ความคิดเห็นที่ 1 เว็บลิงค์ที่โพสต์มาเหมือนจะก็อปมาไม่ครบนะคะคุณเหมียวโหด จากคุณ : yuy - [ 30 เม.ย. 50 14:42:05 A:77.123.153.207 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปกินรังแตนที่ไหนมาจ๊ะน้องเหมียว จากคุณ : CHISWICK - [ 30 เม.ย. 50 16:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปหาlinkมาให้ครับ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000048943 เค้าไม่ได้พูดถึงเรื่องการศึกษาไม่ใช่เหรอครับ ไม่ทราบว่าเค้าเรียนกันแค่ไหน แต่ยังไงก็ตาม ผมว่านักข่าวเขียนข่าวแบบชี้นำเหลือเกิน จริงๆ นักข่าวน่าจะนำเสนอเรื่องราวว่าอะไรเกิดขึ้นก็คงดี แต่ผมว่านักข่าวไม่น่าจะมีสิทธิอะไรไปตัดสินการใช้ชีวิตของเค้านะครับ ขอแก้ที่พิมพ์ผิดนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 50 18:01:00 จากคุณ : หนุ่ยนะครับ - [ 30 เม.ย. 50 17:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 น้องเหมียวจ๋า..กินน้ำเย็นให้ชื่นใจก่อนนะคะ เวลาอารมณ์ผ่องใส น้องเหมียวโหดของเจ๊น่ารักดีออก จากคุณ : jeejeeberry - [ 30 เม.ย. 50 18:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เจ้าของกระทู้มีอะไรในใจอยู่แล้วรึเปล่าคะ เราอ่านดูไม่เห็นเกิดความรู้สึกรุนแรงแบบที่คุณเจ้าของกระทู้รู้สึกเลยนะ เนื้อข่าวมันก็ธรรมดา มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนะ นางสาวมะดันในข่าวไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เค้าก็ไม่ได้พูดจาไม่ดีอะไรนี่ มันก็เป็นความจริง ที่มันเปลี่ยนไปแล้ว เค้าอาจจะมีส่วนด้ส่วนเสียเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ถึงพูดแบบนั้น แต่เค้าจะทำอะไรได้ คุณกระเหรี่ยงคอยาวจะเลิกคอยาวเมื่อไหร่ก็เป็นสิทธิ์ของเค้า คนอื่นก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็นนี่ สิ่งที่เกิดขึ้น ก็แค่การเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง ใจเย็นๆนะคะเจ้าของกระทู้ จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 30 เม.ย. 50 18:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมตามไปอ่านแล้ว ผมรู้สึกว่าผู้จัดการแช่งแข็งไม่อร่อยมากกว่าล่ะมั้ง ใจเย็นๆนะครับ อย่าเพิ่งโวยวายเพราะแค่เห็นว่าเป็นข่าวจากผู้จัดการแล้วจะต้องเลวร้ายไปซะหมด ถึงแม้คุณอาจจะไม่ชอบอะไรกับสำนักพิมพ์นี้เป็นการส่วนตัว เพราะผมอ่านแล้วก็ไม่มีอะไร มันเป็นข่าวที่ธรรมดามากๆ จากคุณ : VeryBadman...Return - [ 30 เม.ย. 50 23:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 FYI: ข้อมูลเรื่องชาวเขา เผ่า ปะดอง PADAUNG    ( จากศูนย์พัฒนาและส่งเสริมชาวเขา จ.แม่ฮ่องสอน) ================================ ปะดอง PADAUNGหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่ากะเหรี่ยงคอยาว   เป็นกะเหรี่ยงกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐคะยาประเทศเมียนมาร์ (พม่า)   บริเวณที่ราบสูงตอนเหนือแม่น้ำสาละวิน  ทิศตะวันออกของเมียนมาร์ ติดชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย  มีประชากรประมาณ 30,000 คน ปาดองเรียกตนเองว่า แลเคอ  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า The Long - neck, Giraffe- necked  women  หรือ The Giraffe women ในปี ค.ศ.1922  Marshall ได้จัดแบ่งกลุ่ม กะเหรี่ยงในประเทศเมียนมาร์ออกเป็น  3 กลุ่ม และได้จัดปาดองไว้ ในกลุ่มย่อยของกะเหรี่ยงบะเว *หญิงปาดองมีเอกลักษณ์การแต่งกายที่เด่นแตกต่างจากหญิงชาวเขาเผ่าอื่น ๆ จนกลายเป็นชื่อเรียกเผ่าพันธุ์  ตามลักษณะลำคอที่ยาวเนื่องจากรอบคอสวมใส่ห่วงทองเหลืองซ้อนกันหลายห่วง  ตั้งแต่ไหปลาร้าจรดคาง   จนทำให้ลำคอยาวผิดปกติ ทรงผมด้านหน้าจะไว้หน้าม้า   ด้านหลังจะมัดเป็นมวยแล้วใช้ผ้าสีเขียว  สีชมพูคาดทับทิ้งชายห้อยระบ่า   แขนจะใส่กำไลที่ทำจากอลูมีเนียมข้างละ 3-5 วง  และที่ขาบริเวณใต้หัวเข่าจะสวมห่วงทองเหลืองไว้อีกข้างละประมาณ 10-15 วง  รองด้วยผ้าสีชมพู และจากน่องลงมาถึงข้อเท้าจะพันด้วยผ้าสีน้ำเงิน  เสื้อที่สวมใส่เป็นสีขาวคอวี ทรงกระสอบ  ตัวยาวถึงสะโพกล่าง  ผ้าถุงสีกรมท่าสั้นแค่หัวเข่า มีลวดลายเป็นเส้นสีชมพูรอบชายผ้าถุงที่แคบ  และนุ่งพับทบกันด้านหน้า ตำนานการใส่ห่วงทองเหลืองที่คอของหญิงปาดอง       มีนิยายปรัมปรา  กล่าวถึงการใส่ห่วงคอทองเหลืองของปาดองหลายเรื่อง เช่น  มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าในอดีตกาล  ภูติผีและวิญญาณไม่พอใจพวกปาดองจึงส่งเสือมากัดกินโดยเฉพาะผู้หญิง  บรรพบุรุษปาดองเกรงว่าถ้า ผู้หญิงตายหมดเผ่าพันธุ์ตนจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้  จึงให้ผู้หญิงใส่ปลอกคอทองเหลืองเพื่อป้องกันไม่ให้เสือกัดคอระหว่างเดินทาง   และอีกตำนานหนึ่งเล่าว่าพวกปาดองมีแม่เป็นมังกรและหงส์จึงต้องใส่ห่วงคอเพื่อทำให้คอยาวระหงส่ายไปมา  สง่างามเหมือนคอหงส์และมังกร              นอกจากนั้นยังมีเหตุผลทางด้านประวัติศาสตร์  กล่าวไว้ว่าในอดีต ปาดองหรือแลเคอเป็นนักรบผู้กล้าหาญมีความกตัญญูรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิต  และเคยมีอำนาจเหนือเมียนมาร์ได้ปกครองประเทศเมียนมาร์มาก่อน  แต่ถูก เมียนมาร์รวมกำลังกับชนเผ่าบังการี  ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของบังคลาเทศ  ทำสงครามขับไล่ปาดองจนต้องอพยพหลบหนีเพราะพ่ายแพ้ต่อการรบ  และได้นำราชธิดาผู้นำเผ่า  ซึ่งอายุได้เพียง 9 ปี หลบหนีมาด้วยและราชธิดาได้นำต้นไม้ที่แลเคอเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์  เรียกว่า  ต้นปาดองมีสีเหลืองอร่ามเหมือนทอง  เมื่อมาถึงชัยภูมิที่เหมาะสมและพ้นอันตรายจากการติดตามของข้าศึกแล้ว จึงหยุดไพร่พล  ราชธิดาก็เอาต้นปาดองนั้นพันคอไว้และประกาศว่าจะเอาต้น ปาดองออกจากคอเมื่อแลเคอกลับไปมีอำนาจปกครองเมียนมาร์  นับแต่นั้นมาพวกแลเคอผู้รักษาวาจาสัตย์ก็จะนำเด็กผู้หญิงที่มีอายุ 9 ขวบมาพันคอด้วยห่วงทองเหลืองที่มีความหนาประมาณ ครึ่ง เซนติเมตร  เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม.  