ความคิดเห็นที่ 1 สู้ต่อไปค่ะ ความสำเร็จมาจากการฝึกฝน จากคุณ : กะลิอ่อง - [ 11 พ.ค. 50 04:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนหัดทำแบบฝึกหัดไม่ทราบว่าได้หัดทำกับคอมพิวเตอร์หรือเปล่าคะ เราเองถ้าทำ reading จากหนังสือจะได้คะแนนดีเลย แต่พอมาทำกับหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วคะแนนตกวูบเลยค่ะ เราจะสอบวันเสาร์นี้แล้วเหมือนกันแต่เป็น TOEFL iBT นะ วันนี้ยังมีปัญหาว่าออนไลน์ไปทำชุดข้อสอบที่ซื้อไว้ไม่ได้เลย T_T จากคุณ : Living Extreme - [ 11 พ.ค. 50 05:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่งรู้หรอ เราอ่ะซึ้งมานานแล้ว... เราไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะบทความสั้นยาว ไม่เคยอยากจะอ่านทั้งนั้น ถ้าเลือกได้ ขอฟังแทนอ่านโลด จากคุณ : โยคะจัง - [ 11 พ.ค. 50 06:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราก็เรียนด้วยตัวเองที่บ้านเหมือนกัน ไม่เคยไปเรียนไอเอลกับสถาบันไหนๆ  ใช้วิธีซื้อหนังสือไอเอลทุกเล่มที่มี แล้วมานั่งจับเวลาทุกๆ อย่าง อย่าง reading รู้ว่าอ่านช้า แต่จะพยายามทำพวกที่มีข้อความสั้นๆ ให้ได้เร็วที่สุดและแม่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อันที่อ่านยาวๆ ไว้ทีหลังเลย (ไว้เดาทีหลัง)  ต้องจับเวลาตอนทำแบบฝึกหัดที่บ้านนะคะ  แล้วต้องทำให้ได้ทุกวันให้เวลาสม่ำเสมอทุกวัน เราฝึกหนักมากด้วยตัวเองเพราะไม่รู้มาก่อนว่าไอเอลเป็นแบบไหน ผลออกมาได้ 6 คะ ดีใจมากคะ จากคุณ : anjang (anchalee_kt) - [ 11 พ.ค. 50 07:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเพิ่งฝึกทำจะพบว่า reading จะยากมาก ต้องฝึกครับ ฝึกให้อ่านครั้งเดียวแล้วจับใจความได้ อ่านครั้งเดียวแต่ชัดๆนิ่งๆไม่ต้องไวมาก แต่อย่าช้าเกิน รักษา speed การอ่านให้สม่ำเสมอเรื่อยๆ แต่ต้องให้ได้ความหมาย จบแต่ละย่อหน้า สมองต้องประมวลว่าเนื้อความเกี่ยวกับอะไรเป็นสำคัญ มี key words อะไรบ้าง เพราะถ้าเจอในคำถามก็จะรู้ว่าควรกลับไปดูย่อหน้าไหน วิธีของผมคือ อ่านรอบแรกนิ่งๆไวๆ ให้ได้ความหมายทั้งหมดแต่เน้นให้มองโครงเรื่องหลักให้ออกคือ ย่อหน้าแต่ล่ะย่อหน้ามีอะไรสำคัญ มีเหตุการณ์ รายละเอียดหรือ idea อะไรบ้างและอยู่ที่ย่อหน้าไหนบ้าง จากนั้นอ่านคำถาม ถ้าการอ่านรอบแรกสามารถเก็บรายละเอียดได้ ก็จะรู้ว่าคำถามนี้ควรไปหาคำตอบจากย่อหน้าไหน ก็กลับไปเจาะหาคำตอบในแต่ละวรรคได้ ทีนี้คำถามแนวประมาณว่า ข้อมูลนี้เป็นจริงหรือเท็จหรือไม่มีข้อมูลเพียงพอ จะสามารถตอบได้ไวถ้าการอ่ารรอบแรกสามารถทำให้คุณได้ข้อมูลจนวิเคราะห์อารมณ์และความคิดของผู้เขียนได้ ดังนั้นการอ่านรอบแรกโดยอ่านต่อเนื่องจนจบอย่างนิ่งๆแต่ไว ให้ได้ใจความ มีความจำเป็นมาก ต้องฝึกเท่านั้นครับ ผมสอบครั้งแรกได้ reading 6.5 ครั้งที่2 ได้ 9 ครับ จากคุณ : TimeS-To-Enjoy - [ 11 พ.ค. 50 07:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนลงเรียนคอร์ส TOEFL อาจารย์แนะนำว่า ถ้าเราเป็นคนอ่านช้า ก็ไม่ต้องอ่านเนื้อความทั้งหมดค่ะ ให้อ่านข้อสอบแล้วค่อยวกกลับไปดูที่เนื้อความ ซึ่งเค้าจะระบุว่าอยู่ในย่อหน้าไหนอยู่แล้ว...เหตุผลก็เพื่อจะได้ทันเวลานั่นเอง... ปล. ขนาดทำตามอาจารย์ว่ามา ก็ยังทำคะแนนได้ไม่ดีพอตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่จะสมัครเลย สงสัยลงสอบอีกครั้งจะฝึกแนวที่คุณ TimeS-To-Enjoy #5 ว่ามาบ้างแล้ว จากคุณ : JC2002 - [ 11 พ.ค. 50 10:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าจะลองสอบใหม่ ลองหัดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษชนิดอื่นไปพลางๆด้วยมั้ยคะ น่าจะช่วยลดความเกร็งไปได้บ้าง จะเป็นนิตยสาร หรือหนังสืออ่านเล่นก็ได้ เดี๋ยวนี้นำเข้ามาเยอะมาก หรือจะแค่ข่าวหรือหัวข้อที่สนใจบนเวปก็ได้ เหมือนกับที่พวกเราชินกับภาษาไทยน่ะค่ะ จะหยิบอะไรก็อ่านจับใจความได้รวดเร็ว รู้ว่าตรงไหนเนื้อตรงไหนน้ำ เพราะอ่านอยู่ทุกวัน ยังไงก็ตามสำหรับที่จะสอบครั้งนี้ก็ใจเย็นๆค่ะ โชคดีนะคะ ปล. เผอิญชอบอ่านค่ะ ถ้าสมัยก่อนต้องสอบพูดก็คงเป็นใบ้ไปเลยค่ะ เพราะไม่ค่อยได้พูด จากคุณ : Working Girl - [ 11 พ.ค. 50 10:22:17 A:68.32.119.36 X: TicketID:121675 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลองอ่านหนังสืออย่างอื่นไปด้วยนะคะ เช่นหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษที่เราอ่านรู้เรื่อง จะได้ไม่ท้อและชินกับโครงสร้างประโยคแบบภาษาอังกฤษ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : production (production) - [ 11 พ.ค. 50 12:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนสอบไอเอลท์ เราอ่านคำถามก่อนแล้วก็ไปอ่านหาคำตอบในพารากราฟเอา ขนาดทำแบบนี้ตอนสอบจริงยังไม่ทันเลย โชคดีที่ผ่านเกณฑ์พอดี เรื่องว่าคะแนนตอนนี้ห่วยมาก อย่าไปคิดมาก ตอนเราสอบโทเฟลครั้งแรกได้คะแนนน้อยกว่าลิงชิมแปนซีอีก ทำไปเรื่อยๆเรียนไปเรื่อยๆก็ผ่านเอง จากคุณ : yuy - [ 11 พ.ค. 50 14:58:33 A:77.123.153.207 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกติเราเป็นคนอ่านเร็ว พอออนไลน์ไปทำข้อสอบยังอ่านไม่ทันเลยอะ ขนาดอ่านแบบ skim แล้วนะ ถ้าไม่ได้ฝึกมา งานนี้น้ำตาท่วมแน่ จากคุณ : Living Extreme - [ 11 พ.ค. 50 21:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 reading เค๊าไม่ได้มีไว้ให้อ่านครับ เค๊ามีไว้ให้ไปหาคำตอบ เพราะฉะนั้นไปอ่านคำถามก่อนแล้วกลับมาหาคำตอบใน reading ทีละข้อ คุณไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด ถ้าตอบคำถามหมดแล้วก็ทิ้งที่เหลือได้เลย แล้วคุณต้องคำนวนว่าคุณมีเวลาเท่าไหร่ต่อ ๑ reading ถ้าหมดเวลาต้องเดาแล้วไป reading ต่อไป เพื่อจะได้ทำให้ครบ อย่างน้อยมีโอกาสได้คะแนนกว่าการทำไม่ครบ ทั้งนี้เพราะการเรียนหนังสือที่ต่างประเทศเค๊าเรียนกันแบบนี้ครับ อาจารย์ให้อ่านหนังสือวันละเป็นร้อยๆ หน้า ขืนอ่านทั้งหมดก็ไม่ต้องนอนกัน ต้องรูว่าเค๊าต้องการให้เรารู้อะไรแล้วเลือกอ่านให้ถูกโดยไม่ต้องอ่านทั้งหมด(ตอนแรกผมก็อ่านทั้งหมด แต่ตอนหลังถามนักเรียนอเมริกัน และ อาจารย์ถึงรู้ว่าเค๊าไม่อ่านทั้งหมด) จากคุณ : สีฟ้า (pickyman) - [ 12 พ.ค. 50 12:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กราบอกผู้มีพระคุณทุกท่าน.. อยากขอบคุณ.. คุณกะลิอ่อง ที่ให้กำลังใจ คุณLiving Extreme เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมเครียด.. ยังไงขอให้โชคดีกับการสอบในวันนี้นะ เพี้ยง! คุณโยคะจัง ที่ช่วยสนับสนุนว่าReading นี่มันนรกจริงๆ!! คุณanjang (anchalee_kt) ที่เข้ามาชี้แนวทาง คุณTimeS-To-Enjoy วิธีของคุณมัน Work จริงๆ..ซูฮกๆ และขอบคุณ.. คุณJC2002 ที่เข้ามาแชร์ไอเดีย คุณWorking Girl และคุณproduction ที่ทั้งให้กำลังใจและชี้แนะ ตอนนี้ตั้งใจแล้วว่าจากวันนี้ไปจะขอแปลงร่างเป็นหนอน เพราะดูท่าน่าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้จับใจความแยกน้ำกะเนื้อได้ คุณyuy ชอบจังที่อุตส่าห์ให้กำลังใจทางอ้อม ตอนโพสกระทู้นี้ครั้งแรกตัวเราเองคิดอยู่เชียว ว่าเรานี่มันห่วยกว่าชิมแปนซีเดาอีก ..แบบว่าตรงใจ 555 คุณสีฟ้า (pickyman) ถึงตอนที่อ่านจะสอบไปแล้ว แต่ก็ทำให้เข้าใจซะทีว่ามันจะมานั่ง skim&scan กันทำไมว๊า.. อืม..อ่านแล้วถึงบางอ้อ มันมีเป้าหมายแห่งการฝึกฝนอยู่นี่เอง ไม่สายๆ จะจำไว้ใช้ ส่วนวันนี้ไปสอบมาแล้ว ปรากฎว่า.. ทำเวลาได้แบบทำลายสถิติเท่าที่เคยทำมา.. โอ้ว..จอร์จ ใครจะเชื่อว่าเราเนี่ยแหละ"ทำเสร็จก่อนเวลา!?!" คือหลังจากลองใช้วิธีคุณTimeS-To-Enjoy ฝึกในหนึ่งวันที่เหลือก่อนสอบ แล้วทำได้ดีขึ้น ทั้งเวลาทั้งคะแนน ก็คิดว่า เอาละ วีธีนี้แหละ ใช้ไปสอบโลด.. พอวันนี้ตอนสอบก็ทำตามแนวที่ตั้งใจไว้ ถึงจะลุ้นมากๆ แต่ก็ผลักมันจนทัน.. รู้สึกดีมากๆๆๆๆ แต่ก็เดาไปเยอะแหละ แหะๆ เอาเถอะยังไงก็หวังว่าคะแนนคงไม่น่าเกลียดนัก เรียกได้ว่าถึงสอบใหม่ก็ไม่เสียชาติสอบ 555 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. การใช้เวลากับการโพสเน็ตไม่ไร้ค่า เราดีขึ้น และคุณคือผู้ช่วยไว้ Thanks a lot !!!! จากคุณ : ยังคงตาแดง..ซึ้งใจ!! - [ 12 พ.ค. 50 17:17:03 A:125.27.131.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งได้มีโอกาสกลับมาดูกระทู้นี้อีกครั้ง ไม่ทราบว่าคะแนนเป็นไงครับ ถ้ายังไม่ได้เท่าที่หวังก็อย่าเพิ่งท้อนะครับ ผมใช้เวลาฝึก reading ทุกวันวันละ 2 รอบ เป็นเวลา เกือบ 1 เดือนแนะครับกว่าจะได้คะแนนแบบนั้น เมื่อรู้แนวทางการฝึกแล้ว ก็ต้อง ฝึก ฝึก และ ฝึก เท่านั้นแหละครับจึงจสำเร็จ แนะเพิ่มให้อีกครับว่า ถ้าฝึกจนชินกับวิธีที่ผมบอกในตอนแรกแล้ว จะพบว่าเราอาจสามารถเก็บความเข้าใจในแต่ละย่อหน้าได้ทั้งย่อหน้าพออ่านจบทั้งเรื่อง