอบกระทู้ไหนยาวขนาดนี้เลยคะ...... จากคุณ : แม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) - [ 19 เม.ย. 50 12:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สาวเจด้า...พี่ ๆ อุดหนุนสินค้าพี่ชีสบ่อย ๆ เลยขอบอก แต่ ก่อนทำชีสเค้กบ่อยมาก บริษัทต่างชาติ ถึงจะมีความเสี่ยงในการให้ออกแบบไม่รู้ หมู่รู้จ่า แต่เงินเดือนก็คุ้มนะ (บริษัทญปตึ๋งหนึดเงินเดือนจะ ตาย ขอบอก) ยังไง้ ยังไง อิชั้นก็ไม่ยอมให้ผบทบ.เป็นคุณ ชายหน้าหน้าต่าง (เห็นเค้าว่าหากคนไหนหมดความสำคัญ บ.ก็จะย้ายให้ไปนั่งหน้าหน้าต่าง...แบบตำแหน่งลอย ๆ วัน ๆ นั่งนับใบไม้ร่วงมั้ง) รู้ป่ะสาวเจด้า...ตอนอิชั้นซื้อบ้านนะ ก็คิดหนักว่ะ คิดหนัก มาก ๆ เพราะผบทบ.เนี่ย ไม่ชอบการมีหนี้ พี่แกรักอิสระ ทำอะไรตามใจตัว วัน ๆ ขอมีข้าวกิน เล่นกีต้าร์ นอนพุงอืด อ่านนิตยสารเกี่ยวกับดนตรี/กีต้าร์ คือultimate goal ของ ชีวิตพี่แกเลย เป็นคนไม่ทะเยอทะยาน เรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไป วัน ๆ แล้วตอนนั้นบริษัทก็ช่วยค่าเช่าบ้านเดือนละ 8 หมื่นกว่าเยน (รวมเช่าบ้าน+ที่จอดรถก็จ่ายอยู่เดือนละ 160,000 เยน) มี สิทธิ์ที่จะผลาญเงินบริษัทเดือนละ 8 มังกว่า ๆ ไป 10 ปี ด้วย ขอบอก...แต่บ้านที่อยู่มันไกลสถานี เดิน 12-15 นาที แล้วอิชั้นต้องออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน รู้สึก รันทดมาก ๆ T_T แล้วกลับเข้าบ้านที 5 ทุ่ม (ยังกะซาลารี่ มัง) เลยเอาวะ....ซื้อบ้านดีกว่า ก็ยอมทิ้งสิทธิพิเศษที่ได้ รับจากบริษัทไป พร้อมกันนั้น ก็เอาเงินส่วนต่างที่เราจ่ายค่าเช่าบ้านเอง (7 หมื่นกว่าเยน) บวกเงินอีกหน่อย ก็ผ่อนบ้านรายเดือน...ก็ ต้องประหยัดขึ้น คือ กินอยู่เหมือนเดิม ไม่ถึงขนาดอดมื้อ กินมื้อ (เดี๋ยวจะหาว่าชีวิตเลียนแบบดารา -เหมือนโอชิน) แต่ว่าไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยแบบเพชรนิลจินดา (แต่ก่อนซื้อ บ่อยมั่ก ๆ) ไม่ไปเที่ยวตปท.บ่อย ๆ แล้วก็ทานข้าวที่ีบ้าน บ่อยขึ้น (ทำกินเองถูกกว่ากินนอกบ้านตรึม) แล้วก็เก็บ ตังค์ให้น้อยลง (แต่ก่อนบ้าสุด ๆ อิชั้นตั้งเป้าเก็บตังค์ของ ตัวเองปีละ 3 ล้านเยน แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว...รู้สึกชีวิต อยากได้อะไรมากไปกว่าเศษกระดาษพวกนั้น T_T) ตอนนี้อยากได้ลูก ก็พยายามทำงานให้น้อยลง เอาไวลา ไปเที่ยวเล่นบ้าง ก็รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาหน่อย จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 50 14:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาเก็บข้อมูล ค่า บ้าน ก็ดี แบบหลายๆๆท่านว่าไว้ แต่ข้อเสียมันก็มี และที่สำคัญที่สุด เป็นคนไม่ชอบทำความสะอาด....