ความคิดเห็นที่ 253
มาเล่าให้จบก่อนนะค่ะ เรื่องของที่ค้างไว้ จากความเดิม ใน ความคิดเห็นที่ 73 สามีโกหกว่าMexican Peso Trader มีปัญหาบอสถามเขาๆเลยขออาสาไปทำงานที่นั่นแทนและเพื่อปรับความเข้าใจกับบอส เพราะ สามีเป็น VP ฝ่าย fx tradingที่นี่ แต่มีปัญหากับบอสเรื่องเทรดเสียเกินวงเงินที่กำหนด [ Budget ทำเงินให้แบงค์ขั้นต่ำปีละ $2,000,000 หรือต้องทำเงินเดือนละ $170,000 แต่จะมีลิมิตที่เสียเงินได้ในแต่ละวัน limit daily $50,000 , monthly $100,000 Position limit $25,000,000 แต่เดือนJuneสามีเขาเสีย limit daily ไปประมาณ $70,000 เจ้านายเลยโทรมาจากNYสั่งยอดBudget ยังเท่าเดิมแต่ ลดเหลือ limit daily $20,000 , monthly $50,000 , Position limit $10,000,000] เขาอ้างอยากทำงานกู้หน้าเลยขอไป แมคซิโก แต่ดิฉันได้เจอตั๋วเครื่องบินจากManila to Cebu เขาเลยโกหกอีกว่าไปทำผู้หญิงท้องที่เป็นน้องภรรยาเพื่อนเขาๆจำเป็นต้องไปเพราะเพื่อเจาะเลือดพิสูจน์เพื่อให้ภรรยาเพื่อนเลิกว่ากล่าวเพื่อนเขา แจ่เขาบอกอีกว่าเขาสาบานได้ว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกเขา เขาหมั่นใจมากๆๆๆ แถมเขายังเอารูปแต่งงานเพื่อนและผู้หญิงที่เขาโอบถ่าย ส่งมาให้ดูด้วยว่านั่นคือ น้องภรรยาเพื่อนที่อ้างว่ามีเด็กกับเขา แล้วต้องออกเดินทางด่วน บ่ายสอง ของ July Fri 27, 2008 ในอีเมลหลายสิบฉบับฉันถามเขาเพื่อยืนยันว่าจริงๆหรือเปล่า เพราะดิฉันคาดเดาความคิดเขาออก และรู้จักเขาดี แต่ดิฉันไม่เชื่อเลยรีบเดินทางกลับบ้าน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง ความรู้สึกแปล๊บๆที่อยู่ลึกๆที่อยู่ในใจราวกับว่ามีใครกำลังทำอะไรไม่ดีเหมือนเศษแก้วเสียดแทงอยู่ข้างใน ทันทีที่ถึงคอนโด ดิฉันลืมไม่ได้เอากุญแจบ้านออกมาด้วย เลยไปที่ Asst.เพื่อให้เขาเปิดกุญแจบ้านให้หน่อย ทางAsst.ได้โทรขึ้นไปเชคที่บ้านปรากฎว่า ไม่มีคนรับสาย ทางsecureที่นี่เข้มโชคดีที่ดิฉันพกเอกสารหลายอย่างของตัวเองและสามี เพราะดิฉันเพิ่งแต่งงานและยื่นเรื่องของกรีนการ์ด จำเป็นต้องพกเอกสารหลายอย่าง ทางAsst.ได้ขึ้นไปกับดิฉันเพื่อเปิดประตู เขาถามคำถามหลายอย่าง ก่อนจะเปิดห้องดิฉันกดกริง ทางAsst ถามว่ากดทำไม ฉันโกหกบอกเป็นความเชื่อของฉันอย่างนั่น เหมือนไล่บางสิ่งที่ไม่ดีในบ้านให้ออกไป เพราะเจ้าของกลับมาแล้ว แต่จริงๆแล้วตัวเองได้แต่หวังในใจว่าถ้าเปิดไป อย่ามีใครอยู่บ้านเลย เพราะนั่นหมายความว่า เขาไม่ได้โกหก ตอนนั้นบอกตัวเองในใจอย่างนั้นเพราะว่าไม่อยากให้เป็นโกหกซ้ำซ้อน พอประตูเปิดออก ดิฉันถอดรองเท้าไว้ที่หน้าประตูตู้laundry จากนั่นยังทำใจเย็นๆถอดjaketแขวนในclosetที่ประตูอยู่ถัดไปจากประตูตู้ลอนดรี้ที่ทางเข้าบ้านไป ค่อยเดินตาม hall wayอย่างช้าๆในใจเต้นรัวอดหวาดหวั่นกับภาพที่จะเกิดตรงหน้าไม่ได้ เดินผ่านประตูห้องน้ำที่เปิดอยู่ มองเห็นกระจกเงาบานใหญ่ในห้องน้ำมองผ่านกระจกเงาเห็นเงาตัวเอง แสงค่อนข้างทึบดูเป็นโทนครึ้มเศร้าๆผิดกับทุกๆวันที่เดินผ่าน เดินเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าห้องทำงาน กำลังจะตัดเข้าห้องนั่งเล่น ในใจยื่งเต้นระรัว ทันทีที่พ้นกำแพงห้องทำงาน ..... ภาพที่เห็นตรงหน้าแทบทำเอาหัวใจหยุดเต้นในฉับพลับ ร่างกายเหมือนอ่อนแรงเหมือนหมดแรงฝ่ามือและเท้าเย็นเฉียบในใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ถึงตอนนี้ไม่มีน้ำตาเลยซักหยด เพราะ ...... ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นฝรั่งร่างกายสูงใหญ่ใส่เสื้อโปโล กางเกงยีนส์ นอนเหยียดอยู่บนcourtเอามือกายหน้าผาก TVที่แขวนอยู่บนผนังเปิดช่องbloombergค้างไว้แต่เสียงถูกปิด ภายในห้องช่างเงียบงันไม่มีเสียงอะไรเลย บนพื้นมีเป้แบคแพคในใหญ่รอบๆมีถุงพลาสติกหลายถุงที่ใส่เสื้อผ้าม้วนแล้วรอถูกเก็บลงเป้ ถัดถุงใส่ไปเป็น dive finและหน้ากากดำน้ำ บนโต๊ะกาแฟมีเป้ใบเล็กสำหรับแบกขึ้นเครื่องเป้ยังถูกเปิดอ้ากว่างพอมองเห็นหนังสือlonely planet Philippine. และหนังสือ เล่มล่าสุดของ John Grisham.นักเขียนคนโปรดของเขา หน้าเขาดูเครียดๆเลย ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปเจอ ฉันเดินไปเก็บข้าวของ ตั้งใจว่าฉันควรจะไปสักที แต่ก่อนไปดิฉันถามเขาว่า ทำไมยูไม่พูดอะไรสักคำเลย เขาบอกว่า I'm feel awful when i told you about the lies. But you knew everything all the time. r u gonna leave me? yes, i has nothing else to do. whatever i do, i cant stop u. ฉันบอกเขาไป will you really leave me. เขาถาม เราคุยกันนานพอสมควร จนฉันถามเขาบอกว่าให้บอกความจริงมา เขาถามฉันว่าถ้าเขาบอกฉันห้ามทิ้งเขาไปเด็ดขาด ฉันแกล้งสัญญา เขาเล่าทุกอย่างให้ฟัง แล้วบอกว่า ขอเขาไปครั้งสุดท้าย i won't never go back again after this time can i do this like bachelor party? ฉันไม่สนใจเขาแล้วโมโหระคนเสียใจแต่เก็บกดไว้ข้างใน หลังจากนั้นเขาก็เล่าให้ฟังทุกอย่าง เรื่องที่มีคุ่ขา 3ปีกว่า เขาให้มือถือทิ้งเอาไว้ ดิฉันถึงได้รู้ทุกอย่างว่า มีผู้ญ ส่งแมสเซสมาหาเขาตลอด และเวลาที่อยู่กับฉันเขาปิดเครื่องตลอดเวลา แล้วไม่รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆเขาบอกให้เครื่องรับไป ชอบบอกว่าเป็นadv commerไรประมาณนั้น ด้วยความที่เชื่อใจตลอดเวลา ขณะที่เขาไปอาบน้ำฉันตะโกนถามไปว่า ถ้าฉันฉีกตั๋วเขาจะไม่ได้ไปใช่ไหม เรื่องก็ไปเริ่มที่ ต้นกระทู้ ที่ฉันเข้ามาโพส ในห้องครัว ฉันล้มไปนอนกองที่พื้นในมือกำตั๋วเครื่องบินแน่น มีฝรั่งร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าล้อนจ้อนนั่งย่องเกือบจะคล่อมร่างฉันอยู่ มือเขาบิดมือชั้นแน่น ราวกับว่าจะบีบให้แตกคามือ เพื่อที่จะให้ฉันปล่อยตั๋วเครื่องบินไป-กลับของสายการบินหนึ่งไป "Manila" และอีกตั๋วไป "Cebu" " Give it too me now " " I'm hurt, Leave me first " " I'm hurt " ฉันร้องตะโกนลั่นบ้าน " I'm hurt my hands " น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นสาย " I told you, Give it to me now!!! " เสียงชายฝรั่งตะโกนดังลั่นคอนโดชั้นบน " It's not your properties. Well, You get out now, Get out of my place " นัยตาเขาแดงกล่ำ " No, Leave me first. I will give it back " " You're hurting me so much " ฉันร้องไห้คร่ำควญอเอนวอนให้เขาปล่อยมือจากฉัน " If you won't give it to me, I will kill you " นัยตามองฉันด้วยความโกรธ " I will kill you if you will tear it " เขาย้ำ " O.K. Go ahead! Kill me now when You don't love me anymore " ฉันแผดเสียงลั่นบ้าน " Leave me first then I will give it back " " I'm so hurt " ฉันร้องเจี๊ยวแจ๊วในประโยคเดิมๆซ้ำไปมา เขาค่อยๆ ละมือออกจากข้อมือฉัน ทันทีที่ฉันเป็นอิสระจากเขา ฉันเขวี้ยงตั๋วที่บิดจนยับลงพื้นแล้ววิ่งเข้าห้องนอน หลังจากเขาระงับความโมโหได้เขาก็เข้ามาขอโทษฉัน เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าใจว่า ทำไมแม่เขาถึงคอย ถามว่าเขาเยลฉันบ้างหรือเปล่า เพราะว่าเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เวลาโมโห เขามีไครมินอลเรคคอร์ด 2 ครั้งที่นี่ด้วย ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่บอกว่า ฉันเจ็บแต่เจ็บที่ใจมากกว่า แล้วเขาก็สัญญาว่ากลับมาจะไม่ไปอีกขอไปเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆเพื่อ bachelor party เพราะทุกอย่าง on set แล้ว กลับมาจะแก้ Prenuptial รับผิดชอบเรามากขึ้น เขาจะพาไปบอกกับพ่อแม่เขาทุกเรื่องหลังจากกลับมา เขาบอกว่าเขาจะกลับมาให้รอเขาก่อนอย่าเพิ่งทิ้งเขาไปไหน เขาให้cell phoneไว้ก่อนไป ตอนแรกฉันยังจะใจดีไปส่งที่ SFO แต่ เปลี่ยนใจไม่ไป หลังจากเรื่องที่สามีไปแล้วเรื่องก็ไปที่ ตรงนี้ ได้คุยกับ คู่ขาเขาที่โพสไว้ใน ความคิดเห็นที่ 24 รู้สึกว่าแย่มากๆ คู่ขาเขาที่คบมา3ปีครึ่งโทรมาอีกครั้งโทรมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับหล่อและเขาให้ฟังแต่ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง.... ฟังแล้วเจ็บเหลือเกิน ก่อนหน้าจะแต่งงาน ฉันเจอเขาเย็นวันพฤหัส แต่เขาเจอคู่ขาเขาเย็นวันศุกร์มีไรกัน แล้วก็มาเจอฉันอีกเสาร์-อาทิตย์ เขาทำอย่างนี้ได้อย่างไร คิดไปมาสมน้ำหน้าตัวเอง โง่แล้วตาบอดมาเป็นปี ความคิดเห็นที่ 59 คู่ขาคนที่เขาคบมา3ปีกว่าสามียังโทรมาอีกค่ะ ลืมบอกไปเธอเป็นชาวผิน วันนี้ฉันพูดกับเธอไปเลยว่า ฉันไม่รู้เรื่องอะไร ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกับเธอ เธอน่าจะเข้าใจหัวอกเดียวกันถึงแม้ว่าฉันจะต่างเชื้อชาติต่างภาษากับเธอ เพราะฉันเข้าใจว่าธอเจ็บอย่างไร ฉันใช้น้ำเย็นเข้าลูบจนเธอเลิกวีนแล้วก็ ขอโทษฉัน เราคุยไปฝลัดกันร้องไห้ไป เพราะ เธอรู้เรื่องฉัน แต่ฉันไม้เคยรู้เรื่องเธอมาก่อนเลย เธอบอกว่า เธอไม่เจอสามีฉันมาตั้งแต่เดือนต้นธคแล้ว เธออยากเจอสามีดิฉันมากๆนี่จะ 8เดือนแล้ว เธอยังเฝ้าโทรตามสามี เขาก็เลี่ยงไม่รับสาย เธอบอกว่า เธอพบกับสามีฉันแค่ อาทิตย์ละครั้งในวันศุกร์ 1-2 ชั่วโมงแล้วสามีก็ส่งเธอกลับบ้าน สามีไม่เคยพาเธอไปไหนๆ เธอได้แต่หวังว่า สามีจะขอเธอแต่งงานสักวัน