ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณมากค่ะคุณ Lawanwadee คิดว่าเป็นประโยชน์มากค่ะ เป็นความรู้ช่วยให้สาวไทยอีกหลายคนได้ทราบ ถึงชีวิตการเป็นภรรยาต่างชาติ ซึ่งบางคนก็ไม่ทราบเลย คิดว่าสวยหรูทุกอย่าง แม้ว่าจะมีการศึกษาดี ภาษาคล่อง แต่จริงๆแล้ว มันมีอะไรลึกลงไปอีกเยอะแยะเลย แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ตาม เมื่อวานก็เพิ่งทะเลาะกันค่ะ เรื่องของใช้ในครัว  กว่าจะเข้าใจต้องไปยืนชี้ๆในครัวให้เห็นภาพ เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยค่ะ น้อยใจตัวเองมากๆ ว่าทำไมต้องมาทะเลาะกับสามีแค่เรื่องตะหลิว ที่คีบ ตะแกรง ถึงขนาดบอกฉันขอกลับเมืองไทยเดี๋ยวนี้ (เรื่องมันยาวค่ะ) .....ดิฉันขอฝากไว้นิดนะคะ สำหรับใครที่คิดจะใช้ชีวิตคู่กับต่างชาติ ควรใช้เวลานานมากๆนะคะ ก่อนตัดสินใจเลือก จะเห็นได้ว่าคนไทยด้วยกัน วัฒนธรรมเดียวกัน ภาษาเดียวกัน ยังดูกันยากเลยค่ะ จากคุณ : Year after Year - [ 16 พ.ย. 50 15:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2  ขอออกความเห็นแบบตัดประเด็น ในเรื่องของความแตกต่างระหว่างเพศ ภาษา และ วัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ก็อย่างที่ดิฉัน Post แสดงความเห็นในห้องไกลบ้าน ห้องใหญ่อยู่เสมอๆ และ ขอยืนยันในจุดยืนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลงว่า....... เรื่องแบบนี้ จะมาโทษคนที่ต้องการดิ้นรน เพื่อความมีหน้ามีตา หรือ เพื่อความอยู่รอดแต่ฝ่ายเดียวมิได้ แต่จุดใหญ่ที่ต้องแก้ไข คือ ต้องปรับปรุงที่ค่านิยมหลายๆ อย่างของคนไทย ปรับปรุงที่ *Mentality *(ซึ่งหลายๆ อย่างนั้น หยั่งรากลึกเกินแก้ไข เยียวยา เพราะเกี่ยวเนื่องกับศาสนา ประเพณี ความเชื่อ ที่คนไทยฝังหัวกันมานาน โดยที่มิได้นำมาใช้ตามความเป็นจริง ที่ปรับให้สอดคล้องกับ ยุค Globalisation และ Internatinalisation เลยสักนิด) ต้องปรับปรุงระบบการเรียนการสอน สอนให้คนรู้จักคิด ไม่ใช่ทำอะไรตามๆ กัน ตามกระแสไป ทำนอง "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง" ตราบใดที่หน่วยงานต่างๆ ในเมืองไทยที่มีหน้าที่ดูแลสนับสนุน ในเรื่องของการศึกษา สวัสดิการ ดูแลเรื่องความอยู่ดีกินดีของคนไทย  มิได้มีความจริงจัง และ จริงใจที่จะแก้ ปัญหา  "เรื่องแบบนี้จะมีอยู่ต่อไป และ จะยิ่งเป็นปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิม"   อีกทั้งสื่อหลายๆ อย่างก็เป็นตัวกระตุ้น ยกตัวอย่างเช่น ค่านิยมในการมีลูกครึ่ง เพื่อส่งเข้าวงการบันเทิง เป็นดารา นายแบบ นางแบบ นางงาม เพราะ นำมาซึ่งรายได้ที่สูง ทำเงินชั่วข้ามคีน และ เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว (โดยเฉพาะครอบครัวทางฝ่ายไทย) ผู้หญิงหัวสมัยใหม่ ที่มีการศึกษา ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วนิยมการมีสามีต่างชาติ เช่นสามีฝรั่ง สามีไทย สามีสิงคโปเรี่ยน เป็นต้น แต่สาเหตุหลักมิได้มาจากค่านิยม หรือ ปัญความยากจน แต่เป็นเพราะความที่ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่อยากทนความกดดันของค่านิยมในการเป็นภรรยาในแบบอุดมคติ ในแบบแผนสังคมญี่ปุ่นมากกว่า     จากคุณ : Siamese Girl - [ 16 พ.ย. 50 16:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณจขกท มากค่ะ ^^ จากคุณ : Gigolina - [ 16 พ.ย. 50 17:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4   ปล. ค่านิยมของคนไทย ประเภทที่ไม่รู้จักคนชาติอื่นดีพอ ไม่เคยศึกษา หรือ ไม่สนใจศึกษา พวกที่ฝังหัว ว่าฝรั่งเป็นชาติพันธ์ที่สูงส่งกว่าคนเอเชีย ฉลาดกว่า ดีกว่า หน้าตาดีกว่า หรือ คนที่อยากไปอยู่ ตปท. เพราะมีความคิดว่าโก้ ก็เป็นอีกในหลายๆ สาเหตุของปัญหา ของการรีบร้อน เลือกคู่ ผิดๆ หรือ การตัดสินใจแต่งงานกับคนต่างชาติ ด้วยเหตุผลตื้นๆ ค่ะ ไหนจะพวกที่ท้อง ปล่อยให้มีลูก เพื่อจับฝรั่ง ไหนจะพวกที่โดนทางครอบครัวกดดัน มาทั้งเรื่องสินสอด เรื่องการรีบร้อนแต่งงาน โดยที่ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงาน หลายๆ ปี ก็เป็นสาเหตุเช่นกันค่ะ   จากคุณ : แม่บ้านสยาม สะใภ้นอกกฏหมาย UK (Siamese Girl) - [ 16 พ.