ความคิดเห็นที่ 1 ขอเพิ่มคำถามอีกนิดค่ะ   คือ  ช่วยแนะนำด้วยว่า  ควรจดทะเบียนสมรส ที่ไทย หรือ ที่เยอรมัน  (ที่ไหนดีกว่ากัน) แฟนบอกว่า ครบ 5 ปีเราจะได้พาร์สปอร์ตเยอรมัน  แต่เราต้องเลือกสัญชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง เลือกทั้งสองไม่ได้   (จริงหรือคะ) แฟนบอกว่าถ้าเราเลือกเป็นคนเยอรมัน  เราจะไม่มีสิทธิ์ซื้อบ้านในเมืองไทย  ซึ่งเราตกลงกันว่า จะซื้อบ้านอยู่ในเมืองไทยเพื่อพักผ่อนหลังเค้ากระเษียณ (แต่ยังอีกนานเพราะตอนนี้เค้าเพิ่งจะ 41 ปี)  เป็นไปได้ไหมที่ดิฉันจะถือสัญชาติเยอรมัน แล้วก็ไม่สละสัญชาติไทย (แบบว่าจะถือสองสัญชาติน่ะค่ะ) รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ  ขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 50 04:22:04 จากคุณ : thepariti - [ 10 พ.ย. 50 04:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ใช้บัตรต่างด้าว ไปเรื่อยๆก็ได้นี่คะ ไม่ต้องเปลี่ยนสัญชาติก็ได้นี่ เดี๋ยวรอแม่บ้านเยอรมันมาตอบนะคะ จากคุณ : mon kiwi - [ 10 พ.ย. 50 05:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ใช่แม่บ้านเยอรมัน แค่เคยได้รับทุนไปเรียนภาษาเมื่อเกือบๆ สามสิบปีมาแล้ว และตอนนี้ ภาษาเยอรมันที่เรียนมาก็เข้าหม้อเรียบร้อยไปแล้วค่ะ ลองอ่านที่นี่ดูนะคะ ส่วนจะตกลงใจยังไงนั้น ขึ้นอยู่กับคุณค่ะ เรื่องสัญชาตินั้น ตอนนี้ยังไม่ต้องไปคิดถึงก็ได้ เพราะยังอีกไกล หลายๆ คนไปไม่ถึงจุดนั้นด้วยซ้ำค่ะ รู้จักผู้ชายต่างชาติว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร เขาต้องการอะไร ฯลฯ   http://lawanwadee.com/?p=163 พรบ สัญชาติกับการโอนที่ดิน   http://lawanwadee.com/?p=88 แต่งงานกับคนต่างชาติ กับการเปลี่ยนนามสกุลหลังแต่งงาน http://lawanwadee.com/?p=71 จากคุณ : Lawanwadee - [ 10 พ.ย. 50 12:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอโทษนะคะที่ไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องข้อมูลได้ แต่อ่านแล้วพอจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกจากไปหรอกค่ะ หากมีโอกาสยืดชีวิตลูก มีหรือแม่จะไม่ทำ จากคุณ : Sunny Shiny Day - [ 10 พ.ย. 50 12:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5  มาให้กำลังใจค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามแต่ ไม่ต้องไปสนใจกับลมปากของคนอื่นนะคะ ขอให้มั่นคง มั่นใจในตัวเอง สนแต่เรื่องของตัวเรา และ ใช้ชีวิตในแบบของเราค่ะ ยินดีด้วยที่เจอคู่ดี เจอคนจิตใจดีค่ะ โชคดีนะคะ คุณ thepariti   จากคุณ : Siamese Girl - [ 10 พ.