แค่อาพาร์เม้น ก็จะแย่อยู่แล้ว ค่าทำความสะอาด ถ้าเป็นบ้าน คงเยอะแน่ๆๆๆ ไหนถ้าเก่าหน่อย ก็ซ่อมนู้ซ่อมนี่ และ อีกอย่าง คือกลัว ขโมย ถ้าอยู่แมนชั่น ยังไงก็มีเพื่อนข้างห้อง ยังไม่ค่อยน่ากลัวเหมือน อยู่บ้านใครบ้านมัน ซึ่งบ้านส่วนใหญ่เนื้อที่จะกว้าง แมนชั่นก็ดี ที่เราเล็งๆๆไว้ หมดไวมากๆๆ เพราะต้องการ ชั้นบนสุด ของตึก และตรงระเบียง ต้องกว้าง พอที่จะปลูกต้นไม้ ย่างเนื้อจัดงานปาร์ตี้เล็กๆๆได้ แต่ บริษัท ในดวงใจ ยังไม่ยอมมาสร้าง ตรง เขตที่เราอยากได้เลย5555 ข้อมูล คุณ fudge แน่นๆๆจริงๆๆ เดี๋ยวลอง เช็ค ก่อนว่าบริษัท ที่ว่ามีมาสร้าง แถว ที่กุ้งอยากได้บ้างป่าววว ขอบคุณข้อมูลดีๆๆที่หลายๆๆท่านชี้แนะมาณ ที่นี้ด้วยนะคะ แต่ก่อนบ้าสุด ๆ อิชั้นตั้งเป้าเก็บตังค์ของ ตัวเองปีละ 3 ล้านเยน แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว...รู้สึกชีวิต อยากได้อะไรมากไปกว่าเศษกระดาษพวกนั้น T_T) ตอนนี้อยากได้ลูก ก็พยายามทำงานให้น้อยลง เอาไวลา ไปเที่ยวเล่นบ้าง ก็รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาหน่อย เอาใจช่วยค่า คุณ fudge ขอให้มีลูก ชายหรือ ลูกสาว น่ารักกก ในเร็ววันนะคะ กุ้งก็ให้คำแนะนำเรื่องนี้ไม่ได้อีก เพราะ แต่งมา 5 ปี ก็ยังไม่มีกับเขาเลย....2-3 ปีแรก ดันไปนับวันไข่ตก ผิดซะนี่ ที่รู้ เพราะว่า แฟนสงสัยว่าพยามเท่าไหร่ยังไม่มีสักที เขาเลยซื้อหนังสือมาอ่าน แค่นั้นแหละ ฮาเลย....หมดกัน พี่ๆๆ ที่มีลูกยากเขาก็แนะนำให้กิน น้ำมันปลาฉลาม อยู่เหมือนกันค่ะ หรือ อีกทีคุณ fudge ลองซื้อที่ตรวจเช็ค วันไข่ตก ของผู้หญิงมาเทส ก่อนก็ได้ค่ะ พยามพักผ่อนเยอะๆๆนะคะ จะได้มีน้องไวๆๆค่ะ จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 50 19:27:47 A:202.248.88.186 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณกุ้งคะ ขั้นที่ตอนที่คุณกุ้งแนะนำ ลองแล้วค่ะ ปรึกษา หมอมา 2 ปีกว่าแล้วค่ะ หมอก็ให้ลองเอง ๆ ตอนนี้ไปฉีด เชื้อมา 2 ครั้งแล้วค่ะ หมอก็ไม่พบความผิดปกติทั้งฟัดจ์และผบทบ. หมอก็บอก ไม่ได้ว่าทำไมไม่มี จากคุณ : fudge-a-mania - [ 20 เม.ย. 50 07:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ๊ะ....คุณ fudge เคยไปทำที่นี่มาหรือยังคะ? http://www.smcfertility.com/SMC_tha/mnu_profile.html เดี๋ยวกุ้ง รอถามเจ๊เจ้ ที่ไทยให้อีกทีนะคะ ลืมชื่อคุณ หมอ ที่เป็น เพื่อน แฟนเจ้เขาหน่ะค่า เป็นคุณ หมอ ที่เรียนมาทางนี้โดยตรงเลย ส่วน กุ้งยังไม่เคยไปปรึกษา ค่า เมื่อปีที่แล้ว ต้นปี มีไปเจาะซีดมา คุณ หมอ บอก ท่อรังไข่ ปกติ และฉีดยาล้างทำความสะอาดให้เสร็จเรียบร้อยเลย ส่วน แฟนกุ้งก็ปกติดี ก็พยามซื้อที่ตรวจการตั้งไข่มาเทส แต่ก็เหมือนเดิม ถ้าอายุ เยอะแล้ว กุ้งว่า ทำเด็กหลอดแก้วก็ดีค่ะ คนที่กุ้งรู้จัก ได้ลูกแฝด เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา บอกให้กุ้งไปทำบ้าง แต่ค่าใช้จ่าย เยอะเหมือนกัน และคุณ หมอ ไม่รับประกัน การทำแต่ละครั้งด้วย เลยคิดหนักเลย ส่วนพี่สาว อีกคนก็ไป ทำแบบเลือกเพศ มาค่ะ ขานั้นก็สมใจค่ะ ได้ลูกสาว สมใจเลย ****กระทู้ กลายนิดนะคะ คุณ แม่บ้านตัวยุ่ง จากคุณ : maguro - [ 20 เม.