ความคิดเห็นที่ 1 คนสถานทูต มี Protection มี Immunity อย่าไปมีเรื่องมีราวเป็นดีที่สุด ยิ่งเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ค่ะ จากคุณ : yuy - [ 18 มิ.ย. 50 17:12:02 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รายงานไปที่สถานทูตเลยครับ ให้ทางนั้นเค้าจัดการเลย พี่เป็นตม.น่าจะพูกับสถานทูตได้ง่าย จากคุณ : ttyl - [ 18 มิ.ย. 50 17:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รวมทั้ง "คนไทย และ คนต่างชาติ" มันอยู่ที่นิสัยส่วนตัวของแต่ละคน... ที่ไร้ซึ่ง กาละเทสะ ในกรณีที่เป็นคนต่างชาติโดย ส่วนหนึ่ง... คิดไปเองว่า จึงอยู่เหนือ ระเบียบ วินัยต่างๆที่ควรพึงปฏิบัติ ถ้าคนไทย หรือ คนชาติอื่นๆ ไปทำแต่งตัวเสร่อแบบนั้น (ในบางสถานที่ต้องมีหลักการแต่งตัวเพ่อเคารพให้เกียตริสถานที่) ... จะโดน จนท. ของสถานที่นั้น วิจารณ์แน่นอน คุณสามารถติดต่อไปยังสถานฑูตได้... คุณจะไม่มีผิด ไม่เสียชื่ออะไร.. ในการที่คุณเอาใจใส่กับระเบียบ วินัย อย่างต่อเนื่อง... นั้นดีแล้ว... ไม่ต้องไปกลัวว่า ทางสถานฑูตจะเหนือกว่าหรืออะไรก็ตาม... เพราะที่ คนนั้นได้ท้าคุณ โดยลืมตัวไปว่า เขากำลังใช้สิทธิอำนาจ(เล็กๆน้อยๆ) ในทางที่ผิด คุณร่างจดหมายแบบให้เป็นทางการ ในฐานะที่คุณเป็น จนท. คนหนึ่ง ที่รู้สึกได้ถึงการแต่งตัวของจนท. สถานฑูตนิวซีแลนด์ ชื่อ.............   "ไม่เคารพ ไม่ให้เกียตริของสถานที่ราชการ" ของคนนั้น จึงใคร่ที่จะส่งคำร้องไปยังผู้ที่รับผิดชอบในการ ตรวจดูแล อบรม จนท.ของสถานฑูต ให้กรุณาช่วยปรับปรุง ในการให้เกียตริต่อสถานที่ราชการไทย ที่คนทุกคนควรพึงปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม จึงเรียนมาเพื่อทราบ ลงชื่อคุณ (เราร่างคร่าวๆ คุณไปขัดเกลา เพิ่มเติมใส่รายละเอียดของวันที่เกิดเหตุเองนะคะ) มันจะไม่ทำให้คุณต้องถูกไล่ออกหรอกค่ะกับเรื่องแบบนี้ ถ้าคุณส่งจดหมายร้องเรียน แบบ "ติเพื่อก่อ" ในทางให้ปรับปรุง และ ทางผู้ใหญ่ทางโน้นได้รับทราบไว้ คนที่ไม่คิดจะทำ คือคนที่ไม่จะปรับปรุง.. แต่คุณคือคนหนึ่งที่ต้องการปรับปรุงในทางที่ดี เอาใจช่วย แก้ไขมีสะกดผิด แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 18:32:15 จากคุณ : JidNince - [ 18 มิ.ย. 50 18:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาแอบดูค่ะ จากคุณ : ตั๊กแตนบินได้ (ตั๊กแตนบินได้) - [ 18 มิ.ย. 50 19:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดีแล้วล่ะ ประเทศของเรา ให้รู้ซะมั่งว่าไผเป็นไผ กฎเป็นกฎ ถ้าคนไทยแต่งแบบนั้นไปติดต่อสถานที่ราชการไม่ได้ ฝรั่ง แขก จีน ลาว ก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็อะนะ มันวันอาทิตย์ ถ้าพูดดี ๆ ก็อนุโลมได้ นี่ดันมาขู่ซะนี่ ยังงี้ต้องสวนกลับ ถูกต้องแล้ว จากคุณ : micky - [ 18 มิ.ย. 50 20:56:18 A:58.8.9.190 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราไม่ทันได้ดูชื่อเค้านะซิ..he มา say sorry แล้วก็พูดๆๆๆ แล้ว he ก็เดินจากเราไปดุจสายลม....พี่ที่เป็นsecure เค้ามาเล่าให้ฟังว่าพอเค้าเห็นเค้าก็เตือนว่าทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้มา..มันก็ยังเถียงเค้าอีกว่า..ให้โทรไปหาสถานทูตมั๊ย..โหย....เซ็งปี๊ด...เค้าก็บอกว่าได้แค่นี้เหมือนกันเพราะนายเค้ากับนายเราไม่เอาด้วย....