ความคิดเห็นที่ 1 หนังสือเชิญจากเจ้าบ้านกับหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายเป็นใบเดียวกันคับ เรียก เป็นภาษาเยอรมันว่า  Verpflichtungserklaerung เป็นใบที่ทางคนเชิญจะ ต้องได้รับการพิจารณาแล้วว่าสามารถรับรองผู้ไปเยี่ยมเยือนได้จิง ทาง Auslaenderbehoerde จึงจะออกใบเชิญ+รับรองค่าใช้จ่ายมาให้ ทั้งนี้ใบเชิญ นี้สามารถที่จะระบุว่าจะเป็นการรับรองแค่ที่พักอาศัยหรือรับรองค่าใช้จ่ายทั้ง หมดด้วยก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเขียนอะไรขึ้นมาใหม่เนื่องจากมี ฟอร์มอยู่แล้ว ส่วนหนังสือรับรองความสัมพันธ์นี้ไม่แน่ใจนะคับ ไม่เคยทำเหมือนกันแต่ที่ คิดคือ อะไรก็แล้วแต่ที่สามารถนำไปเป็นหลักฐานความสัมพันธ์ว่าติดต่อกัน เช่น พวก email จดหมาย โปสการ์ด รูปถ่าย ฯลฯ ส่วนว่าจะเขียนขึ้นมาเป็น จดหมาย ก็คิดว่าคงทำได้เช่นกันนะคับ ยังไงรอผู้รู้ท่านอื่นต่อไปว่ายังไงนะคับ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 51 21:12:55 จากคุณ : bertiebotts4 - [ 10 ม.ค. 51 21:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ ขอถามต่ออีกนิดได้ไหมค่ะ แล้วใบเชิญใบเก่าเมื่อ6เดือนที่แล้วใช้ได้ไหมค่ะ แต่คิดว่าไม่ได้แล้วมั้งค่ะเพราะว่าเขาระบุวันมาค่ะ ไหนๆก็ถามแล้วขอถามต่ออีกนิดน่ะค่ะ แหะ! แหะ! แล้วต้องใช้ใบเอกสารการันตีตัวเขาเองจากสถานนีตำรวจที่เยอรมันหรือปล่าวค่ะ เข้าไปเช็คในเวปสถานทูตไม่เห็นมีบอก แต่ว่าเคยไปอ่านในบางเวปเขาบอกว่าต้องใช้ค่ะ เคยไปขอวีซ่ามาครั้งนึงเมื่อ6เดือนที่แล้ว ไม่ผ่านค่ะ เพราะมีปัญหากับเงินในบัญชี เลยต้องมาตั้งหลักทำเงินในบัญชีใหม่6เดือนพอดีเดือนนี้ค่ะ แต่ครั้งที่แล้วมีใบเชิญจากแฟนทำไมเขาต้องดูเงินในบัญชีเราด้วยหล่ะค่ะ งงค่ะคราวหน้าไปขอวีซ่าใหม่ก็เลยอยากรู้แตรียมเอกสารให้แน่นมากขึ้นค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ แฟนมีปัญหาไม่สามารถมาได้ เขาต้องการให้เราไปเยี่ยมและดูบ้านเมืองเขาค่ะ จากคุณ : puang_be@hotmail.com - [ 10 ม.ค. 51 21:40:15 A:222.123.160.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 แบบฟอร์มของ Verpflichtungserklaerung ต้องให้แฟนคุณไปขอจาก Auslaenderbehoerde (เจ้าหน้าที่ immigration) ในเมืองที่เค้าอยู่ค่ะ เอกสารรับรองความสัมพันธ์ไม่เคยได้ยินค่ะ แต่คิดว่าเป็นเหมือนที่น้อง bertiebotts บอก คืออีเมล์ โปสการ์ด รูปถ่ายต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคุณกับแฟนติดต่อกันมาระยะหนึ่งแล้ว และเป็นแฟนกันจริง ๆ ที่สำคัญมากคือเอกสารที่แสดง Rueckkehrwilligkeit ของคุณ  วีซ่าจะผ่านหรือไม่ ขึ้นกับตัวนี้เป็นสำคัญค่ะ เป็นเอกสารที่แสดงว่าคุณต้องกลับมาเมืองไทย เช่น หนังสือรับรองจากเจ้านายที่ที่ทำงานคุณ ว่าจะกลับมาทำงานต่อ   ใบจากสถานีตำรวจในเยอรมัน อันนี้ไม่ทราบค่ะ แต่จะขอมาก็ได้ เพราะเตรียมเอกสารไว้ให้มากที่สุดเป็นการดีที่สุดค่ะ จากคุณ : Sonnenschein - [ 10 ม.ค. 51 22:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ตามอย่างที่พี่ Sonnenschein บอกเลยคับ ใบจากสถานีตำรวจไม่เคยได้ยินเหมือนกันคับ ทีคิดว่าพี่จขกท.ขอวีซ่าไม่ผ่าน ในครั้งแรกคิดว่าคงไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าจะกลับมาประเทศไทยน่ะคับ คิดว่า เงินในบัญชีไม่น่าจะเกี่ยวนะคับ เพราะมีใบเชิญมาเรียบร้อยแล้ว อ้อ!! อีกอย่างนะคับ ในตอนที่กรอก Application form น่ะคับ ในข้อที่ 36 ให้ติ๊ก เครื่องหมายหน้าข้อที่เป็น Cash กับ Accommodation นะคับ ถ้าไม่ได้ติ๊ก Cash จะโดนเรียกดูบัญชีของเรา เพราะจนท.สถานทูตจะคิดว่าใบเชิญนั้นคง จะเชิญเพียงแค่ Accommodation หรือที่พักอาศัยเพียงอย่างเดียว คิดว่าถึง แม้ในใบเชิญตังจิงจะระบุไว้ว่ารับผิดชอบทุกอย่างแต่ บางทีจนท.ดูการกรอก ข้อมูลเป็นหลักน่ะคับ อันนี้เจอมาเองกับตัว ในตอนแรกที่ไปขอวีซ่าก็ไม่ได้ติ๊กช่อง Cash ไปโดน เรียกดูสมุดบัญชีตัวเองเลยคับ พอครั้งที่ 2 ติ๊กไปครบไม่โดนเรียกดู ให้ผ่าน มาเลยคับ ยังไงดูดีๆ เตรียมเอกสารไปให้ครบนะคับ โชคดีคับ จากคุณ : bertiebotts4 - [ 10 ม.ค. 51 22:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณSonnenscheinและbertiebotts4 มากๆเลยค่ะ ทำให้รีบเอาเอกสารของครั้งที่แล้วมาดูอีกครั้ง เรื่องกรอกเอกสารที่คุณบอกก็มีส่วนช่วยดิฉันได้มากแน่นอนค่ะ จำได้ค่ะที่ครั้งแรกไปยื่นขอวีซ่าได้ปริ้นท์แบบฟร์อมแบบที่เป็นภาษาไทยไปและก็ลองกรอกเป็นไทยไป แต่พอไปเจอฟร์อมจริงเป็นภาษาเยอรมันอึ้งเลยค่ะทำให้ไม่มั่นใจ ก็เลยจ้างเจ้าหน้าที่ข้างหน้าที่รับกรอกฟร์อมสมัครค่ะ เห็นเขากรอกแบบไม่ครบค่ะ เดี๋ยวรอเอกสารจากแฟนส่งมาก่อนค่ะ แล้วจะปริ้นท์ใบมาลองกรอกดูอีกครั้งก่อนไปถึงสถานทูต ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนจะมาตั้งกระทู้ถามอีกน่ะค่ะ หรือว่าเพื่อนคนไหนมีประสบการณ์และข้อเสนอแนะก็ยินดีค่ะ จากคุณ : สอาด - [ 10 ม.ค. 51 23:36:09 A:222.123.160.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจำไม่ผิดนะคะใบเชิญใช้ได้นะคะ...จะมีอายุหนึ่งปีหรือไงเนี่ยถ้าจำไม่ผิดค่ะ ^^ ลองเช็คดูนะคะ..จะได้ไม่ต้องทำใหม่..เสียค่าธรรมเนียมอีก เห็นด้วยกับ คห.3  ค่ะว่าสำคัญที่สุดคือหลักฐานที่จะทำให้สาถนทูตมั่นใจว่าคุณกลับมาเมืองไทยแน่ ๆ ไม่เปลี่ยนวีซ่าเมื่อไปถึงโน่นแล้ว...เช่นใบลาจากที่ทำงานที่อนุญาตให้คุณลาหยุดระหว่างเดินทาง...ระบุวันเดินทางไปกลับของคุณ.. หนังสือรับรองเงินเดือน.. สมุดบัญชีเงินฝาก หรือถ้ามีอสังหาริมทรัพย์เช่นบ้านที่ดินหรือรถยนต์นะคะ.. ส่วนเรื่องความสัมพันธ์เจ้าที่เค้าคงซักมากกว่าดูเอกสาร แต่เตรียมไว้เยอะ ๆ อุ่นใจกว่าค่ะ..เหลือดีกว่าขาด โชคดีนะคะ เป็นสิ่งยืนยันว่ายังไงคุณก็กลับมาค่ะไม่มีความจำเป็นต้องหนีวีซ่า จากคุณ : สายสร้อย - [ 11 ม.ค. 51 00:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใบเชิญ ผมเคยถามจากสถานทูตโดยตรง ได้รับการแจ้งว่าไม่สามารถใช้ใบ เดิมนะคับ จะขออีกครั้งก็ต้องทำใบใหม่มา เพราะมีการระบุวันที่ไว้ ส่วนใน กรณีที่สามารถใช้ได้ภายใน 6 เดือนคือ นับตั้งแต่ฝ่ายเชิญออกใบมาแล้วภาย ในระยะเวลา 6 เดือนสามารถนำไปยื่นขอวีซ่า แต่หากใช้ในการยื่นขอวีซ่าไป แล้ว คราวต่อไปก็ต้องขอใหม่คับ ขอประจำทำมาหลายใบแล้วคับ จากคุณ : bertiebotts4 - [ 11 ม.ค. 51 08:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถึง จขกท. ค่ะ หัวอกเดียวกันเลย ดิฉันก็ขอครั้งแรกไม่ผ่าน คิดว่า น่าจะพลาดตรงที่บอกความสัมพันธ์กับผู้เชิญว่า เป็นแค่เพื่อน ตอนนี้แฟนให้ลองขอดูใหม่ แฟนจะเขียนจดหมายระบุความสัมพันธ์มา และเรามีแพลนจะกลับมาทำอะไร ๆ ที่เมืองไทยด้วยกันหลังจากที่ดิฉันได้บินไปเที่ยวบ้านเค้าแล้ว อาจจะเป็นใบจองที่พัก หรือตั๋วเครื่องบิน ที่แฟนจะบินมาพร้อมกับเรา (คือจะใส่ชื่อเราในใบจองทั้งที่พักและตั๋วเครื่องบินด้วย) ประมาณนั้นอ่ะค่ะ เผื่อจะทำให้เค้าเชื่อได้ว่า ไง ๆ เราก็ต้องกลับ และเรามีโครงการจะแต่งงานกันในอนาคต เราจะโดดวีซ่าให้เสียประวัติทำไมล่ะ เรามีโอกาสจะไปอยู่เยอรมันอย่างถูกต้อง เรื่องอะไรจะต้องไปหลบอยู่ อันนี้เราก็หวังว่าเค้าจะรับไปพิจารณาบ้างนะ ปัญหาของเราตอนนี้ คือ ไม่ได้ทำงานแล้ว แฟนส่งเงินให้ใช้และให้เรียนภาษาเพื่อเตรียมตัวแต่งงานอย่างเดียว แต่ระหว่างนี้เค้าก็อยากให้เราไปเที่ยวดูบ้านเมืองเค้าก่อนด้วย ถ้าสถานทูตไม่ออกวีซ่าให้เราเพราะกลัวว่าเราจะไม่กลับ ก็ไม่รู้ว่าทำไมนะ มีเหตุผลอะไร ทำให้คิดไปว่า นี่เค้ากีดกันความรักของเรา ไม่อยากให้เรากับแฟนแต่งงานไปอยู่ด้วยกันเหรอ เพราะเหตุผลของเราก็อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าเรื่องอะไรเราต้องไปหลบหนีและหาทำงานอย่างผิดกฎหมาย ในเมื่อแฟนเราก็แสดงหลักฐานว่า มีอาชีพ มีงานทำมั่นคง มีเงินเดือนสูง ดูแลเราได้ (แฟนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเยอรมัน) พูดเยอะไปหน่อยนะคะ คือ อยากแชร์ความคิดเห็นกับ จขกท.เท่านั้นค่ะ เสียดายว่า จขกท. ไม่มีอมยิ้ม เลยหลังไมค์ไม่ได้ จากคุณ : water_1 (Water_1) - [ 12 ม.ค. 51 09:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีกนิดนะคะ คือจะบอกว่า  นี่ไม่ใช่ความต้องการของเราที่จะขอวีท่องเที่ยวอีกครั้ง  เป็นของแฟนเราเอง  ครั้งนี้ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร(ดูถ้าจะยากด้วย) ก็ไม่อยากให้แฟนต้องเสียเวลาทำเอกสารและเสียเงินขอวีซ่าอีก ส่วนเราก็แค่ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ รอแฟนบินมา sabbatiical time ช่วงกลางปีในเมืองไทยกับเราอย่างเดียว แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ แฟนก็หาว่าเราไม่มีความพยายาม ทำงอนไปซะอีก   ใจเราอยากขอวีซ่าแต่งเลย  เพราะมันชัวร์กว่า จริงไหมคะ จากคุณ : Water_1 - [ 12 ม.ค. 51 10:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงคุณ water_1   เคยอ่านผ่านตาใน nittaya.de น่ะค่ะ  ว่าถ้าจดทะเบียนในเมืองไทยแล้วไปขอวีซ่า Familienzusammenfuehrung หร้อมกับยื่นใบทะเบียนสมรส และใบที่แสดงว่าสอบผ่านภาษา A1  ขอวีซ่าผ่านแน่นอนค่ะ  ถ้าคุณทั้งสองตั้งใจจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ก็จดทะเบียนที่เมืองไทยก่อนแหละค่ะ ขอวีซ่าผ่านง่ายกว่ามาแต่งที่นี่ จากคุณ : Sonnenschein - [ 12 ม.ค. 51 18:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อื้มมม.... ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ คุณ Sonnenschein งั้น.. ขออนุญาต จขกท. ถามคุณ Sonnenschein ต่ออีกนิดนะคะ ว่าดิฉันจะต้องบอกให้แฟนเตรียมเอกสารอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะจดทะเบียนในเมืองไทย (แฟนจะมาเมืองไทยเดือนมีนานี้ค่ะ แต่อยู่แค่ 2 อาทิตย์ ก็ต้องกลับไปทำงานต่อ ช่วงจาก เม.ย.ถึง มิ.ย.นี่ล่ะค่ะ ที่เค้าอยากให้ดิฉันไปเที่ยวบ้านเค้า จนถึงกลางปีเค้าจะมาพักผ่อน (sabbatiical time ) ในเมืองไทยอยู่กับดิฉัน ประมาณ 3 เดือนตามวีซ่าท่องเที่ยว แล้วจากนั้น ก็จะบินต่อไปออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเค้าแพลนเอาไว้เป็นปีแล้ว เราจะไปท่องเที่ยวด้วยกันก่อน แล้วค่อยกลับมาเดินเรื่องแต่งงาน เค้าจะให้ดิฉันขอวีไปเที่ยวเยอรมัน ช่วง เม.ย.ถึง มิ.ย.นี่ล่ะค่ะ ดิฉันก็บอกเค้าแล้วว่า มันยาก ที่จะได้วีท่องเที่ยว แต่เค้าก็อยากจะลองดูอีก (ดื้อมากเลยค่ะ เราค้านก็งอน นี่ให้นัดวันยื่นเอกสารสัมภาษณ์วันที่เค้ามาเมืองไทย บอกว่าจะไปสถานทูตด้วย ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะมีประโยชน์อะไร เพราะเห็นคนอื่นหลาย ๆ คนมีแฟนไปด้วยก็ไม่ได้วีซ่า) เผลอ ๆ เราจะโดนเจ้าหน้าที่เขม่นซะอีก ได้ไอเดียจากคุณ Sonnenschein ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะลองเอาไปปรึกษาแฟนดู (แต่จริง ๆ ก็ไม่อยากพูดเลยค่ะ เดี๋ยวจะหาว่า เรากระตือรือล้นอยากจะแต่งงานกะเค้าซะจน... อะไรประมาณนั้นอ่ะ) แต่มันก็เกี่ยวกับว่า ถ้าแม้แต่วีซ่าไปเยอรมันยังไม่ได้ แล้วเราจะขอวีซ่าไปออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ กับเค้าได้ยังไง เพราะเค้าต้องแพลนการเดินทาง ถ้าเราไปด้วยก็คือเดินทาง 2 คน แต่ถ้าเราไม่ได้ไปด้วย(เพราะไปไม่ได้) การเตรียมการจัดการก็ต้องเปลี่ยน มันก็จะเป็นอะไรที่ยุ่งยากอีก ก็จะลองถามเค้าดูว่า เป็นไปได้ไหมที่จะจดทะเบียนกันในเมืองไทย เพื่อวีซ่าทั้งหลายนั่นแหละ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ไงอย่าลืมเข้ามาตอบอีกนะคะ ปล. ขออนุญาตและก็ขอโทษ จขกท. ด้วยนะคะ ที่รบกวนพื้นที่ (ดิฉันไม่ค่อยชอบตั้งกระทู้ค่ะ) จากคุณ : water_1 (Water_1) - [ 12 ม.ค. 51 20:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ้อ...  อีกนิดค่ะ คุณ Sonnenschein คะ แล้วถ้าแฟนเตรียมเอกสารมาได้พร้อมหมด  เราสามารถพากันไปจดทะเบียนที่อำเภอได้เลยมั๊ย  หรือว่าต้องมีขั้นตอนอะไรอีก  เช่น ว่าไปขอใบอะไรกะสถานทูตอีกรึป่าวรัยงี้อ่ะค่ะ รบกวนขอความรู้อีกนิดค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Water_1 - [ 12 ม.ค. 51 20:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลองเข้าไปดูที่เว็บของคุณ Sebastian Kiesow นะคะ  แกมีสำนักงานแปลเอกสารที่สถานทูตยอมรับ และมีชื่อเสียงทีเดียว  เรายังไม่ได้อ่านละเอียดนัก เพราะตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงานค่ะ  คุณลองเข้าไปอ่านดูละกันนะคะ http://www.thailaendisch.de/pdf/merkblatt_thai.pdf http://www.thailaendisch.de/thai.html ส่วนหน้านี้เป็นภาษาเยอรมัน เอาให้แฟนคุณอ่านละกันนะคะ เค้าจะได้รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง http://www.thailaendisch.de/pdf/merkblatt-thai-deutsche-heirat.pdf แหม...แต่แฟนคุณก็ต้องเข้าใจนะคะ ว่าการที่คุณขอวีซ่าไปประเทศอื่นไม่ผ่านนั้น มันไม่ใช่ความผิดของคุณ  เค้าต้องเข้าใจด้วยว่า การเป็นพลเมืองของประเทศด้อยพัฒนาหรือกำลังพัฒนา มักประสบปัญหาเสมอในการขอวีซ่าเข้าประเทศที่พัฒนาแล้ว แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 51 21:09:01 จากคุณ : Sonnenschein - [ 12 ม.ค. 51 21:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากค่ะ คุณ Sonnenschein และ ขอบคุณ จขกท. ด้วยค่ะ จากคุณ : Water_1 - [ 12 ม.ค. 51 22:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงคุณWater_1 ยินดีเข้ามาแชร์ความคิดเห็นแประสบกาณ์ค่ะ ต่างจากแฟนเรา อยากแต่จะให้เราขอวีซ่าท่องเที่ยวให้ได้แล้วจะพาไปแต่งงานที่เดนมาร์ค บอกกับแกว่าให้มาแต่งที่ไทย แฟนก็ไม่ยอม บอกว่าเคยถามสถานทูตแล้วว่าถ้าแต่งงานกับเราที่ไทยแล้ววีซ่าจะผ่านไหม สถานทูตบอกแต่งหรือไม่แต่งไม่ใช่เหตุผลในการตัดสินวีซ่า แล้วมีผู้หญิงที่รู้จักอีกคนเคยไปขอวีซ่าไปแต่งงานที่เยอรมัน หลักฐานทุกอย่างพร้อมแต่วีซ่าไม่ผ่าน ทางสถานทูตบอกเหผลว่ากลัวคุณไปแล้วไม่แต่ง แน๊ะ! งงค่ะ จนตอนนี้ผู้ชายเยอรมันคนนั้นรอไม่ไหวเลยไปแต่งงานกับหญิงไทยที่เคยได้แฟนอยู่อังกฤษแต่เลิกกับแฟนอังกฤษแล้ว น่าสงสารหญิงไทยที่ขอวีซ่าน่ะค่ะ อุตส่าห์มุมานะไปขอวีซ่าแต่แฟนเห็นว่ายากก็เลยแต่งไปกับคนอื่น เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีค่ะ แฟนเราก็ซื่อไปเชื่อสถานทูตก็เลยจะให้เราขอวีครั้ง2 แต่เป็นวีท่องเที่ยว แล้วจะพาไปแต่งงาน เหมือนกันค่ะคุณWater อยากจะอธิบายกับเขาให้มากๆว่าถ้ามาแต่งที่ไทยทุกอย่างจะง่ายกว่า แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปากกลัวว่าเขาจะคิดว่าเราอยากแต่งจนใจจะขาด ทีอยากแต่งก็เพราะว่ารักแฟนเป็นอันดับแรก สองอยากให้ผ่านเร็วๆจะได้ไปอยู่ใกล้ๆเขา แต่สถานทูตคิดว่าเราจะไปประกอบอาชีพขายของทะเลที่นั่น(shell-fish) เฮ้อ อ่อนใจค่ะ!! จากคุณ : สอาด - [ 13 ม.ค. 51 23:52:14 A:222.123.165.43 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ คุณสอาด เช่นกันเลยค่ะ  แฟนดิฉันก็จะให้ขอวีท่องเที่ยวอย่างเดียว  ความคิดและความรู้สึกเราก็ตรงกันเลยอ่ะ ว้า...  เข้ามาดูวันนี้ดึกแระ  พรุ่งนี้ก็เรียนยาว     ไงจะเข้ามาคุยด้วยอีกนะคะ อย่างเพิ่งทิ้งไปล่ะ จากคุณ : Water_1 - [ 14 ม.ค. 51 22:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีเช่นกันค่ะคุณWater เรามาดึกกว่าค่ะ แหะ แหะ! แล้วจะขอวีซ่าไปเดือนไหนหล่ะค่ะ ไปเมืองอะไรค่ะ ของเรายังไม่แน่นอนค่ะว่าจะไปเดือนไหน เพราะต้องรอแฟนสะสางเรื่องของเขาให้เสร็จก่อนค่ะ คือแฟนมีปัญหาอยู่กับทางศาลต้องรีบสะสางให้จบค่ะ ก่อนที่จะมาเมืองไทย หรือว่าก่อนที่เขาจะออกจดหมายเชิญเราค่ะ ใจเราอยากให้แฟนมาดีกว่าค่ะ ไม่อยากไปทีสถานทูตคนเดียวแล้ว เคยไปมาหลายครั้งแล้วค่ะ(ไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมค่ะ) เหมือนกับว่าเหตุผลที่เขาไม่ออกให้วีซ่าเรามีมากมาย แต่เหตุผลจะแตกออกไปเรื่อย แล้วก็ไม่อยากบอกให้เราไปค้นหาเองน่ะค่ะ จนเราต้องขอพบช่อง11 ยิ่งซ้ำร้ายค่ะ หาว่าเราเป็นแบบอย่างว่าค่ะ แต่พูดบอกแฟนเรา(ฟรั่งหัวหน้า) พูดเป็นภาษาเยอรมันค่ะ เจ้าหน้าที่ไทยที่ยืนอยู่ก็เป็นไปกับเขาด้วย เราไม่รู้หรอกเพิ่งรู้ตอนหลัง แฟนเล่าให้ฟังค่ะ โชคดีที่แฟนเรากับแม่เขาไม่เชื่อค่ะ ตอนนี้เลยต้องเก็บข้อมูลมากหน่อยค่ะ กะว่าจะจ้างเอเจนซี่ทำด้วยค่ะ จากคุณ : สอาด - [ 14 ม.ค. 51 23:30:01 A:222.123.167.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีค่ะ  คุณสอาด ต้องขอโทษนะคะ  ที่ไม่ได้เข้ามา  กลับดึกค่ะ  แล้วช่วงนี้ต้องเอาจริงเอาจังหน่อย  (เรื่องของเรื่องคือว่า กลัวสอบไม่ผ่านอ่ะค่ะ  ไม่อยากเสียเวลาและเสียเงินเรียนใหม่)  วันนี้ขอแว่บนิดนึงค่ะ  กลัวคุณสอาดจะคิดว่า ดิฉันหนีไปไหน อืมม...เราน่าจะแลกเมล์คุยกันส่วนตัวดีกว่ามั๊ย   คุยเรื่องส่วนตัวเราสองคนในที่สาธารณะใครมาได้ยิน(อ่าน)เข้า  จะว่าเอาได้ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 51 17:20:32 จากคุณ : Water_1 - [ 17 ม.ค. 51 22:59:26 ]