ความคิดเห็นที่ 1 ใน1 ปีที่คุณอยู่ที่นั่น ศัพท์สองคำที่คุณจะได้ยินทุกวัน วันะไม่ต่ำว่าสามสิบครั้งคือ What!!!!! Why!!!!! จริงๆ นะ ไปลองดู เรามีลูกค้าอิสราเอลเยอะ เขาเหมือนว่ามองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา ชอบคิดว่า ใครๆ จะต้องเอาเปรียบเขาเรื่อยเลย จากคุณ : ออนเซ็น - [ 26 ส.ค. 50 16:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยมีกระทู้เก่าเรื่องนี้ คนไทยที่อยู่ที่นั่นเธอเล่าว่า คนอิสราเอลเป็นคนชอบคิดนอกกรอบ ชอบค้นคิดหาคำตอบ เป็นชาติที่ฉลาดดี งานวิจัยงานทางวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า คนทำงานเป็นโปรเฟสชั่นนอล ถึงแม้จะเกลียดกันแต่เวลางานก็ดีลงานกันได้ หากระทู้เก่าไม่เจอ ไม่แน่ว่าคุณคนนั้นอาจจะผ่านมาตอบให้อีกก้ได้ จากคุณ : yuy - [ 26 ส.ค. 50 17:52:49 A:77.123.123.8 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ชอบคำนี้มาก "คนทำงานเป็นโปรเฟสชั่นนอล" ... เมื่อไหร่เมืองไทยจะมีแบบนี้บ้าง ... เพราะส่วนมากจะทำงานแบบ "ขอไปที" หรือ "ทำแบบให้จบไปวัน ๆ" ... ปล. ไม่ได้อยู่อิสลาเอล แต่เข้ามาชม จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด - [ 26 ส.ค. 50 18:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4  Shalom ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัว เท่าที่เคยคบคนอิสราเอล (ยิว /Jewish) เป็นเพื่อนฝูง หรือ เป็นคนรู้จักมาในห้วงเวลาสิบกว่าปี เฉพาะที่อยู่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นคนอิสราเอลแท้ๆ Israeli หรือ พวก American Jewish ขอบอกว่า ส่วนใหญ่จิตใจดี รู้จักใช้เงินให้ได้ประโยชน์สูงสุด และ ยังไม่เคยเจอคนโง่ หรือ พวกเหลาะแหละ เหยาะแหยะ เลยค่ะ แต่ฉลาดมากๆ ทุกคน และ แต่ละคนจะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมาก เรื่องรู้ภาษาที่ 3 ด้วยเป็นเรื่องธรรมดา และ ทุกคนต้องรู้ภาษาฮีบรู (แม้แต่คนยิวในอเมริกา ส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้เกิดในอิสราเอลก็ทราบ หรือ ต้องทราบชนิดอ่านออกเขียนได้ด้วย) และ ทุกคนมี Common Sense มีไหวพริบ มีสัญชาติญาณของการเอาตัวรอด  เนื่องจากเป็นชาติพันธ์ที่ฉลาด และ ทุกคนต้องผ่านการฝึกฝนเป็นทหาร คนยิวในปท.อิสราเอล ร้อยทั้งร้อย เมื่อครบผ่านการฝึกเป็นทหารแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด 2 ปี) ก็จะออกเที่ยว เรียนรู้ความเป็นไปต่างๆ นอกกะลา ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เปิดหูเปิดตา เปิดใจ ในปท.อื่นๆ (ทั้งนี้รวมถึงเรื่องเหล้า ยา และ xxx ด้วย) เส้นทางยอดนิยม ที่คนยิวรุ่นใหม่ๆ ชอบออกเดินทางไปเที่ยวแบบ Backpacker กันมานานเป็นสิบกว่าปีแล้ว ก็คือ ปท. อินเดีย จากนั้นมา ปท. ไทย แล้วต่อไป ออสเตรเลีย และ ถ้าคุณพบกับคนอิสราเอล หรือ คนอเมริกันเชื้อสายยิว ที่เป็น Generation ที่ 2 หรือ 3 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงแล้ว พวกเค้าจะมีเรื่องเล่าถึงความยากลำบากของพ่อ-แม่ หรือ การสูญเสียญาติพี่น้องของเขาให้คุณฟังค่ะ โดยเฉพาะพวก Generation ที่ 2 รุ่นอายุราวๆ  50-60 ผู้หญิงเชื้อสายอิสราเอล ส่วนใหญ่จะสวย และ มีดวงตาที่สวยงามมากๆ เช่น Natalie Portman หรือ Shakira เป็นต้น แต่ผู้หญิงอิสราเอล พวกประมาณอายุ 50-60 ขึ้นไป จะแต่งตัวกันไม่ค่อยเป็น พะรุงพะรังกะเร้อกะรัง แบบไม่ศิลป์ เดินมาเห็นไกลๆกันห่างออกไปสัก 300 เมตร ก็รู้ว่าเป็น คุณป้าอิสราเอล มาแล้นนนนน   คนยิวที่เคร่งมากๆ จะไม่แต่งงานกับคนชาติอื่น นอกจากพวกยิวด้วยกัน เมื่อสัปดาห์ ที่แล้วนี่เอง ลูกชายของคนรู้จัก มาเที่ยวเมืองไทย เราก็พาน้องเค้าเที่ยวกรุงเทพฯบ้างเล็กน้อย น้องคนนี้อายุ 21 เป็นลูกครึ่งยิว-อเมริกัน มาจาก Florida พูดได้สามภาษา มีอังกฤษ ฮีบรู และ จีนแมนดาริน He ฉลาดมาก และ แก่แดดสุดๆ การพูดจาฉลาดเฉลียว ทำตัวเหมือนกับคนอายุ 31 ก็ไม่ปาน เรียนรู้ภาษาไทยก็เร็วมาก พาไปไหนๆ ก็ไม่ต้องคอยเป็นห่วงมาก เรากับ Partner เรา (คนอังกรึด) พาน้องเค้าไปดูกระเทยที่พัฒน์พงษ์ด้วย เล่นเอาเด็กแก่แดด อ้าปากค้าง เหวอ ไปเลย เพราะตะลึงกับความสวย ของกระเทยไทย   นี่แหละคนยิว ที่เรารู้จัก เลยเอามาเล่าต่อ เล่าสู่กันฟังเป็นความรู้รอบตัว   จากคุณ : Siamese Girl - [ 26 ส.