ความคิดเห็นที่ 1 ปุจฉา..... ถ้าเหล่ายุงดมสมุนไพรแล้น เกิดเวียนหัวน็อคตาย บาปจะตกอยู่กับใคร ? ผู้สวมใส่ ? ผู้ถวาย ? หรือ ผู้ผลิต ?   ปล. อ่านแล้นนน เหมือนกัน ขำกลิ้งเลย   จากคุณ : Siamese Girl - [ 30 ม.ค. 51 15:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เจ๊หยาม มาอย่างงี้ ก็ วงแตก กระจาย จีวรปลิวว่อนนะสิครับ จากคุณ : xingto16 - [ 30 ม.ค. 51 16:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แน่ใจนะคะ แต่ที่ฟังข่าวเมื่อเช้าดูเหมือนว่า สมุนไพรที่ว่าจะเป็นขั้วประจุบวก ที่รบกวนโสตประสาทของยุงเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ถึงตายค่ะ ราคาตกอยู่ประมาณ 3000 บาท (ไม่แน่ใจว่าต่อเมตรหรือว่าอะไร) จากคุณ : LaLuna - [ 30 ม.ค. 51 17:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าไม่ถึงตาย ยุงอาจจะบ้าได้ เพราะถูกกวนประสาทบ่อย อ่านข่าวนี้แล้วก็ปิ๊งส์ วิ๊งค์ วิ๊งค์ ทำให้เกิดไอเดีย คิดค้นการทำจีวรสมุนไพร รุ่นรักษาป้องกันกลากเกลื้อน ส่งออกไปขายแถวธิเบต และ ภูฏาน เพราะพระเณรแถวนั้น เป็นกลากเป็นเกลื้อนกันเยอะเหลือเกิน ปล. 1  เรื่องจริงนะ ไม่ได้เข้ามาอำ ต้องไปดูกันเอง พระเณรแถวนั้น โดยเฉพาะเณรเด็กๆ เดินไปก็เกาไป ที่ศีรษะของแต่ละองค์เนี่ย กลากเกลื้อนเป็นดวง คันกันคะเยอ มองเห็นเป็นขอบเป็นวงแต่ไกลเลย ปล. 2 คุณสิงโต๑๖ .....ช่างหาเรื่องฮามาโพสท์บ่อยมาก (มีอยู่เรื่องเดียวที่อ่านแล้วเครียดไม่สนุก คือ เรื่องรันทดของพี่-น้องเกาหลี ซัมซุง กะ ฮุนได.....การ์ตูนไปหน่อย    ) เหล่าเณรน้อยชาวภูฏานที่เมืองพาโร     จากคุณ : Siamese Girl - [ 30 ม.ค. 51 17:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากได้แบบเป็นเสื้อผ้าธรรมดาๆเลย น่าจะสะดวกดี ไม่ต้องทายากันยุงบ่อยๆ แต่ว่าอีกหน่อยยุงจะต้องกลายพันธ์แน่ๆเลย อิอิ จากคุณ : yuy - [ 30 ม.ค. 51 20:17:05 A:124.121.27.27 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข่าวนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เส้นใยผ้าเคลือบสารกันยุง " ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเสื้อกันยุง คือ “วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด ซึ่งจบ จากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี CU แต่เลือกทำธุรกิจสิ่งทอมาตลอด โดยเปิดโรงงานผลิตและวิจัยพัฒนาสิ่งทอ รับจ้างผลิตผ้าให้แก่เสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายราย เช่น U2 , G2000 เป็นต้น แต่หลังจากเปิดเสรีการค้า ถ้าอยู่ในตลาดรับจ้างผลิตอย่างเดียว นับวันจะถูกจีนชิงตลาดไป ในฐานะผู้บริหารต้องเร่งปรับตัวหาทางรอดในระยะยาว " http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9500000119175 ประโยคสุดท้ายนี่ สมแล้วที่เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ทั้งๆที่ดูจากรูปแล้ว น่าจะยังแค่ราวๆ สามสิบ บวกลบ ในส่วนของการวิจัยที่บอกว่า ใช้งบหนึ่งล้านบาท ถือว่าน้อยมาก แถมยังใช้สมุนไพรไทย ใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วในระบบ ไม่ต้องนำเข้า และที่สำคัญคือ เป็นการช่วยเกษตรกรไทยด้วย แล้วถ้าไปเจาะตลาดต่างประเทศได้ ก็เท่ากับว่า ดูดเงินเข้าระบบอย่างเดียว เพราะต้นทุนทั้งหมดคือสิ่งที่มีอยู่แล้วในประเทศ ไม่ต้องนำเข้า เสื้อในโครงการที่เป็นเสื้อกัน UV กับเสื้อเคลือบสารนิโคตินช่วยเลิกบุหรี่ น่าจะตีตลาดโลกได้ ส่วนเสื้อกันยุง นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ก็คงเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น ถ้าจะตีตลาดยุโรปกับเมกาก็คงต้องไปคุยกับพวก Outdoor Sports/ Camping Apparel อะไรพวกนั้น ยังไงก็ ขอชม ในฐานะคนไทยด้วยกัน ดีใจที่นักธุรกิจรุ่นใหม่สร้าง brand ไทยด้วยไอเดียใหม่ๆของตัวเองได้ --------------------------------------------------------------------------------------------------------- ในส่วนที่นำผ้ามาทำเป็นจีวรพระกันยุงนั้น ก็ขออนุโมทนา คือ ขอร่วมยินดีในการคิดสร้างสรรค์ดีๆตรงนี้ แต่ ปัญหาที่มีอยู่ไม่ใช่เรื่องของยุงเลย เอาเข้าจริงๆพระท่านไม่ได้มีอะไรกับยุงเลย คือ ถ้าพูดถึงเรื่องยุงนะ พระบ้านเราตัดปัญหาไป เพราะท่านอยู่ตึก กุฏิเป็นห้องๆ มีประตู มีหน้าต่าง มีแอร์ ส่วนที่จะเป็นปัญหาก็คือพระป่า ซึ่งท่านก็อยู่วัดมีกุฏิ อยู่ป่ามีกลด ถ้าท่านจะหลบยุง ก็มีวิธีการของท่านเองอยู่แล้ว ในพระวินัยนี่ ถ้าทำตามแบบพระพุทธเจ้า จะไม่มีปัญหาเลย เพราะทุกอย่าง perfect as is สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับจีวรพระก็คือ เรื่องของการซัก คือปัญหาเรื่องของเหงื่อ ที่ทำให้มีกลิ่นเหม็น พระบ้าน เราไม่ต้องพูดถึง เพราะว่า เครื่องซักผ้ามี น้ำยาอะไรมีพร้อม ทุกอย่างสะดวก แต่พระป่า ที่เคร่งพระวินัย เวลาใช้จีวรที่เป็นผ้าวิทยาศาสตร์ ( จีวรที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ทั่วๆไป ) จะต้องซักจีวรบ่อย เพราะผ้ามันซับเหงื่อง่าย แล้วก็อย่างที่รู้ พระป่าบางทีไม่ค่อยอยากที่จะใช้ผงซักฟอก ไม่ใช่ไม่มีนะ มี แต่มันเปลืองน้ำ ต้องล้างหลายน้ำ เปลืองทรัพยากร และเปลืองเวลาในการซัก จีวรผ้าใยสังเคราะห์ราคาถูก หาซื้อง่าย แต่ 1.ซักน้ำเปล่าแล้วกลิ่นเหม็นเหงื่อมันไม่ออก ( ซึ่งถ้าใช้ผงซักฟอก ก็เปลืองน้ำมาก ) 2. ผ้าขาดง่าย เปื่อยง่าย โดนเกี่ยวอะไรหน่อย ก็ถลอก ใช้ไม่ทน 3. สีซีดเร็วมากๆ ย้อมซ้ำไม่ค่อยติด ถึงได้ยังมีการทำตามแบบพระพุทธเจ้าอยู่ คือ การย้อมน้ำฝาด เอาผ้าขาวมา ถ้าดีๆหน่อยก็ป่านอินเดีย เอาแก่นขนุนไปต้มย้อม เสร็จแล้วย้อมด้วยน้ำเปลือกมังคุดอีกที ซึ่งไอ้เจ้าเปลือกมังคุดเนี่ย มีคุณสมบัติที่ว่า จะมีสารเคลือบเป็น film บางๆ อยู่บนผืนผ้า ทั้งเหงื่อ ทั้งฝุ่นสกปรก จะไม่ติดลงไปบนเนื้อผ้าเลย อยู่ป่าหลายๆวัน ซักจีวรที ใช้น้ำเปล่าซักก็สะอาดแล้ว เร็ว สะดวก และประหยัดน้ำ ตรงนี้เป็นข้อมูล สำหรับใครก็ตามที่คิด หรือกำลังคิด หรือจะคิด ถวายจีวรพระ ถ้าเป็นไปได้ ให้อย่าซื้อตามร้าน หรือ ตามห้าง แต่ให้ไปที่ร้านที่มีการตัดจีวรพระโดยเฉพาะ ราคาที่แพงกว่าตอนซื้อ มันจะ pay off over the time เอง เพราะทนกว่าเยอะ ใช้ได้นานกว่า ย้อมซ้ำๆก็ได้ --------------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่ต้องการบอกก็คือ ถ้ามีใครในแวดวงธุรกิจสิ่งทอ ที่อยากจะเข้ามาพัฒนาอะไรในส่วนนี้ ขอให้คำนึงว่า ทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระ ไม่ต้องคิดเองหรอก พระพุทธเจ้าท่านคิดไว้ให้หมดแล้ว ให้ยึดตามแบบในพระวินัย สิ่งที่ผู้ผลิตควรทำคือ ไปทำวิจัย หาให้ได้ว่า สารอะไรในแก่นขนุน (และเปลือกไม้ชนิดอื่นๆที่ระบุในพระวินัย) ที่ทำให้สีย้อมที่ได้ ติดทนนานมากๆ สารอะไรในเปลือกมังคุด ที่มีคุณสมบัติเป็น film บางๆเคลือบบนผ้า ทำให้ผ้าไม่ติดเหงื่อเลย แล้วก็หาวิธีสกัดออกมา แบบที่ถูก สะดวก และเร็วที่สุด หรือไม่อีกทีก็ ผลิตสารที่มีคุณสมบัติเดียวกันออกมา ส่วนชาวพุทธเอง ที่มีศรัทธาถวายทานแด่พระภิกษุ ก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำด้วย คือ ศึกษาพระวินัย(บ้างเถิด) จะได้รู้ว่า อะไรที่ควร หรือไม่ควรถวาย และขั้นตอนที่ถูก คืออย่างไรๆ พระท่านจะได้ไม่ต้องไปปลงอาบัติทีหลัง ที่สำคัญคืออย่าลืม การให้ที่ชนะการให้ทั้งปวง คือ การให้ธรรมทาน และ การบูชาอันสูงสุดคือ การปฏิบัติบูชา จากคุณ : - 072648 - [ 30 ม.ค. 51 23:34:38 A:58.136.72.88 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ ^^ http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9500000119175 สาธุ  Sadhu   คุกกี้จตุคำ   จากคุณ : Siamese Girl - [ 31 ม.ค. 51 00:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กระทู้นี้ อ่านแล้วได้ความรู้แยะครับ จากคุณ : hollywop - [ 31 ม.ค. 51 00:59:00 ]