ความคิดเห็นที่ 1 ทุกท่านสามารถเข้าไปอ่านใน Link ตามที่เห็นด้านล่างซึ่งนกเคยโพสต์ถามไว้ก่อนแล้ว และมีคุณ yuy และคุณฟ้าลั่น เข้ามาช่วยไขข้อสงสัย http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5866868/H5866868.html จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:07:29 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนอันนี้เป็นความคิดเห็นเพิ้มเติมของคุณฟ้าลั่น ระหว่าง Master of Commerce และ Master of International Business :>>>> แนะนำให้เรียน คอมเมิรส์ รวม ๆ ไปก่อนครับ เพราะถ้าลง อินเตอร์ไป ถึงเวลาแล้วบางวิชาเขาก็ไม่เปิด แล้วก็มีวิชาให้เลือกน้อย เรียนอินเตอร์เหมือนกัน แต่ถ้าเลือกได้ จะเปลี่ยนไปเรียนคอมเมิร์สเหมือนเดิม เพราะว่ามีวิชาให้เลือกเยอะกว่า อันนี้เลือกเหมือนไม่ค่อยให้เลือกครับ เกือบทุกวิชาของโลจิสติกมีตัวอย่างข้อสอบเก่าให้ดู ทำให้มั่นใจได้ว่าน่าจะผ่านแน่ครับ มหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างแปลกกว่าชาวบ้าน คือสอนแบบตัวใครตัวมัน บางวิชาบางทีก็ไม่ค่อยตามคอร์สเอ้าท์ไลน์ หลายวิชาไม่มีหนังสือ ต้องดูเป็นวิชา ๆ กับอาจารย์ ๆ ไป ถามคนไทย หรือคนจีนที่เคยเรียนมาก่อนจะดีมากครับ จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:11:11 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณฟ้าลั่นแนะนำเรื่องการลงทะเบียนวิชา สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านบริหารธุรกิจมาก่อน (ทั้งการเรียนและการทำงานอย่างนก) :>>>> วิชาของคอมเมิสกว้างสุด แล้วก็เลือกได้เยอะสุด จึงแนะนำให้เรียน เพราะว่า หลาย ๆ คนไม่มีพื้นฐานวิชาการเงินจะลำบาก เวลาต้องไปเริ่มอะไรใหม่ครับ พยายามเรียนอะไรที่ใกล้ตัวและเรารู้จักจะดีกว่า ส่วนใหญ่เวลาซีพีเขาจะเลือกมาสเตอร์ออฟคอมเมิสให้ครับ จริง ๆ แล้วมาสเตอร์ออฟคอมเมิสเหมือนกับบิสซิเนส แต่จะดีกว่าตรงไม่มีวิชาบังคับเยอะครับ มหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม การเรียนการสอนจึงเน้นที่อาจารย์มากกว่านักเรียน บางทีก็สอนไม่ตรง สอบไม่ตรงกับที่สอน นักเรียนจึงค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เด็กหัวกลาง ๆ และบางคนไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ เพราะสอนตามหนังสือ อย่างน้อยอ่านแล้วตามหนังสือได้จะผ่าน แต่ที่แล้วแต่ มีคณะโลจิสติกอย่างเดียวมั้งที่จะมีตัวอย่างข้อสอบเก่าให้ดู (แต่ก็ไม่มีหนังสืออีกตามเคย) แนะนำว่า เลือกเป็นวิชาไปดีกว่าครับ สิบสองตัว แล้วก็จบไปเลย เลือกวิชาที่ชอบ ไม่ต้องไปสนใจสาขาต่าง ๆ แล้วจะดีเอง มีตัวอย่างเว้ปไซต์ แนะนำหนังสือเรียน