โดยมีหมอผีประจำเผ่าเป็นผู้ทำพิธี  โดยท่องมนตร์และกลอนเตือนใจให้สำนึกว่าต้องพยายามกู้ชาติชิงแผ่นดินคืน แหล่งที่มา  http://www.mhsdc.org/interest111.htm -----------------------------------------------------------  FYI : คำคม จากคมความคิดปรัชญาชาวเขา <*Quote 1:คำสอนของบรรพบุรุษที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เงินควรอยู่แค่ในกระเป๋า ในถุง ไม่ใช่เอาไว้ที่หัว ถ้าเงินเป็นใหญ่ เงินทำให้คนอยากจะมีอำนาจ เงินจะปิดตา ปิดใจ ปิดวิญญาณ ปิดขวัญที่มีในร่างกายมนุษย์ 5 ขวัญ เมื่อขวัญ 5 ขวัญตาย ร่างกายมนุษย์ก็จะตายไปด้วย ในร่างกายของมนุษย์ มีส่วนหนึ่งเป็นคน ส่วนหนึ่งเป็นสัตว์ ขึ้นอยู่กับว่าจะยึดสิ่งไหนเป็นใหญ่กว่า ถ้าปล่อยให้ข้างสัตว์เป็นใหญ่ ก็เป็นการต้องการอำนาจที่จะครอบครอง ฉะนั้น ต้องตั้งสติให้ส่วนคนที่อยู่ในร่างกายเป็นใหญ่ จะได้มีใจที่รู้จักการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน   <Quote 2 : ปริญญาใจ “ คนเราต้องได้ปริญญาทั้ง 2 อย่าง ปริญญาบัตรและปริญญาใจ ใจคือมีจิตใจที่ดีงาม จิตใจที่ชอบธรรม นำจิตใจที่ดี นำคุณธรรมและความร ู้ไปสู้ สู้ในทางที่เป็นไปได้ ปฏิบัติได้ แก้ปัญหาได้ หนูจบปริญญามาแต่คุยกับครอบครัวไม่รู้เรื่อง ลุงว่ายังไม่จบปริญญานะนี่ ” http://www.hilltribe.org/thai/article/17-essay-thai-patijorni.php ================================= FYI: กะเหรี่ยงในประเทศไทย อยู่ในจังหวัดใดบ้าง (ข้อมูลจากสารานุกรม วิกิพีเดีย เรื่องชาวกะเหรี่ยง) ในประเทศไทยมีชาวกะเหรี่ยง 1,993 หมู่บ้าน 69,353 หลังคาเรือน ประชากรทั้งสิ้นประมาณ 352,295 คน คิดเป็นร้อยละ 46.80 ของจำนวนประชากรชาวเขาในประเทศไทย อาศัยอยู่ใน 15 จังหวัด ของภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี, กำแพงเพชร, เชียงราย, เชียงใหม่, ตาก, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, แพร่, น่าน, แม่ฮ่องสอน, ราชบุรี, ลำปาง, ลำพูน, สุโขทัย, สุพรรณบุรี และอุทัยธานี กะเหรี่ยงมีด้วยกันหลายกลุ่มย่อย และมีชื่อเรียกต่างๆ กัน ทั้งยังมีประเพณี ความเชื่อ ความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันด้วย กะเหรี่ยงในประเทศไทยมี มี 4 กลุ่มย่อยคือ -สะกอ หรือยางขาว เรียกตัวเองว่า ปกฺากะญอ เป็นกลุ่มที่มีประชากรมากที่สุด -โป เรียกตัวเองว่า โพล่ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำพูน -ปะโอ หรือ ตองสู อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน -บะเว หรือ คะยา อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน .............................................................. ป.ล.  เผอิญไปเห็นว่า จขกท.ได้นำเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ไว้ที่ ห้องหนังเฉลิมไทยด้วย เลยขอเชื่อมลิ้งค์มาให้ไว้ที่นี่ด้วย จะได้ดูคำตอบ ของคนต่างห้อง ในสองประเด็นที่คุณตั้งไว้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5364082/A5364082.html แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 50 04:02:12 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 50 01:56:40 จากคุณ : กริชนาคราช - [ วันแรงงาน 01:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องนี้มีให้อ่านในมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เมื่อคุณได้อ่านแล้วจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยของคุณมีสองประเทศอยู่ในประเทศเดียวกัน คือประเทศของคนมีโอกาสและคนไม่มีโอกาส คนมีโอกาสเขานอกจากจะสร้างฐานะการเงินที่เข้มแข็ง แล้วเขายังสร้างวัฒนธรรมที่ปกป้องตัวเองรวมถึงวัฒนธรรม ในการสกัดผู้อื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัฒนธรรม ชาตินิยม อนุรักษ์นิยม แม้แต่ผู้ใหญ่หรืออนุรักษ์นิยมก็ ย่อมเห็นประโยชน์โดยง่าย แน่นอนชาวเขา ชาวเผ่าย่อมไม่พ้นข้อนี้ ต้องตกล่องปล่อง ชิ้นไปตามแผนและแนวคิดที่เขาวางไว้ ครั้นจะลืมตาอ้า ปากก็ยากเต็มที ไม่แปลกที่คุณจะคิดอย่างนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณไปภาคเหนือเห็นเรื่องการขายตัวต่าง ๆ คุณจะยิ่ง เศร้ากว่านี้ ทำไมกะเหรี่ยงคอยาวไม่ยาวจึงเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับ พวกเขาเองแต่เป็นเรื่องที่สำคัญกับพวกเรา จากคุณ : ฟ้าลั่น - [ วันแรงงาน 03:58:03 A:203.88.224.210 X: TicketID:115899 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณเหมียวใจเย็น ๆ น๊า ถึงใครจะเขียนอย่างไร แต่สุดท้ายกระเหรี่ยงคอยาว ก็ได้เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขาแล้ว ไม่มีใครบังคับเขาได้หรอกคะ ขอบคุณคุณ กริชนาคราชด้วยสำหรับข้อมูล (อัดแน่น) ค่า จากคุณ : AntiVirus - [ วันแรงงาน 14:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาขอบคุณข้อมูลของคุณกริชนาคราชอีกคนหนึ่งครับ ประเด็นที่เจ้าของกระทู้ให้มานี้ พอฟังจากเจ้าของกระทู้แล้วก็เห็นเป็นประเด็นที่มีความเห็นได้หลากหลาย ขณะที่ฝ่าย con มองอย่างเจ้าของกระทู้ ยึดถือลัทธิปัจเจกบุคคลโดยเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนย่อมมีความเฉลียวฉลาดที่จะเลือกวิถีชีวิตของตนเอง และมีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตของตนเอง ดังนั้นถ้าพวกชาวเขาเลือกจะรับวัฒนธรรมคนเมือง หรือละทิ้งความเป็นชาวเขาของตนมาเป็นคนเมือง มันก็เป็นเรื่องของเขา เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ส่วนฝ่าย pro ก็อาจจะมองว่า มันมีตัวอย่างจำนวนมากที่ วัฒนธรรมย่อยๆ เหล่านี้สูญหายไปเพราะถูกอิทธิพลของวัฒนธรรมใหญ่กลืน และการสูญหายนี้เป็นการสูญหายของภูมิปัญญาและความหลากหลายทางวัฒนธรรมด้วย เช่น การที่คนหนุ่มสาวของอินเดียนแดงเผ่าหนึ่ง ไปทำงานในเมืองหมด ทิ้งให้เผ่ามีแต่คนแก่ชรา ในที่สุดคนแก่ก็ตายหมด เผ่าก็ไม่มีอีก คนหนุ่มสาวที่เข้าไปในเมืองก็กลายเป็นโสเภณี นักเลง และแรงงานราคาถูก เพราะไม่มีความรู้ไม่มีการศึกษา คนพวกนี้ก็ลืมไปว่าตัวเองเป็นอะไร คอนเนคตัวเองกับประวัติศาสตร์ไม่ได้ และก็ต้องเป็นประชากรชั้นสองในเมือง มีวัตถุมากกว่า แต่มีชีวิตที่ยากเข็นกว่าตอนอยู่ในเผ่าหลายเท่า เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ดังนั้นพอคนเมืองมีบทเรียนอย่างนี้ก็รู้สึกผิดที่ตัวเองไปทำลายวัฒนธรรมของคนกลุ่มน้อย จึงได้คิดการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาควบคุมชาวเขา ผมคิดว่าฝ่าย pro อาจจะมีทำไม่ถูกที่ไปตัดสินชะตาที่วิตคนอื่น แต่อย่างน้อยฝ่าย pro ก็มีเจตนาดี ปัญหาในกระทู้นี้จึงควรเป็นว่าการที่ฝ่าย pro จัดการให้ชาวเขารักษาวัฒนธรรมของตนเองโดยการมาทำเป็นสวนสัตว์มนุษย์นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือเปล่า หรือควรจะให้การศึกษาแก่ชาวเขาให้เพียงพอ และแนะนำให้เขาประยุกต์วัฒนธรรมของตัวเองให้สามารถรักษาสิ่งดีๆไว้ทางหนึ่ง และสามารถอยู่รอดในกระแสของโลกทางหนึ่ง เพราะขึ้นชื่อว่าวัฒนธรรมนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย วัฒนธรรมไหนที่หยุดนิ่งก็คือวัฒนธรรมที่ตายแล้ว และจะเป็นประวัติศาสตร์ จากคุณ : เชษฐา - [ วันแรงงาน 23:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเดือนที่แล้ว  ทางองค์กรการกุศลอันหนึ่งของทางอังกฤษเอาเรื่องมาลงในนิตยสาร  Look แต่เป็นประเด็นที่เน้นไปทางการโจมตีทางประเทศไทยที่ไม่ออกบัตรประชาชนให้ชาวเขาเผ่านี้ทั้งหมด ทางองค์กรอ้างว่าทางประเทศนิวซีแลนด์จะให้โอกาสสาวกระเหรี่ยงคอยาวที่ถอดห่วงคอ ไปศึกษาต่อฟรี  แบบเป็นทุนให้เปล่า  แต่เนื่องจากทางการไทย ไม่ออกเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนให้  จึงไม่มีหนังสือเดินทาง เลยไปไม่ได้... ทางการไทยช่างร้ายเหลือแสน... ได้มีการติดต่อขอสัมภาษณ์ไปทางสถานฑูตไทยในลอนดอนด้วยค่ะ  แต่ทางเราไม่มีคำตอบให้ทางองค์กรการกุศลนั้น (ให้เอาประเทศเรามายำอีก) ดิฉันอ่านแล้วของก็ไม่ได้ขึ้น  (ทั้ง ๆ ที่อ่านบทความแล้วน่าจะโกรธ) เพียงแต่ขัดใจนิดหนึ่งเท่านั้นที่ว่า  มันเป็นการมองเพียงด้านเดียวเท่านั้น  และจากคนเพียงกลุ่มเดียว จากคุณ : Amber n the Gang - [ 2 พ.ค. 50 00:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหมียวเป็นคนเหนือน่ะค่ะ และก็เป็นคนเหนือที่ไม่ได้มีความรังเกียจหรือมองว่าชาวเขาแปลกแยก หรือแตกต่าง แต่มองที่ความเป็นมนุษย์เค้าเท่า ๆ กับเรา สมัยเรียนมีเพื่อนหลายคนค่ะที่เค้ามีเชื้อสายจากคนภูเขา คนที่ล้อเลียนนามสกุลหรือชื่อของเพื่อนจะถูกอาจารย์ลงโทษอย่างหนัก และอับอาย เคยมีเพื่อนคนนึงถูกลงโทษ โดยไม่ให้ใครในห้องคุยกับเค้า เป็นเดือนค่ะ แต่มีเพื่อนที่เป็นลูกเชื้อสายชาวเขาจะคุยได้คนเดียว ถ้าเค้าอยากจะคุยกับคนที่ล้อเลียนพ่อแม่เชื้อสายของเค้า และอาจารย์ก็โกรธมาก ๆ เหมียวจำได้ติดตาจนทุกวันนี้ มันเหมือนฝังในใจคนรุ่นเหมียวว่าการรังเกียจชาวเขาและลูกหลานคือเรื่องที่ร้ายแรงมากและไม่สามารถยอมรับได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเหมียว ที่เชียงรายวิทยาคม เป็นโรงเรียนคริสต์ที่ก่อตั้งโดยคณะมิชชันนารีต่างชาติ พูดตรง ๆ คือ โรงเรียนเหมียวก่อตั้งมาได้เพราะคณะมิชชันนารีที่เริ่มเข้ามาช่วยเหลือเด็ก ๆ ค่ะ คนที่ไม่ได้อยู่ทางเหนือ อาจจะไม่เข้าใจและมองไม่เห็นภาพ แต่ภาพที่เหมียวเห็นคือ ต่างชาติพยายามเข้ามาช่วย พยายามให้การศึกษา แต่ทางไทยคือ ดูเหมือนไม่อยากให้เค้าเปลี่ยนวิถีชีวิต นั่นคือภาพที่เหมียวเห็น ตอนเรียนก็ได้ไปกับโรงเรียน ไปช่วยสร้างห้องเรียนให้เด็ก ๆ มีอะไรเล่าเยอะแยะมากมาย รวมทั้งคำพูดของรุ่นพี่ ที่พูดคุยทำความเข้าใจ ก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปในหมู่บ้าน....