ความคิดเห็นที่ 1 ในช่วงการซื้อขายหลายปีที่ผ่านมา month supply ของบ้านมือสองอยู่โดยเฉลี่ยที่  4.5 (ปี 2002-2005) ซึ่งถือว่าต่ำมาก month supply ตัวนี้คือตัววัดว่าตลาดจะใช้เวลากี่เดือนในการระบาย inventory หรือ active listings ของบ้านที่รอการขายในตลาด ใน balance market นั้น month supply จะอยู่ที่ประมาณ 6 (แต่ละlocal markets อาจแตกต่าง) ฉะนั้น 4.5 ถือได้ว่าบ้านที่เอาเข้าตลาดไปขายได้เร็วมากโดยเฉลี่ยภายใน 4.5 เดือน เมื่อมี demand ของบ้านมากผู้ก่อสร้างต่างๆก็สร้างบ้านออกมามากมาย ตัวเลข housing starts สูงมากๆในช่วง housing boom แต่ตัวเลข housing starts สูงที่สุดในปี 2006 ซึ่งเป็นช่วงขาลงของการซื้อขายบ้านแล้วซึ่งเป็นปัญหาบ้านค้างตลาดในภายหลัง ราคากลางของบ้าน median price of existing home sales ระหว่างปี 2002-2006 โตขึ้น 35% (รวม U.S.) • โตขึ้น 52% ในตลาด Northeast region (ซึ่งมีรัฐ Connecticut, Maine, Massachusetts, New Hampshire, New Jersey, New York, Pennsylvania, Rhode Island) Vermont) • ใน ตลาด West region โต 49% (ซึ่งมีรัฐ Alaska, Arizona, California, Colorado, Hawaii, Idaho,Montana, Nevada, New Mexico, Oregon, Utah, Washington,Wyoming) (นำโดย CA, AZ, NV) • โตขึ้น 25% ใน South region (ซึ่งมีรัฐ Alabama, Arkansas, Delaware, District of Columbia, Florida, Georgia, Kentucky, Louisiana, Maryland, Mississippi, North Carolina, Oklahoma, South Carolina, Tennessee, Texas, Virginia, West Virginia) จริงๆแล้วตลาด FL โตเป็นกว่า 100% (เท่าตัว) ในบาง local market • โตขึ้น 20% ใน Midwest region (ซึ่งมีรัฐ Illinois, Indiana, Iowa, Kansas, Michigan, Minnesota, Missouri, Nebraska, North Dakota, Ohio, South Dakota, Wisconsin) ดูรวมๆเป็นรายภาคเหมือนไม่มาก แต่จริงๆแล้วถ้าดูกันตาม metropolitan areas แล้วบางแห่งโดยเฉพาะ CA กับ FL markets โตกันกว่า 100% เลย จากคุณ : Hotlver - [ 27 ก.ย. 50 04:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สถานการณ์ปัจจุบัน ในช่วง housing boom ตลาดบ้านมีทั้งผู้ซื้อเก็งกำไร (investors) และผู้ซื้อเพื่ออยู่เอง (owner occupied) หรือซื้อมาอยู่เองแป๊บนึงแล้วก็ขายไป ในตลาดที่มี investors เยอะมากๆ (คาดว่ากว่าครึ่งของตลาดเป็น investors) ตลาดก็จะมีการปรับตัวลงมากเมื่อผู้เก็งทำไรทั้งหลายออกไปและนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2006 ที่การซื้อขายของบ้านมือสองตกลง -8.5 % จากปีก่อน แต่สถานการณ์เริ่มแย่ลงในปีนี้ 2007 เพราะมีตัวเหตุอีกตัวมาบรรเลงด้วย นั่นก็คือ credit market และ sub-prime loans ทั้งหลายที่เริ่ม reset นั่นเอง   ปัญหาในตลาดบ้านที่มาจาก sub-prime มีผลกลายเป็นหนี้เน่า delinquency และ default  rate สูง ประมาณได้ว่า sup-prime ประมาณได้เป็น 20% ของ loan ทั้งหมด มีประมาณ 5% ของ 20% นั้นการเป็น foreclosures (ธนาคารยึดบ้าน) ซึ่ง foreclosure rate นี้ยังทำท่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ  ปัญหานี้ส่งผลให้มีมาตราฐานการปล่อยกู้ยากขึ้น (tighter credit standard) ทำให้ผู้สนใจซื้อบ้านรายใหม่ๆที่มีกำลังพอซื้อไม่สามารถกู้ได้ จำนวนผู้ซื้อลดลง ที่สำคัญผู้ที่สนใจที่จะซื้อบ้านในเวลานี้กำลังรอราคาของบ้านที่มีแนวโน้มว่าจะต่ำลงกว่าที่เป็น ปัญหา irresponsible lending นี่ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ซื้อบ้าน แม้แต่ตัว mortgage companies เองก็พังกันเยอะเพราะหนี้เน่า ผลกระทบมีไปถึงตลาดเงินลงทุนเพราะเงินที่เอามาปล่อยกู้เหล่านี้ก็คือ private capital มาจากนักลงทุนใน Wallstreet นั่นเอง ได้ข่าวว่านักลงทุนจากจีนโดนหางเลข sub-prime ไปโขเหมือนกัน ปัญหาบางส่วนมาจาก Jumbo loan หรือ loan ที่จำนวนเงินให้กู้สูงมากๆส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาดแพงๆเช่น California ซึ่งผู้กู้ jumbo loan ซื้อบ้านแพงๆมักเป็นคนมีเงินและความรู้ ในตลาดที่ผกผัน jumbo loan ไม่ได้รับความนิยม แถมในส่วนของแหล่งเงินกู้ ก็มีน้อยลงเพราะเป็น loan ประเภษที่ Fannie Mae and Freddie Mac ไม่รับประกัน จึงไม่เป็นที่นิยมกันในหมู่ตลาด bond market  (แหล่งเงิน) เป็นปัญหาให้ jumbo loan มีดอกสูง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับตลาดบนแพงๆเช่น CA การตีข่าวของสื่อมวลชนที่มีผลต่อสภาพความเชื่อมั่น (Consumer Confidence) ซึ่งเรียกว่าเป็นหนึ่งใน  psychological factors ที่ทำร้ายตลาดบ้านอยู่เวลานี้ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบทำให้มีการซื้อขายน้อย  inventory เหลือเต็มตลาด month supply สูงถึง 10 ในเดือนสิงหา ราคากลางของตลาดหลายๆตลาดอ่อนตัวลง ใน quarter ที่สองของปีนี้ลดลง -1.5% จากปีที่แล้วและมีทีท่าที่จะอ่อนตัวลงอีกเนื่องจาก supply ที่สูงแต่ demand ต่ำ จากคุณ : Hotlver - [ 27 ก.ย. 50 04:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Silver Linings ความหวังของตลาดบ้านยังไม่หมดไป อาทิตย์ก่อน (18 กันยา) Federal Reserve ลดดอกเบี้ย federal funds rate อีกหลังจากที่ลดดอกเบี้ย discount rate เมื่อไม่นานมานี่ ก็นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับ Wallstreet ที่เบิกบานกันทั่วหน้า ตลาดหุ้นที่เก็งกำไรกันมาหลายอาทิตย์ก็พุ่งทะยานกันเข้าไปอีกซึ่งก็จะเป็นผลดีกว่าเศรษฐกิจ แต่ยังมีอีกหลายๆฝ่ายที่สงสัยกันว่า Fed ทำถูกต้องแล้วเหรอ?? เพราะหนี้เน่าจาก sub-prime เป็นผลจากการปล่อยกู้ที่ไม่รับผิดชอบของบริษัท mortgage นักวิเคราะห์บางคนบอกว่าเป็นการช่วยเหลือคนรวยทางอ้อมหรือเปล่า? แต่ในมุมมองของนักวิเคราห์อีกกลุ่มถึงได้ว่าเป็นทางออกที่ดีเพราะเมื่อดอกเบี้ยต่ำลงการ refinance ก็ทำได้ผลขึ้น รัฐบาล Congress กำลังดำเนินการเรื่อง FHA (Federal Housing Administration) loan reform การกู้ mortgage มีหลายแบบหนึ่งในนั้นก็คือ FHA financing ซึ่งเป็น loan ที่ดอกเบี้ยถูกและมี HUD (Housing and Urban Development) หนุนหลัง ซึ่งการ reform นี้จะทำให้ limit ของ FHA loan มากขึ้น (กู้ได้มากขึ้น) มีเงินดาวน์น้อยลง ปัจจุบันอยู่ที่ 3% จ่ายได้นานขึ้นถึง 40 ปี credit ไม่ต้องสวยงามมาก และจะเข้าถึงชนชั้นรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง หากกฏหมายตัวนี้ผ่านจะช่วยผู้ซื้อบ้านได้มากอย่างแน่นอน มีการสนับสนุนให้ refinance โดยใช้ FHA loan มากขึ้น ในช่วงการซื้อบ้านผู้ซื้อบางคนไม่ได้รับการแนะนำให้ใช้ loan ตัวนี้เพราะ paper work ในการดำเนินเรื่องยุ่งยากและไม่เป็นที่นิยมของ mortgage loan officer เพราะต้องการให้ case แต่ละ case จบเร็วๆเพื่อให้ได้ไปบริการลูกค้าอื่น การ refinance ด้วย FHA loan จะช่วย sub-prime borrowers ได้มาก Fundamentals อื่นๆอยู่ในช่วงที่นับว่าดีเช่น payroll employment ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของการซื้อขายบ้าน ใน 12 เดือนที่ผ่านมามีงานใหม่เข้าระบบถึง 1.6 ล้านงาน housing starts เริ่มลดลงซึ่งก็หมายความว่า inventory ของบ้านปลูกใหม่ก็จะเข้าระบบน้อยลง  housing permit ซึ่งเป็นดัชนีตัวบ่งชี้ว่าจะมีบ้านสร้างใหม่มากน้อยแค่ไหนก็ลดลง เป็นที่สังเกตุด้วยว่า new home listings คือบ้านมือสองที่ผู้ขายเอาเข้าตลาดมีน้อยลงและต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี inventory ในปัจจุบันนับได้ว่าเป็นของเหลือมาจากเดือนก่อนๆที่ขายไม่ออก เชื่อว่าตอนนี้มี “pent-up demand” พอสมควรในตลาด ในเศรษฐกิจที่มีตลาดงานดี มีการ relocate บวกกับการสร้างครอบครัวการแต่งงาน (ซึ่งนับได้ปีละ 2 ล้านงาน) มีเด็กที่เกิดใหม่ปีละประมาณ 4 ล้านคน ตลาดมีผู้ซื้อมากมายรออยู่ต่างก็อันไว้รอราคาบ้านให้ขยับต่ำไปกว่านี้ ซึ่งก็หมายความว่าเมื่อไหร่ public perception คิดว่าเป็นจุดต่ำสุดของตลาด demand ในการซื้อบ้านก็จะเพิ่มขึ้น ปัญหาก็คือยังไม่มีใครเดาได้ว่า “rock bottom” นั้นอยู่ตรงไหน? นักวิเคราะห์บางคนบอกปลายปีนี้บางคนว่าปีหน้าบ้างก็ว่าถึง 2009 อันนี้ยังไม่มีใครกล้าฟันธง จากคุณ : Hotlver - [ 27 ก.ย. 50 04:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มารออ่านค่ะ... โดนเลคเช่อร์เรื่องนี้ทุกวัน  เนื่องจากพ่อบ้านอยู่ในแวดวง Real Estate แต่เห็นราคาบ้านใน CA แล้ว อยากย้ายรัฐหนีไปที่อื่นจริงๆ ค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 27 ก.ย. 50 04:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาอ่านค่ะ. จากคุณ : The Zephyr - [ 27 ก.ย. 50 05:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะคุณLawanwadee  และคุณHotlver ..... เข้ามาอ่านอย่างตั้งใจค่ะคุณครู ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : แม่ขา - [ 27 ก.ย. 50 05:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข่าวบอกว่าอีกสองปีhouse market จะต่ำลงมากๆ ตอนนี้เครียดเลยค่ะ เพิ่งสร้างบ้านไปด้วย จากคุณ : Wrath - [ 27 ก.ย. 50 05:27:55 A:75.86.161.48 X: TicketID:114883 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Thank you. จากคุณ : PatPDX - [ 27 ก.ย. 50 05:37:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาอ่านค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 27 ก.ย. 50 06:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมาก ๆ ครับ  สำหรับข้อมูลและวิทยาทานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ  และมาติดตามขอรับความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : Mahal - [ 27 ก.ย. 50 06:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาอ่านเอาความรู้ค่ะ  ขอบคุณมากๆ   แต่ต้องอ่านหลายรอบหน่อยเพราะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากคุณ : ตกตะกอน - [ 27 ก.ย. 50 07:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาอ่านเหมือนกันค่ะ ... แม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอ จากคุณ : กระดังงาสงขลา - [ 27 ก.ย. 50 07:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาหาความรู้ค่ะ เพิ่งซื้อบ้านไปเมื่อต้นปี อ่านแบบนี้คงรออีกนานกว่าจะได้ย้ายออกแล้วขาย ขอบคุณที่สละเวลามาให้ความรู้กับทุกคนนะคะ จากคุณ : prikthai - [ 27 ก.ย. 50 08:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณ Hotlver ที่มาช่วยแชร์นะคะ ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 27 ก.ย. 50 08:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บทความชิ้นนี้ ดีมากทั้งในแง่เผยแพร่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน เสนอข้อมูลวิเคราะห์ระดับชาติ....เจาะลึกความเคลื่อนไหวการซื้อขายบ้าน ซึ่งอยู่ในความสนใจของคนทั่วไปในสหรัฐฯ ปริบทความรู้เชิงเศรษฐวิเคราะห์ สำหรับคนที่สนใจภาษา ได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะวงการด้วย ยิ่งกว่านั้นได้เห็นน้ำใจและเจตนาในทางสร้างสรรค์ ของน้อง Hotlver ที่ตั้งใจ จะถ่ายทอดสื่อสารประมวลความรู้เรื่องสถานการณ์ตลาดบ้าน พร้อมระบุสถิติ อย่างเป็นทางการ น่าชื่นชมมากจ้ะ พี่กดโหวตให้กับกระทู้นี้ สมควร"แนะนำ" เพื่อเปิดฉากใหม่ของการผลิตบทความเป็นกระทู้สร้างสรรค์ ด้วยการใช้องค์ ความรู้ที่มี พร้อมกับประสบการณ์ทำงานเฉพาะสาขามอบวิทยาทานให้สังคม อยากให้เห็นเป็นตัวอย่าง เพื่อพี่ๆน้องๆคนอื่น ในแต่ละท้องถิ่น ช่วยกันเขียน ในลักษณะนี้มากขึ้น ชาวไกลบ้านจะได้พบสาระประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต                             จากคุณ : กริชนาคราช - [ 27 ก.ย. 50 08:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 I'm also voting for this topic. จากคุณ : redtomato - [ 27 ก.ย. 50 09:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตให้เหมือนกันค่ะ ชอบมากตรงที่อธิบายได้เข้าใจง่ายมากเลยค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 27 ก.ย. 50 09:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Thank you for this knowledge. จากคุณ : อยู่ไกล๊...ไกลจากบ้าน - [ 27 ก.ย. 50 09:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โหวตให้ค่ะ ^_____^ จากคุณ : CaliGirl - [ 27 ก.ย. 50 09:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 BIG THANKS มากๆ ครับ อ่านแล้วเข้าใจในเรื่อง sub-prime มากขึ้น จากคุณ : BKK (LENTIYO) - [ 27 ก.ย. 50 09:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากเลยค่ะ ยิ่งสำหรับคนที่กำลังมอง ๆ เรื่องการซื้อบ้านอยู่ด้วย อ่านแล้วได้ความรู้ในเรื่องนี้มากทีเดียว ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ...(กดโหวดให้ด้วยอีกเสียงค่ะ..) จากคุณ : JC2002 - [ 27 ก.ย. 50 09:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กดโหวตให้แล้วค่ะ ขอบคุณที่มาให้ความรู้นะค่ะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 27 ก.ย. 50 10:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 A very good one; I tip my hat for you. If I may add, some analysts at Wall Street forecasted that the Fed might cut the rate down to 4.5% by the end of this year.   Economists at JPMorgan expect the pace of new-home building to fall y a further 30%.  They also expect average house price to fall between 7.5% ad 15% by the end of 2008. Meanwhile, economists at Goldman Sachs think house prices can fall by between 15% and 30% over the next few years. If I may add more to the impact to global market, this subprime crisis has global impact to all over from Canada to China.  Surprisingly, this crisis hit more to rich economies particularly in Europe.  Many European banks are entangled in this mess.  As a result, many banks and investor are nervous and may be forced to tighten their lendings/investments, which will result in lowering growth in domestic spending.   This in a way creates the psychological contagion (nervousness and risk aversion) causing reassessments of house prices. Though the scale of irresponsible lending is larger in America, but house price inflation is more extreme in other part of the world e.g. Britain and Spain which are quite vulnerable to house price bust. Unlike the last crisis in 1997 when emerging markets suffered badly; this time around they are not badly hit.  Thanks to the large foreign-exchange reserves and account surpluses; they are able withstand the crisis i.e. the sudden pulling-out investments off the markets by foreign investors. Note: This is what I gathered from the Journal and The Economist.  Also from the Wall Street Journal almost a month ago, there was an article about Warren Buffet might take over Countrywide, a large mortgage lender which is currently in trouble.  If this becomes true, it’s a good sign for Countrywide. แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 10:42:09 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 10:37:33 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 27 ก.ย. 50 10:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหวตให้ค่ะ................... จากคุณ : honto - [ 27 ก.ย. 50 11:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาเก็บความรู้เช่นกันคะ ขอบคุณที่เเบ่งปันความรู้ดีๆ เห็นราคาบ้านใน LA เเล้วคิดว่า สู้เอาเงินซื้อบ้านที่โน่น กลับมาตั้งหลักที่เมืองไทยลงทุนทำธุรกิจที่บ้านเราดีกว่า.... โหวตให้เช่นกันคะ จากคุณ : สาวอินเตอร์ - [ 27 ก.ย. 50 11:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ อย่างนี้ค่ะ... คุณ Hotlover คะ...แถวๆ East Bay, CA ตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องอสังหาริมทรัพย์มากๆ เลย...ได้ข่าวมาว่าบ้านใหม่ๆ แถว Brentwood จะโดน foreclosure ถึง 83% และแถว Antioch จะโดน foreclosure ถึง 90%...คุยกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน mortgage เขาบอกว่า เมื่อหลายปีก่อนรัฐบาลคลินตันต้องการให้คนที่มีรายได้น้อยได้มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง โดยออกกม.บังคับให้ morgage เปิดโอกาสให้คนมีรายได้ต่ำทั้งๆ ที่ขาดคุณสมบัติเวลาต้องกู้เงิน...มาถึงตอนนี้คนเหล่านั้นหมดกำลังผ่อนบ้านกันแล้ว... อย่างนี้จะเป็นสัญญาณ "ฟองสบู่แตก" หรือเปล่าคะ?...แล้วถ้าบ้าน foreclosure มากๆ อย่างนี้จะส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตคะ? พี่อยากรู้น่ะค่ะ...เพราะฟัง % foreclusure แล้วตกใจ... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 27 ก.ย. 50 12:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับข้อมูล เห็นราคาลดฮวบฮาบก็ว่าจะรอเผื่อลงอีก (ไม่มีเงินซื้อค่ะ) ตอนนี้แถวบ้านละแวก DC ถ้าจำไม่ผิดข่าวว่า Foreclosure เพิ่มขึ้นเกือบ 50% แล้วในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่รู้จะมีปัญหาแบบฟองสบู่แตกหรือเปล่าคะเนี่ย จากคุณ : ศรีธนา - [ 27 ก.ย. 50 12:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เท่าที่ฟังจากอาจารย์ เขาบอกว่าอย่างพวกบริษัทที่ให้เรตติ้งสำหรับ subprime mortgage นั้นไม่ได้คำนึงถึงในอนาคตว่าหากดอกเบี้ยขึ้น ผู้ที่มีรายได้ต่ำจะสามารถผ่อนต่อไปได้หรือไม่ อีกทั้งราคาบ้านนั้นมีแต่สูงขึ้น จึงไม่กังวลว่าหากผู้ที่ซื้อบ้านไม่สามารถจ่ายได้ ก็ยึดบ้านและขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้นได้ทันที แต่ที่หลายๆประเทศมีผลกระทบก็เนื่องจากลงทุนในตราสารที่มี subprime mortgage จนทำให้ธนาคารบางแห่งในยุโรปต้องปิดตัวลง จากคุณ : เลิฟ2ซี - [ 27 ก.ย. 50 12:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุนครับ... กำลังศึกษา ที่จะซื้ออยู่... ดูเหมือน คน ที่ ทำ loan ให้เรา ต้องมี จรรยาบรรณ เนอะ... จากคุณ : Zwid - [ 27 ก.ย. 50 12:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณค่ะ คุณ Hotlver  และคุณ Thai Woman (ณารา) อ่านแล้วได้ความรู้ดีจัง อยากทราบว่า impact to global market กระทบถึงเมืองไทยอย่างไรบ้างคะ จากคุณ : น้องหมาตากลม - [ 27 ก.ย. 50 13:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับข้อมูล ครับ จากคุณ : gabgab - [ 27 ก.ย. 50 16:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : Thai Woman (ณารา): ขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมมีอยู่นิดหนึ่งกะขายทิ้งแล้วไปเดินเล่น เห็นจะลำบาก ลดอีก 30 % ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เกือบครึ่งนะซิ คุณ BMW .. foreclosure ถึง 83% และแถว Antioch จะโดน foreclosure ถึง 90%... ตัวเลขน่ากลัวจัง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมไปซานฟราน เพื่อนพาไปเที่ยวดูบ้านเล่นๆ ผมเดาราคาผิดหมด แพงกว่าดีซี เยอะมาก บ้านสภาพเดียวกันกับที่เวสท์เวอร์จิเนีย แถวซานฟรานแพงกว่าน่าจะสิบเท่า เห็นจะได้ ที่คุณ BMW บอกว่า ที่ทำงาน mortgage เขาบอกว่า เมื่อหลายปีก่อนรัฐบาลคลินตันต้องการให้คนที่มีรายได้น้อยได้มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง โดยออกกม.บังคับให้ morgage เปิดโอกาสให้คนมีรายได้ต่ำทั้งๆ ที่ขาดคุณสมบัติเวลาต้องกู้เงิน... ก็ดีนะซิครับ อย่างไรๆถ้าต่ำจนถึงกับเสี่ยงมากๆเขาก็ไม่ให้กู้อยู่ดี ตกลงว่า ถ้าจะซื้อบ้าน ควรจะรอไปอีกหน่อย หรือซ้อตอนนี้ดีละครับ แล้วถ้าจะขายละ ผมกำลังจะขาย แต่ขายไม่ลงตอนนี้ จากคุณ : อิสวาสุ - [ 27 ก.ย. 50 18:53:06 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อยากรู้เหมือน กับคุณ อิสวาสุ หากจะลงทุนซื้อบ้าน ควรรอสักระยะ(กี่ปีดี) หรือรีบซื้อตอนนี้เลย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา มีเเน้วโน้มจะเเย่ไปกว่านี้มั้ยคะ หรือมันจะคงที่ ... จากคุณ : อยากรู้ (เลิฟยูจัง) - [ 27 ก.ย. 50 19:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณอิสวาสุคะ วันก่อนดูข่าวเขาบอกว่าราคาบ้านตอนนี้ทั่วประเทศตกลง 4% ที่ซานฟรานฯ ก็ราคาลง 4% แต่ที่ซีแอตเทิ้ลราคาบ้านสวนกระแสขึ้นไป 7% ค่ะ... ตอนนี้นอกจากจะซื้อบ้านแล้ว..."ขายบ้าน" ก็ลำบากนะคะ...เพื่อนบ้านคนหนึ่งประกาศขายบ้าน (เขาจะย้ายไปอยู่ซานฟรานฯ) ประกาศขายมาตั้งแต่ก่อนซัมเมอร์ก็ขายไม่ได้เลย...เพื่อนบ้านอีกคนจะขายบ้านหลังที่สองที่ฮาวาย ประกาศขายมาหลายเดือนแล้วเหมือนกันก็ขายไม่ได้ วันก่อนคุยกันเห็นว่าจะเก็บไว้ให้เช่าดีกว่าแล้วให้นายหน้ากิน % ค่าเช่าบ้านไป จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 27 ก.ย. 50 20:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่าน ขอบคุณๆThai Woman (ณารา)ที่มาให้ความรู้เพิ่มเต็ม เราขอ confirm และเห็นด้วยว่า Fed มีแนวโน้มว่าลดดอกเบี้ยอีกปลายปี ยิ่งถ้าเป็นexpectation จาก Wallstreet ด้วยนี่แล้วกินขนมเชื่อได้เลย ในอดีต Fed มักจะทำตามความคาดเดาของ Wallstreet ซะบ่อยๆจนกลายเป็น controversy กันว่าจริงๆแล้วใครกันแน่เป็นฝ่ายชี้นำเรื่องการลดดอกเบี้ย จาก expectation ก็กลายเป็น reality กันซะงั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ home builders จะชลอการปลูกบ้านใหม่ ไม่งั้น housing inventory จะไม่ลดซะทีจากตอนนี้ที่เหลือเต็มตลาด ช่วงนี้ home builders ต่างก็ลดแลกแจกแถมล้างสต๊อกกันยกใหญ่ จริงๆแล้ว "bubble" หรือ "ฟองสบู่แตก" นี่ยังไม่มีแววที่จะเกิดแบบทั่วประเทศ แต่ "all real estate is local" คำนี้คุณคงเคยได้ยินแล้ว พื้นที่ในบางพื้นที่เช่นที่คุณ bmw (BlackmagicW) กล่าวมาย่อมจะประสบปัญหามากกว่าบางพื้นที่เช่นใน Midwest ที่ราคาบ้านไม่ได้ถีบตัวขึ้นหลายๆเท่าตัว ปัญหาแต่ละพื้นที่แม้จะเป็นรัฐเดียวกันก็จะแตกต่างกันไป ในบางพื้นที่ราคายังขยับขึ้นอยู่การซื้อขายก็ยังดี "ลูกโป่ง" จะไม่แตกสำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ แต่จะเป็นการ "ปล่อยลม" ออกมากกว่า อย่าลืมว่าบ้านใน CA ขึ้นราคามาหลายเท่าตัวในหลายปีที่ผ่านมาจากการเก็งกำไร ก็ไม่แปลกที่ราคาจะปรับตัวเข้าสู่จุดที่ควรจะเป็น อาจจะเป็นการก้าว 50 ก้าวในช่วง boom แต่ตอนนี้ก็ถอยหลังไป 5 ก้าว ถ้าท่านซื้อบ้านมาหลายปี ราคาที่ปรับตัวถอยลงก็ยังไม่ถึงกับ "ขาดทุน" หรอก จริงไม๊? (นี่ไม่นับตลาดที่มี rate ของ foreclosure สูง) สำหรับท่านที่เพิ่งซื้อบ้านก็คงยังไม่ควรขายไปอีกหลายปี ปัญหา foreclosure คงจะมีอีกพักหนึงเพราะยังมีบ้านที่รอการ reset อีกเร็วๆนี้ ก็ได้แต่หวังว่าดอกเบี้ยจะลดลงมาอีกมากพอ การ refinance ก็ช่วยตลาดได้อีกมากพอสมควร เรื่องจะซื้อดีไม๊นี่คงตอบยาก แต่อยากจะให้ดูปลายปีจนถึงต้นปีหน้า เชื่อว่าตลาดมี "pent-up demand" มากพอควร คือคนอยากซื้อบ้านเยอะไปหมดแต่ยังไม่มีใครกล้าขยับเพราะรอดูราคานี่เอง ถ้าคุณจะซื้ออยู่เองและไม่ได้อยู่ในตลาดที่กำลังมีปัญหาหนักๆเช่น CA เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะช่วงที่ซื้อได้ในราคาที่ต่อได้เยอะเลย แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 20:57:24 จากคุณ : Hotlver - [ 27 ก.ย. 50 20:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามมาอ่านเหมือนกันค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : meneya - [ 27 ก.ย. 50 21:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 Thanks for enlightening me krub, k. Hotlver. And, thanks uncle Isvasu for posting this interesting question/problem. จากคุณ : amatuer translator - [ 27 ก.ย. 50 21:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Thank you so mch จากคุณ : V_Accy - [ 27 ก.ย. 50 21:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ จากคุณ : puppy - [ 27 ก.ย. 50 21:40:14 A:125.25.54.255 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 จริงของน้อง Hotlver การวิเคราะห์ปัญหาฟองสบู่จะแตก หรือเป็นเพียงแค่ปล่อยลม ในแต่ละท้องถิ่นต่างกัน ต้องพิจารณาสภาพพื้นที่ หากฟังผิวเผิน ตัวเลขร้อยละของการยึดอสังหาริมทรัพย์ในบางเมืองสูงมาก แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมตลอดทั้งหมดในภูมิภาค หรือเขตเมืองในถิ่นเดียวกัน สำหรับเขตอ่าว ซาน ฟรานซิสโก เบย์แอเรีย เป็นที่รู้กันว่าค่าครองชีพสูงและ ราคาบ้านก็ "ไม่ใช่ธรรมดา" มาแต่ไหนแต่ไร..ทั้งนี้ คนที่อาศัยในเขตอ่าวนี้ ย่อมรู้ดี ว่ามีกี่ Counties & Cities หากจะพูดถึง การหาซื้อบ้านในท้องถิ่นนี้ ต้องดูกันว่า เมืองไหน เพราะในแต่ละ County จะมีความต่างอยู่หลายอย่าง เป็นต้นว่า จำนวนประชากรและ อาชีพหลักของประชากรในเขตนั้น เมืองนั้น ข้อมูลสถิติ เมืองในเขต Contra Costa (ซึ่งรวม Brentwood & Antioch) County นี้ มีจำนวนประชากร ปัจจุบันประมาณหนึ่งล้านคน พื้นที่ประมาณ เจ็ดร้อยยี่สิบตารางไมล์ เมือง Brentwood ได้ชื่อเป็นถิ่นเกษตรกรรมทำไร่ ทำสวน มีความแตกต่างระหว่างรายได้ของผู้อยู่อาศัยในเมืองและเกษตรกร อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านในพิ้นที่ดังกล่าวก็อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ที่ตั้งของ เมืองอยู่ห่างจากนครซาน ฟรานฯเพียงเดินทางครึ่งชั่วโมง สภาพที่อยู่อาศัย อยู่ใกล้อาณาจักรของสวนผลไม้และแหล่งปลูกพืชผักต่างๆหลายชนิดพันธุ์ แต่รายได้หลักประชากรส่วนหนึ่งส่งผลผลิตให้กับตลาดการค้าใหญ่ในเมือง เพราะฉะนั้น ราคาที่อยู่อาศัยจึงไม่เหมือนกับพื้นที่เกษตรอื่นซึ่งอาจกันดาร เมื่อต้นปีนี้เอง มีข่าวใหญ่พอสมควร ว่า เกิดปัญหาการยึดอสังหาริมทรัพย์ ในเขต Contra Costa อย่างชนิดที่ใช้คำว่าเป็นวิกฤต สถิติ Foreclosures พุ่งแรงถึงกับใช้คำว่า เร็วปานจรวดสายฟ้า และมีการประกาศเตือนบรรดา ผู้ปล่อยกู้ หรือบรรษัทในเครือให้กู้หนี้ยืมสินเพื่อผ่อนซื้อบ้านในเขตท้องที่ ว่าอย่าเอาเปรียบผู้กู้ยืม ด้วยการยอมให้เงินกู้ทั้งที่รู้ว่าผู้กู้จะไม่มีปัญญาผ่อน มิฉะนั้นภาครัฐจะใช้กฎหมายตามล่าดำเนินคดี ตัวเลขสถิติที่เข้าขั้นจรวดพุ่ง ดังกล่าว ประมาณไว้คร่าวๆว่า Loan Defaults พุ่งสูงถึง สองร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีการยื่นหมายว่าด้วยการขาดชำระเงินสูงมากราวพันห้าร้อยกว่ารายการ ในช่วงสามเดือนแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ...จึงเป็นผลส่งไปทั่วหลายเมือง ในเขต Contra Costa County ที่กรณีธนาคารยึดบ้านเพิ่มอัตราร้อยละสูงขึ้น รายงานของนักสถิติและองค์กรเกี่ยวกับธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในเขต อ่าวนี้ บ่งระบุชัดเจนว่า ราคาบ้านในเขตท้องที่เบย์แอเรียสูงมากสำหรับรัฐนี้ เพราะส่วนใหญ่เป็น JUMBO Mortgages แต่ถึงแม้ว่าปริมาณบ้านโดนยึดสูง มากก็จริง ยังมีบางเขต เช่น Marin County ที่ราคาบ้านยังขึ้นสวนกระแสอยู่ ถึงแม้ว่าในเขตใหญ่ของท้องถิ่น อย่าง Santa Clara- San Francisco และ Oakland-Alameda ตัวเลขการยึดอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราร้อยละสูงขึ้น และสถิติโดยรวม หกในเก้าเค้าน์ตี้ของอ่าวซาน ฟรานฯ ราคาบ้านขึ้นสีแดง มาก่อนปลายปีที่แล้ว  ธุรกิจการขายบ้านค่อนข้างเชื่องช้าลง นักสถิติวิจัย จัดทำแผนผังรายการของแต่ละเขต แต่ละเมือง เปรียบเทียบเดือนที่ต่างปีไว้ อย่างเช่น การขายบ้านในเดือนสิงหาคมของปีนี้ ร้อยละต่ำลงจากส.ค.ปีก่อน และต่ำลงจากเดือนก่อนหน้า หากได้ดูรายละเอียดกันเป็นเมืองเป็นเค้าน์ตี้ไป จะเห็นข้อมูลสถานการณ์ซื้อขายบ้านในท้องถิ่นนี้ชัดเจนกว่าและทราบสาเหตุ ของกระแสการยึดบ้าน เพราะผู้กู้เงินขาดชำระและไม่หาหนทางแก้ไขไถ่คืน นักวิเคราะห์ประจำท้องถิ่นได้ชี้แจงว่า ปัจจัยใหญ่ที่ทำให้เกิดกรณีสูญบ้านนั้น นอกจากอัตราการตกงานในบางช่วง ผนวกกับตลาดค้าขายบ้านไม่ค่อยขยับ สาเหตุหนึ่ง ของสถิติบ้านโดนยึดคืน เนื่องมาจากผลกระทบของคลื่นลูกแรก ที่มี  Adjustable Rate Mortgages (ARMs ) ปรับให้ต้องผ่อนจ่ายรายเดือน ในอัตราสูงขึ้น ทำให้ผู้ที่เงินเดือนคงที่ ไม่สามารถผ่อนชำระบ้านต่อไปได้อีก เป็นที่ทราบกัน ว่าค่าครองชีพบีบคอผู้มีรายได้ขนาดกลางและผู้ใช้แรงงาน ข้าวของ ไข่ นม น้ำ อาหารเนื้อสัตว์ ยา พากันขึ้นราคา น้ำมันแพงเป็นช่วงๆ แต่เงินเดือนเท่าเดิม...ทำให้รายจ่ายเพิ่มในแต่ละบ้าน ครอบครัวขนาดกลาง หรือผู้กู้เงินจึงเครียดกับการจับต้นไม่ชนปลาย ซึ่งเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นทั่วๆไป อย่างไรก็ดี นักสถิติวิเคราะห์ระบุว่าอัตราวางเงินดาวน์ซื้อบ้านยังอยู่ระดับคงที่ และความเคลื่อนไหวการซื้อบ้านเก็งกำไรอยู่ในระดับ flat มาได้ช่วงหนึ่ง ถึงแม้ว่า foreclosures จะเพิ่มอัตราร้อยละอย่างน่าตกใจในบาง County นั้น แต่ก็มีวิธีการหลีกการโดนยึดบ้าน ดังที่ผู้ตั้งกระทู้ได้อธิบายไว้คือขายต่อไป หรือรีไฟแนนซ์ หลังจากได้รับหมายแจ้งว่าขาดผ่อนชำระ มีเวลาให้แก้ไขได้ ภายในเก้าสิบหรือร้อยยี่สิบวัน ควรตรวจสอบ Code และกฎหมายของมลรัฐ ประชาชนที่อยู่อาศัยในอ่าวซาน ฟรานฯ มี สถานภาพทางการเงินต่างระดับ เพราะมีความหลากหลายทางสาขาอาชีพ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อพยพมา ทางภาครัฐร่วมมือกับเอกชนหลายแห่ง จัดโครงการบ้านให้ผู้มีรายได้น้อยถึง ปานกลาง ทั้งนี้แบ่งแยกเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเฉพาะเมือง นี่เป็นทางออก ของการเพิ่มปริมาณผู้ซื้อบ้าน อย่างเช่น ในเขตเมือง Palo Alto ได้ให้สิทธิ์ แก่ผู้อยู่อาศัยหรือทำงานในเขตเมืองเท่านั้นสามารถร่วมโครงการที่อยู่อาศัย แต่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับรายได้ประจำปี ต้องอยู่ในวงและขอบเขตโครงการ แบ่งขนาดครอบครัว จำนวนสมาชิกที่มีรายได้ในบ้าน ถ้ามีรายได้สูงกว่าระบุ ถึงจะเรียกว่ารายได้ต่ำก็ตาม แต่ต่ำไม่เข้าข่าย ก็จะไม่มีสิทธิ์อยู่ในโครงการ นอกจากนี้ยังแบ่งโซนของที่อยู่อาศัยออกตามวัยของผู้ผ่อนชำระบ้านด้วย เราจึงเห็นว่า ครอบครัวต่างชาติ ที่อพยพมาและไม่มีสถานะการเงินที่ดีมาก กลับสามารถมีบ้านอยู่อาศัยได้  โดยเข้าโครงการที่รัฐช่วยเหลือในระบบนี้ และมีกลุ่มชุมชนที่เป็นเหมือนกัน มาอยู่รวมกันในเขตพื้นที่ตามโครงการนั้น มีแม้กระทั่งการสอนภาษา การหางานเพื่อเพิ่มรายได้พิเศษแก่ผู้ซื้อบ้านด้วย อาจไม่ทุกรัฐหรือเขตหรือเมือง ที่จะจัดโครงการบ้านคนยากที่เป็นลักษณะนี้ อ่าว ซานฟรานซิสโก เป็นอเมซิ่งพาราไดซ์ สำหรับผู้อพยพมาจากต่างชาติ คนไทยส่วนหนึ่ง หาซื้อบ้านอยู่กระจัดกระจายรอบนอกของนครซานฟรานฯ แหล่งใหญ่แห่งหนึ่งคือยูเนี่ยน ซิตี้ ฟรีม้อนท์ ต่อลงไปซาราโตก้า ซันนี่เวล ทางเหนือเบิร์คเล่ย์ โอ๊คแลนด์ ขึ้นไปถึงริชมอนด์ และอีกแถบคือแฟร์ฟิลด์ ส่วนที่อยู่ไปทางพื้นที่เกษตรกรรม หรือเมืองอินแลนด์ตะวันออกของอ่าว สภาพภูมิประเทศและเศรษฐกิจเมือง ทำให้บ้านมีราคาย่อมเยากว่าในซิตี้ ยกเว้นบางเมืองที่เพิ่งตั้งใหม่ไม่นาน อยู่ติดชายน้ำ เป็นย่านผู้มีรายได้ดีอยู่ แต่คนส่วนมากจะไม่ค่อยแยกรายละเอียดท้องที่ กล่าวรวมๆว่าอยู่ซานฟราน คนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่ง อยู่ในซิตี้ หรือทางส่วนใต้ติดฝั่งทะเล เข้าเมืองสะดวก โดยมาก คนที่ทำการค้า จะพยายามหาบ้านให้อยู่ไม่ไกลจากร้านที่ทำธุรกิจ ในเขตนี้ มีเจ้าของธุรกิจผู้ชำนาญการซื้อขายบ้านไม่ต่ำกว่าสิบคนทำบริษัท และให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่คนไทยด้วยไมตรีจิต ช่วยเหลือกันตลอดมา นับเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง ของกลุ่มชุมชนไทยในเขตแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ ซึ่งมีคนทำงานหลายอาชีพมาเอื้อประโยชน์ต่อกันเพื่อสังคมที่เข้มแข็ง.... ดีใจที่กระทู้นี้ขึ้นมาหน้าหนึ่ง ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ใครมีข้อมูลจาก ท้องถิ่นของตนจะได้นำมาแลกเปลี่ยนกัน ในส่วนที่พี่เขียนข้อมูลท้องที่นี้ เพราะอยากให้คนไกลๆได้เห็นกระแส เรื่องสถานการณ์ซื้อขายบ้านอยู่ใน ความสนใจกันจริงๆ และมีคนไทยหลายคนที่ทำรายได้ต่อปีสูงมากต่อเนื่อง กลุ่มวิศวกรคอมพิวเตอร์สามารถสร้างบ้านในเขตเอเวอร์กรีนแวลเล่ย์ได้ บางคนเลือกได้ บ้านเห็นวิวทิวทัศน์บนเขาในเมืองที่อยู่ริมผามหาสมุทร และเมื่อมีหลังแรกแล้ว การซื้อหลังต่อๆไปทำได้ง่ายขึ้น พี่น้องรวมกันซื้อ ญาติหรือกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่มีรายได้มาร่วมกันซื้อ ช่วยกันทำงานหาเงิน และผ่อนไปช่วงหนึ่ง ต่อมาค่อยแยกไปซื้อเพิ่มในซอยใกล้กัน แบบนี้ก็มี บางครอบครัว ย้ายงานบ่อย ต้องเปลี่ยนบ้านย้ายที่ตามโรงเรียนลูกด้วย ปัญหาการดูแลบ้านมีค่าใช้จ่ายเพิ่มโขอยู่ ต้องคอยตามกระแสอยู่เสมอ ที่ทราบแน่ชัด คนที่มาในยุคสามสิบห้าปีก่อน มีบ้านหลายหลังไว้ให้เช่า เขาไม่ขาย ไม่สนกำไร เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ของการเริ่มต้นชีวิตในอเมริกา..                               แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 08:42:06 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 00:18:24 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 27 ก.ย. 50 23:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 Thank you very much for very good topic kha.This makes me think that I and my husband are lucky that we have sold one of houses. จากคุณ : Khat - [ 28 ก.ย. 50 00:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Thanks ka for the great info. My parent also do a lot of flipping the house in Kansas city area as their second job. But they have not done any lately because the market really slow down a lot. I am talking to my dad about buying a small apartment in the bay area since apartment price go down a lot especially in my town. (I can afford house ka, still ver very expensive..lol) but my dad said wait a little longer because the market will drop even more by the end of next year. It may sound selffish, but I wish the price will drop some more since the median price in bay area was horriblely expensive for a very long time ka. Thanks again ka. (^_____^) จากคุณ : SFbay - [ 28 ก.