Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    @@@ประสบการณ์สัมภาษณ์ US Visa ที่เจียงใหม่(โดยละเอียด)เจ้า@@@

    ก่อนอื่น ขอขอบคุณคุณSusie มากๆนะคะ สำหรับBlog ที่เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่เตรียมตัว
    สัมภาษณ์วีซ่าUS เพราะว่าก็ได้Blogของคุณ Susie นี่แหล่ะค่ะ ให้คำแนะนำในการเตรียมตัว ไปสัมภาษณ์มาวันนี้แล้วก็ผ่านค่ะ
    วันนี้ไปสัมภาษณ์ที่กงสุลเชียงใหม่ เพราะเป็นคนที่นี่ค่ะ อยากมาบอกถึงประสบการณ์การสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่
    บ้าง เพราะเชื่อว่ามีคนภาคเหนือหลายคนที่ พยายามหาข้อมูล แต่ว่าที่ประสบปัญหากับตัวเองคือ อ่านแล้วส่วน
    ใหญ่จะเป็นของกรุงเทพค่ะ ซึ่งเด็กบ้านนอกคนนี้ นึกภาพไม่ออกค่ะ ดังนั้น เมื่อได้วีซ่า แล้วก็อยากจะให้
    ประสบการณ์กับคนอื่นบ้าง เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์กับคนที่จะไปสัมภาษณ์ที่กงสุลเชียงใหม่บ้าง (ถ้าคุณ
    Susie จะเอาไปลง Blog ของคุณ Susie บ้าง ก็ยินดีากเลยค่ะ แฮ่ะๆ อยากเป็นคนดังเหมือน คุณ Susie
    บ้าง) พร่ามมาเยอะแล้ว เข้าเรื่องเลยนะคะ
    ขั้นตอนแรกๆ ก็เหมือนทั่วๆ ไปค่ะ ไปซื้อ Pin มาแล้วก็จองวันสัมภาษณ์ จองไว้วันที่ 23 พค.ตอน 10 โมงค่ะ
    ระหว่างนั้น ก็เตรียมเอกสาร มีเวลาประมาณ เกือบๆ 3 อาทิตย์ในการเตรียมค่ะ ขอบอกค่ะว่า ต้องพิมพ์
    แบบฟอร์มDS-156 และ 157 ซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็น 10 รอบค่ะ เพราะว่าดูๆ ไปเดี๋ยวก้ต้องแก้นั่นแก้นี่ ที่สำคัญ
    DS-156 พอลองดูก่อนพิมพ์ออกมาแล้ว หากเจอที่ผิด กลับไปแก้ต้องพิมพ์ใหม่หมดค่ะ รวมๆ แล้วก็เลยเป็น
    10 รอบค่ะ
    โอเค เช้าวันสัมภาษณ์ค่ะ ก็ตื่นแต่เช้า ไหว้พระประจำบ้าน,เจ้าที่เจ้าทาง,เรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ก็
    อัญเชิญมาฟังให้หมดค่ะ แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวให้ดูดี ก่อนออกจากบ้านก็ไหว้แม่ขอพรจากแม่ค่ะ แล้วก็กะไปให้ถึง
    กงสุลประมาณ 8.30ค่ะ แต่เอาเข้าจริงไปถึงประมาณ 8.45 ที่เชี่ยงใหม่นะคะ ถ้าเอารถยนต์ไป จะมีซอยข้าง
    กงสุล (เข้าได้ 2ทาง-หน้าสถานีดับเพลิง -ด้านข้างอีกด้านฝั่งถนนติดแม่น้ำปิงค่ะ) เข้าไปแล้วจะมีลานที่บริการที่
    จอดรถ 20 บาทค่ะ แล้วคุณก็ต้องเดินอ้อมไปไปเข้าประตูทางเข้าซึ่งไกลพอสมควรค่ะ พอถึงทางเข้าก็บอกพี่ยาม
    ว่ามาสัมภาษณ์วีซ่า เค้าก็จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ข้างในเปิดประตูเหล็กให้ค่ะ เข้าไปสมรภูมิแรกก็จะเป็นห้องเย็นๆ ที่มี
    เครื่องสแกน ก็เอาสัมภาระทั้งหมดใส่ตะกร้าเข้าเครื่องสแกน ตัวเราก็ถอดเข็มขัด นาฬิกา ที่เป็นโลหะก่อนผ่าน
    เครื่องสแกนค่ะ แล้วเค้าก็จะขออนุญาต เปิดกระเป๋าเราดูค่ะ แล้วเค้าก็จะเก็บอุปกรณ์ที่เป็นอีเล็กทรอนิคส์ทั้งหมด
    ไว้ แล้วก็ให้บัตรแลกคืนไว้เหมือนฝากกระเป๋า (ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนเลยค่ะ) แล้วเค้าก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้
    เปิดประตูเหล็ก(อีกแล้ว) เพื่อที่เข้าไปด้านในเพื่อที่จะไปเจอ"สาวเสื้อแดง" ซึ่งบริเวรนี้จะเป็นเหมือน บริเวรเล็กๆ
    (ติดประตูเลยค่ะ )ร้อนไม่มีแอร์ค่ะ เข้าไปถึงให้แน่ใจว่าอยู่หลังคนที่เค้ากำลังตรวจเอกสารอยู่นะคะ เด็กบ้านนอก
    โดนดุค่ะให้ต่อด้านหลังค่ะ (พอดีไปถึงมีคนก่อนหน้าแค่คนเดียว แล้วเค้ายืนเยื้องๆ ไม่ตรงแผงเหล็กกั้น ที่ทำ
    คล้ายๆ ซื้อตั๋วหนังค่ะ เราก็ไม่แน่ใจว่าตกลงแถวอยู่ตรงไหน ก็รออยู่เพราะเค้ายืนเหมือนจะออกไปสู่อีกสมรภูมิ
    หนึ่ง ) แล้ว"สาวเสื้อแดง" (เธอใส่แว่นด้วยค่ะ) ก็จะทำหน้าเครียส เรียกให้คุณวางเอกสาร ตรงนี้เธอต้องการแค่
    1. พาสปอร์ต
    2. ฟอร์ม DS-156-157
    3. ใบเสร็จและใบสีฟ้าๆ เวลาจ่ายค่าธรรมเนียม ใช้2ใบค่ะ
    4.ใบนัด
    5. ซอง
    เอาแค่นี้จริงๆ แล้วเค้าก็จะตรวจเอกสารเบื้องต้นให้ ว่ากรอกถูกไหม (โดนแก้ไป2ที่ค่ะ)
    1. ในDS-156 ข้อ2 จังหวัดที่ออกพาสปอร์ตให้ ให้ทุกคนใส่ Bangkok นะคะ ไม่ว่าจังหวัดไหน ก็ออกจาก กรุงเทพค่ะ (เห็นโดนแก้กันหมด)
    2. DS-157 รายชื่อประเทศที่เคยออกพาสปอร์ตให้ Thailand ค่ะ ไม่รู้ลืมไปได้ไง โง่จริงๆ ค่ะ
    แล้วเค้าก็จะเอาบัตรคิว(เหมือนธนาคารค่ะ) แล้วพูดเร็วมากๆ ประมาณว่า
