*** ได้วีซ่า UK เพื่อไปหาที่รักแล้วนะคะเพราะการเตรียมตัวที่ดีนี่เอง **

สัญญาไว้ว่าจะมาเปิดกระทู้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการไปเยี่ยมแฟน ที่รัก ญาติ เพื่อน และอื่นๆอีกมากมาย สรุปก็คือคนที่เราคิดถึง เพราะเราไม่ได้เป็นประชาชนในประเทศโลกที่หนึ่ง แต่เป็นประเทศโลกที่สาม (แต่ไม่ต้องน้อยใจนะคะ บ้านเราในน้ำมีปลาในนามีข้าว และเราก็ไม่เคยอดอยากถ้าเรามีสองมือสองเท้าทำงานแลกอาหารซึ่งอร่อยกว่า ดีกว่า และถูกกว่าเมืองนอกมากมาย) เมื่อเราจะไปประเทศในแถบยุโรป ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เค้าจะต้องทำให้มันยากเข้าไว้สำหรับพวกเรา

เมื่อวานได้วีซ่ามาแล้ว เป็นวีซ่าที่เรียกว่า visitor หรือผู้ไปเยือน ซึ่งวีซ่าแบบนี้ใช้ทำงานไม่ได้ แต่งงานไม่ได้ และอยู่ถาวรไม่ได้นะคะ มีคนไทยเราหลายคนได้วีซ่าประเภทนี้มาด้วยความที่กงสุลอังกฤษเค้าไว้ใจ แล้วดันไปอยู่เลยไม่กลับ อยู่ไปทำงานผิดกฏหมายและไม่ยอมจ่ายภาษีให้รัฐของเค้า บางคนไปค้าบริการ ซึ่งตรงนี้ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องมาเดือดร้อน เดี๋ยวนี้จะเข้าประเทศเค้าถึงขนาดต้องสแกนนิ้วมือเก็บไว้เพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศโดยใช้วีซ่าปลอม ขอฝากประจานคนที่ไปอย่างผิดกฏหมายและไม่กลับมาเมื่อถึงเวลาที่กำหนดว่าคนอาจคิดว่าแค่คุณคนเดียวเองทำแบบนี้ไม่เป็นไร แต่ก็เพราะว่ามีคนที่คิดแบบคุณหลายๆคนเนี่ยแหล่ะ ความยากในการเข้าอังกฤษตอนนี้ถึงยากมากถึงมากที่สุดแม้ว่าคุณจะคิดว่าเอกสารคุณพร้อมแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นถ้าใครที่คิดอยากอยู่ถาวร ขอให้อย่าท้อแท้ เราเรียนรู้จากความผิดพลาด และเมื่อวันนึงคุณได้เข้าประเทศเค้าอย่างถูกกฏหมาย คุณจะมีความภาคภูมิใจมากกว่า หายใจได้ทั่วปอด และเป็นที่ภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูลด้วยว่าไม่ได้ไปและอยู่อย่างผิดกฎหมายค่ะ

ในกระทู้นี้จะขอพูดแค่เรื่องวีซ่าแบบท่องเที่ยว แบบเยี่ยมเยือน เพราะในชีวิตยังไม่เคยได้ไปเรียนเมืองนอกค่ะ ส่วนตัวเคยได้วีซ่ารวมกันทั้งสิ้น 4 ครั้ง เป็นประเทศในยุโรปทั้งหมด และสำหรับคนที่หน้าหนังสือเดินทางว่างเปล่า คุณไม่ต้องออกไปมาเลเซียหรือ ฮ่องกงเพื่อให้ได้ประทับตราก่อนไปขอวีซ่าไปที่ไหนก็ตามค่ะ เพราะบางคนที่ไปเรียนต่อที่อังกฤษและทำงาน (ย้ำว่าอย่างถูกกฎหมาย) มีหลายคนที่ก่อนที่เค้าจะออกนอกประเทศครั้งแรกคือไปอังกฤษ หน้าพาสปอร์ตของเค้าขาวสะอาดเลยนะคะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเกร็งค่ะ เพราะว่าเราซึ่งพอมีประสบการณ์การขอวีซ่าแบบท่องเที่ยวและเยี่ยมเยียนจะบอกเคล็ดลับดีๆให้นะคะ

