ความคิดเห็นที่ 1 ดิฉันว่าถามแฟนคุณดีมั๊ยคะ ว่าที่ทำงานเค้าสนใจคุยเรื่องอะไรกัน ถ้าดิฉันป็นคุณนะ สมมุติดูแล้วมันคุยไม่ได้จริงๆ(หมายถึงไม่มีจังหว่ะเริ่มเข้าไปเม้าท์) ดิฉันก็คงจะฟังแล้วก็ อ๋อค่ะ อืมดีค่ะ แล้วก็พยายามหาคำถามของหัวข้อที่เค้ากำลังสนทนากันค่ะ คือจะพยายามแสดงออกว่าเราสนใจที่เค้ากำลังพูดอยู่ค่ะ จากคุณ : bellemaman - [ 27 พ.ย. 50 02:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บางครั้งถ้าไม่เกี่ยวกับงาน ก็ชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ เรื่องงานอดิเรกที่เขาสนใจ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ชวนคุยเรื่องสวยๆ งามๆ  ลองชมว่าชุดเขาสวย คำเดียวเท่านั้นแหละค่ะ คราวนี้คุณต้องทนฟังหูอื้อเลย... แต่มุขนี้ใช้ได้ดีค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 27 พ.ย. 50 02:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ตรงดิ่งไปมุมของกินก่อนเลยค่ะ  จะได้ไม่ต้องคุยมาก  ทาน ทาน ทาน  อิอิ ^ ^ จากคุณ : Jerrynui - [ 27 พ.ย. 50 03:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นานๆจะมีคนถามเรื่องที่ตัวเองถนัด รีบมาตอบให้เลยค่ะ ปกติถ้าไปงานที่ไม่เคยรู้จักใครที่นั่นเลยสามีจะแนะนำให้รู้จักแขกในงานก่อนถึงจะปล่อยเราให้ไปคุยตามยถากรรม เค้าจะแยกตัวไปคุยกับเพื่อนสนิทของเค้าในกลุ่ม เราก็บางทีถูกทิ้งให้คุยกับคนแปลกหน้าตลอดคืน ซึ่งเราเองก็ชอบที่ได้มีโอกาสได้รู้จักคนใหม่ๆ  คนไหนคุยสนุกถูกคอก็คุยต่อคนไหนเราไม่ชอบก็รีบขอตัวฉากหลบ เริ่มต้นไม่ยากเลย ถ้าเป็นผู้หญิงชมว่าชุดสวยเป็นติดเบ็ด ถามต่อไปว่ามากับใคร แฟนเธอคนไหน เรื่องคุยมีมากมายไม่จำเป็นต้องสรรหาหัวข้อ แค่ถามเรื่องของเค้า เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเรานิดหน่อย คุยดูว่าเค้าสนใจเรื่องอะไร ช้อปปิ้ง สกี ว่ายน้ำ โยคะ ตัดผมร้านไหน เวลาไปต่างประเทศชอบไปแถบไหน ถ้าเป็นชายก็ง่ายเข้าไปอีก แค่ชมว่าไว้ผมทรงนี้ดีกว่าทรงเก่าดูหนุ่มขึ้น คมเข้ม แคนี้เพื่อนสามีก็ไม่ยอมให้แยกตัวไปไหนแล้ว จะให้ยืนคุยด้วยทั้งคืน ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนก็จะถามเรื่องงาน ว่าเป็นอย่างไร ช่วงนี้ยุ่งไหม ถ้าเค้ามีลูกก็ถามเรื่องลูก ว่าเป็นอย่างไร จังหวะเข้าแทรก ก็คือตอนที่คนใดคนหนึ่งพูดจบ เราก็แทรกความคิดเห็นของเราเข้าไปตอนนั้นไงคะ ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย เวลาที่เค้าพูดอะไรกันควรตั้งใจฟังให้ดี ทำสีหน้าให้ดีว่าเราสนใจ ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุยจะน้ำเน่าสุดจะทนก็ตาม มันเป็นมารยาทน่ะค่ะ อันนี้ครอบครัวดิฉันสอนมาอย่างนี้อาจจะเชยไปแล้ว แต่มันได้ผลนะคะ ไปงานไหนไม่เคยนั่งเหงา ได้เพื่อนใหม่ทุกที ได้ออกไปเต้นกับสามีหล่อๆของคนอื่นด้วย สนุกดี แต่ต้องให้พอดีนะคะ ไม่งั้นพวกภรรยาจะพากันเข้าใจผิด คิดว่าเราไปจีบสามีเค้าจะโดนแหม่มตบเอาได้ จากคุณ : Gisele - [ 27 พ.