ความคิดเห็นที่ 1 Because of the LAW จากคุณ : Florason - [ 4 พ.ย. 50 01:19:01 A:68.81.39.157 X: TicketID:137881 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ผมว่าบ้านเราก็มีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนะ แต่การบังคับใช้อาจไม่รุนแรงเท่า จากคุณ : Aenieas - [ 4 พ.ย. 50 01:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บางที่มันอาจจะเป็นเพราะกฏหมายที่สร้างมานาน และเป็น วัฒนธรรม ของพวกฝรั่งที่มีมานาน คนขาวส่วนใหญ่เขาจะไม่ทำอะไรให้เสียเครดิต แต่ก็มีพวกแม่บ้านแมคและพวกเอเชียบางส่วนนะที่ชอบไปซื้อของมาแล้วเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า ผมเห็นแล้ว ก็พยายามเตือนญาติที่ทำ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะผมไม่เห็นด้วยที่ทำแบบนั้น มันเป็นการเอาเปรียบสังคมอย่างไม่น่าที่จะทำ ส่วนในสังคมไทย ผมเห็นว่า คงยาก เนื่องจากเศรษกิจที่ล้าหลัง วัฒนธรรม ลักษณะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ ไม่เอื้อ ถ้าเปลี่ยนได้ร้านค้าคงเจ้งเป็นระนาบ สังคมคงวุ่นวายน่าดู จากคุณ : fbj_95@hotmail.com - [ 4 พ.ย. 50 01:39:26 A:72.220.145.48 X: TicketID:144508 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นสินค้า อิเล็กทรอนิก เค้าเปลี่ยนถ้าซ่อมค่าแรงมันจะแพงกว่าซื้อใหม่ จากคุณ : [7th Heaven] - [ 4 พ.ย. 50 02:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เห็นเข้าใจเลยกับการเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว กับการแลกเปลี่ยนสินค้า เปรียบเทียบมาได้ยังไง จากคุณ : แดง - [ 4 พ.ย. 50 03:02:26 A:65.96.6.155 X: TicketID:141116 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เกี่ยวกับ "การเห็นแก่ตัว" หรือ "ไม่เห็นแก่ตัว" จ้ะ กรุณา ใช้ คำจำกัดความ ให้มันถูกต้อง แสดงว่า... จขกท. ยังไม่เคยถูกฝรั่งมันหลอกแดก ถึงได้คิดแคบๆได้แค่นี้ ฝรั่งมันไม่ใช่ ดี ไปทุกคน... ยกตัวอย่าง... ก็อย่างเพิ่ง ยกยอสรรเสริญฝรั่ง ให้มันมากกว่า คนชาติเดียวกัน.. ในเมื่อ ตัวคนอ่านทุกคน อ่านภาษาไทยไทยได้ ก็คือคนไทยที่เกิดในไทยกันส่วนมาก (ยกเว้นพวกที่เกิดนอกประเทศไทย)  แต่ พวกคนไทยส่วนหนึ่ง... มักชอบเอาคนไทยด้วยกันมาด่า มาวิจารณ์... ราวกับว่า ตัวเองนี่ดีไปกว่าคนไทยคนอื่นๆเหลือเกิน ตัวอย่างฝรั่งด้วยกันโกงกันเอง... ฝรั่งยุโรปตะวันออก โกงฝรั่งยุโรปตะวันตก... เพราะ ความที่เชื่อใจมากไป จึงมีการโกง ฝรั่งยุโรปตะวันออก มันเอาทีวีเครื่องใหญ่ไปคืนที่ร้านห้างใหญ่ในเมืองมิวนิค... ใส่กล่องปิดปกติ... พนง. เยอรมัน รับกล่องคืน และ นำใบเสร็จไปจัดการ ทำการคืนเงินสดให้ (ซื้อด้วยเงินสด) จำนวนเงินหลายพันยูโร พอลูกค้าได้เงินก็จากไป... พนง. เปิดกล่องเช็คดู... ตายล่ะหว่า... ในกล่องเป็นทีวีเก่าๆที่เสียแล้ว...  ไม่ใช่ตราเดียวกับกล่อง... เอากับเขาสิ... ฝรั่งที่แสนดี... ฮิ ฮิ ในเยอรมนี... สมัยก่อนๆ มีปัญหาในการซื้อของ แล้ว ไม่รับคืนเหมือนกัน... และ จะไม่มีการให้เงินคืน (นั่นก็ประเทศฝรั่งไม่ใช่หรือ หือ) ...  แต่ปัจจุบัน เริ่มรับเอาระบบค้าขาย จากอเมริกาไปใช้ มีการรับคืน และ เปลี่ยนของได้ แต่มีจำนวนวันกำหนด ส่วนร้านค้าเล็กๆ ส่วนมาก จะมีโพลิซี่ ไม่รับคืน ไม่แลกเปลี่ยน... Final sale เราก็ว่า ดีแล้ว ที่มีโพลิซี่ ซื้อแล้ว ไม่รับคืน แลกเป็นเงินสด... คนที่ซื้อไปจะได้ รู้จัก ใช้วิจารณยาน ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ก่อนซื้อสินค้า ระบบโพลิซี่ในอเมริกา... ทำให้คน "ฉวยโอกาส" เยอะจะตายไป จากคุณ : JidNince - [ 4 พ.ย. 50 03:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ** เห็นด้วย กับคุณ JidNince ...