ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ ทามมายมันถึงได้ยุ่งยากอย่างนี้หนอ จากคุณ : กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน - [ 11 ต.ค. 50 20:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นใจคุณจริง ๆ เลย เพราะเป็นการเสียเงินค่าวีซ่าไปโดยไม่น่าจะเสีย ตามความคิดเห็นนะคะ  คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด.. ทางคุณเข้ามาช้าไปสี่สิบสองวัน  .. ฉะนั้นการนับวันเพื่อขอต่อวีซ่า ต้องนับจากวันที่เข้ามาถึงยูเคจริง ๆ  ไปเป็นระยะเวลาหนึ่งปี สิบเอ็ดเดือน ถึงจะยื่นเรื่องขอต่อได้ ไม่ใช่ไปนับจากวันที่ที่ได้ตราจากสถานทูตที่เมืองไทย ตอนบีพีเข้ามาที่นี่ ก็มาช้าจากวันที่ได้วีซ่าที่ไทยไปเดือนหนึ่ง (เพราะมัวแต่เร่งงานให้ที่บริษัทเก่าฯ แล้วก็เจ้านายขอให้เปลี่ยนวันที่ได้ยื่นใบลาออก) เวลานับวัน ก็จะเริ่มนับวันที่เืราได้แตะพื้นดินที่นี่จริง ๆ ซึ่งก็จะมาตราประทับจากอิมมิเกรชั่นที่สนามบินฮีทโทร .... ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงตรงนี้แล้ว ไม่แน่ใจว่าทางคุณจะเขียนจดหมาย ไปขอร้องทางโฮมออฟฟิคได้หรือไม่ว่า เหตุการณ์นี้เป็นความเข้าใจผิดในการนับวันของคุณเอง แล้วก็ยื่นเรื่องใหม่ในระหว่างเดือนพ.ย.ถึงธ.ค.   (คิดสมมติเอาว่าคุณได้วีซ่าจากสถานทูตเมื่อวันที่ ๑ พ.ย. ๐๕ แต่ เข้ามาในประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวา ฉะนั้นการจะยื่นได้ก็ต้องเป็น วันที่ในระหว่าง ๑๕ พ.ย. ถึง ๑๒ ธันวาปีนี้) ส่วนเรื่องการขอความช่วยเหลือเรื่องการเงินของรัฐ ในความเห็นส่วนตัวของบีพี กลับมองว่าการที่เราจะขออะไรในยุคนี้  เขาก็จะดูว่าเราได้จ่ายภาษีแล้วได้ครบถึงเกณฑ์หรือไม่มากกว่า  ถ้าสามีเป็นคนจ่ายอยู่แล้ว .. การขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นค่าเลี้ยงดูบุตร ก็สามารถขอได้ในนามสามีอยู่แล้ว ... หรือในทางกลับกัน ถึงแม้ว่าตัวคุณได้วีซ่าอยู่ถาวรแล้ว แต่ทำงานแค่ปีเดียว แล้วเกิดตกงาน จำเป็นต้องไปขอเงินจากรัฐ เขาก็ไม่จ่ายให้เราอยู่ดีนะคะ  (กฎนี้ก็ใช้กับคนอังกฤษทั่วไปเหมือนกัน)  อาจจะมีข้อดีอยู่ตรงที่ ถ้าไม่มีบ้านอยู่ แล้วไปขอลงทะเบียน .. ตรงนี้เขาจะช่วยให้ แต่ก็นะนะ .. คิวเดี๋ยวนี้ยาวมาก ๆ คะแนนที่จะกำหนดว่าจะช่วยใครก่อนหลัง เขาก็พิจารณาหลายอย่างมาก และอาจจะไปตกกับคู่ที่มีเด็กเล็กก่อนจะถึงคู่แต่งงานปรกติ ... ฉะนั้นในความเห็นบีพี .. เรื่องความช่วยเหลือจากรัฐ อย่าไปคิดหวังมากนัก เพราะงบประมาณอะไร ก็น้อยลงเมื่อเทียบกับปริมาณประชากรที่เพิ่มขึ้น ลองดูนะคะ .. ลองเขียนจดหมายไปเพื่อขอต่อใหม่ในเดือนพ.ย.ถึงธันวา (อาจจะต้องเสียค่าทำเนียมใหม่) เผื่อจะได้ย่นระยะเวลาการรอคอยวีซ่าถาวร ที่แนะนำก็เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ  โชคดีนะคะ หมายเหตุ.. เข้ามาเพิ่มข้อความหน่อยนึงค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 50 21:13:38 จากคุณ : บีพี - [ 11 ต.ค. 50 21:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.ind.homeoffice.gov.uk/6353/11406/anguidance1.pdf เมื่อตะกี้..ไปหาอ่านเอกสารเกี่ยวกับขอซิติเซ่นต์อันล่าสุด ก็ไม่เห็นว่าจะมีข้อกำหนดว่าจะต้องได้ ILR ก่อนถึงจะสมัครได้  เอกสารหลักที่เน้น ๆ ก็คือหนังสือเดินทาง "หรือ" จะเป็นจดหมายจากโฮมออฟฟิคที่ระบุว่าได้อยู่ครบตามกำหนด (กฎระเบียบก่อน ๆ โน้นจะระบุค่อนข้างชัดเจนมากกว่านี้ว่า ต้องได้ ILR แล้วเท่านั้น ถึงจะไปยื่นขอสมัครพลเมืองได้) ฉะนั้นก็คงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตีความ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครตรวจ ใครรับ) อีกอ่ะนะ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้จะยื่นขอสมัครพลเมืองเลย เมื่อครบสามปี โดยไม่ขอ ILR ก็น่าจะได้แต่คงต้องไปลุ้นกันอีกทีในเรื่องการตีความ ถ้าจะเอาแบบนั้น คุณควรต้องทำจดหมายอธิบายแต่ละข้อ ๆ ไปว่าเรามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เขากำหนด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ฯลฯ ว่ากันไป  แล้วก็อธิบายให้ชัดเจนว่าตอนต่อวีซ่าจากสองปีมาเป็น ILR เรากลับได้มาเป็นวีซ่าสองปีแบบนี้ ... แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เราก็อยู่ครบ (หรือเลยกำหนด) สามปี ฯลฯ และก็คิดว่าเรามีสิทธิ์จะขอสมัครพลเมือง บีพีตอบแบบไม่ทราบว่าเหตุการณ์ในอนาคตว่า ทางโฮมออฟฟิคจะปรับเปลี่ยน กฎอะไรอีกหรือเปล่า หรือว่าคุณจะเจอเจ้าหน้าที่คนไหนเป็นคนดูเอกสาร ตีความ จากคุณ : บีพี - [ 11 ต.ค. 50 21:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนกำลังจะขอสิ้นเดือนนี้ ชักหวาดๆ ล่ะสิ อะไรเนี่ย คราวก่อนช่วงต้นปี เพื่อนๆในนี้คุยเรื่อง ใครที่เดินทางเข้าอังกฤษช้ากว่าวีซ่าที่ได้มาจากเมืองไทย ต้องต่อสองครั้ง เสียสองที ไปบอกเพื่อน สามีเขาโทรถามโฮมออฟฟิชเป็นการด่วน เพราะใกล้ขอ เมื่อเดือนพฤษ ที่ผ่านมานี้เอง เขาได้ ILR มาแล้ว ไม่ได้เสียสองครั้งเลย ทั้งที่ เข้าอังกฤษ ช้าเป็นเดือน จริงๆ แล้วมันเป็นยังไงแน่ จากคุณ : rattana.uk - [ 11 ต.ค. 50 22:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงคุณรัตนาค่ะ บีพีเข้าใจว่า อยู่ที่เรากรอกฟอร์ม กับ ระยะเวลาที่เรายื่นเรื่อง ถ้ากรอกฟอร์มขออยู่ถาวร และ ได้ยื่นเรื่องในระยะเวลาที่เขากำหนด .. เราก็จะได้วีซ่าอยู่ถาวรเลย แต่ถ้า้กรอกฟอร์มขอต่อชั่วคราว และ ไปยื่นเรื่องก่อนที่เขากำหนด .. เจ้าหน้าที่ก็คงต่อให้แบบชั่วคราว อันนี้ตอบแบบตามเอกสารที่เรากรอกไป  ... ส่วนกรณีที่เจ้าของกระทู้ได้มาสองปี แทนที่จะได้ต่ออีกสองเดือน (ชดเชย 42 วัน) คงจะไปเข้ากรณีขอต่อชั่วคราว ซึ่งก็อยู่ที่เขาจะประทับตราให้ได้เท่าไหร่ (อันนี้ความเห็นสุด ๆ) บีพีไม่ทราบหรอกค่ะว่า ถ้าเข้ามาในประเทศช้า จะต้องต่อสองครั้ง .. เพราะอย่างที่ บอกไว้ในกรณีของตัวเอง ก็นับเอาเองจากวันที่ได้รับตราประทับที่สนามบิน ตามที่เข้าใจนะคะ วีซ่าต่าง ๆ ที่บีพีเคยได้จากหลายสถานทูต บางสถานทูตก็จะระบุ ชัดเจนถึงวันที่เข้า และวันที่ออก (อยู่เกินไม่ได้) พวกนั้นส่วนมากจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว   ส่วนพวกวีซ่าระยะเวลานาน ๆ เช่น ท่องเที่ยวของอเมริกาจะได้มาสิบปี หรือแคนาดาได้มาสองปี อย่างนี้เป็นต้น พวกนี้จะเริ่มนับจากวันที่เท้าเหยียบแผ่นดินของเขา แล้วต.ม.ถึงจะประทับตราว่าอยู่ ได้ไปอีกกี่วันกี่เดือน เราก็จะไม่ไปนับที่ตราวีซ่าที่ได้จากสถานทูตของเขาในไทย อย่างตอนที่มาอังกฤษครั้งแรก ๆ  สมัยเป็นนักเรียน (ซึ่งมีสิทธิอยู่้หนึ่งปีตามหลักสูตร) .. เขาประทับตราวีซ่าให้บีพี ๆ จะถามเขาเลยค่ะว่าหนึ่งปีที่ว่านี้ นับจากวันไหน .. แล้วตอนแต่งงานมา ก็จะถามเขาตรงเคาเตอร์เหมือนกัน ว่าจะนับอย่างไง แต่อย่างว่านะคะ บีพีก็ไม่ได้เดินทางไปไหนมาไหนมานานแล้ว เลยไม่สามารถตอบแบบแน่วแน่ว่าวีซ่าในเล่มของแต่ละท่าน ควรจะดู หรือนับอย่างไร .. จากคุณ : บีพี - [ 11 ต.ค. 50 23:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ป้าแอ๋วจ๋า หนูก็ต้องทำประมาณเดือนเดียวกะป้าแหล่ะ นี่สามีปรินท์ ตัวSET(M)กันอยู่เลย ลองเถอะคะป้า เป็นงัยเป็นกัน ถ้ามันผิดพลาดหนูจะไปเคาะประตู Number 10 Downing street เองเลย ประเทศนี้ช่าง story เย๊อะเหลือเกิน จะว่าไปนะคุณ Smile เข้าใจว่ามันเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารแน่ๆเลย เพราะ ภาษาอังกฤษเนี่ย แม้แต่คนอังกฤษคุยกันเองยังเข้าใจไม่ตรงกันเลย มันเป็นภาษาที่ดิ้นไปดิ้นมา เข้าใจคลาดเคลื่อนกันตลอด สามียังบ่นอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าผืดพลาด อย่าเข้าใจว่าเป็นความผิดของเราค่ะ ไปแย้งกะเค้าเลย มันต้องเจอหน้ากันถึงจะเข้าใจ ภาษานี้ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการคุยทางโทรศัพท์ ไม่รู้เป็นภาษาสากลได้งัย ภาษาไทยนี่แหล่ะ แจ่มที่สุดแล้ว เจาะลึก ชัดเจน แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 50 01:43:35 จากคุณ : hamble pie - [ 12 ต.ค. 50 01:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าให้ชัวร์นะคะ ..ป้าแอ๋วโทรเช็คกับทางโฮมออฟฟิศสิคะ สำหรับการเข้ามาอังกฤษเกินหนึ่งเดือน เพราะ จขกท. เข้ามาช้าเกือบ เดือนครึ่ง ...เคยโทรไปสอบถามเรื่องนี้ตอนโน้นนน...(ดิฉันเข้ามาช้าไป วันเดียว) เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่เกินเดือนนึง ต่อเซ็ทเอ็มได้ .... ส่วนคุณ จขกท. ดิฉันเข้าใจว่า การที่คุณต่อ FLR เพื่อเติมวันที่ขาด แล้วได้วีซ่ามา ๒ ปี ก็ถูกต้องแล้วค่ะ เพราะวีซ่า FLR จะได้ ๒ ปีค่ะ อย่างสมมุติว่าคุณสอบไม่ผ่าน ไลฟ์ อิน เดอะ ยูเค(ซึ่งตอนนี้เค้ากำหนดว่าต้องผ่าน) ในกรณีที่ต้องยื่นวีซ่า และยังสอบไม่ผ่าน ก็ต้องต่อวีซ่าประเภทฯนี้เหมือนกันค่ะ มาต่อที่ว่า คุณสามารถยื่นขอ ซิติเซ่นได้ค่ะ(ถ้าให้ชัวร์อีกที สอบถามทางโฮมออฟฟิศนะคะ) อย่างที่คุณ บีพี ว่า..การขอต่อซิติเซ่นไม่ได้ระบุว่า ต้องผ่านการขอวีซ่า ILR แค่เพียงว่า ต้องอาศัยอยู่ในอังกฤษตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไป ... และที่สำคัญ ในแต่ละปี ต้องไม่ออกนอกประเทศเกิน ๙๐ วัน(อันนี้เช็คดีๆค่ะ) จากนั้นคุณก็สามารถยื่นขอได้ โดยการที่ถ้าคุณสอบ ไลฟ อิน เดอะ ยูเค และระบุว่า ซิติเซ่นค่ะ(แต่ในกรณีที่คุณสอบผ่านมาก่อนแล้ว คงต้องสอบถามทางโฮมออฟฟิศจริงๆ เพราะว่าตอนสอบ จนท. จะถามใช่ไหมคะว่าต้องการขอเป็นประเภทไหน เช่น Settlement or Citizenship) วนกลับมาที่ FLR อีกที ..ถ้าคุณต้องการจะต่อวีซ่าถาวรเลย ก็สามารถทำได้ค่ะ อย่างคุณขาดไป ๔๒ วัน นับถอยหลังไป ๒๘ วันค่ะ (สมมุติว่านับถอยหลังไปแล้วตรงกับวัน ที่ ๒๐ ตค. หลังจาก ๒๑ ตค. เป็นต้นไปภายใน ๒๘ วันก็ยื่นได้เลยค่ะ) คงพอช่วยได้บ้างนะคะ เพราะตอนแรก ตัวเองก็ งงๆๆ ... จากคุณ : Massy - [ 12 ต.ค. 50 02:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะคุณแม่บ้านทุกท่าน ขอขอบคุณมากที่เข้ามาให้คำแนะนำและและเปลี่ยนความคิดเห็นนะคะ....อย่างที่ดิฉันได้แจ้งไปแล้วเรื่อง application form ว่าทำไมถึงต้องใช้ FLR(M) ก็เพราะทางโฮมฯเองนั่นแหละค่ะ ที่บอกว่า ดิฉันไม่สามารถใช้ SET(M) ได้ เพราะเราเข้ามาช้าไป 42 วัน จึงต้องต่อวีซ่าด้วย FLR(M) เท่านั้น และทุกครั้งที่โทรไปถาม เจ้าหน้าที่ทุกคนก็บอกเหมือนกันคือ ไม่สามารถใช้ SET(M) ได้เลย(โทรถามหลายครั้งเพราะต้องการจะดูว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนให้เหตุผลเหมือนกันจริงและแนะนำเราถูกต้องแล้วหรือไม่)...ดิฉันและสามีคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ ที่รับเรื่องการต่อวีซ่าครั้งนี้ ไม่ได้ดูวันที่ดิฉันเข้ามาประเทศอังกฤษว่าเรามาช้าไป 42 วัน ?? และหรือ หน่วยงานไม่มีการเทรนเจ้าหน้าที่ ให้ทำความเข้าใจกับเคสแบบนี้....หรืออะไรก็แล้วแต่ ถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ ? และเพราะดิฉันก็ได้ทำตามที่กฏของโฮมฯกำหนดอย่างเคร่งครัด คือไม่ใช้ SET(M) เพราะหากถูกปฏิเสธนั่นคงยิ่งทำให้มีปัญหาตามมาแน่นอน...