ย. 50 04:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนอื่น หาอะไรถือไว้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแก้วไวน์ กาแฟ อาหารว่าง เขินขึ้นมาก็จิบ หรือเล็มไปเรื่อยๆ...เวลามีคนเข้ามาทักทาย คุณกำลังฟังเพลง คุยเรื่องเพลงซิคะ แล้วแต่ว่าคนเขาจะชวนคุยเรื่องอะไร บางคนทีลูก ก็คุยเรื่องลูก คุยได้นาน...เรื่องผม เสื้อผ้า อาหารไทย (คุยได้ทุกงาน) คนมักจะชมพวกสร้อยคอ ข้อมือต่างๆ คุณจะคุยเรื่องของคุณว่ามันมาจากไหน อะไรยังไง..ยิ่งถ้าใส่ของไทยๆ ดิฉันคิดว่าคนคงสนใจมากนะคะ คุยได้นาน ดิฉันก็ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเท่าไรค่ะ รู้สึกเหมือนคุณเลย เวลาคนเขาคุยเป็นกลุ่ม 4 คนขึ้นไป ดิฉันฟังลุกเดียวค่ะ ทั้งๆที่เป็นคนคุยเก่งพอสมควร แต่จะคุยเก่งเฉพาะ 2 หรือ 3 คนเท่านั้นค่ะ มากกว่านั้น ดิฉันเขิล..อีกอย่าง หาช่องต่อเติมไม่ได้ พอจะต่อ คนอื่นแย่งคุยไปซะแล้ว...แต่พอเราได้ทีคุย ทุกคนหยุดฟัง ดิฉันจะเริ่มเขินค่ะ กลัวพูดผิด รีบๆเล่า เรื่องก็เลยไม่ค่อยมันส์ แง๊... อีกอย่าง ตั้งคำถามก็ดีนะคะ ผู้ชายบางคนคุยเรื่องการตกปลา ดิฉันก็ชอบถามอ่ะ เพราะตัวเองไม่เคยตก เขาคุยสนุกใหญ่เลย งานล่าสุด ดิฉันคุยเรื่อง ช๊อปปิ้ง แหวน กำไล นาฬิกา เบื่อมังแหล่ะ เพราะคุยไปตามน้ำ ฟังซะมากกว่า แต่ตัวเองคุยเรื่องการออกกำลังกายค่ะ กำลังฮิต แต่เรื่องนี้คิดว่าต้องคุยกะคนสนิทหน่อยน่ะ มันเซ็นซิทีฟเนอะค่ะ จากคุณ : แอนนาค่ะ (แอนนาค่ะ) - [ 27 พ.ย. 50 05:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันไปงานเลี้ยงที่ทำงานสามี ก็เจอปัญหาคล้าย ๆ คุณเจ้าของกระทู้เหมือนกัน คือไม่รู้จะคุยอะไร ทางออกของดิฉันคือ เดินหาของกิน อยากกินอะไรตัก หมดแล้วเติมใหม่ ยุ่งแต่หาของกิน จนไม่ต้องไปสนใจคุยกะใครเลยค่ะ จากคุณ : natasa - [ 27 พ.ย. 50 06:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นผู้หญิงก็คุยเรื่อง shopping หรือเรื่องดูแลสุขภาพกายและผิวของเราก็ได้ค่ะ ส่วนใหญ่จะชอบกันทั้งนั้น หรือก้คุยเกี่ยวกับประเทศไทย เกาะต่างๆ วัด จากที่เคยๆคุยเรื่องเมืองไทย เขาก้จะชอบถาม อยากรู้น่ะคะ จากคุณ : กุชชี่ - [ 27 พ.ย. 50 09:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เขาว่ากันว่า คู่สนทนาที่ดีคือผู้ที่ฟังมากแต่พูดน้อย คอยฟังไปยิ้มไป พยักหน้าตาม เสริมนิดหน่อยก็พอแล้ว ถ้าไม่ถนัดจะเป็นฝ่ายเริ่มบนสนทนา จากคุณ : Appreciator - [ 27 พ.