ค. 50 23:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^^ ^^ ปล. นึกขึ้นได้ว่ามีเกร็ดความรู้รอบตัว ที่เกื่ยวกับคนยิวมาเล่า มาโม้ ให้ฟังอีกเรื่องนึง พอดีเพิ่งไปเที่ยว "พม่า - Myanmar" มา ใคร๊จาไปคิด ว่าที่ "กรุงย่างกุ้ง - Yangon /Rangoon" นั้น ก็มีคนยิว และ มีโบสถ์ยิวอยู่ด้วย ตั้งอยู่ใน "Alley Way - ตรอกเล็กๆ" ในย่านชุมชนคนอินเดีย (ที่เสมือนจริง แม้กระทั่งวิธีการเดินเร่ขาย "กาแรม ไจ - Garam Chai - ชาร้อน ของพ่อค้า เหมือนจนนึกว่าเดินอยู่ในอินเดีย ) พวกเค้าอพยพมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้มีกันอยู่ 8 ครอบครัว  และ ไม่กี่ 10 คน ไปเยี่ยมเยียนเมืองหม่องหนนี้ มีเวลาในกรุงย่างกุ้งหลายวัน ชาวคณะจึงได้ไปยกขบวนกันไปดูของแปลก ได้พบท่าน Rabbi (แรบไบ) ที่ดูแลโบสถ์ หน้าตาออกแนวลูกครึ่งฝรั่ง Rabbi เอารูปลูกชาย ที่กำลังเรียนอยู่ที่อิสราเอลมาอวดด้วย อู๊ยยยยยย........หล่อเช็ดเลยค่ะ   ถ้าใครมีโอกาสไปกรุงย่างกุ้ง ก็ไปดูนะคะ (ดูโบสถ์ยิวอ่ะค่ะ ไม่ใช่ลูกชาย Rabbi นะ   ) มีงานกระจกสวยๆ มีคัมภีร์ ภาษาฮิบรูที่เขียนด้วยลายมือเก่าแก่ ใส่ในกระบอกเงินแท้โบราณ สวยงามมากค่ะ   FYI     จากคุณ : Siamese Girl - [ 26 ส.ค. 50 23:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม ความคิดของเราน๊ะ ค่ะ (อันนี้อาจไม่ตรงกับใจใครบางคนก็ต้องขอโทษล่วงหน้าก่อนน๊ะค่ะ) ตอนทำงานที่โรงแรม อยู่ที่เมืองไทย อันดับหนึ่งของความไม่มีมารยาท นั้นคือ อิสลาเอลค่ะ ขอเล่าแบบ ย่อ ๆ น๊ะค่ะ อย่างที่ทราบ ล๊อบบี้โรงแรมห้ามสูบบุหรี่ แต่เค้าไม่สนใจค่ะ ยืนสูบหน้าตาเฉย พอเราเข้าไปบอก (ด้วยความสุภาพอย่างแรก ถ้ากราบได้ ก็จะกราบ แล้วค่ะ) เค้าไม่พอใจ ทิ้งบุหรี่บนพื้นเลยค่ะ แล้วใช้เท้าขยี้ ๆ บุหรี่ แบบ เราแทบจะร้องไห้เลยเจอแขกแบบ และมีเรื่องอีกมาก มาย ของลูกค้าชาวอิสราแอล ถ้าจะพูด ก็คงไม่หมด... เราอยู่ที่อเมริกา มีเพื่อนเป็นยิว ก็หลายคน อยู่ จริงค่ะ เค้าฉลาดมาก งาน เป็น งาน เที่ยว เป็น เที่ยว แต่ นิสัย ส่วนตัว แย่มาก ยิ่งเฉพาะ New york jewish ดูถูกคนไทย แต่การดูถูกของเค้าไม่ได้ทำแบบโง่ ๆ น๊ะค่ะ เค้ามีเทคนิค ค่ะ ที่ดูถูก แบบ เจ็บถึงทรวง... ป.ล ข้อมูลอ้างอิงจากสามีชาวอเมริกัน (เพื่อนรักชาวอิสราเอล อิ อิ) เค้าบอกว่า BBC ได้จัดอันดับ The worse country in the world, It's Israel behide even Iran จากคุณ : oho49 - [ 27 ส.ค. 50 01:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอลอกคำตอบจากกระทู้เก่ามาลงเลยก็แล้วกันนะคะ เพราะคุณถามมากว้างมาก ไม่ทราบจะตอบอย่างไรดี ดิฉันเคยใช้ชีวิตอยู่ในอิสราเอลประมาณ 5 ปี โดยทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่ศูนย์วิจัยแห่งหนึงของเมืองไฮฟาทางตอนเหนือของอิสราเอล ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่อเมริกาได้สองปีกว่าแล้วค่ะ อยากบอกให้คุณฟังว่าเรายังมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับประเทศนี้อยู่มาก จริงอยู่ว่าในอิสราเอลจะมีการก่อการร้าย มีระเบิดพลีชีพ แต่ในความเป็นจริงก็คืออัตราการเสียชีวิตนั้นต่ำกว่าการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์มากมายหลายเท่านัก