บางห้าง นะ ภายใน 6 เดือนคืนได้ เสื้อผ้า บางคนซื้อแล้วเอาไปซักใส่ ซัก 3 เดือนเอามาคืนบอกว่า มันหด ฮึๆๆ อย่างงี้ก็มีด้วย เช่นชุดหรู ๆที่ใส่งงานกลางคืน บางคนมาซื้อใส่ไปงานเรียบร้อย สัก 2-3 ครั้งได้ แล้ว ค่อยมาคืน.. ดิฉันเคยทำงานงห้างมาก่อนเลยรู้ถึง ฝรั่งแสบๆๆ ก็มีเยอะ อ่ะ *** จากคุณ : ข้ามฟ้ามาหารัก - [ 4 พ.ย. 50 04:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ Jidnince, พนักงานเขาไม่รอบคอบเอง จะไปโทษลูกค้าได้ไง ส่วนใหญ่ระบบงานเขาจะมีการอบรมพนัักงานเสมอ ว่าจะ Deal กัับลูกค้าประชาชน อย่างไร ไม่ใช่ว่าหลับหูหลัับตาเป็นพนักงาน ยีนสลึมสลือไปวันๆ ในใบเสร็จรับเงินส่วนใหญ่จะมีข้อความส่งท้าย เกี่ยวกับการรับคืน บางสินค้าอย่าง ลดราคา บางร้านค้าเขาก็ไม่รับคืนแต่เขาจะบอกลูกค้าก่อนเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง อาจารย์ฝรั่งถามเราว่า " ทำไมร้านค้าที่เมืองไทย ไม่ยอมให้เปลี่ยนสินค้า หรือคืนสินค้า " เราอึ้งเลย.... ในสายตาของเรา ฝรั่ง ที่เราพบส่วนใหญ่จะเป็น คนดีมีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว แต่คนไทยที่พบที่นี่ส่วนใหญ่จะเห็นแก่ตัว ฟุลสต็อป . จากคุณ : Funky - [ 4 พ.ย. 50 04:41:15 A:220.236.79.128 X: TicketID:154740 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กฏหมายเรากับเขาไม่ต่างกันมากหรอกค่ะ แต่ความเข้มงวดต่างหากที่มันต่างกัน  ที่เมืองไทยสินค้าบางอย่างที่ขายในห้างร้านใหญ่ๆมีใบเสร็จส่วนมากจะมีใบรับประกันนะคะ ยกเว้นสินค้าบางประเภทอย่างพวกเสื้อผ้า งงเหมือนกันแหล่ะว่าจะรับประกันการใช้งานได้ยังไง มันไม่เหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ  เราเคยขายของมาก่อนส่วนมากจะเปลี่ยนสินค้า เปลี่ยนรุ่น หรือเพิ่มเงินได้แต่ไม่คืนเงิน เพราะบัญชีมันต้องสรุปเป็นรายวันใครจะมีเวลามาแก้ไขได้ สินค้าในห้างมีตั้งเกือบๆ100กว่ายี่ห้อกี่บริษัทมั่งก็ไม่รู้ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเราเป็นผู้บริโภคมีสิทธิเลือกได้นิคะ สินค้าที่ซื้อตามท้องตลาดเปลี่ยน-คืนไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อ หันไปซื้อตามแหล่งที่เรามั่นใจว่ามีบริการที่เราต้องการน่าจะดีกว่า  ที่เมืองนอกของบางอย่างก็ใช่ว่าจะคืนได้นะคะ โดยเฉพาะถ้าไปซื้อตามตลาดนัดที่ไม่มีทั้งใบเสร็จไม่มีรับประกัน แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 05:21:48 จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล - [ 4 พ.ย. 50 05:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Jidnince แม่นเลยขอบอก... เรื่องซื้อของ Rebate นี่ก็เหมือนกัน บอกจะ คืนเงินให้ภายในเดือนนึง นี่ :-) จะสี่เดือนแล้วยังไม่ได้เลย คืนของมันเรื่องเล็ก คืนเงินนี่เรื่องใหม่ จากคุณ : [7th Heaven] - [ 4 พ.ย. 50 05:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเห็นกับตา ลูกค้าเอาองุ่นสดไปคืนที่ ซุปเปอร์มาร์เกตห้าง Selfridges โดยให้เหตุผลว่าเปรี้ยวเกินไป ทางร้านก็ให้คืน ทั้ง ๆ ที่ลูกค้ากินไปบ้างแล้ว (ไม่งั้นจะรู้ว่าเปรี้ยวเรอะ) คงแก้รำคาญมากกว่า ...จะบ้าตาย จากคุณ : นายคลิค - [ 4 พ.ย. 50 06:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะบวกลบคูณหารออกมาแล้ว ได้กำไรกว่าในระยะยาวครับ เห็นแก่ตัว แต่เขาก็มองการไกล จะได้เห็นแก่ตัวไปได้นานนานครับ จากคุณ : ein. - [ 4 พ.ย. 50 06:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในความคิดเห็นก็คือ นโยบายรับเปลี่ยนหรือคืนของฝรั่ง (ขอแคบลงที่อเมริกาละกัน) ถือเป็นการรับประกันความพึงพอใจของลูกค้า ธุรกิจที่เมกาถือความพอใจของลูกค้าเป็นใหญ่ ถ้าลูกค้าไม่ชอบ ก็คืน คิดว่านโยบายนี้เกิดขึ้น ก็เพราะเค้าเชื่อใจคนของเค้าที่ว่า จะไม่มาฉวยโอกาส ซื้อแล้วก็คืนเพราะหมดประโยชน์ (แต่คิดว่าตอนนี้บริษัทต้องทบทวนบ้างแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวนี้พวกฉวยโอกาสเยอะ ซื้อแล้ว ขอใช้ครั้งนึง แล้วก็คืน) การที่เมืองไทย ไม่สามารถเอากฏหมายเพราะว่าจริยธรรมของคนไทยเองที่ฉวยโอกาส เท่าที่สามารถทำได้ ซึ้งถ้ามีคนทำแบบนี้กันเยอะๆ ธุรกิจก็เจ๊งกันพอดี อย่างนี้คงต้องทบทวนกันแล้วว่า ใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว จากคุณ : เบบี้ - [ 4 พ.ย. 50 07:36:04 A:75.203.111.51 X: TicketID:145647 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท แว่บมาจากห้อง Celine Dion..อิๆๆๆๆ จากคุณ : หญิงป้า - [ 4 พ.ย. 50 08:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยซื้อโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ตรงบางนา พอเอามาใช้ได้เพียงวันเดียวก็พบว่าโทรศัพท์มีปัญหา เพราะตัวมือถือไม่ชาร์จไฟ ก็เลยเอาไปคืนพร้อมใบเสร็จ ปรากฎว่าพนักงานขายบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ต้องไปติดต่อที่โรงงานผลิต แล้วให้ที่อยู่มา ซึ่งโรงงานอยู่ไกลมาก อยู่แถวๆบางปะกง ผมก็ถามว่าทำไมตอนมาซื้อบอกว่าถ้าเสียให้เอามาเปลี่ยนได้ยังไงล่ะ เขาก็บอกว่าเปลี่ยนได้ครับแต่ต้องไปติดต่อโรงงานเอาเอง ผมเลยถามต่อว่าถ้างั้นขอเงินคืนก็แล้วกัน ใครจะถ่อสังขารไปบางปะกง เขาก็เลยพาไปทำเรื่องคืนเงินให้ที่เคาน์เตอร์รับคืนสินค้าในห้าง  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าการที่จะเอาโทรศัพท์เครื่องใหม่มาให้ แล้วเอาเครื่องที่เสียคืนโรงงานไป กับการที่คืนเงินมาแล้วโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ต้องคืนโรงงานอยู่ดี อันไหนมันจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน แบบนี้ผมไม่เรียกว่าโกงหรอก แต่เรียกว่าไม่ฉลาดทำการค้า จากคุณ : CHISWICK - [ 4 พ.ย. 50 09:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทีฝรั่งยอมให้เปลี่ยนเพราะว่า มันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และนโยบายทางการตลาดของเค้าอย่างหนึ่ง เราว่าไม่เกี่ยวกับการเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว แต่ถ้าเมืองไทยเอานโยบายแบบนี้มาใช้กับทุกสินค้า คงสนุกแน่ จาก คห. 13 "คิดว่านโยบายนี้เกิดขึ้น ก็เพราะเค้าเชื่อใจคนของเค้าที่ว่า จะไม่มาฉวยโอกาส ซื้อแล้วก็คืนเพราะหมดประโยชน์" เราคิดว่ามีส่วนจริงมาก คือ policy ของเค้าใช้ได้กับคนของเค้าที่ได้รับการอบรมให้มีความซื่อสัตย์ เคารพในกฎหมาย คือมีบรรทัดฐานทางสังคมแบบนึง ทีนี้มีคนอีกพวก ส่วนใหญ่คือพวกโลกที่ 3 ซึ่งมาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน บรรทัดฐานต่างกัน พอมาเจอแบบนี้ก็เลย ชอบใจใหญ่ ถือโอกาสเอาเปรียบ จากคุณ : micky - [ 4 พ.ย. 50 10:37:37 A:58.8.10.49 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 17  "ฝรั่งเห็นแก่ตัวกว่าคนไทย" ^^ ^^ ไม่ว่าคนชาติไหน ประเทศไหนก็เห็นแก่ตัวกันได้ทั้งนั้น ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับสันดาน การปลูกฝังค่านิยม อบรมเลี้ยงดูสั่งสอน วัฒนธรรม และ Mentality ของคนๆ นั้น   +++++++++++++++++++++++++++++++++   "แต่ทำไมเวลาสินค้ามีปัญหาถึงเปลี่ยนให้โดยดี แต่คนไทยกลับโกง" ^^ ^^ เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ จรรยาบรรณ และ วัฒนธรรมในการค้าขาย   เส้นทางสายไหม เส้นทางการค้าขายในสมัยโบราณ สืบย้อนไปได้เป็นพันๆ ปีก่อนคริสตกาล ส่วนที่เหลือรบกวน หนู จขกท. กรุณาไปศึกษาเอาเอง ว่าเกี่ยวโยงใยกันอย่างไร กับวัฒนธรรมในการค้าขาย ของไทย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน อินเดีย เปอร์เซีย เป็นต้น   จากคุณ : Siamese Girl - [ 4 พ.ย. 50 10:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีพี่ที่รู้จักซื้อน้ำหอมมาใช้ไปแล้วครึ่งขวด แล้วเอาไปคืนขอเงินคืนโดยให้เหตุผลว่า "สามีชั้นไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นนี้ ใช้ทีไรทะเลาะกันทุกทีเลย" พนง.รีบคืนเงินทันทีเลยค่ะ  -_-" จากคุณ : ต้มยำกุ้งน้ำข้น - [ 4 พ.ย. 50 11:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามข้อหนึ่งคับ กฏหมายโหดกว่ามาก สินค้าผิดพลาดนิดหน่อย ไม่ยอมคืนเงิน โดนเล่นหนักเลยคับ หนักมากด้วย จากคุณ : ดวงตาเห็นธรรม (wazenteq) - [ 4 พ.ย. 50 13:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคุณJidnice และคุณ SMG ค่ะ เห็นแก่ตัวไม่เกี่ยวกับการคืนของนะจ้ะ จขกท สามารถคืนของกันง่ายเพราะกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคเค้าเข้มแข็ง และอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก (ขอมองที่อเมริกา) การแข่งขันสูงแต่จำนวนผู้บริโภคมีจำนวนมากมหาศาล จะเกิดความเสียหายส่วนนี้บ้างต้องคิดรวมเป็น"ขาดทุนกำไร"  เคยได้ยินบางคนซื้อcoat มาไม่ตัด tag ออกเพราะว่ากะใส่ซักเดือนนึงแล้วไปคืน ช่วงหนาวๆ ดีจังวุ๊ย แต่ถ้าเป็นเมืองไทยสงสัยเจ้าของกิจการเจ้งระนาว สำหรับตัวเองอยากให้เมืองไทยทำได้บ้างจังเพราะเวลาซื้อไรแล้ว ชอบใจเร็วด่วนได้ (โลภเอง) เวลาอยากจะไปเปลี่ยน ขี้เกียจชี้แจงมากมาย ถ้าคืนเงินกันง่ายๆแบบเมืองนอกคงดี จากคุณ : CandidMom - [ 4 พ.ย. 50 13:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยว่าเรื่อง "เห็นแก่ตัว" กับ "การคืนสินค้า" เป็นคนละเรื่องกันเลยค่ะ... "เห็นแก่ตัว" เป็นเรื่องของ PERSONAL BEHAVIOR "การคืนสินค้า" เป็นเรื่องของ  POLICY ของร้าน/ห้างนั้นๆ ต่างหากค่ะ..... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 4 พ.ย. 50 13:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า เขาทำงานร้านอาหารไทยในเมกาแถวซีเอใต้ เจ้าของร้านโคดเค็มสุดๆ วันหนึ่งมีงานแฟร์แถวหน้าร้าน ตัวเองไม่มีเตาย่างสะเต๊ ไปซื้อมาจากที่ห้าง ใช้เสร็จก็ให้ลูกจ้าง ขัดล้างแล้วเอาไปคืน สุดยอดของความเห็นแก่ตัว ฟังแล้วอายแทนจริงๆ ให้ลูกจ้างกินลาบทุกมื้อ หวังจะได้ลาภ ไม่รู้จะได้หรือเปล่า ร้านก็ซบเซาเรื่อยๆ มีคนอย่างนี้ด้วยนะ จากคุณ : จริงๆ - [ 4 พ.ย. 50 13:28:15 A:72.220.145.48 X: TicketID:144508 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอนอกเรื่องถึงนิสัยฝรั่งหน่อยครับ เอาที่เป็นฝรั่งเมกันที่เกิดที่เมกาส่วนมากด้วยนะ พวกที่เราอาจสังเกตุได้จากการแต่งตัว ท่าจะดูดีมีการศึกษาและรับการอบรมมาดี พูดง่ายๆคือเราต้องดูออกบ้าง แม้ไม่ทุกคน ไม่นับพวกดั้งเดิมจากประเทศโลกที่สามแล้วมาเป็นเมกันตอนหลัง  เช่น พวกจาก เมกาใต้ จากเอเชีย จากเกาะแถวคาริบเบียน และอีกแหละ ไม่ใช่ทุกคน ตอนผมขับแท็กซี่อยู่นะ หากเป็นฝรั่งเมกันแบบผมว่าข้างบน ไม่ว่าหญิงหรือชายเมื่อเจอของในรถส่วนหลัง ที่ลืมไว้ หรือทำหล่นในรถ จากผู้โดยสารคนก่อนที่ลงรถไป เช่นกระเป๋าเงิน กล้องถ่ายรูป เครื่องประดับหรือของมีค่าอื่นๆ เขาจะบอกและยื่นของมาให้ผมและย้ำว่า มีคนลืมไว้ ยูต้องไปรีพอร์ทนะ  เขาไม่ฉวยโอกาสเอาเป็นของตัว ผมเจอมาเกินสิบราย เป็นแบบที่ว่า จนผมยังนึกชมเลย มันอบรมมาดีนะ มันไม่อยากได้ของที่ไม่ใช่ของตัว อาจไม่ทุกคนก็จริงครับ แต่ส่วนมากจะที่เห็นจะเป็นแบบนี้ จะว่าชมฝรั่งก็ยอมละ ดีต้องชม ไม่ดีต้องด่า ไม่ว่าฝรั่งหรือไทยหรือชาติไหน และหลังๆมานึกๆก็อาย ตำหนิตัวเองเหมือนกันที่ทำไม่ดี ไปบ้างช่วงนั้น เพราะผมเอาของไปคืนบ้าง ไม่คืนบ้าง และยอมรับว่าจิตใจพื้นฐานผมแพ้มัน แต่ไม่เคยเลยที่จะเห็นผู้โดยสารพวกที่ผมไม่นับและยกไว้ข้างบน จะทำแบบนี้ หรือพวกนี้ไม่เคยเจอของบนรถผมก็ไม่รู้ จากคุณ : smartupid - [ 4 พ.ย. 50 14:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาเลานิดนึงนะ ขายของอยู่ที่อังกฤษ ขายเสื้อผ้าเด็กนี่หล่ะ ของในร้านที่เราขายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพนะ ไม่เคยมีปัญหาเลย แล้วมีอยู่วันนึงเราขายกางเกงเด็กผู้ชายให้ผู้หญิงคนนึง เค้าซื้อไปสองตัว กางเกงตัวละประมาณ สิบปอนด์ เค้าซื้อไปสองอาทิตย์กว่าๆ วันนึงวิ่งกลับมาที่ร้าน บอกว่า เป้ากางเกงขาด เค้าบอกว่าเค้าใส่ไปในเครื่องซักผ้าพอตอนมันแห้ง จะรีดถึงเห็น เราบอกว่ารอก่อนเดี๋ยวเจ้าของร้านมาแล้วเราจะจัดการให้ ที่เราไม่เปลี่ยนให้หรือคืนเงินให้ทันทีเพราะ เราเห็นว่า "มันไม่ใช่" อ่ะ คือกางเกงขาดที่เป้ากางเกง นึกออกมั้ยว่าเด็กผู้ชายน่ะ คงกระโดด หรืออะไรซักอย่างที่ทำให้มันฉีกได้ขนาดนั้น ไม่ใช่เครื่องซักผ้าแน่นอน พอเจ้าของร้านมา เราก็บอกเค้า    เค้าคืนเงินให้ลูกค้านะ แต่คืนไปแล้วก็มาบ่นๆ ว่าเนี่ยไม่ใช่เพราะเครื่องซักผ้าแน่นอน เค้าก็เห็นภาพเลยว่ามันขาดยังงัยเราเลยถามเค้าว่า แล้วยู คืนเลินเค้าไปทำไมอ่ะ เจ้าของร้านเค้าก็ประมาณว่า อยากkeep ลูกค้าน่ะ ก็เลยต้องยอม เค้าถามว่าเป็นเราเราจะคืนมั้ย เราบอกว่า" ไม่  " ถ้าไอจะคืนไอไม่รอให้ยูมาหรอก แต่นี่ไอเห็นว่าไม่สมควรคืน หลังจากนั้นเจ้าของร้านเลยออกกฎการคืนสินค้ามาแปะไว้ที่เคาท์เตอร์เลย ฝรั่งขี้โกงก็มีค่ะ แต่ฝรั่งดีๆก็เยอะ มันอยู่ที่ปัจจัยหลายๆอย่างนะไอ้โพลิซีเปลี่ยนของคืนของเนี่ย จากคุณ : hamble pie - [ 4 พ.ย. 50 17:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ที่ร้านเป็นงานบริการ ก็จะมีการขายบัตรกำนัล (เรียกถูกมั้ย) หรือที่ภาษาเยอรมันเรียก Gutschein แม้ในบัตรเราระบุว่ามีอายุ 6 เดือน แต่จริงๆ แล้วเรายังต้องอยู่ภายใต้กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภค คือ 3 ปี อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ที่เจอแสบๆ คือ ประเภทได้บัตรไปแล้ว ทำนัดให้แล้วพอถึงเวลาก็ไม่มา และไม่โทรแจ้งยกเลิก ทำให้เราเสียเวลาตรงนั้นไปฟรีๆ โดยไม่สามารถทำอะไรได้ ... หลังจากนั้นหล่อนก็โทรมาขอทำนัดใหม่ ด้วยข้ออ้างโน่นอ้างนี่ พอได้นัดใหม่แล้วหล่อนก็มาสายเสีย 30 นาที ด้วยเหตุผลง่ายๆ แต่ได้ใจความว่า "ตื่นสาย" แล้วจะให้เราทำยังไงล่ะ เราก็ต้องยกเลิกหล่อน เพราะคนที่มาต่อคิวหล่อนคนต่อๆ ไป ก็ต้องรอเป็นทอดๆ 30 นาทีงั้นหรือ ทำให้เราเสียเวลาอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังจากนั้นอีก 1 ปี หล่อนก็มาขอคืนบัตรนั้น ด้วยข้ออ้างว่าไม่สามารถรับบริการได้ ... น่าโมโหมั้ยล่ะ แล้วทำไมไม่บอกคืนตั้งแต่แรก หลอกให้เราเสียเวลาไปกับหล่อนตั้ง 2 ชั่วโมง โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย อีกรายที่จำไม่รู้ลืมคือ สองสามีภรรยานั่งรถเบนซ์คันหรูรุ่นใหม่ล่าสุด เข้ามาในร้าน มาถึงก็บอกว่าจะคืนบัตรพร้อมกับ ไม่ลืมกางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่อุตส่าหอบมาด้วย อันนี้ไม่ว่ากันถ้ามันยังอยู่ในเกณฑ์ก็คืนให้ แต่ก็ต้องหัก 30% จากมูลค่าบัตร หลังจากคืนเงินให้เรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาก็รีบออกจากร้านไป ตอนนั้นสามีเป็นคนจัดการเรื่องการคืนเงิน เพราะเรากำลังทำงานอยู่ พอเราทำงานเสร็จ ออกมาดูจึงรู้ว่าบัตรนั้นถูกเปลี่ยนแปลงเดือนและปีใหม่ จาก 25-03-2004 เป็น 25-05-2005 แต่วันที่เขานำมาคืนคือเดือน 08-2007 ก็เท่ากับว่ามันเลย 3 ปีมาแล้ว ตอนนั้นแฟนโมโหและเจ็บใจมาก ที่ไม่ได้ดูให้ดีก่อนเพราะเฉพาะลายมือหรือรอยปากกาที่แก้ ก็สังเกตุเห็นได้ง่ายๆ และบัตรก็เป็นรุ่นปี 2004 และเพราะไม่คิดว่าสามีภรรยาคู่นี้ที่มีลูกเป็นถึง นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังคนหนึ่งในเมืองที่เราอยู่ และลูกอีกคนก็เป็นหมอมีหน้ามีตา คิดดูสิว่าใครจะไปนึกล่ะว่า กับเงินเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ ยังกล้าทำ เจอฝรั่งงี่เง่าแค่ 2 คนนี้ ก็เซ็งโคตร อ้อ.. แหม่มคนแรก ก็เป็นภรรยาของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเหมือนกัน แปลกดีเนอะ จากคุณ : บ่น ๆ - [ 4 พ.ย. 50 20:09:08 A:91.15.122.192 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มันอยู่ที่สำนึกความรู้สึกผิดชอบและคุณธรรมส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติสัญชาติ ถึงแม้ว่าบางเชื้อชาติหรือบางสัญชาติอาจจะมีคนที่มีแบบฉบับคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องจะไปเหมารวมว่าใครดีใครเลวไปทั้งหมด   คนบางคนคิดเข้าข้างตัวเองว่าสามารถ"ทำได้" โดยไม่ได้คิดว่า "ควรทำ" หรือไม่ เอาความคิดว่าตัวเองมีสิทธิอย่างชอบธรรมมาตีความและใช้อย่างผิดๆ   หรือไม่ก็ฉลาดแกมโกง หัวหมอ หาประโยชน์จากช่องโหว่หรือกฏระเบียบที่ดิ้นได้ โดยไม่ดูความเหมาะสมอื่นๆ ซ้ำยังภูมิใจด้วยว่าตัวเองทำได้ ฉลาดกว่าอีกฝ่ายที่อาจจะไม่เห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของการกระทำนั้นแต่แรก หรือจำเป็นต้องยอมจำนนเพราะกฏบางกฏที่มีอยู่   Exchange/return policy เป็นสิ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อผู้คนโดยรวม แต่ก็มีคนคิดใช้แบบโกงๆอยู่ดี ไม่แปลกใจถ้า policy นี้จะไม่มี หรือใช้ไม่ได้ผลกับประเทศไทย   จริงๆแล้วคนเกือบทุกคนก็มีความคิดจะหลีกเลี่ยงกฏระเบียบบางอย่าง หรือคิดซิกแซกตามล่องโหว่พวกนี้บ้างทั้งนั้น   เพียงแต่ดีกรีของการกระทำมันแตกต่างกันไป ขีดสูงสุดของการยอมให้ตัวเองทำผิดกฏไม่เท่ากัน   ทั้งนี้ (นอกเหนือจากเชื้อชาติ สัญชาติ) การศึกษา การงาน พื้นฐานครอบครัวและฐานะ อาจจะไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงระดับจริยธรรมส่วนตัวได้ชัดเจนด้วยซ้ำ     ถ้าเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็เลิกมองคนอื่นซะ แล้วมาควบคุมตัวเองไม่ให้ไปทำอย่างที่คนอื่นบางคนทำ เพราะคิดว่าคนอื่นยังทำได้เลย ... จากคุณ : frappuccino - [ 4 พ.ย. 50 23:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาแชร์ความเห็นด้วยคนครับ ที่ฝรั่งยอมให้คืนของเพราะ "สิทธิผู้บริโภค" ซึ่งตราไว้ในกฎหมายนะครับ และห้างมักจะมีแนวคิดทำนองว่า "ถ้าคุณไม่พอใจสินค้า เรากล้าคืนเงิน" แต่มักมีสินค้าบางประเภทที่ไม่ยอมให้คืนด้วยเหตุผลทางสุขลักษณะ เช่น เสื้อผ้ากางเกงชั้นใน เป็นต้น อยู่สเปนครับ เคยซื้อน้ำยาซักผ้าแบบซักเครื่องแต่จริงๆต้องการแบบซักมือ กลับถึงบ้านไปเห็นเข้าเลยวิ่งเอามาคืนที่ห้าง พนักงานเห็นสินค้าพร้อมใบเสร็จ ยิงบาร์โค้ดสินค้า ดูราคา แล้วคืนเงินทันทีไม่มีคำถาม ผมยังแปลกใจว่าถ้าเราเทออกไปใช้ครึ่งหนึ่งแล้วเอาน้ำเติมให้หนักเท่าเดิม เขาคงไม่รู้เพราะไม่ได้เปิดดู ที่เมืองไทยเคยซื้อกางเกงขาสั้น กลับไปถึงบ้านผมเพิ่งเห็นว่าในตุ้มีสีนี้มีแล้วเลยเอาไปคืน (รอประมาณ 1 อาทิตย์) กางเกงยังไม่ได้ใส่ พนักงานห้างพยายามตะล่อมให้เปลี่ยนเป็นตัวอื่น สีอื่น แบบอื่น แต่ผมยืนยันว่าต้องการเงินคืน เขาไปตามผู้จัดการแผนก ผู้จัดการชั้น ฯลฯ มา ผมถามหลายรอบว่า "รับเงินคืนได้ไหม" ทุกคนตอบว่า "ได้ แต่อยากให้เปลี่ยนเป็นแบบอื่นมากกว่า" ท้ายที่สุด หัวหน้าการเงินของชั้นมาบอกว่า ขอคืนเป็นเงินคูปองได้ไหม สามารถเอาไปซื้อของในห้างในทุกแผนก ผมเหนื่อยกับการยืนรอ ก็เลยรับปาก ตอนหลังจะซื้อของห้างเมืองไทยคิดแล้วคิดอีก เพราะถึงคืนได้คุณก็ได้คืนเป็นคูปอง ต้องเอากลับซื้อของที่ห้างนั้นอยู่ดี ไม่ได้กลับเมืองไทยนาน อยากรู้จังว่าพนักงานห้าง หรือ แคชเชียร์ยังยกมือไหว้ลูกค้า (แบบปะหลกๆ) ตอนจ่ายเงินอีกไหมหนอ จากคุณ : Shakesple (Shakesple) - [ 5 พ.ย. 50 00:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^^ ^^ "ไม่ได้กลับเมืองไทยนาน อยากรู้จังว่าพนักงานห้าง หรือ แคชเชียร์ยังยกมือไหว้ลูกค้า (แบบปะหลกๆ) ตอนจ่ายเงินอีกไหมหนอ" ^^ ^^ ดิฉันอยู่กรุงเทพฯ ค่ะ ค่ะ ไหว้ทั้งก่อนและหลัง ซื้อผ้าอนามัยห่อเดียว ก็ไหว้ ซื้อไข่เค็ม 5 ฟอง ก็ไหว้ เอามะเขือเทศ 3 ผล ไปให้ชั่งน้ำหนัก พอส่งของคืนให้ พนักงานก็ไหว้ ซื้อกางเกงในจีสตริงตัวเดียวก็ไหว้ ห้างอื่นไม่เป็นนะคะ ที่ The Emporium และ Siam Paragon อาการหนักที่สุด พนักงานพวกนี้เจอดิฉันวีนประจำค่ะ อิชั้นด่าเช็ดเลย ว่าให้ไหว้ให้ถูกกาละเทศะ ไหว้ให้ถูกที่ถูกทาง และ ฝากให้ไปบอกทางห้างด้วยว่า กรุณาอย่าเอาวัฒนธรรมการไหว้ มาปู้ยี่ปู้ยำแบบนี้ ปล. ยินดีค่ะ ที่เจอแนวร่วม เพราะคนไทยส่วนใหญ่ที่เมืองไทย เขาชอบการบริการแบบลัทธิประจบสอพลอวิบัติ แนวๆ นี้กันค่ะ แบบว่าพวก Insecure จ่ายเงินแล้นนนน ต้องให้คนมาพินอบพิเทา พะเน้าพะนอเอาใจ ให้ความสำคัญ Cheers! ค่ะ     ไหว้แบบมีสาเหตุ มีเหตุมีผล แบบนี้ก็ว่าไปอย่าง นะคะ เช่น น้องเพียงฟ้า (นาตาลี เกลโบว่า) อดีตนางงามจักรวาล และ ว่าที่ภรรยาของน้องบอล-ภารดร ไหว้อดีตนายกฯ ทักกี้   จากคุณ : Siamese Girl - [ 5 พ.ย. 50 01:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าธรรมเนียมการไหว้ ในห้าง ฯ เพิ่งเริ่มมาไม่นานเองนะ จากคุณ : แดง - [ 5 พ.ย. 50 05:22:24 A:65.96.6.155 X: TicketID:141116 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^^ ^^ เขาเลียนแบบการบินไทย เลียนแบบห้างญี่ปุ่น ที่พนักงานโค้งแล้วโค้งอีก และ ฮิตมาตั้งแต่สมัยช่วง ที่องค์กรต่างๆ ต้องมี ISO ต่างๆ ห้อยต่อท้าย อีกทั้งเป็นเรื่องของการบริการระบบเจ้าขุนมูลนาย มันก็เลยเหมือนการเล่นปาหี่ แบบที่เห็นกันทุกวันนี้ แทนที่จะเป็นการแสดงออกมาอย่างถูกกาละเทศะ จริงใจ ไม่จัดฉาก เสแสร้ง จนเกินพอดี   ปล. ถ้าไปซื้อชา 1 กระป๋อง ที่ห้าง Harrods ที่ London แล้วพนักงานแคชเชียร์ ขอ Shake-Hand กับลูกค้า ทั้งก่อนและหลังจ่ายเงิน จะดูตลก และ สอพลอ แค่ไหน ฝากให้คนไทยเพื่อนร่วมชาติ ที่เมืองไทยด้วยกันทั้งหลายคิดดู และ แอนตี้การบริการเยี่ยงนี้ พวกยาม Security Guard ตามห้างตามตึก ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ก็เหมือนกัน ตะเบ๊ะ ทำความเคารพ คนที่เดินผ่านไปมาตลอดเวลา เราต้องบอกยามตามห้างบ่อยๆ ว่าขอร้อง ไม่ต้องมา "วันทยาหัถต์" ให้ฉันนะจ๊ะ ฉันมาซื้อของที่ห้าง ไม่ได้มาเข้าค่ายทหารฝึก รด. ที่เขาชนไก่     จากคุณ : Siamese Girl - [ 5 พ.ย. 50 11:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องไหว้ เราคิดว่าเขาไหว้ตามคำสั่งมากกว่าไหว้ด้วยใจนะ แต่ส่วนตัวไม่ต้องไหว้ อะ ไม่จำเป็น   เห็นแก่ตัวนี่มันมีกันทุกชาติแหละแต่ใครจะมากกว่าน้อยกว่ามันอีกหลายอย่างเนอะ ถ้าเรื่อง คืนสินค้า ในบ้านเรา ส่วนมาก คือ คืนได้ แต่กว่าจะคืนได้เนี่ย สุดยอดอะ ต้องไปติดต่อโน่นนี่เอง  เรื่องมากว่างั้นเหอะ สรุปขี้เกียจ ไม่เปลี่ยนและ จากคุณ : NangMarn2000Years - [ 5 พ.ย. 50 15:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นอกจากพี่ยามจะหลับหูหลับตาตะเบ๊ไม่เลิกแล้วพี่ยามยังมีแฟชั่นเครื่องแต่งกายที่เลียนแบบตำรวจ มีบั้งมีเหรียญห้อยเต็มไปหมด เนียนเชียว จากคุณ : เม๊าท์ยาม (CandidMom) - [ 5 พ.ย. 50 15:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ก็ดีแล้วนี่... ที่ห้างในเมืองไทยหลายๆห้าง... รับเอาวัฒนธรรมของการค้าขายของญี่ปุ่น เช่น การโค้ง ต้อนรับลูกค้า แต่ของไทย วัฒนธรรม คือ การ "ไหว้"... หลังจากซื้อขายเสร็จ ถ้าไม่ไหว้สิ... เดี๋ยวก็ มีมาว่าอีกว่า "มือไม้แข็ง" เชอะ รู้สึกว่า ไม่ว่าคนไทยในเมืองไทย จะทำอะไร เพื่อการปรับปรุงของร้านค้าของแต่ละร้าน... ต้องมีข้อเสีย ให้ถูกติเตียน วิจารณ์... อยู่ร่ำไป จากคุณ : JidNince - [ 6 พ.ย. 50 00:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ คุณSiamese Girl ครับที่มาเป็นพันธมิตรกับผมเพราะเห็นตรงกันเรื่อง "ไหว้ผิดกาลเทศะ" แถมดอกไม้ให้อีกแน่ะ (เขินจัง) ผมรู้สึกประหลาดทุกครั้งที่ต้องรับไหว้พนักงานเก็บเงินตามห้าง ไม่ใช่เพราะเขาไหว้ไม่สวย (ซึ่งก็ไม่สวยจริงๆนะแหละ)แต่เพราะมันไม่ถูกธรรมเนียมต่างหาก ผมว่าเขาส่งถุงสินค้าพร้อมเงินทอนอย่างนุ่มนวลพลางกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพก็ชื่นใจแล้ว ไม่ต้องไหว้หรอก แต่คงเป็นเพราะนโยบาย ISO จริงๆนะแหละ ว้า!จขกท ถามเรื่องคืนสินค้า ดันมากลายเป็นเรื่องไหว้ของแคชเชียร์ไปซะแระ ขอให้ทุกคนโชคดีในการเปลี่ยนและคืนสินค้าไม่ว่าจะเป็นที่เมืองไทยหรือเมืองนอกนะครับ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 50 03:52:40 จากคุณ : Shakesple - [ 6 พ.ย. 50 03:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^^ ^^  สวัสดี และ ยินดีค่ะ คุณ Shakesple ที่ได้เข้ามาแชร์ และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยบางส่วน ที่ถูกพวกนายทุน และ TAT - ททท. (The Tourism Authority of Thailand.) นำมาปู้ยี่ปู้ยำอย่างไร้ทิศทางมาหลายปีแล้นนนค่ะ I wish you a lovely day in Spain ค่ะ     ปล. เข้ามาขำคุณ CandidMom ด้วยค่ะ อยู่กรุงเทพฯ เหมือนกัน สงสัยว่าเราสองคนจะ Shopping ที่ห้างเดียวกันนะคะ   แต่เราชอบไป Central ชิดลม มากกว่า The Emporium หรือ 'หยามก้อน นะ (ก็ขึ้นอยู่กับว่าแล้วแต่ว่าไปซื้อ หรือ มองหาอะไรอยู่อีกนั่นแหละค่ะ ) เพราะพนักงานไม่ไหว้ประหลก ประหลก เหมือนลิงหลอกเจ้า และ ยามไม่ตะเบ๊ะค่ะ   Cheers! and have a nice day ค่ะ   แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 50 17:15:14 จากคุณ : Siamese Girl - [ 6 พ.ย. 50 09:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จำได้ว่ามีอยู่วันนึง ไปซื้อโทรศัพท์บ้านมาใช้ แต่ลองใช้ได้หนึ่งคืนปรากฏว่าฟังไม่ค่อยได้ยิน เราก็เอาไปเปลี่ยนทางร้าน เขาก็ยอมให้เปลี่ยนเราบอกว่า ขอเดินดูถ้าเจอรุ่นที่แพงกว่าเราก็จะเพิ่มเงินให้ ทางร้านก็โอเค แต่เราดันไปถูกใจกับไอ้เครื่องที่ถูกว่า 180 บาท เราก็บอกทางร้าน เขาก็ยอมให้เราเปลี่ยนเป็นเครื่องนั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า " ทางร้านเขาจะไม่ยอมคืนเงินให้เรา " เราก็ไม่ยอม เรายืนกรานจะเอาเงินคืนให้ได้ พนักงานบอกกับเราว่า เงินนั้นคืนให้ไม่ได้เพราะเอาเข้าระบบภาษีไปแล้ว ( แมร่งโกหกเรา ) เราก็บอก โอเค แต่เราต้องการเงินเราคืน พี่สาวเราสะกิดแขน ยิ๊กๆ ว่า อย่าไปเรื่องมากเลย เงินแค่ 180 บาท และจะกลับบ้านลูกเดี่ยว เราไม่ยอมกลับ ยืนรอเงินอยู่ตรงนั้น สักพัก พนักงานก็เดินเอาเงินมาให้ เนี่ยละน้าาาา... ถ้ายอมให้คนอื่นกดหัว เขาก็จะยืนกดอยู่นั่นแหละ ดีนะที่มาอยู่เมืองนอกแบบนี้เราเรียนรู้เกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง เพราะถ้ามัวแต่เงียบก็ถูกชาวบ้านเอารัดเอาเปรียบต่อไป 180 บาท มันมากสำหรับเราเพราะเราเคยทำงานมา วันละต่่ำกว่านี้ จะให้คนอื่นมาทำงี้ได้ไง จากคุณ : Funky - [ 6 พ.ย. 50 15:26:45 A:58.104.194.4 X: TicketID:154740 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องเห็นแก่ตัว เอาเปรียบเป็นเรื่องของบุคคลค่ะ แต่ที่รับเปลี่ยนของ  เป็นเรื่องของกฎหมายค่ะ ไม่ใช่ว่ามีแต่พวกพี่แมก หรือเอเซีย หรือคนที่ไม่ใช่ native ไปโกงฝรั่งเจ้าของชาติหรอกนะคะ ฝรั่งเองก็โกงกันเอง เคยดูข่าว พวก super store เสียเงินไปกับ การโดนขโมย และการรับคืนของเกือบ 10 เปอร์เซนต์ของกำไร ( จำไม่ได้แล้วว่าดูจากไหน โดย 70% ของยอดอาชญากรรมเกิดที่ walmart ) ชาติเดียวกันก็ทำกันเองนี่เห็นด้วยตาค่ะ คุณแม่เอาของมาคืนที่แผนก claim พอได้เงินกลับมา ยิ้มแบบโกงๆ  แล้ว high-five กะลูกสาวค่ะ จากคุณ : เจ้าของแซ่บ (prinda) - [ 6 พ.ย. 50 21:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ช้างบนอธิบายไปแล้วเพียบค่ะ มันเปนเรื่องของกฏหมายล้วนๆ ไม่เกี่ยวว่าใครเห็นแก่ตัวนะ ทุกชาติเห็นแก่ตัวหมดอยู่ที่ใครว่ามีการอบรมมาอย่างไร อยู่ที่ไทย ที่เมกาเจอคนทุกประเภทค่ะ จากคุณ : michigirl - [ 6 พ.ย. 50 23:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 วัฒนธรรม สูงกว่า คนไทย ครับ เขาใช้ ความ สัตย์ซื่อ น่าอาย แทนคนไทย จริงๆ จากคุณ : pittboy2603 - [ 7 พ.ย. 50 13:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พอว่า พอๆกัน เลวพอกัน เรื่องรับเงินก็เก่งพอๆกัน มนุษย์ขี้เหม็น หน้าไหนหน้านั้น ประเทศไหนประเทศนั้น จากคุณ : coucou - [ 7 พ.ย. 50 18:20:51 ]