ความคิดเห็นที่ 1 No, I am not confused with your story. You are very nice. You understand your husband-to-be and his position as well as his well being. The most important decision both of you have to make is the country of choice. It seems to me that both of you do not have a finance problem. His dedication in education is a must in the first few years. Wish both of you do well regardless decision you make. จากคุณ : Isvasu - [ 11 ส.ค. 50 17:11:55 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้ารักกันจริงๆก็น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีนะ แต่เราว่าช่วงแรกๆเค้าจะลำบากหน่อยเพราะงานที่ทำจะไม่ค่อยใช้ความรู้เท่าไหร่ ควรที่จะลงเรียนให้เร็วที่สุด ช่วงที่เรียนเงินก็น้อยเหมือนนักเรียนทั่วไป คนที่เคยทำงานดีๆแล้วต้องกลับไปลงเรียนใหม่นี่อาจจะหงุ่ดหงิดนิดหน่อยนะ แต่ถ้าคุณไม่ทิ้งเค้ากลางคันไม่ให้ไปเป็นโรบินฮู้ดที่นั่น แต่งงานกันแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่แบบอเมริกันชัน เราเชื่อว่าน่าจะเป็นการคัดสินใจที่ดี ขออวยพรให้โชคดี จากคุณ : Hotlver - [ 11 ส.ค. 50 17:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ุถ้า้้เป็นวีช่าท่ิองเที่ยวสิบปี ไม่ได้หมายความว่าอยู่ได้สิบปีนะคะ ส่วนใหญ่ให้อยู่ได้แค่หกเดือน ถ้าจะแต่งงานกัน ขอวีซ่าคู่หมั้นไปแต่งที่โน่น หรือแต่งจากเมืองไทย แล้วขอวีซ่าคู่สมรสให้เขาไปดีกว่าค่ะ แน่นอนกว่า ใช้วีซ่าท่องเที่ยวไปแต่งที่โน่น อาจมีปัญหาการปรับสถานะ เพราะเป็นการใช้วีซ่าผิดประเภท บางคนบอกว่าทำได้ บางคนก็มีปัญหา การรียน การทำงานลองค้นดูกระทู้เก่าๆ มีข้อมูลดีๆเยอะมาก จากคุณ : สมศรี - [ 11 ส.ค. 50 18:43:48 A:82.208.11.3 X: TicketID:128994 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Thanks for all your comments..I really appreciate them.. I've just talked to him again about this and he promised he'll come with me.. YAY! He'll be travelling with his Tourist Visa and I understand that he'll be given six months max to stay in the States.. What if we get married then? How long would it take to get him a US citizenship just so he can work and study like an American? I understand that he might not be allowed to come back to Thailand during the process, is that true? Oh, and will his applying for the American citizen affect his Thai citizenship? What do Thai people do for living when they first move to the States besides waiting? How much they make per week? He hasn't applied for school yet coz I want him to go visit all the schools in our neighborhood before making decision.. Oh, I forgot to mention that we are moving to Seattle or Tacoma, WA. What about the driving license? Can he just go apply for one at the DMV or does he has to wait for his citizenship first? Enough questions for now..thanks you all.. จากคุณ : GiRLGeNiuS - [ 11 ส.ค. 50 21:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะให้แฟนไปอยู่ด้วยอย่างถูกกฎหมาย แนะนำว่าอย่าไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วแต่งงานค่ะ เพราะว่า 1. ไปด้วยวีซ่าผิดประเภท 2. คุณไม่สามารถเป็นสปอนเซอร์ให้แฟนได้ เพราะไม่เคยทำงานที่อเมริกาและเสียภาษีที่โน่น แต่งไปแล้ว จะขอกรีนการ์ดให้แฟนไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวแฟนคุณจะกลายเป็น Robinhood โดยไม่จำเป็น ถ้าเป็นโรบินฮู๊ดแล้ว จะมีความยุ่งยากในการขอกรีนการ์ดมาก อาจจะต้องพึ่งทนาย เสียเงินโดยไม่จำเป็นค่ะ ถ้าแฟนอยากจะไปจริง ๆ ให้คุณเตรียมตัวหา Co-Sponser ซึ่งทำงานมีรายได้ขั้นต่ำตามที่ USCIS กำหนด และเสียภาษีทุกปีมาช่วยเซ็นต์รับรองให้ การเป็น Co-Sponser นั้นจะมีความผูกพันจนกว่าแฟนคุณจะได้ Citizen หรือถ้าถือกรีนการ์ดไปเรื่อย ๆ ก็ประมาณ 10 ปีค่ะ เมื่อได้ Co-Sponsor มาแล้ว ให้คุณทำวีซ่าคู่หมั้นไปแต่งที่อเมริกา (เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำวีซ่าคู่หมั้น Co-Sponsor จะต้องเซ็นเกี่ยวกับ Financial support ด้วยค่ะ) ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เมื่อแฟนได้วีซ่า ก็จะต้องแต่งงานภายใน 90 วันนับจากวันที่ไปถึงค่ะ หลังจากนั้นแล้วก็ต้องทำเรื่อง Adjust Status เพื่อขอ กรีนการ์ดค่ะ กรีนการ์ดใบแรกจะมีอายุ 2 ปีเป็นกรีนการ์ดที่มีเงื่อนไข หากมีการหย่าร้างแฟนคุณจะต้อง ออกนอกประเทศ ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าเป็นการแต่งงานกันจริง หรือมีปัญหาเรื่อง Domestic Vicolent ที่ต้อง มีกฎนี้เพื่อป้องกันการแต่งงานปลอมค่ะ เมื่อครบ 2 ปีก็ทำเรื่องขอ Remove Condition เพื่อขอกรีกการ์ด 10 ปีค่ะ เมื่อถือกรีนการ์ดครบ 3 ปี (ให้นับ รวมใบแรกด้วย) แฟนคุณถึงจะสามารถขอสอบ Citizen ได้ค่ะ ส่วนเรื่องงาน ถ้าแฟนได้กรีนการ์ดแล้ว ก็มีสิทธ์ที่จะอาศัยและทำงานในอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ เรื่องโรงเรียน ถ้ามีกรีนการ์ดแล้ว จะเสียในราคานักศึกษาต่างรัฐ ยกเว้นว่าแฟนคุณอาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน 1 ปีขึ้นไปค่ะ อาจจะต้องทำงานและเสียภาษีด้วยค่ะ  ถึงจะเสียในราคา in state ค่ะ ส่วนใบขับขี่นั้น แฟนคุณจะต้องขอ Social Security Number (SSN) ก่อน พอได้มาแล้วก็ค่อยไปยื่นเรื่อง ขอใบขับขี่ค่ะ การได้ SSN มาก็ค่อนข้างจะยุ่งยากค่ะ ถ้าในระหว่างที่รอกรีนการ์ด จะต้องขอ Work Permit --> ขอ SSN ----> ขอใบขับขี่ ตามลำดับ ถ้ามีกรีนการ์ดแล้ว ขอ SSN ----> ขอใบขับขี่  (ตอนขอ SSN ไม่ต้องใช้ Work Permit ค่ะ) จากคุณ : หมูหวาน - [ วันแม่แห่งชาติ 01:29:12 ]