ความคิดเห็นที่ 1 แม่เด็กกลับไปเมืองไทยหกปี สามีคงฟ้องหย่าไปนานแล้ว น่าจะเป็นการหย่าข้างเดียว อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ไปศาลด้วย แต่สามารถติดต่อที่ทำการ county ขอสำเนาใบหย่าได้ค่ะ้   ความจริงน่าจะอยู่ให้หย่าเรียบร้อยก่อน อย่างน้อยก็มีสิทธิเรียก child support จากพ่อเด็กได้จนกว่าเด็กจะอายุครบ 18 การที่เอากรีนการ์ดไปคืนนั้น ปกติทาง USCIS ในไทยจะออกเอกสารให้เป็นหลักฐาน นำเอกสารนั้นไปขอวีซ่าท่องเที่ยว จะได้วีซ่าแบบสิบปีค่ะ การจะเอาเด็กมาเรียนหนังสือนั้นไม่ง่ายค่ะและการรับบุตรบุญธรรมก็ไม่ง่าย ยกเว้นแต่เด็กเป็นลูกกำพร้า ถ้าคุณจะเอาเด็กมาเรียน ก็ต้องขอเป็นวีซ่านักเรียน โดยคุณเป็นสปอนเซ่อร์ ซึ่งจะต้องเข้าโรงเรียนเอกชนเท่านั้น เพราะโรงเรียนรัฐฯ ออก I-20 ให้ไม่ได้ยกเว้นกรณีนักเรียนแลกเปลี่ยนเท่านั้นค่ะ ถ้าคุณจะช่วยอุปการะเด็ก วิธีง่ายที่สุดคือ ส่งเสียให้เรียนหนังสือในไทยค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 25 ม.ค. 51 14:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ จขกท. ใจดีจังนะครับ น่าสงสารน้องๆ ทั้งสองคนและก็คุณแม่ด้วยครับ ยังไงน้องมะพร้าวเป็นกำลังใจให้นะครับ คุณ Lawanwadee ให้คำแนะนำดีมากเลย ขอชมครับ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 25 ม.ค. 51 14:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมเด็กต้องขอวีซ่าด้วยคะ ในเมื่อจขกท บอกว่าเด็กเป็นซิติเซ่น เด็กสามารถเข้าเมกาได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : rangsri (rangsri) - [ 26 ม.ค. 51 00:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น อยากช่วยเหลือนั้นเป็นน้ำใจอันงดงาม ในกรณีเกี่ยวกับการสร้างอนาคตให้เยาวชน เป็นเรื่องที่ต้องคิดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะ หากเป็นประเด็นที่ต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ระเบียบบังคับต่างๆ ตามที่ทราบกัน กฎหมายการหย่าร้าง และการแยกกันอยู่อย่างเป็นทางการ ตลอดจนเรื่องการจ่ายค่าเลี้ยงดูคู่สมรสและบุตรธิดา นั้นมีรายละเอียดมาก ทั้งนี้ ในประเทศนี้ เมื่อใดต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมาย เมื่อนั้นต้องมีหลักฐาน จากข้อมูลที่คุณให้มา ไม่สามารถ สรุปฟันธง ได้เลยว่าสามีหย่าไปนานแล้ว แม้จะเป็นข้อสันนิษฐาน ตามความน่าจะเป็น เพราะระยะเวลาผ่านนานหกปี และดูเหมือนว่า เป็นการแยกทางชีวิต ที่ไม่ต้องการหวนประสบกันอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเรื่องนี้ ผู้ที่คุณต้องการช่วยเหลือ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะฉะนั้น กระบวนการดำเนินเรื่องอย่างจริงจัง ต้องหาข้อมูลข้อเท็จจริง มาให้ได้ก่อน ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้นเป็นเช่นไร และเกิดขึ้นในรัฐใด คำแนะนำ ประการแรก ขอให้ค้นหาเรื่อง กฎหมายหย่าร้าง หรือการแยกอยู่ ของคู่สมรส ในมลรัฐนั้น เมืองนั้น เป็นพิ้นฐาน แม้ว่าจะไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เนื่องจากคุณต้องการทำหน้าที่ Guardian ผู้ดูแลรับผิดชอบอนาคตให้กับ หลานๆที่เป็นลูกเพื่อนสองคนนั้น สำหรับเรื่อง Child Support แต่ละมลรัฐ มีข้อกำหนดอยู่ในกฎหมายครอบครัว Search คำว่า Family Law + State หรือ Child Support in (each State) การส่งเงินค่าเลี้ยงดูบุตร ที่ทราบมา เคยมีกรณีที่ พ่อแม่ ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรส แยกทางกันไปนานสิบกว่าปี ในตอนแรกแม่ดูแลลูกๆเองโดยไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะอดีตสามีไม่รวย ต่อมา สามีเก่าเกิดมีฐานะขึ้นมา ทางฝ่ายหญิงดำเนินเรื่องขอให้ฝ่ายชายนั้น ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกเป็นรายเดือนได้ (โดยทั่วไปพิจารณาจากรายได้ของผู้ ที่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร) ซึ่งในหลายเขต กำหนดว่า ผู้ที่จ่าย Child Support เมื่อทำประกันชีวิต จะต้องลงชื่อลูกๆเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์อันดับต้นด้วย กรณีตัวอย่างที่ยกมา ยืนยันว่า แม้คู่สมรสจะไม่ได้จดทะเบียน ไม่มีการหย่า แต่สามารถดำเนินคดีทางกฎหมายให้ฝ่ายชายรับผิดชอบต่ออนุสนธิของเขา ฉะนั้น ต้องทราบข้อเท็จจริงมาว่า พ่อเด็กได้ยอมรับบุตรทั้งสองไว้หรือเปล่า มีทะเบียนสมรสและประวัติการอยู่ร่วมกัน เมื่อสิบสองปีก่อนเก็บไว้หรือไม่ ที่สำคัญ เด็กทั้งสองเป็นอเมริกันโดยกำเนิดทั้งคู่นั้น ได้แจ้งขอสูติบัตรไว้ให้ ตั้งแต่แรกเกิดในสหรัฐฯ หรือว่ามีหลักฐานเก็บไว้ที่ใด ว่าเด็กๆเป็นพลเมือง หากว่ามี Birth Certificates ยืนยันสถานภาพของเด็กทั้งสองคน มีสิทธิ์ที่จะ แจ้งให้สถานทูตอเมริกาในประเทศไทยทราบ เพื่อขอทำหนังสือเดินทางไว้ เป็นหลักฐานอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งต้องดูรายละเอียดเพราะเด็กยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ ที่จะไปดำเนินการด้วยตนเอง และฝ่ายแม่ของเด็ก ก็ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน เรื่องนี้ จำเป็นจะต้องไถ่ถาม และติดตามไปถึงสถานะครอบครัวปัจจุบันของ คนที่เป็นพ่อ ถ้ายังติดต่อได้ (ขออภัย คำว่า ถ้าจะมากหน่อย เพราะข้อมูลที่ มีอยู่ขณะนี้ ไม่เพียงพอที่จะบอกได้เลยว่าจะนำปัญหาไปเข้าสูตรข้อไหนดี) การหย่าร้างกันนานกว่าห้าปี เป็นไปได้ว่า ฝ่ายชายได้มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว พิจารณาตามสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบันของฝ่ายหญิง ที่ส่งลูกเข้าโรงเรียนวัด แปลว่า ไม่มีการติดต่ออีกเลย เป็นการตัดขาดโดยพฤตินัยและเปลี่ยนสังคม หากเมื่อต้องการสิทธิ์สำคัญ สำหรับการฟื้นฟูสภาพชีวิตของเยาวชนอเมริกัน หลังจากมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้แน่แล้วว่า นี่คือพลเมืองที่อาศัยนอกประเทศ ติดต่อสถานทูตอเมริกาในประเทศไทย ให้เจ้าหน้าที่ทำประวัติเด็กทั้งสอง และหรือช่วยสืบหาบิดาผู้ให้กำเนิด (ถ้าฝ่ายมารดาไม่ทราบและไม่ติดต่อ) ต่อจากนั้น เป็นเรื่องภายในของครอบครัวของเขา ที่จะตกลงตัดสินใจใหม่ เราไม่สามารถไปสรุปได้ว่า พ่อของเขาต้องการหรือไม่ที่จะเลี้ยงดูลูกๆให้ดี หกปี...หลายอย่างเปลี่ยนได้ ทั้งจิตใจ อารมณ์และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ณ ขณะนี้ พ่อเขาอาจจะห่วงอยู่ว่า ลูกๆนั้นไปตกระกำอยู่ที่ใด หรืออาจจะลืม ไปแล้ว มีความสุขกับครอบครัวใหม่ เราไม่ทราบตรงนี้ จึงไม่สามารถสรุปได้ จากคำบอกเล่า และอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น เรื่องอย่างนี้ต้องมีหลักฐานตามจริง อย่างไรก็ตาม ความหวังของฝ่ายหญิงที่จะมีสถานภาพอเมริกัน ยังไม่หมด แต่ต้องรอจนกว่าบุตรจะมีอายุถึงกำหนดขอยื่นเรื่องให้แม่เป็นพลเมืองตาม ย้ำว่า เด็กสองคนต้องมีหลักฐานใบเกิดและหรือหนังสือเดินทางอเมริกันชน ดูสภาพจากที่เล่ามา เหมือนว่าฝ่ายหญิง ตัดใจ นำใบเขียวไปคืนสถานทูต เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ว่า แม่ที่แท้จริงอยากให้พรากลูก ไปเรียนหนังสือในต่างประเทศหรือเปล่า เรา(ผู้อยู่ที่นี่) อาจมองการศึกษาว่า เป็นเส้นเลือดหลอดใหญ่เลี้ยงชีวิต มุมมองทางวัตถุปัจจัยคล้ายว่าสถานภาพ ความเป็นอยู่ทางวัตถุจะช่วยให้คนมีชีวิตที่เจริญกว่าการอยู่อย่างเป็นนร.วัด แต่..แม่ลูก เขาต้องการสิ่งใด เราไม่อาจทราบจากข้อมูลที่ให้มา ชี้นำไม่ได้ อีกอย่างหนึ่ง การเรียนรู้ในวัด ไม่ได้หมายความว่า เด็กจะไม่มีอนาคตที่ดีได้ มีตัวอย่างเป็นพันเป็นหมื่น คนเราอาจมีชีวิตกำพร้ายากไร้ หากจิตใจใฝ่ดีจริง เรียนรู้ธรรมะตั้งแต่เล็กแต่น้อย และปฏิบัติ ขยันเล่าเรียน อดทนสู้สร้างชีวิต การก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทำงานรับราชการเป็นผู้บังคับบัญชาการระดับสูงๆ บุคคลเหล่านี้ ล้วนมีที่มาจากกำเนิดที่แร้นแค้น แต่ได้รับธรรมวินัยหลอมใจ เป็นคนดีศรีสังคม มีประโยชน์ต่อสังคม ได้ทัดเทียม และอาจจะล้ำหน้าไกล กว่าคนอีกมากมายที่สุขสบายมาจนไม่รู้จักอดทน หรือว่าไม่มีมานะสร้างตน โดยภาพรวม การมอบความช่วยเหลือสำหรับกรณีลูกเพื่อนของคุณพิมพรนี้ จึงต้องรวบรวมข้อมูล สถานภาพครอบครัวของผู้เป็นบิดามารดามาก่อนอื่น จัดการหลักฐานพลเมืองอเมริกันของหลานสองคน ตามหาผู้เป็นบิดาให้พบ เผื่อว่า เขาอยากจะเลี้ยงลูกของเขาในปัจจุบัน และติดต่อผูกพันสู่อนาคต ถ้าไม่ใช่ตามนั้น ค่อยดำเนินเรื่องไปในทางที่คุณคิดว่าจะส่งเสริมการศึกษา ให้กับเด็กคู่นี้ได้อย่างจริงจัง ปรึกษาเจ้าหน้าที่กงสุลในเขตอาณาที่จะนำเด็ก มาอยู่ด้วย ตามคำจำกัดความของ Child Support เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ สามารถได้รับค่าเลี้ยงดู แม้ว่าจะไม่ได้อยู่กับ Biological Parents ทั้งคู่ก็ตาม ในฐานะว่าที่ Guardian ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ U.S. Consular Services เสริมด้วยจ้ะ เพราะเขามีทั้งความช่วยเหลือฉุกเฉิน และความช่วยเหลือปกติ FYI:LINK ====:> http://bangkok.usembassy.gov/service/living-and-working-in-thailand.html           ..........................................................................         CHILD SUPPORT INFORMATION In family law and government policy, child support or child maintenance is the ongoing obligation for a periodic payment made directly or indirectly by a non-custodial parent to a custodial parent, caregiver or guardian, or the government, for the care and support of children of a relationship or marriage that has been terminated. In family law, child support is often arranged as part of a divorce, marital separation, dissolution, annulment, determination of parentage or dissolution of a civil union and may supplement alimony (spousal support) arrangements. Child support is based on the policy that both parents are obligated to support their children, even when the children are not living with both biological parents. *Child support orders may earmark funds for specific items for the child, such as school fees, day care or medical expenses. In some cases, non-custodial parents may pay for these items directly. For example, they may pay tuition fees directly to their child's school, rather than remitting money for the tuition to the custodial parent. LEGAL SEPARATION is a possible step towards divorce under the laws of many countries. A couple is legally separated only if the couple has successfully petitioned a court to recognize their separation; simply living apart does not constitute separation for these purposes. Legal separation does not automatically lead to divorce. The couple may reconcile, in which case they need do nothing in order to remain married. If they do not reconcile, and wish to divorce after the statutory time period, they must file for divorce explicitly.          (Resource : Wikipedia)                               Cheers แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 51 01:45:12 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 26 ม.ค. 51 01:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ คุณกริชนาคราช ที่เข้ามาช่วยขยายความได้แจ่มจริงๆ จากคุณ : rangsri (rangsri) - [ 26 ม.ค. 51 01:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การเรียกร้อง child support เมื่อเวลาผ่านมาแล้วเป็นสิบปี นั้นต่อให้แม่เด็กเดินทางมาทำเรื่องเองก็ยังไม่ง่าย เรื่องที่จะดำเนินการผ่านสถานทูตนั้น ลืมไปได้เลยค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 26 ม.ค. 51 02:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ม.ค. 51 06:01:54 ]