ย. 50 12:54:47 A:202.248.88.189 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่สะใภ้ผบทบ.ไปทำเด็กหลอดแก้วมาค่ะ ค่าใช้จ่ายเยอะ ก็ โชคดีที่ทำ 2 ครั้งติดเลย แต่.....ตอนดูดไข่ออกไปผสม ข้างนอกเจ็บมากค่ะ เจ็บทุกวัน นับตั้งแต่วันดูด.... เวลาเดินก็ต้องเอามือกุมท้องน้อย แทบจะขยับตัวไม่ได้ เลยค่ะ ไม่งั้นตัวอ่อนที่ใส่จะหลุด.... ก่อนจะดูด ก็ต้องไปฉีดยาเร่งไข่ ต้องฉีดทุกวันติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้นไม่ได้เลย (อันนี้คิดหนักค่ะ เพราะรู้สึกว่ามัน ยุ่งยากมาก ๆ) อ่านตำรามาเยอะมาก ๆ ค่ะ เยอะจนปวดหัว...อ่านตำรา มากไปก็ไม่ดีค่ะ จะทำให้เครียด คิดไปต่าง ๆ นา ๆ ตอนนี้ทำอยู่กับหมอญปค่ะ ไม่ได้กลับไปทำที่ไทยค่ะ (ขอโทษนะคะคุณจขกท. กลายเป็นคุยเรื่องทำลูกเสียนี่) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 20 เม.ย. 50 15:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กุ้ง ก็เดาๆๆ เอาหน่ะค่า คุณ fudge เพราะ การทำแต่ละอย่าง เท่าที่พอทราบ คุณ หมอ จะดูความพร้อม ของร่างกายคุณ แม่เป็นหลัก แต่ถ้ามันเป็นการเจ็บ แบบมีความสุข ก็คงต้องยอมเจ็บ แล้วหล่ะค่า พี่ที่เป็นคุณหมอ คลอดลูกน้องคนที่สอง บ่นอุบ บอก คลอดท้องนี้เจ็บมากๆๆ มีปัญหาตอนคลอดนิดหน่อย ที่ไม่เป็นไปตามแผน ขนาดเจ้ แก อยู่บนเตียงคนไข้ ยังบ่นผ่าเอ็มมาเลย5555 แกบอก นั่งพิมพ์ไป น้ำตาไหลไป5555 กุ้งนะ โครต กลัวเลย เรื่อง ออกลูกเนี่ย แต่พอ ได้ไป ทำการผ่านตัดคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไหนได้ พี่ๆๆ ที่เคยคลอดน้อง บอก ที่กุ้งไปผ่าตัดนั้นเคลสใหญ่กว่า อ้าวว.... สรุป การคลอดลูกนั้นง่าย กว่าอีกหรอเนี่ย ถ้าไม่เจอ ปัญหา ระหว่างการคลอด ก็แค่แป๊บเดียวเอง และเจ็บนิดเดียวเอง ถ้ามันเป็นการเจ็บ แบบมีความสุข มันก็เป็นการเจ็บ ที่คุ้มค่า นะคะ เห็นคุณ fudge บอกทำงานๆๆๆ ถ้ามีน้อง กับเขาสักคน คงไม่ค่อยเจอคุณ fudge ใน ห้องนี้แน่ๆๆ เพราะเลี้ยงเด็ก คนนึงมัน ยุ่งยากกว่า ทำเด็กหลอดแก้วเป็นไหนๆๆ มีน้องก็ดีค่ะ ถ้าอายุเยอะๆๆจะได้ไม่เหงา แฟนกุ้ง เขาก็อยากจะมีใจจะขาดรอนๆๆๆ แต่พอบอกเรื่อง ค่าใช้จ่าย ต้องมานั่งคิดอีกรอบ ว่า จะไปทำดีหรือเปล่า และพี่ที่เป็น คุณ หมอ บอกว่า อยากให้ลองพยามทำ ดูก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆๆ และอายุมากขึ้นค่อยไปทำ เพราะการทำแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินจำนวนมาก แม่แฟนกุ้ง