ถ้าคุณไม่ไปอยู่ในดงชาวอาหรับหรือพื้นที่เสี่ยงภัยแถวฉนวนกาซ่า หรือชายแดนกรุงเเยรูซาเร็มล่ะก็สบายใจได้ค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความปลอดภัยในชีวิตประจำวันในอิสราเอลนั้นถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอเมริกาหรือไทย  อาชญากรรมจำพวกปล้นฆ่าฉกชิงวิ่งราวเนี่ยไม่ค่อยมีเลยนะคะ  มีแต่ข่าวกระจิ๊บกระจ๊อยชกต่อยตีเล็กๆน้อยๆซึ่งเพียงเท่านั้นสังคมและสื่อก็จะวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่แล้ว  ดิฉันยังเคยแอบขำข่าวอาชญากรรมของเขาเลย  เพราะเราอยู่เมืองไทยเปิดหนังสือพิมพ์มามีข่าวฆ่ากันตายทุกวัน  คุณสามารถออกไปเดินตามถนนได้อย่างปลอดภัยแม้ยามค่ำคืน  แต่สำหรับเมืองที่ดิฉันอยู่ในตอนนี้นั้นขนาดว่าประมาณห้าหกโมงเย็นในช่วงหน้าหนาวที่ค่ำเร็วหน่อยก็ไม่สามารถเดินได้อย่างปลอดภัยเสียแล้ว จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เทดโนโลยีของอิสราเอลนั้นก้าวหน้ามากนะคะ  เพราะชาวอิสราเอลนั้นเป็นพวกช่างคิดช่างประดิษฐ์   อะไรที่คนชาติอื่นคิดว่าเป็นไปไม่ได้  พี่แกจะชอบมาก  เพราะเค้าถูกอบรมสั่งสอนมาให้คิดแหกกฏ  และพวกเขาจะใฝ่รู้กันมากๆ  หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาเขาจะกัดไม่ปล่อย  จะต้องแก้ปัญหานั้นให้ได้  ซึ่งข้อนี้ตามประสบการณ์ที่เคยทำงานในไทยและในอเมริกา  ถ้ามีปัญหาแล้วถามเพื่อนร่วมงานแล้วเขาไม่รู้  เขาจะบอกคุณว่า Sorry, I don’t know ก็แค่นั้นเอง  แต่ทีอิสราเอลคนอื่นๆในกลุ่มจะระดมสมองกันช่วยคิดว่าน่าแก้ปัญหาแบบนั้นแบบนี้  บางทีถึงกับวางเดิมพันกันด้วยการเลี้ยงอาหาร  ตัวอย่างเช่นถ้าแก้ปัญหาได้ตามวิธีที่นายเอเสนอมา  คนอื่นๆทีแนะนำวิธีอื่นจะต้องเลี้ยงอาหารนายเอ     ดังนั้นพวกอิสราเอลจึงมีชื่อเสียงมากในการคิดตั้งบริษัทผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆแล้วอเมริกาก็จะมาซื้อลิขสิทธิ์ไปทำต่อ  เพราะชาวอิสราเอลมีข้อเสียเกี่ยวกับการจัดการและการบริหารให้ก้าวหน้า  ซึ่งอธิบายได้ง่ายๆเลยว่าหากสินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐานขึ้นมาคุณจะหาข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดจุดบกพร่องไม่เจอเพราะลูกน้องคุณมันเปลี่ยนขั้นตอนที่คุณบอกไว้ทุกขั้น  ก็บอกแล้วว่าคนมันชอบคิดแหวกกฏไง จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภาษที่ใช้กันทั่วไปก็คือภาษาฮีบรูนะคะ  แต่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะหนุ่มสาวหรือผู้มีการศึกษาก็เข้าใจภาษาอังกฤษได้ดี   ดิฉันใช้ภาษอังกฤษในการสื่อสารระหว่างทำงานค่ะ คนอิสราเอลนั้นจะเป็นพวกปากกับใจตรงกันนะคะ  ชอบก็บอกชอบ  ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบให้รู้กันจะๆไปเลย  ไม่อ้อมค้อม  ดิฉันเคยมีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ถูกกันอยู่คู่หนึ่ง  เขาทำงานร่วมกันได้อย่างดี  เรื่องงานอย่างเดียวนะคะ  นอกเวลางานเนี่ยจะไม่คุยกันเลย  ดิฉันเคยอึ้งกิมกี่เมื่อเคยสาวหนึ่งเธอเอ่ยกับสาวสองซึ่งๆหน้าว่าไม่ต้องมายุ่งกับฉัน  ฉันทำงานกับเธอแต่ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาเป็นว่าช่วงที่อยู่อิสราเอลนั้นก็เป็นช่วงประสบกาารณ์ชีวิตที่ดี   สอนอะไรให้ดิฉันมากมายอยู่   ถ้าถามดิฉันว่าน่าจะไปไหม  ดิฉันจะบอกให้คุณไปลองดูค่ะ  ยกเว้นว่าคุณจะไปอยู่แถวกาซา   เหนื่อยละค่ะ  พิมพ์ไม่เก่ง  ถามมาก็แล้วกันค่ะ  ขอให้โชคดีค่ะ ดิฉันขอตอบเป็นข้อๆตามที่ถามเลยนะคะ แล้วเรื่องค่าครองชีพอาหารการกินที่นั่นเป็นยังไงบ้างครับ ค่าครองชีพที่อิสราเอลค่อนข้างแพงพอๆกับที่อเมริกาค่ะ  สกุลงินของอิสราเอลเรียกว่าเชคเกล  เขียนย่อว่า NIS (New Israeli