จนมาเดือน ธค. เขาบอกไม่อยากเจอเธออีกแล้ว เขามีแฟนแล้วให้เลิกติดต่อ ช่วงนั้นดิฉันอยู่กับสามี คืน พฤ-อาทิตย์ เธอเรื่มเบลมว่าเป็นเพราะดิฉันไปแย่งของๆเธอ ฉันก็บอกไปว่าฉันไม่รู้เลยว่าเขามีเธออยู่ด้วย ฉันเองก็เสียใจที่เขาหลอก เธอบอกไม่เข้าใจว่าสามีไปแต่งกับผู้หญิงไทยอย่างดิฉันได้ไง เพราะเค้าชอบแต่ฟิลิปปิน และผู้หญฺงฟิลลิปปิน สวยและฉลาดกว่า ภาษาฉันก็ไม่เอาไหน เกือบมีวางมวยกันฉันอุส่าห์ปลอบใจเธอนะยังจะมากัดอีก ฉันเลยว่าเธอไปแรงๆถ้าฉันไม่คุยเธอๆจะมีใครให้ระบายไหม เธอขอโทษอีกครั้ง เธอบอกว่า ฉันดีไปที่จะแต่งงานกับสามี อย่างนึงที่เธอเข้าใจว่าทำไมสามีดิฉันเป็นคนที่เลือกมาก ถึงเลือกฉีนแต่งงานด้วย เพราะ ว่า ขนาดเธอด่าฉันเสียๆหายๆเมื่อวานดิฉันยังพูดดีกับเธออีกวันนี้ให้กำลังใจเธอ เพราะฉันซท่อบื่อนี่เอง กำของฉันจริงๆ แต่ไม่อยากไปว่าเขากลับมากๆเพราะเขาคงจะเสียใจกว่าทนมา3ปีกว่า ดิฉันบอกว่าเพราะเข้าใจ เราหัวอกเดียวกันจริงๆ **ตอนนี้ฉันกับโจฮันนา กลายเป็นคนที่คุยเพื่อปรับทุกข์กันไปแล้ว เธอบอกว่า เมื่อก่อนอคติกับผู้หญิงไทยมากๆ เรียกว่าเกลียดเลย แต่หลังจากได้คุยกับฉันแล้วเขาเปลี่ยนความคิดไป เพราะเธอแย่ทั้งเรื่องสามีเราไปโกหกเธอไว้แล้วแม่เธอยังมาป่วยอีก ฉันส่งการ์ดและข้อความไปให้กำลังใจเธอและแม่ให้แม่เธอหายป่วยแร็วๆ เธอบอกว่าอยากให้ฉันพาไปเที่ยวไทย เธออยากเป็นเพื่อนกับเราด้วย เธอขอบคุณที่ฉันคุยเป็นเพื่อนเธอจนเธอรู้สึกดีขึ้น เธอคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะทำดีกับคู่ขาสามีตัวเองแบบนี้อีกแล้ว เราเองนี้บางครั้งคิดว่าตัวเองโง่และซื่อบื่อมากๆจังเลย แต่ฉันเองไม่สามารถปลอบตัวเองได้ อย่างที่ทำให้ทุกๆคนสบายใจ ทุกครั้งที่คุยกับครอบครัวเราเองได้แต่ปิดบังให้พวกเขาสบายใจ เราเจ็บคนเดียวไม่เป็นไร แต่ไม่อยากให้คนอื่นมาเกี่ยวข้องมาทุกข์ไปกับเรา อยากจะให้สามีโทรไปคุยกับเธอบอกเลิกและขอโทษเธอที่โกหกต่างๆนาๆ และขอโทษทุกๆคน **มีเทอร์รี่อีกคน สาวผิน ตอนนี้อีเมลคุยกันทุกๆวัน เธอก็โดนสามีเราหลอกให้รอว่าจะแต่งด้วย ตั้งแต่ ปี 98 เธอรอสามีฉันไปเยี่ยมทุกๆปี รอมานานจนเธอชิงแต่งงานไปก่อน ปี 04 แต่ตอนนี้หย่าแล้ว เธอบอกว่าสามีไปติดต่อกับเธออีกเมื่อเดือน มค. เธอเชื่อสนิทว่าเขายังรักเธอ หลังจากเราเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง เธอบอกเธอเข้าใจเราดี เราก็อีกเมลคุยเรื่องอื่นๆไม่ได้พูดถึงเรื่องสามีเราอีกเลย เรื่องลูกเธอ อื่นๆ เรื่องระหว่างไทย กับ ฟิลิปปินน์ เรื่องเที่ยวสะมากกว่า เธอบอกถ้ามีโอกาสไปเที่ยวที่นั่นเธอและลูกๆจะต้อนรับพาเราไปเที่ยว เราชอบคุยกับลูกๆเทอร์รี่ผ่านอีเมล แต่ตอนนี้คุยผ่านเวปแคม (เพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆ) ลูกๆเธอน่ารักมากๆ บางทีเธอก็เอาการบ้านเอารูปที่ลูกวาดมาโชว์ เราตั้งใจว่าจะส่งของขวัญไปให้ลูกๆเธอ
จากคุณ :
เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง
- [
9 ส.ค. 50 05:11:09
A:69.85.184.122 X: TicketID:151502
]
|
|
|