Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ตอนนี้กำลังทำหรือมีแผนทำอะไรกันคะ ทำงาน เรียน??? แลกปลี่ยนความคิดกันนะคะ

    ขอเล่าฝันและแผนการของตัวเองก่อนนะคะ

    ตัวดิฉันเอง หลังจากอยู่บ้านเฉยๆมา 1 ปีเต็ม ก็เริ่มเบื่อค่ะ เมื่อก่อนยังได้เรียนภาษาแต่พอเจ้าตัวเล็กเริ่มอยู่ไม่สุข เอาไปเรียนด้วยไม่ได้เลยต้องหยุดพักเลยมาถึง 1 ปี

    อีกอย่าง เมืองที่ดิฉันอยู่ ครอสต่างๆนาๆก็เริ่มเปิดเดือน สิงหา-กันยา ทั้งนั้น ไม่มีแบบ 3 เดือนเปิดที เหมือนเมืองอื่นๆค่ะ พลาดไปทีก็รอจนหนียงยาน ปีหน้าโน้น

    ตอนนี้ที่ทำอยู่ก็ลงเรียนเต้น salsa อาทิตย์ละ 2 ชม.(สำหรับดิฉันคิดว่าน้อยไปน่าจะ 4 ชม.) แล้วพอเดือนกันยา จะเอาลูกเข้าเนอสเซอรี่ ภาวนาให้เนอสใกล้ๆบ้านรับทีเถ๊อะ ขนาดจองล่วงหน้า 3 เดือนนะคะ ยังต้องรอผลอาทิตย์หน้า ส่วนที่อื่นๆเต็มหมด ที่นี่บางที่ต้องจองกันข้ามปีทีเดียว

    แล้วตัวเองจะลงเรียนทำอาหาร เพื่อจะได้ใบอนุญาตเปิดร้านเป็นของตัวเอง(แต่ต้องหาประสบการณ์ก่อน) ที่เบลเยี่ยมปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะได้ใบจากคุณหมึกแดงหรืออาจารย์ยิ่งศักดิ์ก็เปิดร้านไม่ได้ค่ะ ต้องมาเรียนที่นี่ เอาใบจากที่นี่เท่านั้น เป็นระยะเวลา 2 ปีเชียว

    เมื่อก่อนคิดที่จะเรียนเสริมสวยเหมือนกัน ใจรักด้วยค่ะ แต่ไม่เอาดีกว่าชอบทำอาหารมากกว่า ที่ไม่เอาเสริมสวยเพราะเรามองว่าในอนาคต(อันไกล) ถ้ามีธุรกิจเป็นของตัวเอง จะเอาคนในครอบครัวมาช่วยงานที่นี่ ไม่จ้างฝรั่งแน่นอนค่ ลองมองภาพดูว่าถ้าเราเป็นฝรั่งแล้วเข้ามาร้านเสริมสวย ปรากฏว่าทั้งร้านมีแต่คนเอเชีย มันดูยังไงๆไม่รู้ ไม่รู้ว่าเค้าจะเชื่อฝีมือเราไหม ที่เมืองนี้คนเอเชียน้อยค่ะ ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายต้องเป็นฝรั่งเท่านั้น

    แต่ถ้าเป็นร้านอาหารไทย เราได้เปรียบเพราะเราขายความเป็นเราอยู่แล้ว เข้ามาที่ร้านมีแต่คนไทยก็ไม่แปลก ยิ่งดีใหญ่ ฝรั่งจะได้รู้ว่าเป็นร้านคนไทยแท้ๆ ไม่ใช่คนจีนมาทำร้านไทย

    แต่แม่สามีเธอบอกว่า คิดดูดีๆ ร้านเสริมสวย 6 โมงเธอก็ปิดร้านได้แล้ว แต่ร้านอาหารมันทำทั้งวันทั้งคืน ใช่...เห็นด้วยเหมือนกัน แต่ไม่รู้สิคะ มันเหมือนไม่ใช่เรา มันไม่ภูมิใจยังไงไม่รู้ เราอยากโชว์ความเป็นไทยให้ต่างชาติรู้มากกว่านี้ ตัวเองอยากให้คนที่นี่รู้จักอาหารไทย ประเทศไทยมากกว่า พัทยา ภูเก็ต (กินอุดมการณ์มากไปไหม)

    มีคนแนะนำว่าทำไมไม่เรียนเอาใบอนุญาตเปิดเนอสเซอรี่ มีเพื่อนคนนึงเค้าทำ รับเด็กได้ 4-5 คนรวมลูกตัวเองด้วย ทำงานที่บ้าน อืม...น่าสนหมือนกัน แต่...ไม่รักลูกชาวบ้านขนาดนั้น ดูแลได้บางครั้งบางคราว แต่ให้ทุกวัน ไม่เอาดีกว่า....

