ความคิดเห็นที่ 1 ประสบการณ์ตัวเองนะค่ะ เริ่มจาก 1. รู้คำศัพท์ให้มากที่สุด 2. รู้จัก Tense / Grammar 3. เอาความรู้ 2 อย่างข้างบนมาเริ่มหัดผูกประโยค 4. ไปเรียนเพิ่มเติมคอร์สสอนภาษากับฝรั่ง เพื่อเอา 1-3 มาใช้ + ทักษะการฟัง 5. หัดอ่านหนังสือ / แมกกาซีนภาษาอังกฤษ เพื่อจำสำนวน + ศัพท์ใหม่ 6. หัดฟัง + ดูหนังฝรั่งให้มาก ๆ เพื่อฝึกทักษะการฟัง และ accent เริ่มจากมี subtitle จนไม่ต้องมี 7. ข้อ 4-6 อาจทำไปพร้อม ๆ กันได้     |     |     |     V ** ได้ครบ 7 ข้อแล้วมารายงานตัวด้วยนะจ๊ะว่าได้ผลแค่ไหน ** แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 50 01:15:54 จากคุณ : Grace - Dusita - [ 16 ธ.ค. 50 01:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเอาแบบสบายๆ ไม่รู้สึกว่ามันยากมากนะครับ ไปซื้อหนังฝรั่งมาดู เอาเรื่องที่ชอบเลย อะไรก็ได้ แล้วดูไปด้วยเปิด subtitle ภาษาอังกฤษไปด้วย (ห้ามโกงเปิด subtitle ภาษาไทย ) แล้วดูซําไปซํามาอย่างน้อยซัก 5 รอบ จนแทบพากษ์แทนตัวละครได้ จะทำให้เรียนภาษาอังกฤษได้ เร็วมาก ถ้าอยากได้ภาษาอังกฤษแบบจะไปเตรียมตัวสอบ แนะนำว่าให้ซื้อหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอ่าน อ่านไปด้วยเปิดดิกไปด้วย อ่านคอลัมน์ไหนแล้วผ่านเลยไม่อ่านซําจะได้ไม่เบื่อ อ่านหมดแล้วไปซื้อฉบับใหม่ พวกบทความที่เอามาออกข้อสอบ ส่วนมากก็มาจากหนังสือพิมพ์ทั้งนั้น โดยเฉพาะจาก The New York Times (อย่างน้อยก็สมัยตอนที่ผมสอบนะ ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไง) ไม่ต้องท่องศัพย์ อ่านไปซักพักจะเริ่มคุ้นเองว่า เอ คำนี้เจอบ่อยแฮะ เปิดดิกคำนี้ซัก 5-6 ทีก็พอจำความหมายได้แล้ว ถึงจำไม่ได้แบบจังๆแต่ก็คงพอเดาความหมายถูกว่ามันแปลประมาณไหน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น อย่างน้อยก็ที่ผมเคยใช้ แต่ไม่ได้หมายความว่าการไปเรียนในห้องเรียนเป็นสิ่งไม่จำเป็น มันได้กันคนละแบบ แต่ที่บอกไปมันแค่ทำให้การเริ่มตั้นง่ายขึ้น ลองดูนะครับ จากคุณ : กินแหลก - [ 16 ธ.ค. 50 09:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนกับที่สถาบันของเราก็ได้ Perfect English With Mr.James ครูเป็นชาวอเมริกัน สอนมาแล้ว 9 ปี ตอนนี้เป็นครูสอนภาษาที่โรงเรียนประจำ และเปิดสถาบันสอนพิเศษที่บ้านควบด้วยจ้า จากคุณ : kiki5 - [ 16 ธ.ค. 50 09:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ภาษาเป็นทักษะ ไม่ใช่แค่เรียน แต่ต้องใช้งานบ่อยๆ ต้องฝึกฝน ขนาดคนที่ไปเรียนเมืองนอก พอมาอยู่เมืองไทยนานๆไม่ค่อยได้ใช้ ยังพูดได้ช้าลงเลย เพราะงั้นตอนนี้ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะสอบเรียนต่อ ก็ใช้แบบวิธีที่ๆหลายๆท่านแนะนำหรือไปลงเรียนในเวลาว่างจากโรงเรียนที่ไหนก็ได้ที่คุณว่ามาน่ะ เอาที่สะดวก เพราะมันขึ้นอยู่กับคนเรียนไม่ใช่ที่สอน ต้องบังคับตัวเอง อย่างเรียนเสริมมันก็แค่วันละชั่วโมง สองชั่วโมง แต่จริงๆแล้วไม่พอ ตอนนี้ทำอะไรก็ให้ใช้ภาษาให้หมด ฟังเพลงฝรั่ง ดูหนังฝรั่ง อ่านหนังสือพิมพ์ฝรั่ง แต่ถ้าคุณจะเรียนเพื่อสอบโทเฟล ไอเอลท์ ถ้าแบบนั้น โรงเรียนสอนนั้นก็ต้องเลือกที่ๆดี จากคุณ : yuy - [ 16 ธ.ค. 50 10:33:48 A:124.121.25.206 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไงก็ได้ให้ได้ใช้ภาษาตามที่คุณข้างบนบอกนี่ละครับ ที่ดีที่สุดก็คือต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราได้ใช้ภาษาตลอด แต่เรามักจะขึ้เกียจครับถ้าไม่ได้มีแรงฮึดจริงๆ จริงๆสภาพแวดล้อมแบบอยู่เมืองนอกบ้านเดียวกับฝรั่งโดยไม่มีคนไทยรู้จักเลย ผมว่าเป็นสภาพที่เหมาะกับการฝึกฝนที่สุด เพราะมันบังคับให้เราคอยฝึกฝนเองตลอด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้หาง่ายๆ หรือหาได้ก็เสียตังค์เยอะครับ จริงๆ ถ้าลองไปเทียวเมืองนอกประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษแบบไปลุยเองก็น่าจะเป็นตัวสร้างแรงฮึดในการฝึกฝนได้นะครับ ลองแบบไปลุยสิงคโปร์อะไรแบบนี้(ใกล้ดี)ซักสามสี่วัน แบบซื้อตั๋วแล้วบินไปเลย แล้วไปมั่วเอา หรือซื้อไกด์บุคภาษาอังกฤษ เช่น lonely planet ติดไปด้วย พร้อมหิ้วดิกไปเล่มหรือทอกกิ้งดิกก็ได้ รับรองว่าจะเกิดแรงฮึดเยอะแน่ๆ ครับ แล้วช่วงที่อยู่รับรองว่าได้ฝึกเต็มที่ไม่จากการหลงทาง ต้องไปถามทางชาวบ้าน ก็จากการนั่งอ่านไกด์บุคนี่ละครับ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 16 ธ.ค. 50 11:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โดนใจค่ะ กระทู้นี้ คิดอยู่เหมือนกันว่าอยากถามแบบนี้เลย ขอแจมด้วยคนนะคะ เราจบตรี ทำงานมาแล้ว 2 ปี แต่จะลาออกต้นปี แล้วกะว่าจะไปเรียนตรีภาษาอีกใบ มนุษยฯ เอกอังกฤษ ที่ราม แบบไม่ทำงานเลยคะ คนรอบข้างก็บอกไม่สมควร อย่างยิ่ง เพราะบางทีมันอาจจะไม่ได้อย่างที่เราคิดก็ได้คะ เลยเบนเข็มว่า งั้นขอไปเรียนปีนังละกัน (ขอให้พูดได้ก่อน สำเนียงค่อยมาปรับอีกที ) คือเราทุนน้อยคะ ไม่มีปัญญาไปอเมริกา หรือยุโรป แบบนี้เราคิดถูกมั๊ยคะที่เราจะไปเรียนปีนัง คือส่วนมากจะบอกว่า ฝึกเอาเองก็ได้ ดูหนังซาวด์ไม่ต้องซับไทเทิล หรืออ่านหนังสือพิมพ์ แต่ลูกฮึดเรามีไม่มากพอคะ เราว่าการได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างนั้นมันช่วยได้เยอะเชียวคะ แล้วก็เรียนรู้ได้เร็วมากด้วย อย่างเคยไปเข้าแคมป์อังกฤษ กับครูฝรั่ง ครึ่งเดือน แบบกินนอน เที่ยว พักที่เดียวกัน เออ ฮึดมากคะ ทำให้เราได้พูด ได้ฟังเยอะ ฟัง ๆ คำไหนฟังไม่ออก ต้องเปิดดิกฯ หาความหมาย เราว่ามันใช้ได้ดีสำหรับต้องการแบบรวดเร็ว ป.