ย. 50 17:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Internatinalisation <<< จากบรรทัดที่ 9 ใน คห. 2 แก้ไขคำสะกดตกหล่นเป็น "Internationalisation"   จากคุณ : Siamese Girl - [ 16 พ.ย. 50 17:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ป้าดพี่ ลาวัลย์วดี ประสบการณ์พี่ มากมายและเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ มองๆ หา สามีฝรั่งเหลือเกิน ขอบคุณม้าก มากนะพี่ เฮ้อ หนูรอดตัวไป ถือว่า ทำบุญมาเยอะ ไม่งั้น แบบพี่ว่าทั้งหมดเลย จากคุณ : rattana.uk - [ 16 พ.ย. 50 17:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ค่ะ ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจอมากับตัวเอง ตอนไปเยี่ยมแม่ที่เมืองไทย มีคนมาบอกให้เราติดต่อหาแฟนฝรั่งให้ พอเราปฏิเสธ และบอกว่าฝรั่งมีทั้งดีทั้งไม่ดี กลัวมาเจอคนไม่ดี พวกโรคจิตก็มีเยอะ  พวกเค้าก็โกรธเรา หาว่าเรากีดกัน กลัวคนอื่นได้ดีเกินหน้าเกินตา โกรธเราทั้งพี่ทั้งน้องเลย ไม่ใช่คนเดียวนะค่ะ มีหลายคนมากๆ จากคุณ : Early Girl - [ 16 พ.ย. 50 19:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนกันกับคคหที่4 กะที่7ค่ะฝรั่งโรคจิตนะมีเยอะแยะคนดีก็มีคนชั่วก็มีข่าวที่เมืองไทยมีเป็นประจำกะพวกฝรั่งโรคจิต จากคุณ : หน่อย (โตเหมี่ยว) - [ 16 พ.ย. 50 20:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับคุณ Siamese Girl อย่างมาก เคยเถียงกับคนไทยหลายๆ คน เรื่องค่านิยมที่ฝังรากหยั่งลึกในสังคมไทย รวมไปถึงระบบการศึกษาทุกวันนี้ ที่ไม่รู้ว่า จะแก้ไขได้หรือเปล่า.... หลายๆ คน บอกว่า เรามองโลกในแง่ร้าย คิดมากเกินไป ทำไมเราไม่มองแง่ดีๆ ของสังคมไทยบ้าง... หัดยอมรับ ปรับตัวและอยู่กับมันซะ คิดมากไปก็เท่านั้น เราทำอะไรไม่ได้หรอก (เกลียดคำๆ นี้ จริงๆ... คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมันไกลตัวเรา เราทำอะไรไม่ได้หรอก ปล่อยให้คนอื่นแก้ปัญหาไปเถอะ มีแต่คนวางเฉย ปล่อยมันไปตามเวร ตามกรรม ตรูไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับตรู...) ก็เพราะคิดกันแบบเนี่ยนะซิ ประเทศชาติมันถึงไม่เดินไปไหนสักที... เราไม่ได้บอกว่าสังคมไทยไม่ดี .. แต่ที่เรากำลังจะสื่อคือ สังคมไทย และประเทศไทย จะดีกว่านี้มาก -ถ้า- ระบบการศึกษาของเรา สนับสนุนและเอื้อให้คนไทยมีความคิด ความอ่านที่มันเป็น Logic กว่านี้ คนที่เรียนจบออกมาเป็นครูก็เหมือนกัน... ไม่อยากพูดมาก เรื่องมันจะยาวเกินไป อย่าลืมว่า มนุษย์ใช้เวลาอยู่ในสถานศึกษาเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ กว่า ครึ่งชีวิต อย่างน้อยๆ ก็อายุ 22 ปี จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี การศึกษา และ สังคมหรือสิ่งแวดล้อมในสถาบัน จึงเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมคนให้มีความคิด ความอ่านไปในทางที่ดี หรือไม่ดี เป็นเหตุ เป็นผล ในเชิงตรรกะ หรือไม่เป็น เรื่องมันยาวชักขี้เกียจเขียน แค่นึกว่าเคยเถียงกับหลายๆ คนเรื่องพวกนี้ แล้วเขาไม่ GET ... ก็เหนื่อยแล้ว อย่าไปพูดถึงมันดีกว่า มาเข้าเรื่อง จขกท กันเถอะ... บอกก่อนว่า เราเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี ทำงานบริษัท inter เงินเดือนพออยู่ได้แบบสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร เพราะฉะนั้น มีแฟนไทย หรือฝรั่ง เพื่อความสะดวกสบาย ในความคิดของเรา จึงไม่ใช่ประเด็นของการมีชีวิตคู่ แต่เหตุที่ เรามีสามีเป็นฝรั่ง มันคงเป็นเพราะ พรหมลิขิต พาไปกระมัง อยากจะบอกว่า การมีแฟนฝรั่งไม่ใช่ว่า ดี สวยหรู เหมือนที่หลายๆ คนคิด หรือฝัน คนมากมายชอบบอกว่า เราโชคดีเนอะ ได้แต่งงานกับฝรั่ง ดูรักกันดีจัง ช่วยหาแฟนฝรั่งให้มั่งสิ... เราไม่เคยหาให้เลย แถมบอกให้กลับไปคิดใหม่ด้วยว่า แน่ใจเหรอ.... อยู่กับฝรั่งมันไม่ง่าย ไม่สบาย อย่างที่เห็นภายนอกหรอกนะ ขนาดเราไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับเขาเลย แล้วเขาเป็นคนขยัน ช่วยแบ่งเบาทุกอย่าง ทั้งการบ้านการเรือน (Handy man ตัวจริงขอบอก) เป็นสุภาพบุรุษ และให้เกียรติ์เรามาก เป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่กินเหล้า ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยออกอาการว่าสนใจผู้หญิงอื่นให้เห็นจริงๆ จังๆ แถมกลัวว่าจะโดนผู้หญิงไทยกระโดดเข้าใส่ เพราะเห็นเขาเป็นทองไปเสียฉิบ อีกต่างหาก จะมีบ้างเหมือนกัน ที่บางทีเห็นคนสวยเดินผ่านแล้วมอง ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย) กับพ่อ-แม่ พี่น้อง ของเราเขาก็ไม่มีปัญหา เข้ากันได้ดีมาก และเขาให้เกียรติ์ครอบครัวเราเสมอ ทางฝั่งเขาเองก็เหมือนกัน เราไม่มีปัญหาเลย พ่อ-แม่เขาก็รักเราเหมือนลูกจริงๆ ขนาดเขา nice มากๆ ขนาดนี้ เรายังรู้สึกโคตระเหนื่อยใจเลย กับปัญหาแค่เรื่องการปรับตัวเรื่องเดียว... เรายังถือว่า โชคดีมากๆ ที่เจอฝรั่งคนนี้ เหมือนถูกรางวัลหรือเปล่าไม่รู้ เพราะต้องดูกันไปอีกหลายสิบปี แต่เชื่อมั้ยช่วง 2 ปี แรก ที่อยู่ด้วยกัน เราทะเลาะกัน และขอเลิกกับเขาเกือบๆ 10 หน นี่เราแค่เจอปัญหาเรื่องการปรับตัวเท่านั้นนะ ปัญหาอื่นๆ ไม่มีมากวนใจเลย คิดดูเหอะ คน 2 คนที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างค่านิยมทางสังคม ต่างความคิด ต่างแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวัน มาอยู่ด้วยกันทุกวัน มันทำให้ต้องปรับตัว และยอมรับในความแตกต่างของกันและกันค่อนข้างมาก ทั้งยังต้องมีความเข้าใจ และความรักเป็นพื้นฐานที่สำคัญจริงๆ ถึงจะอยู่กันยืด ขนาดปัญหาที่เราเจอหรือเถียงกัน เป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ชวนอารมย์เสีย เช่นปัญหาเรื่องกฏหมาย เรื่องวีซ่า เรื่องการขับรถของคนไทย เรื่อง discipline เรื่องการเมือง เรื่องนโยบายการบริหารราชการ (ครช) หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ อย่างการโขกราคา หรือโดนเอาเปรียบเวลาจะซื้อของสักชิ้น เรื่องสติแตกต่างๆ นานๆ เวลาไปติดต่องานราชการ เท่านั้นนะ ... นี่ขนาดเรา 2 คน อยู่ด้วยกันที่เมืองไทยประมาณ 5 ปีเองนะ แล้วนึกสภาพหญิงไทยที่แต่งงานกับสามีฝรั่ง แล้วต้องทิ้งบ้านเกิด เมืองนอนไปอยู่กับสามีซิ คนเหล่านั้น เสี่ยงกว่าเราตั้งเท่าไหร่ อย่างเคสของเรา เราเจอแค่เรื่องการปรับตัว (ในสิ่งแวดล้อมที่เราคุ้นเคยคือ เมืองไทย เรายังบ่นกับตัวเองตั้งหลายตลบว่า รู้งี้ตรูแต่งกะคนไทยก็ดี ไม่ต้องมานั่งปรับตัวมาก ปวดกะบาลเจงๆ ) แล้่วหญิงไทยเหล่านั้นเล่า เธอต้องมีหัวใจที่กล้าเสี่ยง และอดทนกว่าเรามากมายตั้งเท่าไหร่ โดยส่วนตัวนับถือคนเหล่านั้นมากๆ ที่กล้าเสี่ยง ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ไปสร้างหลักปักฐานกับคนที่ตัวเองยังไม่รู้เลยว่า จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ในอนาคต มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะที่จะตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น ถ้าใจคุณไม่ถึงพอ... เราคนหนึ่งล่ะ ที่ใจไม่ถึงพอ ที่จะย้ายไปอยู่กับสามีที่นู๊น เขาเลยต้องเป็นฝ่ายเสียสละทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเราที่นี้ ถ้าคุณคิดว่า คุณเป็นคนใจถึง กล้าเสี่ยง และพร้อมจะเผชิญปัญหา ทุกรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยไม่มีคนรอบข้าง หรือพี่น้องคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือ ก็ลองดู เผื่อจะเป็นประสบการณ์ชีวิตอีกแบบ.. จากคุณ : เพนนี - [ 16 พ.ย. 50 20:56:51 A:125.27.66.98 X: TicketID:160171 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคณ คณ Lawanwadee อยากให้ผ้หญิงไทย ที่ต้องการแต่งงานกับคนต่างชาติได้มีโอกาสได้เข้ามาอ่าน ว่าจริงๆ แล้วการแต่งงานกับคนต่าชาติ บางทีก็ไม่ได้สวยหร อย่างที่หลายคนคิด  ความแตกต่างทั้งเรื่องภาษา ทัศคติฯลฯ ต้องใช้ความอดทนในการปรับตัวอย่างมาก  บางคนโชคดีที่ได้สามีมีความอดทน และเข้าใจ บางคนโชคร้านเจอคนไม่ดี ขี่เหนียว และโรคจิต ก็มากมาย ฝากให้คนที่คนที่อยากจะมองหาคนต่างชาติแต่งงาน คิดให้รอบครอบ ถ้ามีงานการดี เงินเดือน อยในเมืองไทยได้สบายๆ ก็คิดให้ดีๆ ก่อนที่จะมา จากคุณ : แม่โคล่า (chuamalee) - [ 16 พ.ย. 50 21:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ Guru ของพวกเราจริงๆ ค่ะ อยากให้พวกที่ฝันหวาน ว่าแต่งกับฝรั่งแล้วดี หรู เริศ แสนสบาย เข้ามาอ่านจัง แต่งกะพี่ไทย ต้องคิดตั้งเป็น 10 รอบ แต่งกะต่างด้าว ต้องคิดเป็น infinity จริงๆ นะคะ จากคุณ : เพนนี - [ 16 พ.ย. 50 21:38:25 A:125.27.66.98 X: TicketID:160171 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แวะเข้ามาอ่าน ขอบคุณ จขกท. ที่แสดงความห่วงใยหญิงไทยที่กำลังเห่อฝรั่งจนขาดสติ ไม่มีสมองจะคิดพิจารณาด้วยตัวเอง สำหรับคนมีสมอง และฉลาดพอ ก็คงไม่เดือดร้อนกันนะ จากคุณ : แล้วแต่บุญกรรมของใคร (Do you know?) - [ 16 พ.ย. 50 21:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อื่มมม.... คิดได้อีกอย่าง   เอาคำว่า  ฝรั่ง  ออกไปดีกว่ามั๊ย   การที่ผู้หญิงเราจะตัดสินใจแต่งงาน  ตามหลักการที่ถูกต้องแล้ว  มันก็ต้องมองกันให้ละเอียด คิดให้ถี่ถ้วนทั้งนั้นแหละ   ด้วยว่าผู้ชายไม่ว่าชาติไหนมันก็เหมือนกันทั้งนั้น มีดี มีเลว  ซึ่งก็มีเยอะแยะ  ที่บางคู่รักกันเป็นสิบปี  แต่งกันไม่ถึงปี เลิก  บางคู่ก่อนแต่งก็ดูกันและกันเพียบพร้อม ความเลวไม่เคยปรากฎ  พอหลังแต่ง  เปลี่ยนไปเป็นอีกคน  แต่ก็มีไม่น้อย  ที่รู้จักกันไม่ถึงปีก็แต่งงานอยู่กินกันได้ยืดยาว ไม่งั้นจะมีคำเปรียบเปรยหรือว่า  ได้ผัวดีก็เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อ่ะ  ซึ่งใน 1 ล้านคน จะมีสักกี่คนที่ถูก   เพราะฉะนั้น เมื่อตัดสินใจแต่งงานแล้วก็ต้องทำใจ  มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาก็ต้องค่อยแก้ไข  อดทนได้ก็อดทนไป  ทนไม่ได้ก็เลิก  ชายฝรั่ง หรือชายไทย ไม่ต่างกันหรอก   เราเองแต่งงาน จดทะเบียนถูกต้องกับชายไทย แรกก็รักกันดี ปีเดียวลายที่ปกปิดไว้ก็ออก   เพราะตอนคบ  ก็แค่เห็นกันในที่ทำงาน เห็นแต่ในด้านดี ๆ เพราะไม่เคยกิน เคยอยู่ เคยนอนด้วยกันมาก่อน   ต่อให้คบหาดูใจกันสิบปีก็ไม่รู้หรอก  ว่าลับหลังเราเค้ากับไปอยู่ในที่ของเค้า  แล้วเป็นยังไง  เช่นการนอนกรนเสียงดัง ชอบดูหนัง X เล่นการพนัน ติดมวยตู้  โห...  แต่งแล้วถึงได้รู้   ตอนขอหย่า  ก็ไม่ใช่จะยอมหย่าง่าย ๆ   ต้องรอเวลาแยกกันอยู่นานตามกฎหมาย  ถึงต้องฟ้องหย่า  ตามระรานราวีไม่เลิก  สมบัติที่ไม่ได้ร่วมสร้างก็จะเอา เห็นมั๊ย  ว่าไม่เกี่ยวกับชายไทย หรือต่างชาติหรอก  ถ้าเจอคนเลว  ชีวิตก็บัดซบได้เหมือนกัน   มันขึ้นอยู่กับบุญหรือกรรมที่ทำมาแต่ชาติก่อนมากกว่ามั้ง  สรุปว่า  การตัดสินใจแต่งงาน  หรือการมีสามีไม่เกียวกับว่าเป็นชายไทยหรือเทศหรอก  แค่บอกให้เลือกคบคนดีและใช้สติ คิดและพิจารณาอย่างรอบคอบก็พอ  ไม่ต้องมาแบ่งแยกหรอกว่า ชายไทย  หรือชายฝรั่ง จากคุณ : Do you know? - [ 16 พ.ย. 50 22:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เขาว่า น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางค่ะ แม้ว่าหลายคนจะอ่านเจอแล้วเจออีกกับเรื่องแบบนี้ พอความรักความหลงเป็นม่านบังตา ก็มักจะเดินหน้าไปซะส่วนใหญ่ค่ะ มันถึงมีเรื่องมาเล่าอยู่เนืองๆแบบนี้ไงคะ ดิฉันไม่มีความเห็นด้านบวกหรือลบกับเรื่องนี้นะคะ เฉยๆ ใครไขว่คว้าอยากจะมีสามีฝรั่งด้วยวิธีไหนก็ตามถือว่าไม่ได้เกี่ยวกัน แต่อย่ามาขอให้ดิฉันหาให้ก็แล้วกัน ไม่ขอเกี่ยวค่ะแบบนี้ สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคน ชีวิตแม้ว่าจะมีชะตากำหนด แต่เราเลือกได้จะให้เป็นแบบไหน ไม่ใช่ว่าจะรอราชรถมาเกย ทำไมคนที่ชอบถามให้เพื่อนหรือคนรู้จักให้หาฝรั่งให้แต่งงานด้วยถึงได้คิดตื้นจัง เกิดแนะนำให้รู้จักแล้วมันไม่รุ่งเรือง แต่รุ่งริ่งแทน คนที่แนะนำอยู่ตรงกลางก็เข้าหน้าทั้งสองฝ่ายไม่ติด เผลอๆโดนโทษอีกว่าเป็นเพราะคนแนะนำ ทำให้เป็นแบบนี้ๆ ส่วนเรื่องอยู่ก่อนแต่งนี่ส่วนตัวถือว่าดีนะ จะได้เรียนรู้กันว่าเข้ากันได้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามาเจอแจ็คพ็อตเอาทีหลัง ส่วนที่ไม่เคยอยู่ก่อนแต่ง แต่แต่งกันเลยแล้วเข้ากันไม่ได้ ก็อย่าไปคิดว่าชีวิตสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ แต่งได้ก็เลิกได้ หลายคนชอบมองปัญหาที่ตัวเองประสบเป็นจุดใหญ่จุดเดียว ไม่มองภาพรวม เลยทำให้ติดแหงกอยู่ตรงนั้น ถ้าใครมีปัญหากับคู่สมรส เรื่องโดนกดขี่ อยู่ไม่สบาย ถูกกดดันทางจิตใจ เหมือนเรื่องที่คุณลาวัลย์ฯเอามาเล่าต่อ เลิกเถอะค่ะ อย่าไปทน อยู่อย่างนี้ ชีวิตเรามีค่ามากกว่าจะเอามาเทอดทูนให้ผ้ชายเพียงคนเดียว จากคุณ : yinnerella - [ 17 พ.ย. 50 01:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่ะคุณพี่ลาวัลย์วดี  ระลึกถึงคุณพี่ใจดีอยู่เสมอนะคะ              ขออนุญาตแสดวความเห็นในอีกแง่มุมนะคะ หากไปกระทบต่อความเชื่อของท่านใดเข้า ต้องขออภัยด้วยนะคะ               ชีวิตของหญิงไทยที่มีสามีต่างชาติก็มีตั้งแต่ การ"เข้ากัน" (หมายถึงปรับตัวเข้าหากันค่ะ อย่าคิดเป็นอื่นนะคะ) ตั้งแต่น้อยที่สุดไปจนถึงมากเกือบที่สุด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลายหลายปัจจัย และการตัดสินใจในแต่ละช่วงชีวิตนะคะ  สำหรับคนที่ชิวิตเป็นไปดังหวังก็มีความสุขกันไป ในทางกลับกัน...คนที่คลาด(กับความ)หวังก็คงจะทุกข์มากกว่าสุข...แต่เมื่อทุกข์แล้วหากจะยอมจำนนว่าเป็นผลจาก"กรรม" เก่า ปล่อยให้ใจบอบช้ำลงไปเรื่อยๆ จนด้านชา ดิฉันมองว่า ...น่าเสียดายค่ะ จากคุณ : แม่ขา - [ 17 พ.ย. 50 01:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับทุกความเห็นเลยค่ะ สิ่งสำคัญของชีวิตคู่ คือการปรับตัว การหันหน้าคุยกัน เปิดอกพูดทุกอย่างที่เห็นว่าควร อย่างเรา ต้องทิ้งความเป็นตัวของตัวเองไปเกือบครึ่ง ปีแรกๆเกือบ เป็นโรคเครียด แต่ก็พยายามมองด้านดีของชีวิตคู่ ทางสามีก็ปรับตัวเพื่อเราเยอะ พื้นฐานเรื่องความรักเป็นสิ่งสำคัญ การมองให้เห็นถึงหลักความจริงของชีวิต ช่วยได้เยอะ โชคดีอยู่อย่าง ทั้งเราและสามีนับถือพุทธ ความคิดและค่านิยมจึงไปในทางเดียวกันซะเป็นส่วนใหญ่ การมีคู่ครอง ที่สำคัญ อย่ารีบร้อน หากทำได้ ควรศึกษาซึ่งกันและกันซักระยะก่อน ใช้ทั้งหัวใจ และสติในการศึกษา หากจะพลาด ก็น้อยมาก เป็นกำลังใจให้ทุกคู่นะคะ จากคุณ : แก้มป่องแป่ง - [ 17 พ.ย. 50 01:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณ Lawanwadee ค่ะ จากคุณ : สมศรี - [ 17 พ.ย. 50 03:47:32 A:82.208.11.3 X: TicketID:128994 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะที่นำมาเล่าสู่กันฟัง อ่านแล้วก็ได้แต่สงสาร ไม่รู้จะช่วยยังไง   คนสมัยนี้คงลืมพื้นฐานสำคัญของการมีชีวิตคู่แล้วมั้งคะ คือความรัก ไม่ใช่ความสบาย หากเลือกความสบายมาก่อน วันใดวันหนึ่งเกิดลำบาก ก็หมดความสุข มีแต่อยากจะเลิก เมื่อเลิกไม่ได้ ทุกวันก็เหมือนนรก แต่ถ้ามีความรักต่อกัน ถึงจะลำบาก ก็ยังมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป จากคุณ : Sunny Shiny Day - [ 17 พ.ย. 50 05:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 "ใครมีเพื่อนชาวต่างชาตินิสัยดีดี ฐานะดี อยากมีภรรยาคนไทย ช่วยแนะนำให้หน่อยซิคะ" แหม..ถ้ามีก็คงแอบเก็บไว้เป็นกิ๊กเองแล้วค่ะ  เพราะที่มีตอนนี้แค่นิสัยดีอย่างเดียว  ฐานะนี่กำลังรอถูกล๊อตโต้อยู่ค่ะ   อยากให้ผู้หญิงที่คิดจะแต่งงานกับชายชาติไหนก็แล้วแต่  อย่าแต่งเพื่อหนีปัญหาค่ะ ยิ่งมาต่างบ้านต่างเมืองต้องคิดมากๆ คิดนานๆ  คนที่ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา คุยกันบางเรื่องเขาก็ไม่เข้าใจเราลึกซึ้ง ซึ่งบางครั้งมันจะทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว  ยิ่งพื้นฐานไม่ได้มาจากความรัก  ความรู้สึกโดดเดี่ยวจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ ขนาดดิฉันใช้ชีวิตที่เมกามาปีกว่าก่อนเจอกับสามีที่นี่ และคบกันเป็นปีก่อนแต่ง  พอแต่งแล้วยังต้องปรับตัวมากมาย  จากเป็นคนแข็งๆ เดี๋ยวนี้เป็นดาราเจ้าน้ำตาค่ะ  มันโมโหนะจะพูดอะไรนิดหน่อย  แต่บางทีต้องอธิบายตั้งแต่ยุคพ่อขุนรามมากรุงศรี มากรุงธนพอถึงกรุงเทพก็น้ำท่วมพอดี เพราะน้ำตาแตกแล้ว ข้อดีที่เห็นชัดว่าแต่งกับฝรั่งดีกว่าคนไทยคือ  เวลาโมโหแล้วเราจะจิกจะเหน็บอะไรแล้วเขาไม่รู้เรื่อง  เขาได้ยินแต่เราพูดภาษาต่างดาวแล้วเห็นทำตาปะหลับปะเหลือก  กลายเป็นตลกให้เขาหัวเราะอีก  ถ้าเป็นสามีไทยคงเลิกกันไปนานแล้ว เรื่องอื่นผู้ชายก็คือผู้ชาย จากคุณ : ตกตะกอน - [ 17 พ.