วีซ่าอังกฤษและอเมริกาเป็นวีซ่าประเภทปราบเซียนค่ะ และยอมรับว่าช่วงที่ตัวเราเองรอผลวีซ่านั้น... ทรมานมากถึงมากที่สุด เพราะยิ่งกว่าซื้อหวย.. ลุ้นมากกว่าตอนฟังผลเอนซ์ เพราะตอนเอนซ์ยังพอกะกำลังตัวเองได้ แต่นี่การตัดสินใจอาจขึ้นกับคนๆเดียวและคนๆเดียวนั้นอาจไม่ชอบในเอกสารที่เค้าเห็นก็ได้..

จงเตรียมเอกสารเหล่านี้เมื่อคุณต้องการไปอังกฤษไม่เกิน 3-6 เดือน และคุณไม่มีเงินในบัญชีถึง 1 ล้านบาทค่ะ และหรือ ที่ดิน บ้าน รถ ในชื่อของตัวคุณเอง

เอกสารของตัวคุณเอง

- สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรประจำตัวพนักงาน และนำตัวจริงเผื่อๆไปด้วยเผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
- สำเนาพาสปอร์ต ทั้งเล่มใหม่ และเล่มเก่าถ้ามี และตัวจริงด้วย แต่เล่มเก่าต้องเอาไปด้วยเพราะเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ตอนที่ดำเนินการวีซ่า
- จดหมายจากที่ทำงานระบุว่าคุณทำงานอยู่ตำแหน่งอะไร เริ่มงานวันที่เท่าไหร่ อนุญาติให้ไปพักผ่อนหรือเยี่ยมใคร เป็นเวลานานแค่ไหน พร้อมสำเนาใบลาที่มีเจ้านายคุณเซ็นอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ของเราเราเล่นเอานามบัตรเหน็บไปด้วยเลย ถือคติมากดีกว่าน้อย ในเว็บไซค์ของกงสุลเองก็ว่าแบบนี้แหล่ะค่ะ ในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของกิจการ คุณต้องมีหนังสือจากกระทรวงพานิชญ์ ทั้งตัวจริงและสำเนาด้วย
- และสำหรับใครที่ไม่ได้ทำงาน หรือไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ อันนี้อาจยากหน่อยเพราะว่าอย่าลืมว่าวีซ่าประเภทที่คุณไปนั่นคือไปไม่เกิน 6 เดือน แล้วอะไรล่ะจะการันตีว่าคุณไปแล้วจะกลับมา และไม่ไปทำงานที่นั่นแบบผิดกฏหมาย ตรงนี้ขอให้คุณขอบคุณพระเจ้าถ้าคุณมีหนี้สิน แสดงเลยว่าคุณมีภาระยังต้องผ่อนบ้าน ที่ดิน หรือรถตรงนี้และยังไม่ไปไหน ยังไงก็จะกลับมา ให้สรุปง่ายๆก็คือ คุณต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ก็ทั้งสองอย่าง คือถ้าไม่มาหน้าที่การงาน ก็ต้องมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในเมืองไทย แต่ถ้าคุณไม่มีทั้งสองอย่าง ได้โปรดอย่าเสี่ยงไปขอวีซ่าประเภทนี้ เพราะมีโอกาสสูงที่คุณจะไม่ได้วีซ่า ลองหางานทำดูก่อนซัก 5 เดือนค่อยเข้าไปขอที่ทำงานลาดูซัก 3 สัปดาห์จะดีกว่า
- จดหมายแนะนำตัวคุณเองและบอกจุดประสงค์ที่ต้องการไปอังกฤษ ในเน็ทมีตัวอย่างเยอะมากลองค้นหาดูด้วยกูเกิ้ล
- ถ้าคุณมีสปอนเซอร์ อะไรๆที่เกี่ยวกับสปอนเซอร์หรือแฟนคุณต้องมีไปแสดง รูปถ่ายตอนที่เจอกัน บิลค่าโทรศัพท์ อีเมลล์ เลือกเอาแต่ที่ดีๆ นะคะ ที่ทะเลาะกันหรือคอนเวอร์เซชั่นที่มันหวือหวาเกินไปอย่าเอาไปโชว์นะคะ อายเค้า อิอิ
- ถ้าคุณมีคนรู้จักที่สามารถบุ๊คตั๋วเครื่องบินได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินแล้วได้ตัวที่เรียกว่า itinerary ที่บอกรายละเอียดตั๋วเครื่องบินกรุณาเอาไปโชว์ด้วย ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้ามีมันเหมือนมีอะไรไปให้เค้าเชื่ออีกว่าเราไปแล้วกลับจริงๆ