    "เชิญนั่งด้านในรอตรวจเอกสารที่ช่อง 1 เลยนะคะ" ได้ยินไม่ชัดเพราะเร็วค่ะ แต่น่าจะประมาณนี้ ก็เอาใบนัดมา
    อย่างงงๆ ว่าไอ้ที่ได้ยินน่ะ อะไรไม่รู้ช่อง1 สักอย่าง แล้วก็เดินเปิดประตูเข้าไปสู่สมรภูมิที่ 3ค่ะ เป็นห้องที่มีประตู
    ไม้สูงๆ ที่เดาว่าสามารถเปิดได้คล้ายประตูเหล็กมีคนนั่งรออยู่ด้านใน ประมาณ 10 กว่าคนค่ะ เก้าอี้เป็นคล้ายๆ
    โซฟารับแขกผ้ากำมะหยี่ สีส้มๆแดงๆ ลาย เก่าๆ ค่ะทุกตัวหันหลังให้ ช่อง สัมภาษณ์ 3 ช่อง ทุกตัวหันไปทางทีวี
    ตั้งอยู่ตรงกลาง ฝั่งตรงกันข้ามกับบริเวรที่สัมภาษณ์ แต่เค้าไม่ได้เปิดทีวีนะคะ อ้อ มีห้องน้ำอยู่ด้วยค่ะ ไม่ต้องอั้น
    ค่ะ จากนั้นก็รอคิวเรียกจากมุมห้องด้านบนเกือบติดเพดาน ดูหมายเลขแล้ว เบอร์ 19 กำลังตรวจเอกสาร ระหว่าง
    นั้น ก็จะได้ยินบทสนทนา,บทสัมภาษณ์ ต่างๆ กันไปค่ะ ไม่ได้แอบฟังค่ะ มันได้ค่อนข้างชัดเลยค่ะ (ส่วนตัว
    พยายามจะหาคนคุยด้วยค่ะ เพราะถ้าไม่ได้พูดกับใครเลย เสียงจะไม่มีค่ะ แล้วมันจะเกร็ง ก็เลยพยายามพูดกับคุณ
    ลูกกับคุณพ่อ ข้างๆ แต่เด็กไม่ค่อยรักค่ะ เด็กกลัว555) ช่องที่ 1 หมายเลขจะเรียงลำดับค่ะ คนเช็ควันนี้เป็นผู้หญิง
    พูดดีค่ะ ไม่ซีเรียสเป็นกันเองดีค่ะ เพราะจะเป็นแค่เช็คเอกสารเพิ่มเติม ณ จุดนี้นะคะ พยายามส่งทุกอย่างที่คิดว่า
    เค้าควรจะดูให้ไปให้หมดค่ะ เช่น จดหมายรับรองจากที่ทำงาน(เป็นครูรร.นานาชาติค่ะเงินเดือน หมื่นกว่านิด
    หน่อย,จม.เชิญจากเพื่อนฝรั่งที่เคยทำงานด้วยกัน, สัญญาการทำงานปีหน้า,ทะเบียนบ้าน,สมุดธนาคารมีโชว์ 3
    แสนค่ะ ขอยืมคุณหญิงแม่มาค่ะ เพิ่งเข้าแบ้งค์ไว้ไม่เกิน 2อาทิตย์,แบ้งค์สเตทเม้นท์,พาสปอร์ตเก่า, พอดีมีกิจการ
    ส่งครูฝรั่งไปสอนตามบ้านค่ะ แต่ไม่สามารถจดทะเบียนธุรกิจได้ เพราะไม่เข้าประเภท เลยไม่ได้จดทะเบียน เลย
    ต้องหอบเอกสารทั้งหมดไปด้วยปึกใหญ่ พร้อมรูป แต่เค้าไม่เอาเลยค่ะ เค้าว่าแค่นี้ก็โอเคแล้ว (ขอแนะนำว่าถาม
    ได้ค่ะว่าจะเอานั่นนี่ หรือไม่ เค้าจะยิ้มพูดจาด้วยดีค่ะ ที่สำคัญอู้กำเมืองได้ตวย) เตรียมไปเยอะค่ะ แต่ก็เอาไปใช้
    ประมาณ 60% แต่เค้าไม่ได้ถามหาใบจองตั๋วเครื่องบินค่ะแต่เตรียมไว้เถอะค่ะ แล้วเค้าก็จะให้ไปนั่งรอเรียกอีกที
