ความคิดเห็นที่ 1 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ ๆ ค่ะเพื่อน้องที่น่ารัก ลูกจะเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ จากคุณ : แม่น้องเดวิด (dylan) - [ 4 ก.พ. 51 16:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าสนใจ แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน ขออนุญาตเอาเสื่อมาปูจองที่แถวหน้าไว้ก่อน เดี๋ยวไม่มีที่ ขอตัวไปหาซื้อไข่ปลาหมึกปิ้งกับน้ำซาสี่มาเป็นเสบียงก่อนนะคะ จขกท เดี๋ยวกลับมาอ่านให้จบแล้วจะคอมเมนท์ให้ค่ะ จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 4 ก.พ. 51 16:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปล โหวตไว้ให้ก่อนหนึ่งจึ๊กค่ะ เรื่องจริงสอนใจอย่างนี้เป็นประโยชน์มากๆสำหรับสาวไทยหลายๆคนที่กำลังมองหาคู่ชาวต่างชาติอยู่ จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 4 ก.พ. 51 16:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านแล้วก็สะท้อนให้เห็นว่า การเรียนการศึกษาดี แต่ไม่รอบรู้เล่ห์กลของมนุษย์ ก็เลยตกเป็นเหยื่อของมนุษย์ที่เอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่า ผมว่าคุณน่าจะหาเวลาเขียนเรื่องของคุณ เรื่องนี้น่าจะขายได้นะครับ ได้เงินเก็บไว้เลี้ยงลูก ส่งลูกเรียนหนังสือ ขอให้คุณเข็มแข็ง และต่อสู้ต่อไปนะครับ ตอนนี้คุณพอที่จะมีภูมิต้านท้านโลกบ้างแล้ว เลี้ยงลูกให้ดีนะครับ ผมเอาใจช่วยครับ จากคุณ : ไทยสยาม - [ 4 ก.พ. 51 16:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วเห็นใจจริงๆ นะคะ ขอให้คุณเข้มแข็งในเร็ววันค่ะ เรื่องชีวิตในต่างแดนเราไม่ค่อยรู้มาก คงให้ได้แต่กำลังใจ คนชั่วพึ่งอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ จริงๆ ปล่อยคนพวกนี้เขาไปตามบุญตามกรรมเถอะ สักวันพวกเขาก็คงไม่มีดีขนาดนี้หรอก มันอาจจะน่าเจ็บใจ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะเอาความพวกนี้มาเป็นเสนียดบดบังความสุขในชีวิตเรา เราเชื่อว่าด้วยความรู้ที่คุณมี + อายุที่ยังน้อย ขอให้อาศัยเวลาทำให้คุณผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายพวกนี้ให้ได้ในเร็ววันนะคะ คิดซะว่า พลาดแล้วเป็นบทเรียน ปล. อย่าไปข้องเกี่ยวกับคนพวกนี้อีกนะคะ จำไว้ว่าคนเราอายุขนาดนี้แล้วมันเปลี่ยนไม่ได้ ขอให้คณพบความสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน จากคุณ : เล็กๆ น้อยๆ - [ 4 ก.พ. 51 17:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านแล้วอนาจค่ะ ตอนถูกหลอกนั่นจบปริญญาตรีแล้วเหรอค่ะ หรือว่ากำลังเรียนชั้นมัธยมอยู่ จากคุณ : ... - [ 4 ก.พ. 51 17:56:07 A:84.192.5.132 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าของแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการศึกษาหรอก แต่มันอยู่ที่ว่าขณะที่เรากำลังใช้ชีวิตในวัยเรียนอยู่เราทุ่มเทให้กับสิ่งไหนมากกว่ากัน เห็นมาหลายคนแล้วที่เรียนจบมาอย่างสูง แต่เพราะมุเรียนอย่างหนัก ไม่ใส่ใจเรื่องเพื่อนต่างเพศเลย เวลาจบออกมาทำงานทำให้ไม่รู้เท่าทันเพศตรงข้าม จากคุณ : เล็กๆ น้อยๆ - [ 4 ก.พ. 51 18:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตาลายอ่ะ ยังอ่านไม่จบเลย มาลงชื่อไว้ก่อน จากคุณ : ...amy... - [ 4 ก.พ. 51 18:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความจริงเรื่องการคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่ลูกผู้หญิงทุกคนควรรู้นะคะ และต้องสำนึกทุกครั้งว่า หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน ย่อมมีโอกาสท้องได้  หากอยากลอง หรือรักสนุก ก็ต้องป้องกัน  เพราะผู้ชายไม่ได้มาท้องกับคุณด้วย  จริง ๆ ก็ผิดทั้งคู่แหละค่ะ อย่าด่าแต่ฝ่ายชายเลย  สงสารเด็กจริง ๆ  เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้คุณและลูกละกันนะคะ  โหวตกระทู้นี้ให้ เผื่อจะได้เป็นบทเรียนกับหญิงสาวที่อ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์ผู้ชายชั่ว และไม่รู้เรื่องการคุมกำเนิด จากคุณ : Sonnenschein - [ 4 ก.พ. 51 19:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โตแล้วนะ  เรียนก็จบสูง   คิดว่าคงเอาตัวรอดได้ค่ะ จากคุณ : violetsand - [ 4 ก.พ. 51 20:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความไม่รู้ก็คือความไม่รู้ ไม่ใช่ ความโง่นะคะ   การที่คุณสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ขนาดนี้แล้ว เราเอาใจช่วยให้คุณกับคุณลูกสามารถดำเนินชีวิตไปได้ด้วยดีคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆ คน ปล..แนะนำให้จขกท. กด enter เว้นบรรทัดบ้างนะคะ จะได้อ่านสบายตาขึ้นนิดนึงคะ จากคุณ : สิงห์ใต้เงาจันทร์ (ise...) - [ 4 ก.พ. 51 22:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กลับบ้านไปเอาระเบิดไปปามันเลยดีกว่า คนแบบนี้ปล่อยไปก็รกโลก ฮ่าๆๆ อ่านแล้วยังกะเพิ่งดูละครช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ(คุณๆไกลบ้าน) ไม่มีมีผิดเพี้ยน น่าเอาไปทำละครนะนี่นะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะ ยังไงลูกคุณสำคัญที่สุดในตอนนี้เรื่องอื่นอย่า ไปใส่ใจเลย ออกมาอยู่เองแล้วก็ดีแล้ว แต่ถ้ายังตามราวีไม่เลิกสงสัยต้อง โดนซักฉาด สอง ฉาด แม๊ พูดแล้วอารมณ์ขึ้น จากคุณ : bertiebotts4 - [ 4 ก.พ. 51 22:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจ สงสาร และ ฯลฯ ค่ะ คุณแม่สามีอาจจะไม่อยากให้ลูกมีเมียเพราะกลัวลูกรักเมียมากกว่าหรือป่าว เพราะตัวเค้าเองก็ถูกสามีทิ้งอยู่ที่บ้านไปหาเมียน้อย ผู้ชายนะคะ ถ้ามันอยากจะ xxx มันพูดได้ทุกอย่างล่ะค่ะ ถ้าผุ้หญิงอยากได้ยินคำว่ารัก มันก็จะบอกรัก เห็นง่ายๆ ในหนังไทยน้ำเน่าทั่วไป แต่ก็ดีที่คุณเอาลูกออกมาได้แล้ว เพราะกำลังจะแนะนำว่า ลูกของคุณเค้าไม่มีสิทธิ์เอาไปง่ายๆ หรอกค่ะ ถ้าคุณไม่ยินยอม ถ้าเป็นที่ ตปท. นี่มีความผิดร้ายแรงนะคะ และคิดว่าไม่เกี่ยวกับการศึกษาด้วยว่าจะเรียนสูงแค่ไหน จบอะไร สถาบันไหนมา เพราะ common sense มันเป็นสิ่งนอกตำราค่ะ สอนกันไม่ได้ ต้องมีอยู่ในตัวเอง แต่ยังไงก็ขอให้คุณผ่านพ้นอุปสรรคไปให้ได้นะคะ เอาใจช่วย ป.ล. เห็นด้วยกะ คห. 11 น่าจะเว้นบรรทัดนิดนึงเพราะอ่านแล้วลายตามาก จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ (Evelyna) - [ 4 ก.