PANTIP.COM : H6106847 นายทหารไทยยอดกตัญญู []

ความคิดเห็นที่ 9

พวงมาลัย http://www.thairath.com/news.php?section=hotnews02&content=68670

นักบินร่อน ฮ. ลงไปรับเห็ด ดูเป็นเรื่องขำๆ ขำขนาดพิธีกรสาวชาวกรุง อ่านข่าวไปหัวเราะไป ส่วนคนเฝ้าจอโทรทัศน์ คงไม่น้อยเคลิ้มคล้อยไปกับเธอด้วย

แต่เสียงหัวเราะในมุมลึกเร้นนั้น บางคนอาจหัวเราะตามเพราะเห็นเป็นเรื่องตลก ขณะที่บางคน หัวเราะตามด้วยความเส้นตื้น แต่ส่วนลึกของหัวใจ เข้าใจความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูก

แน่นอน เข้าใจได้ถึงอารมณ์ลูกที่ร่อน ฮ. ลงไปรับเห็ด

เหตุการณ์นี้ ต้องบันทึกไว้ในบรรทัดของประวัติศาสตร์การบินว่า ประมาณเวลา 10.50 น. ของวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 นักบินชื่อนาวาอากาศตรี สมศักดิ์ วางชั่ว วัย 33 ปี นักบินจากโรงเรียนการบินกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

พร้อมเพื่อนๆรวม 8 นาย นำเครื่องเฮลิคอปเตอร์ แบบ ยูเอช-1 ร่อนลงท้องทุ่งข้างวัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อเครื่องร่อนลงในท้องทุ่งนา ชาวบ้านเห็นก็แตกตื่น บ้างนึกว่าเครื่องตกจึงไปดูกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ มีคนถ่ายภาพมายื่นให้สื่อนำเสนอข่าวอย่างออกรส

เมื่อเครื่องลงเสร็จสรรพ นักบินพร้อมเพื่อนๆมีรถกระบะนำไปยังบ้านแม่ของนักบินคือ นางอำนวย วางชั่ว อายุ 63 ปี อยู่บ้านหมู่ 4 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ไปดูเครื่องบิน

เวลาผ่านไปไม่นาน นักบินกลับมาพร้อมเห็ดโคน

เหตุผลที่ร่อน ฮ. ลงรับเห็ดทราบต่อมาว่า นักบินไปปฏิบัติการที่ภาคใต้รวม 2 ปี เมื่อกลับมา ต้องรับภารกิจฝึกซ้อมบินพอดีผ่านมาทางเมืองกาญจน์เลยแวะหาแม่ เพราะเมื่อสองวันก่อน แม่โทร.ไปบอกให้แวะมาเอาเห็ดโคนที่บ้าน

เมื่อมาจริงๆ แม่จึงให้เห็ดโคนแช่เปรี้ยวไป 2 ถุง

เหตุการณ์อาจไม่พบที่ใดในโลกนี้ เป็นผลให้ พล.อ.ต.วิโรจน์ นิสยันต์ ผู้บัญชาการโรงเรียนการบินกำแพงแสน กองบัญชาการยุทธทางอากาศ ซึ่งเป็นต้นสังกัด สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนักบิน

นักบินนำเครื่องลงเพราะความอร่อยเท่านั้นหรือ

ความอร่อยของเห็ดโคนเมืองกาญจน์ เลื่องชื่อมายาวนาน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ บ้านเกิดอยู่ที่อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันเรื่องความอร่อยว่า

“ขนาด ธีรยุทธ บุญมี ได้ชิมเห็ดมาทั่วโลกแล้วยังบอกว่าไม่พบว่า เห็ดในประเทศไหน อร่อยเท่าเห็ดเมืองกาญจน์”

เห็ดโคนเกิดจากรังของตัวปลวก บางแห่งจึงเรียกเห็ดปลวก มีอยู่ทั้งปลวกชายไร่ ปลายนา และป่าดง