คือเสียเงินซ้ำซ้อนและอาจจะดีเลย์อะไรอีกหลายๆอย่าง... วันนี้สามียุ่งมาก ยังไม่ได้มีเวลาโทรไปอีกก็คงต้องรอวันพรุ่งนี้เช้าละค่ะ ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ เนื่องจากเราทำตามระเบียบทุกอย่างและหากมีปัญหาอะไร สามีดิฉันคงจะให้ทาง immigration lawyer จัดการแทน โดยเขียนจดหมายร้องเรียนหรือร้องขอไปทางโฮมฯ ว่าเรามีคุณสมบัติครบตามที่กฏหมายกำหนด แต่ทางโฮมฯเอง ที่ไม่เข้าใจระบบของตัวเองหรือเปล่า? และเพราะทางโฮมฯได้แนบจดหมาย ข้อกำหนดมาด้วยโดยระบุว่าห้ามขอ ILR ก่อนวันที่วีซ่าหมดอายุ 28 วัน ซึ่งตรงนี่แหละค่ะที่จะทำให้ดิฉันไม่สามารถต่อวีซ่าได้ในปีนี้ แม้ว่าจะครบ 2 ปีก็ตาม...เฮ้อ ไม่รู้ทำไมมันจะ งง อะไรได้ขนาดนี้ (ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่น่าจะ งง ?!?) ถึง... คุณ กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน คะ...// คุณคงต้องจะศึกษาเรื่องนี้ให้ละเอียดรอบคอบจริงๆค่ะก่อนจะคิดต่อวีซ่า/ขอ ILR ค่ะ คุณ บีพี คะ...// ขอบคุณมากจริงๆค่ะที่ช่วยให้ข้อมูลมากมาย ดิฉันคิดว่าตอนนี้กฏหมายเรื่อง immigration คงเปลี่ยนตลอดเวลาค่ะ เราอาจจะต้องอัพเดทกันทุกวันจริงๆ และดิฉันมั่นใจมากว่าเราทำตามกฏที่เค้ากำหนดทุกอย่าง เพราะสอบถามมาอย่างถี่ถ้วนก่อนจะส่งเอกสาร ว่าชุดไหนที่เราควรจะใช้ หากจากนี้ไป คงต้องไฟท์เพื่อเอาความถูกต้องและเป็นธรรมคืนมาอย่างเดียวค่ะ คุณ Massy คะ...// ดิฉันก็ไม่แน่ใจนะคะว่า จะต่อ ILR ได้อย่างที่คุณบอกหรือไม่เพราะอย่างที่บอกเรื่องข้อกำหนดห้ามต่อก่อน 28 วัน คุณ hamble pie คะ...// สามีดิฉันต้องแย้งแน่ค่ะเรื่องนี้ เพราะเราทำตามกฏทุกอย่าง แต่หากไม่สอบถามมาก่อนแล้ว และมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เราคงจะคิดว่าเราผิดเอง แต่นี่เราทำตามกฏระบุทั้งหมด คุณเองก็ต้องตรวจสอบให้ดีนะคะ หากเข้ามาหลังจาก 30 วัน อย่างเสี่ยงส่ง SET(M) เลยค่ะ เพราะเพื่อนรุ่นน้องดิฉันเอง โดนปฏิเสธมาแล้ว และต้องเสียเงิน 2 ต่ออีก มันยุ่งยากมากค่ะ คุณ rattana.uk...คะ// อย่าพึ่งกลัวไปค่ะ ดิฉันคิดว่าความผิดพลาดหากเกิดจากความไม่เข้าใจกันเองในองค์กรของเค้า พวกเค้าต้องแก้ไข และรับผิดชอบค่ะ ดีกว่าเราทำผิดกฏหมายนะคะ เพราะขนาดดิฉันและสามีสอบถามจนแน่ใจแล้วยังมีข้อผิดพลาดและเข้าใจไม่ตรงกันเลย ยังไงก็แล้วแต่ สามีก็ให้กำลังใจและให้คิดทาง positive ว่าเราได้วีซ่ามาอย่างน้อย 2 ปี ก็ยังดีกว่าเราทำผิดกฏที่ทางโฮมกำหนดไว้ เพราะอย่างน้อยถ้าเราทำอะไรถูกต้อง เรายังสามารถต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมได้ค่ะ ได้ผลมาอย่างไรดิฉันจะเข้ามาอัพเดทให้เพื่อนๆแม่บ้านได้ทราบกันนะคะ ขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ค่ะ ** แก้ไขคำผิดค่ะ** แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 50 20:48:37 แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 50 04:50:00 จากคุณ : Smile of WhiteWITCH - [ 12 ต.ค. 50 03:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดี๊ยวนะ  ...ถามกรณีของเราหน่อยนะคะคือว่าเราเข้าอังกฤษมาครั้งแรกเลยด้วยวีซ่าท่องเที่ยว หกเดือนอ่ะ เค้านับมั้ยอ่ะ เราอยู่เต็มหกเดือนเลยนะ วันที่ระบุในวีซ่าฉบับแรกคือ19 /04/05 แต่เราเข้ามาอังกฤษจริงๆคือวันที่7/05/05 ส่วนวีซ่าฉบับที่สองคือ คู่สมรส วันที่ระบุในวีซ่าคือวันที่1/12/05แต่เรากลับเข้ามาอังกฤษจริงคือวันที่ 4/12/05 อย่างงี้ยื่นแล้วจะมีปัญหามั้ยอ่ะคะ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 50 04:35:33 แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 50 04:23:50 จากคุณ : hamble pie - [ 12 ต.