    ค่ะ แล้วก็ไม่นานเลยค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเอกสารค่อนข้างพร้อม แล้วก็หมายเลขเรา ช่อง 2 (เอาแร้วสิตู)
    ตื่นเต้นนิดหน่อย ว่าจะเจอใคร
    เคยได้ยินมาว่ามี
    1.คุณลุงฝรั่ง (วันนี้ไม่เห็นค่ะ)
    2.หนุ่มฝรั่งหล่อๆ (เห็นค่ะเพราะมีช่วงหนึ่งที่เค้าเดินมาปรึกษา หนุ่มหน้าเอเชีย ก็เลยได้เห็น ขอบอกว่าไม่ถึงกับ
    หล่อค่ะ คาดหวังไว้เยอะใครๆ บอกหล่อมาก)
    3. หนุ่มหน้าเอเชีย ไม่ขาวนะ ตอนแรกนึกว่าคนไทยค่ะ (คนนี้คนอื่นคิดยังไงไม่รู้ แต่เราว่าน่ารักค่ะ สเป๊ก555)
    4. คนไทย (อันนี้เท่าที่เคยได้ยินเดาว่า น่าจะหมายถึงสาวมนุษยสัมพันธ์ดี ในช่อง 1มากกว่าค่ะ)

    ช่องที่ว่าเป็นช่องกระจกเหมือนขายตั๋วหนังเมเจอร์(เชียงใหม่)ค่ะ(เด็กบ้านนอกไม่แน่ใจว่ากทม.จะเหมือนกันไหม)
    แต่กระจกต่ำกว่า มีช่องพอให้ลอดเอกสารได้มืดๆ นิดหนึ่งค่ะ

    ไปปรากฏว่าเป็นหนุ่มหน้าตาเอเชียไม่รู้ชาติอะไร แต่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน(พิมพ์ภาษาอังกฤษไว้ตอนท้ายด้วยค่ะ เพื่อเอาไว้ซ้อมกัน ต้องบอกก่อนว่ามันประมาณนั้นนะคะ แต่ไม่ใช่ทุกคำพูด เอาเท่าที่จำได้ค่ะ)

    เค้าก็ยกมือไหว้ด้วยแล้วบอก
    เค้า-สวัสดีครับ
    เรา-สวัสดีค่ะ
    "วางนิ้วชี้ซ้ายครับ" สำเนียงแปร่งๆ (อ้อ คนที่เค้าพูดถึงนี่เองที่ว่า น่าจะเป็นคนญี่ปุ่น)
    "วางนิ้วชี้ขวาครับ"
    เค้า-(อังกฤษ)พูดภาษาอังกฤษได้ไหม
    เรา-ได้ค่ะ
    เค้า-คุณจะไปอเมริกาเพื่ออะไรครับ
    เรา-ไปเที่ยวบ้านเพื่อน แล้วก็ไปเจอครอบครัวเพื่อนค่ะ แล้วก็อยากเจอลูกเพื่อนด้วย ไม่ได้เจอนานค่ะ (เพื่อนฝรั่งผู้หญิง ชาวอเมริกันแต่งงานกับคนไทย มีลูกแล้ว ทำงานที่รร.นานาชาติแถวๆ พัทยาค่ะ)
    เค้า-คุณจะไปส่วนไหนของอเมริกา
    เรา-ซานฟรานซิสโกค่ะ
    เค้า-เมืองที่คุณจะไปอยู่ใกล้หรือว่าอยู่ในซานฟรานฯ เหรอเปล่าครับ
    เรา-อืม..ไม่แน่ใจค่ะ ไม่เคยไป เพื่อนบอกมาอย่างนั้น
    เค้า-คุณรู้จักกับเพื่อนคุณได้ยังไง
    เรา-เราเคยทำงานด้วยกันที่โรงเรียนค่ะ(ตอนนี้จำได้ว่าตื่นเต้นค่ะ พูดผิดๆ ถูกๆค่ะ)
    เค้า-แล้วตอนนี้เพื่อนคุณอยู่ไหน
    เรา-เค้า ย้ายไปทำงานที่รร.นานาชาติ ที่พัทยากับสามีกับลูกเค้าค่ะ
    เค้า-แล้วคุณก็เป็น"ก๊อด มาเตอร์" (อันนี้เพื่อนเขียนในจม.เชิญให้ว่าเป็นค่ะ ไม่ได้เป็นคริสเตียนค่ะ แต่ก็มีความผูกพันกับเด็กมาก พ่อเค้าเป็นคนไทย ก็เลยรับปากเค้าว่าจะดูแลลูกเค้าให้ถ้าแม่เค้าเป็นอะไรไปแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทย)
    เรา-ใช่ค่ะ เพื่อนเค้าอยากจะแน่ใจว่ามีใครดูแลลูกเค้าหากลูกเค้าจะต้องอยู่เมืองไทย
    เค้า-เข้าใจครับ ขอดูรูปหน่อยได้ไหมครับฃ
    เรา-ได้ค่ะ (ในใจคิด ดีนะ เตรียมอัดรูปมา แล้วส่งให้เค้า) เค้าก็ดูแล้วถามว่าคนไหนแซลลี่ เตรียมไปประมาณ 10 กว่ารูปค่ะ แต่ดูนิดเดียวเอง เหมือนพอเป็นพิธี)
    เค้า-น่ารักนะครับ (หมายถึงลูกเพื่อนน่ะค่ะ อยากจะเอาเข้าตัวอยู่เหมือนกัน คริคริคริ) คุณทำงานที่นี่นานเท่าไหร่แล้วครับ
    เรา-5ปีค่ะ
    เค้า-คุณจะไปเป็นเวลา 5 สัปดาห์.แล้วกลับวันที่ 10 สค.ใช่ไหมครับ
    (ตอนแรกคิดว่าเค้าจะถามเกี่ยวกับวันเพราะใบรับรอง บอกว่าต้องเริ่มงานวันที่ 6สิงหา แต่จม.เพื่อนดันเขียนว่า จะกลับวันที่ 10สค. แต่จริงๆ แล้วเค้าไม่ได้ดูด้วยซ้ำ เค้าถามเพราะว่าเค้าให้วีซ่าแล้ว แต่จะดูวันที่จะให้กลับมารายงานตัวต่อกงสุล)
    เรา-(พยายามตอบให้ดูดี) ตอนแรกวางแผนว่าจะกลับมากับเพื่อนวันที่ 10 แต่ต้องกลับมาก่อน คงจะเป็นวันที่ 6 สค.ค่ะ
    เค้า-ผมอยากให้คุณกลับมา (ได้ยินแค่นี้ก็ใจแป้วคิดว่านี่ชั้นจะต้องเอาอะไรมาให้อีกงั้นเรอะ คงไม่ได้ล่ะมั้ง) เพื่อที่จะมารายงานตัวตอนขากลับจากอเมริกา
    เรา-อะไรนะคะ หมายความว่าไงนะคะ (เพราะคิดว่าถูกปฏิเสธวีซ่า ใจเสียเลยได้ยินไม่ชัดค่ะ)
    เค้า-เราจะออกวีซ่าให้คุณ แต่อยากจะขอให้คุณกลับมารายงานตัวกับกงสุลอีกครั้งตอนคุณกลับมาจากอเมริกา คุณจะมาวันที่ 13 สิงหาได้ไหมครับ (ได้ยินชัดแล้วค่ะ ดีใจค่ะ)
    เรา-อ๋อ แน่นอนค่ะ
    เค้า-(ยื่นเอกสารที่ใช้ประกอบทุกอย่างคืน แล้วพูดว่า)
    "ขอบคุณครับ"
    เรา-(เก็บของ) ขอบคุณค่ะ
    เยยยยยยยยยยยย้ ได้แล้วววววววว

    จากคุณ : InterPig - [ 24 พ.ค. 50 05:50:27 A:203.154.83.36 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom