PANTIP.COM : H5953875 *~ Just Finished GRE exam ~* [ศึกษาต่อต่างประเทศ]

*~ Just Finished GRE exam ~*

สวัสดีครับ เพื่อนๆ

วันนี้ได้ไปทำข้อสอบ GRE มาครับ หลังจากที่เตรียมตัวอยู่เนิ่นนาน ราวๆ สองเดือนครับ เป็นการสอบที่เรียกได้ว่าผมกังวลมากที่สุดในชีวิตแล้วครับ และคนด้วยกับคุณ ZIZZI ที่ว่า GRE นี่อย่าได้เจอกันอีกเลย ผลคะแนนเป็นดังนี้
1260/1600 780 + 480 ครับ
จากคะแนนแม้อาจจะไม่ได้เยี่ยมยอดอะไรมากนัก แต่ผมทำดีที่สุดแล้วละครับเนี่ย

เหตุผลที่มาตั้งกระทู้เนี่ย เพื่อแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟังถึง การทำข้อสอบ การเตรียมตัว สำหรับเพื่อนๆที่กังวลอยู่ตอนนี้ครับ

1. Verbal : สำหรับภาค Verbal แล้วเด็กที่เน้น Math มาคงมีปัญหาอย่างมาก ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ การเตรียมตัว ให้แนะนำว่า ออกมาท่อง ศัพท์เลยครับ ให้ท่องอัดๆ ท่องเยอะๆ ท่องซ้ำๆ เข้าไปจนกว่าจะจำได้ครับ ที่ผมได้อ่านในกระทู้ของ testmagic มีคนที่ได้ Verbal 800 เต็ม กล่าวไว้ว่า 3500 คำของ Barron นี่เพียงพอต่อการได้แน่นอนครับ

ดังนั้น ถ้าอยากได้ Part นี้ ดีๆ เกิน 500 ศัพท์ต้องมีเป็นพื้นเลยครับ

=> Antonyms ผมคิดว่า ตรงนี้เป็นส่วนเก็บคะแนนได้มากที่สุดแล้วนะครับ และ จุดนี้ก็ไม่วัดอะไรเรามากไปกว่าการท่องศัพท์และจุดสำคัญ คือ ดวง ครับ ตอนผมทำ powerprep ชุด 1 ผมทำไม่ได้เลยนะครับ ออกมา คะแนนน่ารักสุดริด 300 เท่านั้น

=> Sentence Completion เป็นส่วนที่เก็บคะแนนง่ายลงมาเป็นอันดับสองครับ การดู Clue การดู ตัวเชื่อมต่างๆจะทำให้ part นี้ จะไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนครับ แต่บางครั้ง Clue มันมักจะเป็น ความหมายของศัพท์ เช่น วันนี้ที่ผมเจอ Clue เป็นคำว่า Hypocrite ซึ่งแปลว่าคนที่เสแสร้ง ดังนั้นเหนือ ซึ่งอื่นใด เพื่อนๆ ต้องอัดศัพท์ เยอะเลยนะครับ

=> Analogy สำหรับตัวผมคิดว่า ยากเป็นอันดับสอง ครับ เพราะ Analogy มันจะเล่นคำที่ เป็น specific Noun ครับ ยกตัวอย่างเช่น cleft ที่แปลว่า รอยแตก หรือ รอยแยก หรือ แม้กระทั่ง awl ที่แปลว่าที่เจาะรู specific noun แบบนี้ ถ้ารู้ไว้จะช่วยทำ analogy ได้ขึ้นอีกพอสมควรเลยครับ

อีกประเด็นนึงที่ได้จากการทำสอบวันนี้ คือ Yawn :: Sleepiness ครับ ถ้า สร้างประโยคแค่ว่า Yawn is a sign of sleepiness มันจะไม่พอนะครับ จะ apply ใช้ได้กับ ทุกๆ choice เลย ต้องเป็นว่า Yawn is a sign of sleepiness on one's face แบบนี้ครับ ถึงจะหา choice เจอ ถือว่า analogy นี่ดิ้นได้มากๆเลยละครับเนี่ย

=> Reading Comprehension ส่วนตัวผมยกให้เป็นความยากมากๆเลยครับ จากประสบการณ์การสอบมา จะพบว่า RC จะต้องอาศัยความชำนาญเอามากๆ และ ถ้าเพื่อนๆอ่านได้ช้ามันจะชิ่งไปกะทบกับทุกๆ Part เลยครับ
วิธิฝึก ก็อาศัย practice และครับ อ่านอัดๆเยอะๆ เร่งสปีดให้ได้ 200 wpm (ตามที่ได้ยินมาจากเวบ testmagic) นะครับ คงไม่ขอพูดไรมากเพราะ ผมทำส่วนนี้แทบไม่ได้เลย

ก็ถ้าเพื่อนๆจะเอา 400 กว่าๆ ผมคิดว่า Antonym และ SC จะต้องเก็บให้เกือบหมดเลยนะครับ นั่นแปลว่า ศัพท์เพื่อนๆจะต้องเยอะพอสมควร ส่วน Ana กับ RC อาจจะตามแล้วแต่ดวง

ส่วนถ้าอยากทะลุ กำแพง หนาๆ 500 นี่ คงต้องเก็บ RC ให้ได้ด้วยละครับ ซึ่งถือว่า จะต้องมีเวลาเตรียมตัวกันพอสมควร เพราะว่า ถ้าจะเจียดเวลาไปให้ RC เราจะต้องทำส่วนอื่นๆ ให้เร็วขึ้นเพื่อเอาเวลาไปถมครับ

2. Quan. : สำหรับผม part นี้ไม่ถือเป็นปัญหาครับ เพราะ เรียนเลขมาอยู่ตลอดอยู่แล้ว อันดับแรก อยากให้เพื่อนๆ เริ่มทำ Powerprep ก่อนเลยครับ 1 รอบ เพื่อดูศักยภาพตัวเอง ไม่ต้องกลัวอายนะครับ ผมเริ่มทำครั้งแรกสุดได้อยู่ที่ V 300, Q 700 ซึ่งอุบาศก์มาก ถ้าเพื่อนๆได้เกิน 700 แล้ว แปลว่าไม่อยู่ในการที่มีปัญหามากนะครับ ที่เหลือ คือ ฝึก Pacing ส่วน คนที่น้อยกว่านั้น แสดงว่า เรายังไม่แม่นนะครับ ให้เริ่มไปทวน Math ก่อนสักเล็กน้อย

แนะนำหนังสือ สองเล่ม เพื่อ Quant ครับ
1. 10th edition of GRE general test : ไปหามาทำซะนะครับ เพราะทุกอย่างในเล่ม มีประโยชน์มากๆ
2. Barron : ให้เริ่มทำแบบฝึกหักเลขด้านหลังของทุก Part ครับ เริ่มตั้งแต่ A-O ทำจนคิดว่าตัวเองคล่องแล้ว ไปทำ Model test ด้านหลัง เลยครับ และอย่าลืม จับเวลาทุกครั้งที่ทำ Model test นะครับ ในความคิดผมคือ Model test ของ Barron ยากกว่าข้อสอบจริงเล็กน้อยนะครับ(ยกเว้นกราฟ ยากกว่ามากๆในเรื่องการประมานตัวเลขบนกราฟ) ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆผ่านฉลุยในการจับเวลาของ Model test ของจริง จะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ครับ
ให้ระวังกราฟให้มากนะครับ เพราะผมได้ 780 เพราะทำกราฟนานเกินไปเนี่ยละครับ

จบแล้วครับ สำหรับคำแนะนำให้เพื่อนสั้นๆ อยากเห็นคนไทยได้คะแนน GRE เยอะครับ

สู้ๆ Practice makes Perfect.

คนที่อยากได้คำแนะนำ ก็ โพสท์ไว้ไม่ก็ทิ้งข้อความหลังไมค์ได้นะครับ

แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 17:03:27

แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 17:01:36

จากคุณ : f_iceberg - [ 25 ต.ค. 50 17:00:14 ]