รังปลวกชาวเมืองกาญจน์เรียกว่า เจาดินหุน เมื่อรังปลวกถูกน้ำฝนชะดิน น้ำฝนจะซึมลงไปเปียกรังปลวก เมื่ออุณหภูมิพอเหมาะ เชื้อรานี้เองที่พัฒนามาเป็นเห็ดโคน

เห็ดดอกเล็กๆ จะค่อยๆดันตัวโผล่จากดิน บางคราวคนหาเห็นเพียงรอยดินแยกปริ เมื่อใช้ปลายมีดแซะๆดูจึงเห็นดอกเห็ดตูมเรียงกันแน่นขนัด

ปกติหนึ่งปีเห็ดขึ้นครั้งเดียว โดยจะขึ้นอยู่ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา

สถานที่เห็ดโคนขึ้นคือ แทบทุกแห่งที่มีรังปลวกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหัวไร่ปลายนา ป่าละเมาะ ในดงอ้อย ดงข้าวโพด และในป่า

ฤดูกาลเก็บเห็ด เป็นคืนวันที่ชาวเมืองกาญจน์ และจังหวัดใกล้เคียงรอคอย

หมู่บ้านที่ห่างจากป่าดง แต่ละหมู่บ้านจะนำรถกระบะบรรทุกคนไปหาเห็ดในป่า โดยเก็บค่าโดยสารเป็นเงินตามแต่จะตกลงกัน บางคนที่ยังไม่มีเงินก็ให้ขึ้นรถไปก่อน เมื่อหาเห็ดแล้วขายได้แล้วค่อยจ่าย

เจ้าของรถบางรายไม่เรียกเก็บค่าโดยสารเป็นเงิน แต่ขอซื้อเห็ดจากผู้โดยสารแทน

การเก็บเห็ดเป็นมหกรรมสนุกสนาน บ้านที่มีลูกหลานหลายคนจะเกณฑ์กันออกเที่ยวหา กับบ้านอื่นๆ ต้องแข่งขันกันเก็บอย่างออกรส เป็นต้นว่าต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เพื่อไปรอให้ฟ้าสางชายป่า แทบไม่ทันฟ้าสาง ชาวบ้านจะรีบเข้าไปมองหาตามละเมาะไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามเนินปลวก ชายปลวก

ต้องค่อยๆแหวกใบไม้ที่ทับถมกันอยู่ ถ้าแหวกแรงบางทีอาจกวาดเอาดอกเห็ด ติดมาด้วย ทำให้เห็ดดอกไม่สวย

เมื่อเจอเห็ดต้องแคะอย่างเร่งร้อน

เพราะมีคนมากมายในป่า ใครก็ตามเมื่อผ่านมาเห็นเข้า สามารถเข้ามาแย่งแคะเห็ดได้ทันที ของป่าไม่มีใครหวงใครได้ แม้แต่จะขึ้นในที่ดินของคนพบเห็นก็ตาม

ดังนั้น การแคะเห็ดจึงต้องมีทีเด็ด

ดีเด็ดที่ผู้ชายใช้มากที่สุดก็คือ เมื่อพบเห็ดมากๆ เห็นว่ามีผู้หญิงจะเดินเข้าก็มา ก็ลงทุนแก้ผ้าให้ผู้หญิงอายไม่กล้าเข้ามาแย่ง

บางคนเห็นว่าจวนตัว ทำอย่างไรก็ไม่อาจห้ามคนเข้ามาแย่งได้ จึงใช้วิธีนอนเกลือกกลิ้งทับเห็ด ให้ดอกเห็ดแหลก เมื่อคนไปแล้วค่อยแคะก้านดอกที่อยู่ในดิน

เรียกว่ากำขี้ดีกว่ากำตด

เดี๋ยวนี้คนมากขึ้น การเดินทางคล่องตัวแถมป่ายังหดหาย แต่คนต้องการเห็ดมากขึ้น บางคนรอให้ฟ้าสางไม่ได้ ต้องลงทุนใช้หม้อแบตเตอรี่ต่อหัวไฟฉายส่องไป ตามที่คิดว่าเห็ดจะขึ้น ซึ่งก็ได้ผล

เห็ดที่โผล่ขึ้นมาสีดอกจะขาวนวล เมื่อต้องแสงใจจะสะท้อนแสงเข้าตา

ตลาดค้าขายเห็ดที่โด่งดังที่สุดคือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ถึงฤดูกาลเก็บเห็ดเมื่อใด ชาวบ้านจะนำเห็ดมาขายกันอย่างเอิกเกริก บริเวณซื้อขายมีทั้งในตลาดสด และริมถนนเส้นทางกาญจนบุรี-อู่ทอง

เห็ดโคนสามารถแปลงรูปเป็นอาหารได้หลายอย่าง

ทำได้ทั้งต้มยำ ผัดน้ำมันหอย แกง ดอง แต่เมนูยอดฮิตของชาวเมืองกาญจน์คือ เห็ดแช่เปรี้ยว หรือ เห็ดเปรี้ยว

เป็นเห็ดเปรี้ยวที่นักบินรับมาจากแม่นั่นเอง

การทำเห็ดเปรี้ยวไม่ยุ่งยาก เพียงนำเห็ดโคนที่เก็บได้มา เกลาดินบริเวณโคนออก นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วหมักเกลือไว้สักพักหนึ่ง หรือคืนหนึ่งก็ได้ แต่ยิ่งหมักนานจะยิ่งเปรี้ยว ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหมักประมาณชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก็พอ จากนั้นเอาไปตั้งไฟต้ม กลิ่นของเห็ดจะลอยออกมาหอมยั่วน้ำลาย

การกินเห็ดเปรี้ยวให้อร่อย ต้องหาพริกขี้หนูสดๆมาเคียง

ตักเห็ดพอคำใส่ข้าว หักพริกขี้หนูใส่ไปครึ่งเม็ดแล้วตักกิน แม้จะเผ็ด แต่ความหอมของเห็ด ผสมกับกลิ่นพริกขี้หนูเมืองกาญจน์อันหอมกรุ่น จะทำให้รสชาติของอาหารเกินบรรยาย

ไม่รู้เหมือนกันว่า แม่ของนักบินให้พริกขี้หนูเมืองกาญจน์กับลูกไปหรือไม่ ถ้าได้พริกขี้หนูไปด้วย รับรองได้ว่าความอร่อยจะช่วยให้หายเครียดจากการสอบวินัยได้ไม่มากก็น้อย

เห็ดโคนจริงๆแล้วไม่ใช่มีเฉพาะเมืองกาญจน์ แต่มีทั่วไป ในย่านเดียวกันเช่น จังหวัดสุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบฯ แต่สาเหตุที่เห็ดเมืองกาญจน์ขึ้นชื่อเพราะว่า สภาพดินของป่าเมืองกาญจน์มีความเหมาะสมกับเห็นชนิดนี้กว่าที่อื่น

เพราะความอร่อย หนึ่งปีมีครั้งเดียว อีกทั้งฤดูเห็ดโคนขึ้น ยังเป็นวันคืนที่รวมลูกๆหลานๆออกช่วยกันหาอีกด้วยนี้เอง

ชาวบ้านย่านเมืองกาญจน์ และจังหวัดใกล้เคียงที่ชอบเห็ด เมื่อเห็ดขึ้นเมื่อใด ลูกหลานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สถานะอย่างไรก็มักบอกกล่าวกันให้รู้ หรือไม่ก็ฝากเพื่อนบ้านให้ลูกๆหลานๆได้กิน

การกินเห็ดโคนแท้จริงไม่ใช่แค่รับรสอร่อยอย่างเดียว แต่หมายถึงรับรสแห่งความรัก ความผูกพันเข้าไปด้วย

การร่อน ฮ. ลงรับเห็ด จึงเป็นอารมณ์ที่เข้าใจได้โดยเฉพาะคนที่มี ประสบการณ์ร่วม.

FYI flower haha

จากคุณ : Siamese Girl - [ 8 ธ.ค. 50 13:04:39 ]