PANTIP.COM : H5670717 *** อยากปรึกษาเรื่องเพื่อนฝรั่งถูกคนไทยคุกคามและกล่าวหาว่าคบชู้ครับ *** []

*** อยากปรึกษาเรื่องเพื่อนฝรั่งถูกคนไทยคุกคามและกล่าวหาว่าคบชู้ครับ ***

เมื่อวานผมลงเรื่องนี้ในห้องศาลาประชาคมแล้ว ขอลงในนี้อีกแห่งหนึ่ง

เรื่องที่ผมเล่าต่อไปนี้ เป็นเพื่อขอความเห็นทางกฏหมาย ในการช่วยแก้ปัญหาชีวิตที่ค่อนข้างหนักหนามากของเพื่อนฝรั่งของผมคนหนึ่งนะครับ

กล่าวคือผมมีเพื่อนผู้หญิงฝรั่ง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษในสถาบันแห่งหนึ่ง รู้จักกันมาได้ปีเศษแล้ว เธอมีแฟนเป็นคนไทยที่น่าจะคบหากันลึกซึ้งพอสมควร เพราะเคยพาแฟนไปร่วมงานแต่งงานของพี่ชายเธอที่ต่างประเทศ ถ่ายภาพงานกินเลี้ยงเต้นรำกันมาให้ดูด้วย น่ารักมาก

เมื่อเราพูดถึงฝรั่ง เราอาจจะคิดถึงพวกที่มีความเจริญมากกว่าเรา และมีพฤติกรรมแบบคนเมืองใหญ่ แต่เพื่อนของผมคนนี้จะตรงข้ามกันเลย เธอเป็นชาวไอร์แลนด์ เกิดในเมืองชนบท นิสัยเธอก็จะซื่อๆ ลูกทุ่งๆ ใกล้ชิดศาสนา เหมือนกับชาวชนบทบ้านเราแหละครับ และเป็นคนอัธยาศัยดี

ในระยะหลังนี้เพื่อนฝรั่งมีปัญหาชีวิตเข้ามา กล่าวคือ มีผู้หญิงไทยคนหนึ่งมากล่าวหาว่าเธอคบชู้กับสามีของตน

(ต่อจากนี้เพื่อความสะดวก ผมจะขอเรียกเพื่อนฝรั่งว่า A และเรียกผู้หญิงไทยคนนั้นว่า O นะครับ)

(ก่อนเกิดเรื่องนี้ A เป็นเพื่อนกับสามีของ O มาเป็นระยะเวลานาน)

มันเริ่มจาก O จับได้ว่าสามีของตนโกหกตนในเรื่องอะไรบางอย่าง และได้คิดเอาว่าคนที่สามีตนคบชู้ด้วยคือ A แน่ (ทั้งนี้โดยที่ O ไม่เคยหาหลักฐานได้)

ดังนั้น O จึงข่มขู่เอาเบอร์โทรศัพท์ของ A จากสามี แล้วในวันที่ ๑๗ มิถุนายนที่ผ่านมา O พร้อมกับแม่และพี่ชายของ O (ไม่แน่ใจว่าเป็นพี่ชายหรือน้อยชาย เพราะที่ A เล่าให้ผมฟัง ใช้คำว่า her brother ทั้งนี้เห็นว่าไม่สำคัญนักจึงเขียนว่าเป็นพี่ชายไปก่อน) ได้โทรศัพท์ไปต่อว่า A เป็นคำหยาบคาย พี่ชายของ O ยังบอกแฟนของ A ว่าจะทำร้าย A อีกด้วย

จากนั้น O ก็ได้โทรศัพท์, ส่งอีเมล และ sms ไปข่มขู่คุกคาม A อย่างสม่ำเสมอ (อีเมลและ sms เหล่านั้น A ยังเก็บอยู่ ล้วนแต่เป็นคำหยาบคาย) เรื่องพัฒนามาถึงขั้นที่ O ค้นพบเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานของ A และโทรศัพท์มาคุกคาม A ในที่ทำงาน

นอกจากนั้นในวันหนึ่ง O ยังได้พาเพื่อนมายังที่ทำงานของ A สี่คน และทำท่าจะทำร้าย A

เรื่องนี้ย่อมมีครูและนักเรียนพบเห็น และค่อนข้างเป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันที่ A ทำงานอยู่ ผู้จัดการสาขาของสถาบันจึงได้เรียก O กับ A ไปพูดคุยพร้อมกัน และถาม O เรื่องที่คิดว่า A คบชู้กับสามีตน

