ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกข่าวร้ายว่า การสอบ iBT นั้น ถ้าคุณไม่ได้คลุกคลีกับภาษาอังกฤษจนชิน (และเอียน) ในชีวิตประจำวัน หรือว่าถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวสอบอย่างเอาเป็นเอาตาย คุณมีโอกาสน้อยมากที่จะได้คะแนนสูงนะครับ (เช่น 100/120) เพราะว่า
1. reading ของ iBT ยาวและน่าเบื่อ และอาจจะยากด้วยเพราะว่าเป็นเนื้อหาทางวิชาการล้วนๆ อย่างผมให้ไปอ่านพวกวิทย์ผมก็มึนๆ เหมือนกัน แบบว่าเป็นโรคกลัววิทยาศาสตร์โดยกำเนิด เห็นหัวข้อ Ecology หรือ Science พวกนี้ก็ใจหายไป 1/2 นึงแล้ว
2. listening ของ iBT นั้นพูดเร็วระดับปานกลาง แต่ว่ามันยาวมาก (4 เลคเชอร์ เลคเชอร์ละประมาณ 6-8 นาทีต่อเนื่อง) และเนื้อหาเยอะ ยิ่งเจอหัวข้อที่ไม่ชิน ยิ่งหินเข้าไปใหญ่
3. speaking หลายๆ คนได้ยินชื่อก็กลัวแล้วใช่เปล่า จริงๆ มันไม่น่ากลัวว่านะครับในส่วน independent speaking tasks (2 ข้อแรก) และข้อที่เหลือเป็น dependent speaking tasks นั้น ถือว่าหินเอาการ เพราะว่าคุณต้องอ่านเร็ว ฟังเร็ว จดโน้ตเร็ว -- และต้องอ่านลายมือตัวเองให้ออก ฮ่าๆๆ -- ประมวลความคิดเร็ว และนำความคิดเหล่านั้นออกมาเป็นคำพูดที่เป็นภาษาอังกฤษที่มี focus ไม่เลื่อนลอย ... เห้อ ฟังก็เหนื่อยแล้ว
4. writing iBT นั้นหลายๆ คนคงเอียนอีกตามเดิมใช่ป่ะครับ เพราะว่า writing แบบเก่า(สำหรับบางคน)ก็ยากแล้ว แล้วนี่ยังจะมีอีกข้อที่เป็นแบบ อ่านเนื้อเรื่อง ฟังเลคเชอร์ และเอาสองอย่างมารวมกันเพื่อเขียน essay อีก!!! เรียกว่าต้องดีทั้ง reading, listening, และ writing
5. นอกจาก reading, speaking, listening และ writing แล้ว คุณต้องมี notetaking, paraphrasing, summarizing skills ด้วย!!! ขณะที่ฟังคุณต้องรู้ว่าตรงไหนควรจด ตรงไหนต้องจดละเอียดแค่นั้น หรือว่าผ่านๆ พอ
เริ่มต้นที่ข่าวร้ายไปเยอะ ตอนนี้มาข่าวดีมั้งครับ ผมเชื่อว่าแม้แต่ native ก็ทำข้อสอบ iBT ไม่ได้เต็ม ถ้าไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดี นั่นแสดงว่าข้อสอบนั้นมันไม่ได้ทดสอบความสามารถทางด้านภาษาเราอย่างเดียว แต่มันทดสอบทักษะอีกหลายๆ ด้าน นี่หมายความว่าแม้ว่าบางคนจะไม่เก่งภาษาและคิด(แบบผิดๆ)ว่าตัวเองไม่สามารถพัฒนาได้ แต่คุณอาจจะมีทักษะอื่นๆ เล่านั้นที่ดี ซึ่งจะทำให้คุณได้คะแนนดีได้
แหมมีข้อเสียหลายข้อ แต่ข้อดีข้อเดียว ... พูดแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้หมดกำลังใจนะครับ เพราะว่าอย่างที่บอกตอนแรกผมเบื่อและไม่เห็นด้วยกับโทเฟิล iBT เพราะว่าดูมันยากเกินไป แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่ามันเป็นการเตรียมตัวเราให้ดีที่สุดในการเรียนต่อต่างประเทศระดับหนึ่งเลยครับ!! นอกจากนั้นทักษะหลายๆ อย่างที่คุณเรียนรู้จาก iBT นำไปใช้ได้ในชีวิตจริง เช่นถ้าคุณกำลังฝึก speaking คุณจะได้ฝึกการพูดที่มี focus ไปด้วย ไม่ใช่แค่ฝึกให้พูดได้อย่างเดียว (เอาง่ายๆ ครับ เราพูดภาษาไทยบางทียังไม่มี focus เลย อย่างผมเป็นต้น ฮ่าๆ แต่ผมหลังจากผมเตรียมตัวสำหรับ iBT เริ่มฝึกการบริหารความคิดให้เป็นระบบไปด้วย)
เพิ่มเติมจริงๆ มีข้อดีอีกข้อครับ คือข้อสอบจริงนั้น อ. จะพูดช้ากว่าพวก test prep แล้วมี structure ของเลคเชอร์ที่ organized กว่ามากๆ ทำให้เราจดโน้ตได้ง่ายกว่า (แต่บทสนทนาระหว่างนักเรียนกับอ. หรือระหว่างนักเรียนกับเรียนจะเร็วพอๆ กับชีวิตจริงครับ)
แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 50 07:37:51
แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 50 07:35:34
แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 50 07:06:08
จากคุณ :
เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง
- [
13 ธ.ค. 50 07:02:55
]
|
|
|