เขาอยากอุ้มหลาน แต่กุ้ง มีให้ไม่ทัน แม่แฟนเสีย มาหลายปีแล้วค่า ยังนึกเสียใจ อยู่เลย เมื่อวานกุ้งมัว แต่ไปข้างนอก เลยยังไม่ทราบชื่อคุณ หมอ ที่บอกมาเลยค่า เมื่อกี้ส่งแมว ไปถามเจ้ เขาแล้วค่า เดี๋ยวได้เรื่อง อย่างไง กุ้งมาตอบในทู้นี้นะคะ ถ้าคุณ fudge ทำกุ้งว่า ลางานไปพักผ่อนและทำที่ไทยก็ดีค่ะ ถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว และอีกอย่าง สภาพอากาศ อาหาร รวมถึง สภาพจิตใจ ได้อยู่ใกล้ญาติๆๆเพื่อนๆๆ มีความสุขมากขึ้น สบายใจ มากขึ้น บางครั้งมันมีส่วน กระตุ้น เรื่องนี้เหมือนกันนะคะ คุณ แม่บ้านตัวยุ่ง คะ ไหนๆๆก็ไหนๆๆแล้ว กุ้ง ขอใช้กระทู้นิดนะคะ..... ขอบคุณมากค่า จากคุณ : maguro - [ 21 เม.ย. 50 07:52:00 A:220.147.10.128 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ หมอ ประจำอยู่ที่ รพ บำรุงราษฎร์ ด้วยนะคะ ส่วน ลิ้งด้านบน เป็น คลีนิค ที่คุณ หมอ เปิดอยู่ ค่ะ http://203.146.145.180/asp/finddoctor/doctordetailx_new.asp?language=TH&employeeid={30B6AD05-78AD-11D3-A08B-00C04FBC9CDC} ชื่อ คุณหมอ พูลศักดิ์ไว ความดี ค่ะ ถ้าคุณ fudge จะเข้าไป โทรไปนัดคุณ หมอ ก่อนนะคะ เพราะคุณ หมอ คนไข้เยอะมากกค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา ไปหาหลายๆๆรอบนะคะ จากคุณ : maguro - [ 21 เม.ย. 50 18:12:00 A:202.248.88.182 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าววข้างบน ดันเขียนชื่อคุณ หมอ กับนามสกุล ติดกันอีกแล้ว เอาใหม่ค่า คุณหมอ พูลศักดิ์ ไวความดี ค่ะ จากคุณ : maguro - [ 21 เม.ย. 50 18:15:41 A:202.248.88.182 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณกุ้งขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ยังไม่คิดจะไปทำกับหมอที่ไทยเลยค่ะ เพราะว่า ผบทบ.ไม่สามารถลางานไปได้ จะมีอีกวิธีนึงก็คือ ต้อง รอกลับไทยช่วงวันหยุดยาวของญป แล้วก็ต้องตัดสินใจทำ เด็กหลอดแก้ว (แต่ยังไม่พร้อมที่จะทำน่ะค่ะ) ตอนนี้คิดแค่ว่าจะฉีดเชื้อไปก่อน ตราบเท่าที่ผบทบ.ยังไม่ บ่น และก็จะปรึกษาหมอไปด้วยว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหม พี่สะใภ้บอกว่าการฉีดเชื้อมาเปอร์เซนต์ที่จะติดลูกต่ำที่สุด เพียง 20 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่ค่าใช้ง่ายมันก็ถูกที่สุดด้วย แล้วก็เจ็บตัวน้อยที่สุด จากคุณ : fudge-a-mania - [ 22 เม.ย. 50 07:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ก็ ลองๆๆ ดูนะคะ คุณ fudge ถ้าที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ก็ลองๆๆไปทำที่ที่ไทย ดีกว่าค่า ในส่วนตัว แล้ว กุ้ง เชื่อฝีมือ คุณ หมอ ที่ไทยมากที่ซุ๊ด จากคุณ : maguro - [ 22 เม.ย. 50 07:54:26 A:202.248.88.148 X: TicketID:132552 ]