ย. 50 10:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองไปหาหนังเรื่อง Born Yesterday มาดูสิคะ ดูฉากที่ดอน จอห์นสัน สอนเมลานี่ กริฟฟิต ให้เข้าสังคม ร่วมวงสนทนา สิคะ ปล. ดิฉันเข้ามาตอบกระทู้ต่อจากคุณกุชชี่อีกแย้ว... สงสัยชะตาจะต้องกันนะเนียะ 55 จากคุณ : มรรคณิชา - [ 27 พ.ย. 50 10:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคู่สนทนามีลูก ให้คุยเรื่องลูกค่ะ  ยิ่งพวกแม่ๆ คงชอบคุยเรื่องลูกตัวเองอยู่แล้ว จากคุณ : offita - [ 27 พ.ย. 50 10:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11  แนะนำให้เป็นตัวของตัวเอง พกความมั่นใจ มีมารยาทในการเข้าสังคม มารยาทในการรับประทาน แต่งกายเก๋ไก๋ เหมาะสม และ มี Positive Attitude ค่ะ แรกๆ ก็แนะนำตัวเองก่อน ยิ้มมั่นใจ จริงใจ สบตากับทุกคน   จากนั้นอยากคุยกับใครก็คุยต่อ ไม่อยากคุยกับใครก็ไม่ต้องคุยแล้วหาทางชิ่งออกมาจากวงสนทนานั้น หัวข้อของเรื่องที่คุยก็มีเยอะแยะไปหมด กับคนที่ไม่สนิท ก็คุยเรื่องทั่วๆ ไป ความรู้รอบตัว เป็นสิ่งที่ต้องสะสมค่ะ ไม่ใช่จะมาเรียนรู้กันวันสองวันแล้วจะได้เรื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ใช่ว่าจะสายเกินไปที่จะเรียนรู้ เรื่องไหนที่ไม่รู้ดี ก็ไม่ต้องคุย ไม่ต้องเสแสร้ง หรือ ถ้าไม่รู้สึกก็ไม่ต้องไปทำสะตอเบอแหร๋ ไม่ต้องไปยกยอปอปั้น หรือ ชื่นชมใครเขา เพราะคนที่เขาดูออก และ ไม่โง่นั้น เขาทราบค่ะ ว่าใครมาไม้ไหน กำลังใช้จิตวิทยาอยู่หรือเปล่า ถ้าเริ่มด้วยความสะตอเบอแหร๋ ดูแล้วไม่น่ารัก และ ไม่ Sincere ค่ะ คบกันไม่ยืดหรอก แถวบ้านดิฉันเขาเรียกอากัปกิริยาแบบนี้ว่า  "Fake"   เรื่องไหนที่ทราบก็คุยแต่พอประมาณ หรือ ถ้ามีใครถามก็ค่อยคุยต่อ ดิฉันเป็นคนรักสันโดษ และ เลือกที่จะออกงาน ไม่ได้ไปดะ งานไหนไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่ไปเลย แต่เวลาที่ต้องออกงานหรือเข้าสังคม ก็คุยได้เรื่อยๆ  (Partner ของดิฉันเป็น Regional Manager for Asia & the Pacific ไม่ได้อวดเหมือนกัน แค่อยากจะสื่อว่า ต้องเจอ หรือ Mingle กับพวก Expat ไม่ใช่แต่เฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น) ดิฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบสังคมของพวก Expat's Wife สักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติ หรือ คนไทยด้วยกัน เพราะเท่าที่เจอมา จะมีแต่พวกเจ๊าะแจ๊ะ ไม่จริงใจ หรือ พวกที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือ มีบ้างไม่มีบ้าง แล้วมาคุยอวดกัน  (ที่พื้นฐานดีๆ ก็มีเหมือนกัน แต่เจอน้อยมาก หรือ เจอกันไม่เท่าไหร่ เขาก็ย้าย หรือ เกษียนไปซะแล้นนน นานๆ ถึงจะเจอกันที และ ส่วนใหญ่จะคบกันได้ คบยืดด้วย) ดิฉันคุยกับทุกคน คุยได้ทุกเรื่อง ชอบพูดชอบคุย แต่จะเลือกคบคน และ จะเลือกคนที่คุยด้วย พวกแม่บ้าน Expat ต่างชาติ หลายๆ คนที่กรุงเทพฯ นี่ เขาเรียกดิฉันว่า TAT (ททท. - Tourism Authority of Thailand) อยากรู้ไร ก็ถาม Miss TAT   สังคม Expat' Wife โดยเฉพาะพวกแม่บ้านไทยด้วยกัน ที่มีสามีฝรั่ง ดิฉันไม่ค่อยได้สุงสิงด้วยเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่เขาจะแข่งขันกันในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องลูก เรื่องโรงเรียนอินเตอร์ของลูก เรื่องตำแหน่งของปั๋ว เรื่องแหวนเพชร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องการไปบ้านเกิดเมืองนอนของปั๋ว เรื่องเงินๆ ทองๆ บางคนแต่งตัวไม่เป็นแต่ก็พยายามอัพเกรดข่มกันเต็มที่ ซึ่งไม่ใช่ Scene ของดิฉัน ไม่ถูกจริตกันค่ะ และ เพราะเห็นว่ามีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่า เช่น เรื่องความเป็นไปต่างๆ เหตุการณ์รอบโลก เหตุการณ์ของบ้านเมือง ศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่กำลัง Hot หรือ มีภาพยนตร์ มีเพลง มีนิทรรศการอะไรที่น่าสนใจบ้างในขณะนั้นๆ   Cheers! ค่ะ     แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 50 12:21:54 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 50 11:31:22 จากคุณ : หญิงกร่างนุ่งซิ่น@บางกอก, สยาม (Siamese Girl) - [ 27 พ.ย. 50 11:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งานเลี้ยงของบริษัทแฟน หรือของเพื่อน ๆ เค้า แทบไม่ได้ไปเลยค่ะ  เพราะแฟนเราทำงานด้านคอม ทั้งกลุ่มจบปริญญาเอกและอายุ 40+ ผู้ชายทั้งนั้น เวลาเค้าคุยกันเราไม่รู้เรื่องค่ะ คุยแต่เรื่อง IT แบบลึก ๆ  เราไม่ได้อยู่ในสายงานนี้  จะไปก็แต่งานเลี้ยงเพื่อนสนิทแฟนที่เค้าเชิญไปกินที่บ้าน และมีคนไปแค่ 4-5 คน ที่ทำงานในสายอื่นด้วย  ถ้ามีแต่พวก nerd เราไม่กล้าคุยด้วย ไม่สนุกเลย  แฟนก็เข้าใจค่ะ ถ้าเราไม่อยากไป เค้าก็ไม่ว่าอะไร   อาทิตย์หน้าคนในแล็บที่เราทำ thesis อยู่ตอนนี้จะไปจัดงานเลี้ยงคริสต์มาสกันค่ะ คนไปเป็นสิบเลย พวกเก่ง ๆ ทั้งนั้น จริง ๆ เราไม่อยากไปงานนี้ แต่ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเค้าจะหาว่า เราไม่มีมนุษยสัมพันธ์  ก็เลยคงต้องไป  ถ้าจะให้คุย เราไม่มีปัญหาเรื่องภาษาแน่นอน เพราะได้ทั้งอังกฤษและเยอรมัน แต่เราเป็นคนชอบอยู่คนเดียวค่ะ ไม่ชอบยุ่งกับใคร ไม่ชอบไปงานเลี้ยงที่มีคนเยอะ ๆ  คุยกับคนยากเหมือนคุณจขกท. คือถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จัก หรือไม่สนิท เราจะไม่เปิดปากพูดเลย แต่ในงานอาทิตย์หน้ามีแต่คนในสายงานเดียวกันและอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเรา  คงพอชวนคุยเรื่องงานได้  และคุยเรื่องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่เยอรมันและไทย แผนในอนาคต อากาศ   เคยสังเกตตัวเอง จะพูดมากเวลาที่ต้องเถียงกับใคร และเวลาที่จิบแอลกอฮอล์ไปนิดนึง เมานิด ๆ ล่ะก็คุยใหญ่เลย จากคุณ : Sonnenschein - [ 27 พ.