ความคิดเห็นที่ 1 ที่สำคัญ มีเงินเท่าไหร่จะไปอเมริกา +ถ้ามีสปอนเซอร์เขาก็จะถามคุณใครเป็นคนจ่ายค่าเรียนค่าใช้จ่ายต่างในระหว่างคุณเรียน แนะนำบอกต้องสปอนเซอร์จ่ายครับหรือที่บ้านคุณเองแล้วเตรียมเอกสารการเงินของครอบครัวไปด้วย ส่วนที่พักบอกเขาไปสิว่าพักกับญาติและญาติจ่ายค่าที่พักจะดีกว่าครับแล้วเอาเอกสารความเป็นญาติไปยืนยันเขาด้วย ที่สำคัญเงินในบัญชีคุณครับ อเมริกันไตล์เงินๆๆๆๆๆ อย่างเดียวถ้ามีมากพอก็ง่ายนิดเดียว จากคุณ : shit american - [ 25 เม.ย. 50 14:12:57 A:203.148.162.137 X: TicketID:143397 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ควรจะให้เค้ารู้น่ะว่ามีคนรู้จักอยู่ที่นั่น ถ้าstatement โอเค แล้วเวลาสัมภาษณ์ตอบแบบให้เค้ารู้สึกว่ายังไงเราก็ต้องกลับมาเมืองไทยคือไม่ไปเป็นโรบินฮู๊ดแน่ๆแค่นั้นก้อน่าจะผ่านฉลุย ส่วนใหญ่เค้าจะถามว่าไปเรียนอะไร ให้ตอบไปว่าไปเรียนภาษาก่อน หลังจากผ่าน Tofle จะไปเรียนสาขาImport& Export เพราะที่บ้านทำธุรกิจนี้อยู่หรืออะไรประมาณนั้นเพราะว่าฟังดูดีมีอนาคตรออยู่ที่นี่ไม่ไปโดดแน่นอน เค้าจะถามว่าไปแล้วจะไปทำงานป่าว ให้ตอบว่าไม่ทำอยากจะเรียนให้จบเร็วๆจะได้รีบกลับมช่วยทำธุรกิจที่บ้าน ที่เหลือก้อไม่มีไรมาก ยังไงขอให้โชคดีน่ะ จากคุณ : สปาต้า - [ 25 เม.ย. 50 16:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบข้อ4 ถ้าเป็น statement ที่ทางธนาคารประทับตราเซ็นรับรองก้อไม่ต้องใช้ตัวจริง จากคุณ : สปาต้า - [ 25 เม.ย. 50 16:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากนะคับผม จากคุณ : Mark Jo Williams - [ 26 เม.ย. 50 16:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอเล่าเรื่องของเราให้ฟังนะคะ ของเราพึ่งไปสถานฑูตมาเมื่อวันที่ 23 น่ะค่ะ โชคดีว่าไปกับน้องที่เคยไปมาก่อน แต่น้องก็ยังไม่เคยเดินทางด้วยตัวเอง มีแต่ไปกับทางบ.ออแพร์ ส่วนเราก็เริ่มจาก 0 เลย มืดแปดด้าน ตอนแรกน้องไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา โทรมาบอกให้เตรียมเอกสาร จะจัดการเรื่องเรียนภาษาให้จะได้เตรียมเรื่องรร.ให้ก่อนกลับ เราก็มืดสนิท เพราะไม่คิดว่าจะไปต่างประเทศ เลยไม่เคยสนใจมาก่อน อย่างนึงที่ให้เตรียมก็คือ สเตทเม้นท์ของสปอนเซอร์คือพ่อกับแม่ แต่ครอบครัวเรา แต่ละคน สะกดนามสกุลไม่เหมือนกันสักคน ไม่รู้จะเอาอะไรยังไง เลยปรึกษาผู้รู้ที่นี่   แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมา เราเลยดำน้ำเองซะเลย หุหุ โชคดีว่ามีน้องช่วยทำอะไรๆ ------------------------------------------ มาเรื่องสัมภาษณ์นะคะ เราเลือกไว้วันที่ จ. 23  ตอน 9 โมงเช้า ไปถึงประมาณ 8 โมงกว่า พนักงานเด็กๆ เสื้อแดงตรงหน้าประตูเช็คเอกสารผมหยักศก ดัดฟัน แต่ปรากฏว่าใบสมัครน้องเรากับเรากรอกเป็นลายมือ เขาบอกว่าไม่ได้ ให้ไปพิมพ์มา   น้องเราก็บอกว่า แต่คราวที่แล้วก็เขียนมาอย่างนี้นะคะ เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้ น้องเราเลยถามว่าแล้วจะไปพิมพ์ตรงไหนได้คะ เขาบอกฝั่งตรงข้าม ตรงไหนคะ เขาก็สวนมาสั้นๆ ว่า เขารู้ แล้วก็ปัดมือ เรียกคนอื่นต่อ เรากับน้องก็งงๆ ไม่รู้จะเดินไปทางไหนเพราะฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสินธร(มั้ง)  เลยเดินไปทางแยกที่จะไปหลังสวนก่อน ก็ไม่มีออฟฟิศส่วนมากยังไม่เปิด เลยตัดสินใจเดินเข้าไปในอาคารนั้น ถามคนทำความสะอาด ถามยาม ว่ามีที่ไหนรับพิมพ์เอกสารมั่ง เขาก็บอกใกล้ 7-11 ไปเจอ บ. ทัวร์  บ.ทัวร์แนะนำให้ไปทำข้างบนดีกว่า(จำไม่ได้ว่าชั้นอะไร) พร้อมพาไป เสียค่าพิมพ์คนละ 300 มั้งคะ ย้อนกลับมาสถานฑูต  คราวนี้ได้เข้าไปข้างในละ ตรวจเอกสาร เขาบอกว่าของเราขาด ใบเสียค่าธรรมเนียมการศึกษา มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ที่ต้องเสีย 100 เหรียญ และก็ 15.. (จำไม่ได้ว่า 15 อะไรน่ะค่ะ คือตรงนี้เรากับน้องไม่ทราบว่าต้องเสีย เลยทำให้ขลุกขลัก) เขาบอกให้เราไปจ่ายเงินก่อนที่เซ็นทรัลชิดลม น้องเราบอกว่าขอใบ 15.. ก่อนได้ไหมจะได้ไปกรอกมายื่นเลย เขาบอกหมดพอดี เดี๋ยวไปถ่าย ให้เราไปจ่ายเงินก่อน แล้วให้กลับมาก่อน 11.30 เราก็รีบๆ เพราะตอนนั้น 10 โมงกว่าละ ไปแท๊กซี่ก็เจอแท๊กซี่ซื่อบื้อ แทนที่จะเลี้ยวซ้ายตรงเพลินจิต ดันเข้าเลนตรงไปไปอ้อมเพชรบุรี กลับมาใหม่ เราก็รีบจัดการและมาที่สถานฑูต กลับมาตรงที่เข้าคิวตรวจเอกสารเดิม 15.. เขาก็ยังไม่ได้ไปถ่ายเลย เราต้องยืนรอตรงนั้นอยู่นาน จนไม่เหลือใครต่อเรา -"- กว่าจะผ่านมาได้ จนถึงตรงช่องรับบัตรคิว และยื่นเอกสาร เขาก็ถามว่า บัญชีเงินฝาก เรากับน้องมีไหม เราก็เตรียมจะยื่นตัวจริงให้ เขาหน้ามุ่ยไม่เอา เขาถามว่าสำเนามีไหม เราก็ไม่มี เขาก็เลยไม่เอา เขาถามน้องเราว่าจะสัมภาษณ์ภาษาอะไร น้องเราตอบไปว่าอังกฤษ เขาให้บัตรคิวมา 2 ใบ สำหรับน้องเราที่เคยไปมาก่อน เป็นเลขนำหน้า 5 หรือ 9 นี่แหละค่ะ ส่วนของเรา ไม่เคยไป ขึ้นต้นด้วย 1 เขาบอกว่าถ้าเลขไหนเรียกก่อน ให้ไปด้วยกัน ซวยเราอะดิ กะจะสัมภาษณ์ภาษาไทยสักหน่อย   เพราะภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้นานแล้ว แถมยุ่งๆ มาหลายชม. ข้อมูลที่ท่องๆ ไว้ลืมๆ หมดเลย จากคุณ : Qandi (โดดเดี่ยวผู้น่ารัก) - [ 26 เม.ย. 50 23:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่เตรียมไว้คือ น้องเราบอกว่าให้จำข้อมูลเกี่ยวกับเราให้ได้ เขาไม่ถามอย่างอื่นหรอก อะไรไม่รู้ก็บอกไม่รู้ สมุดบัญชีเราก็มีเงินฝากแค่เดือนละ 3000  ฝากได้ประมาณ 5 เดือนเอง เขาก็ไม่ได้ขอดู สำเนาสมุดบัญชีพ่อกับแม่ก็ไม่มี มีแต่แบงค์การันตี -จะไปเรียนที่ไหน เรียนอะไร -พักที่ไหน  เราพักกับเพื่อนน้อง เพื่อนน้องชื่ออะไร เพื่อนน้องไปทำอะไร อยู่ที่นั่นนานหรือยัง -ที่พักอยู่แถวไหน -ทำงานอะไรมา แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ (ของเราไม่มีประวัติทำงานเลยค่ะ เพราะเราทำๆ ออกๆ อยู่หลายที่ )แต่ว่า พ่อกับแม่เรามีร้านขายของที่ตลาด เขาก็ถามว่า ร้านอยู่ไหน ขายอะไร   เขาก็ให้ไปนั่งรอแล้วเรียกมาใหม่ เราก็ดันลืมขวดน้ำไว้ตรงหน้าช่องเขาอีกนะ รอสักพักใหญ่ๆ เหมือนกัน น้องเราก็สังเกตว่าช่องเขาไม่รับคนเลย คงไปนั่งตรวจเอกสารอยู่ ระหว่างรอน้องเราก็เครียดกลัวไม่ผ่านกันทั้งคู่ แต่เราก็เฉยๆ เพราะไม่ได้อยากไปมาก ได้ก็ไป ไม่ได้ก็ไม่ไป  แต่ก็เสียดายเงิน เสียไปเยอะแล้วเหมือนกัน พอเขาเรียกมา เขาก็ถามต่ออีก -ถามน้องเราว่า ไปนิวซีแลนด์ก็ไปแล้ว อเมริกาก็ไปเป็นออแพร์แล้ว เรียนภาษายังไม่พออีกเหรอ จะไปอีกทำไม น้องเราก็ตอบเหมือนเดิมว่า จะเปิดร.ร. สอนภาษา -ถามน้องเราว่าเป็นครูเหรอ สอนอะไร สอนพิเศษ ภาษาไทย+ภาษาอังกฤษ แล้วก็หันมาถามเราว่า -แล้วก่อนหน้านั้นทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร เราก็บอกทำงานบ... -เขาก็ทำหน้าเหรอหราไม่รู้จัก เราก็บอกว่าเป็นบ.เกี่ยวกับ.. -เขาถามว่าเป็นคนรับจองลูกค้าเหรอ เราก็ตอบว่าเปล่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ -ไปเรียนเพื่ออะไร น้องจะเปิดรร.สอนภาษา เขาก็ถามเราต่อว่า แล้วเราจะมาเป็นครูเหมือนกันรึ เราก็รู้ตัวนะว่าภาษาอังกฤษเราไม่ค่อยดี ก็เลยตอบไปว่า เปล่าจะมาช่วยน้อง  เขาก็ทำหน้างงๆ เราก็บอกว่ามาช่วยเรื่องออฟฟิศ เขาก็อ๋อ จริงๆ เราตอบผิดๆ ถูกๆ เอ่อๆ อ่าๆ หลายหนเหมือนกัน เพราะตื่นเต้นแล้วก็มึนๆ ฟังออกว่าเขาถามอะไร แต่ตอบไม่ค่อยจะถูก กลัวไม่ผ่านเหมือนกัน หลังจากเขาอ๋อแล้ว เขาก็บอกว่า เดี๋ยวรอ 2- 3 วันจะส่งเอกสารไปให้นะคะ น้องเราก็ดีใจ แต่ยังไม่แน่ใจ ถามเขาว่าผ่านแล้วใช่ไหมคะ เขาก็ค่ะ เรากับน้องเลยเย้!!! กันลั่นจนคนอื่นหันมามองเลย พอเดินออกมา เราก็หันย้อนกลับไปมองหน้าเขา เขาก็ทำหน้าทะเล้นใส่เรา  ซะงั้น คนที่สัมภาษณ์เราเป็นผู้หญิง หน้าตาสดใสเหมือนวัยรุ่น จำไม่ได้ว่าช่อง 8 หรือ 11 น่ะค่ะ ที่เล่ามายืดยาว เพราะเราอยากให้ทราบว่าเรามีข้อบกพร่องเยอะ เพราะความไม่รู้   สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการขอวีซ่าอเมริกาสำหรับเรา น่าจะเป็นความไม่รู้น่ะค่ะ เราเห็นมีคนที่วีซ่าไม่ผ่านเพราะมีญาติเป็นคนที่นั่นน่ะค่ะ อาจจะเพราะเขากลัวจะไปปักหลักอยู่กับญาติมั้งคะ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 26 เม.ย. 50 23:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วันนี้น้องเราได้รับพาสปอร์ตและเอกสารอื่นแล้ว แต่ของเรายังไม่มาเลย กลัวเขาเปลี่ยนใจไม่ให้ผ่านขึ้นมาเหมือนกันนะคะเนี่ย -_-' จากคุณ : Qandi (โดดเดี่ยวผู้น่ารัก) - [ 27 เม.ย. 50 00:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดีใจด้วยจ้า จากคุณ : กระพรวนน้อยเสียงใส - [ 29 เม.ย. 50 23:31:51 ]