ล. แนะนำหน่อยคะ ว่าถ้าจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่ปีนังเนี่ย เวิร์คมั๊ย แล้วที่ไหน น่าเรียนมั้ง ค่าใช้จ่ายเท่าไร หรือมีอะไรเพิ่มเติมแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าเต่า - [ 16 ธ.ค. 50 12:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โดยส่วนตัว รู้สึกว่าอยู่เมืองไทยฝึกยากที่สุดคือพูด เพราะจะพูดอังกฤษกับใคร คนก็หาว่ากระแดะ ถ้าคุณอยากฝึกพูดก็คงต้องหาสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้คุณฝึกพูดได้ เช่นปเรียนที่เอยูเออะไรเงี้ย อย่างน้อยเวลาพูดในคลาสคนเค้าก็ไม่ว่าคุณแล้ว หรือถ้าที่ทำงานมีคนต่างชาติก็อาจจะพยายามตีสนิทกับเค้าหน่อย คุยภาษาอังกฤษกับเค้า บอกเค้าว่าคุณอยากฝึก (เคยทำงานกับอเมริกัน และอังกฤษ แต่พวกเค้าดันอยากฝึกพูดไทยกับเรา เอวัง) แม้กระทั่งเวลาคุณฝึกพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษกับคนไทยที่เค้ารู้หรือพยายามน้อยกว่าคุณ มันก็ยากที่จะพัฒนา เอาง่าย ๆ เลย อย่างเช่นมีคนถามคุณว่า "Do you think she can do it?" คุณบอก "Absolutely" คนหลาย ๆ คน ก็แบบ โห ไอ้นี่มันเว่อร์อะไรเงี้ย เพราะปกติเค้าก็พูดว่า "Yes" เฉย ๆ ส่วนการอ่าน ฟัง เขียน ฝึกได้ด้วยตนเองถ้าตั้งใจจริง อย่างที่คนอื่น ๆ บอก เช่นอ่านมาก ๆ ฟังมากๆ เลือกอะไรที่คุณชอบนั่นแหละ จะได้ไม่เบื่อ ที่ราคาถูกที่สุด คือ ฟังวิทยุภาษาอังกฤษ (ผ่านอินเตอร์เน็ทก็มี จะได้ไม่ต้องสงสัยว่า ดีเจที่เมืองไทยพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอะไร) ส่วนคำศัพท์คุณก็ต้องมีความรู้พอสมควร แต่เราคิดว่าถ้าจะใช้ในการสื่อสาร คุณ "ไม่จำเป็น" ต้องรู้ศัพท์สูง (หมายถึงรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ยังโอเค) การรู้คำแปลศัพท์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้มันถูกต้องเสมอไป อย่างเช่น คนไทยสอนว่า ยางลบ = rubber ใช่มะ มาอเมริกานี่ พูด rubber ฝรั่งสะดุ้งโหยง เพราะ ยางลบ อเมริกันใช้ eraser ในขณะที่ rubber หมายถึง ถุงยางอนามัย -- "Can I please borrow your rubber?" ถูกต้องทุกอย่าง แต่คนข้าง ๆคุณคงฮากระจาย แต่ถ้าอยากได้ศัพท์เยอะ ๆ จากประสบการณ์ของตัวเอง สงวนเนี่ย ติวศัพท์ดีมากๆ แต่เราก็เคยเรียนที่เดียวนะ จากคุณ : Genuine XXX - [ 16 ธ.