    จบ ป.ตรี ท่องที่ยวมา มาที่นี่ก็อยากทำงานที่โรงแรม แต่เค้ารับคนที่พูดได้อย่างน้อย 3 ภาษาคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ตัวดิฉันเองอังกฤษได้ ฝรั่งเศสยังไม่ค่อยรอด เนเธอแลนด์ไม่ได้เลย สุดท้ายนั่งคิดนอนคิดว่าจะทำอะไรดีที่ตัวองชอบที่สุด(ชอบหลายอย่างมาก ชอบเท่าๆกันด้วย)

    จนสุดท้ายตัดสินใจเรียนทำอาหารค่ะ ที่วางแผนไว้คือหลังจากเรียนจบ 2 ปีก็หางานทำ ตอนแรก เอาแบบไม่ทำกลางคืน คืออาจจะต้องหางานทำอาหารให้หน่วยงานราชการ โรงเรียน หรือที่ไหนก็ได้ที่เปิด 8.30 ปิด 4.30 ปิดเสาร์อาทิตย์ เพื่อศึกษาการทำงานในครัวอย่างเดียว

    สุดท้ายคงต้องไปฝึกงานร้านอาหารสักระยะ เพื่อศึกษาวิธีการบริการลูกค้า รับอาหารตามออเดอร์ ศึกษาเรื่องเครื่องดื่มต่างๆ บัญชีรายรับรายจ่าย การจ่ายภาษี การซื้อของ การบริหารงาน (ตอนนี้มีเจ้าของร้านอาหารไทยใจบุญจองตัวแล้ว อิอิอิ)

    พูดถึงก็เหมือนฝันนะคะ ไม่รู้ว่าจะสักกี่ปีถึงจะถึงฝั่งฝัน แต่ชีวิตคนเรามันต้องสู้ใช่ไหมคะ ไม่ลองไม่รู้ อนาคตข้างหน้า คนข้างกายอาจเปลี่ยนไป ไม่อยากเอาชีวิตทั้งชีวิตไปฝากกับใคร วันนึงถ้าเค้าไม่อยากอยู่กับเรา(หรือเราไม่อยากอยู่กับเค้า)เราก็ยังมีทางของเราต่อไป ดูแลตัวเองและลูกได้ หรือไม่แน่ตอนนี้เค้าเลี้ยงเรา อนาคตเราอาจจะเลี้ยงเค้าก็ได้ ใช่ไหมคะ

    แต่ถ้ามีร้านเองก็เลือกไม่ได้ที่จะเปิดกลางคืน แต่ถึงตอนนั้นลูกและสามีก็ยังมาให้เห็นหน้าที่ร้านได้

    ว่าแล้วก็วกเรื่องเรียนทำอาหารต่อ ในตอนแรกเค้าจะให้เรียนไม่มากค่ะ แค่ 2 วันต่อสัปดาห์ ดิฉันก็ยังมีเวลาที่เหลือไปเรียนภาษาได้(ถ้าวันเวลาไม่ชนกัน) และตอนเย็นก็ยังไปเรียนเต้นได้อยู่ (ชอบมากเหมือนกัน คลายเครียดดีค่ะ)

    พอหลังๆทางโรงรียนจะเพิ่มวันพร้อมฝึกงานให้ที่โรงรียน เพราะโรงรียนมีโรงอาหาร เค้าจะให้ฝึกที่นั้น
    ตอนนี้สามีเริ่มเห็นความเป็นดิฉัน(เพิ่งจะมาเห็น) เค้าบอกว่าดูหน้าสีหน้าหลังจากออกไปเรียนเต้นมาดิฉันอารมณ์ดีมีความสุข สวยขึ้น(เกี่ยวไหม) แสดงว่าดิฉันต้องการเรียนมากกว่าการอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน ถะถะ...ถูกต้องนะคร้าบ อีกอย่างครูสอนเต้นหล่อด้วย กิ้ววววว

    ดังนั้นเมื่อมีเวลา มีไฟ มีสปอนซอร์แล้ว จึงขอตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างฝันค่ะ

    อ้อ...อีกอย่างนึง อยากเรียนขับรถด้วยแต่ต้องเอาไว้ก่อน เพราะเวลาคงไม่มีและเรื่องภาษาต้องรอให้พัฒนามากกว่านี้อีกนิดค่ะ

    นั่งคิดเล่นๆ ตอนนี้อายุ 26 เรียน 2 ปี จบ 28 หางานอาประสบการณ์อีกเต็มที่ 3 ปี พออายุ 31 ปีก็เริ่มก่อร่างสร้างร้านเป็นของตัวเอง เอาเป็นว่าจะพยายามไม่ให้เกิน 33 แล้วกันค่ะ เผื่อเหลือเผื่อขาด

    โชคดีอย่างนึงที่เบลเยี่ยมค่าเล่าเรียนครอสต่างๆไม่แพง สามีเป็นสปอนซอร์สบายๆค่ะ


    แล้วแม่บ้านท่านอื่นๆมีแผนจะทำอะไรกันบ้าง เล่าให้ฟังบ้างนะคะ

    สุดท้ายขอบคุณที่นั่งอ่านนะคะ สบายใจขึ้นค่ะ เพราะมันเหมือนกับมีอะไรอัดๆอยู่ในหัว เพราะคิดอยู่คนเดียวตลอด 1 ปีแล้วตอนนี้มันได้ปลดปล่อยแล้วค่ะ

    จากคุณ : bellemaman - [ 29 มิ.ย. 50 16:39:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom