ความคิดเห็นที่ 1 เเง๊ว มาว่าเค้าได้ไงอ่า เค้าก้อใช้พาสาของเค้าอย่างงี้มานานเระ มานน่าร๊ากกกกก ออกน๊า .. งุงิ๊ๆๆ (555..แหวะ) ------------------ ขัดหูขัดตาไหมคะ ถ้ารู้สึกเเบบนั้น ก็เเสดงว่าใจตรงกัน อิอิ จากคุณ : อืม - [ 21 ก.ค. 50 15:44:08 A:124.120.29.147 X: TicketID:131100 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลัวมากครับ กลัวว่าลูกหลานเหลนโหลนภายหน้าจะพากับพูดภาษาไทยแบบนี้ โอย...แค่นึกก็ขนลุกแล้ว บรื๋อ.... จากคุณ : CHISWICK - [ 21 ก.ค. 50 16:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เฮ้อ ซิริอุสอะไรกันนักหนา ไปแอบแบ๊วแถวห้องหมาห้องแมวดีก่า จากคุณ : ... - [ 21 ก.ค. 50 16:51:16 A:128.240.233.197 X:128.240.229.67 TicketID:133382 ]

ความคิดเห็นที่ 4  เราเฉยๆ และ กลับมองว่าเป็น วิวัฒนาการ และ ความฉลาดหลักแหลม บวกกับอารมณ์ขัน ของทักษะในการใช้ภาษามากกว่า ไม่ใช่แต่เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น ภาษาไหนๆ ก็มีศัพท์ มีแสลง เกิดขึ้นใหม่ๆ กันทุกวัน ภาษาเก่าค่อยๆ หายไป บางคำก็ไม่มีใครใช้แล้ว หรือ ถ้าเอามาใช้อีก ก็จะถูกมองว่าเชยแหลก ภาษาใหม่ๆ ตัวย่อต่างๆ  โดยเฉพาะที่มนุษย์ยุค "Wi-Fi ไวควายอินเทอร์เน็ต" นำมาใช้สื่อสารกันทาง SMS, MSN เกิดขึ้นใหม่มีอยู่มากมาย มีพี่คนหนึ่ง เปนผู้สูงอายุ ในห้องไกลบ้านนี่แหละ สอนคำไทยคำนึง ให้เราทราบ ซึ่งเกิดมาจนอายุจะเฉียด 40 แล้น เราก็เพิ่งเคยได้ยินจากคุณพี่ปากจัด คนนี้แหละ   ว่า สำนวน "อีโต้ ขว้างเฮี่ย"  ได้ยินครั้งแรก คนบ้าจี้อย่างเราขำจนหัวเราะลงไปกอง อยู่หลายนาที  ต่อให้ทุกวันนี้ ได้ยินสำนวนนี้เมื่อไหร่ก็ยังขำอยู่ไม่เลิก ส่วนภาษาอังกรึด ก็มีคำว่า Bootielicious เป็นต้น ซึ่งมาจากความสวย Sexy และ เต้นระบำเก่งของนักร้อง Beyonce Knowles   "Brangelina" ก็มาจาก ชื่อ Angelina (Jolie) สมาสกับ ชื่อ Brad (Pitt) เป็นต้น   It's only a language. Take it easy and always take a look at the sunny and win wue sides of life. As long as the end of the world has not come yet. Best wishes.   แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 18:15:53 จากคุณ : C U again s'time 2mrrw ja. (Siamese Girl) - [ 21 ก.ค. 50 16:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขนลุกตามไปด้วย... แต่จริงๆแล้วถ้านิดๆหน่อยๆ เราก็ตอบนะ แต่ตอบไปบ่นไป ยกเว้นว่าไม่ไหวจริงๆ เขียนได้แย่มากๆ อ่านแล้วหงุดหงิด อย่างนั้น นอกจากไม่ตอบแล้วยังเข้าไปบ่นอีก จากคุณ : yuy - [ 21 ก.ค. 50 17:01:41 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 6  ปล. กลับเข้ามาอีกรอบ จะบอกว่า ลองไปหา ภาพยนตร์เรื่อง สุริโยทัย, บางระจัน หรือ นเรศวร หรือ ไปหา จดหมายเก่าๆ ตั้งแต่สมัยเมื่อ ร้อยกว่าปีที่แล้ว จนถึงเมื่อ 50 - 60 ปีที่แล้วมาอ่านสิคะ ภาษาสำนวนต่างๆ วิธีการเขียน แตกต่างจากสมัยปี พศ. ๒๕๕๐ มากมายนะคะ   จากคุณ : อำแดงหย๋าม (Siamese Girl) - [ 21 ก.ค. 50 17:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ ^^  ว๊าย....ตายแล้นนนนน ขออภัยค่ะ อำแดงหย๋าม ลืมใส่พื้นสีด่างทับทิม ให้ คห. 6   ปล. คุณ จขกท. อยู่อังกรึด ที่อังกรึดยุคปัจจุบัน ไม่มีใครพูดจาแบบภาษาสำนวนของ Shakespear แล้วนะคะ  แต่ถ้าเด็กๆสาวๆ เคยเลียนแบบ Another "Spear" ที่ชื่อ Britney Spears ก็ว่าไปอย่าง (อิ อิ เพลง Toxic ดังมากเมื่อ 2 ปีก่อน ติดอันดับต้นๆ หรือ ที่ 1 ของ Brit Hot 100 เลยนะฮ้า) เราชอบอ่าน นสพ. The Sun เพราะเค้าชอบใช้ภาษาที่นักข่าวคิดขึ้นมาเองเพื่อเสนอข่าวประเภท Tabloid อ่านตลกๆ ขำๆ  ดี ไม่ได้อ่านเอาสาระ แต่เอาบันเทิง และ แวะเข้าไปดูพวก "Page 3 Girl" อึ๋มๆ บึ้มล่าง บึ้มบน   http://www.thesun.co.uk/section Best wishes.   แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 17:51:32 จากคุณ : Siamese Girl - [ 21 ก.ค. 50 17:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตอบคุณ อำแดงหย๋าม (Siamese Girl) ครับ คือถ้าเป็นการคิดคำใหม่ๆขึ้นมา เช่นคำว่า เริ่ด, โจ๋ อะไรแบบนี้นั้นถือว่าเป็นพัฒนาการทางภาษา ยอมรับได้ครับ แต่บางคำที่ตั้งใจสะกดผิดๆ เช่น อังกิด, ขอโทด, จาปายทามงาน แบบนี้มันไม่ใช่พัฒนาการทางภาษาแต่เป็นความวิบัติทางภาษาครับ เห็นด้วยกับคุณ yuy ครับถ้านิดๆหน่อยๆพอเป็นมุขตลกก็โอเค แต่บางกระทู้นั้นตั้งใจใช้ภาษาแบบนั้นทั้งหมดผมเห็นว่าไม่ตลกเลย จากคุณ : CHISWICK - [ 21 ก.ค. 50 18:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^^ ^^ Okie Dokie Donkey Doggie รับทราบเจ้าค่ะ คุณ ทึดสึก   Enjoy the rest of your Saturday and Sun(Fun)day in ประเทดอังกรึด ค่ะ   จากคุณ : อำแดงหย๋าม โจ๋ เริ่ดสะแมนแตน (Siamese Girl) - [ 21 ก.ค. 50 18:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาตอบคุณSiamese Girl อีกรอบครับ คือผมเองก็ชอบอ่าน The Sun เหมือนกันครับ แต่เป็นพวกข่าวเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่ Page 3 ไม่กล้าดูครับกลัวความอึ๋ม อึ๋มนี่ก็เป็นพัฒนาการทางภาษาที่ผมชอบคำหนึ่งครับ http://www.thesun.co.uk/article/0,,2005360338,00.html จากคุณ : CHISWICK - [ 21 ก.ค. 50 18:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รู้สึกว่าภาษา แอบแบ๊วนี่จะเริ่มขึ้นเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วนะคะ ที่จำได้เพราะว่า ตอนที่ย้ายมาอยู่อเมริกาใหม่ๆ ก็ต้องเขียน email แลกเปลี่ยนกัน กับน้องสาววัยรุ่นของเรา เพราะเราก็ดูแลน้องมาตลอด ส่งเสีย อบรมเลี้ยงดู น้องเริ่มเขียนอีเมลมาแบบมีภาษา "แอ๊บโง่" ไม่เรียก abแบ๊ว ค่ะ เพราะ มันเป็นความผิดปกติแบบโง่ๆ มากกว่ากว่า บ้องแบ๊ว ภาษาดูแล้วชวนอาเจียนอย่างยิ่งเพราะเวียนศรีษะมากๆ เจ๊.. อาจานห้ายกานบ้านมาบานเลย มิรุจิทามด้ายป่าว ช่วงนี้เจ๊หายปายหนายอ่ะ มิเหนโทมาเรยนะ ตอบ.. ถ้ามรึง เขียนภาษาวิบ้ติอย่างนี้มาอีก เดี๋ยวจะไม่เห็นเงินเดือนของเดือนหน้า ภาษาปัญญาอ่อนอย่างนี้เอาไปใช้กับเพื่อนฝูงใน m ก็อย่ามาเอาให้กรูได้เห็นอีก นี่ถ้าจบไปแล้วต้องไปทำงาน ระวังจะมานั่งเขียนภาษางี่เง่าให้เจ้านายกับลูกค้าได้เห็น หัดเขียนภาษาไทยให้มันถูกต้อง เพราะถ้าเขียนภาษา m จนเคยชิน เดี๋ยวก็ลืมว่า ภาษาไทยที่ถูกต้อง เขียนยังไง ไม่ชอบ .. ------------ โมโหมาก เลยตอบน้องไปแบบภาษาไทยโบราณ -_-' ตั้งแต่นั้นมาน้องมันก็เขียน email เป็นภาษาอังกฤษมาแทน ที่ไม่ชอบเพราะว่า มันไม่ใช่การสร้างภาษาใหม่ อย่างคำใหม่ๆที่ไม่มีมาก่อน แต่เป็นการเปลี่ยนคำเขียนไปเลยซึ่งบางทีการออกเสียงเหมือนคำเดิม บางทีก็เพี้ยนไป และยิ่งฟังดูอุบาทว์มากกว่า เช่น ทำไม - ทามมาย ไปกัน - ปายกาน มันฟังเหมือน ผู้พิการทางสมองกำลังใช้ความพยายามในการออกเสียงพูดซะมากกว่า คำว่า อ่ะ ยังพอทนได้เพราะเวลามีคนพูดมันยังฟังไม่ขัด ตามที่เข้าใจเอง .. อ่ะ เป็นเหมือนคำว่า ค่ะ แต่ไม่สุภาพเท่า จึงมาลงความเห็นตามคำเชิญของ จขกท ค่ะ ปล. ชอบชื่อ คุณหญิงไขศรีมากๆค่ะ จากคุณ : หญิงป้า - [ 21 ก.ค. 50 19:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไร้สาระ ไม่เห็นด้วย ภาษามันมีวิวัฒนาการ ของทุกอย่างมีวิวัฒนาการ มีการเปลี่ยนแปลง ไม่งั้นท่านก็นุ่งโจงกระเบนไปทำงานแล้วกัน ใครใคร่ใช้แบบไหนใช้ ภาษาเค้าใช้ไว้สื่อสาร สื่อสารรู้เรื่องก็เป็นพอ เค้าเขียนกระทู้ตอบมันก็ไม่เป็นทางการแต่อย่างใด คุณต้องแยกให้ออกระหว่างแบบทางการกับแบบไม่ทางการ ถ้าเขียนจดหมายงานแล้วเขียนแบบแอ๊บแบ๊วค่อยว่ากัน แต่การตอบกระทู้มันไม่ต้องขนาดนั้น คนทั่วไปเค้ารู้ว่าที่ถูกมันต้องเขียนอย่างไร หนังสือก็เรียนมาแต่เด็ก บางที่การตอบกระทู้มันอยากจะสื่ออะไรออกมาตามอารมณ์ อย่าดัดจริตให้มากนักเลย อ่านๆไปเหอะ จากคุณ : แดะจัง..ถึงกับต้องตั้งกระทู้ - [ 21 ก.ค. 50 20:16:39 A:124.120.12.60 X: TicketID:101679 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอตัวอย่างด้วยค่ะ  ... จากคุณ : ~ Amelie @ Heart ~ - [ 21 ก.ค. 50 20:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ ๆ มาดู แอ๊บแบ๊ว ของ BP สิ ขำกลิ้งเลย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5630944/E5630944.html ปล อย่าเคียด เอ้ย เครียดเลยค่ะ เราว่ามันก็แค่สื่อสารกันในเวป เด็ก ๆ เขาก็เล่นกันสนุก ๆ จากคุณ : . (CHLOROPHYLL) - [ 21 ก.ค. 50 20:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอขอบคุณคุณอืม, คุณSiamese Girl, คุณyuy, คุณหญิงป้า มากๆครับที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นแบบสุภาพชน สำหรับคุณ ~ Amelie @ Heart ~ ผมคงจะเอากระทู้ตัวอย่างมาแนะนำไม่ได้ครับ เพราะเกรงว่าจะเป็นการล่วงเกินจขกท.นั้นๆ ต้องขออภัยด้วยครับ เอาเป็นว่าลองอ่านๆไปเรื่อยจะเห็นมีอยู่หลายกระทู้ครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : CHISWICK - [ 21 ก.ค. 50 20:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก็แค่ภาษาที่ใข้ในอินเตอร์เน็ท ที่วัยรุ่นหาทางคิดกันขึ้นมา เพื่อความสนุกอย่างเดียวและก็ใข้คุยกันระหว่างเพือ่นๆ หรือตั้งขึ้นมา เพื่อลดระดับความซีเรียสของเนื้อหาในกระทู้ ขึ้นอยู่กับกาละเทศะด้วย   การพัฒนาการหรือการยิ่งทำให้เกิดความวิบัตืในภาษาไทยมีมานานแล้ว บางคำหายไปเอง บางคำก็ยังติดปากอยู่ มันแล้วแค่คนจะใช้มันนะครับ ในชีวิตประจำวันจริงๆ ต้องรู้ว่า คำไหนควรใช้อย่างไร เป็นทางการ เป็นส่วนตัว วัยวุฒิของผู้ที่จะพูดคุยด้วย หากใช้ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็จะส่งผลด้านลบให้แก่ผู้ใช้เอง จากคุณ : smartupid - [ 21 ก.ค. 50 21:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ ใช่แร้วค่า... จากคุณ : PatPDX - [ 21 ก.ค. 50 21:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นดว้ยกัยคุณsmartupidครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาละเทศะ คือถ้าใช้พูดคุยกันเองในหมู่เพื่อนฝูงที่สนิทกันก็โอเคครับ แต่กระทู้ส่วนใหญ่ที่ผมกล่าวถึงนั้นตั้งขึ้นมาเพื่อขอคำแนะนำจากบุคคลที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนโดยผ่านเวปสาธารณะ ผมคิดว่าไม่เหมาะสม ขอบคุณมากครับคุณPatPDX, คุณ(CHLOROPHYLL) จากคุณ : CHISWICK - [ 21 ก.ค. 50 22:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล กาละ และ เทศะ นั้นเป็นสิ่งสำคัญเสมอ หากคุณไปพูดหรือใช้คำแบบผู้รากมากดี ในหมู่ของกรรมกร คุณก็จะโดนมองแปลกๆ บางทีปากอาจจะแตกตามไปด้วย แต่ถ้าคุณดันทะเล่อทะล่าไปทำเสี่ยว เว้าแบบไม่ประสีประสาในงานพิธีสำคัญๆ ในโรงแรมหรูๆ หรือกาล่าดินเน่อร์ ตัวคุณเองก็จะถูกมองด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและเหยียดหยาม ดังนั้นของอย่างนี้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนครับ ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอก จนกว่าจะมีการชกปากกันเกิดขึ้น คนที่ชกก่อนย่อมได้เปรียบ ส่วนคนที่ถูกชกก็หาทางเอาคืนเองก็แล้วกัน จากคุณ : Duke of York - [ 21 ก.ค. 50 22:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็งล่วยกะ smartupid ค่า..... อ่า... เอ๊กคิ๊วมี จขกท. นะค๊า.... ถ้ารับ แลงเกวจ อาฮ้านบ่ได้ ฮุ ฮุ จากคุณ : แซวกันหนุก ๆ น่านะ ... - [ 21 ก.ค. 50 22:39:00 A:202.91.19.200 X: TicketID:145425 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีด้วย เพราะบางที่คนแก่ๆอย่างผม ไม่พิมพ์ภาษาไทยนานๆ (จะพิมพ์ก็แต่ website นี้แหละ) ก็อาจจะโดนข้อหา "แอ๊บแบ๊ว" โดยไม่เจตนา ผมว่าจะเป็นก็แค่วัยรุ่นนะ ความคิดความอ่านเป็นไง คนที่เคยผ่านมาย่อมเข้าใจดี ผมว่าเดี๋ยวมันก็หายไปเองตามวัย ใครมา "แอ๊บแบ๊ว" เราก็น่าจะตอบๆไป แต่ก็ควรแนะนำการใช้ภาษาที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย จะได้ช่วยลดกระแส จากคุณ : Thai Texan - [ 21 ก.ค. 50 22:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มันก็ไม่ถูก แต่มันก็ไม่เห็นต้องซีเรียสเลยนี่คะ ที่ไหน ๆ ในโลกมันก็มีทั้งนั้นแหละค่ะ เด็กนักเรียนในลอนดอน พูดกัน พี่ยังฟังไม่รู้เรื่องเลย นั่งในรถเมล์ ก็ฟังไป ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาษาเขียนเขาก็ย่อ ๆ มีอะไร ไม่ถูกต้องซะทีเดียวเหมือนกัน แต่เวลาต้องใช้เป็นเรื่องซีเรียส เขาก็จะซีเรียส คนอังกฤษนี่ยิ่งตัวดีเลย แค่เอ่ยปาก เขาก็จะรู้เลยว่า มาจากละแวกไหน ครอบครัวแบบไหน เหมือนกันแหละค่ะ น้องที่ทำแบบนี้ ต่อไป เขาก็จะเลิกไปเอง แก่ ๆ แล้วใครจะมาพูด อย่างงี้ จากคุณ : laughingbug - [ 21 ก.ค. 50 23:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 8 คือถ้าเป็นการคิดคำใหม่ๆขึ้นมา เช่นคำว่า เริ่ด, โจ๋ อะไรแบบนี้นั้นถือว่าเป็นพัฒนาการทางภาษา ยอมรับได้ครับ แต่บางคำที่ตั้งใจสะกดผิดๆ เช่น อังกิด, ขอโทด, จาปายทามงาน แบบนี้มันไม่ใช่พัฒนาการทางภาษาแต่เป็นความวิบัติทางภาษาครับ เห็นด้วยกับคุณ yuy ครับถ้านิดๆหน่อยๆพอเป็นมุขตลกก็โอเค แต่บางกระทู้นั้นตั้งใจใช้ภาษาแบบนั้นทั้งหมดผมเห็นว่าไม่ตลกเลย แม้ว่าผมจะสะกดผิดเสมอๆ  แต่ก็เห็นด้วยครับ  หากว่าตั้งใจสะกดผิดๆ เช่น อังกิด, ขอโทด, จาปายทามงาน   แบบนี้มันไม่ใช่พัฒนาการทางภาษาแต่เป็นความวิบัติทางภาษาครับ ผมจะเลีอกด้วยการไม่ตอบไม่ให้ข้อมูล  ผ่านๆไปเสียเลยนั้นแหละ ยังมีอีกภาษาที่ผมต้องใช้ความพยายามทำความเข้าใจ  คีอจำพวกที่ใช้ภาษาอังกฤษ เขียนเป็นอักษรไทย หรีอแม้แต่การคุย   แล้วตัดออกเสียครึ่งหนึ่ง   แต่ตอนนี้จำได้ แค่นี้ เช่น Certificate = เซอ และยังมีอีกหลายร้อยครับ จากคุณ : hollywop - [ 21 ก.ค. 50 23:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าผมรับเงินเดือนเพื่อตอบคำถามในห้องไกลบ้าน ใครใช้ภาษาแบบไหนผมก็ต้องทำหน้่าที่ พยายามทำความเข้าใจกับคำถามแล้วตอบตามสาระที่ถามมา เมื่อผมสมัครใจ เข้ามาอ่านตอบในห้องนี้หรือห้องไหนๆ ผมก็ทำใจเอาไว้แล้วว่าต้องมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมือนกับที่ผมชอบและคุ้นเคย ผมไปกำกับควบคุมเขาไม่ได้ ตำหนิไปหลายครั้งก็โดนย้อนกลับหนักบ้างเบาบ้าง ผมจึงควบคุมการตอบสนองของตัวเอง คำถามไหนมีความสำคัญกับจขกท. มาก ผมก็มองข้ามภาษาเขา แล้วหาคำตอบให้จนได้ อันไหนอ่านแล้วไ่ม่รู้เรื่องผมก็คลิคหนี ไม่เสียอารมณ์ และไม่เสียเวลา เพราะผมถือว่าเวลาคือชีวิต และผมก็มีเหลืออยู่ไม่มากนัก อีกทั้งเจียมตัวว่า ผมไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง แม้เรื่องอนุรักษ์ภาษาไทย ทั้งๆ ที่มีภาระใจมากมาย จากคุณ : นายคลิค - [ 22 ก.ค. 50 01:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราเห็นว่าตามปกติพอมีคนตั้งกระทู้โดยใช้ภาษาแบบ "แอ๊บแบ๊ว" อย่างที่เรียกกัน จขกท ก็มักจะโดนให้ไปแก้ไขการใช้ภาษามาใหม่เสมอๆ โดนว่าประจำอยู่แล้ว เป็นเราถ้าได้เจอ กท แบบนี้ก็ข้ามไปเสียสายตาเปล่าๆ เรามันอาจจะคนละวัยกับพวกเค้าค่ะ เลยตามวิวัฒนาการของพวกเค้าไม่ทัน ปกติก็ไม่เคยได้สนทนากับพวกนี้อยู่แล้ว แต่เคยฟังรายการวิทยุออนไลน์มีโทรเข้ามาประมาณว่า" คือว่า มายเข้าจายอ่ะค่ะ ทามมายถึงทามแบบนี้อ่ะค้า" โดนดีเจไล่ให้ไปฝึกพูดภาษาไทยให้ถูกต้อง รู้สึกชอบใจอย่างเงียบๆ เหมือนกันค่ะ เค้าคงรู้สึกว่ามันน่ารักมั้งคะ ก็ได้แต่ทำใจ ปล แต่ไอ้ประเภทจะ 40-50 อยู่แล้วเนี่ยยังมาทำเป็น แอ๊บแบ๊ว เนี่ยเค้าเรียกปัญญาอ่อนหรือไม่ก็วัยกลับค่ะ เห็นแล้วทุเรศลูกตาค่ะ จากคุณ : ฟ้าสวยมาก - [ 22 ก.ค. 50 05:01:19 A:75.82.49.33 X: TicketID:148391 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งทราบว่า แอ๊บแบ๊ว  คืออย่างนี้นี่เอง มีภาระใจกับภาษาไทยเหมือนกันค่ะ  เลยพยายามที่สุดที่จะสะกดให้ถูก และใช้ภาษาไทยให้ดี สุภาพ   คิดถึงคุณ POL_US รายนั้น  เธอเขียนภาษาไทยดีมาก ๆ ๆ ๆ ๆ สะอาด  สวย  สุภาพ  ตรงประเด็น  ได้ความกระจ่าง ประทับใจอยู่ตลอดเลยค่ะ จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 22 ก.ค. 50 05:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณทุกๆท่านครับ Duke of York, แซวกันหนุก ๆ น่านะ, Thai Texan,  laughingbug, hollywop, นายคลิค, ฟ้าสวยมาก และ หนูเล็กในเมืองนางฟ้า . จากคุณ : CHISWICK - [ 22 ก.ค. 50 08:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ CHISWICK ได้รับความร่วมมือ จากดิฉัน ค่ะ ดิฉันไม่อยากให้คำแนะนำอะไรกับคนแปลกหน้า... ที่ไม่รู้จัก การใช้ภาษาไทยเบื้องต้น หรือ ภาษาอังกฤษเบื้องต้น ที่แสดงถึงความเป็นสุภาพชน ในการขอความช่วยเหลือ ส่วนภาษาดิฉัน ไม่แอบแบ๊ว แต่ "ตกหล่น" บ่อยมาก ทั้งไทย และ อังกฤษ.. บางครั้ง จิ้มๆพิมพ์ไม่ใส่แว่นสายตาล่ะจะมี สะกดผิดมากมาย ดิฉันใช้ภาษาคุยเล่นๆ เฉพาะกับคนที่รู้จักสนิทกันเท่านั้น.. แต่กับคนแปลกหน้า ที่ดูเหมาะสมควร... จะใช้ภาษาสุภาพชน แก้ไขมีสะกดผิดตกหล่น แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 09:56:10 จากคุณ : JidNince - [ 22 ก.ค. 50 09:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29  สว้สดีตอนเช้าของอังกรึด จากตอนบ่ายของเมืองไทยค่ะ คุณ “Chiswick>ชิดสิค>ทิดสึก” แค่แวะเข้ามาทักทาย และ เอาพาดหัวข่าวของ “นสพ. โพสท์ทูเดย์”  ที่เน้นข่าวเศรษฐกิจ แถมด้วย Lifestyle สังคม ท่องเที่ยว มาให้คุณอ่านเล่นค่ะ (เป็น นสพ.ในเครือ Bangkok Post) ฉบับเมื่อวาน ประจำวันเสาร์ที่ ๒๑ ก.ค. ๒๕๕๐ เค้าโปรยหัวตัวชัดๆ โตๆ สองแง่ สองง่ามว่า “รัฐมะเขือเผา สู้ศึกบาทแข็ง คลอด 6 มาตรการหน่อมแน้ม ช่วยส่งออก”   http://www.posttoday.com Best wishes and have a wonderful S(F)unday.   +++++++++++++++++++++++++++++++++ ปล. ศัพท์แสลงไทยว่า “เริ่ดสะแมนแตน” นี้ คิด และ นำมาใช้เป็นคนแรกโดย “คุณเทิ่ง สติเฟื่อง” พิธีกรเกย์ รุ่นเก๋า ผู้ล่วงลับลาโลกไปแล้นนนนน ค่ะ ส่วนคำว่า “โจ๋” มาจาก แสลงว่า “จิ๊ก+โก๋” “จิ๊กโก๋” เป็นแสลงเพศชาย ของคำว่า “จิ๊กกี๋” ส่วน “จิ๊กกี๋” มาจากภาษา อังกรึด ว่า “Chickie” ซึ่งเป็นชื่อของ ภาพยนตร์จากยุค 50’s ด้วยค่ะ   เห็นแล้นนนน ชิมิเคอะ ว่านึ่คือส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการทางภาษาค่ะ นี่เฉพาะแค่ภาษาไทย ภาษาจีน จิปปุ่น อังกรึด อิตาเลี่ยน เปนต้น ก็มีศัพท์ใหม่ๆ คำที่ไม่ถูกหูคนรุ่นเก่า หรือ “พวกConservaถีบ” เกิดขึ้นทุกวันมากมาย คุยกันสามวัน ก็ยังไม่จบเลยฮ่า มะต้องคิดมากนะ อ่านเอาขำๆ พอ หึ หึ เคล็ดลับหน้าเด็กของเราก็คือ หาเรื่องขำ ทุกวันนี่แหละค่ะ เราเปนคน บ้าจี้ เห็นไร ก็ขำได้เกือบหมด เวลาโดนด่า ก็ขำคนที่มาด่า และ ขำตัวเอง ว่าอยู่เฉยๆนี่แหละแต่ช่างหาเรื่องให้ชาวบ้านที่ไม่รู้จักตัวเราสักนิด ให้เขามาด่าได้อยู่เนืองๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนอื่นก็คือ คนอื่น ตัวเราก็คือตัวเรา มองกันแบบขำๆ ก็เลยมีเรื่องมาให้ขำกันได้อีกหนึ่งต่อ   เรื่องของใคร ก็เรื่องของมัน เรื่องของเราม่ะใช่เรื่องของเขา ส่วนเรื่องของเขาก็ม่ะใช่เรื่องของเราค่ะ   C’est la vie!   จากคุณ : อำแดงหย๋าม Chickie กร่างGirlYo (Siamese Girl) - [ 22 ก.ค. 50 15:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอ ไม่ร่วมมือครับ เพราะชอบ แอ๊บแบ๊ว  มันน่ารักดี   ไม่มีเหตุผล  ไม่มีคำอธิบาย หลักการใด ๆ ทั้งสิ้น คับ จากคุณ : เลิศศักดิ์ - [ 22 ก.ค. 50 15:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากครับคุณ JidNince อุดมการณ์เดียวกันเลยครับ ขอบคุณเช่นกันครับคุณเลิศศักดิ์ สวัสดีวันอาทิตย์ครับคุณอำแดงหย๋าม Chickie กร่างGirlYo (Siamese Girl) ขอบคุณครับสำหรับข่าว ตอนนี้คนที่เมืองไทยก็มีหัวอกเดียวกันกับคนที่นี่เลยครับ เวลาฝนตกน้ำท่วมครับ ท่วมมากด้วยแล้วที่แย่กว่าคือน้ำเย็นมากด้วย จากคุณ : CHISWICK - [ 22 ก.ค. 50 16:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ไม่เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ ภาษาแอบแบ๊ว มันน่ารำคาญค่ะ บางทีเราก้พยายามจอ่านๆนะคะ อยากจะช่วยเหลือเค้า หรือบางทีตั้งกระทู้ไว้ อยากให้คมาตอบ พอมาอ่านแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องเพราะภาษาแอบแบ๊วค่ะ อันนี้ส่วนของคนที่โพสต์คอมเม้นนะคะ ปล แต่ไอ้ประเภทจะ 40-50 อยู่แล้วเนี่ยยังมาทำเป็น แอ๊บแบ๊ว เนี่ยเค้าเรียกปัญญาอ่อนหรือไม่ก็วัยกลับค่ะ เห็นแล้วทุเรศลูกตาค่ะ จากคุณ : ฟ้าสวยมาก - [ 22 ก.ค. 50 05:01:19 A:75.82.49.33 X: TicketID:148391 ] -อันนี้เห็นด้วยค่ะ เจอบ่อยมากๆ ความคิดเห็นที่ 13   ขอตัวอย่างด้วยค่ะ  ... จากคุณ : ~ Amelie @ Heart ~  - [ 21 ก.ค. 50 20:20:03 ]     -มีตัวอย่างค่ะ คอมเมนท์ที่29 ของคุณ อำแดงหย๋าม Chickie กร่างGirlYo (Siamese Girl)   - [ 22 ก.ค. 50 15:42:40 ] คอมเมนท์นี้ตอบโจทย์ทั้งของคุณฟ้าสวยมาก และก็คุณ ~ Amelie @ Heart ~ ได้ตรงเด๊ะๆเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 02:07:06 จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 23 ก.ค. 50 01:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จะเข้ามาบอกว่า เห็นด้วยกับทุกความเห็น ที่เห็นด้วยกับคุณ เจ้าของกระทู้ ดิฉันเป็นคนนึง ที่ต่อต้านเรื่องนี้มานานตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น (พูดเหมือนแก่ แต่ว่าไม่ได้มีอายุ อานาม มากมายหรอกนะคะ แต่ก็ไม่ใช่ วัยรุ่นแล้ว) เคยอ่านจดหมายเพื่อน"ซาบาย ดีไหม,ม่าย ด้าย เจอ กาน มา ต้าง นาน" เราอ่านไป รำคาญไป แล้วมันก็อ่านเข้าใจยาก เหมือนอ่านภาษาคาราโอเกะ เราก็บอกให้มัน ไปแปลเป็นภาษาไทยมา กรู คนไทย อ่านภาษานี้ไม่ออก จากคุณ : Blomst - [ 23 ก.ค. 50 02:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หมายเหตุ ที่ใช้คำว่า "กรู" หวังว่าใครๆที่อ่านแล้ว คงเข้าใจนะคะ ว่าทำไม จากคุณ : Blomst - [ 23 ก.ค. 50 02:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับคุณ AnCk-Su-NaMuN และคุณ Blomst เหตุผลที่ผมตั้งกระทู้นี้ก็เพื่ออยากจะทราบว่าผมไม่ใช่คนเดียวที่อึดอัดกับภาษาแบบนั้น เมื่อปลายปี 2006 กลับไปพักผ่อนที่เมืองไทย เจ้าหลายชายตัวดีก็เดินมาพูดอะไรก็ไม่รู้ มึม มำๆ พูดแบบไม่อยากจะอ้าปาก ผมก็ถามว่าจะเอาอะไร ทำไมไม่พูดให้มันรู้เรื่อง ในปากอมอะไรไว้เหรอ เค้าก็ตอบมาว่า "ป่าว ม่ายด้ายโอม  โด่ น้า เด๋วเนี้ยเด็กแนวก้อพืดบับเนี้ยกานท้างน้านอ่ะ" ผมก็สงสัยอยู่ในใจว่าเด็กแนวนี่มันคือเด็กอะไร เด็กตามแนวตะเข็บชายแดน หรือเด็กที่มีแนวโน้มว่าจะปัญญาอ่อน ขำๆครับไม่ได้ซีเรียสมากมาย จากคุณ : CHISWICK - [ 23 ก.ค. 50 15:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 With your permission Nong Chiswick, I need to have a word with Nu AnCk-Su-NaMuN; "-มีตัวอย่างค่ะ คอมเมนท์ที่29 ของคุณ อำแดงหย๋าม Chickie กร่างGirlYo (Siamese Girl)   - [ 22 ก.ค. 50 15:42:40 ] คอมเมนท์นี้ตอบโจทย์ทั้งของคุณฟ้าสวยมาก และก็คุณ ~ Amelie @ Heart ~ ได้ตรงเด๊ะๆเลยค่ะ" I believe that you must be educated enough. I wonder why you still keep picking on SMG (Siamese Girl) !!!!!! Are you trying to instigate a fight? Should you not "Let bygones be bygones". Forgive and forget. Best wishes. จากคุณ : genf - [ 23 ก.ค. 50 21:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 23 ก.ค. 50 21:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาเข้าร่วมกับคุณ CHISWICK และเห็นด้วยกับคุณ genf ค่ะ จากคุณ : ตกตะกอน - [ 24 ก.ค. 50 11:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Strongly agree with K.genf. What Nu AnCk-Su-NaMuN has done will ruin herself, not K. Siamese Girl. จากคุณ : - - [ 24 ก.ค. 50 12:41:54 A:124.120.26.120 X: TicketID:143305 ]

ความคิดเห็นที่ 40 With your permission Nong Chiswick, I need to have a word with Nu AnCk-Su-NaMuN; "-มีตัวอย่างค่ะ คอมเมนท์ที่29 ของคุณ อำแดงหย๋าม Chickie กร่างGirlYo (Siamese Girl)   - [ 22 ก.ค. 50 15:42:40 ] คอมเมนท์นี้ตอบโจทย์ทั้งของคุณฟ้าสวยมาก และก็คุณ ~ Amelie @ Heart ~ ได้ตรงเด๊ะๆเลยค่ะ" I believe that you must be educated enough. I wonder why you still keep picking on SMG (Siamese Girl) !!!!!! Are you trying to instigate a fight? Should you not "Let bygones be bygones". Forgive and forget. Best wishes. จากคุณ : genf  - [ 23 ก.ค. 50 21:28:29 ] ^ ^ agree with K.genf ka.... จากคุณ : soomchon - [ 24 ก.ค. 50 13:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แวะมาชมว่าทำไมผ่านมาหลายวันแล้วอยู่ดีๆก็กลายเป็นกระทู้แนะนำ จากคุณ : yuy - [ 24 ก.ค. 50 15:07:05 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ ^ เห็นด้วยกับคุณ genf อีกเช่นกัน get over it เถอะนะจ๊ะ ทั้งสองคนพี่น้องเลย เห็นหลายทีละที่ต้องขอเข้าเสียดสีนิดๆในหลายๆกระทู้ เรื่องแอ๊บแบ็วเนี่ย โดยเฉพาะพวกคำสะกดที่ไม่ถูกต้องที่ยกตัวอย่างกันข้างบน ถ้าไม่มากเกินไปก็พอทนได้(แอบใช้เองเป็นบางครั้ง) แต่ถ้ามากๆเนี่ยรำคาญลูกกะตามาก ถ้าเห็นน้องๆเด็กใช้กันมักจะเข้าไปเตือน แล้วก็มักจะโดนด่ากลับมาว่าเราโบราณเต๋าล้านปี -_-" สงสัยเราจะแก่จริงๆนั้นแหละ จากคุณ : ทุกข์หลุดเพราะปล่อย - [ 24 ก.ค. 50 15:18:11 A:58.111.163.56 X: TicketID:150346 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ คุณหนูเล็กในเมืองนางฟ้า, ตกตะกอน,  ความคิดเห็นที่ 39, soomchon, ทุกข์หลุดเพราะปล่อย เห็นด้วยเช่นกันกับพี genf ครับ ผมเชื่อว่าทุกๆท่านมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ผู้ถามต้องการคำแนะนำ ผู้ตอบก็ต้องการให้ความช่วยเหลือ และเรามารวมกันอยู่ที่นี่ก็ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆตอบแทนจากการตอบกระทู้ช่วยเหลื่อคนอื่น  ฉนั้นบางครั้งความคิดเห็นไม่ตรงกันหรือ วิธีการตอบกระทู้อาจจะไม่ถูกใจเราก็ให้อภัยกันเถอะครับ อันไหนเราชอบหรือเต็มใจช่วยตอบก็ตอบไป อันไหนเห็นแล้วไม่ชอบไม่ถูกใจก็มองข้ามไป เป็นมิตรกันดีกว่าเป็นศัตรูกันครับ ช่วยกันสร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นในห้องไกลบ้านให้เหมือนวันเก่าๆดีกว่าครับ คุณแม่ขอร้อง........ จากคุณ : CHISWICK - [ 24 ก.ค. 50 16:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รู้สึกเหมือนคุณ CHISWICK จขกท. และคุณ yuy คห. 5 และขอตอบเหมือนคุณ hollywop คห. 23 และพี่ JidNince คห. 28 ค่ะ ลอกทั้งยวงเลย ฮิๆๆ จากคุณ : Susie - [ 24 ก.ค. 50 16:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 45 กาละ เทศะ สำคัญที่สุด ภาษาแบบนั้น ใช้กับเพื่อน หรือคนที่สนิทและรู้ใจ ก็เป็นการใช้เพื่อความสนุกสนานและถือเป็นการลดความเครียดลงได้ ถ้ารู้จักกันระดับหนึ่งแล้ว จะแอ๊บแบ๊วขนาดไหนก็รับได้ เพียงแต่อาจจะคอยเตือน ๆ ในบางครั้ง แต่ถ้าใช้กับคนที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จัก หรือใช้ในการสอบถามเรื่องต่าง ๆ จากคนอื่น ๆ ที่ไม่เคยคุ้น ก็ถือเป็นการไม่สมควร บางคนอาจจะชอบ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ บางที มีถึงขั้นทำให้เกลียดคนถามไปเลย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักกัน ส่วนตัวแล้ว ถ้านิด ๆ หน่อย ๆ เราก็จะตอบให้ค่ะ แต่ก็เหมือนคุณยุ้ย คือตอบไปบ่นไป แต่ถ้าเห็นว่ามากเกินไปก็ไม่ตอบค่ะ ถึงแม้ว่าเรื่องที่เขาถาม เราจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว จากคุณ : Noise219 - [ 24 ก.ค. 50 16:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยสุดตัวกับน้าแท้กซี่ค่ะ  คนอะไร๊พูดได้ตรงใจเราอย่างกับเป็นเนื้อคู่กันแน่ะ นี่ถ้าน้าลงสมัคร สส. หนูจะเหมารถบรรทุกอ้อยพาไปกาเบอร์น้าทั้งหมู่บ้านเลยนะเนี่ย... Note: ปล แต่ไอ้ประเภทจะ 40-50 อยู่แล้วเนี่ยยังมาทำเป็น แอ๊บแบ๊ว เนี่ยเค้าเรียกปัญญาอ่อนหรือไม่ก็วัยกลับค่ะ เห็นแล้วทุเรศลูกตาค่ะ จากคุณ : ฟ้าสวยมาก - [ 22 ก.ค. 50 05:01:19 A:75.82.49.33 X: TicketID:148391 ] ************************************************************************************ อู๊ยยยย....  ชนักปักหลังเต็มๆเรยยยยอะฮั้น... กระอักเลือดออกมาเป็นลิ่มๆปานประหนึ่งลมปราณจากทวารทั้ง 9 แตกสลาย ว่าแร้วก็หนีกระแสไปหลบใต้(จั๊กกุแร้)ร่มบารมีป้าแป๊ดดีก่า....  พี่แป๊ดขรา...ช่วยนู๋ด้วยคร่า.... ฮ่า ฮ่า ย้อเย่นจ้า ย้อเย่น....  (พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาจะหายปัญญาอ่อนมั๊ยเนี่ยตู) จากคุณ : JLo (Jennifer Lowclass) - [ 24 ก.ค. 50 17:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าไม่เยอะ แบบมีคำสองคำในประโยค  ก็จะอ่านค่ะ  แต่ถ้ามาทั้งยวงก็ไม่ไหวค่ะ จากคุณ : ทูกี้ - [ 24 ก.ค. 50 17:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ปล แต่ไอ้ประเภทจะ 40-50 อยู่แล้วเนี่ยยังมาทำเป็น แอ๊บแบ๊ว เนี่ยเค้าเรียกปัญญาอ่อนหรือไม่ก็วัยกลับค่ะ เห็นแล้วทุเรศลูกตาค่ะ จากคุณ : ฟ้าสวยมาก - [ 22 ก.ค. 50 05:01:19 A:75.82.49.33 X: TicketID:148391 ]   เห็นด้วยและขอขำด้วยคนนะครับ 555555   ตั้งแต่เกิดมายันอายุ 24 เพิ่งเคยเจอคำว่า "อังกรึด" กับ "จิ่บปุ่น"  ถ้าเป็นเด็กๆ 4-5  ขวบพูด คงน่ารักดีเนอะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 50 18:06:39 จากคุณ : เด็กกริฟฟินดอร์ - [ 24 ก.ค. 50 18:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 49 นี่เลยพ่อผม (เอาพ่อมาขายดีฟ่า) อาจารย์อาวุโส ณ u รัฐชื่อดัง ลงเรียนคอร์สเด็กแนวกับเจ้าตัวยุ่งน้องชายคนเล็กผมทุกวัน พ่อจะมีคำศัพท์มาถามเจ้าตัวยุ่งทุกเย็น คำนี้มันแปลว่าอะไรคร๊าบคุณยุ่ง บางคำเจ้ายุ่งยังไม่ updateเล้ย พ่อต้องบอก พ่อผมไม่เห็นจะเดือดร้อนเลยว่าลูกศิษย์แกจะคิดทำลายชาติ ภาษาจะวิบัติ ชาติจะล่มจม แกก็ชื่นชมตัวเองทู๊กวัน อู้ย พ่อสอนลูกศิษย์ได้ดีทุกคนแหละ เห็นพวกมันต๊อง ๆ พรรค์นั้น มันฉลาดจะตาย รู้การควรไม่ควร ไม่เคยทำพ่อขายหน้าสักที เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ถึงบางวันมันจะเล่นมากกว่าเรียนก็เหอะ (น้าน แอบเหน็บลูก) ผมเลยเชื่อพ่อผมอ่ะ (ไม่เชื่อพ่อแล้วจะให้เชื่อแมวที่ไหนเนอะ) พ่อบอกว่า แอ๊บแบ๊ว วันละนิดจิตแจ่มใส จากคุณ : ... - [ 24 ก.ค. 50 18:11:47 A:77.98.239.69 X: TicketID:133382 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมว่าขึ้นอยู่กับสำเนียงและสำนวนที่ใช้ในกระทู้ รวมถึง กาละ และ เทศะด้วย ถ้าเจอกระทู้ขอคำแนะนำ แล้วเขียนแบบ Abnormal ก็ไม่ค่อยตอบแล้วล่ะครับเดี๋ยวนี้ ติงไปด้วยความหวังดี แต่เขาก็คงคิดว่าเราเรื่องมาก... แต่ถ้าเป็นสำนวนมาแบบบ้องแบ๊ว น่ารัก ๆ อ่านแล้วรื่นหู ก็โอเคครับ ป.ล. เวลาภาษาเปลี่ยนรูปไป อาจเป็นแบบที่เรียกว่า วิวัฒนาการ หรือวิบัติ ก็ได้ครับ จากคุณ : ชายทะเล - [ 24 ก.ค. 50 18:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านค่ะ ต้องคำนึงถึงกาลเทศะด้วย ถ้าคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มคงไม่เป็นไร แต่ถ้าออกมาที่เว็บบอร์ดเสรีก็ควรจะพยายามใช้ภาษาให้ถูกต้อง การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง จะเป็นผลดีกับตัวผู้ใช้เองค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนมาสมัครงาน 2 คน คนนึงเขียนใบสมัคร อ่านไม่รู้เรื่อง อีกคนเขียนได้ถูกต้อง แน่นอนว่าเค้าจะพิจารณาใบสมัครที่สอง การเขียน ภาษาไทยผิดบ่อย ๆ โดยครั้งแรกอาจจะต้องการความน่ารัก (แอ๊บแบ๊ว) แต่ใช้ไปใช้มาจะติดตัวค่ะ ตอนหลังก็ลืมไปแล้วว่าคำที่เขียนถูกคือคำไหน สำหรับตัวเองเห็นกระทู้ในห้องไกลบ้านประเภทที่อ่านแล้วต้องแปลภาษาไทยเป็นเป็นภาษาไทยอีกที บอกตรง ๆ ว่าเวียนหัวค่ะ ก็ดีใจที่เห็นหลาย ๆ ท่านไปคอมเมนต์เรื่องหัดใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องในบอร์ด แสดงว่ามีคนคิดแบบเดียวกับหมูหวานเยอะค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 24 ก.ค. 50 19:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หงุดหงิดด้วยคนค่ะ ยิ่งถ้าเป็นแบบพย๊ามพยามในการให้ดูแอ๊บแบ๊ว ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิด ไอ้ที่มีแทรก ๆ อย่างบ้างอ่านให้ได้อารมณ์ขำ ๆ ก็พอไหว เกลียดมากเลย ฉัน>ช้าน , ทำไม>ทามมาย, อ่านะ บางทีพยายามยัดให้คำว่าอ่านะเข้าไปมันทุกประโยค และขอโทษความเห็นข้างบนด้วย อังกรึด ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ คำพวกนี้ ถ้าหลานดิฉันพูดหรือเขียนให้เห็น จะตบให้ติดฝาเลยค่ะ >>อันนี้พูดเล่นค่ะ จากคุณ : คนดีผีคุ้ม - [ 24 ก.ค. 50 20:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆความคิดเห็น คุณSusie, คุณNoise219, คุณJLo (Jennifer Lowclass), คุณทูกี้, คุณเด็กกริฟฟินดอร์, คุณชายทะเล, คุณหมูหวาน, คุณคนดีผีคุ้ม, และคุณความคิดเห็นที่ 49 จากคุณ : CHISWICK - [ 24 ก.ค. 50 20:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นด้วยกับคคห.8 ว่า "ถ้าเป็นการคิดคำใหม่ๆขึ้นมา เช่นคำว่า เริ่ด, โจ๋ อะไรแบบนี้นั้นถือว่าเป็นพัฒนาการทางภาษา ยอมรับได้ครับ แต่บางคำที่ตั้งใจสะกดผิดๆ เช่น อังกิด, ขอโทด, จาปายทามงาน แบบนี้มันไม่ใช่พัฒนาการทางภาษาแต่เป็นความวิบัติทางภาษาครับ เห็นด้วยกับคุณ yuy ครับถ้านิดๆหน่อยๆพอเป็นมุขตลกก็โอเค แต่บางกระทู้นั้นตั้งใจใช้ภาษาแบบนั้นทั้งหมดผมเห็นว่าไม่ตลกเลย" เมื่อก่อนยังไม่เห็นแพร่หลายมากขนาดนี้ อ่านเจอนิดหน่อยอ่านพอเป็นมุขตลกก็รับได้ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นภาษาวิบัติแอ๊บแบ๊วไปแทบจะทุกตัวอักษร อ่านแล้วชวนเวียนหัว และก็เห็นด้วยกับคุณgenf คคห.ที่ 36 สำหรับน้องคนนี้ เพราะเห็นมาหลายทีแล้ว เวลามาตอบก็สร้างภาพแต่ถ้าไม่ถูกใจในคคห.ไหนขึ้นมา เดี๋ยวก็จะมีพวกยกตามมาทำให้กระทู้นั้นกลายเป็นกระทู้ชวนทะเลาะทุกที บังเอิญไปเปิดเจอเลยลิงค์มาให้ดูว่าตัวจริงๆ เป็นอย่างไร http://variety.exteen.com/ ขอโทษคุณCHISWICK ด้วยนะคะ ที่ออกนอกประเด็นไปหน่อย จากคุณ : ไม่มีอมยิ้ม - [ 24 ก.ค. 50 20:38:40 A:203.113.35.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 เพิ่งรู้จักคำนี้ตอนกลับไปเมืองไทยเมื่อช่วงสงกรานต์ ตอนแรกก็งงว่ามันแปลว่าอะไร สำหรับการเขียนแบบนี้เคยเห็นมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะอ่านข้ามๆ เพราะงง ขี้เกียจมานั่งแปลซ้ำสอง บางครั้งไทยคำ อังกฤษคำ ยิ่งงง คือ ถ้าเขียนทับศัพท์ยังพอเข้าใจได้ แต่เล่นภาษาคาราโอเกะนี่งงมากๆ จากคุณ : ingenioer student - [ 24 ก.ค. 50 20:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาอีกทีเพื่อบอกคุณชิซูกะ จขกท ว่า เค้าจิ้มให้แล้วนะตัวเอ๊ง! (ลืมบอกตอนเข้ามารอบแรก) จากคุณ : JLo (Jennifer Lowclass) - [ 24 ก.ค. 50 20:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แบ๊ววๆๆนิดหน่อย ก็โอเคน่ารักดี ถ้ามากไปดังเช่น คำว่า ภาษา ก็ เขียนว่า พาสา อะไรแบบนี้ก็ไม่ไหว มัน ผิดหลักไวยากรณ์ภาษาไทยน่ะจ่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : BabyViBAbyVee (bebey) - [ 24 ก.ค. 50 22:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย ธาตุแท้ใครเป็นอย่างไรก็ดูเอาเองได้ที่นี่ http://variety.exteen.com/ จากคุณ : Dukhor - [ 24 ก.ค. 50 23:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถึงแม้ว่าจะใช้คำพูดแบบวัยรุ่น เพราะคำมันดูน่ารัก ก็ใช้เล่นแต่ในกลุ่มเพื่อน แต่เราคนไทย เราควรรู้ว่า คำไทยที่ถูกต้อง เขียนกันอย่างไร ไม่ควรนำคำ พูดแบบวัยรุ่นมาใช้เขียนในภาษาเขียนที่เป็นทางการ ขอบคุณค่ะ ^_^ จากคุณ : airi_zung - [ 24 ก.ค. 50 23:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ภาษาน่ารำคาญคะ ภาษา เดิมๆ เนี่ยก็รวบรัดดีแล้ว ไม่เห็นต้องคิด คำใหม่ๆ ขึ้นมาให้ปวดหัวเลยคะ จากคุณ : โซเหนี่ยละเหี่ยใจ - [ 24 ก.ค. 50 23:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยกับคุณทูกี้คะ เราว่าเราก็ยังไม่แก่นะคะ เพิ่งจะ 28 เองคะ(ยังสาวนะคะ 555) แต่ก็รับไม่ค่อยได้กับภาษาแบบนั้น อ่านแล้วงงคะ ต้องตั้งใจอ่านอีกรอบว่าเราเข้าใจถูกมั้ยเนี่ย เหมือนไทยต้องแปลเป็นไทยอีกรอบ .. แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 13:32:54 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 50 23:50:13 จากคุณ : luvlyblossom - [ 24 ก.ค. 50 23:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สนับสนุนค่ะ สำหรับเรื่อง แอ็บแบ้ว งงเหมือนกัน เด็กสมัยนี้เปลียนไปเยอะเลย อย่าว่าแต่คำพูดเลยค่ะ กิริยาอาการออกไปทางเด็กญี่ปุ่นมากทุกวัน กลัวเหมือนกันตอนกลับไปเที่ยวเมืองไทยจะรับไม่ค่อยได้ เมื่อกี้ยังนั่งเรียนแบบ แอ็บแบ้ว ผสมกับการแอ้คท่าทางเด็ก ขิขุ นะค่ะ ฮ่าๆ ฮ่าๆ สามีนั่งหัวเราะใหญ่เลย เอาแบบว่า ทำปากจู แล้วก็ทำตายี่ๆ เหมือนแมวนะค่ะ จับผมตัวเองบ่อยๆเอียงคอนิดๆ เดินตรงๆไม่ได้ต้องเฉียงๆ แล้วหันกลับมาทำตาใสๆโตๆ จะพูดที่เหมือนมีกลิ่นปากอะไรอย่างงี้นะค่ะ ฮ่าๆ ฮ่าๆ ไม่ใช่ดอกพิกุลร่วงนะ เฮ้อ......( ถอนหายใจยาว ยาว ) แล้วแฟชั้นเด็กชายไทยกลายเป็นแบบ.......หน้าใสปากสีชมพูไปหมดแล้วหรอ จากคุณ : CCR - [ 25 ก.ค. 50 00:21:24 A:71.228.67.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับคุณ  smartupid และ คุณ Siamese Girl ค่ะ สำหรับดิฉัน ไม่ว่าภาษาไทย หรือ อังกฤษ  ดิฉัน  "แอ๊บแบ๊ว"  ตลอด ทั้งพูด อ่าน เขียน....สมัยก่อน ตอนเรียนปฐม  เกือบตก ประจำ ทั้ง ไทย และ อังกฤษ จะพูดผิด พูดเพี้ยน สำเนียง เหนือ ใต้ กลาง อีสาน ไทยก็ยังคงเป็นไทย  อังกฤษก็ยังคงเป็นอังกฤษ อยู่ที่ความเข้าใจมากกว่า "จะซีเรียสไปใย  ฉันพูดแล้วเธอเข้าใจแค่นี้ก็พอ" แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 00:44:52 จากคุณ : Khemmarassamee - [ 25 ก.ค. 50 00:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รำคาญมากๆ ช่วยเอาไปแปะห้องอื่นๆด้วยเถอะ จากคุณ : Hotlver - [ 25 ก.ค. 50 00:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 65 นอกจากภาษาเเล้ว สงสัยอย่างนึง สาวๆ สมัยนี้ ทำไมกลายเป็นเเอ๊บเลียนเเบบสาวญี่ปุ่น เกาหลีกันไปหมด สาวญี่ปุ่น เกาหลีทำเองมันก็น่ารักหรอก เเต่คนที่ไม่ใช่ เเล้วไปทำเนี่ย หลายคนไม่เกิดเลยน่ะ คือยิ่งถ้าอายุเยอะๆ เเล้วไปทำเนี่ย อยากบอกว่า โตเเล้วนะ เเอ๊บเเบ๊วให้ดูน่ารักน่ะ มันดูไม่ professional เลย จากคุณ : - - [ 25 ก.ค. 50 01:13:10 A:124.120.26.120 X: TicketID:143305 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คิมากปายอ๊ะป่าวง่าส์ โรคมีว้ายเหยียบอ้ะ มะช่ายไว้แบกนะงับ อิอิอิอิอิอิอิ จากคุณ : ผมไม่สนญาติเมียคุณ - [ 25 ก.ค. 50 01:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 67 totally agree with K. หญิงป้า ka... I had the same conversation with my sister couple of years ago. There are proper time and place for everything. But talking/writing to me (or someone that's older) like that is not acceptable at all na จากคุณ : CaliGirl - [ 25 ก.ค. 50 01:36:43 A:169.3.132.15 X: TicketID:150211 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เป็นคนไทย ...กินอาหารไทย ..มีวัฒนธรรมไทย ..พูดภาษาไทย ...เขียนภาษาไทย...ที่ถูกต้องนั่นแหละ..ล้วนแล้วแต่เป็นวัฒนธรรมแบบไทย ๆ เป็นเสน่ห์ของคนไทยที่ต่างชาติอิจฉาเราเสมอ...จงภูมิใจเถอะนะคะ.. จากคุณ : น้ำอ้อยสด (น้ำอ้อยสด) - [ 25 ก.ค. 50 01:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 69 และก็เห็นด้วยกับคุณgenf คคห.ที่ 36 สำหรับน้องคนนี้ เพราะเห็นมาหลายทีแล้ว เวลามาตอบก็สร้างภาพแต่ถ้าไม่ถูกใจในคคห.ไหนขึ้นมา เดี๋ยวก็จะมีพวกยกตามมาทำให้กระทู้นั้นกลายเป็นกระทู้ชวนทะเลาะทุกที -ไม่เคยสร้างภาพค่ะ ไม่ชอบใครก็บอกเลย ไม่เคยสร้างภาพว่าเป็นกลางแล้วเอียงไปทางนั้น ทางนี้ค่ะ ใครๆก็รู้ว่าจ๊ะเป็นคนยังไง บางคนรู้มากด้วยซ้ำว่าจ๊ะเป็นอย่างไร เรียนที่ไหน  อีกอย่างไม่เคยยกพวกค่ะ ถ้ากระทู้ของคุณ SMG นั่นคนมาด่ากันเองค่ะ จ๊ะไม่ต้องเรียกพวกหรอกค่ะ โจทย์เค้ามีอยู่เยอะแล้ว ไม่เชื่อลองตั้งกระทู้ถึงเค้าอีกสิคะ เดี๋ยวก็รู้ ถล่มทลายมากกว่าเดิมแน่ๆค่ะ ความคิดเห็นที่ 58   ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย ธาตุแท้ใครเป็นอย่างไรก็ดูเอาเองได้ที่นี่ http://variety.exteen.com/ จากคุณ : Dukhor  - [ 24 ก.ค. 50 23:11:36 ] เก่งนะคะ แต่งเรื่องเก่งดี ลากหลายๆกระทู้มารวมกัน ทั้งกระทู้กลุ่มเรา กระทู้เจ๊ กระทู้อื่นๆ ว่าแต่แฉคนอื่นๆไม่แฉตัวเองมั่งละคะ กลุ่มตัวเองอ่ะ ที่ไปจิกหัวด่าชาวบ้านเค้า นี่ก็กลับมากร่างอีกแล้ว ระวังนะคะ รอบใหม่เดี๋ยวไปไม่กลับ แล้วรอบนี้คุณก็อาจจะเป็นอีกคนค่ะ กอดคอไปกับเค้าเลยค่ะ อยู่ดีไม่ว่าดี หาศัตรูใส่ตัวซะงั้น อยากก็จัดให้ค่ะ คันมากนัก ไหนเคยบอกไงคะว่าให้จบในกระทู้เก่าไม่ต้องลากไป ลากมา ทู้นี้มันเกี่ยวกันตรงไหนคะ คุณกับเพื่อนๆ ต้องการจะสื่ออะไรเอาตรงๆเลยค่ะ อยากมีเรื่อง อยากให้ถล่มบอกมาเลยค่ะ จัดให้ รู้ใช่มั้ยคะ ว่าจ๊ะไม่เคยกลัว และก็ไม่ไว้หน้าใครด้วย ตั้งรับดีๆละกัน อ้อ แล้วจะระดมพลมาเต้มพิกัดค่ะ ตามที่ต้องการ ปล.ๆขออณุญาติเจ้าของกระทู้นะคะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 02:55:00 จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 25 ก.ค. 50 02:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามา ..... แอ๊บแบ๊ว แบ๊ว ไม่ห่วงอายุ แบ๊ว ไม่ดูหน้าตาตัวเอง เลยตรู ส่วนตัวคิดว่า เวลาเขียนอะไรในบอร์ดหรือเวลาพูดกับเพื่อน อยากใช้ภาษายังไงก็ใช้ไปเหอะ เวลา เขียนหนังสือ / ทำรายงาน / เขียนบทความทางวิชาการ / พูดจาในที่ประชุม หรือ ใช้ภาษาอย่างเป็นทางการ ใช้ให้ถูกก็พอ (คำว่า "ถูก" หมายถึง ใช้ให้สื่อสารกับคนทั่วไปได้เข้าใจก็พอ) เรื่อง บ้าๆ อย่างงี้ ผมไม่ร่วมรณรงค์ด้วยหรอกครับ ผมเกลียด ไอ้พวกบ้าอำนาจ ชอบชี้ถูกชี้ผิด ชอบบังคับคนอื่น ให้ปฏิบัติตามกรอบความคิดแคบๆ ที่ตัวเองสถาปนาให้มีคุณค่าว่าสูงกว่าสิ่งอื่น อย่ามาอ้างว่า เด็กพวกนี้ทำ ภาษาวิบัติ เลยครับ วิบัติ หรือไม่ มันอยู่ที่ใครเป็นคนตัดสินว่า อะไรถูก อะไรผิด สำหรับผม ภาษามันไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการสื่อสารที่มีความถูกผิดแน่นอนตายตัว ภาษามันไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แต่ภาษา มันเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในปฏิบัติการทางอำนาจ ที่ผู้มีอำนาจ หรือ ผู้ที่พยายามจะมีอำนาจเหนือคนอื่น ใช้บังคับคนอื่นให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามแบบอย่างที่ตัวเองกำหนดขึ้น และเช่นเดียวกัน การใช้ภาษาแบบ "แอ๊บแบ๊ว" จึงเป็นหนึ่งในความพยายามของผู้ถูกกดขี่ เช่น เด็กวัยรุ่น ในการฉีกตัวเองออกจากระเบียบกฎเกณฑ์ที่ผู้ใหญ่บ้าอำนาจกลุ่มหนึ่งกำหนดว่านี่คือ law and order ของสังคม เพื่อให้เด็กเดินตามกรอบและวิถีปฏิบัติที่ตัวเองคุ้นเคยและให้คุณค่าว่าประเสริฐเลิศเลอกว่าสิ่งอื่น ก็เท่านั้นเอง สำหรับผม "แอ๊บแบ๊ว" มันจึงไม่ใช่ความวิบัติ หรือ วิกฤตการณ์ทางภาษา แต่มันเป็นแค่แรงปฏิกิริยาของเด็กที่ต้องการโต้ตอบความบ้าอำนาจของผู้ใหญ่เท่านั้นเองครับ แต่ใครจะร่วมรณรงค์ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ .... ก๊าบบบบบบบบบบบบบ............ ตราบใดที่คุณไม่เข้าไปก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลในการแอ๊บแบ๊วของคนที่เค้าอยากจะทำครับ ไปแระ..... งานนี้โดนไอ้พวกเชื่อในสัจธรรมหนึ่งเดียว เชื่อในความเหมือนมากกว่าความแตกต่างหลากหลาย ด่าเละแน่ตรู..... แว่บ....... \\(O*v*O)// จากคุณ : ครูแก่ๆ คนหนึ่งที่ชอบ แอ๊บแบ๊ว (I love หมอหญิงซินปี) - [ 25 ก.ค. 50 02:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สวัสดี I love หมอหญิงซินปี ยังดิ้นได้อยู่เหรอ หุหุ ลป ลืมไป ... คลอโรฟอร์ม ...  น่ะเขาเอาไว้รมหนู อย่าง I love หมอหญิงซินปี นี่ต้อง formalin อิอิ จะได้เป็นหนุ่มสองพันปี mummy return ไง้ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 06:10:11 จากคุณ : CHLOROPHYLL - [ 25 ก.ค. 50 02:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ถึง คุณ Dukhor ตามมากระทู้นี้เลยค่ะ จัดให้แล้วตามที่คุณต้องการ ได้เลิกไปป่วนกระทู้ชาวบ้านซะที http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5644018/H5644018.html จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 25 ก.ค. 50 02:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ปล.ก่อนจะบอกให้จ๊ะหยุด ควรให้อีกฝ่ายหยุดพฤติกรรมหาเรื่องก่อนนะคะ ไม่ใช่จ๊ะไม่หยุด ไปดูได้ จ๊ะไม่มาตอบเม้นนานแล้ว เพราะกลัวตอบไรไปจะไปว่าเขา แต่เมนท์นี้จ๊ะชัดเจน ตรงประเด็น ก็เข้าพิมพ์ อังกรึด จิปปุ่น มันก็แบ๊วนี่คะ ไม่เข้าใจว่า "จะมาหาเรื่องกันทำไมคะ" ก่อนจะมาว่ากัน ดูการกระทำกันก่อนค่ะ จ๊ะไม่ได้เหน็บแนม ไม่ได้ว่า แต่เค้าถามตัวอย่างก็ยกให้ แต่ถ้าไม่เคลียร์ตามไปเลยค่ะ ทู้ที่ลงไว้ให้ เปิดไว้รอโดยเฉพาะค่ะ ไม่ต้องมาทะเลาะให้รกกระทู้ของคนอื่น จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 25 ก.ค. 50 02:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ภาษาแอ๊บแบ๋ว  ถ้าไม่มากนักจนทำให้รำคาญ ก็พอทนค่ะ  แต่ถ้ามันมากเกินไปมันก็น่ารำคาญ   อ่านเข้าใจยาก  รู้สึกว่ามันจะอะไรของมันกันนักกันหนา ขอบคุณและเห็นด้วยกับความปรารถนาดีของเจ้าของกระทู้ค่ะ  เพราะว่ากระทู้ไหนที่ใช้ภาษาแบบนั้นเยอะๆ เราไม่อ่านด้วยซ้ำ ใครที่ใช้ภาษาวิบัติพร่ำเพรื่อ  ลดลงหน่อยก็ดีค่ะ   เคยคุยกับหลายชายเพื่อนรู้สึกเลยค่ะ ว่ามันน่าเตะมากและไม่น่ารักเลย จากคุณ : LiLLa_JoY - [ 25 ก.ค. 50 03:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เฮ้อ อะไรกันเหรอเนี่ย จากคุณ : jeji o - [ 25 ก.ค. 50 05:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทะหว้า นู๋มีปันหาจาถามพี่ ๆแถวนี้ซ๊าก 1 คามถามจาได้หมายอ่ะ ครือหว้า มีเพื่อนนู๋โคนนึงเค้าจาฝากนู๋ซื้อของฝากจากเมืองนอก แร้วเขาม่ายยู้ว่าจาอาวอารายเปนของฝากดี พี่ว่านู๋จาซื้ออารายเป็นของฝากห้ายเขาดีคร้า ^ ^ ^ ^ ดิฉันกะว่าจะลองพิมพ์ภาษาแอ๊บแบ๊วดูบ้าง แต่เหนื่อยเหลือเกินค่ะ กว่าที่จะพิมพ์ภาษานี้ได้ กลับมาพิมพ์ตามปกติดีกว่าค่ะ ขอชื่นชมคนที่พิมพ์ภาษานี้ได้แบบคล่องแคล่ว พวกคุณๆ มีความสามารถพิเศษเหนือๆใครๆในใต้หล้า ดิฉันถือว่าดิฉันเป็นบุคคลที่พิมพ์เร็วมาก แต่พอมาพิมพ์ภาษาแอ๊บแบ๊วแล้ว ทำให้ระดับการพิมพ์เร็วของดิฉันลดลงไปอย่างรวดเร็วค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงมะปรางหวาน - [ 25 ก.ค. 50 10:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านไม่หมดทุก คห. นะคะ แต่อยากจะบอกว่า ภาษาที่ไม่ตาย จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาค่ะ ภาษาที่เค้าเรียกว่าแอ๊บแบ๊วนี่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางภาษาอย่างหนึ่ง อย่าไปมองว่าภาษาจะวิบัติ เพราะภาษามันไม่วิบัติค่ะ มันแค่เปลี่ยนแปลงไปจากภาษาปกติเฉยๆ ลองกลับไปดูภาษาไทยเมื่อร้อยปีหรือห้าสิบปีก่อน มันก็ต่างกับภาษาสมัยนี้ใช่มั้ยคะ คนสมัยนั้นก็คงคิดว่าภาษาไทยสมัยนี้มันวิบัติถ้าเค้ามาเห็น แต่ที่จริงมันไม่ใช่ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงทางภาษาที่เกิดขึ้นไปกับกาลเวลา เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าภาษาไม่เปลี่ยนสิคะ อย่างงี้ถึงจะน่ากลัว เพราะเท่ากับว่าภาษานั้นตายไปแล้ว เช่นภาษาละติน บาลี สันสกฤต ส่วนตัว ก็ใช้ภาษาพวกนี้เหมือนกันนะคะ พวก ทามมายยยย อะไรแบบนี้ แต่คิดในด้านการเลียนเสียงมากกว่า คือต้องการให้เสียงมันยานคาง ใช้ในบางอารมณ์เช่น รำคาญ หรืออยากจะล้อเพื่อน เคยเล่นกับเพื่อนโดยการพิมพ์ภาษาจำพวก เทอ เริ่ดส์ อะไรแบบนี้ ยอมรับเลยว่าพิมพ์ยากมาก แล้วเวลาอ่านก็รำคาญตาค่ะ ไม่อยากให้ over-react กับเรื่องนี้มากจนเกินไป คิดว่าที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ กาลเทศะ แล้วก็คิดว่าทุกคนก็คงจะรู้จักคำนี้และรู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงในสถานการณ์ที่ต่างกัน จากคุณ : ...hamster... - [ 25 ก.ค. 50 11:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ถ้าติดมาในประโยคเพื่อเน้นให้เห็นอารมณ์ผู้พูดเรารู้สึกเฉยๆนะ เพราะภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสาร บอกใจความและอารมณ์ไปยังอีกฝ่าย เช่น โห...น่าเบื่อ มั่ก มาก อึม...นี้ด ด ด ดส์ นึง แต่ที่เดือดร้อนเพราะเด็กสมัยนี้มันเขียนจนชินจนติดไปใช้แม้แต่รายงานหรือใบสมัครงาน เคยว่าเด็กรุ่นน้องที่เขียนแบบนี้ครั้งหนึ่ง เค้าก็ตอบว่า โห...อย่าซีเรียสเลยพี่ ผมรู้น่าว่าอันที่ถูกเขียนยังไง นี่เขียนเล่นๆ ง่ายๆเร็วดี แต่พอให้ลองเขียนแบบที่ถูก น้องแกก็มีอาการไม่แน่ใจในบางคำ ว่าคำที่ถูกมันเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะเขียนจนชินมือเห็นจนชินตา เลยบอกน้องว่าถ้ารู้ว่าที่ถูกเป็นอย่างไรก็ดีแล้ว แต่ถ้าเอาง่ายเข้าว่าทั้งๆที่รู้ว่าผิด เค้าเรียกว่า "มักง่าย" นะจ๊ะ แล้วผลเป็นไงก็ดูสิตอนนี้เธอกลายเป็นคนเขียนหนังสือไม่คล่องไปแล้ว ส่วนตัวเองเกลียดคำว่า เด๋ว, จัย, หั้ย เด๋ว นี่เห็นบ่อยมาก เด็กบางคนเขียนและสะกดคำว่า "เดี๋ยว" ไม่เป็นแล้ว(แบบจริงๆ ไม่ได้แกล้ง) จัย เขียนว่า จัย ง่ายกว่าหรือเร็ว ใจ ตรงไหน ในเมื่อ จัย มีอักษรสามตัว ส่วนใจ ใช่แค่สองตัว หั้ย โดยเฉพาะคำนี้ เกลียดที่สุด เห็นคำนี้ทีไร อ่านว่า Hereใส่ไม้โท ทุกที เพราะรูปคำมันคล้ายคำนั้นมากกว่าคำเดิม พลางนึกไปว่าเขียนให้ดีๆหน่อยได้ไหมไอ้พวกหั้ยๆ จากคุณ : P๐m PoM GiRL - [ 25 ก.ค. 50 13:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ผมว่าภาษาพวกนี้เป็นภาษาวัยรุ่น มาแล้วก็ไป มีกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อกับแม่เรา เหมือนอย่าง "จ๊าบ" เมื่อก่อนเป็นคำที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์เหมือนกัน ปัจจุบันนี้ก็ไม่เห็นมีใครใช้เลย จากคุณ : Gogman - [ 25 ก.ค. 50 13:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านมาเพลินๆ แต่ ต้องมาสะดุดกับบางคอมเม้น อ่านห้องนี้มานานเหมือน กัน เฮ้อ ลดราวาศอก (เขียนถูกหรือปล่าว) กันบ้างเถอะจ๊ะ จากคุณ : Rainbowhunter - [ 25 ก.ค. 50 14:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ทำไมเราอยู่ร่วมกันไม่ได้บนความแตกต่างไม่ได้? บางทีนี่อาจตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าสังคมของเราเป็นสังคมของผู้มีอำนาจต้องการจะควบคุมสังคมความเป้นไปของสังคมอย่างเบ็ดเสร็จ ขอถามหน่อยว่าคนที่มาบอกว่าไม่ชอบแอ๊บแบ๊ว นี่เพราะอะไรครับ คุณจะบอกว่า มันสื่อสารไม่เข้าใจใช่มั้ย ? คุณจะบอกว่ามัน ผิดหลักภาษาใช่มั้ย ? คุณจะบอกว่ามัน ทำลายเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติใช่มั้ย ? (ชิมิ กระทรวงวัฒนธรรม?) มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องในการจะใช้ภาษาและมีท่าทางแอ๊บแบ๊ว ชิมิ ชิมิ ชิมิ ? (อ้า ลุงแก่แล้วหลานเอ้ย เพลาๆหน่อยเห้อ ฮ่าๆๆๆ) สังเกตมั้ยว่า ขบวนการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมอะไรนี่ ส่วนใหญ่แล้ว เค้าจะออกมาเล่นกับ เด็กๆ ผู้หญิง ประชาชนรากหญ้า โดยเฉพาะกับเด็กๆ - นักศึกษาห้ามแต่งตัวผิดระเบียบนะครับ สถาบันเราศักสิทธิ์นะครับ กรุณาทำตัวเป็นผู้ดีหน่อยนะครับบบ (ก็เค้าไม่อยากดูเหมือนกันหมดนี่หว่า ทำไมต้องมาบังคับกันด้วย) - อย่าพูดไทยไม่ชัดได้มั้ยครับ ดัดจริตนะครับ (จริงผมก็เคยออกมาว่าปนรำคาญฮ่าๆ) ก็ทำไมอะ เค้าอยากจะพูดแบบนี้มันเป็นสิทธิของเค้าอ้า - อย่าแบ๊วนะน้อง มันดูไม่ดีเลย ไม่เป็นกุลสตรี ไม่เข้าใจ น้องรู้มั้ย เนี้ย ท่านคุณหญิงคุณนายออกมาบอกแล้วนะว่าระวังจะพาวัฒนธรรมไทยไปถึงจุดจบนะน้องนะ) - จัดระเบียบ การ์ตูน เกมส์ออนไลน์ (มันไม่ดี เป็นสิ่งน่ารังดกียจจจ) ก่อนจะหลงประเด็นไปไกลต่างบ้านต่างเมือง มันมีสองอย่างที่เราคิดว่ามันน่าสนใจ รัฐทำกับประชาชน รัฐพยายามเข้ามาควบคุมประชาชน อันนี้เข้าใจได้ เพราะว่าไม่งั้นรัฐจะไม่มีตัวตนและความหมาย แต่ที่ผมสงสัยคือ ทำไมประชาชนต้องไปควบคุมประชาชนด้วยกันเองด้วย เพราะจะได้รู้สึกมั่นคงงั่นเหรอ รู้สึกว่าชั้นได้ยืนอยู่ในฝ่ายถูกผิด เป็นอัศวินเจไดเหรอ อัศวินเจไดมันมีแต่ในโรงหนังนะฮะ (อิอิ) ถ้าเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันความแตกต่างได้ อย่าได้คาดหวังสังคมที่สงบสุขเลยครับ พึ่งรู้ว่าเราอยู่ในสังคมที่มีคนส่วนใหญ่ออกมาบอกว่า "การแตกแยกเป็นสิ่งผิด" มอ (ขอบพระคุณคุณ "ชั้นรักหมอหญิงซินปี" ที่ได้ชักชวนมาเสวนทในทู้นี้กันนะฮะ ไม่รู้เสริมแรงหรือลดแรง) อิอิ จากคุณ : superblackpig - [ 25 ก.ค. 50 14:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ดีเนาะ มีแต่คนตามใจคนแก่ ดีเหมือนกันนึกว่าทำบุญ..... (ชาติหน้าอย่าเกิดมาแิอ๊บแบ๊วแล้วกัน ท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงทั้งหลาย ..... เดี๋ยวผมจะปั๊ด! ให้!) จากคุณ : คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก - [ 25 ก.ค. 50 15:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อยู่ร่วมบนความแตกต่างน่ะได้ แต่เรา คนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ภาษาแบบนี้อย่างพร่ำเพรื่อก็มีสิทธิที่จะออกมาพูดไม่ใช่หรือ ใครมิเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ และใคร่ตอบก็ตอบไปสิคะ แต่เราไม่อยากจะตอบ แถมจะบ่นกลับด้วยเวลาเจอ ก็มันสิทธิของเรา ขอแยกประเด็นว่า เรื่องวิวัฒนาการ การสร้างคำของภาษานั้น เราเห็นด้วย คำใหม่ๆที่ผุดขึ้นมาใช้นั้น เราเข้าใจ รวมถึงเรื่องกาละเทศะ ว่าพูดเขียนกันในเอ็มหรืออีเมลล์จะเขียนย่อ เขียนเพี้ยนขนาดไหนก็เขียนไปสิ แต่ประเภทที่ออกมาเขียนในบอร์ดสาธารณะ แล้วเขียนให้มันผิดเพี้ยนเพื่อความน่ารัก เขียนเหมือนเด็กพูดไม่ชัดนั้น มันเกินไป เราและหลายๆคนในนี้นั้นรำคาญค่ะ เขียนภาษาไทยผิดเพราะไม่คุ้นเคย เพราะไม่ใช่มานาน ไปอยู่ต่างประเทศนานๆนั้น คนห้องนี้เข้าใจค่ะ เพราะก็อยู่ต่างประเทศกันทั้งนั้น ไม่ได้ตั้งใจน่ะ เราไม่รำคาญหรอกค่ะ แต่ประเภทตั้งใจเขียนผิดให้ดูน่ารักแบบปัญญาอ่อนมากๆน่ะ แบบนี้ไม่สนับสนุนค่ะ ปล. "ศักสิทธิ์" เขียนแบบนี้ นี่แอ๊บแบ๊วใช่มั๊ยคะ หุหุ จากคุณ : yuy - [ 25 ก.ค. 50 15:40:26 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เห็นด้วยกับ จขกท เรื่องภาษาวิบัติ เขียนเพื่อให้อ่านเล่นเล่นแสดงอารมณ์ผมว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าทั้งประโยค แบบเด็กบางพวกสมัยนี้ก็ไม่ไหวครับ กว่าจะอ่านจบแต่ละประโยคนี่เหนื่อยมาก คห ที่ 69 AnCk-Su-NaMuN ร้อนตัวก็รับไป ไม่เคยบอกให้ใครลากอะไรไปมา ไม่มีกลุ่มครับ เล่นคนเดียว ไม่ได้มีเป็นกลุ่มตัวป่วนเหมือนบางพวกครับ ถ้าไม่ได้ทำอะไรไม่ดีไม่งามจะกลัวอะไร ลิ้งค์นั้นมีคนมาโพสไว้ก่อนเลยไปเห็นเข้า ไม่ได้ทำเอง คห ที่ 72 AnCk-Su-NaMuN ผมไม่เคยป่วนกระทู้คนอื่นที่ไม่ได้หาเรื่องใคร อย่าได้ใส่ความ search หาเอาใน pantip ดูได้ตามสบาย แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 16:09:24 จากคุณ : Dukhor - [ 25 ก.ค. 50 16:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มากไปก็รำคาญค่ะ อ่านไม่รู้เรื่อง บางทีเหมือนคน ปญอ. พูดยานๆเหมือนผีแม่นาคสมัยก่อน "จาปายหนายกานนนน มาหายบีบคอซาดีดี" ถ้าประเภท "อ่ะ" แบบนี้ไม่เท่าไหร่เหมือนภาษาพูด แต่ "ทามมาย ม่ายด้าย" รำคาญค่ะ ถ้ามันเป็นวิวัฒนาการทางภาษาอีกหน่อยกว่าคนไทยจะพูดว่า "ทำไมต้องไปที่นั่น" มีหวังกินเวลา 3 นาที เมื่อวานคุยกับน้องมันตอบมาว่า "งัฟ" เราก็บอกว่าครับก็ครับ "งัฟ" มันอ่านดูแล้วเบเบี้เริ่มหัดพูดแต่น้องเรามัน 11-12 แล้ว ฟังแล้วมันไม่ชอบค่ะ รำคาญมาก ไม่น่ารักด้วย จากคุณ : bellemaman - [ 25 ก.ค. 50 16:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณ yuy ครับ "แต่เรา คนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ภาษาแบบนี้อย่างพร่ำเพรื่อก็มีสิทธิที่จะออกมาพูดไม่ใช่หรือ ใครมิเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ และใคร่ตอบก็ตอบไปสิคะ แต่เราไม่อยากจะตอบ แถมจะบ่นกลับด้วยเวลาเจอ ก็มันสิทธิของเรา" ผมคิดว่าคำว่า "สิทธิ" ที่ว่านี่ มันมีขอบเขตอยู่แค่ตัวเราเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ มันเหมือนกับว่า เราอยากทำอะไรก็ทำตราบใดที่มันไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ผมไม่เข้าใจคำว่า "แถมจะบ่นกลับด้วยเวลาเจอ ก็มันสิทธิของเรา" นี่มันกำลังไปคุกคามคนอื่นไม่ใช่เหรอครับ >? แบบนี้ไม่น่าใช่สิทธินะครับ มันเป็นการบังคับ แกมๆ ปนอคติว่า คนอื่นต้องทำเหมือนเรา ถ้าผิดแผกแตกต่างไปจากนี้ ผิดทันที เป็นแกะดำทันที จริงๆเรื่องภาษาแอ๊บแบ๊วอะไรนี่ มันออกเป็นเรื่องของความชอบมากกว่า เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ใครๆ จะแสดงออกอย่างไรก็ได้ เพื่อแสดงถึงตัวตนของเค้า คุณกำลังไปรุกรานตัวตนของพวกเค้านะครับ อีกทั้งคุณใช้คำว่า "สาธารณะ" เข้ามาเป็นตัวชูประเด็นว่า ถ้าทำเรื่องแย่ๆ จะไปทำในที่ลับนะ ไม่มีใครว่าหรอก แต่อย่ามาทำตัวแย่ๆแบบนี้ในพื้นที่สาธารณะ นะ น่าไม่อาย คือคนที่เค้าแอ๊บแบ๊วนี่ เค้าต้องการแสดงตัวตนไงครับ ไม่ต้องการให้ใครมาควบคุม ความคิดที่เข้ามาควบคุมนี่มันค่อนน่ากลัวข้างรุนแรงมากๆนะครับ เหมือนคนชอบพูดเรื่องเกย์ในเมืองไทยว่าเป็นเกย์ได้ แต่อย่าแสดงออก เมื่อไหร่ที่แสดงออกจะโดนถล่ม เมื่อนั้น ... สังคมไทย (ไม่ว่าเป็นสังคมจริง หรือเสมือนจริง) ยังเป็นสังคมที่นิยมความรุนแรงจริงๆเลย ;[) ปล ผมไม่ได้เป็นทั้งเกย์และไม่แบ๊ว เพราะว่าไม่มีความชอบในทางนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องไปบังคับใครๆให้เป็นชายและไม่แบ๊วแบบผมนี่ครับ จากคุณ : superblackpig - [ 25 ก.ค. 50 17:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 87 "ส่วนตัวคิดว่า เวลาเขียนอะไรในบอร์ดหรือเวลาพูดกับเพื่อน อยากใช้ภาษายังไงก็ใช้ไปเหอะ เวลา เขียนหนังสือ / ทำรายงาน / เขียนบทความทางวิชาการ / พูดจาในที่ประชุม หรือ ใช้ภาษาอย่างเป็นทางการ ใช้ให้ถูกก็พอ (คำว่า "ถูก" หมายถึง ใช้ให้สื่อสารกับคนทั่วไปได้เข้าใจก็พอ)" ----------------------------------------------------------------------------- ยายดาเห็นด้วยกับท่อนบนนี้ ของคห.คุณครูแก่ๆ คนหนึ่งที่ชอบ แอ๊บแบ๊ว (I love หมอหญิงซินปี) ปกติก็ติดแอ๊บฯมาจากหลานๆ เวลาที่แช๊ตรึคุยกัน แรกๆก็รำคาญ แต่ตอนหลังก็ปรับสภาพอารมณ์ให้เข้ากับสถานการณ์ของวัยรุ่นเขาด้วย ไม่ถือเอาเป็นสาระ เพราะไม่ได้ใช้กรอกในใบสมัครงานนี่นา(ใครที่ใช้คำแอ๊บฯกรอกในใบสมัครงาน แล้วฝ่ายบุคคลรับไว้พิจารณา ก็คงจะสมใจนึกทั้งผู้รับและผู้สมัครนั่นแล) ไม่อยากคาดหวังอะไรกับคำพูดของคนมากนักสมัยนี้ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวตลก เดี๋ยวลามก ระหว่างที่เม้นต์รึพูดคุย เป็นเรื่องที่ฝืนใจกันยาก ถือเสียว่าปล่อยที่ว่างสำหรับอารมณ์ของคนอื่นแทรกมั่งก็เท่านั้นเอง จะให้เล่นเน็ตแบบตรงเผงเหมือนไม้บรรทัดคงไม่ไหว เกร็งตายห่ะ คิดไปแล้วมันก็เป็นแค่แฟชั่นชั่วครู่ชั่วยาม ไม่นานก็ลืมเลือนกันไปเอง นึกถึงทีเขาทีเราเผื่อไว้ด้วยก็ดี บางทีอารมณ์บรรเจิดก็เตลิดกับเขามั่ง(คิกขุ โนเน๊ะ โบ๊เบ๊ จิ๊บจ๊อย อ่าฮ่าๆ จ๊าบ อิอิ เอิ้กๆ อิ้กุ๊ๆ หุหุ เหอๆๆ แหะๆ กร๊ากๆ กรั่กๆฯลฯ) เลยไม่รู้สึกเครียดกับภาษาชาวบ้านในวงเล็บเท่าไหร่ กลัวหน้าจะย่นป่นปี้เสียสวยอันน้อยนิดที่มีอยู่ ไม่ไหวอ่ะค่ะ อ่านๆแล้วก็ผ่านเลยไป เราคิดยังไงก็พิมพ์บรรยายในส่วนของเราไป ส่วนไหนที่อยากอ่านเราก็อ่าน ส่วนไหนที่อยากจะแย้งก็ให้มันอยู่ในขอบเขต มีมารยาทและกฏกติกาที่ทางเว็บเขาวางไว้ ส่วนไหนที่ไม่อยากอ่านก็เลื่อนเม้าส์ผ่านไป(ถ้าอ่านจริงๆจะเริ่มรู้สึกไม่ชอบและเลื่อนเม้าส์ผ่าน ตั้งแต่เริ่มอ่านวรรคแรกแล้วล่ะ) มีหลายคห.ที่เม้นต์ถูกต้องทุกสระ-วรรณยุกต์-เว้นวรรค แต่หาสาระน่าอ่านและชื่นชอบไม่เจอ ก็เลื่อนเม้าส์ผ่านอีกนั่นแหล่ะ และก็ไม่เคยหมายหัวล็อกอินที่แอ๊บฯนั้นๆไว้ในใจด้วย เพราะบางอารมณ์ล็อกอินนั้นๆเขาก็ตอบรู้เรื่อง น่าเชื่อถือได้เหมือนกัน อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของยายดาเองค่ะ   ส่วนเรื่องที่อยากจะอนุรักษ์ภาษาไทยประจำชาติเอาไว้ ยายดาก็เห็นดีเห็นงามด้วยค่ะ แต่ต้องบ่งชี้เป็นจุดๆไป ไม่ใช่เจาะจงที่ภาษาพูดอย่างเดียว(ถึงจะได้ยินมากับหู รู้มากับตาว่านำมาเม้นต์เป็นคห. หรือเขียนลงบนกระดาษ อ่าน-ฟังยังไงมันก็ยังสื่อความหมายว่าเป็นแค่ภาษาพูดเท่านั้น ไม่ใช่ภาษาของทางราชการแน่นอน) บางกระทู้ถ้าอ่านดูดีๆ บางคห.ที่เม้นต์ถูกต้องทุกพยัญชนะและเว้นวรรคอย่างสวยงาม แต่ความหมายมันบ่งบอกว่าแอ๊บฯนี่สิ ที่น่าจะพิจารณาอารมณ์ตัวเองมากกว่า ว่าปรวนแปรอยู่ระดับไหนกันแน่ จะตำหนิ จะระบาย จะปวดถ่ายหนัก-เบา จะโวยวาย(ก็ใช่ที่) จะหาเรื่อง(ก็ไม่กล้า) จะอวดโวหาร(ก็ไม่เชิง) ยายดาคาดเดาว่าคงอยากจะต่อกรกันมากกว่าอ่ะนะ เพราะเล่นชักแม่น้ำทั้ง5ออกมากอง ต่อให้เขียนถูกต้องทุกตัวอักษร แต่ความหมายมันบ่งบอกชัดเจนค่ะ (ขอย้ำว่าในบางกระทู้เท่านั้นนาคะ โปรดอย่าคิดลึก ยายดาไม่ได้เก็บบันทึกไว้ด้วย เพียงแต่อ่านแล้วเกิดอาการคิดไปแบบนั้น ก็เท่านั้นเอง) สรุปแล้วแอ๊บฯไม่แอ๊บฯ ขึ้นอยู่กับการตีความและสื่อความหมายไปในรูปแบบของการพิมพ์ การพูด การอ่าน แล้วมาผนวกกันกับห้วงของอารมณ์ในเวลาที่เลือกเสพนั่นเอง เลยเกิดอาการแอ๊บฯกันทั่วหน้าในกระทู้นี้นี่แล อิอิ จากคุณ : ศิริรักษ์ - [ 25 ก.ค. 50 17:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ถ้านิดหน่อยก็พอรับได้ (เพราะตัวเองก็พอมีบ้างเหมือนกันบ้างครั้ง) แต่ถ้าวิบัติมาก ๆ ก็อ่านแล้วปวดหัวเลย จากคุณ : sanow - [ 25 ก.ค. 50 18:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เพื่อนๆ ผมก็แอ๊บแบ๊ว แต่เวลาทำงานส่งอาจารย์ ไม่เห็นมันจะแอ๊บแบ๊วตรงไหน วัยรุ่นฝรั่งมันก็ ว๊อสซับ กันทุกวัน ไม่เห็นประเทศมันเสื่อมลงซักที ไม่มีเรื่องอื่นจะคิดกันแล้วหรือไง จากคุณ : WhiteWolf - [ 25 ก.ค. 50 20:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คุณ superblackpig ถ้าเรามีหน้าที่ตอบกระทู้ทุกกระทู้ แล้วเจอภาษาแอ๊บแบ๊ว เราก็ต้องตอบ เพราะเป็นหน้าที่ แต่นี่ไม่ใช่หน้าที่ เราตอบกระทู้ตามความพอใจ เป็นสิทธิองเราที่จะตอบแบบไหนก็ได้ตราบเท่าที่ไม่ผิดกฎกติกาและกฏหมาย สังคมทุกสังคมก็มีการควบคุมโดยคนในสังคมเองอยู่แล้ว ซึ่งกลายเป็นบรรทัดฐาน แล้วส่วนมาก็กลายเป็นกฏหมายได้ อันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นไปตามวัฒนธรรมและธรรมเนียมของสังคมนั้นๆ เพราะฉะนั้นการกระทำใดๆ ตราบเท่าที่ไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ทุกคนก็มีสิทธิในการแสดงความคิดและการกระทำได้ ไม่ใช่หรือ จะเรียกว่าเราไปคุกคามคนอื่นได้อย่างไร ถ้าสังคมส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่ออกมาพูดเรียกร้องว่า ไม่อยากจะตอบกระทู้ที่มีการเขียนภาษาแอ๊บแบ๊วมากๆ ก็ถือเป็นสิทธิของคนเหล่านี้ เพราะไม่ผิดกฏหมาย มันคือการไม่เข้าไปมีส่วนร่วมหรือตำหนิติเตียน อันนี้แตกต่างจากการกดลบกระทู้หรือการไม่ให้โพสต์กระทู้เหล่านี้นะ สองอย่างหลังนี่ผิดในเรื่องสิทธิของการแสดงออกทางความคิด หรือถ้าคนส่วนใหญ่ออกมาบอกว่า พวกเราจะตอบกระทู้แอ๊บแบ๊วต่อไป ไม่สนใจว่าภาษาจะผิดเพี้ยน ขอให้พวกเราอ่านเข้าใจเป็นพอ ความคิดคนส่วนใหญ่นี้ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ยอมรับ ซึ่งก็ไม่ผิดกฏหมายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเห็นด้วยกับบรรทัดฐานนี้มิใช่หรือ "มันเป็นการบังคับ แกมๆ ปนอคติว่า คนอื่นต้องทำเหมือนเรา ถ้าผิดแผกแตกต่างไปจากนี้ ผิดทันที เป็นแกะดำทันที จริงๆเรื่องภาษาแอ๊บแบ๊วอะไรนี่ มันออกเป็นเรื่องของความชอบมากกว่า เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ใครๆ จะแสดงออกอย่างไรก็ได้ เพื่อแสดงถึงตัวตนของเค้า" เราจะโวยวาย บ่นอะไรในความเห็นของเรา ต่อกระทู้ที่เราไม่เห็นด้วยนั้น ไม่ได้เป็นการคุกคาม ตราบเท่าที่เราใช้ภาษาสุภาพ และไม่ได้กล่าวว่าร้าย ให้ใครเสื่อมเสีย และถ้าใครจะเห็นด้วยกับเราหรือคนหมู่มากจะคิดไปในทำนองเดียวกับเรา ตราบเท่าที่ไม่ได้มีการพูดจาคุกคามหรือกระทำผิดกฏหมาย ก็สามารถคิดและกระทำได้ การที่เราจะไม่ตอบกระทู้ที่มีภาษาแบบนี้มากจนปวดหัว แล้วจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นแกะดำ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ เหมือนเวลาเราอ่านกระทู้ใครที่เราไม่ชอบความคิดเขา เราจะเข้าไปตอบแบบตักเตือน อันนี้มันก็สิทธิของเรา และถ้าคนส่วนมากดันคิดเหมือนเรา และเข้าไปตอบหรือไม่ตอบกระทู้ที่แสดงความคิดแบบนั้น แล้ว จขกท เขาจะรู้สึกว่าสังคมต่อต้าน สังคมไม่ยอมรับ รู้สึกเป็นแกะดำ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ เขาควรจะต้องพิจารณาตัวเองว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เราเคารพสิทธิพื้นฐานคนอื่น คนอื่นก็ต้องเคารพสิทธิเราด้วย ถ้าเราไม่พอใจจะเสวนาหรือตอบกระทู้คนที่ใช้ภาษาแบบนี้ หรือจะคอมเม็นต์อื่นๆไปโดยใช้ภาษาสุภาพ มันก็สิทธิของเรา "คุกคาม" ความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp หมายถึง ก. แสดงอํานาจด้วยกิริยาหรือวาจาให้หวาดกลัว, ทําให้หวาดกลัว เช่น ภัยคุกคาม, ในบทกลอนใช้ว่า คุก ก็มี เช่น ไป่ขู่ไป่คุก ไป่รุกรุมตี. (สมุทรโฆษ). เรามิได้ทำให้ใครหวาดกลัวนิ ไม่ผิดกฏหมายด้วย สังคมน่ะเปิดกว้างอยู่แล้ว จะแสดงตัวตนแบบไหน อย่างไร ก็ทำได้ตามสบาย แต่คนอื่นเขาจะปฏิบัติต่อคุณอย่างไรนั้น มันก็สิทธิของเขา ตราบเท่าที่ทุกคนไม่ได้ทำผิดกฏหมายหรือละเมิดสิทธิพื้นฐาน จากคุณ : yuy - [ 25 ก.ค. 50 20:46:50 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่เห็นด้วยครับ เค้าจะใช้ภาษายังไงก็เรื่องของเค้าครับ ถ้าคุณอ่านไม่รู้เรื่อง คุณก็บอกสิ ว่าอ่านไม่รู้เรื่อง คุณมีสิทธิอันใด ไปบอกว่า ภาษาที่คนอื่นใช้ ทำให้ภาษาของคุณวิบัติ (ภาษาไทยไม่ใช่ของคุณ คนอื่นมีสิทธิที่จะดัดแปลง และนำไปสร้างเป็นภาษาใหม่) ถ้าเป็นที่ต่างประเทศ คุณเดินไปบอกคนดำว่าทำภาษาอังกฤษวิบัติ มีหวังโดนตีหัวแล้วครับ คุณโชคดีนะ ที่วัยรุ่นไทย ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง (ลองนึกดู ว่าคุณชอบไหม เวลาที่มีคนมาดูถูกภาษาที่คุณใช้) จากคุณ : คุณชินโซ - [ 25 ก.