ย. 50 12:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองเอาลิงค์นี้ให้แฟนคุณอ่านดูนะคะ  ขี้เกียจแปล เพราะเยอะมาก http://www.baanthai.com/ratgeber/adoption.asp http://thaiadvo.com/de/adoption_th.html http://www.nittaya.de/viewtopic.php?t=26848&start_t=0 จากคุณ : Sonnenschein - [ 10 พ.ย. 50 14:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ ทุก ๆ ท่านค่ะ ดิฉันสัญญาในใจก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจะเป็นคนดีตลอดไป เพราะที่แฟนตัดสินใจจะแต่งงานด้วย มีเหตุผลเพียงแค่ต้องการช่วยดิฉันเท่านั้นเอง เพราะเค้าเห็นว่าดิฉันเป็นคนดี เค้าไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทนเลย แม้แต่คำว่า ขอบคุณก็ไม่ต้องการได้ยิน เค้าขอเพียงแค่ดิฉันจะไม่เปลี่ยนไป เป็นคนดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งดิฉันก็ให้สัญญากับเค้า ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และในใจ จะไม่เรียกร้อง หรือรบกวนเค้าในสิ่งที่ไม่จำเป็นเลย ขอบคุณมากมายอีกครั้ง สำหรับข้อมูล ลิงค์ให้ และ ทุก ๆ กำลังใจ ที่เข้าใจและเห็นใจ พิเศษถึง คุณแนน(ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นนะคะ) นิดนึงค่ะ ขอบคุณที่ยังจำดิฉันได้และคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ดิฉันคอยอ่านเม้นของคุณอยู่เสมอ ๆ ค่ะ แต่ไม่ค่อยโพสอะไร (แอบอ่านเก็บความรู้อย่างเดียว) จากคุณ : single mom (thepariti) - [ 10 พ.ย. 50 18:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : สมศรี - [ 11 พ.ย. 50 01:30:55 A:82.208.11.3 X: TicketID:128994 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแนะนำเป็นข้อๆนะคะ... การดำเนินการขอรับเด็กไปเป็นบุตรบุญธรรมในเยอรมันนั้น ใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ เคยเห็นบางคนต้องรอถึง 2 ปี กว่าเรื่องจะเสร็จเรียบร้อย ทางที่ดีคุณควรจะทำเรื่องแต่งงาน จดทะเบียนสมรสกับแฟนให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยกลับไปรับลูก ลูกของคุณก็จะได้วีซ่าติดตามแม่เข้าเยอรมัน แล้วจึงค่อยให้แฟนของคุณดำเนินการรับลูกของคุณเป็นบุตรบุญธรรม ส่วนการจดทะเบียนสมรสนั้น จะจดที่ไทยหรือที่เยอรมัน คุณก็จะได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายเท่ากันค่ะ  แล้วแต่ความสะดวกของคุณและแฟน  แต่เราอยากแนะนำให้จดที่เยอรมัน คุณจะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องเอกสารหลายต่อ เมื่อคุณมีความเข้าใจภาษาเยอรมันดีพอแล้ว คุณสามารถเลือกเรียนวิชาชีพต่างๆในเยอรมันได้ค่ะ เป็นต้นว่า... ล่าม พนักงานบริการด้านโรงแรม ธุรกิจร้านดอกไม้ ฯลฯ หลังจากคุณอาศัยอยู่ในเยอรมันครบ 5 ปีแล้ว คุณจะยังไม่ได้สัญชาติเยอรมัน( Staatsbuergerschaft)โดยอัตโนมัตินะคะ แต่คุณมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอพาสปอร์ตของเยอรมันได้ คุณจะต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์ทั้งด้านภาษา สังคม และกฏหมาย ถ้าคุณสอบผ่าน คุณจึงจะได้พาสปอร์ตของเยอรมันค่ะ ทั้งนี้คุณจะต้องดำเนินการขอสละสัญชาติไทยเสียก่อน เพราะที่เยอรมันไม่อนุญาตให้ถือสองสัญชาติ (แต่ก็ไม่มีการบังคับให้ชาวต่างชาติที่แต่งงานกับชาวเยอรมันต้องเลือกสัญชาติหลังแต่งงานครบ 5 ปีแล้วเช่นกัน เมื่อคุณได้รับวีซ่าถาวร คุณก็อาศัยอยู่ในเยอรมันได้โดยไม่ต้องโอนสัญชาติ) อันที่จริงถ้าคุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศต่างๆบ่อยๆ และยังคิดที่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ประเทศไทยเมื่อสามีเกษียณแล้ว คุณก็ไม่น่าจะโอนสัญชาติ เพราะการสละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติอื่นนั้นไม่ยาก แต่การที่จะขอโอนกลับมาถือสัญชาติไทยดังเดิมนั้นยุ่งยากค่ะ เราอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมันมา 18 ปีแล้ว ยังถือพาสปอร์ตไทย ไม่เคยเจอปัญหาใดๆทั้งสิ้นค่ะ... อ่านคำแนะนำเรื่องการจดทะเบียนสมรส ตามลิงค์ของสถานทูตเยอรมันได้ที่นี่ค่ะ... http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/04/Heirat/Heirat__unterbereich.html แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 50 03:38:09 จากคุณ : คนร่วมชายคา - [ 11 พ.ย. 50 03:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10  ยินดี และ ขอบคุณ คุณ thepariti เช่นกันค่ะ   Cheers!   จากคุณ : แนนค่ะ (Siamese Girl) - [ 11 พ.ย. 50 03:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีรับคำแนะนำ ตักเตือน จากผู้มีประสบการณ์ทุก ๆ ท่านค่ะ ทั้งแม่บ้านเยอรมันและผู้รู้ทุกท่าน ขอบคุณ คุณ คนร่วมชายคา มาก ๆ เลยค่ะ สำหรับข้อมูลที่แนะนำเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของดิฉันมากทีเดียว ขอบคุณ คุณแนน ค่ะที่เข้ามาให้กำลังใจเสมอ ขอบคุณจากใจค่ะ แก้ไขคำตกหล่นค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 50 05:19:32 จากคุณ : single mom (thepariti) - [ 11 พ.ย. 50 05:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนที่เป้นธาลัสสิเมีชนิดที่ต้องเปลี่ยนไขกระดูกนี่ใช้เงินจำนวนมหาศาลมาก ๆ ค่ะ..ดิฉันอ่านแล้วเข้าใจหัวอกคนเป้นแม่มาก ๆ   ส่วนเรื่องแต่งงานเห็นด้วยกับคำแนะนำ คห.9 ค่ะ ไม่ต้องตื่นเต้นตกในเรื่องสัญชาติหรืออะไรนะคะ..