www.coop-bookshop.com.au ไปดูลิสท์หนังสือแต่ละมหาวิทยาลัยได้เลย (ออสเตรเลียมีหลายกฎไม่เหมือนเมืองไทย สมมติว่าอยากได้สัณชาติไม่จำเป็นต้องเรียนเป็นบัญชีล้วนทุกตัวก็ได้) แนะนำให้เรียนพวกวิชาการตลาดหรือทรัพยากรมนุษย์(ที่ไม่ใช่วิชาเฉพาะของออสเตรเีลีย) แล้วน่าจะผ่านแล้วได้คะแนนดี เพราะส่วนใหญ่คนจบนิเทศก์หรือศิลปศาสตร์มาเรียนกันเยอะแล้วก็ผ่าน เพราะเป็นวิชาอ่านและประยุกต์ มีทฤษฎีหน่อยนึง จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:14:23 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนข้างล่างนี้ นกบอกว่านกได้ Offer MIB ของ U of Sydney ค่ะ ซึ่งคุณฟ้าลั่นก็ได้ให้คำแนะนำดีๆ เหมือนเคย :>>>> ถ้าถามผมจริง ๆ ผมอยากให้เรียน มาสเตอร์ออฟคอมเมิสมากกว่า เพราะวิชามันให้เลือกเยอะกว่า ถ้ารู้ตัวว่าอันไหนไม่เก่ง เราก็แค่เรียนวิชาเบื้องต้นพอ บางทีมาสเตอร์ออฟอินเตอร์บิสซิเนสเขาบอกว่าจะเปิดหลาย ๆ ตัว แต่ถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่ยอม เปิด หรือเปิดชนวันกัน เราจึงเหมือนไม่ได้เลือก เพราะต้องเรียนอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าอยากรู้ว่าเรียนวิชาอะไรหนังสืออะไร เข้าเว้ปที่บอกไปแล้วลองอ่านหนังสือดู (ทั้งเล่ม) ถ้าคิดว่ายากเกินไป อย่าเรียน (เช่น เลขเยอะ ๆ หรือว่ากฎหมายออสเตรเลีย) ส่วนใหญ่คนที่เรียนภาษามักจะผ่าน (เด็กจุฬาฯ เยอะมาก) ผมไม่ต้องเรียนภาษาเพราะจบอินเตอร์มา แต่ถ้ากลัวไม่ผ่านก็เรียนไป ก่อน ห้าวิคถ้าไม่ผ่านแล้วคิดว่าไม่อยากลุ้นโอนเข้าแม้กไกวรี่ก็ได้ ไม่แนะนำให้เรียนภาษาหลายอาทิตย์เพราะราคาแพงและไม่ ค่อยได้ประโยชน์เท่าไหร่ เขาสอนภาษาไม่ค่อยดีนะครับ(ในความคิด) ส่วนใหญ่มาตอนแรกจะอยู่โฮมเสตย์กัน แต่จริง ๆ แล้ว ไม่จำเป็น(เพราะว่าอยู่แล้วมันก็ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่) อยากให้ไปหาบ้านแชร์ (ส่วนใหญ่ซิดนีย์แพงมาก) แต่เมลเบิร์นถูก จริง ๆ แนะนำให้เรียนเมลเบริ์นด้วยเพราะว่า อาหารถูก มีงานเยอะ คนไทยไม่เยอะมาก ซิดนีย์คนไทยเยอะมาก ซิดนีย์ถ้านอกเมืองกลางคืนอันตรายกว่าเมลเบิร์น บ้านเช่าที่เมลเบิร์นราคาห้องละร้อยกว่ามีเยอะ (อยู่คนเดียว) แต่ซิดนีย์หายาก ต้องแชร์ ควรระวังเรื่องของหาย ไม่แนะนำให้อยู่กับคนไทยบางที่ประวัติไม่ค่อยดี (ที่นี่มีเยอะ) ผมเงินหายหลายแสนเลย เพื่อนก็โน้ตบุ้ค หาย เป็นไปได้อยากให้อยู่คนเดียว แต่มันก็แพงเหมือนกัน สมัยก่อนเคยอยู่นอกเมือง แชร์กับคนอื่น (ห้องใครห้องมัน) เป็นคน ต่างประเทศที่มาเรียน ส่วนใหญ่เป็นเอเชีย (ห้องละร้อยกว่า) มีกุญแจ ดีมาก ๆ เพราะว่า ปลอดภัยกับเรา