ค. 50 04:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณฮัมฯ .. ไม่ถึงอาทิตย์ใช้ ฟอร์มเซ็ทเอ็มได้ค่ะ เอาหัว(แม่มือ)เป็นประกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ  ดิฉันกลายเป็นล่ามจำเป็นให้น้องๆเพื่อนๆในเมืองเดียวกันไปแย้วว  หรือจะลองโทรไปสอบถามก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อความสบายใจ ................. สำหรับ จขกท เพิ่มเติมค่ะว่า .. เคยได้คุยกับทางโฮมออฟฟิศ(เคยโทรสอบถามให้คนรู้จักในเขตเดียวกัน)  ว่าการต่อวีซ่าประเภท ฯ FLR นั้น เพื่อเติมวันที่ขาดไปให้ครบ ๒ ปีเต็ม แต่ยังคงสามารถยื่นขอ วีซ่าถาวร ILR ได้ค่ะ เพราะอย่างที่กล่าวข้างต้นว่า วีซ่าประเภทนี้ มีอายุไม่เกิน ๒ ปี และเป็นวีซ่าประเภทเดียวที่คู่สมรสต้องใช้ฟอร์มดังกล่าว ..โดยที่เจ้าหน้าที่บอกเลยว่า ถ้าครบกำหนดแล้วสามารถยื่นขอวีซ่าถาวรได้ตามปกติ แน่นอนว่าทางโฮมออฟฟิศเค้ามีข้อมูลก่อนหน้าอยู่แล้ว...หรือจะยังไม่ยื่นก็ได้ เพราะยังไงเสียวีซ่าก็มีกำหนด ๒ ปี (ไม่รู้ว่าเพื่อนยื่นขอวีซ่าถาวรหรือยัง เหมือนกันค่ะ เพราะเพิ่งได้ข่าวว่า กำลังอ่านหนังสือสอบ ไลฟ ยู เค) มาที่เรื่อง คุณ จขกท อยู่ต่อจนครบวันที่ขาดไปแล้ว ก็ยื่นขอวีซ่าถาวรได้ตามกฎฯค่ะ อย่างที่คุณเองก็บอกว่า คุณมีคุณสมบัติครบทุกประการ ... และการที่จดหมายแนบมาด้วยนั้นก็เหมือนกับไกด์ไลน์ มันไม่ได้หมายถึงว่า ตัวคุณฯซึ่งขาดวันไปเดือนกว่า จะต้องรอก่อนวีซ่าตัวนี้ หมด(ก่อน๒๘วัน) .. อย่างที่ได้ยกตัวอย่างการนับไป ทั้งนี้ทั้งนั้น เงินค่อนข้างเยอะสำหรับการยื่นเรื่อง เพราะว่าทางโฮมออฟฟิศ หรือ สถานฑูตอังกฤษ(ในไทย)ก็ดี ไม่มีการระบุชัดเจนว่าต้องเข้ามาในยูเค ภายในกี่วัน กี่เดือน อันนี้น่าร้องเรียนเหมือนกันค่ะ ......... เอาไว้โทรฯสอบถาม โฮมออฟฟิศ ฟังจากปากเจ้าหน้าที่ดีที่สุดค่ะ ...เพราะยังไงเสีย ยังไงเสีย วีซ่าประเภท FLR เป็นฟอร์มวีซ่าสำหรับคู่สมรส (หรือเรียกง่ายๆเป็น บรรได ไต่เต้าไปเป็น เรดสิเด้น และ ซิติเซ่นชิฟ) ยิ่งพิมพ์มาก เริ่มงง ตัวเองค่ะ แฮะๆๆ แต่ที่แน่ๆ อย่าลืมถาม สองประเด็นค่ะ คือ ถ้าคุณอยู่ต่อแล้วขอยื่นเป็น ซิติเซ่นได้เลยไหม(ถ้าถามดิฉัน ..จะบอกว่าได้ เพราะได้คุยกับคนต่างชาติที่ไปสอบ ไลฟ ยูเค รอบเดียวกัน(คนจีนมั้ง) เค้าบอกว่าเค้าขอ ซิติเซ่นเลย แต่ยังไม่ได้เป็น วีซ่าถาวร ..แต่เค้าอยู่อังกฤษมาจะได้ ๔ ปีแล้ว ... ส่วนอีกหัวข้อ ถ้าคุณฯต้องการยื่นขอวีซ่าถาวรเลย(หลังจากที่เติมวันขาด) จะสามารถยื่นได้เลยไหม (อันนี้คนรู้จักอีกแหล่ะ ก็เห็นเค้าส่งเรื่องไปแล้ว ไม่รู้ได้พาสฯกลับมาหรือยัง) ขอให้เรื่องสำเร็จด้วยดีนะคะ ... ตัวเองกว่าจะได้ต่อวีซ่าถาวร ก็ ธค. โน่นค่ะ จากคุณ : Massy - [ 12 ต.ค. 50 05:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 How to get UK citizenship as the spouse of a UK national without ILR. http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2007/09/H5806456/H5806456.html จากคุณ : genf - [ 12 ต.ค. 50 05:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 People in this website have a lot of problem as you ---> http://thailand-uk.com/ try to visit there and ask someone there about your problem. This website is about Thai people who is living in UK. จากคุณ : I've got ILR (แก้มป่องแป่ง) - [ 12 ต.ค. 50 05:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Thanks you ka K Massy....and Thanks K genf for info...ka จากคุณ : it s me (hamble pie) - [ 12 ต.