ขั้นตอนทางกกหมายค่อนข้างซับซ้อน และเดี๋ยวนี้ใชว่าแค่แต่งงานก็จะได้สัญชาติมาโดยง่าย...กฏหมายแต่งงานกับคนต่างชาตินับวันก็เข้มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ เรื่องลูกบุญธรรมก็เช่นกันแต่เท่าที่อ่านดูเห็นว่าคุณไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่อาจจะรอขั้นตอนนานเท่านั้นเอง.. ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : สายสร้อย - [ 11 พ.ย. 50 23:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดิฉันมีปัญหาเรื่องเอกสารมากเลยค่ะ เพราะใบเกิดหาย ดิฉันเกิดนานแล้ว เอ่อ.. สูติบัตร พ.ศ.ที่เกิดไม่มีในระบบคอมพิวเตอร์น่ะค่ะ อำเภอที่เกิด ก็เปลี่ยนแปลงไปหมด ทั้งตำบล และอำเภอ (คือแยกตำบล แยกอำเภอใหม่น่ะค่ะ) และพ่อแม่ดิฉันก็ย้ายภูมิลำเนาจากจังหวัดที่ดิฉันเกิดไปตั้งแต่ 10 กว่าขวบ พอไปทำบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ที่ภูมิลำเนาใหม่ เค้าก็ใส่รหัสเป็นคนจังหวัดนั้นไปเลย ทั้งที่เราไม่ได้เกิดที่จังหวัดนั้น พอเราไปหาต้นขั้วสูติบัตร จังหวัดที่เกิดก็ไม่มี อ่อนใจ สรุปก็ได้คำแนะนำให้กลับมาที่อำเภอที่อยู่ปัจจุบัน ให้ทางอำเภอออกหนังสือรับรองสถานที่เกิดให้ได้ (รู้อย่างนี้ไม่ไปตระเวณหา ทั้งเหนื่อยทั้งเสียเงินค่าเดินทาง) กลับมาขอใบรับรองสถานที่เกิด ที่อำเภอที่อยู่ปัจจุบัน ก็เจออะไรแปลก ๆ ถูกปฎิเสธในตอนแรก ว่าไม่ทำให้ง่าย ๆ นะ ต้องใช้เวลาติดต่อสอบถามหลายวัน ถามว่าจะเอาไปทำอะไร ดิฉันก็บอกตามตรงว่าจะเอาไปแต่งงาน เค้าก็ถามว่า กับคนชาติไหน พอบอกว่า คนเยอรมันเท่านั้นแหละ คุณปลัดท่านร่ายซะยาวเลย ประมาณว่า เราถูกหลอกหรือเปล่า พวกเยอรมันน่ะ มันยังงี้ ยังงั้น มันแต่งเพื่อผลประโยชน์ มันเป็นนักธุรกิจ มันเอาเปรียบเรา(บลาๆๆๆ) สุดท้าย ดิฉันเลยอ้อมแอ้ม บอกว่า แฟนดิฉันเป็นข้าราชการค่ะ "อ๊ะ.. งั้นก็ถูกหวยรางวัลที่ 1 แระ" ดิฉันงงเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร กลัวเขาจะไม่ออกหนังสือรับรองให้ ปล่อยให้เค้าพูดไป สุดท้ายก็ถามว่าคุณพ่อมาด้วยมั๊ย เผอิญโชคดีที่วันนั้น คุณพ่อไปด้วย ก็เลยง่ายขึ้น ได้หนังสือรับรองกลับมา แต่คุณปลัดท่านย้ำตบท้ายมาว่า ให้ดิฉันกอบโกยมาเยอะ ๆ นะ เพราะคนชาติเอาเปรียบเรามาเยอะแล้ว อืมม... ดิฉันก็ยัง งง ๆ แต่ได้ใบรับรองสถานที่เกิดมาแล้ว ก็มีปัญหาอีกเพราะดิฉันเข้ามาหาข้อมูลในเน็ต ได้รู้ว่า ในใบแทนสูติบัตร จะต้องมีรายละเอียดเหมือนสูติบัตรทุกอย่าง (แต่เราจะจำรายละเอียดทั้งหมดได้อย่างไรล่ะคะ กระทั่งบ้านเลขที่ก็ลืมไปหมดแล้ว คุณพ่อก็จำไม่ได้เหมือนกัน) โดยเฉพาะ ต้องมีชื่อคุณพ่อ และคุณแม่-นามสกุลเดิมก่อนสมรสของคุณแม่ด้วย