Shakel)  หนึ่งเชคเกิลราคาประมาณเก้าบาทกว่าๆเกือบสิบบาทในสมัยที่ดิฉันอยู่   เพิ่งเช็คเรทในอินเตอร์เน็ทตอนนี้เห็นว่าหล่นลงมากองอยู่ที่ 8.50 บาท ค่ะ  คุณเช็คดูเองได้ที่นีเลยค่ะhttp://coinmill.com/ILS_THB.html อาหารที่ถูกที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดในอิสราเอลคือฟิราเฟลค่ะ  เป็นแป้งพิต้ากลมๆกลวงๆจับมันอ้าออกมาแล้วก็จับสลัดผักทั้งหลายใส่เข้าไป  แล้วมีก้อนกลมๆของเจ้าฟิราเฟลทอดทำมาจากถั่วchickpea  รสชาดเค็มๆมันๆแล้วก็ราดตามด้วยฮุมมุสหรือทีน่า(น้ำจ้มแบบข้นของชาวตะวันออกกลางทำมาจากถั่วchickpeaและงาตามลำดับ)  ถ้ามีเนื้อใส่ลงมาแทนเจ้าฟิราเฟลเขาก็จะเรียกว่าชูว์อาม่า  สำหรับราคาฟิราเฟลพร้อมเครื่องดื่มหนึ่งขวดจะตกอยู่ราวๆเก้าถึงสิบเหรียญค่ะ  ถ้าเป็นชูว์อาม่าก็สิบกว่าเหรียญ   ค่าอาหารหนึ่งจานในร้านอาหารจะตกอยู่ราว18-25เหรียญ  และการทานในร้านอาหารคุณต้องทิปอีก 10%  แต่ส่วนมากอาหารจะจานใหญ่มาก  ทานคนเดียวไม่ค่อยหมด  การห่ออาหารเหลือกลับบ้านจึงเป็นเรื่องปกติที่เค้าทำกันค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ร้านอาหารใหญ่ๆหรือร้านในห้างสรรพสินค้ามักจัดบุฟฟเฟต์มื้อกลางวันในช่วงเวลาราวๆ 11-14 น.  ราคามักจะอยู่ที่ 22-28 เหรียญซึ่งส่วนใหญ่จะรวมค่าอาหาร+เครื่องดื่มเย็น 1 แก้ว+เครื่องดื่มร้อนหนึ่งแก้ว  (ลืมบอกไปค่ะว่าชาวอิสราเอลมักตบท้ายมื้ออาหารด้วยชาหรือกาแฟเป็นประจำ)  หรือบางร้านใจดีหน่อยก็ดื่มได้ไม่จำกัด  อันหลังนี้ดิฉันชอบมากค่ะ  เพราะบางทีแค่นั่งดื่มน้ำส้มแก้วโตๆ+น้ำอัดลม+กาแฟคาปูชิโนครีม 1 ถ้วยโตก็คุ้มราคาที่จ่ายเสียแล้ว   เคนที่นั่นชอบนั่งดื่มกาแฟจิบบรรยากาศแช่ยาวๆกันเป็นชั่วโมง  ทางร้านจะไม่มีการมาไล่เด็ดขาด  แต่ราคากาแฟหนึ่งแก้วก็ประมาณ 9-10 เหรียญค่ะ ถ้าอยากประหยัดขอแนะนำให้ทำอาหารไทยยทานที่บ้านในมื้อเย็น  ส่วนอาหารกลางวันก็ห่อสลัดไปทานที่ทำงาน  ถ้าคุณชอบทานผักและผลไม้คุณจะชอบผักที่อิสราเอลมากเพราะมีรสหวานอร่อย   แค่ราดน้ำมันมะกอกลงไปนิดหน่อยกับเติมเกลือลงไปนิดหนึ่งก็อร่อยมากแล้ว   ดิฉันเคยพยายามทำสลัดแบบเดียวกันนี้ทานที่เมืองไทยปรากฏว่าไม่ไหว  ทานไม่อร่อยค่ะ  ผักบ้านเราต้องราดเดรสซิงจึงจะมีรสชาด  การนำอาหารกลางวันไปทานเป็นเรื่องปกตินะคะ  เพื่อนร่วมงานดิฉันเห็นเค้าทานกันง่ายๆคือบางคนก็ทานกล้วยหนึ่งผล  แอปเปิลหนึ่งลูกเท่านี้จริงๆ  ดิฉันเคยมีความเชื่อว่าพวกต่างประเทศนี่เค้าต้องทานอาหารกันแบบยุ่งยากพิถีพิถัน  เพราะดูทีวีทีไรก้อเห็นทานกันแบบฟูลคอร์สทุกที   จริงๆไม่ใช่เช่นนั้นค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และมีที่ท่องเที่ยวหรือเปล่า  ถ้าชอบทะเลก็มีทะเลค่ะ  เละมีนักท่องเที่ยวอยู่ในปรเะเทศเค้าหรือเปล่าครับ  พอดีผมชอบดำน้ำ ขอตอบรวมๆกันไปเลยนะคะ  ว่ามีค่ะ  โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาแสวงบุญที่เยรูซาเล็มและเมืองนาซาเร็ทที่เป็นถิ่นกำเนิดพระเยซู มีเมืองเก่าสมัยก่อน คศ.ใกล้ๆกับเดดซีเรียกว่าป้อมมัสซาดะ  คล้ายๆบางระจันของเราค่ะ  เพียงแต่ของเขาเก่ากว่าและพวกเขาฆ่าตัวตายกันหมดก่อนที่ข้าศึกจะบุกยึดค่ายได้  อ่านได้ที่นี่ค่ะ  http://www.jewishvirtuallibrary.org/jsource/Archaeology/Masada1.html ถ้าคุณชอบเที่ยวเอาท์ดอร์แบบลุยๆหน่อยจะสนุกมาก  ที่อิสราเอลมี Trail เยอะมาก (ขออภัยค่ะ..ไม่ทราบว่าจะใช้คำไทยเรียกว่าอย่างไรดีค่ะ  เลยต้องทับศัพท์)  จะเอาแบบทะเลทราย  แบบปีนเขาโดดหน้าผามีให้เลือกหลายรูปแบบ  ระยะทางก็แล้วแต่เลือกค่ะ  สั้นๆประมาณ ½ ชมก็มี   ที่ทรหดที่สุดที่ดิฉันเคยเดินนะคะก็ประมาณเก้าชม.