คราวนี้มาว่ากันถึงเอกสารที่เค้าต้องเตรียม

- พาสปอร์ตหน้าที่มีวีซ่าเมืองไทยทั้งหมดและหน้าที่มีรูปของเค้า
- จดหมายเชิญเรา เรากับเค้าเป็นอะไรกัน ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนส่วนใหญ์น้ำหนักไม่มากพอให้ได้วีซ่า เพราะเจ้าหน้าที่อาจไม่เชื่อว่าเพื่อนจะเปย์ขนาดนั้น บอกเลยว่าไปเมื่อไหร่ กลับเมื่อไหร่ พักที่ไหน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางอะไรบ้าง ถ้าต้องการตัวอย่างหาได้อีกจากในเน็ท ถ้าหาไม่ได้เมลล์มานะคะ
- Statement ในบัญชีของเค้าย้อนหลัง 3- 6 เดือน ของเราเอาไปแค่ 3 เดือน ไม่เอาบัญชีที่ติดลบนะ ลืมบอกว่าแฟนเราไม่ได้รวยเลย รายได้หลังหักภาษีแค่ 2000 ปอนด์ต่อเดือนเอง ก็เอาไปโชว์ๆ ให้หมด
- ทะเบียนบ้านของเค้า ถ้าไมีมีทะเบียนบ้านและเช่าบ้านอยู่ ต้องมีสัญญาเช่าไปโชว์ด้วย และสัญญานั้นต้องยังใช้ได้อยู่ ไม่ใช่หมดอายุแล้วนะ
- จดหมานจากที่ทำงานของเค้า เหมือนที่เราได้จากที่ทำงานของเรานั่นแหล่ะ แต่ของเค้าไม่ไม่กล่าวถึงเรื่องวันหยุดและการขอวีซ่า แค่รับรองว่าทำงานอยู่ที่นั่นจริง ถ้าในกรณีที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร เค้าต้องมีหนังสือยืนยันว่าเค้ามีกิจการจริง ตัวนี้แหล่ะสำคัญมาก อำเถอเค้าออกให้ได้ทุกเมื่อค่ะ

เอกสารพร้อมก็ต้องยื่นนะคะ

เมื่อเอกสารพร้อม ตัวคุณเองก็ต้องพร้อมด้วย ให้ไปถึงประมาณ 8 โมงเช้าจะดีที่สุด อย่าไปวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ศูนย์เพิ่งปิดเมื่อวานเพราะคนจะมหาศาล ไปวันกลางๆสัปดาห์ดีที่สุดค่ะ อย่าแต่งตัวเหมือนเพิ่งไปอาซีเอมาเมื่อคืนและปาร์ตี้ยันเช้าไม่ได้นอนแล้วมาที่ศูนย์วีซ่าเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่จะดูเอกสารคุณมากเป็นพิเศษ นอนให้พอ แต่งตัวให้เรียบร้อยอย่าใส่ส้นสูง 6 นิ้ว... หุ้มส้นดีที่สุดค่ะ ที่สำคัญคือมีและเล็บสะอาด มืออย่าให้มีแผลเด็ดขาดเพราะจะมีการสแกนลายนิ้วมือ ย้ำ อย่าให้มีแผลที่ทำให้เสียรอยนิ้วมือ ไม่งั้นขั้นตอนจะยืดเยื้อไปอีกค่ะ

