ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้เราอยู่ซาอุนะที่ริยาดนะ ที่นี้เราว่าเขาเคร่งศาสนามาก เวลาออกจากบ้านผู้หญิงต้องใส่ชุดดำตลอด การจราจรที่นี้เเย่มากเหมือนคนที่ไม่รู้กฎจราจร ผู้หญิงทำงานได้เฉพาะในโรงพยาบาล โรงเรียน นอกนั้นทำไม่ได้ ขนาดพวกน้ำหอม เครื่องสำอาง ชุดชั้นใน ผู้ชายขาย เรามาวันเเรกเห็นแล้วตกใจหมดเลย จากคุณ : la pomme - [ 29 ธ.ค. 50 19:58:05 A:2.2.2.9 X:213.166.130.78 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตะวันออกกลาง แยกออกเป็นหลายประเทศครับ เอาแบบที่เคยไปก็แล้วกัน ซาอุ=ดี ชอบ เคร่งศาสนาดี ขโมยขโจรน้อย  ไม่มีอบายมุข เจริญพอสมควร (ประเทศนี้น่าจะเหมาะกับมุสลิม ส่วนศาสนิกอื่น คงอึดอัดมากพอสมควร) เอมิเรต = ก็ประเทศดูไบที่คนไทยรู้จักนั้นแหละ ต้องมีเงินมากๆครับ ถึงจะอยู่ได้ มีทุกอย่าง คนต่างชาติ (ปากี อินเดีย ปินอย อิหร่าน) อยู่เยอะไปหน่อย น่าอยู่แต่ให้อยู่เป็นปีๆก็ไม่เอาเหมือนกัน กาตาร์ บาหเรน คูเวต โอมาน = ไม่มีอะไรดึงดูดให้อยากไปเที่ยวเลย แหล่งชอปปิ้งน้อย มีแต่ทะเลทราย ข้าวของก็แพง แต่ถ้าไปทำงาน คงได้ตังค์เยอะอยู่ จอร์แดน = น่าไปเที่ยวที่สุด มีแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของศาสนา คริสต์ และ อิสลาม อยู่เยอะ ช่วงหน้าหนาวอากาศดีถึงหนาวมาก หน้าร้อน ก็ร้อนตับแลบ ผู้คน อัธยาศัยดี แต่ข้อเสียคือ ข้าวของราคาแพง และน้ำเป็นของหายาก ซีเรีย = ผู้คนอัธยาศัยดี มีเฟรนลี่ และหน้าตาดี มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้ง หิมะ ชายทะเล ภูเขา เมืองเก่าโรมัน เมืองหลวงเก่า และสินค้าราคาไม่แพง เป็นประเทศที่น่าเที่ยวอีกประเทศหนึ่ง เลบานอน = หรือ ปารีสแห่ง โลกอาหรับ เบรุตเป็นแหล่งแฟชั่นและเพลงป๊อป ขึ้นชื่อเรื่องสถานตากอากาศชายทะเล ผู้คนเป็นแบบยุโรปสไตล์ แต่ตอนนี้การเมืองยังไม่นิ่ง ปาเลสไตน์= ประวัติศาสตร์ของอิสลามและคริสต์ยาวนานน่าศึกษาและไปเยี่ยมชม แต่ก็กลัวเรื่องความปลอดภัย อิสราเอล =บ้านเมืองทันสมัย แต่ก็กลัวเรื่องความปลอดภัย อิรัค = ถ้าให้ไปเที่ยวอิรัคเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ก็น่าไปประเทศหนึ่ง แต่ตอนนี้ จ้างก็ไม่ไป เยเมน = บ้านเมืองแปลกตาดี แต่ประเทศยังไม่ค่อยเจริญ พึ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน ผู้คนยังยากจนอยู่มาก อิหร่าน= ยังไม่เคยไป และอยากไปเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 50 22:03:06 จากคุณ : Air Nanas - [ 29 ธ.