ค่ะ   มีปีนเขาโดดหน้าผาและลุยลงน้ำครบทุกรูปแบบ  Trailที่นี่เดินง่ายไม่มีหลงค่ะ  ขนาดดิฉันซึ่งเป็นจอมหลงทางยังเดินได้สบายมากค่ะ  เพราะมีเครื่องหมายตามก้อนหินหรือต้นไม้บอกไว้เป็นระยะๆทุกๆ 5-10 นาที ชอบทะลก้อมีทะเล  ชายหาดทรายขาวสะอาดและละเอียดเนียนมาก...ขอบอก   ถ้าชอบดำน้ำ...ที่นี่สววรค์เลยค่ะ  คุณคงทราบว่าทะเลแดงดิดอันดับโลกกับเค้าในอันดับต้นๆเลยแหล่ะค่ะ   สวยไหม..ขอบอกว่าเมื่อสมัยที่ลงไปก้อต้องยอมรับค่ะว่าสวยกว่าที่หมู่เกาะสุรินทร์บ้านเรา  ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรนะคะ ชอบทะลทรายก็มีทะเลทราย  ชอบภูเขาก้อมีภูเขา   เลือกเอาค่ะ   ที่ไม่ควรพลาดคือเดดซีต้องลองลงไปดูสักครั้งค่ะ  สนุกดีมันๆลื่นๆแสบๆคันๆบอกไม่ถูก จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เกือบลืมบอกไปค่ะว่าที่อิสราเอลเนี่ย  เค้าจะทำงานกันวันอาทิตย์-พฤหัสบดีนะคะ  เนื่องจากพวกเคร่งศาสนายังมีอิทธิพลในทางการเมืองค่อนข้างมาก   วันเสาร์ซึ่งถือว่าเป็นวันหยุดของพระเจ้าเค้าก็จะหยุดกันจริงๆ  คือร้านค้าชาวยิวจะปิดบริการ  ไม่มีรถประจำทางวิ่ง  แต่จะมีร้านอาหารเปิดบริการ  มีรถรับจ้าง  (ร้านค้าที่เป็นชาวอาหรับจะเปิดบริการตามปกติ  แต่เค้าจะไปหยุดวันจันทร์กัน)  ร้านค้าต่างๆจะเปิดบริการในคืนวันเสาร์หลังดาวดวงแรกขึ้นที่  ตามหลักศาสนาวันเสาร์จะนับจากพระอาทิตย์ตกดินในวันศุกร์  และจะไปสิ้นสุดลงในคืนวันเสาร์เมื่อดาวดวงแรกขึ้น   ดังนั้นในวันศุกร์ร้านค้าจะเปิดไปจนประมาณบ่ายสองบ่ายสามก็จะเริ่มทยอยปิด ถ้าคุณไปอยู่ใหม่อาจเห็นเป็นเรื่องแปลกและน่าเบื่อ  แต่พออยู่ไปสักพักคุณจะพบว่าคุณมีเวลาว่างให้กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น  เพราะคุณสามารถใช้วันเสาร์ไปเดินป่า  อ่านหนังสือดีๆ  ทานอาหารกับครอบครัวพร้อมพูดคุยถกปรัชญากันไปพลาง  ดิฉันคิดว่าการที่เค้าได้ใช้เวลาด้วยกัน  พูดคุยถกปัญหากันโดยให้เด็กๆนั่งฟังนั่งคิดตามไปด้วยนั้น  เป็นการช่วยให้เด็กฝึกเป็นนักคิกดนักพูดไปโดยอัตโนมัติ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดังนั้นจงอย่าแปลกใจถ้าคุณจะพบว่าทำไมคนประเทศนี้ช่างซักช่างถามกันมากจริงๆ  ดิฉันชอบดื่มน้ำอุ่นก็มีคนมาถามว่ารู้ไหมว่าควรจะต้องเติมน้ำร้อนลงในน้ำเย็น  หรือเติมน้ำเย็นลงในน้ำร้อนเพื่อให้น้ำอุ่นในแก้วมันอุ่นอยู่ได้นานๆ  พอเชิญเพื่อนมาบ้านทำอาหารไทยให้ทานก็ถามว่าทำไมผักมันกรอบอร่อย  ฮ๋อก้อผัดผักใช้ไฟแรงและไม่ผัดนานไง  แล้วไฟแรงมันไปทำอะไรเหรอ  ทำไมไฟแรงแล้วทอดของจึงไม่อมน้ำมัน   ฮ่า..ไม่เคยคิดจ้ะ  ไม่รู้  ฉันทำตามที่แม่ฉันสอนมา   อ้าวแล้วคุณไม่สงสัยเรอะว่ามันถูกหรือเปล่าที่แม่สอน  แล้วไม่เคยคิดสงสัยว่ามันมีกระบวนการอะไรบ้างเหรอ...โหย..ข่มใจไปหลายรอบอยู่  กะว่าจะชกหน้าคนถามดีไหมเนี่ย  แต่จริงๆก็คือเค้าถามเพราะอยากรู้จริงๆค่ะ  ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี   ก็บอกแล้วคนประเทศนี้เค้าช่างคิดช่างถามไงคะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หนุ่มสาวชาวอิสราเอลเค้าจะต้องเข้าฝึกทหารกันทุกคนหลังจบชั้นมัธยม  โดยชายฝึกสามปี  หญิงสองปี  หลังจบการฝึกทหารที่ว่าแล้วถ้ารอดชีวิตกลับมาจากสนามรบ  เค้ามักจะนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวกัน 1 ปีก่อนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย  ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาแถวเอเชีย แถบๆอินเดีย ไทย  เพราะมันถูก  และพวกนี้จะใช้ชีวิตค่อนข้างบ้าหลุดโลกเพราะกดดันจากความเครียดมานาน   แต่พวกนี้จะมีพํฒนาการสูงหลังเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย  คงคล้ายๆกับว่าคนที่ได้ผ่านการใช้ชีวิตมาสุดๆแล้วและรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร ดังนั้นพวกอิสราเอลเนี่ยเค้าจะเปรียบตัวเขากับกับผลลูกตระบองเพ็ชร (sabet)  ซึ่งมีหนามแหลม  แต่พอแกะออกมาก็จะมีรสชาดหวานหอม  (รสคล้ายๆมะละกอสุกไทย)  เพราะพวกเขาจะไม่ค่อยอ่อนโยน  แต่ถ้าเขายอมรับคุณเขาจะจริงใจกับคุณมาก จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คนแถวนั้นเค้าดูถูกคนไทยหรือเปล่าครับ หรือว่าถือเรื่องความเท่าเทียม แล้วผู้คนที่นั่นเป้นมิตรกับคนแปลกหน้าหรือเปล่าครับ ? ผมเจอคนอาหรับคนอิสลามแถวๆที่ทำงานผมส่วนใหญ่ชอบดูถูกคนไทย....