ค. 50 12:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่าคุณพอจะมีพื้นฐานอยู่บ้าง จึงอยากจะขอแนะนำดังนี้ค่ะ อ่านเยอะๆ อย่างหนังสือพิมพ์ค่ะ เริ่มจากหัวข้อที่คุณสนใจ อาจจะเป็นข่าวที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเดียวกับงานที่คุณทำหรือใกล้เคียง คุณจะพอเดาศัพท์ได้บ้างจากพื้นฐานความรู้เรื่องนั้นๆ  คำศัพท์คำไหนที่ไม่เข้าใจก็เปิด Dict. ทำความเข้าใจ แนะนำให้หาซื้อ Dictionary ดีๆมาเก็บไว้ค่ะ อ่านเยอะ คุณก็รู้ศัพท์ และสำนวนที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเยอะ ฟัง ฟัง ฟัง และฟังเจ้าของภาษาพูด ฟังแล้วแล้วเลียนแบบ แล้วพูดออกมาดังๆเลยค่ะ ให้เส้นเสียงของคุณได้จารึกวิธีการพูดนั้นๆ หูของคุณก็ตรวจไปว่าพูดเหมือนยัง ไม่เหมือนก็ซ้อมใหม่ อย่างการดูหนัง หรือฟังเพลงภาษาอังกฤษ อย่างเพลงเนี่ย ถ้าคุณเอาเนื้อร้องมาเรียนรู้ คุณจะได้สำนวน ได้วิธีการใช้ศัพท์อีกมากโขเลยค่ะ พูด พูด พูด จะผิดจะถูก ก็พูดไปค่ะ เริ่มสนทนา แล้วคุณจะได้เรียนรู้ไปด้วย ว่าเค้าคุยกันยังไง ตอบกันยังไง ถามแบบนี้เค้าตอบยังไง อันนี้มันอ่านอย่างนี้นะ ทุกครั้งที่คุณได้พูดหรือใช้ภาษาจริงๆ มันจะติดจรวดเลยค่ะ คุณจะ pick up อะไรๆจากคนที่คุณคุยด้วย อันนี้ก็แนะนำให้คุยกับฝรั่งที่มีการศึกษาหน่อยนะคะ คิดๆๆๆ เป็นภาษาอังกฤษ เห็นอะไรก็นึกคิดเป็นภาษาอังกฤษดู ถ้าติดตรงไหนที่คิดไม่ออกว่าจะใช้ภาษาอังกฤษยังไง ก็เปิดพวก Activator หรือพวก Word building Dict. หรือ search หาว่าเค้าใช้ศัพท์ว่ายังไง พูดยังไง อันนี้ก็เห็นผลหลายรายแล้วค่ะ สุดท้าย ถ้าพื้นฐานไม่แน่น อ่าน ฟัง พูด เท่าไหร่ ก็ยังไม่มั่นใจ ก็ไปเรียนเพิ่มค่ะ อยากรู้ว่าที่ไหนดี อันนี้ต้องไปลองดูค่ะ ส่วนใหญ่โรงเรียนสอนพิเศษเค้าจะอนุญาตให้เราได้ไปลองนั่งเรียน ลองฟังการสอนของเค้า คุณก็ลองดูว่า คุณฟังแล้วคุณเข้าใจอะไรซักนิดมั๊ย ถ้าไม่ แสดงว่าคุณไม่เหมาะกับหลักสูตรนั้น ก็ต้องลองไปดูหลายๆหลักสูตร หลายๆโรงเรียนค่ะ แต่ละที่หลักสูตรแตกต่างกัน ครูผู้สอนก็ไม่เหมือนกัน บางที่เป็นอังกฤษ ก็สอนแบบอังกฤษ บางที่เป็นอเมริกัน บางที่เป็นออสเตรเลียน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าคุณถนัดสำเนียงไหนด้วยค่ะ ถ้ามีงบหน่อย ก็จ้างฝรั่งสอนเลยค่ะ ได้เรียน ได้คุย เดี๋ยวก็ได้เองโดยธรรมชาติค่ะ โชคดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 50 21:03:23 จากคุณ : GiRLGeNiuS - [ 16 ธ.ค. 50 20:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เก็บเข้าคลังไปเลยค่าเรื่องดีๆ แบบนี้ จากคุณ : ฟ้าฝนไม่เป็นใจ - [ 17 ธ.ค. 50 13:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ  แล้วผมจะลองเอาปรับใช้ดูครับ  ขอบคุณมากครับ... จากคุณ : เจ้าของกระทู้ (D-mand) - [ 17 ธ.ค. 50 16:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ภาษาอังกฎษ  sound track  ดูทุกวันครับพูดทุกวัน ครับ อ่านหนังสือ Text book วิชาการ  ทุกครั้ง  ห้ามแตะ  ห้ามอ่าน หนังสือ ภาษาไทย เป็นอันขาด ครับ  พยายามไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะต้องใช้ภาษาอังกฎษ เช่น เดิน ที่ตรอกข้าวสาร  บ่อยๆ  ถนนสีลม  ถนน สุขุมวิท   แต่ถ้าคุณพื้นฐานไม่ดีเลย แบบผม  เพราะผมก็เป็นเหมือนคุณ  จขกท.