ไม่อยากให้ไปยุ่ง ไม่อยากมีปัญหา.. เราก็เบื่อคำๆนี้เหมือนกัน..ทุกวันนี้จะทำอะไรก็ตาม เวลามีปัญหากับผู้โดยสาร ทั้งๆที่เราไม่ผิด เราเป็นเจ้าพนักงาน มีอำนาจหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายกลับต้องยอมให้ผู้โดยสารโขกสับ..เพราะไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากโดนร้องเรียน...บางเรื่องเราก็เหลือทนจริงๆนะ เพราะคนที่มีตังค์ขึ้นเครื่องก็ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป..ผู้โดยสารบางคนนะ..คิดว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่สายการบินซะงั้น...มีการใช้ให้ทำโน้น ทำนี้ ขู่สารพัด..เบื่ออออออมาก เฮ้อ....ต้องการกำลังใจอย่างแรง... ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคนมากนะ..ที่เข้ามาช่วยเหลือและแชร์ความรู้สึก...เราก็จะสู้ต่อไป..ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน...ถ้ามีใครมาทำแบบนี้อีกเราก็พอจะตั้งหลักได้แล้วแหละว่าต้องทำยังไง ถ้าใครมีคำถามจะถามเรื่องเกี่ยวกับตม.ก็ถามเราได้นะ...ถ้าได้เข้ามาเล่นเนตจะตอบให้..ปกติก็เข้ามาอ่านเรื่อยๆแหละ แต่ไม่เคยมีกระทู้เป็นของตัวเองซักที..พอมีก็เป็นเรื่องแย่ๆซะงั้น... ยังไงก็ขอบคุณนะค่ะ...สู้ๆ จากคุณ : IAM-IAM (IAM-IAM) - [ 18 มิ.ย. 50 21:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นานๆ ได้เห็น ตม. เข้ามาระบายความอึดอัดใจ ก็เห็นใจครับ  เดือนสิงหานี้ เมื่อผมต้องผ่าน ตม. ที่สุวรรณภูมิ ผมก็จะคำนึงในข้อนี้ไว้ ในกรณีนี้ ในมุมมองของผม ผมว่าเขากลับมา "ขอโทษ" นะ (เป็นกีวีคงใช้สำนวนอังกฤษแบบบริทิช ฉะนั้น  I am sorry = ผมขอโทษ) แสดงว่าเขารู้ตัวว่า ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม และไม่อยากมีเรื่องราวต่อไป ถ้าเป็นผม ขยะอารมณ์อะไรที่พอจะเท ๆ ทิ้งไปได้ ก็อย่าเก็บใส่สมองให้เหม็นเลยครับ เข้ามาคุยระบายถ้าสบายใจขึ้นแล้ว ก็ let bygone be bygone แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 22:40:19 จากคุณ : นายคลิค - [ 18 มิ.ย. 50 22:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 I think you are overreacting. จากคุณ : genf - [ 18 มิ.ย. 50 22:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเราออกความเห็นไม่เหมือน และ ไม่คล้อยตาม และ ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง กรุณาอย่าด่านะคะ เราว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยค่ะ เราไปขอวีซ่า ตามถานทูด ก็ใส่แตะคีบ สายเดี่ยว นุ่งผ้าซิ่นค่ะ จนท. ไม่เคยไม่ออกวีซ่าให้ และ ไม่เคยถูกห้ามไม่ให้เข้าไปติดต่อ ที่สถานทูดไหนเลยค่ะ แอร์โฮสเตสของสายการบินฝรั่ง หลายๆ สาย แต่งตัว ทำผม แต่งหน้า ไม่ได้มาตรฐานของการบินไทยสักนิดเลย แต่เขาก็ปฏิบัติหน้าที่กันได้ดีนะคะ ดิฉันเคยเจอแอร์ฯ สายการบินฝรั่ง ที่ทำผมถักเปียทั้งศีรษะ พร้อมใส่ลูกปัดหลากสี อีกหนนึงเคยเจอแอร์ฝรั่ง ที่ไว้ผมทรงเดียวกับสุนัขพันธ์พุดเดิ้ลเปี๊ยบค่ะ เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึงกระทู้ที่ห้องสวนลุมนะคะ ที่มีคุณหมอท่านหนึ่งที่ห้องนั้นเคยมา Post เรื่องที่ว่า ถ้าคนไข้แต่งตัวดี ก็จะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากคุณหมอค่ะ ดิฉันว่า ตม.ไทย ตั้งใจทำงานกันดีกว่านะคะ กรุณาอย่าใส่ใจ กับเรื่อง การแต่งกาย เรื่อง Grooming ของคนอื่นเขาดีกว่าค่ะ ตม. ปฏิบัติราชการก็จริง แต่วันอาทิตย์ เป็นวันหยุดราชการตามกฏหมายนะคะ ไม่ได้เข้าข้างฝรั่งคนนั้น และ ไม่ชอบฝรั่งที่กร่างกับคนไทยค่ะ แต่ Point ก็คือ ไม่อยากให้ ซีเรียสกับ "เปลือก" กันจนเกินไปค่ะ   ++++++++++++++++++++++++++++ ปล. ขอเรียนให้ทราบว่า ไม่ได้เข้ามาด่า หรือ ว่าใครทั้งนั้นนะคะ แต่แค่เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ   Best wishes.   จากคุณ : Siamese Girl - [ 18 มิ.ย. 50 23:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นดว้ยกับความคิดเห็นที่7-8-9ค่ะ จากคุณ : คิดดีแล้ว - [ 19 มิ.ย. 50 00:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "เราก็ถามกลับว่า แล้วไง...เพราะเราคิดว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ผิด..เค้าต้องรู้ธรรมเนียม มารยาทของคนในสังคมไทย..แต่งตัวแบบฝรั่งเดินเล่นแถวตรอกข้าวสารเข้ามาติดต่อตม.เนี๊ยะนะ..อยากรู้จริงๆเลยว่าเวลาทำงานเนี๊ยะ คนที่สถานทูตเค้าก็แต่งตัวกันง่ายๆแบบนี้เหรอ...มันน่าเศร้ามั๊ย ขนาดคนของสถานทูตแท้ๆ ยังไม่มีมารยาทแบบนี้เลย ไม่ให้เกียรติสถานที่ แถมยังไม่ให้เกียรติ ตม.ที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐอีก ...เรารู้สึกแย่มากๆเลย..." แล้วเขาตอบว่าไงคะหลังจากที่คุณบอกเขาไปตามนี้ หรือว่าคุณพูดแค่ 2 คำแรก "แล้วไง..." เวลาอยู่ต่อหน้าเขา? จากคุณ : Autumn Leaves - [ 19 มิ.ย. 50 01:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาอีกทีค่ะ มาเห็นด้วยกับความเห็นที่ 2 คุณจขกทโทรไปที่สถานทูตเลยค่ะ เบอร์ 02 254 2530 พอมีคนรับปุ๊บเล่าเลยนะคะ เล่าให้ละเอียดเลย พอตอน เล่าจบแล้วอย่าลืมฟังด้วยว่าทางปลายสายวางหูไปหรือยัง ถ้าเขาวางหูไปแล้วเขียนจดหมายไปได้เลยค่ะ ให้ละเอียดเลยมีชื่อนามสกุล ที่อยู่ ตำแหน่ง ฯลฯ ใส่ไปให้หมดค่ะ เล่าเรื่องให้ละเอียดกว่าที่เขียนในกระทู้ นี้นะคะ ส่งไปที่ New Zealand Embassy All Seasons Place 87 Wireless Road Lumpini Bangkok 10330 ถ้ามีคนตอบกลับมาไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามอย่าลืมมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ฟังนะคะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 19 มิ.ย. 50 01:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สามท่านข้างบน ที่พูดได้ตรงใจดิฉันคิด คือ คุณ gentf คุณ คลิค และ คุณ สาวสยาม SMG ดิฉันคิดว่าคนที่ทำงานหรืออยู่กับฝรั่งมานานๆ จะมีความเคยชินกับความง่ายๆ สบายๆแล้วฝรั่งนี่จะไม่ค่อยชอบแต่งตัว (อย่างน้อยก็เป็นในหมู่ที่ดิฉันรู้จักนะคะ) ที่เมืองไทยดิฉันก็เห็นรองเท้าแตะเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง ไปไหนมาไหน ก็เห็นแต่คนใส่รองเท้าแตะ personal preference อย่างนี้ดิฉันไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว คุณมีกรอบ อยู่ในกรอบมันก็ OK แต่ไม่ควรไปคิดให้คนอื่นว่าเขาจะต้องทำเหมือนคุณ ที่เขาว่ามันเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งคงเป็นวันหยุดของเขา คนที่เขาไปรับก็คงเป็นคนที่ธรรมดา แบบไม่ต้องใส่สูทไปรับก็อาจเป็นได้ แล้วอีกอย่างหน้าที่ที่คุณต้องทำก็คงมี ถ้าคุณเป็นยามหน้าวัดที่มีหน้าที่ตรวจจับการแต่งกายของคน ดิฉันจะไม่พูดอะไรเลย แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 08:32:40 จากคุณ : PatPDX - [ 19 มิ.ย. 50 08:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14  "ที่เมืองไทยดิฉัน ก็เห็นรองเท้าแตะเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง ไปไหนมาไหน ก็เห็นแต่คนใส่รองเท้าแตะ" ^^ ^^ อิ อิ แถมทั่วๆ ไปที่เห็น ยังชอบเดินลากส้นเท้ากัน เสียงดัง "แกรก แกรก แขรก แขรก" ด้วยค่ะ คงยกเท้าไม่ได้ เพราะเท้าหนัก   ปล. ไม่ได้ว่าอะไรใคร อีกแล้นนนนน นะ แค่เข้ามาวิพากษ์ วิจารณ์ต่อ ในเชิงสร้างสรรค์ เพราะการเดินลากรองเท้าแตะนั้น นอกจากจะมีเสียงรบกวนแล้ว ยังดูไม่งาม และ ไม่ส่งเสริมบุคลิกภาพอีกต่างหาก   จากคุณ : Siamese Girl - [ 19 มิ.ย. 50 09:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Agree with Khun Siamese Girl ja. จากคุณ : Ja - [ 19 มิ.ย. 50 10:07:04 A:129.127.93.87 X:192.43.227.18 TicketID:026512 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สงสัยไม่ได้ใส่gambo เลยไม่หล่อ จากคุณ : EDM_MAN - [ 19 มิ.ย. 50 19:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราจะเล่าแบบละเอียดเลยละกันนะ  เริ่มจาก เราก็ถามเค้าว่าทำไมถึงแต่งชุดแบบนี้ในขณะที่คุณติดบัตร มันไม่สุภาพ เขาตอบว่า" ก็วันนี้วันอาทิตย์" (เหตุเกิดเมื่อวาน เวลา ทุ่มกว่า) ฉันยังไม่ได้กลับบ้านแล้วเค้าก็พูดว่า "เธอคิดว่าฉันอยากมาที่นี่นักหรอ" เราก็"อ้าว...(งงเด่ะ..จะรู้ด้วยมั๊ยเนี๊ยะว่าเค้าอยากมาหรือไม่อยากมา..ไอ้เราก็ไม่ใช่คนเชิญเค้ามาซักกะหน่อย) นั่นมันเรื่องของคุณ แต่ตอนนี้คุณมาติดต่อราชการ คุณควรจะแต่งกายให้เรียบร้อยกว่านี้ ไม่ใช่แบบนี้ "   เค้าก็ถามเราว่า "ต้องให้ฉันใส่ไทค์มาเลยมั๊ย" เราก็ตอบว่า "ไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น แค่ไม่ใช่แบบนี้ก็พอ (แล้วเราก็ชี้ไปที่กางเกง และรองเท้าแตะอีคีบ) ใส่เสื้อเชิ้ตมาก็ได้" เราก็บอกเค้าว่า "ที่นี่คือที่ทำงาน คุณมาติดต่อราชการแต่งตัวแบบนี้หรอ" เค้าก็บอกว่า "จะเอาชื่อเราไป แล้วก็จะได้ไปบอกสถานทูต" (ดูเด่ะ...ยังไม่รู้สึกอีกว่าตัวเองทำผิด) เราก็ถามกลับว่า "แล้วไง" เค้าก็บอกว่า จะได้ไปบอกคนที่สถานทูตว่าไม่ต้องแต่งตัวแบบนี้เพราะเราบอกว่าแต่งไม่ได้ (แต่สีหน้าและแววตาอวดดีมากๆ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดเลย..เราไม่ได้อคตินะ แต่เค้าทำให้พวกเราที่นั่งอยู่ตรงนั้นรู้สึกแย่มากๆ) แล้วเค้าก็บอกว่า "ฉันมาดูแลผู้ชายคนนี้ ให้เรื่องของคนนี้เสร็จก่อนแล้วจะกลับมาหาใหม่" ผู้ชายคนแก่คนนั้นแกก็ยืนฟังอยู่ แล้วก็มาห้ามประมาณว่า อย่าเถียงกัน โบกมือไม่เอา ไม่เอา ไม่เอาน่า...ประมาณเนี๊ยะ แล้วเค้าก็หันมาบอกเราว่า "เดี๊ยวเค้าจะกลับมา"...(เค้าพากันไปส่งขึ้นเครื่องถึงหน้าเกท) เราก็รอ จนเค้ากลับมา.. เค้าก็เดินมาหาเราที่โต๊ะทำงาน และพูดว่า "i'm sorry เพราะเค้าทำงานถึงเที่ยงคืนเมื่อวาน เลยไม่มีเวลา พอดีว่าเรากำลังช่วยสตาฟของสายการบินหาของ เราจึงยกมือบอกเค้าว่าเดี๋ยวก่อน เค้าก็ยังคงพูดต่อไป แต่ก่อนที่เค้าจะเดินลับตาเราไป เราจับใจความสุดท้ายได้ว่า " เธอไม่ควรว่าฉันต่อหน้าผู้ชายคนนั้น" ....แล้วเค้าก็เดินไป...ปล่อยให้เรางงเป็นไก่ตาแตก ว่า...."ฉันผิดตรงไหนเนี๊ยะ "..(อารมณ์แบบเซ็งปี๊ด แล้วก็งงมากๆ)....ถ้าไม่ให้ฉันว่าเค้าตอนนั้น จะให้เรียกไปคุยกันสองต่อสองหรอ...ถ้าเรียกไปคุยสองต่อสองแล้วเค้าจะยอมฟังไหมล่ะ...นี่ขนาดคุยกันแบบเปิดเผย ธรรมดา ตรงโต๊ะทำงานเนี๊ยะ กลายเป็นผิดทั้งขึ้นทั้งล่องเลย... เรื่องมันก็มีอยู่เท่านี้แล.... จากคุณ : IAM-IAM (IAM-IAM) - [ 19 มิ.ย. 50 21:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็เลยคิดว่า...ผู้ชายแก่คนนั้น..คงให้เค้ามาขอโทษละมั้ง ถึงได้ยอมมาพูดดีกับเรา...ทั้งๆที่ก่อนหน้านี่ แทบจะกินเลือดกินเนื้อเลย สาบานได้ว่ามองเราด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เป็นคนประเภทผิดแต่ไม่ยอมรับผิด...ประมาณนี้แหละ เค้าคงไม่พอใจที่เราไปว่าเค้า เค้าก็เลยตอบโต้เราแบบนี้เพราะยังไงคนของสถานทูตทำอะไรก็ไม่ผิด..กม.เอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว ..แต่เราคิดว่า..ถ้าเราไม่พูด แล้วใครจะพูด ถ้ามีคนแบบนี้มาอีก เราก็ต้องยอมให้เค้าหรอ..เราก็เลยคิดว่านี่คือสิ่งที่เราต้องตอบโต้ สั่งสอน ไม่ใช่ปล่อยให้เค้าทำตัวตามสบายเกินไปโดยไม่คำนึงถึงกาลเทศะ เพราะเค้าต้องทำงานอยู่ในไทย และถือได้ว่าเป็นหน่วยงานข้างเคียง ยังไงมันก็หนีกันไม่พ้น ถ้าวันนี้เราให้เค้าผ่านไปด้วยดี วันหน้าถ้าเค้าไปบอกต่อๆกันละว่า วันนั้นแต่งตัวมาแบบนี้ ตม.ยังไม่ว่าอะไรเลย ยังให้ผ่านเลย ...แล้วต่อไประเบียบวินัยมันจะมีอยู่มั๊ย ทีนี้ก็ใส่เกงขาสั้น ใส่แกมโบเข้ามาติดต่อราชการเลยซิ...ใช่ป่ะ..ยังไงก็ตามนะ..ตั้งแต่เราทำงานมาสองปี ก็ไม่เคยเจอคนจากสถานทูตทำตัวแบบนี้เลย ยังไงก็ใส่สแล๊ค เสื้อเชิ้ต รองเท้าคัทชู ..เพราะเราให้ความเคารพในกันและกัน..ขนาดตัวทูตเองแท้ๆ ที่เป็นนายเค้าโดยตรงเค้ายังทักทาย สวัสดี มีไมตรีจิต แต่งกายสุภาพ มากกว่าเค้าเสียอีก ขอโทษทุกคนนะที่เขียนยาว ก็มันอึดอัด..และเราก็ทำได้เท่านี้จริงๆ... เศร้า... ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : IAM-IAM (IAM-IAM) - [ 19 มิ.ย. 50 22:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลืมเล่าอีกอย่างนึงคือ..ผู้ชายแก่คนที่เค้ามาดูแลนั้นได้ทำหนังสือเดินทางหาย เค้าจึงมาดูแล ซึ่งในส่วนของการทำงานหากผู้โดยสารคนใดทำหนังสือเดินทางหาย ต้องทำใหม่ ซึ่งคุณลุงคนนั้นก็มีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ แต่..ไม่มีการสำเนาตราประทับจากตม.สวนพลู เพื่อยืนยันว่าเค้าได้เข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านใด วันที่เท่าใด ...ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนี้ ได้นำเอกสารจากสายการบินมายืนยันว่าคุณลุงคนนี้เดินทางมากับสายการบินนี้ วันที่นี้..ซึ่งพอมาถึงช่องตรวจ เค้าก็ยื่นมาพร้อมกัน...แต่...ทางเราก็ต้องตรวจสอบอีกที หากมาจากด่านตม.สุวรรณภูมิ เรื่องก็จะง่ายขึ้นเพราะถือว่าเข้าออกด่านเรา เราตรวจสอบได้..แต่ถ้าคุณลุงคนนี้มาจากด่านอื่น เค้าก็ต้องกลับไปสำเนาตราประทับที่ตม.สวนพลู เพราะไม่สารถเช็คข้อมูลให้เค้าได้...ต้องให้หน่วยใหญ่รับผิดชอบ..ในกรณีนี้ เค้าแสดงกิริยายิ่งใหญ่ตั้งแต่ตอนมาถึงช่องตรวจแล้วว่าเค้าเป็นคนมาจากสถานทูต จนท.เราก็ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะเป็นประทวน ไม่มีรหัส supervisor จึงส่งให้เพื่อนเราที่เป็น supervisor เพราะมีอำนาจในการตรวจอนุญาตมากกว่าประทวน และมีรหัสตรวจเช็คการเดินทางเข้าออก จึงให้เค้าเข้ามาตรวจข้างใน ทุกอย่างถือว่าเค้าเตรียมตัวมาดี จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพื่อนเราก็ประทับตราอนุญาตให้ โดยไม่ได้ทำให้เค้าเสียเวลาเลย (สาบานได้) เพ่อนเราก็ตรวจข้อมูลไป ในระหว่างที่เราคุยกับเค้าเรื่องการแต่งกายไง...นี่แหละ...เรื่องของเรื่อง เราอาจจะเป็นคนoverreacting อย่างที่มีคนว่าก็ได้...เพราะเราคิดว่า .. ถ้าเราไม่ทำ..แล้วใครจะทำ เราเป็นคนทำงาน ถ้าสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ตรงหน้า เราจะปล่อยปละได้อย่างไร ที่บางคนเค้าไม่กล้าพูด ไม่อยากปะทะกับผู้โดยสารก็เพราะว่าทำไปก็เปลืองตัว ในกรณีนี้ก็เหมือนกัน...แต่เราไม่อยากคิดแบบนั้น เราคิดว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนทำงานคนอื่นๆ..ก็แค่นั้น จากคุณ : IAM-IAM - [ 19 มิ.ย. 50 22:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอ่านอีกที ก็ขอบอกอีกรอบว่า เห็นใจ จขกท. เห็นแล้วใช่ไหมว่า คุณเปลี่ยนความเห็นและควบคุมพฤติกรรมของผู้อื่นไม่ได้ดังใจหรอก แต่คุณเลือกได้เองครับว่า จะตอบสนองแบบไหน จากคุณ : นายคลิค - [ 19 มิ.ย. 50 23:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 วันนี้พอดีมีธุระเลยโทรไปหาผู้ใหญ่ที่รู้จักที่สถานทูตนิวซีแลนด์ กรุงเทพฯ ค่ะ คุยเสร็จเลยเล่าเรื่องกระทู้นี้ให้เขาฟัง พอจบเขาหัวเราะ แล้วบอกว่า "ถ้าไม่พอใจอะไร ต้องการร้องเรียน ก็ให้จขกท.นี้ทำหนังสือเข้ามา แจ้งชื่อนามสกุล ที่อยู่เบอร์โทร ของตัวมาให้ชัดเจน เล่าเรื่องมาให้ละเอียด ว่ากล่าวถึงจนท.สถานทูตคนไหน และให้เจ้านายหัวหน้าฝ่ายของตม.คนนั้น ลงชื่อรับทราบเรื่องร้องเรียนมาด้วย มิฉะนั้นถือว่าไม่มีมูล แต่ขอบอกว่า วันนั้นเป็นวันหยุดของจนท.คนนั้น คือนอกเวลา เขาไม่ได้มาทำงาน จึงไม่จำเป็นต้องแต่งชุดทำงานไปที่ไหนๆ เขาจะไปไหนก็ได้ไม่ผิดระเบียบ เขาไปสนามบินจะแต่งชุดอะไรก็ได้เหมือนคนทั่วๆ ไป ยกเว้นทางสนามบินจะมี ระเบียบเขียนไว้ชัดเจน จึงจะถือว่าเป็นความผิด ต้องดูอีกทีว่าสนามบินมีระเบียบ ประกาศไว้หรือไม่ ถ้าไม่ ก็ถือว่าไม่มีความผิดอะไร เจ้าหน้าที่ตม.ไม่มีสิทธิไป ตำหนิเขา ถ้าไม่พอใจอะไรฝากบอกเจ้าหน้าที่ตม.คนนั้นติดต่อมาที่สถานทูตได้ ไม่ใช่เอา ไปประกาศในเวบบอร์ดที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามผู้ร้องเรียน เรื่องจริงหรือเปล่าก็ ไม่มีใครรู้" ตามนั้นค่ะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 21 มิ.ย. 50 11:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณคุณ Autumn Leaves มากค่ะ ที่แนะนำ ก็อย่างที่บอกค่ะว่าไม่ทันได้ดูชื่อเพราะมัวแต่ดูหน้ากันอยู่ แต่ก็จะจำไว้เป็นบทเรียนค่ะ ถ้ามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็พอจะรู้แนวทางและคงตั้งสติให้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องระเบียบนั้น คิดว่ามี แต่ถ้าเป็นป้ายนั้น ถ้าเป็นที่ดอนเมืองมั่นใจว่ามีป้ายแน่นอน แต่พอย้ายมาอยู่ที่สนามบินใหม่..อะไรๆก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง คนทำงานก็ลำบากใจค่ะ เพระป้ายที่เคยมีอยู่ดอนเมือง ยังไม่มีมาตั้งที่สุวรรณฯเลย ก็ได้แต่บอกปากเปล่า แล้วก็เป็นระเบียบที่รู้กัน เหมือนกฎหมายนั้นแหละค่ะ ที่ไม่ได้ติดบอก แต่ก็รู้ว่ามี ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคนมากนะ ถึงแม้บางคนจะไม่เชื่อก็ตาม แต่นี้คือสิ่งที่เราทำได้ ....ไม่ต้องการให้ใครเสียหาย แต่อยากสะกิดให้รับรู้.... ขอบคุณค่ะ จากคุณ : IAM-IAM - [ 21 มิ.ย. 50 15:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีกอย่างนึง เรื่องนี้พอไปบอกนาย...นายบอกว่า ไม่อยากให้มีเรื่องกัน เพราะเค้าเป็นคนของสถานทูต...จบ... เราก็เลยทำได้แค่นี้... จากคุณ : IAM-IAM - [ 21 มิ.ย. 50 15:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก็ดีแล้วแหละค่ะ ตม.ไทยอย่าไปมีเรื่องกับสถานทูตเลย ไงๆ ก็แพ้ ขนาดนายคุณยังถอยเลย อิอิ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 21 มิ.ย. 50 16:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้เวลา 17.00 มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตนิวซีแลนด์มาขอพบที่ทำงานค่ะ ก็คือเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนั้น และเจ้านายเค้าที่เป็นผู้หญิง เพื่อนเราบอกว่าเป็นconsulate มาหาเพื่อมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเค้าทราบเรื่องจากในเวปบอร์ด แต่เรามาสายเพราะลืมของเลยมาสาย ผู้ชายคนนั้นเลยคุยโทรศัพท์กับเราแทน เค้าบอกว่า i'm apologize ........ฯลฯ" แค่คำนี้แหละ..โหย...ดีใจมาก...ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา ฟ้าก็มีใจ... เขามาขอโทษเรากับเรื่องวันนั้น เราก็บอกเขาว่า "โอเค เรายอมรับในสิ่งที่เขาพูด" เพราะเค้าทำให้เรารู้สึกว่าเค้ายอมรับว่าทำผิดจริง และขอโทษจริงๆ กับเพื่อนเราเค้าก็ขอโทษก็ยืนยัน กับพี่secure เค้าก็บอกว่า ผู้ชายคนนั้นมาขอโทษเค้าด้วย เค้าก็บอกไปว่ายังไงก็ต้องทำตามกฎระเบียบนะ เค้าก็โอเค ยอมรับ สารวัตรเราบอกว่า เขาไม่อยากให้มีเรื่องข้องใจกันเพราะเป็นหน่วยงานข้างเคียงกัน อยากให้มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วกันไป ให้จบกันด้วยดี เค้าก็จะดูแลคนของเค้า  แล้วการที่เราลงในเวปก็ทำให้เค้าเสื่อมเสีย เค้าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก สารวัตรให้เรามาลบกระทู้นี้ออก เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เขาที่มาขอโทษเราด้วยตัวเค้าเอง ซึ่งเราก็ยินดีที่จะทำตาม เราจะแจ้งลบวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ทุกๆได้อ่านเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก่อน เราอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นหรือรู้สึกร่วมไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน..ขอบคุณจริงๆ เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เริ่มลดลง ลดลง...และลดลง ตอนแรกที่มีเรื่องหนะ..เหมือนเรายืนอยู่คนเดียว ตะโกนไปก็คงไม่มีใครได้ยิน แต่พอมาวันนี้ เราดีใจที่สิ่งทีเราทำไปมันมีผลกลับมา เราดีใจมากๆ ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ...ขอบคุณที่สุด จากคุณ : IAM-IAM - [ 21 มิ.ย. 50 20:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาช้าไปหน่อย อยากถามเจ้าของกระทู้ว่า ถ้านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปหาเจ้าของกระทู้ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สนามบิน ถ้านักท่องเที่ยวคนนั้นแต่งตัวแบบเจ้าหน้าที่สถานทูตคนนั้น เจ้าของกระทู้จะว่าอย่างไร คงไม่ถึงกับไม่ประทับตราไม่ให้เข้าประเทศกระมัง ที่เขาไปขอโทษคุณนะ แสดงให้เห็นความเป็นมืออาชีพของพวกนักการทูต ก็เท่านั้น เบื้องหลังเขาอาจจะหัวเราะกันสนุก น่าจะขอย้ายจากการเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไปรับราชการที่กระทรวงวัฒนธรรมดีกว่านิ แต่อย่าดีกว่าเดี่ยวจะเป็นโรคประสาทกันไปทั้งประเทศ จากคุณ : เรื่องไม่เป็นเรื่อง - [ 22 มิ.ย. 50 13:26:37 A:69.108.155.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 "อยากถามเจ้าของกระทู้ว่า ถ้านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปหาเจ้าของกระทู้ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สนามบิน ถ้านักท่องเที่ยวคนนั้นแต่งตัวแบบเจ้าหน้าที่สถานทูตคนนั้น เจ้าของกระทู้จะว่าอย่างไร คงไม่ถึงกับไม่ประทับตราไม่ให้เข้าประเทศกระมัง" ไม่มีใครว่าคุณหรอกค่ะ หากคุณจะแต่งตัวแบบใดในฐานะนักท่องเที่ยว เชิญตามสบาย แต่ในกรณีนี้ เค้ามาในฐานะเจ้าหน้าที่ของสถานทูตค่ะ เป็นตัวแทนของสถานทูต นั่นคือหน้าตาของหน่วยงานของเค้า ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันของทั้งสองฝ่ายค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณคงเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่าค่ะ ถึงแม้ว่าในมุมมองของคุณจะคิดว่า พวกเค้าอาจจะหัวเราะกันสนุก แต่สำหรับดิฉันคิดว่าไม่ค่ะ ดิฉันเลือกที่จะมองว่า เค้ามีสปิริตของความเป็นนักการทูต และดิฉันก็มีพอ ดิฉันเลือกที่จะขอบคุณความเป็นมืออาชีพของเค้าที่ทำให้เรื่องราวจบด้วยดี ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนี้เค้าจะคิดอย่างไร ดิฉันไม่ขอรับรู้ ตอนนี้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายดิฉันและสถานทูตต่างก็เข้าใจกันดี ในส่วนของดิฉันและเจ้าหน้าที่คนนั้น เราต่างก็ยอมรับในสิ่งที่ทำเช่นกัน และเค้าก็เข้าใจในการกระทำของดิฉันแล้วค่ะ ดิฉันได้แจ้งลบกระทู้แล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่าน ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกใดก็ตาม ดิฉันมีหน้าที่ค่ะ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา และจะทำต่อไป "นักรบต้องมีบาดแผลค่ะ" ....ดิฉันถือว่าเหตุการณ์นี้สอนให้ดิฉันได้เรียนรู้และมีกำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป ขอบคุณค่ะ จากคุณ : IAM-IAM - [ 22 มิ.ย. 50 19:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบตามความรู้สึก อิฉัน นะคะ มันเป็นการให้เกียรติ กัน แบบงี่เง่า จังคะ วันอาทิตย์ หลังเวลางาน เมืองไทย ก็โคตรร้อนเลย จากคุณ : จ๋า - [ 23 มิ.ย. 50 13:24:55 A:219.90.248.10 X: TicketID:026512 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เค้ามาหาเราค่ะ ไม่ใช่เราไปหาเค้า...สนามบินไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ ตม.ที่สนามบิน ก็ไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ เข้าใจใหม่ด้วย จากคุณ : IAM-IAM - [ 24 มิ.ย. 50 00:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 When in Rome, do as the Romans do. When in Bangkok do whatever you like. คราวหน้า ขอแนะนำให้ จขกท.  ยกมือไหว้คุณพ่อฝรั่งจากสถานทูตทุกคนที่เข้ามาติดต่อราชการนะครับ จะได้ไม่ถูกด่าว่างี่เง่าอีก ทาสทางกายเลิกไปนานแล้วแต่ทาสทางใจเลิกยากครับ มันเป็นความสมัครใจ จากคุณ : vassathorn - [ 24 มิ.ย. 50 05:34:42 ]