ย. 50 00:02:23 A:75.7.38.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ Correction: I CAN'T afford the house. I wish I can buy the house instead of apt......don't have that much money to buy the house ka. (^________^) Also, just watched the news...it said the pricing house in the bay area has dropped another 4% ka!! จากคุณ : SFbay - [ 28 ก.ย. 50 00:11:15 A:75.7.38.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 K' SFbay, How much property taxes in San Frans? จากคุณ : The Zephyr - [ 28 ก.ย. 50 00:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาหาความรู้อีกรอบ ขอบคุณมากค่ะ Voted จากคุณ : ศรีธนา - [ 28 ก.ย. 50 00:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แถววอชิงตันดีซี ทางตะวันตก (Manasas, Herndon) รายการขายทอดตลาดนับเป็นประวัติการในรอบหลายปี ผมเองคิดจะขายแล้วกลับ แต่ถ้ามีราคาถูกถึงขนาดก็อาจจะซื้อ ใครยังไม่ซื้อ อย่าจ้องนาน หรือลังเลแบบผม ว่าจะกลับดีไม่กลับดี เอาเป็นว่าซื้อไว้ก่อนแล้วขาย ระยะยาวไม่ขาดทุนสักราย อย่าเอาอย่างผม เรื่องที่จะ "Qualify" บางท่านอาจจะลำบาก ให้ปรึกษา Realtor ที่ Tricky สักหน่อย กล้าหน่อย มีความรู้เยอะ มีพวกสนิทสนมกับแหล่งเงินเยอะ พวกเถรตรงไม่ต้องจ้าง ทำเองได้ คนไทยดีที่สุด ที่สำคัญอยู่ที่ว่าคุณสามารถส่งได้ตลอดหรือไม่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ผมเองสมัยที่ซื้อบ้านขับแท็กซี่ ไม่มีบันทึกอะไรสักอย่าง ปั้นตัวเลขขึ้นมา ยอมเสียภาษีย้อนหลังซึ่งหลายตังค์เหมือนกัน เครดิทก็ปั่นขึ้นมา แต่ทุกอย่างถูกต้องและยอมเสียเงินนะครับ ผมบอกอะไรคุณที่ไม่สมควรไปหรือเปล่านี่ อยู่อเมริกา มีสองอย่างที่สำคัญมากๆ สมัยมาใหม่ๆผมไม่เคยสนใจ เคลมแทกซ์ให้เพื่อนเยอะแยะ ตัวเลขมั่ว แต่ของตัวเองจ้างเขาทำ คิดแล้วไม่ดีเลย แต่ทุกคนปลอดภัย คุณรู้ไหม สมัยก่อนนักเรียนไทยไม่ต้องเสียภาษี มีน้อยคนนักที่จะรู้แล้วเอามาใช้ เขามี Tax Treaty ซึ่งต้องอ้างว่าสนธิสัญญาอะไร เวลาเคลมแทกซ์ ทำกันสมัยจอมพลถนอม ใครได้ผลประโยชน์จากการนี้บ้างก็ไม่รู้ แต่รับรองได้ว่านักเรียนไทยน้อยนักที่ได้ใช้ประโยชน์ ผมใช้อยู่หลายปีจนหมดสภาพนักเรียน เดี๋ยวนี้ เขาแอบทำกันอีกหรือไม่ หรือได้ผลประโยชน์เฉพาะบางคนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ของสำคัญสองอย่างที่ว่า คือ เสียภาษี กับ เครดิท ต้องไม่ให้พลาด ต้องให้เข้มงวดจริงๆ อย่ามองข้าม มันจะทำให้เจ็บปวดได้เวลาเราจะใช้มัน จากคุณ : อิสวาสุ - [ 28 ก.ย. 50 02:17:05 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แต่ทุกอย่างถูกต้องและยอมเสียเงินนะครับ ที่ผมว่าถูกต้องนี่ ผมหมายถึงตามตัวหนังสือ และ จ่ายภาษี นะครับ อีกอย่างหนึ่งผมเคยบอกไว้ ท่านที่ไม่มีัใบเขียว ต้องหาทนายดีๆ เวลาขายด้วยนะครับ เพราะมันมีภาษีค้ำคออยู่ รายละเอียด ดูที่ FIRPTA จากคุณ : อิสวาสุ - [ 28 ก.ย. 50 02:22:38 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คคห.44 property taxes ในซานฟราน 1.135%ค่ะ ส่วนตัวคิดว่าตลาดอสังหาในเบย์แอเรียขึ้นอยู่กับneighborhoodว่าเป็นที่ต้องการหรือไม่ ตามที่คุณBWMพูดถึงBrentwood & Antioch ต้องดูด้วยว่าแถบนั้นแทบไม่มีตลาดงานจริงๆ เพราะฉนั้นจึงไม่แปลกเลยที่บ้านแถวนั้นจะถูกปล่อยเยอะมาก ในขณะเดียวกันย่านที่เป็นที่ต้องการอยู่เสมอจะไม่ถูกกระทบเท่าไหร่ แถวบ้านดิฉัน(Noe Valley) ก็เห็นบ้านใกล้ๆกันขายได้(เมื่อเร็วๆนี้)ในราคาสูงกว่าasking price(asking $1.549M ราคาขายได้เกือบ$1.9M) และขายได้ภายใน2อาทิตย์  บางบ้านยังมีbidding war ได้รับเกิน19 offfersและแน่นอนover askingเป็นแสน อีกหลังห่างออกไปหน่อยเป็นvictorian fixer upperสภาพเรียกได้ว่าต้องทุบทิ้งทั้งหลังทำใหม่ เก็บไว้ได้แค่โครงด้านหน้าที่มีoriginal details หลังนี้asking price $777K ขายไปในราคากว่า $900K ถ้าบ้านอยู่ในสภาพดี ในแอเรียที่ดีเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่น่าจะเป็นกังวล โดยเฉพาะตลาดอสังหาในเบย์แอเรียค่อนข้างจะต่างจากตลาดอสังหาในเขตอื่นมาก ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ส่วนตัว และจากที่ได้เห็นได้ยินจากสามีซึ่งทำงานอยู่ในแวดวงreal estateเช่นกัน สำหรับตัวเองคิดว่าตอนนี้(รวมไปถึงปีหน้า)บ้านแถวซานฟรานน่าซื้อมากๆ แต่ต้องดูทำเลให้ดี เพราะตัวเมืองซานฟรานจริงๆขยายไม่ได้เนื่องจากมีน้ำขนาบหมด ทำเลที่คนต้องการก็ยังเป็นที่ต้องการเสมอ (เช่นpacific heights, noe valley, castro valley) อย่างpacific heightsหาคอนโดที่ต่ำกว่าล้านยาก แต่ก็ยังมีคนซื้อ อีกอย่างตลาดงานแถวนี้ก็ถือว่าดี เงินเดือนดี คนต้องมีที่อยู่อาศัยและอยากจะอยู่ในย่านดีๆซึ่งมีไม่มาก ปล.อีกครั้ง ที่พูดมาทั้งหมดนี่เป็นตลาดบ้านในซานฟราน และเป็นทำเลเฉพาะเท่านั้น โดยทั่วไปตลาดบ้านแถวนี้ถือว่าซาลงจริงถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แต่ก็ยังจัดอยู่ในขั้นไม่เลวร้าย (สมัยก่อนจะเสนอซื้อบ้านแถวนี้ นอกจากclean offer, no contingency, over askingแล้ว ยังต้องแถมจม.จากbuyer to seller แนะนำตัวและครอบครัว ประมาณbegging them to sell) ถ้าสนใจเรื่องเศรษฐกิจในแถบซานฟราน ลองอ่านบทวิเคราะห์นี้ดู ครอบคลุมรวมไปถึงเศรษฐกิจ ตลาดอสังหา ตลาดงาน สำหรับคนที่สนใจในแอเรียนี้น่าอ่านเล่นๆ <http://www.beaconecon.com/events/SanFrancisco07/SanFranciscoForecast.pdf> จากคุณ : M1ku - [ 28 ก.ย. 50 02:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กดส่งไปแล้วเห็นคห.คุณอิสวาสุมาเพิ่ม เห็นด้วยค่ะ ถ้าซื้อไว้สำหรับระยะยาว ไม่น่าขาดทุน แต่ถ้าคิดจะลงทุนระยะสั้นซื้อมาขายไปเอากำไรเร็วๆแบบนั้นเสี่ยงแน่ ถ้าเป็นเงินเย็นก็น่าซื้อ ถ้าต้องกู้มาแล้วมีกำหนดว่าต้องขายให้ได้ภายในระยะเวลาเท่านั้น อันนี้อาจทำให้ต้องขายในเวลาที่ไม่ควรขาย เสี่ยงต่อการขาดทุนแน่ๆ จากคุณ : M1ku - [ 28 ก.ย. 50 02:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนนี้สนใจอยากจะซื้อบ้านแบบ take over จากเจ้าของเดิมที่เขาส่งต่อบ้านไม่ไหว ไม่ทราบว่ามีความเสี่ยงต่อวิธีการนี้ขนาดไหนค่ะ จากคุณ : Hawaii maui (kwankroot) - [ 28 ก.ย. 50 05:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 51 Thanks ka K. M1Ku for answer question for me. It's no way that I can afford the house or apartment in the city (Unless I win lotto...lol) Many of my coworker bought house in antioch or stockton, they said it's cheaper and bigger than bay area...but I think it's too far driving since their spouses and them have to drive into the bay to work!!! For me, I'm thinking about buying a 2br apt. in Alameda where I live now or probably in the valley (San Ramon, dublin, pleasanton or walnut creek) because it's easy to commute and the area are good. Only hope that the housing market will be little more stable...(^___^) จากคุณ : SFbay - [ 28 ก.ย. 50 06:13:05 A:75.7.38.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขายไปเมื่อ June ปี 2005 ได้ 6 bids ตอนนี้เช่าอยู่.. เอาเงินที่ขายบ้านได้ไปฝาก T bills, Bonds... Happy ค่ะ เคยเตือนเพื่อนๆคนรอบตัวไว้ แม้แต่ในพันทิพ มีแต่คนบอกว่า มีแต่ขึ้นไม่มีลง.. เชิญดูกราฟตัวนี้ก่อน... let's ride! http://video.google.com/videoplay?docid=-2757699799528285056 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 06:43:40 จากคุณ : หญิงป้า - [ 28 ก.ย. 50 06:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 I would like to give some of my opinion too but I don't live in the US. This what I have heard and have known a bit about what is happening to the housing market in the US, especailly Sub-prime market. There are some investors have lost their fund from investing in the Sub-prime market in the US. There is a bank in Germany and one in the UK and there are many investors who don't want to let us know that they have lost the fund with this investment. There are also some investors in Australia, especailly some councils( the goverment is still investigating) who suppose to spend money that they have collected from us to build the road , hospital etc , instead they lent to the US sub-prime market as they think they can make a lot more money. What happened was all the investors had lost their money and no way that they will get it back. This is the reason why this problem has impact to other countries all over the globe. From my little knowledge in housing and mortgages, I would say if you want to invest inthe  housing market in the US, it is a good oppotunity still but in a long term period (next 5-10 years). In a short term period you won't be able to make any money , instead you may lose some. To me I won't be hesitated to buy a house in the US now as what you get now will add more value in the next 5-10 years and the important thing is you will be able to buy it cheaper than it was a year or 2 years ago for some area. Investing in property is still the best solution for someone who want to make money but you have to get it at the right time and right place. จากคุณ : PoomPim..TMB - [ 28 ก.ย. 50 07:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 54 Thanks for answering my question, To me, I feel even you could afford a house but property taxes and house insurance also additional other insurances would impact on your payment not yet including home association and other fees. At least, US economic growth is still slidely growing for now. Spend less and save more, that's all. K'หญิงป้า , Bond is good but check this one, FFFFX , 11% return rate since Jan. จากคุณ : The Zephyr - [ 28 ก.ย. 50 08:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 I would like to add somethings more...sorry I could not type it in Thai at this time. I am staying at the place that considering as one of the place that have a very expensive houses in the nation that is Orange county,CA.Nowaday the local newspaper has a headline about real estate almost everyday and I have been following the news about this almost a year since my job is related to Real estate.. If you are planing to buy a house please think it twice and below are some data I have got from local newspaper that predicted by some Economist ( I copied eitherfrom OCregister.com or CNN money a week ago so probably It would help for your decision but... that's what I said it a prediction it may be true or may not be true.. Here is the detail แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 13:01:20 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 11:44:05 จากคุณ : tony-ca - [ 28 ก.ย. 50 11:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หัวสมองคิดตามอย่างหนัก มาอ่านเป็นความรู้คับ จากคุณ : sanow - [ 28 ก.ย. 50 12:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 100 largest metro areas by population that are forecast to witness a decline in the median existing     single-family house price Rank Area State  Peak   Bottom     Peak to bottom   home price decline 1 Stockton CA 06Q1 08Q4 -25.0 2 Palm Bay-Melbourne-Titusville FL 06Q1 08Q4 -24.9 3 Sarasota-Bradenton-Venice FL 06Q1 08Q3 -24.8 4 Reno-Sparks NV 06Q1 09Q1 -22.4 5 Modesto CA 06Q2 08Q3 -22.3 6 Detroit-Livonia-Dearborn MI 05Q3 09Q1 -21.3 7 Fresno CA 06Q2 09Q1 -20.0 8 Oxnard-Thousand Oaks-Ventura CA 06Q2 08Q3 -19.2 9 Sacramento--Arden-Arcade--Roseville CA 06Q1 08Q4 -19.1 10 Las Vegas-Paradise NV 06Q2 08Q4 -18.7 11 Deltona-Daytona Beach-Ormond Beach FL 06Q1 08Q3 -17.9 12 Phoenix-Mesa-Scottsdale AZ 06Q2 08Q2 -17.8 13 Hartford-West Hartford-East Hartford CT 07Q1 08Q4 -17.6 14 Cape Coral-Fort Myers FL 06Q1 08Q4 -17.3 15 Visalia-Porterville CA 06Q2 08Q4 -16.1 16 Riverside-San Bernardino-Ontario CA 07Q1 09Q2 -15.9 17 Bethesda-Gaithersburg-Frederick MD 06Q2 08Q4 -15.9 18 Lansing-East Lansing MI 05Q3 09Q1 -15.7 19 Bakersfield CA 06Q2 09Q1 -15.6 20 Warren-Farmington Hills-Troy MI 05Q4 09Q1 -15.4 21 Newark-Union NJ-PA 07Q1 08Q4 -15.4 22 Vallejo-Fairfield CA 06Q1 09Q2 -15.3 23 Orlando-Kissimmee FL 07Q1 09Q1 -15.1 24 Santa Rosa-Petaluma CA 06Q1 08Q4 -14.0 25 Poughkeepsie-Newburgh-Middletown NY 06Q2 08Q3 -13.9 26 Edison NJ 06Q3 08Q4 -13.3 27 Worcester MA 05Q4 08Q3 -13.0 28 Baltimore-Towson MD 07Q2 09Q2 -12.8 29 Peabody MA 05Q4 08Q3 -12.5 30 Nassau-Suffolk NY 07Q2 09Q1 -12.3 31 West Palm Beach-Boca Raton-Boynton Beach FL 06Q1 08Q3 -12.2 32 Tampa-St. Petersburg-Clearwater FL 06Q4 08Q3 -11.7 33 Tucson AZ 06Q2 08Q4 -11.7 34 Santa Ana-Anaheim-Irvine CA 06Q2 09Q1 -11.6 35 Washington-Arlington-Alexandria DC-VA-MD-WV 07Q3 09Q4 -11.5 36 Fort Lauderdale-Pompano Beach-Deerfield Beach FL 06Q1 08Q4 -11.5 37 Flint MI 06Q1 08Q2 -11.3 38 Cleveland-Elyria-Mentor OH 05Q3 07Q4 -11.3 39 San Diego-Carlsbad-San Marcos CA 06Q1 08Q4 -10.9 40 Los Angeles-Long Beach-Glendale CA 07Q3 09Q1 -10.6 41 Oakland-Fremont-Hayward CA 07Q3 08Q4 -10.3 42 Portland-South Portland-Biddeford ME 06Q1 08Q3 -10.2 43 Rockingham County-Strafford County NH 06Q1 08Q3 -10.2 44 Miami-Miami Beach-Kendall FL 07Q2 08Q4 -9.9 45 Boston-Quincy MA 05Q3 08Q4 -9.4 46 Providence-New Bedford-Fall River RI-MA 06Q1 08Q3 -9.4 47 New Orleans-Metairie-Kenner LA 06Q2 07Q3 -9.4 48 Wilmington DE-MD-NJ 06Q3 08Q3 -9.2 49 Cambridge-Newton-Framingham MA 05Q3 08Q3 -9.0 50 Youngstown-Warren-Boardman OH-PA 05Q1 07Q4 -8.7 51 Toledo OH 05Q4 07Q4 -8.3 52 Salinas CA 07Q3 08Q4 -8.1 53 Colorado Springs CO 07Q1 08Q3 -7.8 54 Boise City-Nampa ID 07Q2 08Q4 -7.7 55 Winston-Salem NC 05Q2 07Q4 -7.6 56 Denver-Aurora CO 06Q2 08Q3 -7.6 57 Lakeland FL 07Q2 08Q3 -7.5 58 Portland-Vancouver-Beaverton OR-WA 07Q3 08Q4 -7.2 59 Pensacola-Ferry Pass-Brent FL 06Q1 08Q3 -7.0 60 New Haven-Milford CT 07Q3 08Q3 -6.7 61 Jacksonville FL 07Q3 08Q3 -6.4 62 Camden NJ 07Q2 08Q3 -6.3 63 Minneapolis-St. Paul-Bloomington MN-WI 06Q3 09Q2 -6.0 64 Albuquerque NM 07Q3 08Q3 -5.9 65 Tacoma WA 07Q3 08Q3 -5.5 66 New York-White Plains-Wayne NY-NJ 07Q3 08Q4 -5.3 67 Grand Rapids-Wyoming MI 05Q4 07Q3 -5.3 68 Bridgeport-Stamford-Norwalk CT 07Q3 08Q4 -5.1 69 Lexington-Fayette KY 06Q1 08Q1 -5.1 70 Fayetteville-Springdale-Rogers AR-MO 06Q2 07Q4 -4.6 71 San Jose-Sunnyvale-Santa Clara CA 07Q3 08Q4 -4.4 72 Virginia Beach-Norfolk-Newport News VA-NC 07Q3 08Q3 -4.1 73 Columbus OH 05Q4 07Q1 -3.7 74 Dayton OH 06Q4 07Q3 -3.7 75 Indianapolis IN 05Q3 06Q4 -3.7 76 Provo-Orem UT 07Q3 08Q3 -3.6 77 Chattanooga TN-GA 06Q3 07Q4 -3.5 78 Tulsa OK 06Q3 07Q4 -3.4 79 Salt Lake City UT 07Q3 08Q3 -3.4 80 Allentown-Bethlehem-Easton PA-NJ 07Q3 08Q4 -3.3 81 Philadelphia PA 07Q3 08Q3 -3.1 82 Lake County-Kenosha County IL-WI 06Q3 08Q2 -3.1 83 Wichita KS 07Q1 07Q4 -2.9 84 Seattle-Bellevue-Everett WA 07Q3 08Q3 -2.9 85 Ogden-Clearfield UT 07Q3 08Q3 -2.9 86 Milwaukee-Waukesha-West Allis WI 06Q3 07Q1 -2.9 87 Birmingham-Hoover AL 06Q3 07Q3 -2.9 88 Jackson MS 06Q3 07Q4 -2.9 89 Richmond VA 07Q2 10Q3 -2.8 90 Cincinnati-Middletown OH-KY-IN 05Q3 07Q2 -2.8 91 San Francisco-San Mateo-Redwood City CA 07Q3 08Q2 -2.7 92 Albany-Schenectady-Troy NY 07Q2 07Q4 -2.7 93 Springfield MA 07Q3 08Q2 -2.6 94 Spokane WA 07Q3 08Q3 -2.6 95 Omaha-Council Bluffs NE-IA 06Q2 07Q4 -2.1 96 Kansas City MO-KS 06Q1 07Q2 -2.0 97 McAllen-Edinburg-Mission TX 05Q1 07Q2 -2.0 98 Fort Worth-Arlington TX 06Q2 07Q1 -1.9 99 Oklahoma City OK 07Q3 07Q4 -1.6 100 Memphis TN-MS-AR 06Q2 07Q3 -1.1 จากคุณ : tony-ca - [ 28 ก.ย. 50 12:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 58 I explain a bit for the data above Peak-- means highest price gain 06Q1 =Year 2006 Quarter 1 Bottom=lowest price -25 = -25% down จากคุณ : tony-ca (tony-ca) - [ 28 ก.ย. 50 12:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สำหรับท่านที่อยู่เมืองไทย อาจจะไม่ทราบว่า ภาษีบ้านและที่ดินในอเมริกา มากขนาดไหน เช่น ค่าประกัน ค่า Home Owner Associationand other fees (ที่คุณ : The Zephyrพูดถึงข้างบน) สูงมากครับ เฉพาะค่าใช้จ่ายเหล่านี้ มากพอที่จะขายบ้านแล้วหลบไปอยู่ต่างจังหวัดในเมืองไทย ได้สบายๆ พอๆกับเงินบำนาญของข้าราชการบางคน หรือมากกว่าด้วยซ้ำไป คนอเมริกันเองที่อยู่ตามเมืองใหญ่ๆขณะที่ทำงานบางคนเตรียมเกษียณไปอยู่ในรัฐหรือเขตที่ค่าครองชีพไม่สูง เช่นคนข้างบ้านผมเตรียมไปนอร์ท คาโรไลนา เป็นต้น แปลกใจ Decline List ที่คุณ : tony-ca ยกมา มี # 35 Washington-Arlington-Alexandria DC-VA-MD-WV 07Q3 09Q4 -11.5 แต่ไม่มี Fairfax ส่วน WV ราคาบ้านและที่ ขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับเขตอื่นๆทั่วประเทศ ไม่น่าจะ Decline ไปมากกว่านี้ ที่เห็น (โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียด) เมื่อเทียบเฉพาะตัวบ้าน ราคาอาจจะต่างกับแถว SF Bay น่าจะถึงสิบเท่า จากคุณ : อิสวาสุ - [ 28 ก.ย. 50 13:02:03 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เท่าที่ผมติดตามตลาด Real Estate ถ้าจะซื้อบ้าน รอไว้ก่อนดีกว่า Say ว่า ปี 2010-2011 ( Just wait until the dust is settled !?) ตามตัวเลขที่เห็น บ้านน่าจะถูกลงมากกว่านี้ อย่าง Orange county ที่ผมอยู่ บ้านน่าจะ Over price ประมาณ 15-20 % เพราะคนแถวนี้ คิดว่าบ้านเป็น ATM เพราะ Refinance กันทุกปี แต่ตอนนี้ราคาบ้านตก Refinance ไม่ได้ ARM reset เลยไม่มีเงินจ่าย Monthly payment เขาก็เลยพูดกันว่า Forclosure is not a choice but it a must ! จากคุณ : tony-ca (tony-ca) - [ 28 ก.ย. 50 13:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เก็บตังรอซื้อบ้านถูก :) จากคุณ : เกือกซ่าสีชมพู - [ 28 ก.ย. 50 17:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตอบคุณอิสวาสุ Washington-Arlington-Alexandria DC-VA-MD-WV เป็นชื่อของ MSA (Metropolitan Statistical Area as defined by the US Census Bureau) แม้ชื่อจะมีแค่สาม county แต่จริงๆแล้วรวม county ทั้งหมด ข้างล่างนี่ Washington-Arlington-Alexandria, DC-VA-MD-WV Metropolitan Statistical Area Frederick County, MD Montgomery County, MD District of Columbia, DC Calvert County, MD Charles County, MD Prince George's County, MD Arlington County, VA Clarke County, VA Fairfax County, VA Fauquier County, VA Loudoun County, VA Prince William County, VA Spotsylvania County, VA Stafford County, VA Warren County, VA Alexandria city, VA Fairfax city, VA Falls Church city, VA Fredericksburg city, VA Manassas city, VA Manassas Park city, VA Jefferson County, WV จากคุณ : Hotlver - [ 28 ก.ย. 50 20:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาตามอ่านเรื่อยๆ ค่ะ ขอเก็บข้อมูลก่อนซื้อจริง Voted จากคุณ : ศรีธนา - [ 28 ก.ย. 50 22:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับความรู้+ข้อมูล ของ จขกท และ ท่านอื่น ๆ ที่มาเพิ่มเติม ตอนนี้ที่ อริโซน่า บ้านใหม่เกิดขึ้นอีกเยอะเลยคะ ราคาก็ล่อใจมาก ๆ บางคนบอกว่า ช่วงนี้เป็นตลาดของผู้ซื้อ ส่วนผู้ขายกะเก็งกำไรคงจะได้น้อยหน่อย เพราะตัวเลือกมีมาก จะซื้อบ้านทีก็เป็นหนี้กันยาว ต้องคิดกันให้รอบคอบคิดกันหลายรอบ จนมึน แล้วคะ ^____^" จากคุณ : แม่ไข่หก (แม่ไข่หก) - [ 28 ก.ย. 50 22:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 65 Since 30% declining in US dollar would be benefit for other Thais and foreigner who live in Europe and Asian to purchase a property or second property in the US. I would like to ask K' Hotlver or anyone who could explain the detail and what to expect when purchasing a property in the United States. Many of us in here are hard working and wishing to own or invest in any property in the US for later years to come. Many times, I read some advertising about payment of $1,260 per month for $200,000 30% fixed loan. Is it the actual number that potential home buyer would be paying? Or how can I calculate other housing fees to get a final number. and what are the rules of owning a second property. Thank you. แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 50 00:19:15 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 23:57:40 จากคุณ : . (The Zephyr) - [ 28 ก.ย. 50 23:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาอ่านเอาความรู้ ขอบคุณ คุณ Hotlver ครับ จากคุณ : smartupid - [ 29 ก.ย. 50 01:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อยู่อพาร์ทเม้นท์สองคนกับสามีที่ IL ก็มีคนบอกขายบ้านให้หลายคน ก็สนใจอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยมีตังค์ เลยอยากจะเก็บตังค์อีกสัก 2-3 ปี อาจจะซื้อบ้าน ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นบ้านจะราคาถูกลงหรือแพงขึ้น หรือว่าจะกู้เงินมาซื้อตอนนี้ดีคะ จากคุณ : เจ้าเท่ห์ - [ 29 ก.ย. 50 04:13:19 A:24.15.14.164 X: TicketID:078049 ]

ความคิดเห็นที่ 68 FYI: Owning a Second Home or Investment Property http://www.pueblo.gsa.gov/cfocus/cfsecondhome03/focus.htm#second Quote: Basically, for your second property to be considered a second home by the IRS, it needs to have sleeping accommodations and cooking and toilet facilities. A second home qualifies for the home mortgage interest deduction, just like your primary residence, because you're using the home for personal purposes during the year.  The catch is that your personal use needs to exceed 14 days or 10 percent of the time it was rented, whichever time length is greater. In addition, if you rent your home for fewer than 15 days a year, and personally use it for more than 15 days a year, you do not need to declare any rental income. Everyone's circumstances are unique. Consult a tax professional regarding deductibility.               FYI: Nine Steps to "Buying a Home"       Link--> http://www.hud.gov/buying/index.cfm  1.Figure out how much you can afford http://www.ginniemae.gov/2_prequal/intro_questions.asp?Section=YPTH (Your Path to HomeOwnership) 2.Know your rights                               3.Shop for a loan 4.Learn about homebuying programs     5.Shop for a home 6.Make an offer                                   7.Get a home inspection 8.Shop for homeowners insurance        9.Sign papers   (Click over the subtitle for the specific one)   FYI: Local HUD Information ---> http://www.hud.gov/local/index.cfm Home Ownership CA ---> http://www.hud.gov/local/index.cfm?state=ca&topic=homeownership                       ........................          FYI:  R E F I N A N C I N G Link--> http://www.fanniemae.com/homebuyers/findamortgage/refinancing/index.jhtml?p=Find+a+Mortgage&s=Refinancing                        ..........................       FYI: What to expect when you purchase a property in the US.   USCIS Document: M-618 Buying a Home in the US (Page 24 -25)   Link--> http://www.uscis.gov/files/nativedocuments/M-618.pdf แปลสรุปใจความ หัวข้อย่อยการซื้อบ้าน จากเอกสารเอ็มหกหนึ่งแปด ในการซื้อบ้าน ต้องขอกู้เงิน (loan or mortgage)โดยขอกู้ได้จากธนาคารในพื้นที่ หรือบริษัทปล่อยเงินกู้เพื่อรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ (mortgage company) ผู้กู้ยืมมีภาระในการกู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดหรือระบุตกลงไว้ ในระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน ว่าต้องชดใช้เงินกู้จำนวนนี้ การจ่ายค่าดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านส่วนนี้นำไปลดหย่อนภาษีเงินได้จากรัฐบาลกลาง(federal income tax) ได้ *ข้อพึงระวัง มิควรให้ผู้ปล่อยกู้เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่แพงเกินสมควร         สิ่งจำเป็น ควรต้องซื้อประกันภัยสำหรับบ้าน ซึ่งอาจชำรุดในอนาคต ประกันภัยจะช่วยในการซ่อมแซม ค่าประกันจะครอบคลุมเกี่ยวกับภัยใดๆที่เกิดจากธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศ อัคคีภัย หรือโจรกรรมบ้าน เจ้าของบ้านต้องเสียค่าภาษีโรงเรือน (property taxes)             ตัวแทนจำหน่ายบ้าน และหรือทนายความด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถแนะนำหรือช่วยจัดหาเงินกู้และประกันภัยให้ได้ ตัวแทนขายบ้านไม่ควรคิดค่าธรรมเนียมเมื่อลูกค้าซื้อบ้าน แต่ในการกรอกแบบฟอร์มอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ทนายด้านอสังหาริมทรัพย์ และผู้ซื้อบ้านต้องเสียค่าธรรมเนียมในการได้เงินกู้และการกรอกแบบฟอร์มยื่นต่อมลรัฐ (State) ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้เรียกว่า closing costs  ก่อนที่จะลงนามซื้อบ้านอย่างแน่นอนในเอกสารสัญญาฉบับท้ายสุด ตัวแทนขายบ้านและสถาบันเงินกู้จะต้องแจ้งรายละเอียดทั้งหมดว่าต้องจ่ายค่า closing costs ทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าใด             ....................................................................... มาช่วยค้นข้อมูลตอบคำถามการซื้อบ้านและเชื่อมเว็บไซต์ประเด็นที่มีผู้ถาม                                       แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 50 04:29:40 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 50 04:26:13 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 29 ก.ย. 50 04:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 69 แวะมาอ่านค่ะ จากคุณ : yuy - [ 29 ก.ย. 50 09:15:38 A:203.122.247.129 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณ จขกท.มากค่ะ กำลังปวดหัวเรื่องบ้านอยู่พอดี ดันซื้อตอนราคาพุ่งเต็มที่เมือ ๒ ปีก่อน 2005  แต่ก็ยังดีอยู่บ้าง แถวบ้านเขตเมือง windsor ราคาไม่ตกเท่าไหร่ค่ะ เมืองใกล้เคียงตกกว่าเยอะ แต่ก็มี Foreclosure ให้เห็นบ้างแล้ว นอกนั้นก็อย่างที่รู้ ๆ property tax ปีนี้เจอไป ๖ พันกว่าเหรียญ ไหนบอกราคาบ้านตก ทำไมภาษีดันขึ้นจากปีก่อนอีกก็ไม่รุ้ เฮ้อ สงสัยต้องย้ายกลับเมืองไทยซะละมั้ง จากคุณ : silkywind123 - [ 29 ก.ย. 50 20:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มีความรู้ขึ้นมากมายก่ายกองเลยคะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จากคุณ : แม่น้องพราว (แม่น้องพราว) - [ 29 ก.ย. 50 21:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณค่ะที่คุณ hotlver เอาข้อมูลมาแบ่งปันกัน ทำให้เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นว่าตลาดกำลังโน้มมาทางเรามากแล้ว กำลังรอดูราคาอยู่เหมือนกันค่ะ เงื้อง่าราคาแพงมาได้ปีสองปีแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังเดินมาถูกทาง เพราะกะจะรอให้ตลาดวายก่อน แม้ว่าตอนนี้ราคาบ้านแถวที่ดิฉันอยู่ (PG County แถบ DC Metro Area) จะเป็นขาลง แต่ก็ไม่ได้ลงมามากมายนัก เหมือนกับว่าทาง builders ยังไม่ยอมให้มันตกลงมามาก และเวลาไปดูบ้านเขาก็จะคอยบอกเราว่า ยังขายได้ๆอยู่ ตอนนี้ตลาดจะช้าลงหน่อย แต่อีกหน่อยก็จะดีขึ้นแล้วนะ (เขาจะพูดทำนองช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดไว้หลายๆใบ) และจะเหลือบ้านให้เลือกเพียงไม่กี่หลัง เพื่อกดดันให้เราตัดสินซื้อไวๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะลดราคาโน่นนี่เยอะแยะไปหมด (แต่คำนวณตัวเลขดูแล้ว ก็ไม่เชิงว่าจะได้ good deal เสมอไปค่ะ) ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ซื้อบ้านอย่างเราๆก็กล้าๆกลัวๆนะ ว่าจะซื้อดีไหมนี่ ทำไมมันแถมเยอะขนาดนี้ คุณภาพจะดีพอหรือเปล่า ฯลฯ กลายเป็นว่า เพิ่มความลังเลให้เราไปเสียอีกแน่ะ จากคุณ : yinnerella - [ 30 ก.ย. 50 04:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ : tony-ca ดูที่ถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ ไม่น่าจะรอสามสี่ปี ถ้าพร้อม ค่าเช่าเอย ของอื่นก็ขึ้นราคาไปมาก หาสเตกกินต่ำกว่า 20.00 ไม่ได้แล้ว ของอื่นก็แพงขึ้นเรื่อยๆ ตามราคาน้ำมัน ผมว่าราคาบ้านไม่น่าจะตกไปมากว่านี้แล้วนา ถึงตกลงมาบ้างก็น่าจะออฟเซทค่าเช่าได้ หมายถึงถ้าคุณไม่ได้เช่าคนอื่นก็เช่า ขอบคุณ คุณ Hotlvr ที่มาให้คำอธิบาย คุณ : silkywind123 ผมไปซื้อไว้ที่ลาดพร้าวตอนที่บ้านราคาสูงสุดยอดเหมือนกัน แต่ก็โล่งอกไปแล้ว เพิ่งผ่อนหมด คนเช่าอยู่ไม่รู้พังแล้วยัง จากคุณ : อิสวาสุ - [ 30 ก.ย. 50 15:38:54 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ดูเหมือนว่าที่ UK ก็เป็นนะคะเนี่ย ติดประกาศขายบ้านตั้งแต่ต้นปีแล้ว..ยังขายไม่ได้เลย จากคุณ : แช มัน ฮวา - [ 30 ก.ย. 50 17:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 30 ก.ย. 50 20:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 76 Khun Hotlver, Please, allow me to respond: Khun น้องหมาตากลม, Asian economy in general was affected, but not badly.  As mentioned earlier, from the last crisis, Asian emerging markets are better prepared this time.  They have large foreign reserves and account surpluses to absorb the shock. The Asian real estate markets in general are not inflated like in the US.  Average prices in Malaysia, Thailand and Taiwan are still below their previous peaks (before the crisis in 1997).  Actually, prices fell in real terms over the past year. A mechanism used to measure market is the long-term relationship between house prices and income changes.  Per graphs from the IMF year 1999-2006, for Thailand, it shows the % of income change outpaces the % of price change.  This indicates prices are still affordable.  Another indicator is a massive increase in mortgage borrowing. Khun Isvasu, The prediction can vary from 15% to 30% over the next few years.  Again, this is an average. Prices can vary from region to region.  Prices in a particular region can fall sharply while the others do not.   Within each region itself, prices still can vary from neighborhood/zip-code to neighborhood/zip-code.  For example in Montgomery County, while prices in Rockville/Gaithersburg and beyond drop, but not in Bethesda.  In Bethesda, though number for bidders for a house dwindles, but there are still buyers bidding for homes in this “hot neighborhoods”. Different institutions have different methodologies to measure housing-price changes.  S&P index, Case-Shiller, indicates prices in the Washington region has declined 7.2% from July-2006 to July-2007.  Meanwhile, the number from the National Association Realtors index, which uses a different methodology, shows a more optimistic view. In your case, I’m sure it’s not the matter of loosing profit, but less profit.  You bought your house long time ago when its price was still very low.  Over years, it has appreciated.  Now price drops, but not at the pace of appreciation. Thus, you still have your capital gain, but less than during the peak period. My neighbour bought his house about 20 years ago; he paid close to 190K.  He put it in the market with an asking price of 565K.  After a price reduction, he was able to sell at close to 500K.  He still makes a big cut, but less than he had hoped. Another point, it’s ture that you gain less, from selling your property, during the downtime, but you also pay less for the new property that you’ll move into.  This in a way offsets the loss of less capital gain unless you want to move into the “hot zones” like Bethesda, Arlington and Alexandria where prices have yet changed much. Having said that, don't worry be happy; and enjoy your ไปเดินเล่น.   แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 03:21:02 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 03:18:18 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 1 ต.ค. 50 03:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 77 It is undeniable that reckless lenders/investors should be held accountable to this crisis.  However, this crisis is different than the past.   It is about the way business was conducted not how it was struck.  In the past, banks lent to known institutions/borrowers; thus when financial crisis struck, it was easier to spot victims/losers.   For the past two decades, there have been new innovation i.e. securitization of just about every form of debt into tradable assets e.g. securitization of asset-backed mortgages in the form of hedge funds.  This is an effective way of distributing risk into markets.  When crisis struck; many victims/losers are not known; or if known, it will take longer period for the revelation. Under this circumstance, the Fed had to step in to stave off good banks from failing; and loans for good companies from drying up.  This reaction will consequently protect a massive damage to the healthy parts of the economy. แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 08:04:17 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 05:40:16 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 1 ต.ค. 50 03:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 78 For those who want to buy a house for your primary residence; I would not wait.  This is how I see it; as long as you meet these conditions: 1. Sufficient down payment at least 10% or even higher. 2. Sufficient fund for transaction costs. 3. Sufficient monthly payments (mortgage + 40% to 45% of monthly mortgage for insurances, utilities, and set-aside fund for property tax) 4. After all the aforementioned expenses, some savings for rainy days. There is no point of waiting for prices to drop further.   Just think about this, unlike paying rent, you gradually build up your property equity when your payments go towards mortgages.  In addition, mortgage payments are tax deductible while rents are not. Also, more factors rather than pricing alone should be taken into consideration when buying a house.  For instance, neighborhoods, schools for your children, a bigger place for your growing family and a place of your own where you can remodel/renovate to your liking, etc.  Once these factors meet your needs; and that you have sufficient fund as mentioned above; why waiting.  Property will always appreciate for the long run. แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 08:08:46 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 05:42:21 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 1 ต.ค. 50 03:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมาก ๆ ครับ  คุณ Thai Woman (ณารา)  สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ จากคุณ : Mahal - [ 1 ต.ค. 50 05:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 80 Any time, Khun Mahal. จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 1 ต.ค. 50 07:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เข้ามาเก็บข้อมูลเรื่อยๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 1 ต.ค. 50 10:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 82 จากข้อมูลที่รายงานใน WallStreetJournal Inventory ของบ้านที่รอขายอยู่ในขณะนี้ ...........ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 เดือน(ในสภาวะเศรษฐกิจปกติ)จึงจะขายได้หมด ยังไม่รวมบ้านที่จะเข้าสู่ตลาดอีกอย่างน้อย 2 ล้านหลังภายในปีหน้า ช่วงเดือนกันยานี้ถึงมิถุนาปีหน้าจะมีคนอเมริกันหลายล้านคนจะต้องจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านเพิ่มขึ้นเกินสองเท่า เพราะการกู้เงินประเทศที่เรียกว่า Option-ARM ทำให้ดอกเบี้ย reset เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการจ่ายเงินผ่อนช่วง 2-3 ปีแรกเป็นการผ่อนแบบติดลบ คือจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยบางส่วน ดอกเบี้ยส่วนที่เหลือสะสมเข้าทบไปเป็นเงินต้นที่เพิ่มขึ้นทุกๆเดือน เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ทั้ง Consumer Price Inflation และ Asset Price Inflation ฝั่งอังกฤษและฝั่งอเมริกากำลังแข่งกันว่าฟองสบู่ใครจะแตกก่อนกัน ผมเคยเตือนเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯไว้เมื่อต้นปีนี้ ตอนนี้ก็ยังอยากบอกให้ระวังอยู่ครับ .................มันทำท่าจะกลายเป็นปัญหาทั่วโลกซะด้วย เพราะราคาพืชผลการเกษตรที่เป็นอาหารหลักของประชากรทั้งโลกมีราคาสูงขึ้นมาก ..............โดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวสาลี (รวมทั้งข้าวโพด) ........ราคาสูงสุดในรอบ 30 ปี เมล็ดถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ เช่น หมู วัว ไก่ กุ้ง อาหารสำเร็จรูปในสหรัฐเกือบทุกอย่างต้องใส่แป้งข้าวโพด ค่าเงินสหรัฐฯ เทียบกับเงินชาติอื่นๆ เช่น แคนาดาก็อ่อนสุดในรอบ 30 ปี .............นี่คือผลของการลดดอกเบี้ยและพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบโดยไม่มี Reserve เพิ่ม มีอย่างที่ไหนไม่กี่ปีที่แล้ว อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1.3 เหรียญแคนาดา ....................ขณะนี้เหลือแค่ 1 ต่อ 1 เรื่องบ้านที่สหรัฐฯ ขึ้นกับว่าคุณอยู่เมืองไหน .........แต่มีไม่กี่เมืองหรอกครับที่ราคายังไม่ขยับลง ถ้าใครซื้อแล้ว และอาศัยอยู่เองก็คงต้องทำใจกับราคา ใครซื้อ(ลงทุน)แล้วยังไม่ขาดทุนมาก.......น่าจะหาโอกาสขายไปก่อน ถ้าใครคิดจะซื้อลงทุนตอนนี้ ..........ระวังจะมีของที่ถูกกว่า ถ้าใครยังไม่ซื้อ..............................น่าจะรอดูถึงเดือนปลายมกราคมก่อนนะครับ ถ้าใครจำเป็นต้องซื้อช่วงนี้ ต่อราคาดีๆ นะครับ .........และขออวยพรให้โชคดีกู้เงินได้ ราคาบ้านลดลง...............แต่ราคาค่าเช่าเริ่มขยับขึ้นบ้างแล้วครับ จากคุณ : academician - [ 1 ต.ค. 50 13:24:01 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 83 http://ml-implode.com/ จากคุณ : academician - [ 1 ต.ค. 50 13:24:56 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ****August 07, 2007 **** -Almost all stated income loans everywhere vanished. -Almost all 2/28 ARMs vanished. -While this was eventually expected it was not expected by everyone overnight. -Subprime rates have risen by as much as 190 basis points at his organization in just the last 2 weeks! -Many other lending institutions have done the same thing. -The definition of prime has tightened considerably, everywhere. -Any variance from prime raises the mortgage rate. -Small differences in FICO score now matter (sometimes by a lot). Every little thing adds up. -90% LTV rates are higher than 85% LTV rates which are higher than 80% LTV rates. -100% LTV rates are very difficult to come for subprime and even Alt-A. -Condos vs. homes matters significantly. -There were 3 rate increases in the last 2 weeks even as 10 year treasury rates rallied. -Second mortgages have nearly vanished - no market. -2/28 arms - gone. -Someone who is "really clean" but is not prime (but close) and is putting down 20% has had a 70-80 basis point hike in the last 2 weeks. -The bankrate charts might not show it, but in the last two weeks nearly every loan rate went up even as treasuries rallied significantly. The primest of prime was perhaps flat. จากคุณ : academician - [ 1 ต.ค. 50 13:32:58 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 85 http://seekingalpha.com/sector/usmarket จากคุณ : academician - [ 1 ต.ค. 50 13:33:37 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 86 Thanks a lot khun Thai Woman (ณารา) for your kind response. I actually plan to buy a house in Thailand, but this is not urgent. From your point of view plus the comment by khun academician, I'd better wait then. I am interested to know the trend of the inflation in Thailand as well as the mechanism to measure the Thai property market. Could you please recommend reliable websites that I can find such info? จากคุณ : น้องหมาตากลม - [ 1 ต.ค. 50 14:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 87 แล้วจะมีผลต่อ Australia มั้ยครับ เพราะได้ข่าวมาว่าที่นี่ีก็มีการปล่อยกู้ให้กับคนที่อาจจะไม่มีอำนาจทางการเงินที่จะผ่อนได้  เพื่อให้ตลาดบ้านมีราคาดีๆ และธนาคารก็ทำกำไรกับดอกเบี้ย นายหน้าขายบ้านก็ได้ % ไป และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังมีปัญหาว่าราคาบ้านสูงมากๆจนคนทั่วไป เกินที่จะสามารถซื้อกันได้ จากคุณ : สุดท้ายก็ว่างเปล่า - [ 1 ต.ค. 50 17:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อืม....ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ กำลังเรียนอะไรประมาณนี้อยู่พอดี แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย.... คงต้องอาศัยตามอ่านจากที่นี่ควบคู่กันไปด้วยแล้ว จากคุณ : <> Giggs <> - [ 2 ต.ค. 50 03:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เข้ามาหาความรู้มั่ง พอดีกำลังคิดจะขายบ้านในแอลเอ อยู่พอดี ขอบคุณหลายๆ ค่า จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 2 ต.ค. 50 05:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 90 พอมีกระทู้นี้ ผมคิดถึงคุณ : academician ว่าน่าจะมีสาระดีๆมาเล่าสู่กันฟัง แล้วก็มาจริงๆ แสดงว่าเข้ามาเยี่ยมบ่อยแต่ไม่ลงชื่อ สวัสดีครับ คุณ : academician มีอะไรที่เป็นกูดดีลเล่าให้ฟังบ้างนะครับ จากคุณ : อิสวาสุ - [ 3 ต.ค. 50 04:44:54 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 91 สวัสดีครับคุณอิสวาสุ นานๆ ผมจะเข้ามาห้องนี้ทีนึงครับ พอดีเรื่องนี้ขึ้นหน้าหนึ่งเลยเข้ามาอ่านครับ อ่านข้อมูลจากเว็บของพี่สาวคนนี้ก็ดีนะครับ สมัครสมาชิกให้ส่งเป็นอีเมล์อ่านง่ายกว่าและได้เห็น chart ครบ http://finance.groups.yahoo.com/group/hoonfriendpages/ ตอนนี้ยังไม่ว่างหาดีลดีๆ เลยครับ รวมทั้งกำลังรอดูทิศทางอย่างที่บอกละครับ .........ดอกเบี้ยเงินฝากเริ่มลดลงแล้วซะด้วย เงินที่เคยดึงมาใช้ฟรีๆ จากธนาคารต่างๆ เริ่มจะมีต้นทุนซะแล้ว อ้อ มีดีลเล็กๆ ที่เป็นแค่น้ำจิ้มที่เพิ่งได้มาคือตั๋วเครื่องบินสองใบครับ ใบแรกได้มาจากการซื้อเสื้อผ้า Dockers 125 เหรียญเมื่อเดือนมิถุนา อีกใบนึงได้มาจากการเล่นเกมกับ Delta Airlines .........ใช้เวลาและความอดทนรอประมาณ 3 เดือน แต่ก็คุ้มครับ สถานการณ์เศรษฐกิจ รถใหม่ที่ผลิตจากนอกประเทศสหรัฐฯ เห็นบอกว่าจะขึ้นราคา เพราะค่าเงินอ่อนลงมาก .........อาจจะหลอกก็ได้ เห็นยอดขายตกเกือบทุกรายเลยในเดือนกันยา แม้กระทั่งโตโยต้ายอดขายยังหดลง 0.6 เปอร์เซ็นต์ -Public spending is out of control in the US and UK. -Banana Republic charges are being leveled at the US and UK. -Runs on the bank occurred in the US and UK. -The Fed is accepting mortgages as collateral in the US for the first time. -Foreclosures are at all time high in the US. -The US dollar is at all time lows. -Japan is still struggling with deflation. -Two failed banks in Germany were bailed out by the ECB. -There are US Congressional threats of tariffs against China. -There is a proposal to freeze short term commercial paper for up to 7 years in Canada. -Housing bubbles in the US, Spain, and Australia are deflating. -Housing bubble in Canada is still inflating. -China refuses to float the RMB and sterilize US dollars flooding in. --That in turn is fueling Chinese inflation. -Price controls that can't possibly work were implemented in China in response to Chinese aforementioned Chinese inflation. -Commodity prices are soaring. -Oil is at record high prices. -A Massive carry trade in Japan is fueling a plethora of asset bubbles around the globe. -$500 Trillion in derivatives are floating around dwarfing the size of the global economy. -The global credit bubble dwarfs by orders of magnitude the credit bubble preceding the great depression. จากคุณ : academician - [ 3 ต.ค. 50 08:33:15 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณมากครับ เข้าไปดูลิงค์แล้วครับ คนนี้เอง "Prettypetite" จากคุณ : อิสวาสุ - [ 3 ต.ค. 50 18:37:16 A:71.114.49.48 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ครับ พี่สาวคนสวยท่านนี้ละครับ คุณอิสวาสุ ถ้าผมจำไม่ผิดท่านอายุประมาณเลข 6 แล้ว --------------------------------------------------------------- เมื่อวานอ่านข่าวผลประกอบการของ UBS และ CitiBank ในไตรมาสสามแล้วอ่อนใจครับ หมายเหตุ UBS เป็น ธนาคารอันดับหนึ่งของโลก (ในแง่ของปริมาณสินทรัพย์) CitiBank เป็น ธนาคารอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ และอันดับสองของโลก (ในแง่ของปริมาณสินทรัพย์) http://en.wikipedia.org/wiki/Bank จากคุณ : academician - [ 4 ต.ค. 50 01:08:23 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 94 First of all, I thank everyone who posted wonderful knowledge of housing sector in the US. I guess there won't be a second investment property for me. K' academician, อ้อ มีดีลเล็กๆ ที่เป็นแค่น้ำจิ้มที่เพิ่งได้มาคือตั๋วเครื่องบินสองใบครับ ใบแรกได้มาจากการซื้อเสื้อผ้า Dockers 125 เหรียญเมื่อเดือนมิถุนา อีกใบนึงได้มาจากการเล่นเกมกับ Delta Airlines .........ใช้เวลาและความอดทนรอประมาณ 3 เดือน แต่ก็คุ้มครับ Is the Delta airline games still on? I corrected free airline tickets and points for redemption even sometimes can't hardly use whenever I want.  (still mad at AA and Northwest) Thank you in advance. แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 09:26:22 จากคุณ : The Zephyr - [ 4 ต.ค. 50 09:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 95 Delta Airlines' game is over, but Northwest Airlines' game is coming soon !!! http://www.nwa.com/offers/mysterymiles/ จากคุณ : academician - [ 4 ต.ค. 50 11:55:33 A:130.18.158.74 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 96 Thanks More points mean more vacations แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 50 20:04:15 จากคุณ : The Zephyr - [ 4 ต.ค. 50 20:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ใช้ประกอบการเรียนได้เป็นอย่างดี (อิอิอิ) ติดตามต่อไป จากคุณ : SuPerGLUE (SuPerHyPerOverUltraGLUE) - [ 4 ต.ค. 50 21:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เข้ามาเก็บข้อมูลเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 4 ต.ค. 50 23:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 99 แวะมาอ่าน ได้ข้อมูล ยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ เรียกว่าได้ถึงที่ ( คนอยู่ในเหตุการณ์เค้าคุยกัน ) จากคุณ : แนนแนน - [ 6 ต.ค. 50 14:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลมีประโยชน์มาก คราวนี้อยากถามคำถามหน่อยค่ะ พึ่งดูทีวีเกี่ยวกับการซื้อบ้าน เค้ามีการเอาเงินสะสม IRA มาดาวน์บ้านด้วย ในกรณีนี้นี่ยังไงคะ เราสามารถเอาเงินออกจาก IRA มาดาวน์บ้านได้ทั้งหมดหรือเปล่า แล้วเราจะต้องจ่ายค่า penalty เปล่าคะ แล้วถ้า IRA ทำได้ แล้ว 401(K) ทำได้หรือเปล่าคะ จากคุณ : ส้มตำปูม้า - [ วันเกิด PANTIP.COM 09:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สุขสันต์วันเกิดค่ะ PANTIP.COM จากคุณ : ส้มตำปูม้า - [ วันเกิด PANTIP.COM 09:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ผมเอา Link มาฝากเรื่องเกี่ยวกับ Real Estate http://money.cnn.com/2007/09/19/real_estate/steep_home_price_drops_coming/index.htm http://money.cnn.com/magazines/fortune/storysupplement/subprime_statebystate/ http://www.thetruthaboutmortgage.com/a-list-of-recent-mortgage-closures-mergers-and-layoffs/ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างครับ จากคุณ : tony-ca - [ วันเกิด PANTIP.COM 12:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มาเก็บเกี่ยวความรู้ + ให้กำลังใจคุณ Hotlver ค่ะ โหวตอีกหนึ่งเสียง :)) จากคุณ : LaveN lily - [ วันเกิด PANTIP.COM 13:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ไปค้นมาเพิ่มเจออันนี้ค่ะ น่าสนใจ You could tap your retirement savings, either borrowing from a 401(k) account or withdrawing money early from an Individual Retirement Account. When you borrow from your 401(k), you repay the loan over five or more years, with interest. Most 401(k) plans will let you borrow up to $50,000 of your balance or 50 percent, whichever is less. Withdrawing money from an IRA can be a good strategy for first-time home buyers. You pay taxes on the disbursement, but a 10 percent early-withdrawal penalty is waived if you use the money to buy your first home. Some advisers warn against removing money from a retirement nest egg. "But," says Ellen Bitton, president of Park Avenue Mortgage in New York City, "in the long run, you'll probably have more appreciation on the money invested in real estate." จากคุณ : ส้มตำปูม้า - [ วันเกิด PANTIP.COM 22:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 105 สรุปเรื่องได้ดีครับ ติดตามเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้วเหมือนกันครับ เคยเข้าไปคุยในห้องสินธรด้วย (มีคนสงสัยว่า ตลาดบ้านที่เมกามันส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร) จากคุณ : Freedom and Justice - [ 10 ต.ค. 50 10:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตอนนี้กำลังเจรจาต่อรองราคาอยู่ค่ะ 3นอน 2น้ำ สร้าง1989 แถวคอนคอด (เบย์ แอเรีย) เจ้าของบ้านเป็นแฟนของเพื่อนสนิท เขาเลยจะขายให้ 450K แต่เราจะต่อเหลือ 430K คนที่ทำโลนเป็นน้องสาวเพื่อน จะคิดค่าทำนิดหน่อย อย่างนี้ ถ้าเป็นคุณ จะตัดสินใจยังไงดีค่ะ บ้านแถวๆนั้นเขาก็จะขาย 550K แต่ไม่ได้เข้าไปดูข้างใน ว่าเขาอัพเกรดอะไรบ้าง มีเวปไหนบ้างค่ะที่เช็คราคาบ้านว่าประมาณเท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 10 ต.ค. 50 13:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาอ่าน แต่ไม่ค่อยเข้าใจ แหละครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : สิงโตทะเลทราย - [ 10 ต.ค. 50 19:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 108 มีเวปไหนบ้างค่ะที่เช็คราคาบ้านว่าประมาณเท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ม่านสีม่วง **************************************** http://www.zillow.com/ คำเตือน ไม่ควรดูราคาที่ขึ้นมาจากเว็บนี้อย่างเดียวนะครับ ต้องดูข้อมูลอื่นๆประกอบด้วย เช่น -บ้านที่ขึ้นมาให้เปรียบเทียบอยู่ในทำเลเดียวกันหรือคล้ายกันแค่ไหน -ความใกล้ ไกลจากถนนใหญ่และความเจริญต่างๆ -อาชญากรรมในท้องถิ่น (โทรไปถามสถิติที่สถานีตำรวจได้ครับ) บ้านสองหลังอยู่ห่างกันไม่กี่บล็อค.......ราคาต่างกันฟ้ากับเหวได้นะครับ ........เพราะหลังนึงอาจอยู่ในเขตที่ด้อยกว่าอีกหลังนึง ทางที่ดีเลือกใช้ราคาที่น้อยกว่าเป็นเกณฑ์นะครับ ใช้ราคาตอนที่เจ้าของเดิมซื้อได้ยิ่งดี ........แล้วมาปรับเอาตามที่เราคิดว่าควรจะเป็น จากคุณ : academician - [ 14 ต.ค. 50 18:59:31 A:130.18.158.132 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อยากจะเข้ามาเตือนว่า ธนาคารต่างๆ ที่ตัดขาดทุนในไตรมาสนี้ จะต้องตัดขาดทุนมากกว่านี้ในไตรมาสหน้า ..........รายงานไตรมาสสี่จะออกเดือนมกราคมปีหน้า ยังยืนยันตามความคิดเห็นที่ 82 ครับ ใครที่จะซื้อบ้าน ถ้ารอได้ ควรรอถึงสิ้นเดือนมกราปีหน้าครับ แต่ถ้าให้ปลอดภัย รอไปถึงกรกฎาคมปีหน้าจะปลอดภัยสุดครับ จากคุณ : academician - [ 24 ต.ค. 50 22:31:01 A:130.18.158.158 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณครับ จากคุณ : อริยทรัพยไพศาล - [ 10 พ.ย. 50 02:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 111 http://www.usatoday.com/money/economy/2007-11-25-credit-crunch_N.htm?csp จากคุณ : academician - [ 27 พ.ย. 50 02:42:43 A:130.18.158.158 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 112 http://online.wsj.com/article/SB119647142361010245.html?mod=googlenews_wsj Florida's State Board imposed the freeze on withdrawals from its Local Government Investment Pool Thursday after the fund's investors, nervous local governments and school districts, yanked $10 billion out over two weeks on concerns that money was invested in risky mortgage-related securities. จากคุณ : academician - [ 3 ธ.ค. 50 01:37:12 A:130.18.158.158 X: TicketID:075095 ]