ค. 50 20:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะคุณ yuy ความคิดเห็นที่ 90 ตอบได้ตรงประเด็นมากครับ คือเหตุผลที่ตั้งกระทู้นี้ ไม่ได้หวังจะจำกัดสิทธิผู้ใด เพียงแต่ต้องการให้คำนึงถึงความเหมาะสมโดยมารยาทอันดีงาม การขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากบุคคลที่เราไม่เคยรู้จักผ่านสื่อสาธารณะโดยใช้คำไทยที่ถูกหลักภาษาไทย ผมไม่เห็นว่าจะไปกดขี่หรือจำกัดสิทธิของใครที่ไหน แล้วผมก็เพียงต้องการทราบความคิดเห็นจากเพื่อนๆสมาชิกว่าคิดเห็นอย่างไรกับการตั้งกระทู้ที่ใช้ภาษาแบบนี้ ถ้าเห็นด้วยกับผมก็ไม่เข้าไปตอบกระทู้แอ๊บแบ๊ว (ไม่ได้ชวนกันเข้าไปกดลบกระทู้) ถ้าไม่เห็นด้วยก็ทำตามที่คุณคิดว่าสมควร ก็ตอบกระทู้เหล่านั้นไป การใช้ชีวิตร่วมกันย่อมต้องมีบรรทัดฐานเป็นเครี่องกำหนดแนวทางในการดำรงชีวิต การออกมาเรียกร้องในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเห็นว่าถูกต้องนั้น ผมไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีตรงไหน ค้วยความเคารพ จากคุณ : CHISWICK - [ 25 ก.ค. 50 21:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อิอิ ชอบมากเลย เราเจอบ่อยๆ ไม่ค่อยด่าหรอกนะ แต่เราไม่ตอบ หรือ เข้าไปตอบก็กัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังจำได้มีน้องคนหนึ่งมาตั้งกระทู้ถาม อยากปายเมืองนอกต้องทามยางงายบ้างเคอะ ปายขอวีซ่าที่หนาย เราก็ตอบไปว่า ไปเรียนภาษาไทยให้ดีก่อน ค่อยไปนะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 21:52:21 จากคุณ : สหมิว ไม่แบ๊ว (Be a good guy) - [ 25 ก.ค. 50 21:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 94 If he or she needs help, I would not mind their language. จากคุณ : amatuer translator - [ 25 ก.ค. 50 21:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ตอนเป็นวัยรุ่นเคยใช้ภาษาวัยรุ่นกับพ่อแม่ ผลหรือคะ โดนตบปากเบา เบา เพราะว่าเป็นลูก พร้อมคำตำหนิว่า  ไปเลย ไปใช้ภาษาแบบนี้กับเพื่อนโน่น แต่อย่าเอามาใช้พูดกับพ่อแม่ ฉันเสียดายเงิน และเวลาที่ส่งให้ลูกไปโรงเรียน ก็คิดได้ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ไม่เคยพูดหรือเขียนภาษาอะไรแบบนั้นอีกเลย แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 22:43:50 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 22:32:27 จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส - [ 25 ก.ค. 50 22:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เราไม่เห็นด้วยคะ เพราะทุกวันนี้เห็นน้องๆๆ เด็กๆๆ ที่บ้านที่กำลังเป็นวัยเรียน วันรุ่น และเด็กเล็ก คุยกันแล้วรับไม่ได้คะ เด็กเล็กๆๆเวลาพี่ๆๆ หรือผู้ใหญ่คุยอะไรกันจะพูดตาม จะจำสำเนียง จำเสียง จำคำพูดเอามาใช้ อย่างลูกชายเราอายุ 4 ขวบ พูดไม่ค่อยชัด เราก็จะคอยสอนให้พูดชัดถ้อยชัดคำ เค้าพูดผิดเราก็บอกให้พูดใหม่ จนเค้าพูดชัดและออกเสียงถูกต้อง แต่อีก 2-3 วันก็เป็นอีกแล้วเราก็สงสัยว่าทำไมถึงวันนั้นได้ยินหลานเราอายุ 13 กำลังเล่นและพูดคุยกับลูกเราในภาษา "แอ๊บแบ้ว" เราฟังแล้วเหมือนเด็ก 4 ขวบ 2 คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ลูกเรากำลังเถียงหลานสาวว่า "แม่ผมสอนให้พูดให้ชัดๆๆว่า -- ทำอะไรอยู่ ไม่ไช่ ทำอารายยยยยยอยู่ ทำไมพี่พูดอย่างนั้น หลานก็ตอบว่าก็ใครๆๆเค้าก็พูดแบบนี้ แล้วยังไปสอนให้ลูกเราพูดตามเค้าอีก เรารีบออกไปห้ามทันทีว่าอย่ามาพูดแบบนี้กับลูกเราอีกเด็ดขาด เพราะเด็กวัยนี้กำลังจดกำลังจำและเรียนรู้ พวกเราควรสอนให้ถูกไม่ใช่ทำให้เด็กงง และเข้าใจผิดๆๆ ไปปลูกฝัง หรือพูดบ่อยๆๆให้เด็กเล็กๆเข้าใจแบบนั้นจะทำให้เด็กสับสน แม่สอนให้พูดอีกอย่าง พี่สอนให้พูดอีกอย่าง ... อย่างหลานเราอีกคนชอบเล่น Chat แล้วจะพิพม์เป็นภาษา"แอ๊บแบ้ว" เราก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่ไปโรงเรียนยังคุยกันในกลุ่มเพื่อน เวลาทำการบ้านยังสะกดภาษาไทยผิดเลยคะ .... อยู่ -- ยู่ ... อังกฤษ - - อังกิด ... ภาษิต - - พาสิด ... ใคร - - คาย ... กลายเป็นว่าคำควบกล้ำ ร ล หายไปหมด ... แล้วถ้าเราไม่เตือนพวกเค้าตั้งแต่ตอนนี้ อนาคตจะเป้นยังไงคะ ถ้าคนหลายๆๆคนเป็นคนมีการศึกษา ผ่านประถม มัธยม หรือระดับมหาวิทยาลัย มาคุยภาษา "แอ๊บแบ้ว" เราก็ไม่อยากว่าอะไรหรอกคะ โตๆๆกันแล้ว รู้ๆๆอยู่ว่ามันผิดเพี้ยนแต่หลายๆๆคนก็จะทำ จะพูดเพราะพูดไปตามแฟชั่น ตามกระแสเด็กสมัยใหม่ กลัวสังคมไม่ยอมรับ กลัวจะถูกหาว่าเป็นเชย หัวโบราณ ... ลองคิดถึงตอนเด็กๆๆที่คุณครูสอนให้อ่าน ให้เขียน ก ข สิคะ เค้าจะเสียใจแค่ไหนที่สอนไปแล้วไม่จำ หรือจำแต่ไม่ทำ เพราะภาษา "แอ๊บแบ้ว" เป็นภาษาใหม่ .. อย่างนี้ต้องให้ครูเปลี่ยนตำราจาก ภาษาไทย เป็นภาษา"แอ๊บแบ้ว" ดีไหมคะ จากคุณ : Lin - [ 25 ก.ค. 50 22:29:32 A:58.8.197.213 X: TicketID:149885 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เห็นด้วยกับ จขกท. ค่ะ...แตไม่ถึงกับ "ไม่ตอบ" นะคะ... ไม่ได้คิดจะมาเป็น "ครูสอนภาษาไทย" ณ ที่นี้หรอกนะคะ...แต่ว่าอย่างน้อยๆ ก็น่าจะเขียนและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง...และการใช้ภาษาให้ถูกกาละและเทศะเป็นสิ่งที่สำคัญ...อย่าลืมว่า...ภาษาก็เป็นตัวบ่งบอก "วัฒนธรรม" เหมือนกันนะคะ... เออ! แล้วตกลงภาษาแบบ "Abแบ๊ว" เป็นวิวัฒนาการของภาษาหรือคะ?....อืมมม! คิดว่าเป็น "ภาษาวิบัติ" ซะอีก...เพราะอ่านแล้วปวดหัวจริงๆ... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 25 ก.ค. 50 22:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อีกอย่างคะ อย่าไปเลียนแบบเมืองนอกเค้าเลยนะคะ เดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษก็ทำงงๆๆ ยิ่งไปฟังเพลง Hip Hop แย่เลยคะ เพราะงง เค้าพูดอะไร หมายถึงอะไร แล้วทำไมเขียนอย่างนั้น ถ้าเป็นคนที่ไม่เก่งอังกฤษ เราว่ายิ่งแย่ไปเลยคะ ใครจะไปรู้ถ้าอยู่ๆๆ เห็น Let me see ya strip งงหรือเปล่าคะ อะไรคือ ya ไปเปิด dict. ก็ไม่มีเลยต้องไปตั้งถามกระทู้ เลยรู้คะว่า อ๋อ ya คือYOU นี่เอง จากคุณ : Lin - [ 25 ก.ค. 50 22:46:22 A:58.8.197.213 X: TicketID:149885 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ตั้งใจจะตอบกระทู้นี้หลายเพลาแล้ว แต่ไม่ได้จังหวะสักที ตอนมีเวลาตอบก็ไม่มีอารมณ์ตอบ ..... อยู่ร่วมบนความแตกต่าง ผมว่าที่ทำได้น่ะมีไม่กี่คนครับ โดยเฉพาะคนบอร์ดไกลบ้าน ถ้าเห็นอะไรที่แตกต่างจากตัวเอง หรือผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานตัวเองอยู่ พวกเขาเตรียมบอมบ์ทันทีครับ ไม่วันนี้ก็สะสมไประเบิดเอาวันข้างหน้า ผมว่าที่นี่น่ะ อนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้วจริงๆ ออกจะเป็นเผด็จการไปด้วยซ้ำ ... ..... ผมจะบอกให้นะครับ ขนาดผู้ติดเชื้อบางคน ที่ออกมาเรียกร้องปาวๆให้สังคมยอมรับความแตกต่างอย่างเท่าเทียม มะตะโกนปาวๆให้สังคมยอมรับผู้ติดเชื้อเอดส์ ....ถึงเวลาจริงๆพอเขามีพวกพ้อง เขาก็กีดกันคนที่คิดเห็นไม่เหมือนตัวเขาครับ นั่นขนาดผู้ติดเชื้อ HIV นะครับ เขายังตั้งแง่ รังเกียจคนที่คิดต่างจากเขา ปฏิบัติตัวต่างจากเขา มีแง่มุมและทัศนคติในการใช้ชีวิตที่ต่างจากเขาเลยครับ แล้วประสาอะไรกะ เราๆท่านๆครับ ..... .....ประเด็นอยู่ใหนนะครับ ภาษาแอ๊บแบ๊ว ... พูดตรงๆถ้าไม่มาออกข่าว ผมก็คิดว่า แอ๊บแบ๊ว เป็นกิริยาของ คนที่มีอายุ แต่ทำตัวบ๊องแบ๊วไม่สมอายุ ไม่เคยคิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของภาษา  ส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกว่าคนใช้ภาษาแอ๊บแบ๊ว จะเป็นปัญหาอะไรกับสังคมครับ แต่ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ล้วนมาแต่ไอ้พวกหัวแก่ หัวหงอก ที่พูดจาไพเราะ พูดจาสละสลวยนี่แหละ มันสร้างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ... ผมตอบหลงประเด็นไปเยอะนะเนี่ย .... จริงๆมีจุดประสงค์อย่างอื่นตะหาก หุหุ จากคุณ : joblovenuk - [ 25 ก.ค. 50 23:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ชอบภาษาแอบแบ้วแบบน่ารักๆ  หรือว่าชอบแบบภาษาพ่อขุนหละครับ พูดจิงๆว่าตามหลักภาษาคุณไปอ่านได้นะว่าภาษามีการเปลี่ยนแปลง  ถ้าภาษาใดไม่มีการเปลี่ยนแปลงถือว่าภาษานั้นตายแล้ว  แล้วอีกอย่างภาษาแอบแบ้วมันเป็นภาษาปากครับไม่ใช่ภาษาทางการ  ไม่ต้องไปคิดมากหรอก จากคุณ : Umiki - [ 26 ก.ค. 50 00:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 101 จริงค่ะว่าอ่านแล้วน่ารำคาญ เคยตรวจข้อสอบแล้วเจอเด็กทำข้อสอบโดยใช้ภาษาแบบนี้ปวดหัวมากค่ะ ไม่อยากจะให้คะแนนเลยจริงๆ รู้สึกว่าเค้าแยกไม่ออกระหว่างความเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงอธิบายให้เค้าเข้าใจหลังสอบว่าการใช้ภาษามันต้องมีความแตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์ และต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม ยังไงก็ตามภาษาย่อมมีความเปลี่ยนแปลงเสมอ ภาษาที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือภาษาที่ตายแล้วค่ะ ไม่แน่ว่าในชั่วชีวิตของคนรุ่นเรา เราอาจได้เจออะไรที่เปลี่ยนไปจนไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้ขนาดนี้ ส่วนความร่วมมือในการตอบกระทู้หรือเปล่านั้นก็คงต้องดูเป็นรายๆ ไป แต่บางทีอ่านแล้วก็ทนไม่ค่อยไหวเหมือนกันค่ะ จากคุณ : wild honey (wild honey) - [ 26 ก.ค. 50 01:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ต่อต้าน แอ๊บแบ๊ว แล้วไม่มีต่อต้าน พวก ไทยคำ English คำ มั่งหรือครับเนี่ย โดยเฉพาะใน Pantip หรือว่า Member(s) ไม่สนใจกันบ้าง เดี๋ยวนี้เป็นทิงลิชกันหมดแล้ว http://th.wikipedia.org/wiki/Tinglish จากคุณ : L (whatzwrong) - [ 26 ก.ค. 50 03:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 103 oh มาย บุ๊ดด้า เดี๊ยน รับมั่ยดั้ยฮ้า ทามมาย this เวิลด์ แฮ็บ ทู แม้นี่ คอนโทเว้อเชี่ยว issue จั่งซี่ ละฮ่ะ ปะเดี๋ยว Abแม้ว But นาวน์ tinglish แหมแล้ว เอิ๊ก ๆ ที่เขียนมานี่ เข้าใจบ้อ ขำ ๆ น่ะคร๊าบบบบบบบบบบบบบ ปัจฉิมลิขิต ... I เวรี่ like ดิส เร็ฟพลาย อ๊อฟ คห 66 คิมากปายอ๊ะป่าวง่าส์ โรคมีว้ายเหยียบอ้ะ มะช่ายไว้แบกนะงับ อิอิอิอิอิอิอิ หุหุ จุดพลุ ไล่ มายเซลฟ์ น่ะฮะ ... แบ็บว่า ไอ ด้อน ไลค์ ดิสคริมิเน้ชั่น น่ะฮ่ะ แอ้น would ไลค์ 2go away ... ฟิ้ววววววว จากคุณ : ... - [ 26 ก.ค. 50 04:19:56 A:128.240.233.197 X:128.240.229.65 TicketID:133382 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ต้องขอโทษน้องความเห็นข้างล่าง ซึ่งออกความเห็นอยู่ในเว็บ ๆ หนึ่ง ที่จริงเขาเป็นคนที่ใจดีมาก ๆ อยากให้ข้อมูลและความช่วยเหลือคนอื่น แต่---แต่---ภาษานี่สิ ทำใจยาก ทำใจลำบาก ให้คนอ่านเหลือเกิน........ ก็ลอง ๆ ดู ๆ กันนะ สำหรับเรา รับได้ยาก คือมันอ่านลำบากมากจนเหมือนเราไม่ได้อ่านภาษาไทยอยู่ ถ้าเป็นถึงขนาดนี้ในอนาคต คงไม่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพวกเค้าได้น่ะค่ะ ปลงตัวเอง......... เค้าแนะนำกันเรืองเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนน่ะค่ะ.......... ************** ท่าน้องหยากไปจิงนะแล้วเกดม่ายถึงก้อยากยุนะ(ม่ายด้ายพูดใส่นะ) แต่พี่ว่าเรื่องเกดอ่ะมานก้อจัมเปนยุนะ(บางโคงการ)แต่ที่พี่ไป AFS อ่ะมานฟิกเกดด้วยอ่ะ แล้วแต่ปะเทดนะ แต่ที่พี่ไปอ่ะ มานฟิกมาที่ 2.5 อ่ะแล้วพี่ได้ 2.9 พี่ก้อเรยได้ไป แต่ที่น้องถามมาอิกหย่างก้อคือความสามาดพิเสดอ่ะ บางโคงการก้อต้องใช้นะ หย่างพี่ AFS อ่ะ มานต้องใช้ความสามาดพิเสดในการสอบสัมพาดด้วยอ่ะ การไปแลกเปี่ยนนะ พี่คิดว่าชื่อโคงการอ่ะมานน่าจามีส่วนในการตัดสินใจที่จาไปนะ หย่างพี่ก้อสอบทั้ง AFS แระก้อ YFU พี่ก้อติดทั้ง 2 ที่(ม่ายด้ายโคสะนาตัวเองนะ) แต่พี่เลือกของAFS มากก่าอ่ะ เพาะว่ามานมีการสอบสัมพาดด้วยอ่ะ พี่คิดว่าตงนี้แหละจามาตัดสินว่าเราสมควนไปไหม มานคุ้มค่ากับการสอบนะพี่ว่า แต่ YFU อ่ะม่ายมีการสอบสัมพาด ไคสอบผ่านข้อเขียนก้อไปได้เรยอ่ะ พี่ว่ามานไปได้ง่ายเกินไปอ่ะ พี่คิดว่าของดี ต้องได้มาด้วยความยากลำบากนะ เกบเอาไปคิดละกานนะ หรือว่าท่าเรามีข้อสงสัยไรอ่ะ ก้อแอดมาคุยกานได้นะ พี่พ้อมตอบทุกคำถามของทุกๆคน ไมบอกว่า AFS ม่ายดีอ่ะ เราว่ามานดีนะ เพาะว่าตอนนี้เราก้อรอเวลาเดินทางไปอ่ะ เราว่ามานคุ้มค่ากับการสอบนะ ไคสอบได้อ่ะ เราถือว่าก้อเก่งพอสมควนแล้วอ่ะที่สอบได้ ม่ายช่ายแค่สอบข้อเขียนนะ แต่มานมีการสอบสัมพาดด้วยอ่ะ หย่างเรานะ การสอบสัมพาดอ่ะ คนที่เข้ามาสอบเราอ่ะ ก้อมีแต่ฝรั่ง มีคนไทคนเดียวเองอ่ะ แล้วเค้าถามไรเราอะ ก้อมีแต่พูดเปงภาสาอังกิดหมดนะ ถึงแม้ว่าเค้าจาเปงคนไทก้อตาม แล้วก้อมีฝรั่ง3คน มีนักเรียนแลกเปี่ยนมาจากเยอรมันด้วยคนนนึ่งที่มาสอบสัมพาดเราอ่ะ เราว่ามานดีนะ แล้วก้อต่างจากโคงการอื่นด้วยอ่ะ(แค่บางโคงการเท่านั้นนะ ม่ายรุอ่ะ) แต่ที่บอกว่านักเรียนแลกเปี่ยนอ่ะเก่งภาสาจองหรอ เราก้อก้อจิงยุนะ แต่ก้ออาดจาม่ายเก่งรายมากมายเท่าที่ควนอ่ะ แต่ท่าม่ายเก่งหรือว่าม่ายด้ายได้เรยอ่ะ ก้อจาสอบม่ายด้ายอ่ะ บางคนอาดจาเก่งแต่ทิดสะดี บางคนอาดจาเก่งทางทางด้านการพูดก้อมีอ่ะ ก้อคนเรามานคนละคนกาน มีความคิด ความรุสึกที่ม่ายเหมือนกาน มีความสามาด พอนสะหวันม่ายเหมือนกาน แต่โคงการทุกโคงการก้อมีทุนหั้ยหมดนั้นแหละ อาดจาหั้ยมากหั้ยน้อยเท่านั้นเองอ่ะ หย่างเช่น AFS ของเรานะ จ่ายปะมาน2.5แสนอ่ะ เราก้อว่ามานเยอะยุนะสำหรับเดะหย่างเรา แต่ว่าการที่ไปเรียนเมืองนอกปีนึ่งๆๆนะ เราว่ามานน่าจะจ่ายมากก่านี้นะ มานน่าจาปะมานเปงล้านอ่ะ เพาะว่าที่เมืองนอกกะเมืองไทอ่ะ มานมีค่าคองชีบที่ม่ายเหือนกาน บางปะเทดแพงก่าเมืองไท 4-5 เท่า บางปะเทดอาดจาถูกก่าเมืองไท (ปะเทดที่ถูกก่าเมืองไทอ่ะ เราคิดว่าเค้าคงจาม่ายส่งเราไปอ่ะ) ก้อม่ายมีรายแระ หมดแล้วอ่ะ แต่ท่ามีไรสงสัยนะก้อถามได้นะ เอาเข้ามาโพสเอาอ่ะ ม่ายหยากจาทิ้งเมลล์ไว้อ่ะ กัวคนอื่นเค้าหาว่าเราแสดงอ่ะ ม่ายมีไรจิงๆๆแระ ไปแร เอออิกหย่างอ่ะ ลืมไป ทุนที่จาไปแลกเปี่ยนอ่ะ มานมีเยอะแยะมากมายนะ เราสามาดเลือกได้ แล้วแต่ว่าเราจาเลือกเอาทุนไหน แล้วก้อไปสอบดู ทุนอื่นนะ พี่ว่ามานแพงมากนะ แต่ไปแค่ม่ายกี่เดือนเองอ่ะ บางทุนนะไปแค่ม่ายกี่อาทิดเองอ่ะ คิดดีดีนะท่าจาไป จากคุณ : ท (ทิวากาล) - [ 26 ก.ค. 50 10:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ชอบ smartupid มันไม่ต้องขนาดนั้นหรอก พิม เขียน อ่าน สนุกๆ ชีวิต มีอะไรให้เครียดอีกเยอะค่ะ  เราไม่เคยใช้ภาษาพวกนี้เขียนรายงาน พูดหน้าชั้น  พูดสัมมนา เวลาคุยแบบนั้นในmsn มันขำๆดีค่ะ โฮะๆๆ จากคุณ : equine - [ 26 ก.ค. 50 11:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เห็นด้วยกับ จขกท อย่างยิ่ง เห็นว่าเป็นภาษาวิบัตชัดๆ เกลียดคนที่ใช้แบบนั้น เว้นแต่บางกรณีย์ อยากด่าอยากตบ แต่ไม่มาเป็นครูสอนภาษาไทยที่"ถนน" แห่งนี้เช่นเดียวกับคุณ BMW จากคุณ : อิสวาสุ - [ 26 ก.ค. 50 11:56:00 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ^ ^ ^ ^ อ่านตัวอย่างข้างบน แล้ว อ๊วกกก ( อ่านแล้วอ๊วกเลย ) อ๊วกเสร็จ ยังไม่รู้เลยว่าเขาให้คำปรึกษาเรื่องอะไรกัน จากคุณ : เด็กหญิงมะปรางหวาน - [ 26 ก.ค. 50 12:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 108 รำคาญพวกหน้าแก่พยายามทำหน้าแอ๊บและกิริยาแอ๊บมากกว่า จากคุณ : อสรพิษจิตไม่ว่าง - [ 26 ก.ค. 50 12:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 109 http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp จากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ คำว่า บ้องแบ๊ว หมายถึง มีหน้าตาพิลึก ค่ะ ในปัจจุบันเกือบทุกคนคิดว่าคำว่าบ้องแบ๊วมีความหมายว่า น่ารัก ไร้เดียงสา ซึ่งในทางปฎิบัติก็มีใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่าว่าแต่การสะกดคำเลยค่ะ ความหมายของคำก็เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยส่วนตัวคิดว่า เราภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย ได้เรียนรู้ภาษาไทยรวมทั้งการเขียนที่ถูกต้องตามหลัก แม้บางทีจะมีการผิดพลาดแต่ก็ไม่มากนัก ภูมิใจที่เราพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน การเขียนให้แอ๊บแบ๊วเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆนะคะ รวมทั้งคนอ่านก็เหนื่อยด้วย เพราะฉะนั้นหากใช้ภาษาเช่นนี้ในการถามคำถาม ก็โปรดเตรียมใจว่าอาจจะโดนผู้ที่ไม่ชอบให้ใช้ภาษาวิบัติก็จะเกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่ช่วยตอบคำถาม รวมทั้งบางท่านจะมีการให้ความเห็นเรื่องภาษากลับไปด้วย เราไม่มองว่าการที่ให้ความเห็นเรื่องการใช้ภาษาเป็นการไป "ควบคุม" หรือ "คุกคาม" แต่อย่างใด แต่เป็นการแนะนำ และเตือนด้วยความหวังดี (แม้บางทีอาจจะใช้คำพูดที่รุนแรงไปบ้าง) บางท่านอาจจะคิดว่า การใช้ภาษาไทยที่ผิดเพื้ยนนั้นไม่เสียหายอะไร แต่อยากถามว่าแล้วการสะกดภาษาไทย หรือออกเสียงให้ชัดเจนถูกต้องนั้นไม่ดีตรงไหนคะ คนต่างชาติบางคน อยากเรียนภาษาไทย อยากพูดให้ชัดเจน และบางคนก็สามารถพูดภาษาไทยได้ไพเราะ และชัดเจนยิ่งคนไทยบางคนอีกค่ะ ไม่มีใครบังคับคุณได้นอกจากตัวคุณเองค่ะ จากคุณ : vecteri - [ 26 ก.ค. 50 12:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เด่ว นู๋ ง่า อ่า อ่ะ ม่ะรู้ อ่ะเยยอ แระ ก้อ ^ ^ เราใช้บ่อยน่ะ จะเรียกว่าแอ๊บแบ๊วเหรอ ใช้มาสัก 5 ปีแระมั้ง คุยกับเพื่อน เช่น m เกมส์ออนไลน์ ภาษาราชการก็ยังใช้ได้ถูกต้องอยู่ค่ะ เราว่าขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่า ส่วนจะตอบกระทู้รึไม่ตอบ ก็ดูตามความเหมาะสมดีกว่าไหมค่ะ กระทู้เบาๆ จะมีภาษาแอ๊บแบ๊วบ้างก็ไม่แปลก ถ้ากระทู้สาระ บุคคลที่มีวุฒิภาวะสมบูรณ์ก็คงไม่แอ๊บแบ๊วแถๆไปเรื่อยหรอกค่ะ จะแอนตี้ไปเลย เราว่ามันรุนแรงเกินไป จากคุณ : LET's FREE!!! - [ 26 ก.ค. 50 12:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 111 วัฒนธรรมเป็นเรื่องการผสมผสานการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมที่หยุดนิ่ง คือ วัฒนธรรมที่ตายแล้ว แม้แต่ ความเป็นไทย ขุดค้นกันไปจริงๆ เราก็พบว่า เรามาจากชนกลุ่มน้อย  ก่อนค่อยสถาปนาขึ้นมาเป็นรัฐไทย เวลาใครออกมาตกอกตกใจ ว่าวัฒนธรรมจะสูญหาย ดิฉัน "ขำ " ทุกที ทุกยุคทุคสมัยแหล่ะค่ะ ที่เราต้องมีสิ่งที่เรียว่า วัฒนธรรมรอง ( sub-culture )  ซึ่งสนุกดีออก ได้รู้ว่าเด็กสมัยนี้มันคิดอย่างไร ดิฉันก็เชื่อเหมือนอีกหลายคนว่า เด็กๆ เค้าคงไม่เอาภาษาแบบนี้ไปตอบข้อสอบหรอก พวกเด็กๆ ก็คงแอบคิดว่า ลุง ๆ ป้าๆ พูด เขียน อะไร กัน อ่านไม่รู้เรื่อง ขอประดิษฐ์ภาษาของพวกเขาเอง ดิฉันอ่านแล้วก็สนุกดี เหมือนภาษาพวกนี้เป็นภาษาของคนกระแสรอง ซึ่งก็ขึ้นไปสู้กับภาษาของกระแสหลักไม่ได้หรอก เค้าก็ต้องเอา "อำนาจ" และการ "ควบคุม" มาอ้างไม่ให้ภาษาของพวกกระแสรองได้เผยแพร่อยู่แล้ว ดิฉันว่าโลกเราวันนี้ มันสนุกตรง ความหลากหลาย ให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนความหลากหลายกันเยอะๆ อย่าบังคับให้คนเหมือนกันเลยค่ะ หายใจไม่ออกเน้อ จากคุณ : grappa - [ 26 ก.ค. 50 13:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อ่านแอ๊บแบ๊วทีแรกนึกสงสาร โถ คุณหนูคงตกภาษาไทยและไม่รู้ว่าไอ้คำถูกนั้นเขียนอย่างไง คุณครูคงไม่เอาใจใส่ พี่เลี้ยงคงเป็นไทยใหญ่ลี้ภัย แต่เห็นแต่งประโยคซะยาว แสดงถึงความตั้งใจที่จะสื่อความหมาย ต้องใช้เวลาแกะทีละตัวๆ มันยากกว่าภาษาต่างถิ่นที่นี้ซะอีก บางประโยคแบ๊วอ่านจบแล้วเอาท้ายมาทบต้น เรียงตัวกันใหม่ ยิ่งพันกันมั่ว สุดท้าย จากคุณ : zug (ZUG) - [ 26 ก.ค. 50 13:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ภาษา ไม่ได้มีคุณค่าในตัวมันเอง แต่มีคุณค่าเนื่องจากมันบันทึก และ สืบทอด องค์ความรู้ และ ข้อมูล จากที่หนึ่ง ไปสู่อีกที่หนึ่งได้ จริงๆแล้วภาษาที่ไม่เปลี่ยน ตายตัว ใช่ว่าเป็นภาษาที่ไม่ดี (ไม่อย่างนั้น วงการศาสนา และ วงการวิทยาศาสตร์ คงไม่ใช้หรอก) ใครเข้าใจแบบนั้น ท่าทางจะต้องคิดใหม่ แต่วิวัฒนาการ ยังคงมีความจำเป็น เมื่อโลก เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่วิฒวัฒนาการ จะต้องเป็น สิ่งที่ดีขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่แย่ลง ถ้าเราเชิกชู การเจริญเติบโต ของทุกอย่าง ก็คงต้องเชิดชู การเฟื่องฟูของการค้ายาเสพติดไปในทำนองเดียวกัน โดยส่วนตัว เมื่อเห็นใครเทิดทูนชื่นชม วิวัฒนาการของภาษา ซะเหลือเกิน เป็นต้อง ถอนหายใจ และส่ายหัวทุกที ใช้แต่พองามก็พอขำๆได้ แต่ใช้ตลอดเวลา มันก็เหมือนปล่อยมุกนั่นแหละ "เลี่ยน" จากคุณ : เซ็ง (นารุ) - [ 26 ก.ค. 50 14:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ถ้าเด็กๆเค้าแยกได้ก็ดีนะคะ แต่ตามที่หลายๆท่านบอก มีเด็กใช้ภาษาแบบนี้ทำข้อสอบหรือส่งการบ้านด้วย!?   นิดหน่อยไม่ว่า แต่ถ้ามาทั้งดุ้นแบบตัวอย่าง AFS นั่นก็ไม่ไหวค่ะ จากคุณ : pervpanda - [ 26 ก.ค. 50 14:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 115 "ท่าน้องหยากไปจิงนะแล้วเกดม่ายถึงก้อยากยุนะ(ม่ายด้ายพูดใส่นะ) แต่พี่ว่าเรื่องเกดอ่ะมานก้อจัมเปนยุนะ(บางโคงการ)แต่ที่พี่ไป AFS อ่ะมานฟิกเกดด้วยอ่ะ" ----------------------------------------------------------------------------- AFS อย่างที่คห.ของคุณทิวากาลยกมาให้อ่านกันนี่ ยายดาอ่านได้แค่ท่อนที่ยกมา ก็ต้องรีบถวายบังโคมลาแล๊วค่า มันมากจนสังคมเขาเลือกปฏิเสธอยู่หรอกนะ เอาแค่พอตลกๆ พ่วงท้ายจุ๋มจิ๋มๆคลายเครียดดีกว่า มากไปมันจะกลายเป็นที่โสเหล่ของชาวบ้านเอานา ภาษาอีสานวันนี้ขอเสนอคำว่า โสเหล่(อ้างอิงจังหวัด :: ร้อยเอ็ด) โสเหล่ คือ พูดคุยกัน, วิพากษ์ วิจารณ์ ตามลิ้งค์นี้เลยจ้ะ http://www.isan.clubs.chula.ac.th/th/index.php จากคุณ : ศิริรักษ์ - [ 26 ก.ค. 50 15:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 116 อ่านตัวอย่าง AFS แล้วเวียนหัวมากเลย วันก่อนเจอเด็กฝรั่ง เขียนภาษาอังกฤษผิดๆ เหมือนกันในเว็บบอร์ด อ่านแล้วก็....เฮ้อ... ไม่แพ้เด็กไทยจริงๆ เสียดายไม่ได้เก็บไว้เอาไว้อ่านสนุกๆ เราว่าแค่คำสองคำคงไม่เป็นไร แต่ถ้ามาทั้งดุ้นก็ไม่ไหว มีอีกอย่างที่ไม่ชอบ อยากบ่น(คิดว่าคงไม่ได้คุกคามใครนะคะ) คนที่ชอบพูดคำหยาบ แต่พยายามเลี่ยงทำให้ดูเบาลง โดยเปลี่ยนพยัญชนะบางตัว เช่น แม่มเอ๊ย กรู สาด มีอีกเยอะจำไม่หมด เราว่ายังไงมันก็คำหยาบอยู่ดี  ในชีวิตจริงเราไม่เคยใช้คำพวกนี้ แต่ยังไงไม่รู้สิ พอเห็นบ่อยๆ ก็กลัวว่ามันจะซึบซับจนคิดว่ามันไม่หยาบอีกต่อไป แต่ก็ยอมรับว่าในบางสถานการณ์ ส่วนใหญ่ในเรื่องเล่า อ่านแล้วมันได้อารมณ์(เถื่อนๆ)ดี ว่าแล้วจะมาบ่นทำไมเนี่ย? จากคุณ : pixp - [ 26 ก.ค. 50 16:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 117 โหลดลงไม่ครบ ข้อส่งข้อความใหม่ อ่านแอ๊บแบ๊วทีแรกนึกสงสาร โถ คุณหนูคงตกภาษาไทยและไม่รู้ว่าไอ้คำถูกนั้นเขียนอย่างไง คุณครูคงไม่เอาใจใส่ พี่เลี้ยงคงเป็นไทยใหญ่ลี้ภัย แต่เห็นแต่งประโยคซะยาว แสดงถึงความตั้งใจที่จะสื่อความหมาย ต้องใช้เวลาแกะทีละตัวๆ มันยากกว่าภาษาต่างถิ่นที่นี้ซะอีก บางประโยคแบ๊วอ่านจบแล้วเอาท้ายมาทบต้น เรียงตัวกันใหม่ ยิ่งพันกันมั่ว สุดท้าย ได้ความว่า ส่ายหัวแล้วตามด้วยไม่รู้เรื่องดีกว่า คงเป็นผลของกรรมเก่า ที่ผมทำไว้กับคุณครูแสนดุประจำวิชาฯ ด้วย กระดาษที่มักมีรอยกาสีแดงเถือกเต็มหน้า เพราะคำที่แกอุตสาห์สละกำลังใจมาดูให้ มันไม่ต่างอะไรกับแอ๊บแบ๊วอะไรเลย ผมขอสารภาพว่าทำกรรมอันนี้ไว้ตอนป.1ที่ผ่านมานานแสนนาน ถ้าแอ๊บแบ๊ว คือการแสดงออก แล้วคนอ่านบอกว่าน่ารักน่าชัง และเป็นที่ยอมรับ เขียนพจนานุกรมฉบับใหม่ ทำให้ผมตระหนักว่าตัวเองคงถึงวัยแล้วจริงๆ และรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างช่วงเวลา ช่องว่างนี้คงขยายขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นช่องโห่วใหญ่ๆ ที่คงไร้การอุด-ปะในกาลต่อมา ลองคิดดู แอ๊บแบ๊วคงกลายเป็นภาษาหลัก และต่อไปแอ๊บแบ๊วของแอ๊บแบ๊วจะเป็นอย่างไร คงไม่มีคำตอบอะไรนอกจาก ภาษาสยองใจ จากคุณ : zug (ZUG) - [ 26 ก.ค. 50 17:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เอ๊อะ...  อะไรกันเนี่ย  แต่เห็นด้วย กะ คห.99  ตรงที่  ที่นี่.....  ตามนั้นล่ะ (แบ๊วมะเนี่ย) บ้านเมืองเราทุกวันนี้  ที่มันไม่สงบก็เพราะคนพวกนี้แหละ  เที่ยวออกมาตำหนิติติง  คนโน้น คนนี้   เพราะคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วมั้ง  เลยอยากจะให้คนอื่นเค้าทำตาม   เชื่อว่า  คนบางคนเค้าก็รู้นะ  ว่าอะไรถูก อะไรไรควร  เวลาไหนจริง เวลาไหนอยากจะเล่น   มันไม่ถึงกับจะทำให้ชาติวิบัติหรอกมั้ง??????  คู๊ณณณณ..   เฮ้ออ....  เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่โต  ถึงกับต้องเอามาขึ้นกระทู้แนะนำเลยเชียวเหรอ    นี่คือสาเหตุหนึ่ง  ของการสร้างความแตกแยกหรือเปล่าเนี่ย...   ประเภทใครเห็นด้วย  กับใครไม่เห็นด้วย  เข้ามาโต้กัน ก็แยกกันเป็นสองพวกแล้ว จากคุณ : Do you know? - [ 26 ก.ค. 50 19:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เอ่อ...ความคิดหลากหลายดีนะ อ่านแล้วทั้งขำ และ งง  ภาษามีทั้งวิบัติ และพัฒนา บางอย่างใช้อย่างไม่เป็นทางการก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่ในสิ่งที่ต้องเป็นทางการก็ควรระวังหน่อยดีกว่าไหมคะ --" จากคุณ : ฟ้าเดียวดาย - [ 26 ก.ค. 50 20:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 120 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าววันนี้ (26 ก.ค.) ในการเปิดการสัมมนาระดับชาติ เรื่อง “การแก้วิกฤตภาษาไทย” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ซึ่งจัดโดยสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า ภาษาไทยเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งใหญ่ ล้ำค่า ควบคู่กับความเป็นไทยมาตลอด คนไทยทุกคนต้องเรียนรู้ และเข้าใจในความสำคัญนี้ ต้องช่วยกันดูแลความสำคัญของภาษาไทยไว้ในสำนึกตลอดไป พล.อ.เปรม กล่าวว่า ปัจจุบันการคมนาคม การสื่อสาร และอิทธิพลของโลกาภิวัตน์ ทำให้ประชากรในโลกมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น มีการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ความรู้ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทำให้ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมไทย และภาษาไทย ได้รับผลกระทบจากภายนอก แต่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนั้น ภาษาไทยยังคงเป็นภาษาไทย เป็นภาษาของคนไทย ใช้สื่อสารได้ทุกระดับ ทุกสถานการณ์ “สำหรับสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ด้านการศึกษา เพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่ใช้ในการศึกษา ใช้ในการประกอบอาชีพ และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ เป็นภาษาที่ใช้ในการบริหารประเทศ ใช้ในกระบวนการยุติธรรม และความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น การจรรโลงการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริม และช่วยกันหาแนวทางแก้วิกฤติภาษาไทยให้ได้” พล.อ.เปรม กล่าว จากนั้น พล.อ.เปรม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ภาษาไทยบนแผ่นดินไทย” ตอนหนึ่งว่า ไม่ได้เป็นผู้รู้ภาษาไทยที่แตกฉาน ลึกซึ้ง แต่มีความสนใจมาก ทั้งการอ่าน การเขียน การพูด เพราะรักภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาแม่ มีความหวงแหน เกรงว่าจะมีผู้นำไปสู่ความวิบัติ และตำหนิในใจทุกครั้ง เมื่อผู้ใหญ่ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง หรือพูดไทยคำฝรั่งคำ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควร เพราะจะทำให้ปรากฏการณ์ภาษาไทยลดลงเรื่อย ๆ “นอกจากภาษาไทยแล้ว ยังมีภาษาถิ่น ที่ส่วนตัวเห็นว่า มีความจำเป็นต้องอนุรักษ์ให้ยั่งยืน เพราะภาษาถิ่นแสดงให้เห็นถึงลักษณะของท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นภาษาที่พูดกันในแวดวงกันเอง และใช้ในการละเล่นต่าง ๆ เช่น โนราห์ ผมเป็นชาวใต้ มีความภูมิใจ และพยายามอนุรักษ์ภาษาถิ่นไว้ แต่ค่อนข้างยากมาก เพราะปัจจุบันคนใต้ แล่งใต้เพียงสำเนียงเท่านั้น คำที่ใช้เป็นภาษากลางทั้งหมด” พล.อ.เปรม กล่าว พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กไทยเรียนภาษาไทยไม่ได้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากหลักสูตรเปลี่ยนแปลงบ่อย เลียนแบบต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าผู้รู้จบมาจากไหน แต่ภาษาไทยลอกเลียนแบบไม่ได้ ต้องคิดเปลี่ยนแปลง พัฒนา ปรับปรุงเอง บางทีอาจต้องกลับไปสู่การท่องจำ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับใช้ในการเรียนภาษาไทย นอกจากนี้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า  การมีสาขาวิชาเรียนให้เลือกมาก เด็กจึงเลือกเรียนวิชาที่จะนำไปประกอบอาชีพ จึงใช้ภาษาไทยถูกบ้าง ผิดบ้าง และเห็นว่าไม่สำคัญ เพราะไม่ได้กระทบกับการประกอบอาชีพ ซึ่งจากประสบการณ์ ภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก มีหลายคำมาจากภาษาบาลี สันสกฤต มีคำพ้องความ และไวยากรณ์ยาก “ภาษาไทยมีความผิดเพี้ยนมาก การออกเสียงพูด พยัญชนะ ตัวสะกด การันต์ การใช้คำเปลี่ยนแปลงไปมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยในการเปลี่ยนแปลงของภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของวรรณยุกต์ ที่เสียงจะสูงขึ้น เสียงโทจะออกเสียงเป็นเสียงตรี เสียงตรีออกเสียงเป็นเสียงจัตวา เลยทำให้ดูแปล่ง หวังว่าทุกฝ่ายควรหาทางคิดแก้ไข” พล.อ.เปรม กล่าว ประธานองคมนตรี กล่าวว่า สำหรับศัพท์สมัยใหม่ เช่น “เด็กแนว” หรือ “เด็กซิล” ถ้าราชบัณฑิตเก็บคำที่งอกเพิ่มมาใหม่ จะทำให้ภาษาไทยมีจำนวนมากขึ้น และเพราะขึ้น ส่วนตัวต้องการเห็นคนไทยมีความรักภาษาไทย ให้บริสุทธิ์ สะอาด สง่างาม และปรารถนาให้คนไทยพูดภาษาไทยที่ถูกต้องชัดเจน ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องจึงควรสร้างสิ่งจูงใจให้คนไทยรัก ถนอม หวงแหนภาษาไทย สอน และแนะนำคนไทยว่า ประเทศไทยมีเอกราช มีพระมหากษัตริย์ที่รับสั่งภาษาไทยได้ชัดเจน เป็นแบบอย่างที่ดีเลิศ ดังนั้น ทุกคนควรเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และมีหน้าที่กวดขัน ทั้งการพูด การเขียน การอ่านให้ถูกต้อง “ต้องสร้างความภูมิใจว่า ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ มีพยัญชนะ สระ และตัวเลข เป็นของตัวเอง ควรปลูกฝังความเป็นไทยแก่เด็ก เยาวชน ให้รู้คุณค่าของแผ่นดิน และผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทย ควรหาวิธีสอนให้เด็ก และนักศึกษา เห็นว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่น่าเรียน น่าศึกษา” พล.อ.เปรม กล่าว ที่มาของข่าว นสพ.ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=55314 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 21:12:59 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 20:58:08 จากคุณ : CHISWICK - [ 26 ก.ค. 50 20:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ความเห็นที่ 118คะ การที่มีความเห็นเป็นสองด้านไม่ได้หมายความว่าแตกแยกนะคะ อย่างตัวอย่างน้อง AFS พี่คนที่เค้ามาโพสก็ไม่ได้ด่าว่าอะไรน้องเค้าเป็นการส่วนตัว อาจจะชมด้วยซ้ำแค่ตำหนิเรื่องภาษาเท่านั้นเอง ซึ่งภาษาน้องมันก็ เกินไปจริงๆ อาจแล้วปวดหัวรำคาญตา ถ้านิดๆหน่อยๆยังพอทนนะ การที่คนเราจะมีความเห็นแตกต่าง แล้วโต้แย้งกันด้วยเหตุผลไม่ใช่ความแตกแยกแน่นอนค่ะ แต่ถ้าเป็นการหาเรื่องกัน ด่ากันแบบหลับหูหลับตาไม่ฟังความใดๆเลยนั่นแหละปัญหา เราว่าที่บ้านเมืองปัจจุบันเป็นแบบนี้เพราะคนประเภทอย่างหลังค่ะ วันก่อนเราเดินผ่านchurch แถวบ้าน เห็นติดมีข้อความติดไว้ข้างหน้าค่ะว่า When everybody thinks alike, someone don't think (คือแปลแล้วประมาณนี้อ่ะค่ะ) จำได้ว่าเราหยุดอ่านยังแอบคิดเลยว่า เออศาสนาคริสต์เค้าก็สอนให้คนยอมรับความแตกต่างกันเนอะ แต่ทำไมเวลาแต่งงานกับคนคริสต์ คนที่แต่ด้วยต้องไปเข้าศาสนาเค้าด้วยอ่ะ(คิดไปโน่น) นอกเรื่องไปนิด แต่แค่จะบอกว่าเราพี่ๆน้องๆคะ เราไม่ได้กำลังทะเลาะกันนะคะ แค่แสดงความเห็นที่ต่างกัน อย่างเครียด จากคุณ : Autarky - [ 26 ก.ค. 50 23:12:17 A:58.111.163.56 X: TicketID:150346 ]

ความคิดเห็นที่ 122 หลายๆความคิดเห็นชี้แจงได้ชัดเจน และตรงกับที่ใจเราอยากจะพูดแล้วค่ะ เอาเป็นว่า เราให้ความร่วมมือค่ะ จากคุณ : casidy - [ 26 ก.ค. 50 23:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 123 อืม  วันนี้เข้าไปทักทายเพื่อนตามบล็อกแล้วก็ต๊กกะใจ  เราก็ใช้ภาษาแอ๊บแป๋วเหมือนกันนี่หว่า เราชอบพิมพ์เป็นภาษาพูดอ่ะ  แบบนี้แหละ พิมพ์เป็นภาษาพูดเนี่ยผิดไปด้วยหรือป่าว   อะคะ แต่ว่า จำพวก  เด๋วนู๋จาปายหาเพ่ที่บ้านด้ายป่าว  ไม่เคยเลยจริงจริ้ง เราเห็นด้วยนะ  ที่หลายๆคนพยายามพิมพ์  พูด  ให้ถูกต้อง   เพราะเวลาเราไปเจอกระทู้ที่พิมพ์ด้วยภาษาจำพวกนั้น   ไม่ตอบเลย  เพราะว่าเราไม่อ่าน  แบบว่าอ่านยากมากๆ   งงด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการของภาษาหรืออย่างไร  แต่เป็นวิวัฒนาการที่ปวดหัวสุดๆ จากคุณ : LiLLa_JoY - [ 27 ก.ค. 50 01:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 124 แล้วไอ้คำว่า "แอ๊บแบ๊ว" นี่มาจากไหน ตอนจากประเทศไทยมาก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยมีในหนังสือเรียน ......พึ่งเคยได้ยินนี่เอง...สงสัยเราไปอยู่ในป่ามาแน่เลย จากคุณ : เพื่อนเก่า (boolee) - [ 27 ก.ค. 50 05:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อย่าเครียดจริงจังกันเกินไปค่ะ  ที่คุณ CHISWICK ขอความร่วมมือคือประเภทเีขียนแบบ คคห 104 AFS นั่นแหละค่ะ ไอ้ประเภทนิดๆ หน่อยๆ แบบจิงป่ะ อ่ะ ง่ะ เจงๆ พอขำๆ ไม่ทำให้ใครเวียนหัวนี่ คงไม่มีใครมาบ่นหรอกค่ะ ใจเย็นๆ กันน้า...  (ขอนิดดดดนึง) จากคุณ : ตกตะกอน - [ 27 ก.ค. 50 06:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 126 I was trying to write my opinion about this case (ab-baew) on my blog from a linguist's perspective.  If interested, follow this link: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=krisdauw&group=2 จากคุณ : texanprofessor (krisdauw) - [ 27 ก.ค. 50 07:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 127 พูดง่าย ๆ ตรง ๆ เลยนะคะ จากคนเคยตอบมาเป็นคนอ่านยังอ่านไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ ถ้ามีคำให้เดาไม่มาก ก็จะพยายาม แต่ต้องใช้เวลาในการเดามาก ก็อย่าที่บอกค่ะ ... ผ่านไป เลยไป ... เรื่องเหล่านี้ถือเป็นปรากฎการณ์หนึ่งของสังคม ถ้ามีคนนิยมกันมาก ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไร้ซึ่งคนสนใจ ก็จะกลายเป็นแฟชั่นเฉพาะกลุ่ม นานไปก็จาง จากคุณ : บีพี - [ 27 ก.ค. 50 11:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ ตรงที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ High-Context, Fimininism, Collectivism, Short-Term Orientation, High Power Distance, and The theories of Lose Face. ทีนี้มันจึงเกิดปัญหาหรือเรื่องรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างที่เวลาเราเห็น กระทู้ทะเลาะกันซึ่งพออ่านแล้วไร้สาระมาก ๆ นั่นเป็นเพราะว่าเก็บเรื่องไม่ เป็นเรื่องมาคิดกันนั่นเอง ซึ่งเรื่องหนึ่งก็คือภาษานั่นเอง พอมี High-Context เกิดขึ้นก็เลยมองว่า ไม่ใช่แค่ภาษาเท่านั้นที่สำคัญ ฟ้อนท์ สี คำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สำคัญ เช่น หางเสียง เรื่องคนพูดจบจาก สถาบันไหน เป็นใคร เป็นเกย์ เป็นคนผิวดำ เป็นเมียฝรั่ง หรืออื่น ๆ ก็จะมี ประเด็นต่าง ๆ Fimininism คนไทยแม้แต่ผู้ชายก็จะมีลักษณะบางอย่างที่ผู้ชายต่างชาติ ไม่มี คือจุกจิกเรื่องเล็กน้อย ๆ ต่าง ๆ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เวลากระทรวงวัฒน- ธรรมหรือระเบียบรัตน์หรือ ครูในโรงเรียนให้ความสนใจในเรื่องไม่ค่อยเป็น เรื่องเช่น เรื่องทรงผม เรื่องสีถุงเท้า ทุก ๆ รายละเอียด แต่ไม่ค่อยสนใจเรื่อง การศึกษา พอมาเจอวัฒนธรรม Collectivism นี่ก็ยิ่งไปกันใหญ่เพราะมอง ว่า ไม่ใช่พวกเรา ถ้าไม่เหมือนเรา ก็เลยสร้างความรู้สึกร่วมในภาษา เช่น มองว่า เพราะเราอยู่กลุ่มเดียวกัน เราจึงควรเหมือนกันในทุกเรื่อง Short-Term Orientation นี่เป็นอีกเรื่องของกระทรวงต่าง ๆ ในเมืองไทย เพราะไม่ได้เน้นเนื้อหาสาระหลัก ๆ ของกระทรวง เช่นกระทรวงวัฒนธรรมก็ ยังไม่เข้าใจคำว่าไทย ไปมองว่าไทยคือเชย คือสไบ หรือวัฒนธรรมแบบข้า- ราชการเช้าชามเย็นชาม พอคิดไปถึงชาวเขาก็พาลให้งงว่าเขาเป็นไทยหรือ ไม่ พอเห็นคนไทยภาคอื่น ๆ ไม่เหมือนตนก็มองว่าเขาไม่ใช่คนไทย พอมองระยะสั้น ก็จะมีนโยบายต่าง ๆ ซึ่งไม่ค่อยเป็นสาระ เหมือนให้ได้ ออกหนังสือพิมพ์รายวัน เช่น นโยบายใส่ผ้าไทยวันศุกร์ นโยบายรณรงค์ วัฒนธรรมไทย ภาษาไทย ซึ่งหลาย ๆ เรื่องถ้าเรียนจบไทยศึกษา หรือเอก ภาษาไทยก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่ของไทยและไม่เป็นแก่นสาร สุดท้ายคือ เรื่อง High Power Distance, and The theories of Lose Face คือ การใช้ภาษาไม่ว่ามีระดับชั้นวรรณะทางภาษา การมีหางเสียง การใช้คำ ในระดับไม่เท่ากัน เช่น แก่ หรือแด่ การหมอบคลานต่าง ๆ ล้วนเป็นการ แสดงถึงการไม่ยอมรับความเท่าเทียมและการประเมินคนเบื้องต้นว่า เขาตี ตนในระดับเดียวกับเราหรือไม่อย่างไร ซึ่งแน่นอนผู้มีอำนาจก็อยากคงอำ- นาจความศักดิ์สิทธิ์ ศักดินา การควบคุมไว้ ผู้ที่อ่อนน้อมก็อาจต้องการประ- โยชน์ในภายหลัง ซึ่งเพื่อป้องกันการเสียหน้า ภาษาก็จะต้องนำมาใช้ สุดท้ายเรื่องภาษานี่เขาเป็นเรื่องแสดงความเป็นตัวตน เป็นกลุ่มอย่างหนึ่ง เพราะคือวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง เขาพูด เขาคิด แสดงความเป็นเด็ก ออดอ้อน ต่าง ๆ นานา ก็เพราะแสดงความเป็นตัวตน เป็นกลุ่มก้อน เหมือนแต่ละสาขา อาชีพก็มีความต้องการแสดงตนเป็น In-Group ไม่ใช่ Out-Group ดังนั้น แต่ละภาคบางทีก็ยังคงใช้คำเดิมเพราะต้องการแสดงความเป็นกลุ่มของเขา สุดท้าย นี่เป็นทฤษฎีที่ตลกมากและคนสมัยนี้ควรเข้าใจ เป็นเรื่องง่ายมาก เขาเรียกว่า Illusory Correlation คือคนมักตีความและเข้าใจผิดเพราะตัว เองโยงเรื่องผิด เช่น โยงว่าคนออทิสติกคือคนสมาธิสั้น เรียนหนังสือไม่ได้ และคนเรียนจุฬาฯ เป็นคนหัวดี ใช้สมาธิสูงเพราะต้องอ่านหนังสือได้นาน ๆ สุดท้ายเราก็ได้เห็นภาพคนจบจุฬาฯ เป็นคนออทิสติกมาหนึ่งแล้วก็แปลกใจ ทฤษฎีนี้เราใช้ในการประเมินอย่างผิด ๆ ต่อไปอีกหลายเรื่องตามความสนุก และสบายใจของตัวเราเอง นัยหนึ่งเพื่อให้ตัวเองสบายใจอีกหลายเรื่อง เช่น สวยแต่โง่ ใช้ภาษาไทยแอ๊บแบ๊วแปลว่าจะไม่เก่งภาษาไทยหรือภาษาอัง- กฤษ ผู้หญิงใส่กางเกงต้องเป็นทอม เมื่อเป็นทอมแล้วจะทำงานด้านบริการ ไม่ได้เพราะทอมเหมือนผู้ชาย ดังนั้นจึงไม่ต้องให้ทำงาน สรุปสิ่งที่คนไทยในปัจจุบันควรคิดคือ หนึ่ง. ภาษามีจุดมุ่งหมายเพื่อการสื่อสาร เวลาคนไทยคุยกันจึงควรเน้น เนื้อหาสาระเป็นหลัก เช่น ใครพูดแล้วให้ประโยชน์ก็ฟัง ไม่จำเป็นต้องเป็น เด็กเป็นแก่ สอง. ภาษามีรายละเอียดเพื่อแสดงความหนักเบาเท่านั้น อันนี้เป็นแค่กะพี้ ของภาษา ไม่ควรถือเอาเป็นจริงเป็นจัง เป็นเรื่องสนุกของภาษา สาม. วันนี้เรื่องสื่อเอามาเล่น เราไม่ควรถือเป็นจริงจัง เราควรตั้งคำถามว่า ทำไมเขาถึงสนใจแต่เรื่องพวกนี้ แล้วเรื่องเป็นสาระ ข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงของ ประเทศในแต่ละวันมันหายไปไหน ซื้อหนังสือพิมพ์แปดบาทสิบบาททุกวัน ดูทีวีทุกวัน ฉันได้อะไร สี่. วัฒนธรรมที่เป็นชิ้นเป็นอันของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์มีน้อยและน่าละอายใจอย่างเป็นที่สุด กระทรวง ของพวกท่านจะถูกมองในแง่ดีอย่างเดียวถ้าเปรียบเทียบกับกระทรวงพาณิชย์ จากคุณ : ฟ้าลั่น - [ 27 ก.ค. 50 13:45:44 A:220.101.187.75 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ใครชอบอะไร  เราเลือกได้ ไม่ชอบ ขอให้ผ่านไป  "ที่ชอบ ที่ชอบ" ไม่มีใครบังคับนี่นา... เรา"เลือก" ที่จะทํา.... ฟัง  พูด  อ่าน และเขียน ในแบบของเเต่ละ "คน" ตามกาละเทศะ  (สะกดถูกหรือนี่?) ภาษาเป็นสื่อ หรือ ตัวกลางของสัตว์โลก ที่อยู่รวมกันเป็นกล่ม = สังคม กรุณาเลีอกใช้ และ เสพ ภาษา"มนุษย์" สาธุ จากคุณ : คนธรรมดา (pooh&pim) - [ 27 ก.ค. 50 14:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เห็นด้วยกับคุณฟ้าลั่นที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จงภูมิใจในความเป็นเรา... จงยอมรับในความเป็นเขา.. สังคมจะสงบสุขจ้า จากคุณ : Khemmarassamee - [ 27 ก.ค. 50 18:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 131 นั่งอ่านกระทู้นี้มานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นกระทู้แนะนำ จนเห็นเป็นกระทู้แนะนำหลายวันแล้ว... โดยส่วนตัวแล้ว ก็ไม่ถึงกับซีเรียสมากในเรื่องภาษาแอ็บแบ็ว...ถ้าใช้แบบสนุกสนาน แบบนิด ๆ หน่อย ๆ กับกลุ่มเพื่อนฝูงของเค้าก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ามากไป แบบว่าตั้งใจสะกดผิดแบบที่ คุณความเห็นที่ 104 ยกตัวอย่างมาให้ดูที่ตอบเรื่อง AFS แบบนั้นก็ไม่ไหวน่ะค่ะ ถ้าอ่านเจอแบบนั้น ตัวเองมักจะข้ามไปเลย ไม่อ่านต่อ..และกลัวแทนจังว่าถ้าเค้าพิมพ์แบบนั้นบ่อย ๆ อาจจะทำให้เค้าเผลอจำไปใช้ในการทำงานไปเลยก็ได้นะ และที่สำคัญตัวเองคงไม่อยากให้ลูกมาใช้ภาษาไทยแอ็บแบ็วแบบนี้แน่นอนค่ะ... แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 50 00:20:50 จากคุณ : JC2002 - [ 27 ก.ค. 50 20:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ เพราะถ้าคุณพูดกับเพื่อนฝูงก็โอเค แต่ถ้าผ่านสื่อก็คิดว่าไม่เหมาะสมค่ะ อ่านแล้วปวดหัว จากคุณ : มาดามมูน - [ 27 ก.ค. 50 21:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 133 แวะมาปรบมือให้คุณฟ้าลั่นอีกรอบ อ่านแล้วแซ่บอิหลีเด๊อค่า จากคุณ : ศิริรักษ์ - [ 28 ก.ค. 50 00:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 134 สมัยเด็กๆ เคยลุ่มหลงมัวเมาเล่นแชทแล้วใช้ภาษาใน ทีนแชท (ไม่กล้าเขียนภาษาอังกฤษปนเลย เดี๋ยวกลายเป็นกรณีตัวอย่าง) ใช้ภาษาย่อและสัญญลักษณ์จนบางครั้งเก็บเอาไปฝันว่าพูดอย่างนั้นทั้งวัน เช่น หัวเราะเป็น lol จดเลคเชอร์เป็นภาษาแชท เพราะมันย่อและเร็วดี ใช้เลขแทนคำ เช่น 4=for จนบางครั้งเวลาสอบเขียนเร็วๆก็เผลอใช้ไป ต้องเสียเวลาอ่านทบทวน รู้เลยว่าเราสร้างนิสัยไม่ดีให้ตัวเอง ต่อมาย้ายห้องแชท (ฟิโลโมนพาไป) เป็นห้องทเวนตี้อิช (ยังไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษ ห้องนี้แรง..ต้องเจียมตัว) ในห้องใหม่นี้ใช้ภาษาอลังมาก ใครแชทแบบทีนจะถูกเยาะเย้ยดูถูกแบบที่เราท่านทำกับนูบส์แถวนี้ ผลก็คือภาษาอังกฤษเรากลับคืนจากภาวะวิกฤติเป็นปกติ เราคิดว่าสิ่งที่เจ้าของกระทู้แนะนำ ไม่ไช่การบังคับ แต่เป็นการสร้างเพียร์เพรชเชอร์เพื่อเฟรมพฤติกรรมของสมาชิกในสังคม ซึ่งกลไกนี้มันเกิดขึ้นทุกวัน กับทุกๆกิจกรรม ไม่ไช่เฉพาะสังคมไทย ฝรั่งก็เป็น บังเอิญส่วนมากห้องนี้เป็นรุ่นใหญ่ เราคิดว่าเด็กแบ๊วที่หลงมาต้องเจอรับน้องกันอยู่แล้ว เราหวังว่าขั้นตอนการคัดสรรเหล่านี้คงไม่เอ็นโคลสเกินไปจนทำให้เราเสียโอกาสจะแลกความคิดกับกลุ่มเลือดใหม่นะคะ จากคุณ : ชื่อ - [ 28 ก.ค. 50 03:12:36 A:124.120.152.157 X: TicketID:141850 ]

ความคิดเห็นที่ 135 อ่านความคิดเห็นเพิ่มจากเฉลิมไทย http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5653577/A5653577.html จากคุณ : boolee - [ 28 ก.ค. 50 09:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ลูกหมีฯ ก็ไม่ค่อยชอบนะคะ คนที่ใช้ภาษาแบบแอบแบ๊วเนี่ย  นิดหน่อยน่ะพอไหว  แต่ไอ้ประเภทแบบทั้งยวงเนี่ย อ่านแล้วปวดหัว   แต่รณรงค์ไม่ตอบก็ยังไงก็ไม่รู้ เพราะเวปบอร์ดยังไงก็สาธารณะอ่ะนะ  ใครๆก็มีสิทธิ์พิมพ์ยังไงก็ได้  คุณจะเลือกที่จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้  ถ้าแอบแบ๊วจนอ่านไม่รู้เรื่องลูกหมีฯ ก็ไม่ตอบอ่ะ  ไม่ไหว  เค้าก็จะเสียโอกาสที่จะได้รับความคิดเห็นจากคนบางกลุ่ม ถ้าเค้าไม่แคร์ก็ไม่เป็นไร   แต่ในกรณีที่ต้องใช้ภาษาในการทำงาน  มาเขียนผิดๆแบบนี้ ลูกหมีฯ ไม่รับเข้าทำงานแน่ๆ   ถ้าเป็นลูกศิษย์เขียนตอบข้อสอบมาให้อาจารย์แบบนี้ก็ศูนย์ค่ะ  เพราะถือว่า เป็นทางการ  งานคืองาน เล่นคือเล่น  (ไม่รู้ว่า ต่อไป เวลารับสมัครพนักงาน ต้องให้น้องๆสอบภาษาไทยที่ถูกต้องในการติดต่อธุรกิจ หรือเปล่า 555 ) ถ้าน้องๆ เค้าใช้แล้วมีความสุขก็ปล่อยเค้าไปเต๊อะ  เหมือนเด็กญี่ปุ่น  ก็จะไม่ค่อยรู้ตัวคันจิที่ถูกต้อง  ระดับภาษาสุภาพทีถูกต้องควรเป็นยังไง  เวลาเข้าบริษัทฯ ไป ต้องมีการเทรนภาษาญี่ปุ่นให้คนญี่ปุ่นกันใหม่ อย่างฮาอ่ะ   ป.ล. แต่ถ้ามาเรียนเมืองนอกแล้วต้องสอนภาษาไทยคนต่างชาติ อย่าไปสอนภาษาแอบแบ๊วล่ะ  เวลาต้องเอาไปใช้จริงๆ เวลาทำธุรกิจติดต่อทางการ มันใช้ไม่ได้เน้อ จากคุณ : ลูกหมีตัวเล็ก - [ 28 ก.ค. 50 15:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เราว่า แอ๊บแบ๊ว นี่มันเพี้ยนมาจาก "แอบแบ๊ว" มากกว่า ไม่ใช่ abnormal อะไรนั่นหรอกครับ จากคุณ : pleate - [ 28 ก.ค. 50 21:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 138 จากวันนั้นถึงวันนี้... ดีจริงๆ 138 คนเเล้วววววว..... จากคนเเรก จากคุณ : อืม - [ วันอาสาฬหบูชา 00:42:53 A:124.120.27.153 X: TicketID:131100 ]

ความคิดเห็นที่ 139 งั้นขอคั่นเวลาด้วยการเล่าเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงทางภาษา ในปี พศ. ๒๔๘๕ ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่า"ยุคภาษาวิบัติ" ีเนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้นประกาศเปลี่ยนแปลงภาษาไทยใหม่ โดยตัดสระและพยัญชนะบางตัวออก ทำให้ภาษาไทยที่เคยใช้อยู่ 44 ตัว เหลือเพียง 31 ตัว  และรณรงค์ให้ใช้ภาษาอย่างสุภาพ แฟนของนักเขียน อมตะ เช่น ป.อินทรปาลิต คงจำได้ว่า ยุคนั้น ป. อิทรปาลิตต้องปฏิรูป ภาษาของหัศนิยายสามเกลอ กันใหญ่ ขออนุญาตคัดบทนำจากนิยายชุดสามเกลอเวอร์ชั่นภาษาวิบัติมาจากเวบสามเกลอ (samgler.org) และขอขอบคุณทางเวบสามเกลอ ที่ผมเป็นสมาชิกติดตามมาอย่างเหนียวแน่นตลอด ๗ ปีไว้ ในที่นี้ด้วยครับ "....คำพูดระหว่างตัวละครในเรื่อง สุภาพมาก เช่น ปกติทุกคนจะเรียกเจ้าแห้ว ว่า "ไอ้แห้ว" หรือ แต่ในหนังสือเล่มนี้จะเรียกว่า "เทอ" ตลอด ซึ่งเป็นสรรพนามที่ใช้เรียกตัวละครเกือบทุกคนในเรื่อง แล้วจะไม่มีคำว่า มะรึง (คำนี้ต้องแผลงตัวสะกด เพราะไม่ผ่านเซ็นเซอ่ร์ ครับ) กู เอ็ง ข้า ไอ้ แก หรือเรียกว่าไม่มีคำหยาบปรากฎให้เห็นเลย ภาษาที่ใช้จะสุภาพมากๆ ซึ่งแปลก อย่างเวลาคุณหญิงวาดโกรธจะด่าแรงๆ แต่ในเรื่องนี้มีโกรธแต่ใช้คำว่าซึ่งสุภาพมาก ไม่แน่ใจว่าจะเป็นหนึ่งในกฎหมายที่ออกในตอนนี้ ที่ห้ามเขียนภาษาที่หยาบเลยหรือเปล่า...นอกจากนี้คำที่ปิดท้ายประโยคที่ตัวละครทุกคนพูดจะต้องลงท้ายด้วย "จ๊ะ" ตลอด แล้วก็เรียกว่าเป็นตอนแรกที่นิกร กับ กิมหงวน ไม่มีการล้อเรื่องหัวล้านเลย.." จากคุณ : นายคลิค - [ วันอาสาฬหบูชา 01:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขออนุญาต จขกท. คุณชิสสิค คั่นเวลา เล่าเรื่องต่อนะครับ ในคำนำ ที่คุณ ป.อินทรปาลิต เขียนนำหน้าหนังสือเล่มนี้ แกบอกให้สังเกตว่าสามเกลอในเล่านี้จะเป็นคนที่สุภาพมาก ซึ่งพออ่านแล้วเหมือนกับว่าแกเขียนหนังสือ เหมือนประชดประชันอะไรสักอยากหนึ่ง   ขออนุญาตพาอ่านไปคำนำที่ว่าจาก samgler.org  ด้วยความขอบคุณเช่นกันครับ http://www.samgler.org/pics/flood03.jpg จากคุณ : นายคลิค - [ วันอาสาฬหบูชา 01:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอบคุณมากครับคุณคลิก สำหรับลิ้งค์ของสามเกลอ เป็นตลกเรื่องโปรดของผมที่ไม่ได้อ่านมานานมากแล้ว จากคุณ : CHISWICK - [ วันอาสาฬหบูชา 08:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เวลาอ่านเจอตอนแรกๆจะงงๆ อย่างพวก "ใช่ไหมคะ" เป็น "ชิมิเคอะ" "ไม่รู้" เป็น "ม่ายรุ ,มะรุ" รู้สึกว่าเพี้ยนจังเลย ยิ่งถ้าเขียนเป็นประโยคยาวๆ จะยิ่งงงใหญ่ แต่ก็เห็นว่าเป็นเรื่องของเขา ก็เลยใช้วิธีเลยไป ไม่อ่านเลย สบายใจดี จากคุณ : parachute - [ วันอาสาฬหบูชา 09:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 143 จากประสบการณ์ตรงของตัวเองเลยนะคะ เวลาแชทกับเพื่อนมาก ๆ ทำให้ติดภาษาแชทโดยไม่รู้ตัว คืออาศัยพิมพ์ไว ๆ  ง่าย ๆ เข้าใจง่าย ๆ เช่น ur, be4, coz ฯลฯ จนกระทั่งอาจารย์ที่ตรวจ Essay เรียกเราไปพบ แล้วบอกว่า. . .เราสะกดคำผิดเยอะมากกกกกก น้อมรับแต่โดยดี. . .และตั้งแต่นั้นเราไม่เขียนภาษาแชทอีกเลย จากคุณ : โดดเด่นแต่ว่าเดียวดาย - [ วันอาสาฬหบูชา 16:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 144 May I ask ความคิดเห็นที่ 128, what is Fiminism? Are you trying to say Feminism? จากคุณ : Kultida (kdunagin) - [ วันอาสาฬหบูชา 23:31:55 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ความคิดเห็นส่วนตัวคือ ไม่เอาใส่ใจค่ะ หมายความว่า ใครใคร่พูดก็็พูดไป ใครใคร่เขียนก็เขียนไป แต่ตัวเองไม่ และไม่นิยมชมชอบ จริงๆชอบลักษณะการเขียนภาษาแบบเก่าๆที่คนรุ่นก่อนๆเค้าเขียน มันอ่านแล้วไพเราะ ได้ความ ดูละมุนละไมดี ไม่เหมือนสมัยนี้ อย่าเทียบว่าภาษาใดไม่มีวัฒนาการ ภาษานั้นก็ตายแล้วเลยค่ะ เพราะอย่างภาษาลาตินนั้นไม่มีคนพูด และน้อยนักที่จะเขียน(ส่วนใหญ่ในบทความ) ส่วนภาษาไทยนี้ เรายังใช้เขียน และใช้พูดกันอยู่ .. ส่วนตัวอย่างที่แสดงให้ดู (ว่าเป็นภาษาแอบแบ๊วนั้น) ได้แต่อ่านข้าม เพราะอ่านแล้วต้องเอามาคิดอีกว่า มันมาจากคำว่าอะไรกันแน่ จากคุณ : คุณแม่น้องหมี (คุณนายน้องหนู) - [ วันเข้าพรรษา 02:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 146 what is Fiminism? Ans: Search the research of Geert Hofstede Organizational Dynamics Summer 1980 Topic: Motivation, Leadership, and Organization: Do American Theories Apply Abroad? จากคุณ : Fah Lan - [ วันเข้าพรรษา 13:00:40 A:220.101.187.75 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เข้าใจแล้วค่ะคุณฟ้าลั่น ที่ถามก็เพราะเมื่อวานค้นหาความหมายของคำว่า Feminism จาก dictionary ที่บ้านแล้วหาไม่เจอ พอไปที่ Google มันก็บอกว่า Did you mean: Feminism ก็เลยงง ถึงได้มาถามนั่นแหละค่ะ คือเป็นคนที่เห็นศัพท์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ไม่อยากให้ผ่านไปเฉยๆโดยไม่รู้ความหมายของมัน ขอโทษอีกอย่างนะคะ ที่เมื่อวานต้องตั้งคำถามเป็นภาษาอังกฤษก็เพราะต้องใช้คอมพิวเตอร์ของลูก เพราะ laptop ของตัวเองใช้ที่บ้านมี Fonts ภาษาไทย แต่มันมีอันเป็นไป วันนี้มาใช้คอมพิวเตอร์ที่ห้องทำงาน ก็เลยพากษ์ไทยได้เสียที บางทีการถามเป็นภาษาอังกฤษมันอ่านดูตรงๆทื่อๆไปหน่อย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ วันเข้าพรรษา 23:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 148 โดยส่วนตัวแล้ว ก็ใช้คำแบ๊วๆบ้างกับเพื่อนที่คุยทางเอ็มน่ะค่ะ ทั้งไทยและอังกฤษ เช่น หรือป่าว,ทำไมอ่ะ,ส่งให้หน่อยดิ, และ lol ประมาณนี้ค่ะ แต่ถ้าอะไรที่ทางการและที่สาธารณะก็จะใช้ภาษาธรรมดา คิดว่าสละสลวยกว่า และ บ่งบอกถึงความรู้และการศึกษากว่า(ไม่ได้ว่าใครนะคะ) มากกว่าการที่ใช้คำที่อ่านแล้วต้องแปล อีกอย่างอินเทอร์เน็ตมีไว้เพื่อการศึกษา ไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาอ่านได้ศึกษาอะไรไปบ้าง อย่างคนที่โตแล้ว มีการศึกษา ก็คงเข้าใจว่าอะไรถูกผิด แต่เด็กๆที่กำลังเรียนรู้เค้าคงไม่รู้ค่ะ (คงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกตัวเองพูดหรือเขียนเหมือนคนปัญญาอ่อนแน่นอน) คิดว่าเห็นด้วยกับคุณ เจ้าของกระทู้ค่ะ และบางความคิดเห็นก็เหมือน"ร้อนตัว" เพราะคุณเจ้าของกระทู้เค้าก็ไม่ได้ไปบังคับหรือจำกัดสิทธิอะไรใคร แค่ต้องการความคิดเห็นและขอความร่วมมือจากคนที่เห็นด้วย เพราะคิดว่าคนที่เห็นด้วยกับการใช้ภาษาให้ถูก ก็คงไม่อยากตอบกระทู้ที่ใช้ภาษาแบ๊วๆมากๆอยู่แล้วล่ะค่ะ จากคุณ : เห็นด้วยกับจขกท - [ 31 ก.ค. 50 03:35:51 A:24.121.8.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 149 เห็นด้วยครับ ภาษาไม่ใช่แค่สื่อสารได้ก็พอนะครับ แล้วใครที่ไม่เห็นด้วยก็ช่างคุณ เพราะเค้าแค่ขอความร่วมมือ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง - [ 1 ส.ค. 50 09:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 150 คุณ CHISWICK ดิฉันจะตอบคนที่ใช้ภาษาแอ๊บแบ๊วน่ะ แต่จะตอบแบบให้ความรู้ หรือจะตอบแบบให้กลับไปเขียนใหม่ ก็ไม่แน่ใจ ต้องดูก่อน แต่ที่แน่ๆ คุณกับดิฉัน ใจตรงกัน แอ๊บบ๊ง แอ๊บแบ๊ว อะไร ปัญญาอ่อนสิ้นดี ตัวโตเป็นโคเป็นกระบือแล้วเขียนยังกะเด็กพิการทางสมอง เอ้า คคห ส่วนตัวน่ะ กระทบใครเข้า ก็อดทนไว้ล่ะกัน จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 1 ส.ค. 50 11:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ไปอ่านบทความของที่อื่นมาเรื่องภาษาแอ๊บแบ๊ว เค้าบอกว่าถ้าใส่เพื่อให้เกิดอรรถรสเช่น อ่านะ อิอิ งุงิ หรืออะไรต่างก็ดีเพื่อให้อ่านแล้วเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้เขียนที่ต้องการจะสื่อ แต่ผู้เขียนไม่นิยมให้มาเขียนคำว่า ใจ เป็น จัย คำว่า เธอ เป็น เทอ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดอรรถรสอะไรในการอ่าน กลับทำให้เกิดภาษาวิบัติ ซึ่งก็จริงตามที่ผู้เขียนบทความนี้ได้บอกไว้นะคะ (ขอโทษนะคะ อ่านตั้งแต่เมื่อคืนลืมไปแล้วว่าชื่ออะไรเว็บอะไร) จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 1 ส.ค. 50 15:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นโดยสุภาพ ทั้งท่านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อยากจะชี้แจงเจตนาอีกครั้งว่าไม่ได้โจมตีผู้ใช้ภาษาแบบแอ๊บแบ๊ว เพราะเข้าใจดีว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ตัวผมและผู้ที่เห็นด้วยกับผมก็มีสิทธิที่จะไม่ตอบหรือให้ข้อมูลกับกระทู้แบบนั้น ด้วยความเคารพ จากคุณ : CHISWICK - [ 1 ส.ค. 50 18:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 153 โอ้ว มีไฟแดงด้วยยยยยยยยย หึ หึ ๆๆๆๆๆๆๆ แค่นี้ก็บอกได้แล้ว...... จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 1 ส.ค. 50 20:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 154 agree with k.yuy and k.CHISWICK. จากคุณ : tan - [ 2 ส.ค. 50 05:18:17 A:84.192.29.43 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ..เรามองว่ามันเป็นการเปลี่อนแปลงนะ ..วิวัฒนาการหนะ.. มันก็ทุกเรื่องนั้นหระคะ..คนส่วนมากกลัวการเปลียนแปลง แต่ทำใจเถอะ ทุกๆอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไม่ว่า จะคุมมันยังไง ฝืนธรรมชาติ.. อย่าว่าแต่ภาษาเลยคะ จริยธรรม ทุกอย่าง ทุกอย่างเปลี่ยนหมด..ทำใจคะ จากคุณ : บัวชมพู (puntrigar) - [ 2 ส.ค. 50 11:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 156 เห็นด้วยกับ จขกท เวลาอ่านกระทู้เจอภาษาแอ๊บแบ๊ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องอ่านออกเสียงยานๆ ในใจไปด้วยโดยอัติโนมัติ น่ารำคาญมากๆ ปวดหัวอีกต่างหาก ถ้านิดๆ หน่อยๆ พอไหว จากคุณ : tormay - [ 2 ส.ค. 50 13:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ผมชอบครับ จากคุณ : พี่ผี (พี่ผี) - [ 3 ส.ค. 50 23:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ขอยก 1 ตัวอย่างค่ะ เมื่อก่อน คำว่า เป็น เขียน เปน อ่านว่า เปน ณ ตอนนี้ คำนี้ ได้กลับมาใช้ อีกค่ะ ^^ จากคุณ : แหนมป้าย่น - [ 4 ส.ค. 50 17:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 159 โหวตค่ะ ใช้กันเล่นๆ ในหมู่เพื่อนก็ไม่เป็นไร แต่ว่า อย่างถึงกับติดจนเป็นนิสัย เผลอเอาไปใช้ในการเรียน การทำงานก็แล้วกันนะคะ ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากนะคะ ที่ห้องเรียนเรา บางทีจดเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะว่าสะกดไม่ถูก ก็จดแบบแปลเป็นภาษาไทยแทน  เพื่อนเหลือบมาเห็นเค้ายังชมเลยว่าเป็น font ที่สวยงามมาก เราเลยปรินท์จากเครื่องคอมไปให้ดู เค้ายิ่งชอบใจใหญ่เลย คนชาติอื่นเค้าอิจฉาเรานะคะ ที่มีอักษรใช้เอง บางประเทศมีภาษาพูดแต่ว่าใช้อักษรอังกฤษในการเขียน เพราะฉะนั้น เราน่าจะช่วยกันใช้ภาษาเราให้ถูกต้องกันดีกว่านะคะ จากคุณ : ~ ShiriN ~ - [ 5 ส.ค. 50 10:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 160 โลกของเรามีความสลับซับซ้อนและสังคมหลายระดับก็ต้องมีคำหลายแบบหลายระดับ สมัยก่อนเขามีคำว่าทอแหล คิกขุอาโนเนะ ซึ่งสมัยนี้ไม่ค่อยได้ยินแล้ว สงสัยกลายเป็นคำนี้ ในทางการเวลาอยู่กับสังคมใดสังคมหนึ่งไม่ค่อยมีใครใช้กันหรอก เช่น เขียนจดหมายราชการ ทำงาน ไอ้คำแบบนี้มันใช้สนุก ๆ เพื่อกลุ่มพวกพ้องเท่านั้นเอง ใครไม่ใช่แล้วอยู่ในกลุ่มน่ิะสิแปลก เช่น อยู่หมู่เกย์ ก็ใช้ศัพท์เกย์ ทหารก็มีศัพท์ทหาร เช่น สิบหนึ่ง หรือลักษณะอื่น ๆ เช่น ท่าทางที่ดูแล้วรู้ พวกอนุรักษ์นิยมก็ มีสไตล์การแต่งตัวและภาษาของเขา บางคำก็ถือว่าแปลก เพราะใช้เมื่อสี่สิบห้าสิบปีก่อน พวกนี้ก็ยังใช้อยู่ คนจีนถึงมีศัพท์ไทยก็ยังเลือกศัพท์จีน เช่น โชว์ห่วย ไม่ใช้คำว่าขายของชำ แต่เวลาเขียนหนังราชการใช้คำว่า ร้านขายของชำ เวลาพูดกัน เขียนหนังสือพิมพ์ก็ใช้แบบเข้าใจง่าย รู้กัน เวลาการเีรียนการทำงานจริง ๆ ใช้ไม่ไ้ด้หรอก ยกเว้นแต่วิชาพวกครีเอทีฟ เช่น โฆษณา หรือการเขียน ใช้แล้วเขาหักคะแนน อย่าว่างั้นงี้เลย แค่เร้ฟเฟอร์เร้นซ์ไม่ถูกก็ต้องแก้ใหม่แล้ว บางมหาวิทยาลัยหนักเข้าไปอีก บอกว่า ถ้าใช้คำว่าเขา ต้องใช้ว่า ฮี และ ชี พร้อมกัน เช่น An employee must not leave the office before five o'clock, otherwise he or she will be punished by deducting his or her salary. มหาวิทยาลัยนั้นบอกว่า ถ้าไม่ใช้สรรพนามทั้งสองเพศ ถึงว่าเรา discrimination แถมยังบอกอีกว่า หลาย ๆ คำห้าม ใช้แบบระบุเพศ เช่น Salesman = Salesperson, Stateman = Stateperson. จากคุณ : Fah Lan - [ 5 ส.ค. 50 21:18:26 A:220.101.187.75 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ผมว่า ภาษาแอ๊บแบ๊ว ก็มีลักษณะเฉพาะ สละสลวย และโดดเด่นเหมือนกัน ยังงี้เราควรจะอนุรักษ์ภาษาแอ๊บแบ๊วไว้ด้วยไหมครับ ? เอ๊ะ หรือภาษาแอ๊บแบ๊ว ไม่สละสลวย (เพราะคุณบอกว่าไม่สวย) ความเห็นผมไม่สำคัญ ความเห็นคุณเท่านั้นที่สำคัญ ?!? จากคุณ : คุณชินโซ - [ 6 ส.ค. 50 00:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ขอพูดในฐานะที่ทำวิจัยด้านภาษาและวรรณคดีนะคะ เราไม่เห็นด้วยกับการเรียกการใช้ภาษาแอ๊บแบ๊วว่าเป็น "วิวัฒนาการ" เพราะเหตุผลต่อไปนี้ 1. กว่าภาษาจะวิวัฒนาการมาถึงที่เราใช้ทุกวันนี่มันผ่านกระบวนการมามากค่ะ กระแสแอ๊บแบ๊วเพิ่งมีมาไม่นาน จะใช้คำว่าวิวัฒนาการมันก็ใหญ่เกินไป และกลุ่มคนที่ใช่ภาษาแบบนี้ก็เป็นกลุ่มคนจำนวนจำกัด สื่อทางการก็ไม่ใช้ ไม่มีองค์กรใดๆออกมา institutionalise เพื่อรับรองการใช้ภาษาแบบนี้ ภาษาแบบนี้มีลักษณะเป็นแค่ colloquialism เท่านั้นค่ะ 2. การมองว่าภาษาเปลี่ยนไปเป็นเพราะภาษามีวิวิฒนาการเป็นความคิดที่มองแต่ด้านกระแสสร้าง แต่ไม่มองกระแสต้าน ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาษาเกิดการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่วิวัฒนาการในที่สุด ยกตัวอย่างภาษาไทยยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ออกระเบียบให้เขียนภาษาไทยตามเสียงอ่านและยกเลิกพยัญชนะบางตัวที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต ดังนั้นคำหลายคำเลยสะกดแบบที่คนรุ่นนี้ไม่ชิน เช่น ภาษา สะกดเป็น พาสา วัฒนธรรม เป็น วัธนธัม มหาวิทยาลัย เป็น มะหาวิดทะยาลัย เป็นต้น แต่พอหมดยุคทหารเรืองอำนาจ เราก็กลับมาสะกดแบบเดิมอีก เห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย รวมทั้งอำนาจทางการเมือง แต่ถ้าสุดท้ายคนส่วนใหญ่ไม่เอา และต่อต้าน ภาษาก็ไม่เปลี่ยนไปในแนวนั้น ดังนั้นเวลาเราพูดถึงวิวัฒนาการทางภาษาเราต้องพูดถึงกระแสต้านด้วย ไม่ใช่พูดแต่กระแสสร้างอย่างเดียว 3. ภาษาแบบแอ๊บแบ๊ว อย่างมากก็เป็นได้แค่ register (ไม่ทราบนักวิชาการเมืองไทยใช้คำว่าอะไรนะคะ) อย่างหนึ่ง ในแต่ละภาษาก็มี register แบบต่างๆ เช่น register ของภาษาราชการ จะไม่เหมือนกับ register ภาษาที่เราใช้พูดกับเด็ก หรือพูดกันเอง การเกิดของภาษาแอ๊บแบ๊วเป็น intergration ของลักษณะใหม่ๆเข้ากับภาษาหลัก แต่ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็น วิวัฒนาการค่ะ ส่วนตัวเราไม่ใช้ ใครมาใช้กับเราเราจะขอให้พูดแบบธรรมดา แต่ถ้าเค้าจะไปใช้กับกลุ่มคนที่ยอมรับ ก็ใช้ได้ เป็นเรื่องของกาละเทศะ จากคุณ : Sa-idian - [ 6 ส.ค. 50 20:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 163 คห.๑๖๒ อธิบายได้ละเอียดแล้วนะคะ หวังว่าคงเข้าใจโดยทั่วกัน จริงๆแล้วการใช้เพื่อบอกอารมณ์ มันก็จะไม่มีใครต้านขนาดนี้หรอกค่ะ แต่นี่ใช้กันเสียจนหาความหมายของคำไม่เจอ ทามปายด้าย ชิม่ะ ตอบแล้วก็กระดากตัวเองไปดีกว่า จากคุณ : 3L - [ 7 ส.ค. 50 02:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 166 สิทธิส่วนบุคคล  จินตนาการ  วิวัฒนาการ ความนิยมร่วมสมัย เกิดและดับไป ธรรมดาโลก จากคุณ : L-chan - [ 7 ส.ค. 50 12:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 168 ลักษณะ"การไหลทะลัก" ของภาษาจากประเทศแถบตะวันตกโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เป็นมาอย่าต่อเนื่องและยาวนานอย่างที่กล่าวไปแล้ว บางคำก็ "กลายพันธุ์" ตกตะกอนเป็นเสมือนหนึ่งภาษาไทยที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นคำว่า ล็อค(Lock) โอเค(OK) เชียร์(cheer) แฟน(fan) แบบฟอร์ม(form) ฯลฯ จริงอยู่ คำเหล่านี้เมื่อถูกใช้แล้ว สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนแทบทุกระดับในสังคมไทย แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่น้อย .....ต้องมองย้อนกลับไปหาข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า ประตูที่เปิดให้ภาษาต่างด้าวโดยเฉพาะภาษาอังกฤษไหลทะลักเข้ามาในสังคมไทยนั้นอยู่ชั้นบนสุดของสังคม โดยเฉพาะราชสำนัก เจ้าขุนมูลนาย และตรงนี้ก็มองได้สองแง่ทั้งดีและเสีย ในแง่ดีก็คือการประเดิมและกระตุ้นให้คนไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อรู้เท่าทันประเทศ "ล่าอาณานิคม" อย่างอังกฤษ ในแง่เสียก็คือการ "ตกไป" "กร่อนไป" และ "ตายไป" ของภาษาไทยที่ถูกคำอังกฤษมาเบียดหรือแทนที่ จะว่าไปแล้วการ "แทนที่" ดังกล่าวไม่มีความจำเป็นอะไรมากนัก เกิดขึ้นเพียงแค่หลังจากเหล่า "นักเรียนนอก" รวมไปถึงบรรดา "เจ้าฟ้า" กลับมาเมืองไทยและ "ปรับลิ้น" ที่จะพูดภาษาไทยยังไม่ได้ระยะแรก จึงพูดไทยคำอังกฤษคำจนแพร่หลายเพราะสถานะของคนเหล่านั้นอยู่ในฐานะของผู้ชีนำสังคมไทย......และหากจะมองลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง ก็นับว่าเป็นความ "ใจแคบ" โดยไม่ได้ตั้งใจของคนเหล่านั้นต่อสังคมไทยและภาษาไทยอยู่ทีเดียว ที่นำภาษาอังกฤษมาสื่อสารในลักษณะ "ไทยคำอังกฤษคำ" ในสังคมไทย เพราะคำเหล่านั้นรับรู้กันอยู่ในวงแคบๆ ......แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตุว่าคำบางคำก็ประสบความสำเร็จ "กลายพันธุ์" มาเป็นคำที่ถูกใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยดังได้ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น จากคุณ : คนอุดรฯ - [ 7 ส.ค. 50 14:30:36 A:86.140.171.221 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 169 ถ้าเป็นแบบ แอบแบ๊วนะโอเค ชอบ เช่น ชิมิ อ่ะ มะด้ายน้า จิงๆโด้ยละตะเอง  อะไรประมาณเนี่ย แบบมีนิดหน่อยผสม เวลาคุยกันมันก็น่ารักดี แต่มะเอาอย่าง ที่ คห ที่104 มะเอาน้า อ่านยากอ่ะ อาจารย์แม่ขอร้อง จากคุณ : ดอกโสนบานที่ทาสแมเนีย - [ 7 ส.ค. 50 18:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 170 อ่านตรงความเห็นของ คุณ~ ShiriN ~ #159 แล้วทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าแฟนลูกสาวของสามีเคยขอให้เขียนชื่อแฟนเค้า(ลูกสาวสามี)เป็นภาษาไทยให้เค้า เค้าจะเอาไปให้ช่างสัก สักชื่อแฟนเค้าเป็นภาษาไทยบนตัวเค้า เหตุผลที่เค้าขอให้เขียนภาษาไทยให้ ก็เพราะเค้าเห็นเราเปิดวีซีดีชุดเรียน ก.ไก่ ให้ลูกดูอยู่ แล้วเค้าชอบรูปแบบตัวหนังสือภาษาไทย เค้าบอกแบบตัวอักษรสวยดี ออกจะเหมือนการวาดรูปเลย จากคุณ : JC2002 - [ 7 ส.ค. 50 19:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 172 แสดงความเห็นมาตั้งหลายความเห็น   แต่โดนลบเกือบหมด   ทำไมครับพันทิป??? จากคุณ : คนอุดรฯ (วัชรานนท์) - [ 7 ส.ค. 50 21:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 173 โดยส่วนตัวแล้วมองว่า นิดๆหน่อยๆโอเค แต่ถ้าใช้ตลอดเวลา หรือติดเป็นนิสัย ก็ไม่ค่อยดีนะคะ จากคุณ : thaispicy - [ 8 ส.ค. 50 06:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 174 ภาษาไทยเป็นภาษาที่สละสลวยมีการใช้งานตามกาละเทศะแต่ก็มีวิวัฒนาการเรื่อยมาไม่ตายตัวตามยุคสมัย เด็กไทยรู้ว่าพวกเขาควรใช้ภาษาไทยที่ดีที่ถูกต้องเมื่อไหร่และใช้กับใครอย่างไร มันเป็นไปตามกระแส ปล่อยให้กาลเวลามันกลืนกินทุกสรรพสิ่งแล้วมันก็จะปรับตัวของมันเอง จากคุณ : มดดำ - [ 9 ส.ค. 50 20:22:01 A:58.9.66.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 175 อีกหน่อยเมืองไทยคงจะมีดิกชินนารีภาษาไทย-ภาษาไทยขาย แืทนภาษาไทย-ภาษาอังกฤษนะคะ เพราะคำบางคำ่ที่มันสแลงมากๆและใช้ในกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้่น แก่ๆอย่างดิฉันตามไม่ทันค่ะ ยิ่งนานๆกลับบ้านทีอีกหน่อยคงฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องเพราะไม่นิยมอินเทรนด์กับภาษาแอ๊บแบ๊ว จากคุณ : sunisaogkim (sunisaogkim) - [ 10 ส.ค. 50 04:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 176 ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ควรใช้ภาษาราชการหรือคำศัพท์อันชัดแจ้งตามพจนานุกรมไทย ในการสื่อสารซึ่งกระทำระหว่างใช้กระดานสนธนาสาธารณะ และควรงดใช้ภาษาอันวิญญูชนพึงใช้เพื่อการตีความ แลสะดวกเหมาะสมแก่การพิจารณาในอรรถคดีทั้งปวงอันเกี่ยวเนื่องด้วยการกระทำผิดที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย อีกทั้งนามแฝงที่ใช้ในการแสดงความเห็นในกระทู้หรือในกระดานสนธนาสาธารณะนั้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ควรใช้ชื่อและชื่อสกุลจริงเพื่อประโยชน์ในการสืบหาผู้กระทำผิดตาม พระราชบัญญัติ ความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ จึงเรียนมายังเจ้าของกระทู้เพื่อทราบและเพื่อเสนอญัตติเข้าที่ประชุมเร่งด่วนต่อไป กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง จากคุณ : violator - [ 10 ส.ค. 50 21:43:34 ]