PANTIP.COM : H5552876 ถามผู้ที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว(แต่งงาน)หน่อยค่ะ [@Japan]

ความคิดเห็นที่ 4

สวัสดีคะ คุณao@shinagawa

เราก็เป็นว่าที่สะใภ้ญี่ปุ่นเช่นกันคะ แต่ตอนนี้เราดำเนินการถึงขั้นตอนจะขอไซริวในสัปดาห์หน้านี้แล้วคะ หุหุ...พออธิบายขั้นตอนต่างๆ ได้ดังนี้คะ

- - ก่อนอื่นขอบอกว่าเราเป็นคน ตจว. และทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาล ฉะนั้นเอกสารของเราจะต้องใช้บริการ ที่ว่าการอำเภอและเทศบาลเมืองเสมอคะ, แต่หากว่าคุณเป็น ตจว. และยังเป็นคนนอกเขตเทศบาลแล้ว คุณจะต้องใช้บริการที่ว่าการอำเภอเพียงแห่งเดียวคะ ฉะนั้นเราจึงใช้เวลาการขอเอกสารบางอย่างนานนิดหน่อยคะ - -

ขั้น A. จดทะเบียนที่ญี่ปุ่นก่อน (เราเลือกจดที่ญี่ปุ่นก่อนคะ) ตัวคุณต้องเตรียมเอกสารดังนี้

1. หนังสือรับรองความเป็นโสด 1 ฉบับ (เราใช้เวลา 1 ชั่วโมง เพราะไปแต่เช้าในวันเสาร์, จ่ายค่าเอกสารแผ่นละ 10 บาทคะ หุหุ เราขอ 2 แผ่นคะ กันพลาดคะ)
เราไปขอจากที่ว่าการอำเภอ (เดี๋ยวนี้..ที่ว่าการอำเภอจะเปิดวันเสาร์คะ แต่จะครึ่งวันหรือเต็มวันนั้น คุณจะโทรไปเช็คอีกทีคะ) ต้องนำพยานไปด้วย 2 คน (พยานจะต้องเตรียมตัวจริง+สำเนาบัตรประชาชนไปด้วยคะ) เราเตรียมพยานคือแม่และน้าชายคะ

2. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ(น้าของเราใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพราะสนิทกับเจ้าหน้าที่ จ่ายค่าเอกสารแผ่นละ 20 บาทคะ หุหุ เราขอ 2 แผ่นคะ กันพลาดคะ)
เอกสารอันนี้ขอบอกว่า "ต้องไปคัดสำเนาทะเบียนบ้านจากเทศบาลเมืองคะ" และต้องมีประทับจากเจ้าหน้าที่ทะเบียนเป็นหมึกสีน้ำเงินว่า "สำเนาถูกต้อง" พร้อมทั้งการลงชื่อ นามสกุลและตำแหน่งของนายทะเบียนด้วยนะคะ (เดี๋ยวนี้..เทศบาลเมืองจะเปิดวันเสาร์คะ เฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ เท่านั้นคะ ส่วนจังหวัดบ้านเกิดของเราเป็นจังหวัดเล็กๆ ไม่เปิดวันเสาร์คะ เราจึงให้น้าไปทำเรื่องขอเอกสารชุดนี้ให้คะ) ห้ามเอาทะเบียนของคุณไปถ่ายเอกสารเองนะคะ เพราะนั่นมันไม่ใช่การคัดสำเนาคะ

3. หนังสือปฏิญานตน 1 ฉบับ (เอกสารชุดนี้ เฉพาะบางเขตเท่านั้นที่ต้องการ)
สำหรับเอกสารอันนี้ ตอนแรกเราไม่ได้เตรียมคะ แต่พอแฟนไปยื่นเอกสารเพื่อขอจดทะเบียนที่ญ๊ปุ่นนั้น เจ้าหน้าที่ที่ญีปุ่นเค้าก็ให้แบบฟอร์มอันหนึ่งมา เค้าบอกให้แฟนเรา เอาแบบฟอร์มนี้ไปให้เรากรอกเป็นภาษาญ๊ปุ่น ซึ่งแฟนเราก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า เราเขียนภาษาญ๊ปุ่นไม่ได้เลย เจ้าหน้าที่ก็เลยแนะนำว่า "ให้แฟนเราเอาดินสอร่างบางๆ ต่อจากนั้นก็ให้เราเอาปากกาเขียนทับ และลงชื่อกำกับที่ข้างล่างเอกสาร" เท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อย