ครับ ภาษาอังกฎษก็ยังโง่อยู่ผมก็เลยลง เรียน ป. ตรี ใหม่อีกใบเลยสาขา ภาษาอังกฎษ ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ค่าหน่วยกิต 25บาท/ หน่วยกิต ครับผมว่าคุณน่าจะปูพื้นฐานที่ ไทยนี้ก่อนนะ แล้วค่อยไปเรียน ภาษาอังกฎษเพิ่มเติมอีกที   ที่ต่างประเทศ นี้ก็แค่คำแนะนำนะครับ ลองตัดสินใจดู จากคุณ : okb - [ 17 ธ.ค. 50 16:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ คห.6 ครับ ตามความคิดเห็นผมนะครับ ผมว่าไม่คุ้มที่จะลาออกเพื่อไปเรียนภาษาที่รามฯหรือที่ปีนังครับ ที่ว่าไม่คุ้มไม่ได้หมายความว่าที่รามฯหรือที่ปีนังสอนไม่ดีนะครับ แต่ว่าถ้าคุณลาออกจากงานเพื่อไปเรียนอย่างเดียว น่าเสียดายงานประจำที่ทำอยู่ โอกาสจะหางานอีกไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับในสมัยนี้ ถ้าหากคุณลาออกมาเรียนรามฯโดยโอนหน่วยกิตจาก ป.ตรี .ใบเดิม และตั้งใจเรียนมากๆ สอบผ่านตลอด ก็คงใช้เวลาสองปีกว่าๆมังครับ (ไม่แน่ใจนะครับ ไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว ที่รามฯจะโอนได้กี่หน่วยกิต) แต่ปัญหาก็คือว่า เวลา 2-3ปีนี้ คุณจะขาดอายุงาน/ประสบการณ์ในการทำงานไปทันที่ และความรู้ในสาขาเดิมของคุณก็อาจจะหลงลืมไปได้ เลยกลายเป็นว่าคุณมีวุฒิ ป.ตรีใบแรกแต่อาจจะลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว แล้วถ้าหากคุณออกมาเรียนเอกอังกฤษที่รามฯ แล้วไม่จบ คุณก็คงจะลำบากในการไปหางานใหม่ ถ้าหากเรียนจบได้วุฒิเอกอังกฤษมาแต่ได้คะแนนไม่สูงมาก หรือไม่เชี่ยวชาญภาษามาก จะใช้วุฒิ ป. ตรี เอกภาษาอังกฤษมาหางานก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะปัจจุบันมีคนเรียนเอกภาษาอังกฤษเยอะมากๆ มีเกือบทุกมหาวิทยาลัยแล้วมังครับ นอกซะจากว่าคุณเรียนแล้วพัฒนาภาษาของคุณไปได้จนระดับเด่นมากๆ แต่ถ้าภาษาไม่ได้เด่นมาก นอกจากจะเจอคู่แข่งที่เก่งภาษา จบเอกอังกฤษมาเหมือนกัน ยังต้องไปแข่งกับเด็กที่เรียนสาขาอื่นๆที่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกัน เช่น ถ้า ป.ตรีใบแรกคุณจบบริหารธุรกิจมา แล้วเด็กอีกคนจบบริหารเหมือนกัน แต่น้องเค้าพื้นฐานภาษาอังกฤษดีมากๆเนื่องจากสนใจมาตั้งแต่เด็กๆ หรือเรียนหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ เค้าจะได้ทั้งภาษาและเนื้อหาทางบริหารฯ จบมาสดๆร้อนๆ ยังไม่ลืม แต่คุณจบบริหารมาหลายปี และมาขาดช่วงในการเรียน ป.