เตรียมที่ใส่เอกสารให้พร้อมและดูดี เตรียมพวกที่นีบกระดาษไปบ้าง แบ่งเอกสารตามลำดับให้ดูง่าย อย่าปนกันดูแล้วมั่ว ให้นั่งหลับตาแล้วนึกนะคะว่าถ้าเราเป็นเจ้สหน้าที่เราอยากเห็นเอกสารแบบไหน ปนกันมั่วๆ หรือว่าแบ่งเป็นระเบียบ ครึ่งแรกของเรา ครึ่งหลังของเค้าเป็นต้น

ไปถึงซัก 8 โมงถ้าจะให้ดีให้มีเพื่อนทำงานเป็นทีมเพราะคนนึงต้องไปต่อคิวธนาคารชั้นล่างเพื่อซื้อดร๊าฟท์เงินสดประมาณ 4375 บาท และตัวเราต่อคิวไว้ชั้น 2 เพื่อรอคิวเข้าไปในห้องประหาร เอ้ยไม่ใช่ค่ะ ห้องรอซึ่งจะมีคิวตั้งแต่ A001 – A200 สำหรับผู้ที่มาขอวีซ่า การดำเนินการเดี๋ยวนี้รวดเร็วมากมาย ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็เสร็จและรอรับใบเสร็จซึ่งใบเสร็จตัวนี้สำคัญมากใช้สำหรับวันที่จะมารับพาสปอร์ตคืนค่ะ เมื่อได้มาแล้วก็กลับบ้าน เจ้าหน้าที่จะบอกให้คุณโทรมาเช็ควันรับพาสปอร์ต ในช่วง 1-3 วันหลังจากยื่นเอกสารจงเก็บมือถือไว้ใหล้ตัวเพราะเจ้าหน้าที่อาจโทรมาสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ให้พูดแต่ความจริง โกหกเค้าจับได้ทันทีและคุณก็จะได้พาสปอร์สคืนมาโดยที่ไม่ได้วีซ่านะคะ ในกรณี เราเรารอ 2 วันไม่มีสัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น เช็คแต่สถานะ พาสปอร์ตเราในเน็ทที่ http://www.vfs-uk-th.com/External/OnlinePassportTracking.aspx หรือทางโทรศัพท์ แต่ต้องรอสายประมาณ 5 นาที ปกติสถานะที่แจ้งในเน็ทเชื่อได้ตลอดเพราะตรงกับทางเจ้าหน้าที่ ปกติหลังยื่นไปแล้วสถานะจะเป็นดังนี้
1. Application forwarded to visa section – ส่งเรื่องไปที่หน่วยวีซ่าแล้ว (ลุ้นค่ะลุ้น)
2. Passport received from embassy (ได้พาสปอร์ตคืนมาจากสถานฑูตแล้ว มารับได้..แต่โทรไปที่ศูนย์อีกทีจะดีกว่าถ้าเห็นข้อความนี้ เพื่อความชัวร์)
3. Handover to applicant (นางอำแดงมารับพาสปอร์ตคืนไปแล้ว คือถ้าเราไปเอามาแล้วอันนี้จะขึ้นมาเลยในหน้าเว็พ)

ขอให้ทุกคนสมหวังนะคะ เพราะเราเข้าใจดีที่สุดเวลาที่เราคิดถึงและอยากเจอใครซักคนที่เรารัก ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมก็เมลล์มาได้นะคะที่ look4getty@hotmail.com ค่ะ

p.s. thank you so much for such a great hospitality from VFS center. Khun Ton was VFS employee who let me submit whole documents. He was such a polite person and truly professional on his field. Thank you so much for everyone who submitted all great knowledge in this web board. Thank you so much for ‘the 2 girls’ who apply for the visa in the same day with me. They allowed me to go and buy draft downstairs and they block that queue for me while I was away for draft, so I didn’t have to start it over again at queue number 200! I wish them the best of luck and getting student visas. Actually, I am sure they would! NAM JAI KHON THAI MAI TOOD TING KAN !!

จากคุณ : G. - [ 7 ก.ค. 50 09:39:23 A:58.97.14.29 X: ]