ในวันนั้น O ตอบแปลกมาก คือ O บอกผู้จัดการสาขาว่า ตนไม่คิดว่า A คบชู้กับสามีของตนหรอก แต่ขอให้ A ขอโทษตนในเรื่องหนึ่ง ซึ่ง O ไม่ยอมบอกว่าเป็นเรื่องอะไร,
A ไม่ยอมขอโทษ ทำให้ O ต้องโกรธกลับไป

วันเดียวกัน สามีของ O โทรศัพท์มาหา A บอกให้มาที่บ้านของตน เพื่อขอโทษ O ทั้งนี้ถ้า A ไม่มาชีวิตครอบครัวของครอบครัว O จะต้องล่มสลาย, แต่ A ไม่รู้จะขอโทษเรื่องอะไร และรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงไม่ไป

หลังจากนั้น A ได้นำเรื่องการถูกคุกคามไปแจ้งตำรวจ ตำรวจก็จดบันทึก แต่ไม่ได้ช่วยอะไรมาก

O จึงฟ้อง A กลับข้อหาหมิ่นประมาท และนัดให้ A ไปคุยที่โรงพัก ซึ่ง A ไม่ยอมไป ( O เคยข่มขู่ว่าตนเองรู้จักกับตำรวจใหญ่หลายคน แต่ดูเหมือนตำรวจก็ไม่ได้ช่วยอะไร O มากเช่นกัน)

ดังนั้น O จึงยังคงทำการคุกคาม A ทาง อีเมล, โทรศัพท์, sms ฯลฯ ต่อไป เร็วๆนี้ O ได้โทรศัพท์ไปคุกคามแฟนของ A ที่ขณะนั้นบวชเป็นพระอยู่ด้วย

ดังนั้น A จึงตัดสินใจว่าจะไปแจ้งตำรวจอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ ๕ สิงหาคมนี้

จึงอยากสอบถามว่าในเคสนี้ A ควรจะทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ตำรวจช่วยเธอในการยับยั้ง O สักทีหนึ่ง

::: ::: :::

ข้อมูลเพิ่มเติมเท่าที่ผมทราบนะครับ

- O อายุยังไม่เยอะ ราวยี่สิบกว่าๆ แต่สามีของ O แก่กว่า O มาก
- O เป็นแม่บ้าน, สามีคือคนที่หาเลี้ยงครอบครัว มีลูกแล้วคนหนึ่ง
- บ้าน, รถ และของมีค่าอื่นๆของครอบครัวนี้ เป็นชื่อของ O

จากนี้ไปเป็นความเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ

- ผมคล้อยตามความข้าง A นอกจากเพราะเป็นเพื่อนกันแล้ว หากใครมารู้จัก A ก็จะทราบว่าเป็นคนอ่อน และเป็นคนซื่อ ไม่ใช่แบบที่จะไปคบชู้กับใครได้เลย
- ผมไม่เคยเห็น O แต่คิดว่า O มีนิสัยชอบคุกคามคน ฟังจากวิธีที่เธอปฏิบัติกับ A และสามีตัวเอง
- ผมแอบคิดว่า สามี O น่าจะมีชู้ที่อื่นจริง แต่เมื่อถูกจับได้ก็โกหกว่าชู้ของตนนั้นคือ A ทั้งนี้เพื่อปกป้องชู้ที่แท้จริง
- ผมคิดว่าลึกๆเมื่อ O รู้จัก A ก็คงทราบแก่ใจว่า A ไม่ได้เป็นชู้นั่นแหละ แต่เมื่อไปคุกคามแล้ว A แสดงความหวาดกลัวไม่ตอบโต้ ก็ลำพองว่าสามารถคุกคามฝรั่งได้ จึงคุกคาม A ต่อเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุก
- A ไม่ใช่คนสวยเท่าไหร่หรอก หน้าตาธรรมดา
- ผมยังสงสัยว่าทำไมแฟนคนไทยของ A ไม่ช่วย A มากกว่านี้ แต่อาจจะเป็นเพราะตอนที่มีเรื่องกันพีคๆนั้น แฟน A ไปบวชอยู่ (ตอนนี้แฟน A น่าจะสึกแล้วแหละครับ)

smile

จากคุณ : เชษฐา - [ 2 ส.ค. 50 01:31:13 ]