สรุปว่าหนังสือรับรองที่ดิฉันได้รับมา ไม่มีรายละเอียดตรงนี้ ทำให้กลุ้มใจอีกแล้วค่ะ ว่าจะต้องไปขอใหม่ ใช่หรือไม่ อะไรก็ไม่เท่ากับคุณปลัดที่อำเภอนั่น จะยอมช่วยเหลือแต่โดยดีอีกหรือเปล่า ตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องเอกสารทะเบียนสมรสเดิมกับแบบบันทึก คร.2 (ไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าทำไมต้องใช้อีกในเมื่อหย่าไปแล้ว) ก็ต้องไปหาขอถ่ายสำเนาจากต้นขั้ว จากอำเภอที่เราจดทะเบียนสมรส อยู่โน่นแน่ะค่ะ จังหวัดทางภาคเหนือ ก็ไปค่ะ นั่งรถโดยสารตอนกลางคืนไปถึงโน่นเช้า ก็ตรงไปอำเภอเลย(เพราะเสร็จเรื่องก็จะขึ้นรถกลับกรุงเทพ) คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรามีเลขที่จดทะเบียน วันที่จดเรียบร้อย แต่ก็เหมือนเป็นกรรมของดิฉัน ทางอำเภอที่นั่นไม่มีข้อมูลการจดทะเบียนสมรสของดิฉันเลย ไม่สามารถออกเอกสารอะไรให้ดิฉันได้แม้แต่อย่างเดียว สรุปให้ดิฉันเดินทางกลับไปขอข้อมูลที่สำนักทะเบียนกลางในกรุงเทพ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า แทบร้องไห้ค่ะ อยากจะบ้าตายทำไมเป็นแบบนี้ จากคุณ : single mom (thepariti) - [ 14 พ.ย. 50 05:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดิฉันเคยไปขอมาเหมือนกันค่ะ ใบแทนสูติบัตร(แต่ไม่ได้ใช้ พอดีเลิกกับแฟนก่อน เลยไม่ได้แต่ง)ตอนนั้นเลยฉีกเอกสารทิ้งไปเลย แต่ตอนนั้นบริษัทที่ดูเรื่องเอกสารของดิฉันเค้าก็ไม่ได้บอกอะไรนะคะ เรื่องใบแทนฯข้อความจะต้องเหมือนสูติบัตรทุกอย่าง เพราะก่อนไปขอเค้าก็จะมีตัวสำเนาเอกสารตัวอย่างให้ดูว่าข้อความจะต้องเป็นแบบไหน ดิฉันก็นำไปให้ที่อำเภอดูค่ะ ก็ได้มาตามนั้น ดิฉันอาจจะโชคดีที่ เจ้าหน้าที่ที่อำเภอดิฉันอยู่เค้าใจดีค่ะ แต่เท่าที่จำได้ในข้อความก็ไม่เห็นว่าจะต้องมีนามสกุลเดิมของแม่ก่อนแต่งงานนะคะ มันดูแปลกๆค่ะ แล้วก็ไม่ต้องมีเลขที่บ้านที่เราเกิดด้วย แค่แจ้งสถานที่เท่านั้นค่ะ ยังไงคุณ จขกท ลองปรึกษาบริษัทที่ไว้ใจได้ หรือทนายช่วยดูให้ก็ได้ค่ะ เผื่อเค้าจะมีตัวอย่างเอกสาร หรือข้อความที่ถูกต้องไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูว่าต้องเขียนยังไง เหมือนกับที่ดิฉันเคยทำค่ะ กรณีของเราอาจจะแตกต่างกันตรงที่ ประเทศที่ดิฉันจะไป(ตอนนั้น)คือเนเธอร์แลนด์ค่ะ แต่เยอรมันนี ได้ฟังมาว่ายุ่งยากเหมือนกันค่ะ เลยต้องใช้เอกสารตัวสุดท้ายที่คุณกล่าวถึง จริงๆน่าจะใช้ใบหย่าอย่างเดียวนะคะ   เมื่อกี้ลองค้นเบอร์โทรของคนที่เค้าเคยทำเรื่องให้ดิฉัน เผื่อคุณจะได้ปรึกษาเค้า(เค้ารับปรึกษาฟรีค่ะ ดีมากเลยค่ะคนนี้) แต่มันหายหนะค่ะ หลายปีแล้วดิฉันคงเผลอลบไป ยังไงจะลองค้นดูให้ใหม่เผื่อจะยังหลงเหลือเอกสารเก่าๆ หรืออาจจะมีแม่บ้านเยอรมันเข้ามาให้คำปรึกษาคุณ หลังจากนี้ก็ได้ค่ะ (ถ้าเจอเอกสารหรือเบอร์โทร เดี๋ยวเข้ามาใหม่นะคะ) จากคุณ : songjaree - [ 14 พ.