พ. 51 22:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นใจจริง ๆ ค่ะ คุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เพื่อนดิฉันแต่งงานคนแรกของรุ่น  พอมีลูกคนที่สอง ก็มีเรื่องต้องแยกครอบครัวกัน เพื่อนอดทนเลี้ยงลูกคนเดียว จน ณ วันนี้ลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ถึงสองคณะ เพื่อนดีใจสุด ๆ .... นับเวลาแล้วก็สิบกว่าปีปลาย ๆ จะเข้ายี่สิบปีของความรักขม แต่มีลูกเป็นเพื่อน ทำให้เธอสู้ชีวิต  .. เพื่อนดูไม่แก่เลยนะคะ แถมชอบทำตัววัยรุ่นมาก เวลาถ่ายรูปกับลูกสาวสองคน   ใคร ๆ ก็นึกว่าเป็นพี่สาวคนโตมากกว่าเป็นแม่ มาเล่าให้ฟังเป็นกำลังใจ .. เธอได้กำลังใจจากครอบครัวเดิมของเธอเองค่ะ ในยามที่ครอบครัวฝ่ายชายไม่เหลียวแล และอีกฝ่ายก็ไปมีใหม่... อย่าท้อแท้นะคะ .. วันวานที่ขมขื่นเมื่อผ่านไปแล้ว ก็ใช่จะทำให้วันนี้และวันข้างหน้า จะต้องขมไปด้วย  เริ่มจากใจเราที่เบิกบาน จะทำให้เรายิ้มกับโลกได้ และ โลกจะยิ้มตอบค่ะ   ขอส่งกำลังใจให้คุณแม่คนใหม่ต่อสู้กับชีวิตเพื่อลูก และผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ด้วยดีนะคะ จากคุณ : บีพี - [ 4 ก.พ. 51 22:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : oillyberry - [ 4 ก.พ. 51 22:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องของดิฉันคล้ายๆเรื่องของคุณเจ้าของกระทู้เลยค่ะ ท้องที่เมืองนอก ไม่ถูกกับแม่ผัว ผัวสารเลว ชีวิตมันต้องเดินไปข้างหน้า อย่ามองกลับค่ะ จากคุณ : kitschsy (kitschsy) - [ 4 ก.พ. 51 22:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชั่วได้ไร้ที่ติ จากคุณ : Gigolina - [ 4 ก.พ. 51 22:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แนะนำให้ไปตบอี่แม่ผัวค่ะ จากคุณ : kitschsy - [ 4 ก.พ. 51 22:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยพบเจอเคสนี้ หญิงท้องก่อนแต่ง แล้วกลับมาเมืองไทย ญาติฝ่ายหญิงรับไม่ได้ เลยมาอยู่กับครอบครัวสามี ทั้งๆ ที่ท้องแก่แล้ว แต่แม่สามีให้ทำงานล้างห้องน้ำหอพัก ก็ํมีลูกจ้างทำความสะอาดประจำอยู่นะ แต่ไม่ให้ลูกจ้างทำงาน สุดท้ายหญิงทิ้งลูกให้อยู่กับครอบครัวสามี ไปเริ่มต้นใหม่ จากคุณ : แจ่มจ้า - [ 4 ก.พ. 51 23:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านจนจบค่ะ ถ้าจขกท สามารถที่จะหางานทำได้และเลี้ยงลูกได้ด้วยตัวเองช่วงนี้ลองหางานดูค่ะ กลับไปอยู่กับพ่อแม่ของคุณ เขาต้องเข้าใจคุณ ส่วนนังแม่ผัวตัวแสบ และไอ้ผัวเลวนั้นไม่ต้องไปยุ่งกับมัน(ขอโทษที่ใช้คำแรงๆ) ถึงมันมีรูปร่างเปนมนุษย์ตอนนี้ แต่จิตใจมันต่ำมากๆ อย่าไปเอามันกลับมาเปนพ่อของลูกค่ะ จากคุณ : michigirl - [ 4 ก.พ. 51 23:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็น Single mom ดีกว่า เหมือน เจด้า กับแม่ จิดาภา ไง ลูกสาวเหมือนกันด้วย   อย่าไปหวังพึ่งครอบครัวสามีเลย   ถ้าเป็นเรา ลูกเรา เราหอบหนีมานานแล้ว ใครจะทำอะไรได้ ก็ไหนบอกนักบอกหนาไงว่าไม่ต้องรับผิดชอบเพราะสมยอมเองนิ   สู้ๆค่ะ  กล้าๆไปเล้ย จากคุณ : just.a.girl - [ 5 ก.พ. 51 00:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านจบแล้วค่ะ.. เสียความรู้สึกเลย ..เกิดเป็นชายชาติทหาร แต่ทำไมถึงได้ทารุนทำร้ายจิตใจของผู้เป็นเพศแม่ได้ขนาดนี้ คนแบบนี้ยังมีในโลกนี้อีกหรือนี่.. (คุณ ผ. และ คุณแม่ ผ.) น่าสงสารน้องจังเลย แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่มือใหม่นะคะ.. สู้ต่อไปนะคะ.. เพื่ออนาคตของลูก (ที่กำลังจะเป็นกำลังสำคัญ- ของชาติและสังคม) ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายด้วยดี.. ปล. มันผู้ใดกระทำเยี่ยงใด ย่อมได้รับผลการกระทำตอบแทนเยี่ยงนั้น.. จากคุณ : WeToYoU - [ 5 ก.พ. 51 00:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปล. 2  โหวตค่ะๆๆๆ จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนๆ(ผู้หญิง)          ที่อยู่ต่างประเทศ.. เอ๊ะ.. หรื่อว่าในประเทศด้วยนะ อิอิ จากคุณ : WeToYoU - [ 5 ก.พ. 51 00:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอให้กำลังใจเต็มที่ค่ะ การศึกษาไม่เกี่ยวหรอกนะคะว่าเรียนสูง หรือไม่สูง เห็นด้วยค่ะ.......บางทีความรัก ความหลงมันบังตาค่ะ....ซึ่งหลาย ๆ คนก็เป็นค่ะไม่ใช่แต่คุณคนเดียว อยากให้คุณเจ้าของกระทู้มีจิตใจที่เข้มแข็งค่ะ....ความเห็นไหนอ่านแล้วรู้สึกแย่เหมือนซ้ำเติมก็อ่านผ่าน ๆ ไปนะคะ อย่าไปคิดมากค่ะ คนเรามันมีผิดพลาดกันได้ค่ะ คนเราถ้าผงไม่เข้าตาตัวเองก็ไม่รู้สึกหรอกค่ะ ตอนนี้คุณไม่มีเวลามาอ่อนแอแล้วค่ะ เพราะต้องเดินหน้าอย่างเดียว คุณมีลูกน้อยเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ค่ะ และอีกหลายความเห็นก็ให้กำลังใจคุณโขอยู่นะคะ เวลาจะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นค่ะ.....หลังจากเจอเรี่องแย่ ๆ มาแล้วขอให้เจอแต่เรื่องดี ๆ นะคะ จากคุณ : Preview - [ 5 ก.พ. 51 01:14:48 A:58.8.102.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตให้ค่ะเป็นอุทธาหรณ์สอนคน  การศึกษาสูงเท่าไหร่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เมื่อความรักบังตา แต่ก็จริง ๆ แหละการรับผิดชอบของผู้ชายเนี่ย มันที่ตัวบุคคลค่ะ และครอบครัวถ้าเลวกันทั้งโคตรก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก สันดอนน่ะขุดได้ แต่สันด-น น่ะล้างและขุดเท่าไหร่ก็ล้างไม่ออก คุณ จขกท.มีลูกน่ารัก ครบ 32 น่ะประเสริฐสุดแล้วค่ะ คุณเป็นคนมีความสามารถมีความรู้ ตั้งต้นใหม่ค่ะ เป็น Single mum อย่างที่ คห. ข้างบนแนะนำมาก็ดีไม่น้อย เรามีทางเลือกที่แคบเข้า คิดหาทางเอาตัวให้รอดก่อน กลับไปหาครอบครัวเรา พ่อแม่เราต้องให้อภัยอยู่แล้ว ตัดครอบครัวทางพ่อของเด็กไปให้หมด อย่าไปอาลัยอาวรณ์  หาคนเลี้ยงลูก แล้วหางานทำ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุดค่ะ  คุณยังสาวยังสวย อนาคตสดใสข้างหน้ายังมีอยู่ค่ะ ดิฉันรู้จักเด็กสาวที่มาเรียนที่อเมริกานี่นะคะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ดี ๆ ก็เรียนไปด้วย มีชาวอเมริกันมาติดพันก็ไม่เอา ดันไปท้องกับชาวแม๊กซิกัน แล้วไอ้เลวนั่นมานก็ทิ้งไป ชายแม๊กซิกันนี่นิสัยฟันหรือไข่แล้วทิ้ง มีมาก พอ ๆ กับผู้ชายไทย (ไม่เหมารวมผู้ชายไทย ดี ๆ นะคะ) ลูกยังไม่ทันออกเลย ท้องโย้อยู่อย่างนั้น 5-6 เดือนเห็นจะได้ทำงานก็ลำบาก ไม่ถนัด เปลี่ยนงานก็ไม่ได้ รายได้ก็น้อยลง บอกที่บ้านยิ่งไม่ได้ใหญ่   ชายอเมริกัน(แก่กว่าประมาณ 20 ปีมั๊ง) คนเดิมก็สงสารนำไปให้ที่อยู่ พาไปคลอดลูก จนเดี๋ยวนี้แต่งงานกันไปแล้ว  ตอนนี้เธอก็กลับมาเรียนและหางานทำไปด้วย  เรื่องของเธอที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแต่ต้น ก็จบลงอย่างแฮ๊ปปี้เอ็นดิ้ง แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่โชคดีอย่างเธอ เปรียบเทียบชีวิตของเด็กผู้หญิงที่เล่ามาข้างต้นกะของ จขกท. แล้ว คิดว่า จขกท. มีความสามารถมากกว่าค่ะ  รักลุกให้มาก ๆ และทำทุกอย่างเพื่อลูก  ฮึดสู้นะคะ  ทุกอย่างมีทางออก คุณพระรักษาค่ะ จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) - [ 5 ก.พ. 51 01:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผู้ชายไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ของตัวเอง เเล้วมันจะสร้างครอบครัวได้ยังไงฟะ คุณอย่าไปหวังสมบัติลมๆเเล้งๆของครอบครัวผู้ชาย คุณมีความรู้ความสามารถ หางานทำพึ่งตัวเองดีกว่า อย่าไปยุ่งกะมันอีกเลย คนเเบบนี้ไม่ควรนับเป็นพ่อของลูกอีก ขอให้กำลังใจในการต่อสู้เพื่อลูกน้อยละกัน จากคุณ : remy&chanel - [ 5 ก.พ. 51 01:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่รู้จะทำยังไงให้คุณจขกทรู้สึกดีขึ้น ลองอ่านข้อความข้างล่างนี้ดูนะคะ เผื่อคุณจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาได้บ้างค่ะ Positive Thinking, Positive Life เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ (perfectionist) เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์ เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบที่ว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส" เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์ จากคุณ : rangsri (rangsri) - [ 5 ก.พ. 51 01:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทำใจให้เข้มแข็งเป็นพอ!คุณอยู่ได้เมื่อมีลูกเป็นเพื่อน คุณขาดสามี(พ่อของลูก)ได้ คุณก็ไม่ตาย คุณยังอยู่สบายดีอีกด้วย ไม่มีพวกเขา ทำให้คุณทวีความสุขและส่ะใจ ดีที่สุด..เขาคงต้องเป็นหนามยอกใจ ไปตลอดชีวิต เขายังมีสายเลือดเดียวกันกับเขาอีก1ชีวิต..เขาจะลืมตรงนี้ไม่ได้ค่ะ.เชื่อดิฉันเหอะ..มนุษย์ทุกคน เอาชนะความจริงไม่ได้.ลูกของคุณก็เป็นลูกของเขา.จิตใต้สำนึกคนลึกๆ..ย่อมคิดได้ว่าเคยมีลูก..เด็ก น่ารัก เขาจะอดเอ็นดูมิได้..เขาคงต้องคิดถึง บ้าง..และเขาจะรู้เองว่า เขาก็ทรมานใจเหมือนกัน หากได้คิดถึงเด็กตัวน้อยสักคน..ที่เมื่อก่อนเขาเคยคิดหาทางจะทำลาย ..ขอให้คุณตั้งใจเลี้ยงลูกให้ดี เลี้ยงเขาให้เติบโต เขาเป็นหัวใจของคุณ..เป็นกำลังใจให้คุณ ยังไงคุณก็ยังอยู่มีความสุขดี โดยไม่มีสามี ค่ะ จากคุณ : อยู่ได้เมื่อขาดสามี อยู่ไม่ได้ - [ 5 ก.พ. 51 01:46:02 A:91.50.114.