ที่สำคัญมีเพื่อนอยู่ด้วย เป็นไปได้ควรหาบ้านที่มีคนไทยหนึ่งคน ที่เหลือเป็นต่างชาติในเอเชียสักสองคนจะดีมาก งานพาร์ทไทม์อยากให้ไปทำที่ห้างไม่อยากให้หางานร้านอาหาร เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะทะเลาะกัน แย่งชิพกัน แล้วก็สังคมไม่ค่อยดี (ส่วนใหญ่เป็นคนค่อนข้างเรียนน้อย คนมาทำงานแบบบางคนก็ค่อนข้างเถื่อน ในบางร้าน) ควรไปทำตามห้าง เช่น จัดของ แคชเชียร์จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอย่าไปกลัว เพราะว่าเวลาเราจะจ่ายค่าเทอม หลังลงทะเบียนแล้วเขาจะมีเวลาให้เราประมาณสามอาทิตย์ อัตราแลกเปลี่ยนประเทศไทยจะขึ้นลงทุกสี่ห้าวัน เช่น จำได้ว่าไม่กี่อาทิตย์ก่อนจะยี่สิบเจ็ด แล้วตอนหลังก็ยี่สิบเก้า เดี๋ยวสามสิบ เดี๋ยวมันก็จะลงไปเป็นยี่สิบแปดอีกเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบจ่าย รอให้ค่าเงินมาลงก่อนแล้วก็ค่อยให้ที่บ้านโอน เช็คในเวปได้ (แต่อย่าจ่ายเลท เพราะอาจโดนปรับ) มันจะมีไชน่าทาวน์ขายของเหมือนเมืองไทย ไปซื้อมาทำอาหารเองก็ได้ จะทำให้ค่าครองชีพถูกมาก เคยทำอาหารกินเอง สามมื้อเดือนนึงไม่เกินหมื่นสองอยู่ได้สบายมาก อยากเตือนเรื่องการฝากเงินในธนาคาร ที่นี่มีกฎว่าใครฝากเงินเยอะเกินสี่ร้อยแปดเหรียญต่ออาทิตย์ จะโดนหักภาษีโดยอัตโนมัติ มีคนเขาเตือนมาแล้ว แต่ขอคืนได้ทีหลัง (ต้องรอ) เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นอย่าทำให้เงินมันเยอะเกินสี่ร้อยห้าสิบเหรียญต่ออาทิตย์จะปลอดภัยมาก (ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องขอคืนภาษี เรามาเรียนปีเดียว) ถ้ากลัวมีปัญหาก็แยกบัญชีไปเลยก็ได้ หรือว่าโอนกลับไทยเลยก็ได้ (แนะนำให้โอนผ่านร้านคนไทย อย่าโอนผ่านธนาคารที่เพราะค่าธรรมเนียมแพงมาก แล้วอีกอย่างพอธนาคารเขาเห็น เงินเยอะจะมีปัญหา เช่น นักเรียนไทยคนหนึ่งมีเงินเยอะ อิมเรียกไปคุยเลย เพราะว่ามากเกินไป เหมือนเราทำงานเกิน เพราะฉะนั้น แนะนำว่า สมมติจะต้องทำงานเยอะ ก็อย่าเอาเงินไปกองรวมที่เดียวกันเยอะ ๆ) ถ้ามีเกินห้าหมื่นบาทแนะนำให้โอนกลับเมืองไทยให้พ่อแม่เก็บดีกว่า (ส่วนใหญ่จะเก็บกันได้ประมาณสองแสนกว่า ๆ ในหนึ่ง เฉลี่ยเดือนละสองสามหมื่น สำหรับนักเรียน) อย่าใช้รหัสบัตรเอทีเอ็มเป็นวันเกิดไทยหรือฝรั่ง เพราะอันตรายมาก ๆ คนไทยบางคนอาจขโมยเงินหรือรู้รหัส เรื่องกระเป๋าต่าง ๆ ควรมีกุญแจล้อค เพราะบางครั้งอาจมีพวกงัดแงะ เรื่องพวกเหยียดเชื้อชาติมีนอกเมือง เวลามีคนมาขอตังอย่าไปให้ อย่าไปสนใจ อย่าใช้อินเตอร์เน็ตแบ้งกิ้งนอกบ้านเพราะอันตรายมาก ๆ สุดท้าย พยายามอย่าใช้บริการหรือเซ็นสัญญาอะไรแบบผูกมัดมาก ๆ เพราะจะมีปัญหา เช่น การติดตั้งบริการอินเตอร์เน็ตหรือว่าการใช้บริการต่าง ๆ พยายามใช้บริการแบบถูก ๆ (ออสเตรเลียข้าวของแพงและบริการไม่ค่อยดี) โทรศัพท์ใช้ของออฟตัส จะได้ราคาถูกมากและโทรฟรีถ้าโทรเครือข่ายเดียวกัน (ส่วนใหญ่คนใช้ออฟตัส ซิมสามสิบดอลลาร์เท่านั้น) หาซื้ออะไรไม่ได้ให้ไปไชน่าทาวน์ จะมีทุกอย่าง หรือห้างต่าง ๆ โทรศัพท์กลับไทยใช้เอ็กสตาร์ นาทีละบาท เซ็นสัญญาต่าง ๆ ของออสเตรเลียมักจะมีปัญหาบ่อย ๆ เพราะเขาบริการช้า (ควรซื้อสายโทรศัพท์ยาว ๆ สักสิบเมตรขึ้นไปจากเมืองไทย เพราะจะได้เล่นเน็ตในห้องนอนได้ อย่ามาซื้อที่นี่เพราะราคาแพงประมาณหกร้อยบาทได้ เมืองไทยสามสิบห้าบาท) ยาก็ควรซื้อจากเมืองไทย (ที่นี่แพง) เปลี่ยนวีซ่าเป็นแบบทำงานก่อน จ่ายห้าสิบดอล หรือถามเอเจ้นท์ก็ได้ จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:15:56 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนอันนี้ เป็นคำแนะนำเรื่องการหางานพาร์ทไทม์ทำ และการลงทะเบียนเรียนวิชาอื่นๆ เพิ่มเติมคะ :>>> เรื่องงานก็ พยายามหางานในห้างสรรพสินค้า เป็นแคชเชียร์เช่น โคล หรือห้างอื่น ๆ แบบนี้ พวกขายของทั่วไป ทำงานตามห้างรายได้จะดีกว่าทำงานร้านอาหารไทย ส่วนใหญ่ได้สิบหกเหรียญ ร้านอาหารไทยหลายร้านจะกดเงินเด็กได้ประมาณสิบเหรียญหรือแปดเหรียญเท่านั้น ถ้าอยากทำคอฟฟี่ช้อบ แนะนำว่า ให้ไปดูตามร้านกาแฟใหญ่ ๆ ในประเทศไทย แบบพวกสตาร์บั๊ก จำวิธีการทำกาแฟ ส่วนใหญ่ร้านเขาจะให้ทำแซนวิสกับชงกาแฟ ร้านฝรั่งให้เงิน สิบสี่เหรียญ ร้านฝรั่งถึงคติว่า ตัวใครตัวมัน ทุกคนทำงานแล้วจบ แต่ให้ดีควรมีเพื่อนเอเชียหรือฝรั่งสนิท ๆ สักคน เพื่อแลกชิพทำงานกัน ไม่งั้นก็ทำงานโรงแรม (เสริฟ) กลางวัน เพราะเวลาว่างจะเยอะ (เรียนตอนเย็นเป็นส่วนใหญ่)ลองเช็คตารางสอนดู มหาวิทยาลัยซิดนีย์มีตารางสอนให้เช็คอยู่แล้ว ไม่แนะนำงานคลีนเนอร์เพราะค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้หญิง บางที่ให้ทำกลางคืน กลับบ้านเกินเที่ยงคืน งานนวดก็ไม่ค่อยแนะนำเพราะหลาย ๆ ที่มักมีปัญหาเรื่องธุรกิจไม่ค่อยดีแฝงอยู่และส่วนใหญ่คนมาทำก็ไม่ค่อยจะประวัติดีบางคน เทอมนี้แนะนำว่า ลองลงวิชาพื้นฐานไปก่อนเลย ไม่ต้องคิดมาก ตอนนี้มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียเปลี่ยนได้ง่ายกว่าเดิม http://www.econ.usyd.edu.au/16346.html นี่คือตัวอย่าง ลองไปเช็คตารางสอนดู ลองเรียนวิชาพวกนี้ก่อน ถ้าเกรดออกมาไม่ค่อยดี แล้วคิดจะเปลี่ยนสาขาหรือมหาวิทยาลัยก็ยังทัน เรียนวิชาพื้นฐานน่าจะไม่มีปัญหาเทอมแรก ยกเว้นบางวิชาที่ต้องอาศัยพื้นฐานเยอะหน่อย เช่น การเงิน เศรษฐศาสตร์ หรือกฎหมาย วิชาที่คิดว่าเรียนแล้วน่าจะผ่านและได้เกรดดีได้แก่ MKTG5001 Marketing Principles WORK5002 Introduction to HRM WORK5003 Management and Organisations แล้วก็เรียนอะไรก็ได้อีกตัวหนึ่ง สมมติว่าไปดูหนังสือและลองเข้าไปเรียน (เขาไม่เช็คชื่อ) แล้วดูว่าไหวหรือเปล่าก่อน (ต้องดูทั้งเล่ม) ถ้าไหวก็เรียน ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร บางวิชาอาจเป็นวิชาใช้ความรู้หลายอย่างหรือเกี่ยวกับการเงินก็อย่าพึ่งรีบเรียนถ้ายังไม่ค่อยมีพื้นฐาน อีกตัวหนึ่งเรียนอะไรก็ได้ (ถึงได้แนะนำให้เรียนมาสเตอร์ออฟคอมเมิส เพราะเลือกได้เยอะ เลือกดีดี ก็ได้วิชาที่เน้นการตลาดและโฆษณา เรียนไฟแนนซ์ตัวสองตัวก็พอ) จริง ๆ แล้วถ้าสมัครแล้วก็เรียนไปเลย ยกเว้นแต่ว่าเกรดออกมาไม่ดีจริง ๆ เช่นได้พีทุกตัว ก็ต้องตัดสินใจใหม่ แต่ถ้าได้ดีหรือ ใกล้ ๆ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ก็เรียนไปเลย ไม่ต้องคิดมาก เรียนวิชาพวกการตลาดหรือโฆษณาหรือทรัพยากรมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ยาก เรียนแล้วเน้นปฎิบัติหรืออ่านหนังสือเยอะ ๆ ผิดกับวิชาบางวิชาที่ให้คำนวณเยอะ ๆ และต้องมีพื้นฐาน เรียนวิชาแบบนี้แล้วถ้ามีปัญหาอาจโอนหน่วยกิตไปมหาวิทยาลัยอื่นได้ เพราะว่าเคยผ่านมาแล้ว เช่น มีเด็กคนนึงเคยโอนจากมหาวิทยาลัยนิวเซ้าเวลล์ไปวอลลองกองก็ทำได้เหมือนกัน (บางตัว) มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียอยู่ในเว้ปไซต์ http://www.australian-universities.com/directory/melbourne-universities/ ที่แนะนำคือวิคตอเรีย กับรอยัลเมลเบิร์น อีกสองที่ที่ดีก็ เมลเบิร์นกับโมนาร์ช อันนี้ยากหน่อยและแพงมาก แต่ไม่จำเป็นไม่ต้องทำอะไรหรอก เรียนซิดนีย์ไปก่อนแล้วดูเกรดอีกทีว่าเป็นยังไง ช่วงระหว่างที่เรียนภาษาห้าอาทิตย์นี่ถ้าอยากจะลองไปนั่งเรียนดูก็ได้ (เรียนภาษากลางวัน) เรียนหลังหกโมงเย็น เข้าห้องเรียนที่มีคนเยอะ ๆ ประเภทวิชาพื้นฐานส่วน ใหญ่คนเยอะทุกวิชาแล้วลองดูว่า เราไหวหรือเปล่า (กับบางวิชา) สมมติว่ามีปัญหาอะไรก็พยายามอย่าลงอะไรยากเกินไป พยายามดูก่อนว่าใครสอน เรียนอะไร หนังสืออะไร เพราะค่าเรียน มหาวิทยาลัยนี้แพงกว่าชาวบ้านเขามาก ถ้าสมมติว่าเรียนภาษาแล้วมีปัญหาว่าไม่ผ่านหรืออะไรก็ลองถามมาอีกที อย่าไปรอ เรียนไปเรื่อย ๆ เพราะใช้เวลานานมาก ๆ แล้วก็แพงมาก ๆ ด้วย (สอนภาษาที่นี่แพงและไม่ค่อยดีถ้าเทียบกับเมืองไทย) อย่าไปกลัวก่อน มีปัญหาจริง ๆ แล้วค่อยโอนไปแม้กไกวรี่ก็ได้ (บังคับตัวเดียว ที่เหลือเป็นวิชาเลือกหมดเลย) แปดตัวจบก็มี (เรียนแค่สองเทอมหรือสามเทอมก็ได้) แต่คิดว่าน่าจะเรียนได้แน่นอน (ไม่ยากเกินสำหรับบางสาขา ถ้าเราไม่ไปบังคับตัวเองให้เรียนยากเกินไป เช่น ไปลงไฟแนนซ์ เยอะ ๆ เพราะว่า ถ้าไม่ลงก็ได้ แต่ควรลงวิชาพื้นฐานไฟแนนซ์ซักตัว เผื่อเวลาทำงานจะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่องบ้าง) เอ่อ ลืมแนะนำอีกอย่างหนึ่งว่า หนังสือเรียนที่นี่ราคาแพงมาก และเขาไม่บังคับให้ซื้อ เพราะฉะนั้น ซื้อมือสองดีกว่า ถูกกว่า อยากรู้ว่าสอนอะไรก็ลองเปิดใน www.coop-bookshop.com.au จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:18:46 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณฟ้าลั่นแนะนำให้นกไปสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยที่เมลเบิร์น แต่นกก็ไม่เปลี่ยนใจค่ะ ยืนยัน U of Sydney นกเลยถามเรื่องตารางสอนของแต่ละวิชาไป ว่าเป็นอย่างไร และการให้เกรดของทางมหาวิทยาลัย :>>> stream แปลว่าอยู่ section ไหน ส่วนใหญ่ หลาย ๆ วิชาจะมีสองกลุ่ม หรือสามสำหรับวิชาใหญ่ intensive แปลว่า เรียนแบบเยอะหน่อย เช่น เรียนแบบครั้งละแปดชั่วโมง สี่ห้าครั้งจบ อาจใช้เวลาเรียน แค่เดือนเดียว ซึ่งไม่แนะนำให้เรียน ถ้าไม่จำเป็น เพราะทำให้เวลาทำรายงานน้อย อ่านหนังสือได้น้อย สอบอาจได้คะแนนไม่ดี เพราะว่า มันรวบรัดไป ยกเว้นภาคฤดูร้อน (ซัมเมอร์) และฤดูหนาว (วินเทอร์) ที่อาจต้องเรียนแบบรวบรัดหน่อย คือจบในสามอาทิตย์หรือหนึ่งเดือน บางวิชาของ marketing หรือ logistic อาจมีแบบนี้บ้าง ซึ่งก็ไม่มีปัญหา ถ้า intensive บอกว่า เรียนแบบ แปดชั่วโมงวันเดียว เพราะอาจเรียนอาทิตย์เว้นอาทิตย์ก็ได้ (อาจารย์เป็นแบบพาร์ทไทม์หรือไม่มีเวลาสอน) แต่ถ้าเรียนแบบเดือนเดียวให้จบนี่ไม่แนะนำเพราะว่า เสี่ยงมากเกินไป คะแนนอาจออกมาไม่ดี ถ้าเรียนแบบนี้ ควรเลือกเรียนวิชาที่ง่ายและเก่งอยู่แล้ว จะทำให้สอบออกมาได้คะแนนผ่านแน่นอน ก่อนเรียนอย่าเพิ่งรีบซื้อหนังสือจนกว่าจะถามคนสอนให้แน่ใจก่อนเพราะว่า คนสอนอาจเปลี่ยนหนังสือได้ ทำให้ ซื้อแล้วคืนไม่ได้ ลองเรียนหนึ่งครั้งและถามคนสอนให้แน่ใจก่อนว่า สอนอะไร ประเมินผลยังไง ถ้าสอนง่ายแต่ ประเมินผลยากก็ควรจะัตัดสินใจใหม่ว่าจะเรียนดีหรือเปล่า เช่น สอบอย่างเดียวห้าสิบคะแนน เพราะว่าเสี่ยงเกินไป On-line Unit of Study ไม่ควรเรียนและอาจเรียนไม่ได้ เพราะว่า เป็นสำหรับเรียนทางไกล แต่วีซ่านักเรียนทำให้ เราเรียนแบบนี้ไม่ได้ ต้องลงวิชาแบบไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอย่างน้อยสามตัวต่อเทอม เรียนแบบออนไลน์ไม่ดี มักจะมีในพวกวิชาประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์การเมือง ไม่แนะนำ รายละเอียดวิชา ถ้าให้ดี ควรไปดูเว้ปไซต์ www.coop-bookshop.com.au --> Book search --> text list search --> 1: Select a university or other institution. เลือกมหาวิทยาลัยซิดนีย์ แล้วจะได้ข้อมูลคร่าว ๆ ว่า วิชานั้นใช้หนังสืออะไร ใครสอน บางวิชาอาจชื่อคล้ายกัน ควรดูที่รหัสมากกว่าชื่อวิชา ให้ตามรหัสที่ให้มาบวกชื่อ วิชาให้เหมือนกัน (บางวิชาชื่อคล้ายกันแต่อาจเรียนไม่เหมือนกันควรระวัง) ก่อนเรียนเขาจะมี course outline ให้ ก่อน ควรอ่านก่อนว่า เขาเรียนอะไร สอบอะไร วิชาเดียวกันบางทีฤดูร้อนกับเทอมปกติอาจสอบไม่เหมือนกัน ผลการเรียนแบ่งออกเป็นสี่เกรด ได้แก่ P = pass = 50% C = credit = 65% D = distinction = 75% HD = High Distinction = 85% ที่บอกว่าได้ P แล้วจะมีปัญหาเพราะว่า แปลว่า คะแนนสอบออกมาแบบได้คะแนนน้อยคือ แค่ผ่าน ถ้าไปเรียนวิชา ยากกว่านี้จะลำบาก (เหมือนเด็กปีหนึ่งที่เรียนวิชาพื้นฐานแค่ผ่านแต่ไปเรียนวิชาปีสามแล้วจะได้เกรดไม่ดียิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะวิชาบัญชีหรือการเงิน ถ้าได้คะแนนน้อยแต่แรก แปลว่าไม่ถนัดแล้วก็ไม่ควรเรียนต่อ เพราะอาจทำให้ได้ คะแนนน้อย โดยเฉพาะวิชาบัญชีหรือการเงินที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีคะแนนเก็บ จะเน้นสอบโดยเฉพาะสอบปลายภาค อาจมีคะแนนแบบห้าสิบคะแนนจากร้อย ถ้าสอบหรือเก็บคะแนนมาตลอดได้แค่ยี่สิบกว่า ๆ ก็จะเสี่ยงมากเพราะ ถ้าทำข้อสอบปลายภาคได้น้อยก็อาจจะสอบไม่ผ่านหรือเฉียด เช่น ได้ห้าสิบเอ็ด เป็นต้น ดังนั้นถ้าสอบเทอมแรกแล้วได้เกรดแบบนี้เยอะ ๆ เช่น ห้าสิบนิด ๆ ก็ควรจะเลี่ยงวิชาแบบนี้ไปเลย เทอมแรกส่วนใหญ่ได้ซีหรือดี คือประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:22:52 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องขอบคุณคุณฟ้าลั่นอีกครั้งนะคะ ที่ช่วยไขข้อสงสัย :) ถ้าท่านไหนมีคำแนะนำอื่นๆเพิ่มเติม ก็สามารถร่วมแบ่งปันกันได้นะคะ จากคุณ : หนก-นก - [ 11 ต.ค. 50 20:25:42 A:58.9.177.89 X: TicketID:064016 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณฟ้าลั่นค่ะมิ้มอยากสอบถามเกี่ยวกะ usyd มั้งอะค่ะ นี่เมลล์มิ้มนะค่ะ beebee_mim@hotmail.com จากคุณ : ---------beebee-------------- - [ 11 ต.ค. 50 22:02:49 A:203.113.39.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 I will check your e-mail then. จากคุณ : Fah Lan - [ 12 ต.ค. 50 11:56:45 A:220.101.184.162 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำ กำลังจะเรียน comerce เหมือนกัน แต่ เป็นที่ macqurie ค่ะ จะเอาไปประยุกต์ใช้นะคะ จากคุณ : =RiKu= - [ 14 ต.ค. 50 12:16:37 ]