ค. 50 13:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถามคุณ Massy ค่ะ ที่คุณบอกว่า ถ้าคุณสอบ ไลฟ อิน เดอะ ยูเค และระบุว่า ซิติเซ่นค่ะ(แต่ในกรณีที่คุณสอบผ่านมาก่อนแล้ว คงต้องสอบถามทางโฮมออฟฟิศจริงๆ เพราะว่าตอนสอบ จนท. จะถามใช่ไหมคะว่าต้องการขอเป็นประเภทไหน เช่น Settlement or Citizenship) เราสอบผ่านแล้วกำลังจะยื่น SET(M) เป็น settlement แต่พอไปดูผลสอบเค้าเขียนว่า naturalisation สำหรับซิติเซ่น ตอนไปสอบเจ้าหน้าที่ไม่เห็นถามเลยว่าจะเอาไปทำอะไร แล้วอย่างนี้จะมีปัญหามั๊ยคะ จากคุณ : sweetie - [ 12 ต.ค. 50 17:11:12 A:86.153.109.70 X: TicketID:121253 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณแม่บ้านทุกท่านคะ วันนี้มีเรื่องมาอัพเดทค่ะ เมื่อเช้านี้สามีได้โทรสอบถามทางโฮมฯมาแล้วค่ะ....และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตอบมาว่า '' ให้สามีดิฉันพิมพ์จดหมายถึงทางโฮมฯ และระบุถึงความต้องการของเรา เรื่องวีซ่า ว่าเรามีคุณสมบัติตามข้อตกลงไหน เช่น เราต้องการที่จะต่อ ILR visa หลังจากที่เราอยู่ในยูเคครบ 2 ปี หลังจากวันที่เราเดินทางเข้ามาถึงยูเค แต่เมื่อทางโฮมฯต่อวีซ่าให้เรามาอีก 2 ปี ก็ให้เราใช้ ตัวจดหมายที่ทางโฮมฯ ส่งมานั่นแหละ ที่ระบุว่า เราไม่สามารถต่อวีซ่า ILR ก่อน 28 วันนั้น เป็นตัวแปลในการใช้ต่อวีซ่า ILR ก่อนวันที่เราเข้ายูเคมา 28 วัน ค่ะ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วทำได้ '' สรุป..คือ สามารถขอ ILR ได้ ถึงแม้จะได้วีซ่ามาอีก 2 ปี ค่ะ แต่อาจจะเสียเวลาที่จะต้องไฟล์กับโฮมฯ และทำความเข้าใจกันใหม่ว่าเราต้องการอะไร เมื่อเรามีคุณสมบัติครบตามที่เค้าต้องการ คุณบีพีคะ...// ที่คุณแนะนำนั้นถูกต้องแล้วค่ะ เรื่องที่เราควรจะส่งจดหมายร้องเรียนถึงทางโฮมฯ ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำค่ะ คุณ Massy คะ...// ที่คุณเคยสอบถามทางโฮมฯมานั้นดิฉันยืนยันว่า สามารถทำได้ คือ เจ้าหน้าที่ได้บอกมาอย่างที่คุณแนะนำค่ะ..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคอยดูในทางปฏิบัติของทางโฮมฯว่า จะได้ผลออกมาเป็นอย่างไรตอนรีเทิร์นค่ะ แล้วจะแจ้งให้ทราบนะคะ ต้องขอขอบคุณมากสำหรับความเห็นและคำอวยพรค่ะ คุณ genf คะ...// ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาส่งลิงค์ให้นะคะ แต่คิดว่าเราจะเริ่มจาก ILR ก่อนค่ะ เพราะหากรอถึงปี 2009 ที่เราจะสามารถขอซิติเซนต์ได้เราก็ไม่ทราบว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกนะคะ ขอไปช้าๆแต่ชัวร์ แต่หากมีอะไรยึกยักจากทางโฮมฯหลังจากนี้ ก็ไม่แน่อาจจะต้องกลับมาทบทวนเรื่องที่คุณแนะนำอีกครั้งค่ะ คุณ hamble pie คะ...// ดูจากวันที่คุณเข้ามาครั้งที่ 2 หลังจากแต่งงานคุณ สามารถขอ SET(M) ได้อย่างที่คุณ Massy ยืนยันค่ะ คุณ I've got ILR (แก้มป่องแป่ง) คะ...// ดิฉันลองเข้าไปแล้ว แต่เมื่อสมัครสมาชิกกลับบอกว่าเปืดอ่านไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นอย่างนั้นค่ะ แต่ก็ขอบคุณมากที่แนะนำมานะคะ คุณ sweetie คะ...//ดิฉันก็ได้แบบเดียวกับคุณเลยค่ะ คิดว่าใช้ได้เหมือนกัน อยากให้คุณแม่บ้านที่จะต้องต่อวีซ่าระมัดระวังในเรื่องของการติดต่อสือสารกับทางโฮมฯให้ดีค่ะ เช่น ควรจะระบุลงในกระดาษต่างหาก หลัง application form เรื่องวันที่เราเดินทางเข้ามาช้าไปกี่วันๆ ก็ว่าไป และ ระบุว่าเราได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์แล้วว่า...เราสามารถขอวีซ่า ILR หลังจากที่เราอยู่ครบ 2 ปี แม้ว่าทางโฮมฯจะให้วีซ่าเรามาอีก 2 ปีก็แล้วแต่...