ความคิดเห็นที่ 56
ขอตอบท่าน texanprofessor (krisdauw) นะคะ
ปรกติยูในสหรัฐ คิดค่าเรียนเเบบ in-state ก็ต่อเมื่อคุณย้ายมาพำนักที่รัฐนั้น (นั่นคือเป็น in-state resident) อย่างน้อยหนึ่งปี อันนี้เป็นปรกติครับ เพราะฉะนั้น การถือกรีนคาร์ดห้าปี เสียภาษีสี่ปีที่รัฐอื่นๆก่อนหน้า ไม่นับครับ เพราจุดประสงค์คือ คุณต้องเสียภาษีให้รัฐนั้นๆ (ที่คุณต้องการเข้าเรียน) หรือแม้กระทั่งคุณเป็นพลเมืองสหรัฐเองก็ตาม ถ้าคุณจะได้ residence ของรัฐหนึ่งๆคุณต้องย้ายที่อยู่มาอย่างน้อยหนึ่งปีครับ อันนี้เป็นเรื่องปรกติครับ เท่าที่เห็นเด็กๆมักจะดรอปเรียนไปหนึ่งปี เพื่อเอาสถานะคนในรัฐก่อน จะได้จ่ายค่าเรียนที่ถูกลง
ขอตอบส่วนตรงนี้ก่อนนะคะ
ดิฉันกับแฟนย้ายมาอยู่ที่รัฐนี้ตอนเดือนมิถุนายนค่ะ และแฟนเริ่มทำงานที่ยูนี้เดือนสิงหาคมค่ะ จุดตรงนี้ดิฉันรู้ว่าเราต้องจ่าย Out of State Tuition ค่ะ (รู้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ)
ตอนแรกดิฉันพยายามสมัครเรียนในโปรแกรมปริญญา แต่ด้วยความที่เราสองคนไม่รู้เกี่ยวกับกฏระเบียบมากนัก จึงติดต่อฝ่าย International Student ค่ะ และก็ได้รับคำแนะนำว่าดิฉันต้องเข้ามาเรียนใน Program IEP ก่อน แล้วจึงเข้าไปเรียนในโปรแกรมปริญญาได้ค่ะ เพราะดิฉันต้องใช้คะแนน Toefl 550 ขึ้นค่ะ (ดิฉันไม่เคยสอบโทเฟิลมาก่อนเลยค่ะ และก็ไม่มีคะแนนด้วยค่ะ)
โดยที่ทางโปรแกรม IEP จะเทรนเกี่ยวกับงานเขียนและหลาย ๆ อย่างแบบโปรเฟสชั่นนอลให้นะคะ เหมือนกับว่าถ้าเราเรียนกับเขา เราจะต้องสอบโทเฟิลผ่านแน่นอนค่ะ ดิฉันและแฟนก็เชื่อสนิทและก็คิดว่าต้องดีแน่ ๆ นะ เพราะดูจากชื่อเสียงของยูก็จัดอยู่ในอันดับทอ้ปร้อยของที่นี่ค่ะ
ด้วยความที่อยากเข้าไปเรียน ดิฉันจึงลงเรียนโปรแกรม IEP ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ก็อยากจะทำคะแนนโทเฟิลให้ได้เยอะ ๆ ค่ะ ซึ่งพอเข้าไปเรียนก็เป็นการเรียนซ้ำ ๆ ที่ดิฉันเคยเรียนที่ยูที่รัฐหลุยฯ มาก่อนแล้ว แล้วตอนที่ทาง IEP ตอบรับดิฉันเข้าไปเรียนนั้น ก็ตอบรับเป็น In State Student ค่ะ ดิฉันจ่ายค่าเทอมให้ยูนี้กับการเรียน IEP Program ใน Rate In State Tuition ค่ะ
และก็ลงเรียนสองเดือนเต็ม ๆ ค่ะ ในช่วงระหว่างที่ลงเรียน IEP Program อยู่นั้น ดิฉันก็เดินเรื่องสมัครเข้าไปเรียนในโปรแกรมปริญญาด้วยค่ะ และก็ติดต่อสอบถามฝ่ายแอดมิชชั่น ฝ่ายการเงิน ฝ่ายทะเบียนนักศึกษาค่ะ และก็ติดต่อคุยกับ English Undergraduate Program โดยตรงด้วยค่ะ
ซึ่งฝ่ายแอ๊ดมิชชั่น ฝ่ายการเงิน ฝ่ายทะเบียนนักศึกษา บอกดิฉันว่า ถ้าดิฉันเข้าไปเรียนใน Program ปริญญาจะได้ส่วนลด 50% ตลอด (ขอเน้นเลยนะคะ ทุกคนบอกแบบนั้นจริง ๆ เพราะเรียนที่ IEP Program ลดไม่ได้ค่ะ แม้ว่าตอนแรกทางฝ่ายการเงินบอกว่าได้ แต่ฝ่ายที่ดูแลสวัสดิการตรงนี้ไม่ให้ ก็เลยอดไปเลยค่ะ เราก็ไม่ว่าอะไร)
ช่วงที่ยื่นเอกสารไปนั้น ทางฝ่ายแอ๊ดมิชชั่นค่อนข้างจะงงเกี่ยวกับเคสของดิฉันมากค่ะ ก็ส่งไฟล์ไปที่แผนก International Student ค่ะ แต่ทางฝ่ายนั้นส่งไฟล์ดิฉันกลับ และก็บอกว่าดิฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเด็กต่างชาติ ดิฉันต้องเป็น Domestic Student ค่ะ (เพราะถือกรีนการ์ดมา 5 ปีแล้วค่ะ) สุดท้ายไฟล์ของดิฉันก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กอเมริกันค่ะ
ส่วนทางด้านฝ่ายที่ดูแลสวัสดิการของลูกจ้างของยูนั้น ก็ยืนยันบอกดิฉันเสมอว่า ถ้าเรียนโปรแกรมปริญญานะ ดิฉันจะได้ส่วนลด 50% แน่นอน ในเมื่อแต่ละหน่วยงานยืนยันขนาดนั้น ดิฉันก็สมัครเรียนสิค่ะ และก็ฝันอยากเรียนเหมือนที่ตั้งใจเอาไว้มาตลอด
ซึ่งเคสของดิฉันถูกจัดเป็นเด็กทรานเฟอร์ค่ะ เพราะเอาวุฒิ ปวส. สมัคร ดิฉันไม่ต้องสอบเข้าเหมือนคนอื่น ๆ เพราะทางยูบอกว่าดิฉันผ่านการเรียนระดับปริญญามาแล้วสองปี ไม่จำเป็นต้องสอบ ...ก็ให้เข้ามาเรียนได้เลย อันนี้ก็ยอมรับว่าอาจารย์ในคณะที่ดิฉันลงเรียนนั้น ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยค่ะ ต้องขอบคุณตรงนี้มากๆ เลยค่ะ เพราะอาจารย์ทุกท่านดีกับดิฉันมาก ๆ ค่ะ ซาบซึ้งน้ำใจตลอดค่ะ
ต่อมาดิฉันก็ได้รับหนังสือตอบรับอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ส่งใบสมัครไปหนึ่งกว่า ๆ หลังจากที่เดินเรื่องผ่านความวุ่นวายมาหลายจุด ทางจดหมายก็แจ้งตอบรับว่า รับดิฉันเป็นนักศึกษาของยู XXXXX เป็นเด็ก In State Student ค่ะ
ช่วงนั้นยอมรับว่าดีใจมาก ๆ ค่ะ ก็เลยรอลงทะเบียนเรียนต่าง ๆ อย่างเดียว ซึ่งในเคสของดิฉันทราบเรื่องค่อนข้างล่าช้ามากๆ ค่ะ อันนี้ดิฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือเพราะเขาย้ายสถานะดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ที่เสียใจเพราะเขาย้ายสถานะดิฉันให้ไปเป็น International Student โดยที่ไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเลย มารู้อีกทีก็หลังจากไปเรียนได้สองวันค่ะ มันน่าเสียใจไหมล่ะคะ?
เขาย้ายดิฉันโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แต่มีบิลมาให้อย่างเดียว และหนังสือตอบรับดิฉันเข้าไปเรียนนั้นให้เป็น In State Student ค่ะ
แล้วเรื่องส่วนลดนั้นมีจริง ๆ ค่ะ ดิฉันก็อปปี้ไฟล์มาให้ดูเลยค่ะ ยูนี้เขาให้จริงๆ เพราะลูก ๆ ของอาจารย์ที่สอนหนังสือกับแฟน ก็ล้วนแต่ได้ส่วนลดทั้งนั้นค่ะ เนื้อหามีดังนี้ค่ะ
University courses for employee family members: Dependents and Family Members Educational Assistance*
Dependents and spouses of full-time regular employees are eligible for a 50 percent remission of tuition for resident courses offered at the University.
Eligibility Requirements and Guidelines for Tuition Remission of XXXXX University Employee Dependents and Spouses
The Board of Trustees authorizes remission of 50% off tuition for qualified dependents and spouses of XXXXX University employees. This policy relates to the charging of tuition and not to conditions of admission or retention.
Eligibility
The basic eligibility requirement for the 50% tuition remission is that the employee and dependent must be eligible for health insurance coverage under the Universitys health insurance plan. Currently, requirements for eligibility for health coverage are that the employee must be employed full-time, and eligible dependents are:
1. Spouse;
2. An unmarried dependent under age 19;
3. An unmarried dependent age 19 to 24 while a student at AU or AUM and chiefly dependent upon the employee for support;
4. An unmarried dependent under age 19 (or 24 if a student) while a qualified medical child support order exists for the employee;
5. An unmarried dependent who is mentally or physically incapacitated and unable to support himself and is chiefly dependent upon the employee for support, if the incapacity begins and is certified to the Claims Administrator by a Doctor of Medicine or Osteopathy before the dependent reaches the age of 19 ( or age 24 if a student).
Guidelines
1. The policy will apply to all students.
2. The deadline for submitting the application to receive the 50% waiver will be the first class day of the term. The employee will only be required to apply once per dependent. The system will verify eligibility in all subsequent terms.
3. There will be no time in service requirement. The employees hire date will be the time of eligibility.
4. There will be no limit on the number of terms that the student may receive the waiver, as long as they meet the basic eligibility requirements.
5. The 50% waiver will apply to tuition.
6. The waiver will apply to on campus professional program such as Veterinary Medicine, Architecture and Pharmacy. It will not apply to video based or distance learning programs, or Executive MBA programs.
7. The waiver will not apply to the Study Abroad Fee charged to those students studying abroad, for whom no tuition is charged.
8. Students enrolled in PACT will also receive the waiver.
9. Once a students total of XXXXX scholarships (outside scholarships do not apply to this policy) reaches a total that surpasses 50% of tuition, the student is no longer qualified to receive the 50% waiver. If XXXXX scholarships and or grants are present yet do not reach 50% tuition, the waiver will be allowed up to the 50% level.
10. GTAs and those GRAs receiving a full tuition waiver will not receive a waiver for 50% of the Enrollment Fee. The rationale is that they should receive the greatest benefit but not both.
11. Dependents of deceased or retired or employees unable to maintain full-time status will not be eligible for the waiver. However, if the employee leaves employment for any of the above reasons during a term, the waiver will remain in effect for the remainder of that term, but not subsequent terms.
12. Dependents who are also employees will be placed in the classification which provides the greatest benefit to the individual.
13. This policy also applies to courses taken at either XXXXX or XXXXX, for either XXXXX or XXXXX employees and their dependents.
14. The student shall be required to maintain a 2.0 GPA.
หมายเหตุ: XXXXX เป็นชื่อมหาวิทยาลัยนะคะ
จากที่อ่านข้างบนดิฉันก็มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีการแจ้งใด ๆ ที่ดิฉันไม่มีคุณสมบัติ เพราะเริ่มมีผลตั้งแต่วันแรกที่แฟนดิฉันทำงานค่ะ
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น หลายจุดที่เคยพูดว่าให้ส่วนลด 50% ก็ต่างปฏิเสธความรับผิดชอบ บางคนก็บอกว่าไม่รู้ บางคนก็บอกว่าลืมไป และที่หนักไปกว่านั้นบอกว่าในเวบกับในความจริงไม่ตรงกัน เพราะทางเวบยังไม่ได้แก้ไข
ดังนั้นความจริงของยูที่ดิฉันรู้ตอนนี้ก็คือ แฟนต้องทำงานหนึ่งปีเสียก่อนค่ะ และดิฉันก็ยังเป็นเด็กต่างชาติโดยที่ถือใบทรานสคริปเป็นหลักค่ะ
ถามว่าเสียใจ และเสียความรู้สึกไหม ก็ยอมรับว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา...มาก ๆ เลยค่ะ แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้ว รู้สึกสบายใจขึ้น ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต เงินบางส่วนที่เราเสียไป แม้ไม่ได้รีฟันคืน แต่ก็ถือว่าซื้อความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเราค่ะ
คราวหน้าคราวหลังถ้าจะกลับไปเรียนใหม่ ดิฉันและแฟนจะศึกษาให้ดีกว่านี้ค่ะ อาจจะลักไก่ประเภทไปเรียนที่ Junior College ให้จบ แล้วทรานเฟอเครดิตมาเรียนที่ยูใหญ่ ๆ ค่ะ เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวก็โดนจับให้เป็นเด็กต่างชาติค่ะ
ตอนนี้สบายใจขึ้นเยอะ แม้จะไม่ได้เรียน ก็มีงานทำ เขียนนิยายไปพลางๆ รอให้ทุกอย่างดีขึ้นกว่านี้ พร้อมกว่านี้คงจะกลับไปเรียนแน่นอน อาจจะช้าหน่อย แต่ก็ยังคงเก็บความฝันน้อย ๆ อย่างนี้ไว้ในใจเสมอค่ะ ทุกวันนี้ยังนึกขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยเหลือให้ดิฉันเข้าไปเรียนในคณะที่ต้องการได้ด้วยค่ะ
เรื่องนี้ดิฉันเพียงต้องการแบ่งปันประสบการณ์ที่ตัวเองประสบพบเจอนะคะ ดิฉันอาจจะโชคไม่ดีพบเจอเรื่องแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงส่วนตรงนี้ก็ช่วยให้ดิฉันฉลาดขึ้น การบอกเล่าตรงนี้ ดิฉันไม่ได้ต้องการดีสเครดิตของยูนี้นะคะ ดิฉันยังคงศรัทธาและนับถือในชื่อเสียงของยู รวมทั้งเหล่าบรรดาคณาจารย์ทุกท่านเสมอค่ะ หากดิฉันและแฟนไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ดิฉันก็ยังคงต้องกลับไปเรียนที่ยูนี้วันยังค่ำค่ะ ดังนั้นดิฉันอยากขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือดิฉัน ขอบคุณทุกอย่างที่ตัวเองได้รับจากประสบการณ์ตรงนี้ค่ะ
ลป.....สำหรับเรื่องส่วนลดนั้น...หลาย ๆ ยูมีกฏระเบียบที่แตกต่างกันค่ะ อย่างยูเก่าที่ดิฉันเคยเรียนมา ตอนนั้นแฟนทำปริญญาเอกอยู่ และก็สอนพาร์ทไทม์ ดิฉันเข้าไปเรียนโปรแกรม IEP ค่าเล่าเรียนสองเดือน 1600 เหรียญ ดิฉันใช้สิทธิ์ที่แฟนเรียนอยู่ และสอนหนังสืออยู่ด้วย โดยจ่ายแค่ 650 เหรียญเองค่ะ ประมาณ 60% ได้ค่ะ บางยูลดมากกว่านี้ก็มีค่ะ ขึ้นอยู่กับยูนั้น ๆ ด้วยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 11:52:45
แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 11:50:47
แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 11:48:29
จากคุณ :
roslita
- [
17 ม.ค. 51 11:36:23
]
|
|
|