ตรีใบที่สองอีก ภาษาอังกฤษอาจพอๆกัน แต่เนื้อหาด้านบริหารฯ น้องเค้าอาจแน่นกว่า หรือเรียนรู้เรื่องใหม่ๆมากกว่า เพราะเพิ่งจบมาน่ะครับ ผมเลยคิดว่า น่าจะทำงานไปเรื่อยๆนะครับ ยังไงก็มีงานทำ มีอายุงาน/ประสบการณ์ในการทำงาน แล้วลองแบ่งเวลาไปเรียนภาษาหลังเลิกงาน หรือเสาร์อาทิตย์ถ้ามีเวลา หาหนังสือมาอ่านเสริม ดูหนังฟังเพลง ที่อยากจะแนะนำคือ ลองลงเรียนของสุโขทัยฯ สิครับ มีหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพ (เช่น ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ กฏหมาย การท่องเที่ยว งานสำนักงาน ฯลฯ) ลองเข้าไปดูรายละเอียดดูนะครับ http://www.stou.ac.th/Courses/50/sla/#s12 ค่าเรียนถูกมากครับ แต่ถ้าไม่อยากลงเรียน ก็ลองไปซื้อหนังสือกับเทปของรายวิชาต่างๆของภาษาอังกฤษมาอ่านดูครับ ผมว่าทางคณะผู้เขียน ทำบทเรียนและเทปประกอบการเรียนการสอนได้ดีมากๆที่เดียว ผมคิดว่า ถ้าคุณลองจัดเวลาในการเรียนและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะพัฒนาภาษาไปได้เรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน คุณก็ยังคงมีงานทำ มีรายได้สม่ำเสมอ ไม่ลืมความรู้ในสาขาที่คุณเรียนมาหรือกำลังทำงานอยู่ เพราะคุณยังได้ใช้อยู่ทุกวันนะครับ ภาษาอังกฤษที่คุณเรียนเพิ่มมา จะเป็นตัวเสริม ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ จากคุณ : กำลังฝึกอยู่เหมือนกัน - [ 18 ธ.ค. 50 04:01:26 A:212.219.74.11 X: TicketID:144076 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ อย่าเน้นแต่ว่ารู้คำศัพท์อย่างเดียวค่ะ มันจะเหนื่อยเกิน การเข้าใจไวยากรณ์ (grammar) มีส่วนช่วยให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้น สมมติว่าดูหนังหรืออ่านหนังสือพิมพ์ ถ้ารู้ grammar รู้รูปประโยค จะช่วยให้เข้าใจง่ายและเร็วขึ้น จนบางทีพอเดาได้ว่าเค้าพูดถึงอะไร ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกคำว่าแปลว่าอะไร นอกจากอยากรู้จริงๆว่าคำนั้นแปลว่าอะไรหรือคำที่เราไม่รู้มันสำคัญจริงๆก็เปิดดิกดู เราเคยใช้วิธีดูหนังไม่เปิด subtitle หรืออ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ จดศัพท์ไว้ท่องมากมาย แต่ภาษายังไม่ดีขึ้นเพราะใช้ไม่เป็น รู้แต่คำแปล (หรือเพราะเราใช้เวลากับมันไม่นานพอ ไม่รู้แฮะ) ในที่สุดไปลงเรียนคอร์ส Toefl ทบทวนทุกวัน มันก็ค่อยๆดีขึ้นและรู้สึกว่าเรียนได้เร็วขึ้นเพราะเข้าใจภาษามากกว่าแค่จำคำศัพท์ค่ะ จากคุณ : The Starry Night - [ 18 ธ.ค. 50 18:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 http://www.bbandc.ac.th/ จากคุณ : thiengghum - [ 19 ธ.ค. 50 20:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณคห 6 คะ ถ้าทุนน้อยไม่ลองไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาหรือปท.ที่พูดภาษาอังกฤษดูล่ะค่ะ มีคนไปเห็นการพูดกับพูดดีขึ้น แต่แกรมม่าก็ยังเหมือนเมืองไทย ลองเสิร์ชหาข้อมูลดูนะคะ ถ้าสถานที่เรียนอยากแนะนำที่ enconcept ค่ะ เพราะเราไปเรียนที่นี่แล้วดีค่ะ เค้าจะสอนจำศัพท์เป็นเพลง ก็ติดหัวดี ลองเข้าไปอ่านข้อมูลในเวปเข้าก่อน ว่าเราสนใจคอร์สแบบไหน แล้วก็ไปลองเรียน www.enconcept.com ส่วนการสนทนานั้น อยากให้หาที่เรียนกับเจ้าของภาษาค่ะ จะได้ผลที่สุด แกรมม่ากับศัพท์ ก็เรียนกับครูไทย เดี๋ยวให้เวปไว้แล้วลองเข้าไปอ่านดู www.yindii.com เค้าจะส่งบทเรียนมาให้ทุกอาทิตย์ www.englishtown.com อันนี้เข้าไปสมัคร เค้าจะส่งบทสนทนาออนไลน์มาให้เกือบทุกวัน อยากแนะนำว่าภาษาอังกฤษต้องสั่งสม แล้วใช้เวลา ต้องขยันฝึก พยายามขยันอ่านทุกอย่าง โฆษณา คำบรรยายสินค้า อ่านให้หมด จะได้รู้วิธีการเขียน การใช้คำที่เค้าใช้จริงๆ จากคุณ : peer - [ 24 ธ.ค. 50 06:27:12 A:124.120.161.74 X: TicketID:010102 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราก็กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่เหมือนกันจ้ะ ฟัง soundtrack อย่างน้อยวันละเรื่อง ฟังรายการวิทยุเป็นภาษาอังกฤษ ฟัง VOA special English, อ่านหนังสืออ่านเล่นภาษาอังกฤษ  ฝึกคิด ฝึกพูด ฝึกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แต่ยังฝันเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้จ้ะ เราไปสมัครเป็นสมาชิกของ I-ZONE ที่ British Council ดีมากเลย ยืมหนังสือ เทป cd video กลับมาอ่าน, ฟังที่บ้านได้ด้วย ถ้าใครจะสอบ IELT ที่นี่มีอาจารย์ให้เราฝึก speaking ด้วยจ้ะ เราไปเจอเว็บดีๆ ให้download หนังสือฟรีมาแนะนำด้วยล่ะ เว็บนี้ชื่อว่า Noble Path (http://www.noblepath.info/index.html) เพื่อนๆ สามารถ download หนังสือที่อาจาย์ David Holmes แต่งได้ฟรีจ้ะ ในรูป pdf files (เรา load มาเรียบร้อยแล้ว) อาจารย์เคยสอนที่ University of Maryland's Munich Campus, ที่จุฬาฯ และที่มจธ.ด้วยนะ เป็นอาจารย์ที่อุทิศตนให้การสอนภาษาอังกฤษอย่างมากคนหนึ่งเลยล่ะ หนังสือภาษาอังกฤษที่ให้ download ได้แก่ Speaking Activities for the Classroom, Idioms and Expressions , Poetic Traditions and Tools, Sayings and Words of Wisdom in English  หรือถ้าสนใจเกี่ยวกับศานาพุทธก็มี Buddhist Sayings in English, Dhamma Sayings for Conversation and Discussion,   หวังว่าเพื่อนๆ คงชอบเว็บนี้เหมือนเรานะ ช่วยๆ กันส่งต่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยากฝึกภาษาอังกฤษด้วยนะ อันนี้เป็นเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จ้ะ จากคุณ : Flowery (Flowery) - [ 26 ธ.ค. 50 22:37:28 ]