ไม่รู้ทำไม คนในอิสราเอลจริงๆแล้วเนี่ยมาจากหลายเผ่าพันธ์มากเลยนะคะ 1) เป็นพวกยิวเคร่งศาสนาเรียกว่า Orthodox  ซึ่งพวกนี้จริงๆยังแยกย่อยได้อีกตามดีกรีความเคร่งในการถือศาสนา  คุณจะสังเกตุได้ง่ายๆคือพวกนี้บางทีจะมีเครายาว  บางกลุ่มใส่ชุดคลุมยาวสีดำพร้อมหมวกทรงสูง  บางพวกก็เพียงแค่สาวมหมวกเล็กๆเรียกว่าคิปะแปะไว้ที่กลางศรีษะ  พวกนี้ส่วนใหญ่จะสวมแจ็กเก็ตดำเและมีพู่คาดเอวห้อย  บางพวกก็แต่งตัวธรรมดาเพียงแต่สวมคิปะ   พวกผู้หญิงจะแต่งตัวคล้ายๆกันคือสวมผ้าคลุมผมหรือวิก  แต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวกระโปรงยาว  พวกนี้จะไม่ทำงาน   แต่จะศึกษาศาสนาโดยรัฐจ่ายเงินเดือนให้   และได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องเกณฑ์ทหาร   บอกแล้วไงคะว่าพวกเคร่งศาสนานี้มีอิทธิพลการเมืองมาก 2) พวกไม่เคร่งศาสนา  เรียกว่า Secular Jewish  ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ดิฉันคลุกคลีทำงานด้วย  พวกนี้จะเหมือนชาวตะวันตกทั่วไป  กลุ่มนี้จะมีการศึกษาสูง  ส่วนใหญ่จะทำงานบริษัทและภาคอุตสาหกรรม  และเป็นกลุ่มสำคัญที่ทำงานเสียภาษีให้กับรัฐเพื่อเลี้ยงกลุ่มแรกและคนทุกคนที่ได้รับสวัดิการของรัฐ 3) พวกอาหรับที่อาศัยอยู่ทั่วๆไปในอิสราเอล  พวกนี้จะมีการศึกษาไม่สูง  ส่วนใหญ่ค้าขายและส่วนมากทำการเกษตร  โดยความเห็นส่วนตัวที่เจอมานะคะ  (ย้ำความเห็นส่วนตัวค่ะ)  พวกนี้จะปากหวานเอาใจลูกค้าเก่ง  แต่ดิฉันว่าเขาไใม่ค่อยจริงใจกับใครยกเว้นอาหรับด้วยกันเอง  อาจเป็นเพราะเขามีโลกทรรศน์ที่แคบและถูกครอบคลุมความคิดแบบที่เรียกว่า religion abuse  เลยทำให้เพวกขาไม่เคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่นเท่าใดนัก   ดิฉันว่าพวกเขาค่อนข้างเห็นแก่ตัวค่ะ  ในช่วงดิฉันไปอยู่ใหม่ๆดิฉันชอบไปเดินซื้อของย่านชาวอาหรับในวันเสาร์  มีช่วงหนึ่งที่มีการประท้วงรัฐบาลเนื่องจากปาเลสไตน์  ปรากฏว่าพวกนี้รวมทั้งผู้หญิงและเด็กๆเอาก้อนหินมาปาใส่คนไม่ใช่อาหรับที่เดินไปมา  รวมถึงผู้โดยสารในรถประจำทางด้วย  คนเลยเลิกไปเดินซื้อของในย่านชาวอาหรับทำให้ยอดขายของตกต่ำลงไปมาก  ปรากฏว่าพี่แกออกมาเรียกร้องความเสียหายต่อรัฐบาลอีกว่ารัฐต้องชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป   เห็นแก่ตัวดีไหมคะ  ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจวิธีคิดของพวกนี้เท่าไหร่นัก   แต่อย่างไรก็ตามดิฉันมีเพื่อนชาวอาหรับในมหาวิทยาลัยหลายคน  พวกเขาก็น่ารักมีน้ำใจดีค่ะ 4) พวกอาหรับหัวรุนแรงในเขตปาเลสไตน์และกาซา   พวกนี้ดิฉันมองว่าน่าสงสารมาก  เพราะมีรัฐบาลที่เต็มไปด้วยคอรัปชั่น  พวกมีอำนาจจะร่ำรวย  แต่ชาวบ้านทั่วไปจะยากจนไร้กาารศึกษา   รัฐบาลปาเลสไตน์ไม่ว่าชุดไหนๆก็ไม่ส่งเสริมการศึกษา   แต่พยายามครอบงำให้ชาวบ้านพวกนี้เกลียดยิว   โบ้ยความผิดความเลวทั้งหลายไปที่พวกยิว  เนื่องจากการศึกษาน้อยเขาเลยถูกล้างสมองได้ง่ายๆ   จริงๆแล้วรัฐบาลอิสราเอลจ่ายเงินช่วยเหลือรัฐบาลปาเลสไตน์นะคะ  ไฟฟ้าน้ำประปาก็มาจากอิสราเอลทั้งหมด  แต่เงินช่วยเหลือไปไม่ถึงประชาชน   นอกจากนี้พวกนี้ยังได้เงินอุดหนุนก้อนใหญ่มาจากซีเรียและอิหร่านให้โค่นโล้มประเทศอิสราเอล  ดิฉันจึงมองว่าปัจจัยความรุนแรงในปาเลศไตน์มันซับซ้อนและคงไม่แก้ไขได้ง่ายๆหรอกค่ะ 