ก็มองโครงเรื่องออกได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นแล้ว เราอาจพัฒนาเทคนิคการอ่านให้ดีกว่าเดิมได้ โดยคุณสามารถฝึกโดดข้ามไปอ่านคำถามแบบ scan ได้เลยครับ โดยไม่ต้องรออ่านย่อหน้าต่อไป   ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในห้องสอบคือ.... *****พออ่านจบ 1 ย่อหน้า สิ่งที่ต้องได้แล้วตอนนี้คือ ความคิดที่ประมวณแล้วอยู่ในหัว คำศัพท์สำคัญถูกขีดเส้นใต้แล้ว note ที่เราเขียนไป 1-2 วลีสั้นๆที่จะเตื่อนความจำเราได้ว่าย่อหน้านี้เกี่ยวกับอะไร (เน้นว่า....ความสามารถ ณ ขั้นตอนนี้ คือหัวใจทั้งหมดของ Reading ต้องฝึกจนแข็งแกร่ง ก่อนจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างที่ผมกำลังอธิบาย)***** จากนั้น ไปอ่านคำถาม scan ทุกคำถาม !!! ต้องไว!!! เน้นว่าต้องไวนะครับ ไม่งั้นอาจจะอ่านย่อหน้าที่เหลือไม่หมด สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ คำถามเขาจะใจดีโดยเรียงลำดับคำถามสอดคล้องกับลำดับของย่อหน้าใน reading passage ครับ (คุณลองสังเกตุด้วยตัวเองได้ว่าจริงหรือเปล่า) ถ้าเป็นแบบนี้ เราเอาตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบได้ครับ สมมุติว่า passage แต่ละเรื่องมีคำถามประมาณ 12 ข้อ เขาก็จะทำการแบ่ง 6 ข้อแรกเป็นำถามประเภทนึง อีก 6 ข้อที่เหลือก็เป็นคำถามอีกประเภทนึง (ในกรณีนี้ถือว่ามีคำถาม 2 กลุ่มนะครับ)  สิ่งที่คุณสามารถทำได้แล้วได้เปรียบคือ พอคุณอ่านจบย่อหน้าแรก แล้วให้ไปอ่านคำถาม คุณอาจเน้นอ่านคำถาม 2 ข้อแรกของแต่ละกลุ่มคำถามให้ดีๆ แล้วอ่านข้อที่เหลือแบบ scan โดยอ่านแบบเพื่อให้รู้ว่าคำถามถามอะไรบ้างจะได้เอาไปใช้เป็นความคาดหวังเวลากลับไปอ่าน passage !!!!!! เทคนิคนี้มีประสิทธิภาพมากๆ!!! ถ้าคุณตอบคำถามได้ ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็อย่าท้อ คุณก็กลับมาอ่านย่อหน้าต่อไป แต่ตอนนี้ในหัวคุณจะจำคำถาม 2-3 ข้อแรกของในแต่ละกลุ่มคำถามได้แล้ว หรือหมายความว่า คุณอาจจำคำถาม 4-6 คำถามได้ทั้งหมด ความสามารถในการจำคำถามได้นี่แหละที่จะทำให้คุณรู้ว่าการอ่านย่อหน้าต่อไปคุณจะมองหาอะไร  ให้คุณฝึกทำแบบนี้ในการอ่านแต่ละย่อหน้า (ย่อหน้าไหนสั้นก็รวบมันไปรวมกับย่อหน้าอื่นก็ได้) จนชิน โดยใช้คำถาม 2-3 ไปเป็น guide เสมอ รับรองว่าได้ไม่ต่ำกว่า 8 แน่นอน  (ถ้ามีการตอบคำถามได้ ก็ให้จำคำถามเพิ่มใหม่เพื่อมาทดแทน) ผมเน้นนะครับว่าให้ฝึกจนชินนะครับ ถ้าไม่ฝึกจนชิน เราอาจจะทำให้ตัวเองเสียเวลาในห้องสอบได้ แล้วจะ งง ไปหมด ฝึกจนชินนี่ ผมว่าถ้าพื้นภาษาและคำศัพท์คุณพอได้ แค่ 7 วันฝึกทุกวัน ผมว่าคุณจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนแล้วหละ หากสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม msn คุณกันได้ครับ kpongsakk@hotmail.com จากคุณ : TimeS-To-Enjoy - [ 3 มิ.ย. 50 17:38:22 ]