ค. 50 22:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^^ ^^ อ่านดูก็รู้ว่า คห. 2 ตอบอย่างรู้จริง และ เคยไปมาจริง เราอยากไป "จอร์แดน" (อยากไปดูเมืองเพตรา) กับ "อิหร่าน" (อ่านเรื่องสมัยจักพรรดิ์ซาห์ กับ จักรพรรดินีฟาร่าห์ แล้วหลงไหลวัฒนธรรม และ ศิลปะเปอร์เชี่ยน ) สองประเทศนี้มากกกกกกก ...... เกือบจะได้ไปทั้งสองที่แล้นนน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่จองตั๋ว จ่ายค่ามัดจำโรงแรมที่ปท.อื่นไปแล้น เลยอดไป (ไปโมร๊อคโค กับ ภูฏาน มาแทน) คาดโทษเอาไว้ ว่าถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่และทุนทรัพย์ในการท่องเที่ยวของช่วงนั้นอำนวย จะต้องไปเยือนสอง ปท.นี้ให้ได้เลยส่วนที่อื่นๆ ใน ตะวันออกกลางเฉยๆ ไม่นึกอยากไป เคยไปก็แค่สนามบินดูไบ อิรัค ก็อยากไป แต่ประเทศนี้คงได้แต่แค่ไปดูในพิพิธภัณฑ์ลูร์ฟ, ปารีส ดูพวกศิลปะบาบีลอน (ม่ะใช่ Babylon Sauna ที่พวกเพื่อนสาวพวกเกย์เขาไป จุด จุด จุด กันที่กรุงเทพฯ นะ   ) เมโสโพเทเมีย (Mesopotamia) แห่งลุ่มน้ำไทกริส-ยูเฟติ๊ส  (The Tigris and Euphrates)   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ พูดถึงตะวันออกกลาง ทำให้เรานึกถึงเพื่อนฝรั่งของเราสองคน ............  คนแรกเป็นเพื่อนผู้หญิงชาวอังกรึด อดีตสามีของเธอเป็น Expat และ ครอบครัวนี้เคยไปอยู่ที่ซาอุดิอารเบีย (พ่อ-แม่ของเพื่อนผู้หญิงของเราคนนี้เคยเป็น Expat อยู่กรุงเทพฯ เป็นเพื่อนสนิทรุ่นใหญ่ของเรา เรากับเพื่อนผู้หญิงคนนี้จึงสนิทกันเหมือนพี่น้องเพราะเธออายุน้อยกว่าเราแค่ 4 ปี ) เธอเป็นคนมีความรู้ ตอนอยู่ที่อังกฤษเธอทำงานในสำนักงานทนายความ เพราะเรียนจบมาทางด้านกฏหมาย และ มีปริญญาอีกใบทางด้านภาษาฝรั่งเศส ตอนที่ย้ายไปอยู่ซาอุดิอารเบียเธอเป็นแม่บ้านเฉยๆ อยู่ได้ 1 ปี น้ำหนักของเธอขึ้นมา 13 กิโลกรัม เธอเป็นโรคเครียด จึงหาทางออกด้วยการรับประทาน เครียดเพราะเกลียดซาอุดิอาระเบีย เกลียดการใช้ชีวิตที่นั่น ทะเลาะกับสามีทุกวัน จนทั้งคู่ตัดสินใจกลับอังกฤษ หลังจากกลับมาอังกฤษ เธอป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอยู่หลายปี จากนั้นหย่ากับสามี และ เคยพยายามฆ่าตัวตายหลายหน เพื่อนเราคนนี้เสียชีวิตไปได้ 1 ปีกับ 3 วันพอดีแล้นนน เพราะเธอเสียเมื่อวัน Boxing Day (26th Dec'06) ..........จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้นนนน พ่อ-แม่เธอทำใจไม่ได้ ไม่สามารถบอกใครได้ด้วยตัวเอง จึงวานให้เพื่อนสนิทอีกครอบครัวหนึ่งส่งอีแมว แจ้งให้เพื่อนๆ ทุกมุมโลกทราบ .....จำได้ว่าพอเราอ่านอีแมวอันนั้นแล้นนนน นั่งร้องให้อยู่หน้าคอมฯ ตั้งนาน มีของขวัญชิ้นหนึ่งที่ได้มาจากเพื่อนคนนี้ ที่เราเคยใช้ตลอด คือ นาฬิกาปลุกรูปมัสยิดสีชมพูสดใส ที่เวลาปลุกจะร้องโหยหวน ดังลั่นบ้าน เป็นบทสวดมนต์มุสลิม ...... ใครได้ยินแล้วไม่ตื่นก็ให้มันรู้กันปายยยย   ตั้งแต่เพื่อนเสียชีวิต เราเอาถ่านนาฬิกาออก ไม่เคยอยากฟังเสียงนาฬิกาปลุกอันนั้นอีกเลย เพราะทำให้นึกถึงเพื่อน ทุกวันนี้นาฬิกาอันนี้ตั้งอยู่ที่โต๊ะในห้องนอน เอาไว้ให้มองแล้วนึกถึงความร่าเริงสนุกสนานของเธอ เพราะเพื่อนคนนี้เวลาที่ไม่เศร้า ไม่ป่วยแล้วนั้นเธอเป็นคนที่ Witty มากๆ และ ตลกแบบอังกฤษเอามากๆ เลย ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++  ส่วนเพื่อนฝรั่งอีกคนหนึ่งเป็นผู้ชาย มีอาชีพเป็นกัปตันขับเครื่องบิน Private Jet ให้มหาเศรษฐีซาอุฯ นั่ง ทั้งเพื่อนและนายของเพื่อน Base กันที่เมืองไทยนี่แหละ แต่ก็บินไปรอบโลกเลย ทั้งอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เพื่อนเราคนนี้เกลียดมากเวลาที่ต้องไปซาอุฯ บางทีไปแค่ 5 วัน 10 วัน ก็บ่นมาทาง Skype แล้นนนน ว่าน่าเบื่อมาก อยากกลับกรุงเทพฯ He บอกว่าไม่หนุก ดื่มเหล้า ดื่มไวน์ไม่ได้ ผู้หญิงก็ไม่มี ไม่ได้ xxx เหงาJu (เปนเพื่อนผู้ชายชนิดที่คุยกันได้ทุกเรื่อง รู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้นนน ) แต่เพื่อนก็เล่าให้ฟังนะ ว่ามี Shopping Mall มีร้านอาหาร International อะไรพวกนี้ ร้านกาแฟ Starbucks ยังมีเลย แต่ยังไง ยังไงเขาก็ยังไม่ชอบไปซาอุฯ อยู่ดี แต่ He จะชอบมากถ้าเป็นเดือนรอมฏอน เดือนถือศีลอดเนี่ย เพราะแค่ขับเครื่องบินไปส่งนาย ที่ซาอุฯ แล้วเอาไปทิ้งไว้ 1 เดือน เพราะเจ้านายจะไม่ออกนอกประเทศซาอุฯ ช่วงนั้น เพื่อนเราก็กระดี๊ กระด๊ามาก ได้อยู่กรุงเทพฯ นาน ไม่ต้องขับเครื่องบินร่อนไปรอบโลก  ไม่ต้องแวะไปริยาร์ด หรือ เจ๊ดด้าห์ +++++++++++++++++++++++++++++++++  เศรษฐีตะวันออกกลางที่รวยนี่เขารวยกันจริงๆ อย่างเจ้าชายซาอุฯ ที่ชื่อเจ้าชายอัลวาลี๊ด คนที่เพิ่งสั่งซื้อ Airbus A380 Super Jumbo มาใช้ส่วนตัวเป็นคนแรกของโลกนั่น เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งบริจาคเงินให้พิพิธภัณฑ์ลูร์ฟ ที่ปารีส ไปเกือบ 20 ล้านยูโร เครื่องบินของเจ้าชาย ข้างในนั้นก็จะมีโรงหนัง ห้องประชุม สปา ห้องนอน บาร์ ห้องออกกำลังกาย พร้อมสรรพ เพื่อนเราที่เป็นกัปตัน เป็นคนไปรับคนออกแบบภายในเครื่องบินที่เป็นคนเยอรมันมาจากเยอรมัน มาเฝ้าเจ้าชายที่ซาอุฯ เมื่อเดือนที่แล้นนี่เอง ก็มีเรื่องมาเล่าแจมด้วย แค่นี้แหละค่ะ   ++++++++++++++++++++++++++++++++++   เมืองมรดกโลกมหานครศิลาสีชมพู "เพตรา" แห่งจอร์แดน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และ แรงบันดาลใจ ในการสร้างภาพยนตร์ชื่อก้องโลกอย่าง "อินเดียน่า โจนส์" รายละเอียด ที่มาที่ไป ประวัติ หาอ่านได้จาก............... Petra http://en.wikipedia.org/wiki/Petra New Seven Wonders of the World http://en.wikipedia.org/wiki/New_Seven_Wonders_of_the_World FYI     แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 50 02:00:46 จากคุณ : Siamese Girl - [ 30 ธ.ค. 50 01:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบๆ เดี๋ยวตาม link ไปเลย ดูน่าค้นหาดี จากคุณ : White River - [ 30 ธ.ค. 50 13:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ จากคุณ : Gigolina - [ 8 ม.ค. 51 01:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ La pomme ค่ะ, อยากรบกวนสอบถามเรื่องขอวีซ่าไปซาอุด้วยค่ะ สามีเป็นวิศวกรจะไปอยู่ที่ริยาร์ด ตอนนี้กำลังรอเอกสารทำวีซ่าจากที่ทำงานอยู่ ถ้าภรรยาจะตามไปอยู่ด้วยต้องทำวีซ่ายังไงค่ะ ยุ่งยากไหม อยากได้ข้อมูลมากๆเลยค่ะ เคยโทรไปถามที่สถานฑูต เค้าก็บอกให้ส่งเอกสารมาคร่าวๆ ก่อน เลยงงๆ ไม่เคลียร์ค่ะ gebindra@hotmail.com ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : gebindra - [ 20 ม.ค. 51 11:20:27 A:124.121.89.196 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิดให้ดีก่อนนะคะ หากจะไปอยู่ซาอุ  เพราะว่า ซาอุ เนี่ย ก็เคร่งที่สุด ( ในบรรดา ประเทศมุสลิมค่ะ ) แต่ อย่า อย่าคิดว่า คนจะเป็นแบบ เลอเลิศ เคร่งศาสนาจัด  ผู้ชายพวกนี้ อยู่ประเทศ ตัวเองไม่ทำค่ะ ( เพราะว่ากฏหมายแรง ) แต่ว่า จะมาแสดงออกเวลา เค้าไปอยู่ ปท อื่นค่ะ ที่สาธารณะ ( เช่น ห้าง ) บางแห่ง ที่ซาอุ ก็ แยกชายหญิง ค่ะ เดินด้วยกันไม่ได้เลย ยิ่งถ้าเป็น เอ็กซแพท ก็ อย่าหวังค่ะ ยิ่งเป็นต่างชาติ จะออกไปไหน นี่ต้องพกทะเบียนสมรสด้วยค่ะ  ผู้หญิง ไม่ควรออกไปข้างนอกคนเดียว ( อาจมีตำรวจมาเรียกถามได้ ) คือว่า ตามวัฒนธรรม มุสลิมนั้น เค้าจะต้องไปไหนมาไหน กับสามีค่ะ หรือไม่ก็ ลูกชาย พี่ชาย น้องชาย อะไร ก็ได้ที่เป็นผู้ชาย ( ที่เป็นญาติ ตนเองอ่ะ ) ฉันใด ฉันนั้น  คนซาอุ จึงมาระบายออกที่บาห์เรน เยอะมาก ๆๆๆ เยอะ โคตร ๆๆๆ  ห้างไหนๆ ก็ มีแต่ซาอุ พาเมียมาเที่ยว ( มาเดินด้วยกัน ได้ ) ผู้ชายจะแต่ง ธรรมดา สมัยนิยม ผู้หญิง ก็ยังคง ปกปิดหน้าตาเหมือนเดิม  เพราะว่า วัฒนธรรมเค้า  ให้ใครดูไม่ได้นะ  ให้สามีดูคนเดียวเท่านั้น แขน ก็ไม่ได้ ผิวหน้า ก็ไม่ได้ ด้วยเหตุฉะนี้  ผู้ชายแถบ ตะวันออกกลาง จึงหื่นมาก  หื่นกว่าชาติอื่น ๆ  หมายถึง   มีลักษณะ อัน สังเกตุได้เลย คือ หื่น แต่ไม่ทำอะไร ( เพราะ กฏศาสนาแรง อย่างที่บอก ) แต่ขอให้ได้มอง หากคุณแต่งตัวธรรมดา ( ไม่คลุมเชลล่าห์ ) เค้าก็จะมองคุณแบบ ขอกลืนกินไปทั้งตัว  เพราะฉะนั้น คุณจะไม่อยากออกจากบ้านเลย พอออกจากบ้านปุ๊บ แม้ว่า คุณไม่เป็นมุสลิม คุณก็อยากจะ "เอาถุงคลุมหัว" ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เพราะผู้ชาย ทุกคน ย้ำ ทุกคน  ถ้าเห็นผู้หญิงแค่ แต่งตัว ธรรมดา เดินมาแล้ว ก็จะมอง ๆๆๆๆๆ  คือ สมมุติว่า เราอยู่ให้ห้าง โซน ผ้าอนามัย แต่พอดี มีผู้ชายหื่น ๆ มันเดินมา เจอเรา ( พอดีเราแต่งตัวดีด้วยอ้ะ ดีแบบ สวยเรียบร้อย ย้ำ เรียบร้อย เพราะเรารู้ตัวเสมอว่าเราอยู่ใน ปท มุสลิม ) โน่น มันหยุดเลย  ไม่ไปไหนเลย  เรียกเพื่อนมายืนดูด้วยต่างหากมายืนกันเข้าไป ไม่รู้ว่าจะซื้อแคร์ฟรี ด้วยหรือเปล่า เจอบ่อยเลย  บางที่ พวกแอร์โฮสเตส (คือ เธอเหล่านี้จะสวย และ ดูดีอยู่แล้วซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูไม่ได้ ในสังคมมุสลิม เพราะ จะเจอแต่ผู้หญิงคลุมหน้า หรือไม่ก็ผู้หญิงอ้วน ) เวลาพวกเธอกำลังเลือกของอยู่  ผู้ชายหื่นมาเจอ  ก็ จะมาหยุดดูผลิตภัณฑ์ นั้นด้วย ( ปล มาสคาร่า  จะมาดูทำแป๊ะ อะไรวะ ) คือ ไม่มีมารยาทค่ะ แขกรวย มีสกุลรุนชาติ ไม่เท่าไหร่  แต่  แต่ ขอบอกว่า ชนชั้น แรงงาน ก็เยอะมาก  ปากีสถานงี้ อินเดีย งี้ บังคลาเทศงี้ คนซาอุ มีที่ระบายออก คือ  บาห์เรน  ดูไบ  อาบูดาบี แล้วก็ กรุงเทพ นี่เอง คน อาหรับ เค้าจะมอง แต่ว่าประเทศที่เจริญ คือ อเมริกา กับ ยุโรป  แต่ไม่รู้จัก ประเทศแถบ เอเชีย เลย มองว่า กรุงเทพ เป็นที่เที่ยวผู้หญิงอย่างเดียว ( เพราะเวลามา  ก็เล่นมาทำแต่อย่างนั้น  ) อันนี้ พูดเรื่องจริง แต่ไม่เคยรู้เลยว่า กรุงเทพ นั้น เจริญกว่า บ้านตัวเองมาก ( นอกจากพวกที่เคยมาเที่ยวแล้ว )  ด้วย พฤติกรรมที่ว่า เวลามาเที่ยวไทย ต้องมาเที่ยวผู้หญิง  พวกเค้าก็เลย มีทัศนคติ ที่ว่า ผู้หญิงไทย เป็นอะไรที่ต่ำต้อย ( ไม่เลอเลิศเหมือนอาหรับ ) แต่เลอเลิศ แล้วทำอะไรได้ รือ  ทำงานก็ไม่ได้ จนต้องใช้แรงงาน ต่างชาติทั้งสิ้น ( งานบริการ เช่น พนักงานเสริฟ์ พนักงานต้อนรับ )  แล้ว ยังไงล่ะ  อยากเปิดประเทศ  อยากพัฒนาประเทศ หากจะพัฒนา แต่ยังทำตัวอย่างนั้นอยู่ ( เก็บผู้หญิงไว้ที่บ้านอย่างเดียว ) มันก็คงกระไร อยู่ ดังนั้น ดูไบ จึงเป็นสถานที่ ที่คุณจะเห็นผู้หญิงมุสลิม แต่งธรรมดา  และ เป็นพนักงานขาย  ( ที่โดฮาไม่มีเลย ) อ้อ ที่บาห์เรน ผู้หญิงก็ทำงานค่ะ ทำงานบริการ ก็มี แต่ จริงๆ ที่คุณจะเจอ พนักงานขาย ชุดชั้นในเป็นผู้ชายค่ะ  อินเดีย ด้วย ดำ ๆๆ แก่ ๆๆ ด้วย คือเค้าจะเป็น พนง ของห้างน่ะ ไม่ได้มาแนะนำอะไรหรอก ( ไม่มี  ไม่มีอาชีพนี้ ) ก็เลือก ๆ แล้วไปจ่ายตังค์อย่างเดียว ที่เที่ยว แถบ ๆ นี้ ก็ไม่ค่อยมีหรอก  หากคุณมาจากประเทศ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ( เช่นไทย ) ที่นี่ ก็มีแต่ห้าง ไปบาห์เรนมาเมื่อไม่นานมานี้  เค้าลือนักลือหนา ว่า ต้องไป พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของบาห์เรนนะ  ก็ไป  เพราะ ประเทศแถบนี้ ไม่มีอะไรให้ดูจริงๆ  มีแต่ห้าง  อ้อ ยกเว้น โอมาน ยังมี พื้นที่ ที่มีป่ามีภูเขา มีถ้ำอยู่บ้าง   ต่อ ก็ไปพิพิธภัณฑ์มา  แต่  อย่างที่บอก  ด้วยความที่ ไทย มีอะไร ดี ๆ หลายอย่าง  เยอะมาก  เยอะ โคตร ๆๆๆ  ก็ไม่รู้สึกอะไร ที่นี่ มีชานหาด แต่เล่นน้ำไม่ได้ ผู้หญิง มุสลิมเล่นน้ำ ก็ต้องมีสามีอยู่ข้าง ๆ  ใส่ชุดเชลล่าห์ ลงทะเลด้วย   หาก ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ  เค้าก็จะใส่ชุดปกติ  แม้แต่ในสวนน้ำ  จะไม่มีใครใส่ชุดว่ายน้ำ อย่าง เด็ดขาด  อยากใส่ชุดว่ายน้ำลงสระ ต้องไปว่าย แถว โรงแรมพวกห้าดาว อิหร่าน หรือ ประเทศมุสลิม อื่น ๆ หากเป็นหญิงโสด  ก็ค่อนข้างจะขอวีซ่าได้ยาก  หรือ ถ้ามาจากเอเชียแล้ว ( ที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น ) ก็ แทบจะไม่ได้วีซ่าเลย นอกจาก ตามสามี เท่านั้น ความสัมพันธ์แบบ สามี ภรรยา เท่านั้น ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกกฏหมาย หากมีแฟน ( แม้ว่า คุณทั้งคู่จะไม่ได้เป็นมุสลิม ) ถ้ามาการ์ตา พักโรงแรมห้องเดียวกันไม่ได้นะ  ไปไหน ต้องพกทะเบียนสมรสด้วย ที่ดูไบ หรือ อาบูดาบี หากเป็นแฟนกัน ( ปล เช่น คนไทย บางคู่ ก็เป็นแฟนกันจริงจัง แต่ไม่นิยมจดทะเบียน หรือ ยังไม่ได้จดทะเบียน ) อยากพักด้วยกัน ต้องโรงแรมห้าดาวเท่านั้นจ้ะ  เช่น เชอราตัน ทีบาห์เรน มีที่เที่ยวกลางคืน มีผับ มีบาร์ มีเหล้า  ก็จะพบเห็นแขก "แอบแตกแถว" ด้วยความที่บางคน อยู่ประเทศตัวเอง หรือ สังคมตัวเอง เคร่งมาก พอมาเจอ "สิ่งยั่วยุ"  แถบบาห์เรน บางคน ก็คุมตัวเองไม่อยู่  อยู่ในภาพ "เมา" ทั้งๆ ที่ใส่ชุดแขกนั้นอยู่ ( โดยความเห็นส่วนตัว ชุดแขกอาหรับนั้น เป็นชุดที่ทำให้เรารู้ทันทีว่า เป็นมุสลิม และก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่า มุสลิมที่นี่ เค้าไม่กินหล้ากัน ) คือ จริงๆ ที่ไหน ก็ไม่กินทั้งนั้นแหละ  แต่คนที่แอบกิน ก็มีอยู่ สรุปว่า สิ่งที่ เป็นจุดขายได้ ก็ บ้านเมืองสวย ๆๆๆ  จัดระเบียบดี  แต่ควรมาหน้าหนาว เพราะว่า หร้าร้อน ก็ สี่สิบ ถึงห้าสิบองศา จ้ะ   ค่าแท็กซี่ ที่ดูไบ  อาบูดาบี ก็ไม่แพง แต่ที่บาห์เรน แพงมากจ้ะ จากคุณ : Freedom of Life - [ 22 ม.ค. 51 03:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อนวิศวกร ฟิลลิฟปินส์ บอก ว่า ประเทศเดียวที่ขอไม่ไป คือซาอุ เพราะ ไม่มีโบสถ์  และเขาเป็นคนกลัวผี จากคุณ : supanut01 - [ 4 ก.พ. 51 13:16:22 ]