ย. 50 07:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับหลายๆความคิดนะคะ ไม่รู้ว่าเราจะเปลี่ยนค่านิยมอย่างนี้ได้อย่างไร ยิ่งต่างจังหวัดยิ่งไปใหญ่ มีหลายคนมาบอกให้เราหาให้ เราก็แหม พูดเหมือนให้เราหาของให้ มันไม่ใช่ว่าไปจ่ายตังแล้วได้มา เราอยากให้แต่งกันด้วยความรักมากกว่า เรียนรู้กันให้ดีก่อนที่คิดจะแต่ง เราเห็นพวกบริษัทจัดหาคู่ในกรุงเทพแล้วไม่คิดว่าอย่างนี้จะมีด้วย หาสามีนะไม่ใช่หาคู่นอน มีด้วยเหรอเราจ่ายเงินให้ศูนย์แล้วฝรั่งมาปุ๊บแต่งงานกันปั๊บ...เรากะพ่อบ้านก็คบกันมาตั้ง 3 ปีกว่าจะแต่งแล้วมาอยู่อังกฤษ เอาแบบให้ชัวร์ จะได้ไม่มั่วนิ่ม ฝรั่งที่มาเจอคุณแล้วบอกรักคุณภายในอาทิตย์แรกเนี๊ยะ อยากให้ฟังหูไว้หูนะ จากคุณ : สร้อยอินเดีย - [ 17 พ.ย. 50 08:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณข้อมูลดีค่ะคุณ Lawanwadee จากคุณ : Be Happy ja - [ 17 พ.ย. 50 18:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลงชื่อรับทราบค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน จากคุณ : พนอจัน - [ 17 พ.ย. 50 20:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นหัวข้อกระทู้ตอนแรก นึกว่าเป็นกระทู้ล่อเป้า แต่พอเห็นชื่อ จขกท ก็รู้แน่ว่าไม่ช่าย เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ อยากให้ผู้กำลังเอาคอมาพาดห่วง หรือกำลังคิดเอาห่วงไปผูกคอตัวเองได้อ่านและเก็บเอาไปเป็นข้อคิดในการหาคู่ครองด้วย  รางวัลที่ 1 มีให้ถูกทุกงวดแต่บุญใครจะถึงได้รางวัลไปครอง เรื่องนี้ต้องบุญทำกรรมแต่ง จากคุณ : larata - [ 17 พ.ย. 50 23:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาติดตามข้อมูลที่Lawanwadeeค่ะ ข้อมูลเพียบจริงๆเลย จากคุณ : sheeraly - [ 18 พ.ย. 50 05:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยเตือนน้องนุ่งและเพื่อนที่มีแฟนฝรั่งทางเนทเหมือนกัน แต่นอกจากพวกเขาจะไม่ฟังแล้วยังมาค่อนขอดว่าเราอคติสูง หัวโบราณไม่อยากให้ใครได้ดีกว่าเพราะตัวเองเป็นสาวแก่ เลยต้องเจียมกะลาหัวไม่กล้าออกความเห็นกับใคร ปล่อยให้รับกรรมกันไปเอง ตอนนี้แต่ละคนก็หวานอมขมกลืนไปตามระเบียบ อดสมน้ำหน้าไม่ได้ เฮ้อออพูดไปเดี๋ยวจะว่าใจร้ายอีก จากคุณ : ก็บอกแล้วว่าไม่สนุก - [ 18 พ.ย. 50 06:46:56 A:80.202.175.184 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พวกที่ตั้งใจให้ท้องเพื่อจับผู้ชาย (ไม่ใช่แค่ผู้ชายฝรั่ง) นี่เป็นความคิดที่โง่มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ขอบอก โง่ตรงไหนรู้มั๊ย ก็โง่ที่คิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่มันจะมีคุณธรรม จริยธรรม ความสำนึก รับผิดชอบชั่วดีสูงส่งน่ะสิ ยิ่งสมัยนี้นะ 1 ในล้านก็ว่าได้มั้ง จากคุณ : เกลียดผู้ชาย - [ 18 พ.ย. 50 07:55:28 A:202.91.18.192 X: TicketID:145425 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เีรื่องจริงอย่างหนึ่งที่สาวๆมองข้ามหรือไม่รู้ก็คือ ชาวยุโรปส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง ไม่ได้ร่ำรวย แต่มีการศึกษา (ฟรี) มีสวัสดิการสังคมที่ดี ที่ดูเหมือนว่าเขารวย ก็เพราะค่าเงินที่แตกต่างมากกว่า เศรษฐกิจเขาดีกว่าและมีกติกาฏหมายที่เข้มแข็งกว่าประเืทศไทย คนที่นี่ต้องทำงานหนักกันแทบทุกคน เก็บเงินไว้ไปเที่ยวบ้าง ไว้ใช้ตอนแก่บ้าง (แต่ส่วนใหญ่ก็มีบำนาญและประกันสุขภาพ) ชีวิตประจำวันก็ทำงาน เสร็จงานก็กลับบ้าน เสาร์อาทิตย์พักผ่อนอยู่กับบ้าน แล้วก็ไปชอปปิ้ง ซื้ออาหารบ้าง ฯลฯ แต่ที่จะำำไปกินอาหารนอกบ้านไปชอปปิ้งบ่อยๆ ไม่ไหวหรอกค่ะ คนในเมืิองส่วนใหญ่ก็เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ ที่จะซื้อเป็นสมบัติของตัวเองได้มีน้อย พวกมนุษย์เงินเดือนก็ต้องประหยัดกันแทบทุกอย่าง เพราะค่าใช้จ่าย ค่าครองชึพที่นี่สูง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่แตกต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่เมืองไืืิืทยเท่าไีรนักหรอกค่ะ ทำมาหาใช้เดือนชนเดือน มีเก็บบ้างนิดหน่อย แต่สวัสดิการเขาดีกว่า พอมาเมืองไทย เงินเขาใหญ่กว่าก็ใช้จ่ายได้มากกว่า คนที่จะมาอยู่ก็ต้องรับรู้กับสภาวะึความเป็นอยู่ที่นี่ สังคม การใช้ชีวิตและวิธีคิดที่แตกต่างกัน