เพราะในกรณีนี้ทางโฮมฯ อาจจะให้มาเผื่อขาด เผื่อเหลือ สำหรับคนที่ยังไม่ได้สอบ Life in the UK test นะคะ และสำหรับเรื่องห้ามต่อวีซ่าก่อน 28 วันนั้น ก็สามารถที่จะแหวกกฏนั้นได้หากเรามีการพูดคุยกับทางโฮมฯ ให้เข้าใจตรงกันค่ะ อย่างที่ดิฉันแจ้งไว้ข้างบนว่า '' ให้เราใช้ ตัวจดหมายที่ทางโฮมฯ ส่งมานั่นแหละ ที่ระบุว่า เราไม่สามารถต่อวีซ่า ILR ก่อน 28 วันนั้น เป็นตัวแปลในการใช้ต่อวีซ่า ILR ก่อนวันที่เราเข้ายูเคมา 28 วัน ค่ะ '' ยังไงก็แล้วแต่ อยากให้ทุกคนติดต่อสอบถามทางโฮมฯ ด้วยตัวเองจะดีที่สุด เพราะจะได้เข้าใจอะไรๆด้วยตัวเองค่ะ ยอมรับว่าเรื่องแบบนี้มันยุ่งยากและสับสนที่สุดค่ะ...เฮ้อ ทำใจไว้นะคะเพื่อนๆ ดิฉันขอให้เพื่อนๆคุณแม่บ้านทุกท่านโชคดีในการดำเนินเรื่องการต่อวีซ่าทุกประเภทนะคะ หากมีอะไรแปลกๆใหม่ๆ จะแวะมาอัพเดทเป็นระยะๆค่ะ ขอบคุณมากสำหรับทุกความเห็นและคำแนะนำนะคะทุกๆท่าน จากคุณ : Smile of WhiteWITCH - [ 12 ต.ค. 50 18:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ได้ ILR แล้วค่ะ เรามาด้วยวีซ่าคู่หมั้นแล้วต่อวีซ่าคู่สมรสหลังจากจดทะเบียนเลยไม่มีปัญหาเรื่องเดินทางเข้า UK ช้าเกินกำหนด แต่จะเข้ามาสนับสนุนที่คุณ Smile of WhiteWITCH บอกว่ามีปัญหาอะไร ให้ลองถามทาง home office โดยตรงเลยค่ะ เพราะแต่ละเคสมันก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเคสของเรา เราได้วีซ่าคู่สมรสระยะเวลาสองปีเมื่อเดือนมีนา 05 พอเดือน มกรา 07 เราก็เริ่มเช็ค home office website ว่าต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างในการขอ เคสเราคือส่วนใหญ่เราไม่ได้อาศัยอยู่ในอังกฤษค่ะหลังจากได้วีซ่าคู่สมรส นับจำนวนวันแล้วเราอยู่ไม่ถึงสองเดือนเองค่ะ ลองถามๆแต่ละคนดู รวมทั้งเข้า thailand-uk เวปไซด์ มีแต่คนตอบในทางเดียวกันเลยว่าครบกำหนดแล้วให้เราขอ FLR แทนเพื่อไม่ให้วีซ่าขาด แล้วค่อยขอ ILR เมื่อเราได้กลับมาอยู่ที่อังกฤษ เราก็อ่านข้อมูลในเวปไซด์ของ homeoffice ใหญ่เลย มันก็ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าเราต้องอยู่อังกฤษในช่วงสองปีที่ผ่านมาเป็นเวลาอย่างน้อยกี่วันไม่เหมือนกับการขอ citizenship แล้วที่เราไม่ได้อยู่อังกฤษเพราะตามสามีมาทำงานที่ประเทศอื่น ก็เลยเขียนอีเมลล์ไปถามทางโฮมก็ได้คำตอบกลับมาในวันรุ่งขึ้นเลย เค้าก็ไม่ได้บอกว่าเราจะได้แน่นอน (เค้าบอกไม่ได้อยู่แล้วเพราะยังไม่เห็นหลักฐานอื่นๆ) แต่ว่าเค้าไม่ได้บอกมาอย่างเด็ดขาดว่าเราไม่มีสิทธิ์ขอ เค้าบอกว่าเรามีสิทธิ์ยื่นแล้วก็ขึ้นอยู่อำนาจการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ที่พิจารณาเคสเรา พอถึงเวลาเราก็กลับอังกฤษไปขอค่ะ เราไปขอด้วยตัวเอง นัดวันก่อนที่จะออกเดินทางซะอีก ไปถึงอังกฤษวันเสาร์ วันจันทร์ก็ไปยื่นเรื่องเลย ก็ได้มาเรียบร้อยแล้วคะ จากคุณ : kutepim - [ 12 ต.ค. 50 19:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยินดีด้วยค่ะ ที่เรื่องสรุปลงด้วยดี คือขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึง บางครั้งกฎระเบียบที่ออกมาจะออกมากว้าง ๆ การพิจารณาก็จะขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ เพราะแต่ละกรณีก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างกันไปบ้าง อย่างกรณีของคุณเจ้าของกระทู้  ทำให้บีพีอยากพิมพ์เพิ่มบอกเพื่อน ๆ แม่บ้าน ว่าอย่าแค่เติมแต่ฟอร์มอย่างเดียว   เวลาส่งเอกสารติดต่อกับทางการ ควรมีจดหมายแนบ อธิบายความให้ชัดเจน เป็นหัวข้อ ๆ (อย่าเขียนไปเป็นแบบยาวยืดยื้อ ให้สรุปออกมาเป็นใจความหลัก ๆ แบบ หนึ่ง สอง สาม สี่ ฯลฯ) นอกจากเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่แล้ว ยังช่วยให้กรณีของเราได้รับการพิจารณาแบบอยากที่เราต้องการ (มีหัวข้ออ้างอิงให้ชัดเจน) ถ้ามีเอกสารประกอบการพิจารณา จะส่งแนบไป ก็ควรทำหมายเลขประกอบให้ชัดเจน   (ยกตัวอย่าง .. สมัยบีพีสมัคร จะสอดที่ขั้นเป็นสี ๆ มีแถบบอกว่าเป็นเอกสารหมายเลขไหน เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่บอกให้เขาพิจารณา หมายเลขใดที่เขาต้องการ เป็นต้น) พร้อมกับในจดหมายก็ให้ระบุด้วยว่า เราได้ส่งเช็ค หรือค่าวีซ่า ค่าอะไรไปเท่าไหร่ หมายเลขเช็คอะไร ของธนาคารไหน ... (เพราะตรงนี้ก็มีประโยชน์ในกรณีต้องรื้อฟื้น เกิดเขาบอกว่าไม่ได้รับเงิน) จริง ๆ แล้ว ... เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องตรวจทุกอย่างให้รอบคอบ เท่าที่จากประสบการณ์การดูแลสำนักงานของรัฐ ก็จะออกแบบฟอร์มปะหน้าให้ลูกน้องกาเครื่องหมาย เป็น รายการตรวจสอบ .. แล้วก็มีการอนุมัติกันไปตามขั้นตอน จึงคิดว่าทางโฮมออฟฟิคก็คงมีอะไรประเภทนี้แน่นอน .. แต่การที่เราทำจดหมายปะหน้าไป พร้อมทำรายการ หนึ่ง สอง สาม สี่ ฯลฯ ตามที่เขาต้องการ นอกจากช่วยให้เขาทำงานสะดวก รวดเร็ว ก็ยังช่วยในด้านการสื่้อสารระหว่างเรากับเขาด้วย   อย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ เราเองก็ควรทำสำเนาเก็บเอาไว้ชุดหนึ่ง ว่าเรากรอกอะไรไปบ้าง จดหมายปะหน้าที่ส่งไปเขียนไว้อย่างไง  .. คือทำไว้เผื่อเกิดมีอะไรหายไป หรือจะตามทวงกันก็ง่ายหน่อย เวลาได้วีซ่าสำเร็จเรียบร้อย คืนมาแล้ว จะเก็บสำเนาพวกนั้นไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ แต่ถ้าจะทิ้ง  กรุณาทำลายทิ้งให้ถูกวิธี เช่น บดให้ละเอียด หรือ เผา .. อย่าทิ้งลงในถังรีไซเคิ้ลหรือฝังทิ้ง เพราะอาชญากรทางด้านขโมย ID เรามีอยู่ทั่วไป ... จากใจ บีพี จากคุณ : บีพี - [ 12 ต.ค. 50 19:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีด้วยอีกคนค่ะ ที่เรื่องเรียบร้อยแล้ว.. .......... คุณ Sweetie คะ ใบรับรองการผ่าน การสอบฯ เป็นตัวเดียวกันกับที่ ยื่น ขอ ซิติเซ่นค่ะ (เพราะตอนดิฉันสอบ ก็สอบร่วมกับคนที่ขอ ซิติเซ่นเหมือนกัน) ตัวดิฉัน ก็โทรไปสอบถามเรื่อง ซิติเซ่นเมื่อไม่นานมานี้ เพราะใบรับรองการสอบผ่าน ไลฟ อิน เดอะ ยูเค มันเป็นกระดาษแผ่นเดียว แค่มีตราประทับของศูนย์สอบ  ..คือว่าโทรไปสอบถามว่า ถ้าจะต้องขอ ซิติเซ่น ยังต้องใช้ใบรับรองตัวนี้อยู่หรือเปล่า  ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เวลายื่นเอกสารขอ วีซ่าถาวร เค้าจะส่งคืนใบรับรองการสอบผ่านคืนมาให้หน่ะค่ะ (นอกนั้นไม่ได้ถามต่อ ...เพราะยังอยู่ใน Process ของวีซ่าถาวรอยู่) เพียงแต่ สงสัยว่า ถ้าในอีกปีถัดไป ถ้าจะไปยื่นขอ ซิติเซ่น จะต้องใช้ตัวนี้อีกหรือเปล่า (เพราะคนที่ยื่นขอ ซิติเซ่น เค้าก็ใช้ใบรับรองตัวเดียวกัน ยื่นค่ะ) เอาไว้ ถึงเวลายื่นขอ ซิติเซ่น ค่อยโทรไปสอบถามใหม่ ... ............. ปล. เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ  โทรไปสอบถาม จนท โฮมออฟฟิศด้วยตัวเองดีที่สุดดด ......... จากคุณ : Massy - [ 13 ต.ค. 50 00:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ คุณkutepim คะ...// ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ค่ะ จริงที่สุดค่ะว่าเรื่องแบบนี่แต่ละเคสจะไม่เหมือนกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องศึกษาค้นคว้าให้ละเอียดรอบคอบ แต่การลงมือหาข้อมูลด้วยตัวเองย่อมเป็นประโยชน์ต่อตัวเองที่สุดค่ะ คุณบีพี คะ...// ขอบคุณที่เข้ามาให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับเพื่อนๆแม่บ้านท่านอื่นนะคะ เป็นประโยชน์มากค่ะ และเห็นด้วยจริงๆ คุณ Massy คะ...// ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่แวะมาค่ะ เราคงได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันในวันข้างหน้าอีกค่ะ หวังว่าทุกความเห็นคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อส่วนรวมนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Smile of WhiteWITCH - [ 13 ต.ค. 50 01:50:01 ]