ย. 50 13:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อวาน ไปติดต่อที่กรมการปกครอง ตั้งอยู่ที่คลองเก้า ปทุมธานี ได้เอกสารมาเรียบร้อยแล้วค่ะ รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ที่กรมการปกครอง ใจดีน่ารักกันทุกคน ตั้งแต่ รปภ.ข้างล่างขึ้นไปเลย รู้สึกดีๆ กับข้าราชการแบบนี้มาก ๆ น้อยครั้งจริง ๆ ที่ได้เจอแบบนี้ ส่วนใหญ่เวลาเราไปติดต่อทำเหมือนไม่เห็น ทำกิจส่วนตัว (กินและคุยกัน) ปรายตามองเรานิด ๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีผู้ไปขอรับบริการมากมาย เราก็เก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่เคยไปขอเอกสารอะไรแบบนี้ (ขอบ่นหน่อยค่ะ เพราะยังมีเรื่องให้ต้องไปติดต่อกับหน่วยงานของรัฐอีกเยอะ แต่ก็ต้องอดทน เพราะอยากได้เอกสาร) ตอนนี้เอกสารก็ได้เกือบครบแล้วค่ะ ตามที่เค้าระบุมา ยกเว้นใบรับรองสถานที่เกิด ที่ทางอำเภอไม่ได้ระบุชื่อพ่อกับแม่ลงไป ไม่รู้จะใช้ได้หรือเปล่า เพราะเท่าที่เห็น คุณปลัดท่านก็ใช้ฟอร์มนี้ออกให้คนก่อน ๆ เหมือนกัน กลัวจังว่า ถ้าไปขอใหม่ แล้วให้ท่านระบุชื่อพ่อแม่ลงไปด้วย จะโดนวีนกลับ เพราะตอนได้รับมาดิฉันก็ถามย้ำกับท่านปลัดแล้วว่า เอกสารนี้คือตัวแทนสูติบัตรที่ใช้ได้ถูกต้องแน่นอนแล้วนะคะ ท่านก็ว่าไม่มีปัญหา จบ เอกสารของดิฉันเกือบครบ ตอนนี้ก็กังวลเรื่องเอกสารของลูก กลัวเหลือเกินว่า ทางเยอรมันจะเรียกขอ หนังสือยินยอมจากพ่อของเด็ก เรื่องที่ลูกสาวจะต้องเดินทางไปเยอรมันและเข้าเป็นบุตรบุญธรรมของแฟนดิฉัน ถ้าหนังสือนี้จำเป็นจริง ๆ ล่ะก้อ ลำบากแน่ เพราะผู้ชายคนนี้เลวมากๆ เค้าไม่ยอมเซ็นหนังสือให้ง่าย ๆ หรอกแม้จะเพื่อลูก เพราะก่อนหน้านี้ น้องชายดิฉันซึ่งเป็นข้าราชการอยากช่วยเหลือดิฉัน จะรับหลานไปเป็นลูกบุญธรรมเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเล่าเรียนและค่ารักษาพยาบาล ดิฉันติดต่อให้เค้าเซ็นหนังสือยินยอม เค้าก็ไม่ยอมเซ็นให้ ขนาดว่าดิฉันไม่ได้แต่งงานใหม่ในตอนนั้น และคนที่จะรับลูกสาวเป็นลูกบุญธรรมก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ของดิฉัน ขอบคุณ คุณ songjaree มากค่ะ ที่เข้ามาให้ความเห็นเพิ่มเติม ดิฉันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ การเตรียมเอกสารก็ไปดูข้อมูลจากในเวปของสถานทูตเยอรมัน ตามที่เค้าระบุมา ดิฉันควรจ้างบริษัทที่รับจัดการเรื่องนี้ ดีกว่าหรือเปล่าคะ แล้วแพงไหม (ราคาโดยประมาณเท่าไหร่) คือ ดิฉันไม่อยากขอเงินแฟนนะค่ะ แค่ค่าแปล กับรับรองเอกสารนี่ก็อื้อแล้ว รบกวนผู้ที่มีความรู้และมีประสบการณ์ ช่วยให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้วยค่ะ จากคุณ : single mom (thepariti) - [ 15 พ.ย. 50 08:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กลับมาอีกรอบค่ะ กลับไปหาเอกสารที่บ้านแล้วไม่เจอค่ะ ตอนแรกคิดว่าถ้าเจอแล้วจะส่งให้คุณ thepariti เอาไปให้ จนท ที่อำเภอดูเป็นตัวอย่างหนะค่ะ พอมาอ่านอีกรอบ ถึงเข้าใจว่าใบแทนใบเกิดที่คุณได้มาตอนแรกนั้น ไม่มีชื่อ พ่อ แม่ ซึ่งจริงๆ มันต้องมีค่ะ (ตอนแรกดิฉันเข้าใจว่ามีแต่ต้องระบุนามสกุลเดิมของแม่) ข้อความในเอกสารนั้นค่อนข้างละเอียดค่ะ ของดิฉันเกือบเต็มหน้ากระดาษ A4 เสียดายจริงๆ ดันฉีกทิ้ง ตัวสำเนาตัวอย่างดันหาไม่เจออีก ส่วนเรื่องจ้างบริษัทนั้น จริงๆแล้วถ้าเราทราบว่าทางสถานทูตต้องการเอกสารอะไรบ้าง ดิฉันว่าทำเองก็ได้ค่ะ เพราะอีกอย่างคุณก็เดินเรื่องเองมาจนได้เอกสารเกือบครบแล้ว ถ้ายื่นแล้วไม่ผ่านแล้วค่อยปรึกษาบริษัทก็ได้ค่ะ ตอนดิฉันทำนั้น ดิฉันก็รู้ค่ะว่ามีเอกสารอะไรบ้างแต่ปัญหามันติดตรงใบเกิดหาย เหมือนคุณแหละค่ะ  ไม่รู้ว่าเค้าใช้แทนใบเกิดได้ ตอนนั้นดิฉันเลย search หาข้อมูลในเน็ท ไปเจอ community ของคนไทยใน เนเธอร์แลนด์ เข้าไปอ่านเรื่อยๆค่ะ ก็เลยเข้าไปถามเพื่อนๆในนั้นว่าจะทำยังไงในกรณีนี้ เค้าก็เลยแนะนำบริษัทกับบุคคลที่ติดต่อมาให้ จากในนี้แหละค่ะ ว่าเป็นบริษัทที่ดี เชื่อถือได้ คนในนั้นเค้าบอกต่อๆกันมาในเว้ปหนะค่ะ ราคาก็พอสมควรอยู่เหมือนกัน ก็ประมาณหมื่นต้นๆค่ะ รวมแปลเอกสารด้วย (ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว)แต่เค้าเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้หนะค่ะ ไม่แพงจนเกินไป ถ้ายังไงถ้าคุณ thepariti มีเวลาลองหาข้อมูลใน community คนไทยหรือแม่บ้านไทยในเยอรมันดูก็ได้นะคะ เผื่อเค้าจะแนะนำได้บ้างหนะค่ะ ไหนๆก็เดินเรื่องเองจนเกือบจะจบอยู่แล้ว ก็ลองดูค่ะเผื่อจะผ่านก็ได้ ส่วนเรื่องจ้างบริษัทนั้น (บริษัทดีๆเ่ท่านั้นนะคะ) จะดีตรงที่เค้าจะรู้ว่าเทคนิคและลักษณะเอกสารต่างๆที่ใช้ได้ในการยื่นวีซ่า ว่าข้อความในเอกสารนั้นต้องระบุรายละเอียดอะไรบ้าง เช่นใบแทนใบเกิดนี่แหละค่ะ ชัดเจนที่สุด เพราะบางที่ว่าการอำเภอก็อาจตกหล่นข้อความหรือสาระสำคัญบางส่วนไป เป็นเหตุให้เอกสารนั้นๆใช้ไม่ได้ เราเลยต้องเสียเวลามาขอใหม่ (อยู่ที่กฎเกณฑ์ของสถานทูตนั้นๆด้วย) มาถึงตอนนี้ก็เหลือแค่กลับไปขอเอกสารใบแทนใบเกิดใหม่ เท่านั้นเอง หวังว่าทุกอย่างคงจะผ่านฉลุยนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : songjaree - [ 15 พ.ย. 50 13:28:23 ]