5) พวกอพยพที่อ้างตัวเป็นยิว  พวกนี้มาจากอาฟริกาและรัสเซีย  จริงเท็จหรือไม่ไม่มีใครรู้  พวกนี้ส่วนใหญ่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอิสราเอลในการซื้อบ้านและรถแบบปลอดภาษี   นโยบายนี้เป็นไปเพื่อช่วยเหลือชาวยิวที่ถูกกวาดล้างเผ่าพันธุ์หรือถูกรังแกมาจากที่อื่น   พวกอาฟริกานี่ดิฉันไม่เคยมีประสบการณ์คลุกคลีด้วยเลย   พวกรัสเซียเนี่ยขอแบ่งออกเป็นสองพวกแบบสุดขั้ว  คือพวกนิสัยน่ารักใจดี  พวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อย  แต่นิสัยน่ารักใจดีจนไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้หลงเหลืออยู่อีก  กับอีกพวกหนึ่งใจร้ายเห็นแก่ตัว  ชอบนึกว่าข้านี่แน่และเก่งมาจากเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่อะไรประมาณเนี้ย   พวกนี้จะมีพฤติกรรมประหลาดๆเช่นเมือได้รับสารเคมีมาก็จะทำการลอกฉลากภาษาอังกฤษทิ้งเสีย  แล้วแปะป้ายภาษารัสเซียแทน   คนอื่นจะได้ไม่รู้เพื่อตนเองจะได้ครอบครองสารนั้นแต่เพียงลำพัง  และบางพวกจะสกปรกมากโดยเฉพาะเข้าห้องน้ำไม่กดชักโครก  ขนาดจับได้ต่อหน้าและเข้าไปต่อว่าเธอเขายังไม่ยอมรับเลยค่ะ   ดิฉันเคยโดนพวกนี้ดูถูกและเดินชนขณะยืนรอรถรับส่งที่ทำงาน จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดิฉันเคยโดนถามเรื่องคนไทยทานเนื้อสุนัข  เรื่องของเรื่องคือมีคนงานไทยไปจับสุนัขมาตัดขาไปทำอาหาร  ตัดแล้วก็ปล่อยไปเพื่อเก็บไว้เป็นอาหารในวันหลังอีก  ปรากฏว่ามีคนทราบและเป็นข่าวครึกโครมมากในอิสราเอล  ใครที่ไม่ได้มาเมืองไทยก็จะเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศทานเนื้อหมา   แรกโมโหจนควันออกหูเลยค่ะ  ต่อมาชักปลง  หลังๆใครมาถามเลยบอกไปว่าไม่ได้กนแต่หมานะ  กินคนด้วย  โดยเฉพาะพวกไม่มีมารยาทปากมากถามไม่เข้าเรื่องโดยไม่รู้ความเป็นจริงเนี่ย  เนื้อหวาน  ดิฉันชอบมาก   เออหายหัวไปเลยแฮะ เรื่องเหยียดกันเนี่ยดิฉันว่ามันมีในทุกประเทศนะคะ  เพียงแต่จะร้ายแรงแค่ไหนเท่านั้น  ดิฉันคลุกคลีในหมู่กลุ่มสองจึงไม่มีปัญหานั้น  แต่อย่างที่เล่าคือเวลาเดินตามถนนก็เคยถูกมองแบบไม่ดีบ้าง  แต่ไม่มากมายอะไร  อย่าไปสนใจค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การแบ่งชนชั้นในอิสราเอลนั้น้อยมากเพราะเป็นประเทศที่ตั้งใหม่  เท่าที่เห็นมานะคะทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่าคุณจะเป็นแม่บ้านหรือผู้อำนวยการบริษัท   แม่บ้านที่สถาบันวิจัยที่ดิฉันทำงานอยู่ไล่ผู้อำนวยการออกมาจากห้องเวลาเธอจะเข้าไปทำความสะอาดนะคะ  เพราะเธอก็เข้างาน 0800-1630 เหมือนกับคนอื่นๆ   อีกอย่างที่ต้องเล่าคือ  ถ้าคุณไปพบใครสักคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตแล้วท่านไม่ว่าง  คุณไม่ได้เข้าพบ  แล้วเลขาบอกว่าท่านจะโทรกลับมาหาคุณ  เขาหมายความตามนั้นจริงๆ   การเข้าพบคนใหญ่โตที่นี่ไม่เรื่องมากเหมือนคนไทยค่ะที่ต้องฝ่าด่านอรหันต์เลขาทั้งเจ็ดจึงจะสำเร็จ   ถ้าเขาว่างคุณก็เข้าพบได้เลย จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอตอบคุณ oho49 ว่าด้วยเรื่องนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอิสราเอลมารยาททรามนั้นเป็นเรื่องจริงและผู้คนที่อิสราเอลก็พยายามรณรงค์เรื่องนี้กันอยู่  พวกหนุ่มสาวที่ผ่านการฝึกทหารแล้วมักจะออกเดินทางไปเที่ยวรอบโลกก่อนกลับไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย  พวกนี้จะนึกว่าดัวองแน่  ตัวเองผ่านสงครามผ่านแรงกดดันต่างๆมา  ดังนั้นจึงมีสิทธ์ที่จะทำอย่างไรก็ได้  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชาวอิสราเอลที่ผ่านวัยนั้นมาแล้วก็ละอายใจอยู่นะคะ การดีลกับพวกงี่เง่าเหล่านี้คือจงพยายามแสดงให้เขาเห็นว่าเราอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ  เราไม่จำเป็นต้องแสดงความโกรธออกมาหรอกค่ะ  เพียงแต่บอกให้เขาชดเชยค่าเสียหายที่ทำให้พรมเปื้อน  หรือมิฉะนั้นจะแจ้งตำรวจให้มาดำเนินคดีในข้อหาที่ฝ่าฝืนสูบบุหรื่ในที่ห้ามสูบ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบเจ้าของกระทู้เรื่องชุมชนไทยในอิสราเอล ไม่มีค่ะ อาจจะเป็นเพราะดิฉันไม่ทราบก็ได้นะคะ  ทราบแต่ว่ามีแรงงานไทยอยู่ในอิสราเอลมากเหมือนกัน  แต่พวกเขาจะไปอยู่พวกนิคมเกษตรกรรมซึ่งอยู่ห่างจากที่ที่ดิฉันอยู่ไปไกลพอควร  จึงไม่มีโอกาสได้เจอค่ะ คนไทยเท่าที่ได้เจอจะเป็นพนักงานหรือกงศุลไทย  แม่บ้านไทยที่แต่งงานไปกับชาวอิสราเอล และพ่อครัวแม่ครัวที่ทำงานในร้านอาหารค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 27 ส.ค. 50 09:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรียน คุณ nan 1506 และ คห. อื่น ผมขอบคุณมากที่ให้ความกระจ่างกระผมเรื่องราวเกี่ยวกับคนอิสราเอลครับ ผมจะต้องไปอยู่กรุง เทลอาวีฟ เพื่อทำ Postdoctoral Research Position เป็นเวลาหนึ่งปี ตอนนี้กำลังมหองหาที่อยู่ ไม่ทราบว่ามีคำแนะนำบ้างมั้ย จากคุณ : ตึ๋ง - [ 27 ส.ค. 50 17:08:11 A:203.148.152.87 X:203.148.138.66, 203.148.138.68 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องที่พักในกรุงเทลอาวีฟนี่ ดิฉันต้องขออภัยที่ไม่สามารถช่วยติดต่อให้คุณได้เนื่องจาก ขณะนี้ดิฉันได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว และดิฉันไม่รู้จักกรุงเทลอาวีฟดีพอที่จะแนะนำสถานที่ดีๆให้คุณได้ ดิฉันคิดว่าคุณควรลองติดต่อสถานฑูตไทยในกรุงเทลอาวีฟดูตามลิงค์ข้างล่างนี้ http://www.mfa.go.th/web/1315.php?depid จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 28 ส.ค. 50 08:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องที่พักในกรุงเทลอาวีฟนี่  ดิฉันต้องขออภัยที่ไม่สามารถช่วยติดต่อให้คุณได้เนื่องจาก  ขณะนี้ดิฉันได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว  และดิฉันไม่รู้จักกรุงเทลอาวีฟดีพอที่จะแนะนำสถานที่ดีๆให้คุณได้ ดิฉันคิดว่าคุณควรลองติดต่อสถานฑูตไทยในกรุงเทลอาวีฟดูตามลิงค์ข้างล่างนี้ http://www.mfa.go.th/web/1315.php?depid=210  เผื่อว่าจะได้คำแนะนำเรื่องที่พักดีๆ  หรือคุณอาจขอร้องให้ช่วยหาพี่พักให้คุณอยู่ชั่วคราวไปสักพักหนึ่งก่อนจนกว่าคุณจะมองหาพี่พักเองได้  ทางเลือกอีกทางหนึ่งก็คือคุณควรคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาของคุณให้เขาช่วยจัดหอพักนักศึกษาให้คุณอยู่ชั่วคราวไปก่อน  เรื่องที่พักนี่ดิฉันว่าคุณน่าจะเป็นผู้เลือกดูด้วยตัวคุณเองจะดีที่สุด  ประการสำคัญคือคุณควรเลือกหาที่พักที่อยู่ในย่านที่ดี การเดินทางสะดวก ไม่ทราบว่าคุณจะไปทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยไหนคะ  เพราะเท่าที่ดิฉันทราบในกรุงเทลอาวีฟจะมี TEL AVIV UNIVERSITY และ BAR ILAN UNIVERSITY  เพราะมหาวิทยาลัยแห่งที่สองนี่จะอยู่ค่อนไปทางตะวันตกของเทลอาวีฟ  คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องหาที่พักในใจกลางเมืองเสียทีเดียว ขอให้คุณเจ้าของกระทู้โชคดีค่ะ จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 28 ส.ค. 50 08:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่งเมล์มาที่ ds_inthai@hotmail.com ได้ใหมคะ พอดีมีเพื่อนที่เป็นอิสราเอลที่นั่นค่ะ เผื่อพอจะช่วยเหลืออะไรได้ จากคุณ : Idel - [ 28 ส.ค. 50 11:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ nan1506 มากครับ จากคุณ : ตึ๋ง - [ 28 ส.ค. 50 16:32:14 A:203.148.152.87 X:203.148.138.66, 203.148.138.68 ]