ความคิดเห็นที่ 1 สถานการณ์เราคล้ายๆกันค่ะ ดิฉันจะไปเรียนต่อเอก ได้ทุนไปค่ะ จะเอาลูกสาว 4 ขวบไปด้วย เลยชวนพ่อไปด้วย(ทำงาน IT เงินเดือนประมาณ 80000 บาท จบวิทยาคอมจากลาดกระบัง อายุ 42 ปี) ถ้าจะไปก็ต้องลาออกจากงานพอจะไปจริงๆ เราก็ออกจะวิตกว่าเราจะไปรอดหรือเปล่า สามีจะไปทำอะไร (เราไปอินเดียนา ได้ Visa J ค่ะ) การไปครั้งนี้มีประโยชน์กับลูก และ สามีหรือเปล่า แล้วพอ 5 ปีเรียนจบกลับมา สามีจะกลับมาทำอะไรที่เมืองไทย คาดว่าคุณ จขกท อาจจะกังวลเรื่องการห่างจากพ่อแม่ของเราเองอีกด้วยใช่ไหมคะ เราสองคนก็เช่นกันค่ะ ครอบครัวเราค่อนข้างสับสนค่ะตอนนี้ ถ้าได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆที่ได้เคยย้ายครอบครัวไปอยู่อเมริกามาแล้ว เช่นคุณคลิค หรือคุณ Smart smile ก็คงจะดีไม่น้อยค่ะ จากคุณ : นักเรียน - [ 25 ก.ย. 50 10:51:34 A:203.131.210.82 X: TicketID:152276 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าหากว่าเป็นตัวผมเอง  จะขอเลีอกสิ่งที่มองเห็นๆครับ แต่ถ้าจะให้ตอบเรี่องอเมริกา เรี่องงานนั้นมันก็แล้วแต่คนครับ  ลองเข้าไปอ่าน jobs section เอาเองนะครับ http://gainesville.craigslist.org/ http://geo.craigslist.org/iso/us/in หรีอเข้าไปอ่านจาก หนังสีอพิมพ์  New York Times หรีอว่า Local Newspaper ของเมีองนั้นๆ  คงจะมีออกมาบ้าง   จากนั้นคุณก็ส่ง resume ไปให้เขา แล้วคอยดูไปแล้วกันว่าจะง่ายหรีอยาก   มันคงจะแล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล เรี่องเช่นนี้  คงประกันออกมาได้ว่า  คุณสมควรจะไปหางานทำได้หรีอไม่  นอกจากเรี่องหางานแล้วคุณคงต้องตั้งต้นทุกสิ่งทุกอย่างให้ตนเอง  เช่นหาที่อยู่   หาถนนหนทาง และจำเป็นมากคีอเรี่องภาษาครับ จากคุณ : hollywop - [ 25 ก.ย. 50 11:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขออนุญาต จขกท. ตอบ คคห. ๑ นะครับ ตอนผมมานั้น ครอบครัวเรามาแบบถอนรากถอนโคน คือออกจากงานประจำทั้งคู่ กะว่าเรียนจบแล้วก็หางานกันใหม่ (อายุยังไม่เท่าสามีคุณ"นักเรียน" ) มาถึง US เราเรียนหนังสือกันทั้งบ้าน ผมทำเอกต่อจากที่เริ่มไว้ที่อังกฤษ ส่วนภรรยา (จบตรีจากไทย) พอมั่นใจเรื่องภาษาก็กลับไปเริ่มเรียนพยาบาล ลูกสองคนก็เข้าโรงเรียน คนโตเข้าเกรด ๓ คนเล็กยังต้อง รอจนอายุพอเข้าอนุบาล พอผมจบ พอดีได้งานถนัดที่เขาขอใบเขียวให้เรา เลยทำงานต่อทั้งคู่เป็นเพื่อนลูกเรียนหนังสือจนคนโตจบมหาวิืทยาลัย ส่วนคุณ"นักเรียน"ลามาเรียน เมื่อจบก็มีงานรออยู่ และขณะนี้สามีมีงานดีมั่นคง   จะใช้ rationale อย่างผมคงไม่เข้าที   สำหรับผม ครอบครัวมาก่อนอื่น ผมจึงตัดสินใจทำอย่างที่ทำไป และคิดว่าตัดสินใจถูก สำหรับสถานะการณ์ของตัวเอง ขอบคุณ จขกท. ที่ให้ใช้พิ้นที่ และหวังว่า คคห. ของผมจะพอมีประโยชน์บ้างครับ จากคุณ : นายคลิค - [ 25 ก.ย. 50 12:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คงต้องแยกออกเป็นสองประเด็นคือ สำหรับคนที่จะไปนาน และคนที่ไประยะสั้นนะคะ ตอบคนจะไประยะสั้นก่อน ต้องถามว่า ภาษาอังกฤษที่จะใช้สื่อสารนั้นดีแค่ไหน อย่าเข้าข้างตัวเองค่ะ เอาเวลาว่างวันนึงไปลองคุยกับฝรั่งจริงๆ ดูว่าคุณคุยกับเค้าเข้าใจแค่ไหน ถามตอบกันเข้าใจหรือเปล่า คุยสองสามคนแล้วลองประเมินสถานการณ์ดู (ผลสอบโทอิคบางคนสูงมาก แต่พูดเอาเข้าจริง ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ) เพราะการไปทำงานต่างประเทศยิ่งสื่อสารได้มาก คุณจะได้งานที่ดี เงินเดือนสูง แต่ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็คงไม่พ้นงานที่ใช้แรงงาน นอกจากว่าคุณจะขนเงินไปทำธุรกิจที่นั่น เปิดร้านอาหาร ขายของบนอีเบย์ หรือเอาของไทยมาขาย หรืออื่นๆ แบบนี้ ภาษาพอสื่อสารได้ก็คงจะพอแล้ว คนไทยติดเรื่องอัตตา (ego) เยอะค่ะ ชั้นเคยทำงานมาเงินเดือนเท่านี้ ไปอเมริกาต้องได้เท่าเดือมหรือมากกว่า ต้องตำแหน่งนี้ๆๆ เท่านั้นไม่งั้นไม่ทำ ต้องขับรถหรูรุ่นนี้ ต้องแต่งตัวดีเริ่ดแบรนด์เนม แต่ลืมไปว่า ถ้าจะไปทำงานต่างประเทศให้ได้ต้องลดอัตตาลงมาอย่างด่วนจี๋ ข้อดีอย่างนึงของอเมริกาคือ การให้โอกาสคนทำงาน ถ้ามีความสามารถทุกอย่างจะตามมาเองค่ะ ทั้งตำแหน่งและการขึ้นเงินเดือน เพราะฉะนั้นคุณเองต้องลองสมัครงานที่อาจจะต้องลดตำแหน่งลงมาพอควร เพื่อการเรียนรู้และปรับตัวกับลักษณะการทำงาน ภาษา และวัฒนธรรมที่แน่นอน แตกต่างกันเกือบจะสุดขั้ว ตย.ง่ายๆ พี่ไทยชอบมาสาย และอ้างเรื่องรถติด น้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมดา แต่ฝรั่งถึงจะแผ่นดินไหว ไฟไหม้ป่า เค้าก็มาทันเวลาหรือก่อนเวลาเสมอ หรือวิธีการตัดสินปัญหาต่างๆที่ฝรั่งจะใช้ common sense และระบบคุณธรรมจริยธรรมเยอะ เช่น ถ้าตำรวจเรียกแล้วรู้ว่าเราเพิ่งมาก็จะใช้วิธีตักเตือน (ถ้าทำผิดไม่รุนแรง) แล้วปล่อยไป หรือการพิจารณาคดีบางอย่างที่ถึงคดีจะคล้ายกันแต่แต่ละบุคคลที่ทำผิดมีมูลเหตุต่างกัน บทสรุปโทษก็ไม่เท่ากัน ขณะที่คนไทยจะใช้ธรรมเนียมปฏิบัติ ใช้กฏหมู่บ้างหรือความชอบพอส่วนตัวมากกว่า สำหรับคุณที่จะไปอินเดียนา เมืองเงียบมากค่ะ งานไอทีอาจจะมีใน Illinois มากกว่า ต้องลองเสิร์ชหาก่อนนะคะ แต่คนอินเดียนาขับรถเข้ามาทำงาน (หลายชั่วโมง) ในชิคาโกก็เยอะทีเดียว (ปล.ไม่ทราบอินเดียน่าส่วนไหนด้วยนะเนี่ย) หางานให้ได้ก่อนค่อยตัดสินใจว่าควรจะไปหรือไม่ไป เพราะ 5 ปีนี่ แป๊บเดียวค่ะ อีกอย่างงานที่ได้อาจจะไม่คุ้มกับที่จะไป บินไปเยี่ยมเอาอาจจะดีกว่า คุณจขกท. โอกาสในการหางานมีมากกว่าเพราะถือวีซ่าถาวรด้วยค่ะ 1. สนับสนุนว่าควรจะไปค่ะ เพราะ ammy เชื่อเรื่องระบบครอบครัวอบอุ่น 2. งานมีเยอะแยะ ถ้าไม่เลือกมาก อายุก็นิดเดียวเองค่ะ ลดอีโก้ลงหน่อย เขียนเงินเดือนเป็น N/A (Negotiate) ลดตำแหน่งที่มองๆ ไว้ลงซักขั้น สองขั้น ถ้าเค้าได้พิสูจน์แล้วว่าคุณทำได้จริง รับรองว่ามันจะก้าวกระโดดนะคะ บอกตัวเองว่าอืม ยอมลดลง ขอเวลาปรับตัวเรียนรู้ซัก 6 เดือน คุณทำได้อยู่แล้วค่ะ 3. เริ่มต้นต้องเช็คก่อนค่ะ ว่าคุณจะไปอยู่จุดไหน