4. ส่วนเอกสารอื่นๆ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชน (เราส่งไป ก็สำเนาบัตรประชาชน กับ หนังสือเดินทาง โดยไม่จำเป็นต้องแปล) แต่แฟนบอกว่ายื่นแค่สำเนาหนังสือเดินทางเท่านั้น

ข้อควรระวัง
- เอกสารในข้อ 1. และ 2. คุณจะต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ(เราแปลเอง)และภาษาญ๊ปุ่น(แฟนแปล)ด้วย
- คุณจะต้องเอาเอกสารดังนี้..ไปประทับตรารับรอง ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล (อยู่ ถ.แจ้งวัฒนะ)
1) ใบรับรองความโสด ภาษาไทย + ภาษาอังกฤษ (เราจ่ายชุดนี้ 400 บาท)
2) คัดสำเนาทะเบียนบ้าน ภาษาไทย + ภาษาอังกฤษ (เราจ่ายชุดนี้ 400 บาท)
ส่วนภาษาญ๊ปุ่นนั้นไม่ต้องประทับตรารับรองคะ เพราะกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล จะมีหน้าที่รับรองแค่เอกสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษเท่านั้น
- กรุณาระบุชื่อสกุลของผู้แปลลงในเอกสารคำแปลด้วย (เราระบุชื่อตัวเราเองคะ เพราะเราแปลเองคะ)

หลังจากนั้นให้นำเอกสารทั้งหมดส่งไปให้แฟนที่ญี่ปุ่นไปยื่นเอกสารที่ทำการเขตคะ แต่ว่าต้องมีใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส โดยให้แฟนขอมาจากที่ทำการเขตนะคะ ส่งมาให้เราลงชื่อ (ให้เขียนชื่อ+นามสกุลตัวบรรจงนะคะ ห้ามเขียนเป็นลายเซ็นเด็ดขาดนะคะ ยกตัวอย่างเช่นให้เขียนว่า นางสาววาสนา มีสุขศรี แทนการเซ็นคะ) โดยในใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส คุณจะต้องเขียนชื่อ+นามสกุลตัวบรรจงที่มุมล่างขวาคะ (ให้แฟนคุณ mark จุดให้ก็ได้คะ)

หลังจากนั้น 5 วัน แฟนเราก็ได้รับ โคะเซกิโทฮ่ง (หรือทะเบียนบ้านของแฟนที่มีชื่อเราไปอยู่ในทะเบียนบ้านของแฟนคะ) เท่ากับว่าการสมรสที่ญี่ปุ่นเป็นอันเสร็จเรียบร้อยคะ

* * สรุปว่าในขั้น A นี้ เราขอแนะนำให้แฟนคุณไปถามเขตใกล้บ้านของแฟนก่อนว่า ถ้าเค้าจะจดทะเบียนกับคุณ แฟนและคุณจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพราะแต่ละเขตในญี่ปุ่นจะเตรียมเอกสารไม่เหมือนกันคะ * *

- - ขอตัวไปอาบน้ำก่อนคะ แล้วจะมาเขียนอธิบายต่อคะ - -

จากคุณ : Matsudo (matsudo) - [ 27 มิ.ย. 50 20:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8

เมื่อกี้ในขั้น A ลืมบอกไปคะว่า ตอนที่ไปขอประทับตรารับรอง ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ (ชั้น 3) กรมการกงสุล คุณต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนของคุณไปด้วยนะคะ ทุกครั้งที่คุณไปขอให้กองสัญชาติและนิติกรณ์ เค้าประทับตรารับรองเอกสาร

ขั้น B การจดทะเบียนที่ไทย

คือ ให้แฟนคุณส่ง โคะเซะกิโทฮ่ง มาให้ แล้วคุณก็นำ โคะเซะกิโทฮ่ง ไปขอหนังสือรับรองการสมรสที่สถานทูตญี่ปุ่นประเทศไทย (คือสถานฑูตญี่ปุ่น จะออกหนังสือรับรองเป็นภาษาอังกฤษให้คะ) โดยการขอหนังสือรับรองการสมรสนั้น ต้องเตรียมเอกสารดังนี้คะ
1. ใบคำร้องขอหนังสือรับรอง 1 ฉบับ (กรอกด้วยภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ) โดยเราให้แฟนดาวน์โหลดจากเวปต์สถานฑูตญี่ปุ่นประจำไทยและให้เค้ากรอก จากนั้นก็ส่งมาให้เราพร้อม โคะเซะกิโทฮ่ง
2. หนังสือมอบอำนาจ 1 ฉบับ (เราก็ทำเช่นเดียวกับข้อ 1. คะ)
3. สำเนาทะเบียนบ้านญ๊ปุ่น 1 ฉบับ (ออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น) หรือก็คือ ตัวโคะเซะกิโทฮ่ง นั่นเองคะ ไม่จำเป็นต้องแปลนะคะ เอาต้นฉบับที่เป็นภาษาญี่ปุ่นเลย
4. บัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสฝ่ายไทย (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
5. ทะเบียนบ้านของคู่สมรสฝ่ายไทย (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
6. หนังสือเดินทางของคู่สมรสฝ่ายไทย (ตัวจริงและสำเนาหน้ารายละเอียด 1 ชุด)