ก็คือ... อย่าพยายามไปเปลี่ยนหรือชี้แนะให้เค้าเปลี่ยนแปลง ... ตอนนั้นเด็กค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจ ประมาณม.4 - ม.5 ไม่เข้าใจว่าคืออะไร รุ่นพี่ก็พูดไปถอนหายใจไป แต่ก็เข้าใจว่าคำพูดนี้มาจากใครสักคนที่มีอำนาจที่จะอนุญาตให้พวกเราขึ้นไปที่นั่น ตอนนี้เข้าใจอย่างดีแล้วค่ะ เข้าใจหลายอย่าง มันเศร้าคะ ที่บางคนจะมองว่า เค้าควรที่จะอยู่อย่างนั้น เหมียวคิดว่าคนเราควรได้รับโอกาสที่ดีเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตตนเองได้ และไม่ผิด มันขึ้นอยู่กับเค้า ตัวเค้า ทำไมเราคนพื้นราบใช้มือถือ ไม่มีห่วงใส่คอ ถึงปกติ แต่เค้าใช้มือถือ ไม่มีห่วงใส่คอ กลับเป็นเรื่องแปลก น้าเหมียวมีคนนึงเค้าไปอยู่เป็นหมออาสาหลายปี เค้ามีเรื่องมาเล่าให้ฟังตลอด เค้าเป็นมนุษย์เหมือนเรา ๆ มีทั้งแม่ที่คลอดลูกลำบาก เด็กตัวน้อย ๆ เจ็บป่วย ทำไมเค้าต้องอยู่อย่างนั้น แล้ววันที่เค้าเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่เค้าคิดว่าดีกว่า ทำไมเราไม่มองอย่างนั้น แล้วทำไมเรา ๆ คนที่ต้องการอนุรักษ์ ทำไมไม่หาห่วงมาใส่คอแล้วพาลูกพาครอบครัวขึ้นไปอยู่แทนเค้า ความเป็นจริง ในความเห็น ของหลาย ๆ ท่าน นั่นคือความจริงค่ะ เหมียวไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว รู้สึกว่าเหนื่อยค่ะ เหมียวขอพูดคำเดียวก็คือ เค้าก็เป็นคนเหมือนเราน่ะค่ะ ถ้าจะให้เค้าต้องอยู่อย่างนั้น ทำไมไม่ให้เค้าได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศที่สามซะละคะ ในเมื่อเราอยากเก็บเค้าไว้เป็นสวนสัตว์มนุษย์มากกว่า ขอโทษนะคะ การกระทำของทางการไทย บางอย่าง มันทำให้คิดแบบนั้นจริง ๆ เหมือนที่คุณ Amber n the Gang บอกนะคะ เค้าก็คน ไม่ต่างกับคุณ หรือใครหรอกค่ะ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 2 พ.ค. 50 09:10:08 A:124.184.228.235 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก่อนอื่น ขอขึ้นต้นด้วย คำแนะนำง่าย ๆ ที่มีค่าสำหรับคนที่เดือดร้อนเมื่อเห็นชาวเขาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อันนี้โพสไว้ที่กะทู้อื่นน่ะค่ะ อยากแนะนำคนที่ต้องการรักษาวิถีเดิมของชาวกะเหรี่ยงปะด่อง กะเหรี่ยงคอยาว อยากแนะนำอยู่อย่างนึงคิดว่ามีค่ามาก ๆ ทำไมคุณไม่ทำเหมือนนักอนุรักษ์ท่านอื่น ๆ อย่างเช่น อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ท่านหลงไหลในวัฒนธรรมเก่าแก่ โบราณคดี ท่านก็แต่งกายออกมางดงามเพื่อสื่อในสิ่งที่ท่านรัก หรืออย่าง คนที่ต้องการอนุรักษ์เสื้อผ้าพื้นบ้าน การแต่งการพื้นบ้าน หรือต้องการส่งเสริมสิ่งทอของไทย ท่านก็แต่งกายชขุดพื้นบ้าน หรือแต่งชุดตัดเย็บจากผ้าไหมไทย สวยงาม ในเมื่อท่านเห็นว่าวิถีปะด่องควรอนุรักษ์ ทำไมท่านไม่หาห่วงมาใส่คอท่านบ้าง และสวมใส่ให้คนในครอบครัวท่านด้วย แล้วพากันย้ายขึ้นไปอยู่ในหมู่บ้าน ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป เพียงเท่านี้ท่านก็จะสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่านักท่องเที่ยวจะไม่มาอีกต่อไป กะเหรี่ยงคนที่เค้าอยากใช้ชีวิตแบบคนพื้นราบ เขาก็จะได้ลงมาอยู่ในเมืองแทนท่าน แลกบ้านกันไปเลยก็จะดี จบเรื่องไป แก้ปัญหาให้แล้วง่าย ๆ ท่านจะได้ไม่ไปเดือดร้อนเรื่องของชาวเขา เขาอีก ก่อนใส่ห่วงคอให้ลูกก็ถามมันดูก่อนว่ามันต้องการใส่หรือไม่ เวลาคันจะเกาจะลำบากไหม ลูกมันเห็นว่าสวยงามแบบท่านเห็นไหม หรือเวลาเดินทางเวลาฝนฟ้าคะนองมันเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าไหม ถ้าท่านคิดว่าทำได้ ลูกท่านก็ทำได้ ก็เอาเลย เชิญ ๆๆ นักท่องเที่ยวคงยินดีปรีดาที่จะได้เห็นกะเหรี่ยงคอยาวต่อไปตราบฟ้าดินสลาย ก็แนะนำเท่านี้ค่ะ เดี๋ยวมาคุยต่อเรื่องอื่นอีกนิด จากคุณ : เหมียวโหด - [ 2 พ.ค. 50 09:38:06 A:124.184.228.235 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อกี้สายเน็ตหลุดไปค่ะ เลยนึกว่าที่พิมพ์ไว้คห.12 ไม่ขึ้น อ่าน ๆ ทีแรกก็เหมือนรายงานข่าวความเปลี่ยนแปลงธรรมดาหรอกค่ะ แต่พอเห็นว่าลงท้าย ลงเฉพาะความเห็นด้านเดียว และก็ความเห็นบางความเห็นในข่าวด้วย ก็รู้สึกแย่.... เหมียวเห็นใจในผู้อื่นมากกว่าคนปกติทั่วไปหรือเปล่าคะ แฟนเก่าเหมียวเป็นคนจิตใจหยาบ ๆ เห็นแก่ตัว ๆ ชอบเอาเปรียบผู้อื่น อย่างเช่น คบกันหลายปี กินก๋วยเตี๋ยวชามยี่สิบ สามสิบ จะหารกันตลอด พาไปดูหนัง ถ้าเอารถเค้าไป จะให้เหมียวเลี้ยง เพราะเค้าบอกว่าเค้าออกค่าน้ำมัน แล้ว แต่เวลาไปรถเหมียวบางทีเค้าก็ไม่เลี้ยง เพราะเค้าบอกเหมียวเป็นคนที่อยากมาเค้าไม่ได้อยากมา .... เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก ๆ เพราะขนาดเหมียวไปกะเพื่อนผู้หญิงด้วยกันเพื่อนมันยังออกส่วนของมัน ถึงเหมียวจะเป็นคนชวน แฟนเก่าเหมียว เวลาเห็นเพื่อนมีสาว ๆ มาชอบ ซื้อของมีค่าพวกเสื้อผ้าแพง ๆ น้ำหอม เอามาให้ แฟนเก่าเหมียวก็จะเอามาพูดว่า มันเอาไปคืนทำไมไม่รู้ไม่รับไว้ผู้หญิงก็เสียใจ ถ้าเป็นเค้า เค้าไม่คืนหรอก แฟนเก่าเหมียว บอกว่าเหมียวเป็นคนขี้สงสารขี้เห็นใจคนมากเกินไป โดยเฉพาะ เด็ก คนแก่ และผู้หญิงด้วยกัน เค้าดูหงุดหงิดเวลาไปทานข้าวมีอาหารเหลือแล้วเหมียวขอเก็บเอามาเลี้ยงหมาจรจัด สรุปว่า เหมียวมันเป็นคนที่เห็นใจคนอื่นมากกว่ามนุษย์ปกติเค้าทำกันหรือคะ ขอโทษละกันค่ะ ถ้ามีใครต้องลำบากใจ รำคาญใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือคิดว่าเหมียวคิดมากไป จากคุณ : เหมียวโหด - [ 2 พ.ค. 50 10:06:07 A:124.184.228.235 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หลาย ๆ ความเห็น ขอบคุณณ.ที่นี้ด้วยค่ะ ให้ความรู้มากมาย ได้รู้ในส่วนที่ไม่รู้มาก่อนเยอะเลยค่ะ ขอขอบคุณรวม ๆ นะคะ และขอบคุณท่านอื่น ๆ ที่เข้ามาออกความเห็นในกะทู้ด้วยค่ะ จากคุณ : เหมียวโหด - [ 2 พ.ค. 50 10:09:35 A:124.184.228.235 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณเหมียวโหดอย่าคิดมากไปเลยว่าตัวเองทำให้ใครลำบากใจหรือรำคาญ คุณเหมียวไม่ได้ผิดปกติหรอก มนุษย์เรามีความเห็นเปรียบเทียบไปตามประสบการณ์ที่ได้พบเจอ คุณเหมียวมีความเห็นใจและเข้าใจในชาวเขามากกว่าคนอื่น ก็เพราะประสบการณ์ที่ได้เคยเห็นและพบ คนอื่นที่ไม่ได้คิดหรือมองเหมือนคุณเหมียวก็เพราะเขาไม่เคยรับรู้อย่างที่คุณรู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาใจดำจนผิดปกติ เพียงแต่ประสบการณ์ในชีวิตเขาทำให้ไม่เข้าใจถึงใจเขาใจเราโดยไม่ตั้งใจ ภาษาอังกฤษที่ตรงใจเรากว่าคือ Oblivious น่ะ คนที่ไม่เคยคิดอย่างลึกซึ้งอาจจะมองว่าชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมของชาวเขานั้น พวกเขาก็น่าจะมีความสุขดีแล้ว อะไรที่เปลี่ยนแปลงชีวิตความเป้นอยู่ หรือวัฒนธรรมนั้นน่าเสียดาย คนไทยจะมองการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมว่าไม่ควรเปลี่ยน ควรจะอนุรักษ์ไว้ เราก็เชื่อว่าคนส่วนมากโดยพื้นฐานไม่ได้มีจิตใจโหดร้ายหรอก และถ้าพวกเขารับรู้ถึงความบากลำบากในการดำเนินชีวิตของชาวเขา อย่างที่คุณเหมียวออกมาบอกเล่าแบบนี้ หลายๆคนก็คงเปลี่ยนความคิดเรื่องนี้ไป อีกอย่างก็คือ ในบางทีการสื่อสารโดยใช้วิธีที่เย็นลงน่าจะทำให้ผู้รับสารเปิดรับสิ่งที่คุณต้องการสื่อมากกว่า ก็เป็นได้ค่ะ จากคุณ : yuy - [ 2 พ.ค. 50 18:10:23 A:77.123.153.207 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรทำร้ายจิตใจคุณเหมียวโหดหรือเปล่า เพราะคงจะเป็นคนที่มีความเมตตามาก เอาเป็นว่าผมเห็นด้วยกับคุณ yuy แล้วกันครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 2 พ.ค. 50 18:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหมียวแค่อ่านบางคำพูดในบางความเห็นแล้ว มันคุ้น ๆ เหมือนเฟนเก่าเคยพูดกะเหมียวเวลาเหมียวไปสงสารใครเห็นใจใครน่ะค่ะ พอดีว่าเหมียวเกลียดผู้ชายคนนี้มาก ๆ ตั้งแต่ช่วงหลัง ๆ ที่คบ และช่วงที่กำลังจะเลิกก็ได้เห็นนิสัยเยอะ เวลามีอะไรมารีมายให้นึกถึงผู้ชายคนนี้สักนิด เหมียวจะรู้สึกจี๊ดดด... อยากด่ามันขึ้นมาทันทีค่ะ หมายถึงด่าแฟนเก่าน่ะค่ะ อย่างที่เล่าพฤติกรรมแฟนเก่า ไม่ได้กระทบใครค่ะ แฟนเก่าเหมียวเป็นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ เชื่อมั้ยคะ ทุกวันนี้เค้าว่างมาก คอยอ่านที่เหมียวโพสในพันทิป เมื่อวานนี้เหมียวตั้งใจด่าแฟนเก่าตรง ๆ เลยค่ะ ไม่มีนัยยะแฝง หรือเป็นการว่ากระทบใคร คุณ yuy ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ เหมียวชอบความเห็นคุณ yuy ค่ะ ตรงกับใจเหมียวทั้งนั้นเลยค่ะ เหมียวมีน้อยใจบ้าง แต่ที่ด่าแฟนเก่านั้นไม่มีนัยยะใด ๆ ค่ะ ด่าเค้าตรง ๆ เลยล่ะค่ะ คุณ เชษฐา ไม่เกี่ยวจริง ๆ ค่ะ เหมียวคิดว่าความเห็นคุณ เชษฐา ดีออกค่ะ เป็นกลางและให้ความรู้ดีมาก ๆ ด้วย เรื่องที่น้อยใจ เหมียวมีรู้สึกเสียใจน้อยใจกับคำพูดบางท่านนะคะ แต่ไม่ใช่ของคุณ เชษฐา ค่ะ แต่ถึงเหมียวน้อยใจ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับที่ด่าแฟนเก่าอีกล่ะค่ะ ถ้าเหมียวเล่าไม่หมด ทุกท่านคงจะ งง ไม่หายแน่ ๆ เอาเป็นว่า เมื่อวาน ก่อนที่เหมียวจะมาตอบเมลล์ มีคนส่งเมลล์มา พูดเกี่ยวกับเรื่องกะทู้และก็พูดอะไรงี่เง่าปัญญาอ่อนไร้สาระอีกสองกะบุง คิดว่ามาจากคนที่เหมียวด่าตรง ๆ น่ะแหล่ะค่ะที่ส่งมา จากคุณ : เหมียวโหด - [ 4 พ.ค. 50 02:57:14 A:58.170.2.130 X: TicketID:136834 ]