ฟลอริด้าฝั่งติดมหาสมุทรแอตแลนติค พายุเฮอริเคนเข้าทุกปี ปีละเดือน เข้าทีนี่เป็นเรื่องทุกทีค่ะ (นึกถึงพายุเฮอริเคนแคทรีน่าที่ผ่านฟลอริด้าไปเข้านิวออร์ลีน) แต่ระบบเตือนภัยที่นี่ดีกว่า พังแต่บ้านค่ะ แล้วก็ทั่วๆ ไปค่ะ อ่านในบล็อคได้ 4. ควรอย่างยิ่งค่ะ เตรียมตัวท่อง idioms และ american slang (เป็นสำนวนที่ใช้ประจำวันค่ะ อย่ามองในแง่ลบ) ฝึกพูด ฝึกฟัง ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ได้เลย ทักษะทางภาษาไม่มีรอใคร 5. ใช้ google อย่างเดียวเลยค่ะ www.maps.google.com จะบอกตำแหน่งได้อย่างละเอียด ซูมได้ถึงหลังคาบ้านด้วยซ้ำ ลองดูนะคะ ข้อมูลการใช้ชีวิต อ่านในบล็อค ammy นะคะ http://ammyweb.spaces.live.com โชคดีค่ะ จากคุณ : ammy - [ 25 ก.ย. 50 12:59:31 A:61.7.175.161 X: TicketID:130376 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่าน  เพราะได้อ่านความเห็นที่น่าสนใจ  และมีประโยชน์ทั้งสิ้น จากคุณ : Detente (Detente) - [ 25 ก.ย. 50 14:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภรรยาจำเป็นต้องไป อายุ 35 ไม่มาก คุณก็ขอใบเขียวได้ มีความรู้ทางวิศวกรรม สามปีให้หลัง เรียนภาษาดีๆ เงินเดือนสองเท่าของเมืองไทย น่าจะไม่ยากเลย จากคุณ : อิสวาสุ - [ 25 ก.ย. 50 16:47:21 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ามีกรีนการ์ดก็น่าจะมานะคะ เพราะ "ครอบครัว" ควรอยู่ด้วยกัน (ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่)...มาแล้วก็ให้เวลากับตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะเริ่มทำงานด้วยการไปเรียนปรับปรุงเรื่องภาษา... เห็นด้วยกับคุณ ammy ค่ะ... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 25 ก.ย. 50 21:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตอบคุณ คห.1 นะครับ อย่าคาดหวังว่าจะได้งานอย่างที่เราต้องการง่ายๆ ตลาดไอที ที่นี่ตอนนี้ไม่บูม หางานค่อนข้างยาก ผมมาตอน 36(9ปีที่แล้ว) ตำแหน่งบริหารแล้ว ตอนนั้นเงินเดือนก็ประมาณสามีคุณ มาที่อเมริกาต้องทำงานเสริฟเกือบปี แล้วก็ได้งานเป็นโปรแกรมเมอร์ ตอนนี้ก็ยังทำโปรแกรมเมอร์อยู่ ลูกน้องที่ทำงานที่เมืองไทยตอนนี้เงินเดือนเท่าผมที่ทำอยู่ที่นี่ ยังนึกเสียใจเหมือนกันว่ามาทำไม แต่ก็กลับไปไม่ได้แล้ว คงไม่มีใครจ้างคนแก่ทำงาน คงต้องทนอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าคิดว่า จะกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย เพราะคุณมาเรียน ไม่ได้ใบเขียว จบแล้วไม่รู้ว่าจะหางาน เพื่อขอใบเขียวได้หรือเปล่า แยกกันสักพักดีกว่าครับ จากคุณ : JowMoo - [ 25 ก.ย. 50 22:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องถามก่อนว่าถ้าภรรยาเรียนจบแล้ว วางแผนที่จะใช้ชีวิตที่อเมริกาถาวรหรือเปล่า เพราะตอนนี้คุณได้กรีนการ์ดแล้ว ถ้าจะอยู่อเมริกา ก็ควรจะมาทั้งครอบครัวเลย แต่ก็ต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งที่นี่กันใหม่ ใจคุณสู้ไม๊ ถ้าสู้ ก็ go for it ค่ะ แต่ถ้ายังมีห่วงที่เมืองไทย เช่น พ่อแม่ ที่ต้องดูแล คิดว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทยหลังภรรยาเรียนจบ หมูหวานว่าอาจจะ แยกกันสักพัก ให้ภรรยาไปเรียนคนเดียว ถ้าเอาลูกไปด้วยจะกลายเป็นห่วงหน้าพะวงหลัง ให้เค้ามุ่งไปด้านเรียน อย่างเดียวน่าจะดีกว่า ส่วนคุณกับลูกสาว อยากจะมาเยี่ยมเมื่อไหร่ก็มาได้ค่ะ เพราะคุณมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ที่เมืองไทยอยู่แล้ว ถ้าไปอเมริกาแล้วย้ายกลับมาเมืองไทยในหลายปีข้างหน้า อายุก็มากจะทำให้หางานทำยากค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 25 ก.ย. 50 23:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณนักเรียนคะ สถานการณ์คุณไม่คล้ายกับคุณ Tony นะคะ คุณ Tony ได้วีซ่าถาวรของอเมริกา ภรรยาเป็นอเมริกัน เขามีสิทธิอยู่และทำงานที่อเมริกาได้ แต่คุณได้ทุนไปเรียนต่อเอก ได้ Visa J1 คุณต้องกลับมาใช้ทุนเมืองไทย ต่อให้เรียนจบ หางานได้ คุณก็อาจจะอยู่อเมริกาต่อไม่ได้ เพราะวีซ่าคุณจะติดกฏต้องกลับบ้านก่อนสองปี (2 years HRR) จึงจะขอวีซ่าทำงานได้ การขอ waive ในกรณีนักเรียนทุนอาจทำได้แต่ไม่ง่าย (คิดว่ายากค่ะ) คุณต้องใช้ทุนคืนด้วย ดังนั้นคุณต้องคิดเผื่อเวลากลับมา สามีจะหางานได้หรือไม่ (ถึงตอนนั้นสามีจะมีอายุประมาณ 42+5 ปี) หรือจะมีกิจการของตัวเอง เห็นด้วยค่ะว่าครอบครัวควรจะอยู่ด้วยกัน การแยกกันอยู่นานถึง 5 ปี เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะสามีคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นลูกเติบโต ถ้าภรรยาเรียนหนัก เครียด การดูแลลูกคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องสนุก เอาเป็นว่าจบกลับมาแล้วงานของภรรยามั่นคงพอที่จะเลี้ยงครอบครัวไหวไม่คะ ถ้าหากสามีกลับมาแล้วหางานที่ดีเหมือนเดิมไม่ได้น่ะค่ะ มันก็คงต้องเสียสละกันไปข้างหนึ่งถ้าจำเป็นนะ หรือไม่คุณก็ต้องยอมสละเรื่องเรียนต่อเมืิองนอก หาที่้เรียนในเมืองไทย แล้วหาโอกาสไปฝึกงานเมืองนอกแทน ระยะ้เวลาก็จะสั้นลงหน่อย คุณจะไปเรียนด้านไหนล่ะคะ เมืองไทยมีให้ต่อเอกไหม ถ้าไปทั้งครอบครัวแล้วโชคดี คือุถ้าสามีคุณไปแล้วหางานเสริมที่อเมริกาได้ เก็บเงินได้ ก็จะช่วยได้เยอะ แต่มันก็ขึ้นกับเมืองที่คุณจะไปอีก ว่าจะหางานได้ไหม เมืองเล็กก็อาจจะหางานยากกว่าหน่อย เราเห็นเพื่อนคนจีนที่ตอนนี้กำลังเรียนเอกอยู่ที่ Texas สามีเขา (คนจีนเหมือนกัน) ตามมา้เรียน และจบโทด้านคอมพิวเตอร์มาสองปีแล้ว ยังหางานไม่ได้เลยค่ะ ต้องไปทำงานส่งอาหารตามสั่ง เขาก็บ่นอยู่เหมือนกัน เราก็ไม่รู้จะว่ายังไง ได้แต่เอาใจช่วย สามีเพื่อนชาวสโลเวเนียอีกคนที่อยู่ที่ UIUC ก็ไม่มีงานทำ ทั้งที่ได้ Green card lotto มา ต้องไปทำงานร้านอาหารเหมือนกัน ภรรยาที่ทำงานเป็น post doc. ก็ต้องเป็นหลักให้ครอบครัวค่ะ ขอเอาใจช่วยให้ครอบครัวคุณโชคดีนะคะ จากคุณ : สมศรี - [ 26 ก.ย. 50 01:39:19 A:82.208.11.3 X: TicketID:128994 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาดูด้วย เอจะโดนลบอีกมั้ยเนี่ย/ ถ้าไประยะสั้น กลับมาคงไม่เหมือนเดิม  ให้เขาไปก่อนแล้วเราไปเยี่ยมและดูช่องทางก่อน เคสนี้ไม่น่าเสี่ยงเพราะเงินเดือนมากแล้ว เหนื่อยคับ..... จากคุณ : D-ZAD. (D-ZAD.) - [ 26 ก.ย. 50 07:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ้า มาช้าดีกว่าไม่มา ไม่รู้ว่าคล้ายกับผมหรือเปล่า แต่เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นหลาย ๆ ท่าน เอ้า ของผมบ้าง ผมจบวิศวะ ครี/โท ที่เมืองไทย ทำงานส่วนตัวรายได้ดีมาก และภรรยาทำพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนสุขุมวิท 49 มีลูชายอายุ 4 ขวบ (ขณะนั้น) เมื่อธุรกิจถึงขาลงตามวัฎจักร ประกอบกับเคยฝันอยากเรียนต่อที่เมกา ก็เลยหาเป้าหมายร่วมกันในครอบครัวคือ ภรรยาสามารถทำงานพยาบาลและได้ greencard ส่วนลูกชายได้เรียนฟรี ได้สองภาษาซึ่งจะมีประโยชน์มากในอนาคต .ซึ่งผมไม่มีปัญญาส่งเรียนโรงเรียน Inter ที่กรุงเทพได้ น่าจะเป็นการให้อนาคตที่ดีกับลูก ส่วนผมก็จะเรียนต่อ ป.เอก ตอนนี้ภรรยาผมได้ greencard แล้ว ส่วนผมและลูกชายยื่นเรื่องไป ไม่นานก็คงได้ ผมคิดว่าถ้าหาเป้าหมายร่วมกันทั้งครอบครัวได้อย่างลงตัว ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ง่าย บ้างครั้งจะต้องมีบางคนปรับเปลี่ยนหรือเสียสละบ้าง ถ้าคุณอยากอยู่ร่วมกันซึ่งผมว่าชีวิตครอบครัวน่าจะสำคัญที่สุด ผมว่าคุณอาจต้องเสียสละบ้างโดยการปรับชีวิตการทำงานใหม่ อาจโดยการมาเรียนต่อ ป.โทหรือเอก แล้วค่อยหางานทำ ซึ่งงานในอนาคตอาจจะดีกว่าปัจจุบันก็ได้ เป้าหมายของครอบครัวผมก็อย่างที่ว่า ย้ายมาเมกาถาวร เพื่อ เมคมันนี่ แล้วบั้นปลายกลับเมืองไทย อาจนำความรู้ไปสอนหนังสือต่อไปได้ ปัจจุบันผมยังไม่ได้เรียนต่อ เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกระหว่างภรรยาทำงานและระหว่างรอ greencard เป็น Mr. Mam ขณะเดียวกันเตรียมสอบ Toefl และ GRE ไปในตัว คุณอาจจะต้องตกที่นั่งเดียวเหมือนผมก็ได้นะ ปล. ฟอริด้า อากาศดีน่าอยู่ พายุเยอะ แหะ ๆ จากคุณ : Smart Smile - [ 26 ก.ย. 50 10:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณบอกงานคุณก็ดี เงินเดือนก็ดูไม่ใช่น้อยๆ ถ้าคุณมีความสุขกับที่คุณมีอยู่ก็ลองคิดดูว่าจะอยากเสียสิ่งที่มีอยู่ ไปหาสิ่งที่ยังมองไม่เห็น หรือเปล่า ดิฉันไม่ทราบสถานภาพทางการเงินของภรรยาคุณ ถ้าเขามาเรียนแล้วต้องดูลูกด้วย คนเดียวนี่หนักมากนะคะ 4 ขวบ ลูกคุณก็เข้าเรียน อะไรไม่ได้จนกว่าจะ 6 ขวบ เข้าเรียนอนุบาล public ก็ได้ครึ่งวัน อยากเรียนเต็มวันต้องเสียเงินเพิ่ม อันนี้เป็นแถว SW ที่ดิฉันอยู่นะคะ คิดว่าไม่ต่างไปจากฝั่ง East ที่ Florida อย่างไร เพราะเมกาก็จะมี standard เรื่อง รร เหมือนกันเกือบทุกที่อยู่แล้ว ชั่งใจดูให้ดีๆ ถ้าอยากจะอยู่ร่วมกันแบบร่วมหัวจมท้าย แบบ เอาละโว้ย ตายเป็นตาย ซึ่งแน่ใจว่าคุณไม่ตายแน่ๆค่ะ เพราะขี้หมูขี้หมาคุณก็มีใบเขียวแล้ว อาจจะลำบากหน่อย แต่ครอบครัวก็ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอให้โชคดี จากคุณ : PatPDX - [ 26 ก.ย. 50 11:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอตอบหัวข้อ การใช้ชีวิตในอเมริกา สำหรับผู้อพยพไปอยู่ใหม่จ้ะ ข้อสาม ที่ถามถึง ข้อมูลขั้นเริ่มต้น ในการไปอยู่ที่อเมริกา ควรทำอะไรบ้าง? ตอบ สำหรับคนที่มีใบเขียวแล้ว เหมือนกับสถานภาพได้ช่วยตัดสินใจให้ แล้วเกินร้อยละหกสิบ ที่เหลือเกี่ยวกับครอบครัว กรณีของคุณนับว่าพร้อม ในทางสถานภาพและแนวโน้มความก้าวหน้าทางการศึกษา ที่ยังขาดเพียง ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและเรียนรู้วัฒนธรรมผสมของสังคมอเมริกัน ระยะต้น ทุกคนที่มาใหม่ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม สิ่งแปลกตาและ ผู้คนที่ใช้ภาษาสากลในการสื่อสาร สิ่งจำเป็นอย่างแรกคือหาที่พักอาศัย เมื่อไปถึงแล้ว คุณจะมีคำถามล้านแปด โน้นนี้นี่นั่น ทำอย่างไร ติดต่อใคร ไม่ต้องห่วงเลยจ้ะ เพราะระบบบริการข้อมูลของรัฐ เค้าน์ตี้ และเมืองมีพร้อม คุณ ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ต้องเป็นผู้ดำเนินการหลายอย่างให้ครบถ้วน ปากท้องเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นต้องเรียงลำดับสิ่งจำเป็นอย่างที่หนึ่งคืออาหาร การโยกย้ายถิ่นฐาน จะประทับใจหรือไม่ในช่วงแรกก็อยู่ตรงเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ หาที่พักในย่านที่ไม่ห่างจากตลาดการค้าเกินไป แต่ไม่ถึงกับหนาแน่นแออัด ก้าวที่สอง เรียนรู้ระบบการคมนาคมในละแวก การเดินทางไปยังสถานติดต่อ ที่จำเป็น เช่น สำนักงานประกันสังคมท้องถิ่น(เพื่อขอหมายเลขประกันสังคม) ธนาคาร เพื่อเปิดบัญชี และเริ่มหายานพาหนะ ช่วงแรกใช้ใบขับขี่นานาชาติ แต่ควรเร่งสอบใบขับขี่โดยเร็วที่สุด พร้อมกับหายานพาหนะคู่ชีพหนึ่งคัน ก้าวต่อไป หางาน...ซึ่งอาจคาดหวังไม่ได้ และอาจจะได้ดีอย่างที่คาดไม่ถึง ใช้สื่อต่างๆให้เป็นประโยชน์ ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และบริการทางเน็ท ในประเทศนี้ ทุกเมืองมีห้องสมุดสาธารณะมีแหล่งข้อมูลในทุกเรื่องทุกหัวข้อ คุณต้องเตรียมตัวหลายประการในการสมัครงาน แต่อุ่นใจได้เพราะมีวิชาชีพ มีประสบการณ์ มีคุณวุฒิ และมีสถานภาพอยู่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ครบ การพัฒนาศักยภาพทางภาษา เรียนในสถาบันประจำท้องถิ่นสำหรับผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกัน เรียนรู้เรื่องการดำรงชีวิตในเขตเมืองนั้น โดยสัมผัสชีวิตจริง และไม่ว่าจะมีข้อขัดข้องทางเทคนิคหรือทางธรรมชาติก็ตามอย่าท้ออย่ากลัว ทุกคนผ่านมาแล้วเหมือนกันหมด วันคืนอันยาวนานที่แสนเหนื่อยล้า..เหงา.. แต่เป้าหมายของชีวิต อยู่ในใจคุณ คุณรู้ว่า คุณต้องการประสบการณ์ตรงนี้ มองภาพรวม คุณต้องเหนื่อยพิเศษ เพราะมากันสาม ไหนจะเรื่องสมัครงาน ไหนจะคู่สมรสและลูกสาวเข้าโรงเรียน ใจเย็นๆนะจ๊ะ ปัญหามารอให้แก้แน่ๆ แต่ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณต้องการจะสร้างครอบครัวให้อบอุ่นที่นี่ ก่อนจะจากเมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนและญาติมิตร คนที่รัก ดูเหมือนว่า เหมือนเดินไปสู่ความว่างเปล่า ใช่ไหม..คุณกังวลไม่รู้ว่าคนที่จะไปพบคือใคร ไม่แน่ใจหางานจะได้มีรายได้พอเลี้ยงสามชีวิตได้ดีหรือเปล่า ตรงที่จะไปอยู่ มีอะไรให้ทำ แล้วไปอยู่ต่างถิ่นไกลสุดโพ้นฟ้า ถ้าอ่อนล้า ล้ม จะมีเพื่อนไหม ใครจะช่วยคุณ...คำตอบ คุณ จะเป็นผู้ช่วยตนเองจ้ะ โดยรับคำปรึกษาต่างๆ ได้จากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เขาจัดไว้สำหรับปัญหาเฉพาะด้าน เฉพาะทาง อาจต้องผ่านขั้นตอน อดทน อดกลั้น และกัดฟัน เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคสารพัด แต่รับรอง ว่าไม่ยากเกินขีดความสามารถของคนที่มุ่งมั่น รู้จุดหมายของตน เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจ ขอให้คุณเตรียมพร้อม ศึกษาระบบวิถีอเมริกัน ทั้งในแง่การปกครองการเมือง และข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผู้อยู่ถาวรใหม่ สำนักงานอิมมิเกรชั่น ของสหรัฐฯ ได้ทำแฟ้มข้อมูลไว้ให้ ในทุกหัวข้อสำคัญ นับตั้งแต่เริ่มเข้าไปอยู่อาศัย จะติดต่อหน่วยงานใดเพื่อขอคำแนะนำทุกกรณี ในแฟ้มดังกล่าว มีครบ ทั้งระบบการศึกษา ทุกระดับ การหางาน สมัครงาน การเขียนใบแสดงประวัติการทำงาน และรวมทั้งการทำประกันสุขภาพด้วย การหาบ้าน ซื้อบ้าน การทำสัญญาเช่า ข้อควรระวังในด้านความปลอดภัย ระบบการรักษาพยาบาล การได้รับสิทธิพิเศษ สำหรับครอบครัวรายได้ต่ำ และแม้กระทั่งเรื่องการเปิดบัญชีธนาคาร ความรู้เรื่องระบบภาษี ทุกประเภท รายละเอียดทั้งหมดของการทำประกันสังคม ประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคต ที่สำคัญ การรักษาสถานภาพผู้ถือใบเขียว สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบต่างๆ เช่น ต้องแจ้งที่อยู่เมื่อโยกย้าย และข้อพึงปฏิบัติหากเดินทางออกนอกสหรัฐฯ รวมทั้งข้อมูลของการยื่นขอแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกันทุกขั้นตอน เอกสารต้นฉบับภาษาอังกฤษ ต่อมามีผู้แปลสรุปใจความภาคภาษาไทยด้วย อย่างไรก็ตาม แนะนำให้อ่านทำความเข้าใจภาษาอังกฤษ เพราะต้องใช้ที่นี่ FYI:  A Guide for New Immigrants (USCIS : M-618) Link--->http://www.uscis.gov/files/nativedocuments/M-618.pdf ในส่วนท้ายนี้ เราได้ค้นข้อมูลเมือง Gainesville, Florida มาให้เพิ่มเติม อ่านแล้วคุณคงสบายใจขึ้นบ้าง เพราะว่ามีแหล่งยืนยันเรื่องสถาบันศึกษาดีๆ เมืองนี้ มี Community College และมหาวิทยาลัยเด่นๆที่มีชื่อเสียงบางแห่ง ทำเลอยู่ห่างจากแอตแลนต้าและไมอามี่ อย่างละห้าชั่วโมงในการเดินทาง อ่านรายละเอียดการคมนาคมและประวัติที่น่าสนใจ ในสารานุกรมวีกิพีเดีย Link--->http://en.wikipedia.org/wiki/Gainesville,_Florida Quote: * Gainesville is the largest city and county seat of Alachua County, Florida. Gainesville is home to the University of Florida, the largest university of the State University System of Florida and the third-largest university in the United States. *Santa Fe Community College, one of the nation's largest community colleges, is also located in Gainesville. Gainesville is one of the southernmost cities in the United States where deciduous trees predominate, and has been recognized every year since 1982 as a "Tree City, USA". There are deciduous trees farther south, but they are not as abundant as they are from Alachua County northward. The city is also an important way station for automobile travelers, as it is located nearly midway between Atlanta and Miami, five hours from each.       เอาใจช่วยให้ลงหลักปักฐานในที่ใหม่ได้เจริญจ้ะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 14:58:49 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 26 ก.ย. 50 14:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ได้อ่านความคิดเห็นและคำแนะนำของทุกๆท่านแล้ว ขอบคุณมากๆนะคะ ดิฉันชอบความเห็นของคุณ Smart smile ที่ว่า "ผมคิดว่าถ้าหาเป้าหมายร่วมกันทั้งครอบครัวได้อย่างลงตัว ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ง่าย บ้างครั้งจะต้องมีบางคนปรับเปลี่ยนหรือเสียสละบ้าง ถ้าคุณอยากอยู่ร่วมกันซึ่งผมว่าชีวิตครอบครัวน่าจะสำคัญที่สุด ผมว่าคุณอาจต้องเสียสละบ้างโดยการปรับชีวิตการทำงานใหม่ อาจโดยการมาเรียนต่อ ป.โทหรือเอก แล้วค่อยหางานทำ ซึ่งงานในอนาคตอาจจะดีกว่าปัจจุบันก็ได้" ครอบครัวเราคงต้องตัดสินใจเร็วๆนี้ และคิดว่าคงเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน ถ้าไปก็ไปทั้งหมด ถ้าไม่ไปแม่ก็ต้องสละทุนแล้วเรียนที่เมืองไทยแทน ขอบคุณ จขกท สำหรับเนื้อที่ในกระทู้นะคะ และขอให้โชคดีกับการตัดสินใจครั้งนี้ค่ะ จากคุณ : นักเรียน - [ 27 ก.ย. 50 10:48:45 A:203.131.210.82 X: TicketID:152276 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราอยู่ฟลอริด้า เมืองใกล้ๆกับ Gainsville ค่ะ เมือง Gainsville เป็นเมืองมหาลัยค่ะ ห่างจาก Orlando ประมาณชั่วโมงสองชั่วโมง งานไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ ถ้ามาหางานคงต้องใช้เวลาหน่อย แต่เป็นเมืองที่ดีอีกเมืองนึงสำหรับการอยู่อาศัยและเรียนหนังสือนะคะ ไม่พลุกพล่านแบบไมอามี นิวยอร์ค อะไรแบบนี้ จากคุณ : มิมิมิมิมิ - [ 28 ก.ย. 50 02:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มีใบเขียวก็ไปเถอะครับถ้ากังวลเรื่องงานก็ไปเรียน นวดแผนไทย (ถ้าไดัหลักสูตร 800 ชั่วโมงจากกรมพัฒนาก็จะดี) ไม่ตัองกลัวไม่มีรายได้ พอได้งานวิศวะก็หยุด แต่เพื่อนผมทำส่วนตัวได้ประมาณ $5,000-$6,000 ต่อเดือน ผมว่าครอบครัวน่าจะอยู่ด้วยกัน จากคุณ : Tom - [ 3 ต.ค. 50 01:39:52 A:125.27.118.37 X: ]