ผู้ชายที่ไหนก็มีดีมีไม่ดีปะปนกัน การแต่งงานมันก็เป็นความเสี่ยงอยู่แล้ว ยิ่งมีเวลาทำความรู้จักกันน้อย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง คนที่นี่เองเขาก็มีปัญหาหย่าร้าง การทำร้ายร่างกายคู่สมรสมากเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าฝรั่้งจะดีกว่าคนไทย (แต่กฏหมายเขาช่วยผู้หญิงและเด็กมากกว่าเรา) ดังนั้นถ้ามาอยู่ที่นี่แล้วมีโอกาสได้งาน รู้จักประหยัด เก็บเงินได้ ไปเมืองไทยมันก็นับว่าเยอะ แต่ถ้าำไม่มีงาน สามีเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่มีเงินเก็บมากมายอะไร แต่ถ้าตั้งใจมาขุดทองหรือต้องส่งเงินกลับบ้านก็อาจจะผิดหวัง ยิ่งถ้าปรับตัวไม่ได้ ไม่ได้รักสามีมาก่อน แล้วมาเจอชีวิตที่น่าเบื่อ อากาศที่หนาวเย็นไม่คุ้นเคย ไม่มีเพื่อนฝูง ภาษาก็ไม่เป็น สื่อสารกันไม่รู้่เรื่อง มันก็ยิ่งเศร้า ถ้ายิ่งได้สามีไม่ดียิ่งแย่หนักกว่าอยู่เมืองไทยอีก หลายปีที่ผ่านมา ประเทศเยอรมันมีปัญหาการว่างงานสูง คนที่จบมาหางานดีๆทำไม่ได้ มาทำงานในเอเชียกันเยอะค่ะ ต้องคิดให้หนักๆก่อนมา มันเป็นเหรียญสองด้านจริงๆ จากคุณ : สมศรี - [ 18 พ.ย. 50 18:20:24 A:82.208.11.3 X: TicketID:128994 ]

ความคิดเห็นที่ 28  คห. 25  "เคยเตือนน้องนุ่งและเพื่อนที่มีแฟนฝรั่งทางเนทเหมือนกัน" ^^ ^^ คนเราจะรู้จักกันทางไหน ไม่ใช่ประเด็นสำคัญนะคะ สมัยก่อนที่จะมี Internet คนทั่วโลก โดยเฉพาะ พวกนักเรียน นักศึกษา เขาก็มี Pen Friend กัน โดยการติดต่อทางจดหมาย ที่ส่งโดยไปรษณีย์วิธีดั้งเดิม คนโบราณ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฝรั่ง ไทย อินเดีย เขาก็บอกรักกันด้วยเพลง ด้วยกลอน ด้วยสาส์นรัก เท่าที่อ่านๆ กันมา สุภาพสตรีไทย ที่มีการศึกษา หน้าตาดีๆ (เห็นใน Blog)หลายๆ ท่าน ที่เข้ามาออกความเห็นกันอยู่ในห้องไกลบ้าน เว็บพันทิป แห่งนี้ หลายๆ ท่านนั้นเจอกับสามี ของตัวเองจากทางอินเตอร์เน็ทนะคะ และ คุณๆ เหล่านั้นก็เข้ามาออกความเห็นที่แสดงถึงระดับสติปัญญา ความสุขุม ความรู้ ความสามารถ เข้าไปอ่าน ไปดูรูปใน Blog เขาก็ไม่ได้เสแสร้ง และ มีชีวิตครอบครัวที่ดีนะคะ ดิฉันไม่ขอกล่าวว่าเป็น คุณๆ Log-In ไหนบ้าง แต่เท่าที่ดิฉันเห็นว่าจริงใจ และ ข้อมูลของเขาไม่ Strawberry (Torแหล๋) เท่าที่เห็นกันมามีมากกว่า 6 ท่านค่ะ   ปล. คุณรู้จักคุณน้อย วงพรู ลูกชายคุณกมลา สุโกศล เจ้าของโรงแรมในเครือสยามซิตี้ และ กิจการอื่นๆ อีกมากมาย ใช่ไหมคะ คุณเมลานี ภรรยาของคุณน้อย (เป็นลูกครึ่ง จีน-ออสเตรเลี่ยน เป็นผู้หญิงเก่งมีการศึกษา คุณเมลานี กับคุณน้อยนั้น ก็รู้จักกันทาง Internet ตั้งแต่สมัยที่คุณเมลานี ยังเป็น Expat อยู่ที่ Singapore ค่ะ   May I have your attention please!.......You've Got Mail. ........... แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 50 19:28:37 จากคุณ : Siamese Girl - [ 18 พ.ย. 50 19:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ้ยยยยย...... โดน ครับพี่น้อง... โดนเต็มๆ คุณ Siamese Girl คุณ โปรย comment มาโดนเดี๊ยนอย่างจัง เลยนะเนี่ย คู่เรา ก็เป็นเพื่อนกันทางเน็ตอยู่ 2 ปี ถึงจะได้เจอหน้ากัน อีก 1 ปีให้หลัง เขาก็โดนเราบังคับให้ทิ้งบ้านเกิด เมืองนอนมาอยู่เมืองไทย อิอิ ถ้านับกันจริงๆ ตั้งแต่รู้จักกันมา จนกระทั่งถึงวันนี้ ที่อยู่ด้วยกัน ปาเข้าไป 8 ปีแล้ว... จากคุณ : เพนนี - [ 19 พ.ย. 50 00:43:38 A:125.27.0.198 X: TicketID:160171 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ปัจจุบัน รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่เจอเขา จะด้วยดวง บุพเพ หรือ บุญทำกรรมแต่ง อย่างที่ข้างบนบอกเราก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คนที่คุยกันทุกวัน แลกเปลี่ยนทัศนคติ และความคิดเห็นต่างๆ ผ่านความเป็นไปของโลกต่อกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะทางเน็ต หรือทางไหน มันจะทำให้เราดูเขาไม่ออกเลยเหรอว่า เขาเป็นคนที่มีพื้นฐานทางความคิดอย่างไร มีมารยาทหรือไม่ อุปนิสัยเป็นยังไง หรือแม้กระทั่งไม่รู้ตัวว่า กำลังโดนหลอกหรือเปล่า ถ้าขนาดคุยกันนานเป็นปีแล้วยังดูกันไม่ออก เราว่า ผู้หญิงคนนั้น คงจะใสซื่อ และอ่อนต่อโลกมากๆ เลยนะเนี่ย หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะอยากแต่งงาน ด้วยเหตุผลอื่น ที่ไม่ใช่ความรัก จากคุณ : เพนนี - [ 19 พ.