Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    การสร้างพยานหลักฐานสำหรับผู้ที่ถูกสามี abuse

    กระทู้นี้สำหรับคนที่คิดว่าทนอยู่กับสามีไม่ไหวแล้ว กำลังมองหาทางหนีทีไล่
    ส่วนคนที่ไม่มีปัญหา หรือยังมาไม่ถึงขั้นนี้ ก็ศึกษาไว้เป็นความรู้
    เผื่อไปเจอะเจอใครที่กำลังตกที่นั่งอย่างนี้จะได้ช่วยแนะนำกันไปค่ะ

    เนื่องจากส่วนมากปัญหาเกิดระหว่างที่ยังไม่ได้กรีนการ์ดถาวร เพราะฉนั้น
    จึงเป็นการคาบเกี่ยวกันระหว่างเรื่องอิมมิเกรชั่น กับเรื่องหย่า
    สิ่งที่อยากแนะนำคือ พอเริ่มเห็นปัญหา แทนที่จะระบายด้วยคำพูดทางโทรศัพทฺ์
    ให้เขียนอีเมล์แทน เพราะคุณต้องสร้างพยานหลักฐานว่า คุณโดนสามี
    abuse จริง กรณีที่สามีควบคุมการติดต่อพูดคุยกับคนอื่น ไม่ให้เงินใช้ ฯลฯ
    เหล่านี้ไม่มีหลักฐานเป็นวัตถุ คุณต้องใช้พยาน เพราะฉนั้นเล่าให้เพื่อนฟัง
    หรือเล่าให้ใครฟัง ก็ต้องเกริ่นกันไว้ก่อนว่าอาจจะต้องขอให้เป็นพยานให้
    ด้วยนะ

    ในเชิงกฏหมาย อีเมล์สามารถใช้เป็นหลักฐานได้  ดังนั้นทางที่ดี
    แอบเปิดอีเมล์ใหม่ ใช้ username & password ที่สามีเดาไม่
    ออกแน่ๆ   อีเมล์นี้เอาไว้สำหรับเฉพาะกิจเท่านั้น  แล้วก็ยอมเสียเวลาพิมพ์
    username & password ทุกครั้ง *อย่า*ไปเซ็ทให้คอมพิวเตอร์จำ
    username & password เพราะสามีคุณอาจจะมาเห็นเข้า
    คุณจะเป็นอันตรายได้ เพราะธรรมชาติของคนที่ชอบบงการชีวิตคนอื่น
    ถ้ารู้ว่ากำลังจะสูญเสียอำนาจ มักจะรับไม่ได้ ทีนี้ ถ้าไม่ใช้น้ำตา
    (ผู้ชายนะคะ..) ก็ใช้กำลัง

    อีเมล์ที่ส่งไปแล้ว ให้เก็บไว้ อย่าเผลอไปลบทิ้งเด็ดขาด ถ้าคุณต้องทำเรื่อง
    ถอดถอนเงื่อนไข หรือขอกรีนการ์ดด้วยตอนเองเนื่องจากเป็นเหยื่อของ
    domestic abuse คุณต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรงนี้จะเป็นประโยชน์
    กับรูปคดีของคุณ  อีเมล์เขียนเป็นภาษาไทยก็ได้  (ถ้าสามีห้ามเขียนภาษาไทย
    ก็ให้แก้ตัวไปว่าทางเพื่อนๆ อ่านภาษาอังกฤษ
    ไม่แตกฉานเท่าไหร่) แต่บันทึกคำให้การของพยาน
    ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะคะ  เล่าไปให้หมด เขียนเป็นแบบไดอารี่เลยก็ได้
    แล้วค่อยมาสรุปเป็นคำให้การของพยานแต่ละคน

    พยานจะเป็นใครก็ได้ แต่ควรเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ
    ไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือยาเสพติด พยานที่มีน้ำหนักดีมากคือพยานที่
    เป็นสมาชิกในครอบครัวของสามีคุณ เพื่อนร่วมงานของสามี หรือเพื่อนบ้าน
    แต่ถ้าคุณมีแต่เพื่อนคนไทยก็ไม่ต้องกลัวค่ะ ตราบใดที่คุณพูดความจริง  
    จากประสบการณ์ ถ้าหลักฐานอื่นแน่นหนา เช่น พิสูจน์ได้ว่า
    คุุณแต่งงานด้วยเจตนาดี ไม่ได้หวังกรีนการ์ด แต่งแล้วก็อยู่กินด้วยกันจริง
    ทาง USCIS ไม่โทรมาเช็คกับพยานเลยด้วยซ้ำ  

    ไม่ต้องกลัว ถ้าสามีขู่ว่าจะแจ้ง เอฟบีไอ  เพราะคนละหน่วยงานกัน
    และถ้าคุณไม่ได้ไปทำผิดกฏหมายอะไร เอฟบีไอไม่มาตามจับคุณหรอกค่ะ  
    ที่ดิฉันบอกว่า อย่าไปทำลายข้าวของในบ้าน ก็เพราะถ้าคุณหนี
    สามีอาจแจ้งความว่า คุณทำลายทรัพย์สิน หรือขโมยได้  

    นอกจากนี้ สามีคุณจะทำได้อย่างเดียวคือ ถอนการเป็นสปอนเซ่อร์
    ซึ่งการนี้สามารถแจ้งทางโทรศัพท์ได้ แต่ถ้าสามีคุณไม่ทราบ  เอ นัมเบอร์
    สามีคุณจะไม่สามารถแจ้งถอนการเป็นสปอนเซ่อร์ได้ เพราะฉนั้น
    เก็บเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับอิมมิเกรชั่นของคุณเอาไว้ให้ดี  
    ถ้าการถอดถอนเงื่อนไขของคุณได้รับการพิจารณาอนุมัติ ถึงตอนนั้น
    คุณไม่ต้องมีสามีเป็นสปอนเซ่อร์แล้วค่ะ  

    ตั้งสติและควบคุมความรู้สึกให้ดี  อย่าชักสีหน้า มารยาหญิงห้าร้อยเล่มเกวียน
    ขนมาใช้บ้างให้ศัตรูตายใจ อย่าวู่วามใช้อารมณ์  เวลาคุณโกรธ
    คุณจะขาดสติ มีโอกาสที่จะเผลอพูดหรือทำอะไรลงไป
    ที่อาจเป็นผลเสียกับตัวเอง  เริ่มสร้างพยานเสียตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอจนจะหนี
    วันนี้พรุ่งนี้แล้ว ถึงค่อยทำ หลักฐานเหล่านี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์กับคุณ
    ในเคสของอิมมิเกรชั่นแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในการหย่าด้วยค่ะ

    เดี๋ยวพรุ่งนี้มาคุยต่อใหม่ค่ะ

    จากคุณ : Lawanwadee - [ 17 มิ.ย. 50 15:42:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom