ความคิดเห็นที่ 12
ตอบ คุณ Jingx นะครับ (ไม่ทราบถามผมหรือเปล่า? อิอิ)
คำแนะนำการซื้อ Laptop ฉบับตามความเข้าใจของผมนะครับ
ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ Laptop มันก่อนแล้วกัน
เป็นที่ทราบกันดีว่า คอมพิวเตอร์แบบพกพา (laptop) ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก จึงทำให้เจ้าคอมพิวเตอร์ตัวนี้มีขนาดเล็ก สามารถนำไปใช้งานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ แถมยังพ่วงอุปกรณ์เสริม เช่น DVD-writer, Wireless Lan, Modem, Speaker, Memory stick reader และช่องเสียบอุปกรณ์ต่างๆ อีกมากมาย
ยิ่งในปัจจุบันนี้เครื่องยิ่งมีขนาดเล็กลง เบา ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น และราคาต่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) ไม่แพงเวอร์จนเกินไปในระดับที่พอใช้งานได้
จึงทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากพอสมควร
เนื่องจากจุดประสงค์การออกแบบมาเพื่อการพกพาเป็นหลัก จึงทำให้มีข้อจำกัดที่เห็นได้ชัดก็คือ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในได้ตามใจชอบ
อุปกรณ์ทุกอย่างออกแบบมาอย่างลงตัวอยู่แล้ว ที่ทำได้ก็คงมีแค่การเพิ่มขนาดหน่วยความจำ (RAM) ประมาณ 1-2 แถว เท่านั้นเอง
หากต้องการจะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ก็ยังพอได้ เช่น เปลี่ยน Harddisk ให้มีความจุมากขึ้น หรือเปลี่ยนจาก DVD ธรรมดา ให้เป็นแบบเขียนแผ่น DVD ได้ด้วย แต่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญและความระมัดระวังพอสมควร และต้องถอดตัวเก่าทิ้ง ไม่สามารถพ่วงเพิ่มเข้าไปเหมือนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะได้
หัวใจสำคัญของคอมพิวเตอร์แบบพกพา คือ แบตเตอรี ถึงแม้จะมี Adapter แปลงไฟให้ใช้กับไฟบ้านได้ แต่มันก็ไม่ใช่การตอบสนองของวัตถุประสงค์การใช้งานของมัน โดยปกติ แบตเตอรีจะมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 1-2 ปี หลังจากนั้นคุณจำเป็นต้องพึ่งพาปลี๊กไฟ จาก Laptop กลายมาเป็น Desktop Computer โดยปริยาย เหอๆๆ
กลับมาที่คำถามว่า แล้วจะเลือกซื้อ Laptop ยี่ห้ออะไรดี?
สำหรับผม ผมจะมีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้ออยู่ 2 อย่างคือ ราคากับจุดประสงค์ในการใช้งาน
โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับยี่ห้อมากนัก แต่ก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจในกรณีที่สนองปัจจัยการเลือกซื้อใกล้เคียงกัน
การพิจารณายี่ห้อ ก็คือการพิจารณาบริการหลังการขายมากกว่า เพราะถ้าเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว ก็เหมือนๆ กันทุกยี่ห้อ ในความคิดของผม
หลังจากคุณกำหนดราคาและขอบเขตการใช้งานแล้ว เวลาไปเลือกซื้อเราจะเลือกซื้ออย่างไรดี ผมจะแนะนำเป็นข้อๆ แล้วกันนะครับ
1. สำรวจราคาโดยรวมก่อนว่ามีรุ่นใด ยี่ห้อใด ที่อยู่ในงบประมาณที่วางไว้บ้าง เผื่อบวกลบสัก 2,000 บาท
2. นำมาเปรียบเทียบ สเปคของเครื่องแต่ละรุ่น เช่น ชนิดและความเร็วของ CPU ขนาดหน่วยความจำ RAM, Harddisk และอื่นๆ
ข้อควรระวัง - CPU ตอนนี้จะมีอยู่ 2 ค่าย คือ Intel กับ AMD โดยปกติ CPU ของ Intel จะแพงกว่าของ AMD เมื่อเทียบรุ่นความเร็วเท่ากัน - CPU ของแต่ละค่ายก็มีหลายรุ่น เช่น Intel ก็จะมี ทั้ง Core 2 Duo, Centrino Duo, Celeron Duo ฟังดูคล้ายๆ กันเลยใช่ไหมครับ ลองดูการเปรียบเทียบของแต่รุ่นได้ที่นี่ครับ http://www.intel.com/products/centrino/compare.htm
ส่วนของค่าย AMD เปรียบเทียบแต่ละรุ่นได้ที่นี่ครับ http://www.amd.com/us-en/Processors/ComputingSolutions/0,,30_288_13239_13253,00.html
- Memory RAM ควรมีขนาด 1 G ขึ้นไป และควรมีช่องเผื่อไว้ใส่แรมเพิ่มในอนาคตไว้ด้วย เพราะ Laptop ที่ญี่ปุ่นตอนนี้มักจะขายมาพร้อม Windows Vista ถึงแม้บางรุ่นยังจะพอมี XP ให้เลือกใช้ได้บ้าง แต่อนาคต 1-2 ปีข้างหน้าก็คงเลี่ยงไม่พ้น อีกทั้ง Laptop ส่วนใหญ่จะแบ่งหน่วยความจำของ RAM ไปใช้ใน การ์ดจอ อีกด้วย เช่น VGA ATi 128 M upto 256 on board หมายความว่า การ์ดจอมีหน่วยความจำ 128 โดยขอแบ่งมาจากหน่วยความจำในเครื่องนั้นแร่ะ ถ้าเครื่องคุณมีแรม 1 G ก็จะเหลือ 896 M และยังขอแบ่งได้ถึง 256 M เหอๆ น่ากลัวไหมละ ถ้าเราเลือกซื้อแรมมาน้อยๆ
- ขนาดความจุ Harddisk ควรเลือกประมาณ 80G ขึ้นไป ถ้าใช้ Windows Vista ก็สัก 160G ขึ้นไป ตอนนี้เครื่อง Laptop บางรุ่นจะมีการแบ่งเนื้อที่ harddisk ไว้สำรองโปรแกรม กรณีที่ต้องการ recovery โปรแกรมใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น DVD ถ้าเนื้อที่ Harddisk คุณหายไปก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ
- สมัยนี้ ควรเลือกที่มี DVD drive แบบสามารถเขียนแผ่น DVD ได้ด้วย เพราะข้อมูลเดี่ยวนี้มันเริ่มใหญ่ขึ้น แถมราคาแผ่นเปล่า DVD กับ CD ก็แทบจะใกล้เคียงกัน
- ขนาดความกว้างจอ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ขนาดจอที่กว้างขึ้น ก็จะทำให้ ขนาดของเครื่องใหญ่ขึ้นไปด้วย
- หากคุณใช้งานแบบพกพาเป็นหลัก ให้พิจารณาน้ำหนักของเครื่องด้วยก็ดี ที่สังเกตุตอนนี้ laptop เบาสุดอยูที่ประมาณ 1 Kg. แต่ตอนที่คุณเลือกซื้อแล้วลองยกเครื่องดูรู้สึกเบาๆ เกือบทุกเครื่อง อย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ เพราะร้านเขายังไม่ได้ใส่แบตเตอรีไว้ให้ หากจะเปรียบเทียบน้ำหนักให้ดูจากสเปคหรือลองยกตอนที่มีแบตเตอรีใส่ไว้ด้วยนะคัรบ แล้วก็ลองพิจารณาการใช้พลังงานจากแบตเตอรี ว่าสามารถใช้งานได้นานกี่ชม. ด้วยล่ะครับ
- Option ต่างๆ ที่เสริมมากับเครื่อง ก็พิจารณาจากการใช้งานของคุณแล้วกัน ว่ามีความจำเป็นหรือเปล่า option เยอะ ราคาก็เพิ่มขึ้นตาม
- Design ของเครื่อง ขอให้พิจารณาเป็นตัวเลือกสุดท้าย เมื่อเลือกผ่านมาเป็นข้อๆ ตามที่ผมได้กล่าวมาแล้ว บางครั้งอาจจะเหลือ ตัวเลือก 2 ตัว คุณก็ดู Design ที่ถุกใจคุณแล้วกัน
อยู่ญี่ปุ่น จะซื้อมาจากไทยดี หรือซื้อที่ญี่ปุ่นดี?
ผมเคยแยกข้อดี ข้อเสียของแต่ละแบบไว้ในกระทู้เก่าๆ แล้ว ไม่รู้ว่ากระทู้นั้นยังอยู่หรือเปล่า
สรุปให้ฟังง่ายๆ ได้ว่า
ซื้อจากไทย ก็สามารถใช้งาน โปรแกรม และอ่านภาษาญี่ปุ่นได้ ซื้อที่ญี่ปุ่น ก็สามารถใช้งาน โปรแกรม และอ่านภาษาไทยได้
โดยมีการปรับแต่งค่าใน Control panel เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ให้ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นใหม่ หากมีข้อสงสัยตรงส่วนใดก็ถามทิ้งท้ายไว้แล้วกันนะครับ
จากคุณ :
T-E-N-A
- [
21 มิ.ย. 50 19:51:34
]
|
|
|