ย. 50 01:11:11 A:125.27.0.198 X: TicketID:160171 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องแบบนี้ มันก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคนด้วยมั้งคะ เห็นหลายคนปุบปับแต่งงาน โชคดีไปก็มี บางคนแย่ ถึงขั้นแย่ที่สุดก็มาก ไม่ว่าจะสามีฝรั่ง หรือจะเอเชีย อัฟฟริกัน คนไม่ดีก็มีอยู่เยอะ จากคุณ : NSY - [ 19 พ.ย. 50 09:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พออ่านแล้วคุ้นๆ เพราะเคยได้อ่านมาก่อนนี้แล้วน่ะค่ะ แต่ได้อ่านอีกทีมันก็สะท้อนไปถึงหลายอย่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ก็มีทั้งดีและเลวปนกันไป  ต้องใช้เวลาศึกษากันอย่างจริงจัง และให้แน่ใจจริงก่อนตัดสินใจแต่งงานจะดีกว่า  แต่ก็อย่างว่า ตลอดชีวิตคนที่อยู่ด้วยกันมาก็ยังดูไม่หมด  และอย่างหนึ่ง   ก็คือ ความพอเพียง รู้จักเพียงพอ  ยินดีในสิ่งที่ตัวเองเป็นและมี ความพอเพียงของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ก็อย่ายึดติดกับมันมากเกินไปเลยค่ะ  เพราะความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน วันนี้รวยพรุ่งนี้ อาจจนก็ได้  วันนี้ไม่มีเงิน ผ่อนบ้าน แต่พรุ่งนี้อาจถูกรางวัลที่ 1 (เป็นไปได้ยากเหลือเกิน) อยากมีเงินก็ต้องทำงาน  รู้จักกิน รู้จักใช้ ประหยัด  มัธยัสถ์  ช่วยกันสร้างครอบครัว   ความสุขมันเกิดจากตัวคุณเอง จากคุณ : pat-in - [ 19 พ.ย. 50 21:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สาวไทย อย่าเห็นฝรั่งเป็นพระเจ้ากันค่ะ คนพวกนี้บางทีมองผู้หญิงไทยเป็นของเล่น ว่าสวยแต่โง่ คิดจะมาซื้อเราเป็นสินค้า ดิชั้นเกลียดมาก เจอที่ไหนตะเพิดเปิง ฝรั่งดีๆ ที่ไม่ดูถูกพวกเราก็มี แต่ต้องดูเป็นรายๆไปค่ะ จากคุณ : stangvi (stangvi) - [ 20 พ.ย. 50 09:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คือตัวเองมีสามีฝรั่งแล้วดี เวลามาเมืองไทยเห็นเพื่อนโสดๆก็อยากแนะนำให้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่าฝรั่งเค้าใจกว้างกว่าชายไทย ไม่ว่าจะเรื่องฐานะ ชาติตระกูล การศึกษา รวมถึงหน้าตา ยังไงก็ยังสนับสนุนนะคะ แต่อันนี้ต้องใช้คอมม่อนเซ้น ดูคนบ้าง ชอบเค้าเพราะเค้าหล่อ ดี เทคแค สุภาพ อย่ามองแต่ว่า เออ ฝรั่ง ชอบๆ จากคุณ : Bing - [ 23 พ.ย. 50 21:08:52 A:125.24.55.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดิฉันเห็นด้วยกับความเห็นที่ 2 อย่างมากเลยนะคะเรื่องต้องเปลี่ยน mentality ก่อน มีเพื่อนชาวอังกฤษแต่พ่อแม่จีนเลยดูเป็นคนเอเชีย (เธอเกิดและโตที่นี่คะ) มีแฟนเป็นฝรั่งอังกฤษตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ปัจจุบันเป็นทนายที่นี่คะ วันหนึ่งเธอซื้อฮอลิเดย์ไปเที่ยวเมืองไทยหนึ่งสัปดาห์ให้แฟนเป็นของขวัญวันเกิดไปเที่ยวด้วยกัน ปรากฏว่าทั้งเธอและเขากลับมาบ่นไม่สนุก จะพนักงานโรงแรมที่เมืองไทยก็ดี หรือแม้แต่พนักงานขายของในห้างหรือสนามบินก็ดี ปฏิบัติเสมือนตัวผู้ชาย(แฟนฝรั่งเธอ)เป็นคนมีตังค์ ผู้หญิงเอเชียเองเป็นฝ่ายตามเกาะมา พอรู้ว่าเธอพูดภาษาไทยไม่ได้ (ก็ไม่ใช่คนไทยนี่นา) ก็จะหันไปคุยภาษาอังกฤษกับแฟนเธอทันทีแล้วเธอก็จะถูกปล่อยให้ยืนเก้ๆกังๆตรงนั้น ทั้งๆที่เธอเป็นคนอังกฤษเหมือนกัน เป็นแบบนี้ตั้งแต่กรุงเทพยันกระบี่ แหม... เราก็พูดไม่ออกเหมือนกันเวลาพวกเขาถามว่าทำไมผู้คนปฏิบัติต่อเธอต่างจากต่อเขาเหลือเกิน เพราะอุตส่าห์ไปสนับสนุนโม้ไว้เยอะ เมืองไทยสวยวัฒนธรรมอ่อนช้อย ดิฉันคิดว่าอาจจะเป็นค่านิยมชมชอบ caucasian เท่านั้นของคนไทยบางคนก็ได้มั้งคะ เพราะเธอไม่ใช่คนไทยและแม้จะเป็นคนอังกฤษเธอดูเหมือนคนเอเชีย แล้วยังเป็นผู้หญิงอีก จากคุณ : Berko - [ 27 พ.ย. 50 07:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เอ่อ พูดไม่ออก . . . ไอ้เพื่อน ยุโรป ในวัยเด็ก มันเลย เห็นไทย เป็นอเมซิ่ง กระทิงแลนด์ uhh จากคุณ : kuddle - [ 28 พ.ย. 50 06:28:26 ]