- เราจ่ายค่าธรรมเนียมในการขอหนังสือรับรองการสมรส 360 บาท คะ -

จากนั้นเราก็เอาหนังสือรับรองการสมรสที่สถานฑูตออกให้เป็นภาษาอังกฤษ ไปแปลเป็นภาษาไทยคะ (เราแปลเองคะ) และนำหนังสือรับรองการสมรสทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยไปประทับตรารับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ (ชั้น 3) กรมการกงสุล ด้วยนะคะ (เราจ่ายค่าธรรมเนียมชุดนี้ 400 บาทคะ) หลังจากนั้น 2 วันทำการ คุณก็จะได้รับเอกสารที่ผ่านการประทับตรารับรองคะ โดยเราให้กองสัญชาติและนิติกรณ์ส่งกลับทางไปรษณีย์(EMS)คะ โดยจ่ายค่าส่ง 50 บาทคะ

ต่อจากนั้นเราก็นำหนังสือรับรองการสมรสที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ผ่านการประทับตรารับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ ไปยื่นที่ว่าการอำเภอคะ เพื่อดำเนินการจดทะเบียนสมรสที่ไทยต่อไปคะ

เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรส ณ. ที่ว่าการอำเภอ คือ
1. หนังสือรับรองการสมรสที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ผ่านการประทับตรารับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์
2. ทะเบียนที่ไทยของคุณ ทั้งตัวจริงและสำเนา
3. บัตรประชาชนของคุณ ทั้งตัวจริงและสำเนา

หลังจากนั้น ที่ว่าการอำเภอจะออก ใบบันทีกฐานะครอบครัวให้เราคะ ก็เท่ากับว่าการจดทะเบียนสมรสที่ไทยเป็นอันเสร็จเรียบร้อยคะ (เราขอใบบันทึกฐานะครอบครัว 3 ชุด คะ กันพลาดคะ) หุหุ เราไปดำเนินการในวันเสาร์เช่นเดิมคะ

พอทำเรื่องจดทะเบียนสมรสที่ไทยเสร็จแล้ว เราก็ไปทำเรื่องเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็นนางคะ และเปลี่ยนนามสกุลตามแฟนคะ (ตอนที่ขอเปลียนนามสกุลตามแฟนนั้น ปลัดอำเภอตอ้งการเอกสารเกี่ยวกับแฟนคะ เช่น สำเนาหนังสือเดินทางของแฟน แต่เราไม่มีให้คะ มีแต่โคะเซะกิโทฮ่งและหนังสือรับรองการสมรสที่สถานฑูตออกให้เป็นภาษาอังกฤษไปโชว์ให้ปลัดอำเภอดู เค้าเลยยอมให้เปลียนคะ) ขอย้ำว่าเรื่องการขอดูเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขอเปลี่ยนนามสกุลตามสามีนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละที่หรือแต่ละเขตนะคะ บางที่หรือบางเขตก็ไม่เอาคะ และอีกเรื่องที่อยากจะแจ้งคือ ตามกฎหมายไทย ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะต้องเปลี่ยนคำนำนามชื่อเป็นนางทุกคน ส่วนนามสกุลจะเปลี่ยนตามสามีหรือไม่ก็ได้คะ แต่เจ้าหน้าที่สถานฑูตญี่ปุ่นประจำไทย เค้าแนะนำให้เปลี่ยนคะ เพื่อจะได้ง่ายต่อการขอใบพำนัก (ไซริว) คะ

เมื่อเราเปลียนคำนำเป็นนาง และเปลี่ยนนามสกุลตามสามีแล้ว ในวันเดียวกันเราก็แจ้งทำบัตรประชาชนอันใหม่ด้วยเลย และอีกวันก็ไปทำอี-พาสปอร์ตเล่มใหม่ ที่กรมการกงสุล ด้วยคะ

จากคุณ : matsudo (matsudo) - [ 27 มิ.ย. 50 21:41:09 ]