ย. 50 19:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราคุยไม่เก่งค่ะ แต่ถ้าเป็นฝ่ายเริ่ม กับบุคคลที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็แนะนำตัวเองก่อนเลย และก็จะถามว่าเขาทำงานประเภทไหน ทำหน้าที่อะไร มีความสุขกับการทำงานไหม๊  และก็ถามเรื่องงานอดิเรกของเขา ประมาณนี้ละค่ะ แต่บางทีก็แย่เหมือนกัน เพราะเจอคนที่โม้ไม่หยุด เมื่อยที่ต้องทำหน้าตาเหมือนเราสนใจเรื่องที่เขาคุยมากๆ (ก็เป็นฝ่ายถามเขาเองนี่นา ก็ต้องรอจนเขาเมื่อยถึงจะขอตัวได้) จากคุณ : Tigerish - [ 27 พ.ย. 50 21:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้าใจที่คุณเล่ามาค่ะ คิดว่าบางงานถ้าไม่จำเป็นก็คงจะไม่ไปได้ แต่ถ้าจำเป็นดิฉันก็เล็งเครื่องดื่ม น้ำส้ม หรือ อะไรที่ทำให้มือไม่ค่อยว่างไว้ก่อนค่ะ อาจจะเริ่มจากชิมอาหาร ถ้าคนไหนเตรียมมาก็ถามวิธีทำ ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารนะคะ มันก็เป็นหัวข้อรีแลกซ์ไปได้เหมือนกัน แล้วก็ลองฟังtopic ดูว่าคนไหนมีแนวโน้มชอบใกล้เคียงกับคุณ ก็ลองแย๊บๆถามต่อ ส่วนใหญ่ดิฉันจะมีคนคุยด้วยเรื่องลูกค่ะ แต่จะแอบเซ็งก็มีบ้างเวลาเค้าเล่าโจ๊กน่ะ เพราะมันคิดตามไม่ค่อยทัน คนเยอรมันชอบเล่าโจ๊กนะในความรู้สึกของดิฉัน คุณ ตถา อย่ากลุ้มไปเลยค่ะ ทำตัวสบายๆ เป็นผู้ฟังที่ดี เดี๋ยวก็คงเจอคนคุยถูกใจไปเอง จากคุณ : Walcher - [ 27 พ.ย. 50 21:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก็คิดว่า อาจจะจำเป็นต้องออกงานบ่อยๆ มั้งคะ ตอนแรกๆ ก็อาจจะไม่รู้จะคุยอะไร เพราะหลายๆ ครั้ง เราคุยออก เพราะเรารู้จักคนที่เราคุยอยู่บ้าง หรือว่าเราเคยเจอเขาบ้าง แล้วเขาจำเราได้ หรือเราจำเขาได้ บางคนจำเรื่องที่เคยคุยกันเอาไว้ได้ด้วย ถ้าอยากจะลองฝึกความจำนะ คุณไปงานหนึ่งๆ มา จากนั้นก็มาจดเอาไว้ว่า คนที่คุณคุยด้วย ชื่ออะไร หน้าตาเป็นไง เขาคุยเรื่องอะไร เราคุยกับเขาเรื่องอะไร แล้วดูว่าครั้งต่อไปมีเขาอยู่อีกไหม ถ้ามีก็ลองไปคุยกับเขาอีก เคยอ่านหนังสือเรื่องหนึ่ง ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่ต้องฝึกไม่ว่าจะเป็นคนที่ระดับไหนๆ ในการจะประทับใจใคร ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องคุยเก่ง และต้องจำเก่ง คนที่เราคุยด้วยจะประทับใจที่เราจำเขาได้ จำเกี่ยวกับเขาได้ ซักถามคำถามที่สอดคล้องกับเรื่องที่เขาเล่า โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนเล่าเรื่องของตัวเองเลย ถ้าเราเป็นคนที่ชอบอ่าน เราจะมีความรู้รอบตัวอยู่บ้างแล้วไม่มากก็น้อย ถ้าบังเอิญเขาคุยในเรื่องที่เรารู้ เราก็จะตอบโต้ได้ ถ้าเราไม่รู้ เราก็ตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจจริงๆ นะ แล้วถามคำถามที่เราไม่รู้ แค่นี้ ก็กินใจแล้ว ตอนแรกๆ อาจจะไม่สนุกในการไปออกงาน แต่ถ้าไปบ่อยๆ เดี๋ยวก็คล่องเอง อันนี้พูดถึงว่าอย่างคุณไปออกงานกับสามี ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่เหมือนกับการไปเข้ากลุ่มสังสรรค์ของเฉพาะแม่บ้าน ดังนั้นหัวข้อการคุยมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วแน่นอน แต่ถ้าในที่สุด เขาคุยเรื่องที่เราไม่สนใจจริงๆ (ไม่ใช่เรื่องที่เราไม่รู้ เพราะถ้าเราไม่รู้ แต่เราอาจสนใจก็ได้) เราก็ไม่จำเป็นต้องทนฟัง เดินย้ายไปทักทายกับคนอื่นๆ ต่อไป ทำแบบนี้แหละค่ะ บางทีนะ เข้าไปถึงในงาน อย่าไปยืนหลบไม่ให้ใครเห็น เดินไปหยิบเครื่องดื่ม จากนั้นสอดส่ายสายตามองดูว่า มีใครบ้าง เรารู้จักใครบ้างไหม หรือว่า มีใครที่กำลังยืนเหงา เงียบๆ คนเดียวหรือไม่ แล้วก็เข้าไปทักทาย เพราะเขาอาจจะเหมือนเราก็ได้ คือไม่กล้าจะพูดคุยกับใคร ก็ฝึกๆ ไปแบบนี้ ส่วนหัวข้อเรื่อง อย่างที่บอก เป็นผู้ฟังที่ดีก่อน แล้วศึกษาว่า เขาคุยเรื่องอะไร ถ้าเราไม่รู้เรื่อง ก็จงเป็นผู้ฟังและถาม ต่อไป แต่ถ้าเรารู้เรื่องนั้นจริงๆ เราก็พูดแลกเปลี่ยนสิ่งที่เรารู้ไป ซึ่งเขาก็จะแลกเปลี่ยน ถาม-ตอบกลับ จากคุณ : พธูไทย - [ 28 พ.ย. 50 00:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณพธูไทยแนะนำดีอีกแล้ว เห็นด้วยอย่างยิ่งนะคะ การจะคุยกะใครได้สนิทใจก็ต้องรู้จักอีกฝ่ายบ้าง ไปงานช่วงแรกๆ ก็ต้องพยายามจำๆ อะเน๊อะ จากคุณ : มรรคณิชา - [ 28 พ.ย. 50 00:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณพธู ว่าไม่ต้องคุยเก่ง แต่จำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเขาได้ เมื่อเดือนก่อนไปเจอเพื่อนย่าสามี ครั้งแรกเจอเมื่อ ๓ ถึง ๔ ปีก่อน คราวนี้ไป ดิฉันถามเขาถึงหลานที่ชื่อ แอชลีย์ เขาประทับใจมาก เพราะยังจำหลานเขาได้ ถึงแม้จะเจอกันแป๊บเดียว กับคนอื่อบพนๆ ก็เหมือนกัน ดิฉันจะจำรายละเอียดเรื่องเขาได้ คนละนิดคนละหน่อย เวลาเราเอ่ยถึง คนฟังจะดีใจที่เราเห็นเขาสำคัญ ตอนทำงานสัมภาษณ์มนุยษ์ทุกวัน เป็นอาชีพ คนเราสนใจไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ และทุกคนชอบคุยเรื่องตัวเองทั้งนั้นแหละ เราแค่ฟัง และตั้งคำถามตามที่ได้ยิน จากคุณ : mrs.night owl - [ 28 พ.ย. 50 11:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ ค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 28 พ.ย. 50 21:33:32 A:1.1.1.93 X:58.8.127.74 TicketID:101901 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยิ้มค่ะ เพราะเรามาจากสยามเมืองยิ้ม แฮ่... จากคุณ : Tanja-nl - [ 29 พ.ย. 50 22:32:36 ]