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ ลุกขึ้นมาสู้และยืนหยัดได้ด้วยตัวเองอีกครั้งค่ะ ชอบความเห็นคุณบีพี และ น้านกค่ะ สู้เพื่อลูกน่ะค่ะ cheer you up (สู้โว้ย) จากคุณ : เพื่อน-แพง - [ 5 ก.พ. 51 01:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเป็นตัวเอง เจอแบบเจ้าของกระทู้ คงจะลาขาดตั้งแต่ท้องแล้วค่ะ สมัยนี้ single mom มีเยอะแยะไป ไม่ต้องกลัวค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 5 ก.พ. 51 02:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วขนลุก สัตว์นรกจิงๆเลยค่ะ ชั่วมากๆ ขอให้คุณจขกท.สู้ๆนะค่ะ ดิฉันอยากแนะนำว่า สู้ให้ถึงที่สุดค่ะ พวกนี้ต้องฟ้องทนายค่ะ เอาให้หมดตัวเลย เพราะ ใช้ความดีลูบไม่ได้ มันต้องเล่นวัตถุค่ะ เอาทั้งเงิน เอาทั้งผลประโยชน์ของลูกเราค่ะ สู้ค่ะสู้ เจ็บใจแทนมากๆๆ ไม่รู้ัจะด่าแทนจขกท.ยังไงดี..หงุดหงิดเลย.. จากคุณ : c_la_vie - [ 5 ก.พ. 51 04:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องของ จขกท เหมือนเพื่อนเราเลยค่ะ เพียงแต่ของเพื่อนเปลี่ยนเป็นประเทศนิวซีแลนด์ และเพื่อนโชคดีที่ไม่ท้อง ตอนนี้เลิกกันไปแล้ว และผู้ชายก็เพลินมีเงินใช้อยู่กับ (เหยื่อ) สาวไฮโซรายใหม่อยู่ ขอให้กำลังใจคุณแม่เพื่อสร้างอนาคตให้ลูกค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 5 ก.พ. 51 04:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สามีคุณเป็นคนไทยแต่จบเมืองนอกใช่ไหมคะ เห็นลูกคนรวยหลายคนแล้วที่อาศัยพ่อแม่ คือ ถ้าไม่มีพ่อแม่ช่วยเหลือ ตัวเองก็เอาตัวไม่รอด ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่สอนลูกแบบนั้น แทนที่จะสอนความรับผิดชอบ เลี้ยงตัวเองให้ได้ เพราะยังไงสักวันพ่อแม่ก็ต้องจากไป เงินทองที่เหลือไว้ หากใช้ไม่เป็นก็หมด คุณเป็นคนมีความสามารถ ลองหางานแปลภาษา แปลหนังสือ แปลบทพากย์ทำจากบ้านก็ได้ค่ะ หรือล่ามแบบชั่วคราว คือรับเป็นจ๊อบ ๆ ไป หรืองานสอนภาษาที่ทำเป็นกะ คุณยังโชคดีที่ได้ลูกมาอยู่กับคุณ ถ้าอยู่กับบ้านสามีมีหวังลูกจะเสียคนไปด้วย ขอให้เข้มแข็ง ก้มหน้าสู้ ๆๆๆ สักวันผลของความอดทนและมานะจะตอบคืนค่ะ จากคุณ : Sunny Shiny Day - [ 5 ก.พ. 51 04:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รักในวัยเรียน.........เหมือนจุดเทียนกลางพายุ สวรรค์คงต้องเห็นความดีที่คอยห่วงหาต่อลูกน้อยของคุณครับ....... ค่อยๆ ตัดใจ....แล้วตั้งใจทำหน้าที่ "แม่" ที่ดีของลูกนะครับ.....อย่างน้อยๆ ครอบครัวฝ่ายของคุณก็ยังอยู่เคียงข้างคุณเสมอ...... ขอคาราวะจิตวิญญาณของความเป็นแม่คนมา ณ ตรงนี้ ตอนนี้แก้วตาดวงใจของคุณมีเพียง "หนึ่งเดียว" .......ส่วนคนอื่นถ้าไม่ข้องแวะได้ก็จะดี ทุ่มเทให้ลูกน้อยนะครับ เส้นทางชีวิตบนถนนไฮโซบางคนบางท่าน.....คนต่ำติดดินเยี่ยงผมแหงนขึ้นมองทีไร ก็ให้รู้สึกหวาดเสียวและสงสารแทนไม่ได้....... มนต์และอำนาจแห่งเงินตราบางครั้งมันก็บดบังตาให้เขาเหล่านั้นมองข้ามความเป็น"มนุษย์" และหลัก "จริยธรรม" ที่มนุษย์พึงจะปฏิบัติด้วยกันได้........จริยธรรมขั้นพื้นฐานนับวันจะหร่อยหรอลงไปทุกวันด้วยกระแสแห่งวัตถุนิยมอันเชี่ยวกราก เปลือกแห่ง "ศักดิ์" และ "ศรี" ที่เราตั้งสมมุตติฐานขึ้นกันเองนั้น มนุษย์เราอีกนั่นแหละที่นำมาห่อหุ้มและรัดตรึงตนเองจนกลายเป็นพันธนาการที่ยากจะดิ้นหลุด "แก่นกระพี้" อันเป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ถูกบดบังและห่อหุ้มหนาขึ้นทุกขณะ.......ชีวิตที่ไร้แก่ไร้กระพี้....มันเริ่มตรงจุดนี้เอง ขอแสดงความเห็นใจและสงสารในชะตากรรมที่คุณกำลังประสบครับ........เพียงแค่คู่รักของคุณปัดความรับผิดชอบอย่างนี้ก็หนักที่จะเกินรับได้แล้ว.....กลับต้องมาโดนการรังเกียจเดียจฉันท์จากญาติฝ่ายชายอีก..........."สัตว์นรก" ไม่หยาบเลย หากจะเรียกคนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนั้น เป็นแม่ที่ดีที่สุดของลูกน้อยของคุณนะครับ จากคุณ : คนอุดรฯ - [ 5 ก.พ. 51 05:18:36 A:86.140.171.239 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ออกมาอยู่เอง แล้วหาทนายฟ้องเอาค่าเลี้ยงบุตรดีกว่า อยู่ในบ้านแบบนั้น เสียสติเปล่า ๆ จากคุณ : Lilac Girl - [ 5 ก.พ. 51 06:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดีใจด้วยที่คุณหลุดออกมาจากขุมนรกนั้นได้ ไม่รู้จะแนะนำอะไร ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : รักแท้ไม่แพ้อะไร - [ 5 ก.พ. 51 08:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เหมือนที่คุณLilac Girlบอกใว้ค่ะว่าหาทนายเก่งๆฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้ใหม สำหรับช่วงที่คุณไม่มีรายได้ พอตั้งหลักได้ มีเงินจ้างคนเลี้ยงลูกแล้วคุณค่อยออกไปทำงานนอกบ้าน สู้ต่อไปนะคะ จากคุณ : Idel - [ 5 ก.พ. 51 08:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอ้า พี่น้อง อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ เตือนตน เตือนเพื่อน เตือนคนข้างๆ ไม่รู้ว่าเราจะหลุดเข้าวงโคจรนี้เมือ่ไหร่ โดยไม่รู้ตัว จขกท. สู้ๆนะคะ จากคุณ : Lighting Plankton - [ 5 ก.พ. 51 09:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากผมเขียนความเห็นลงไปแล้ว กลับมาคิดอีกที เกิดข้อสงสัยว่า นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ มันแทบจะเชื่อไม่ได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : ไทยสยาม - [ 5 ก.พ. 51 09:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โหวตค่ะ เป็นกำลังใจให้ จขกท.ด้วยนะคะ...คนดีจริงก็มีเยอะ แต่คนไม่ดีก็มีมาก เข้มแข็งและอดทนเพื่อลูกสาวนะคะ บุญรักษาค่ะ จากคุณ : LaveN lily - [ 5 ก.พ. 51 11:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บทเรียนชีวิตคับ จากคุณ : sanow - [ 5 ก.พ. 51 11:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นเรื่องจริงทุกประการค่ะ คุณไทยสยาม ดิฉันหมดหนทางแล้วจริง ๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว ได้แต่ระบายลงในกระดาษ แทนที่จะมานั่งร้องห้ เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งที่ดิฉันได้รับจากพวกเค้าค่ะ ดิฉันไม่รู้จะเล่ายังไงหมดเลยค่ะ ไม่รู้ชาติก่อนทำบาป กรรมอะไรไว้ ทำไมที่เค้าบอกว่าคนชั่วต้องได้รับผลชั่ว ไม่เห็นจริงเลย T_T' มันน่าเจ็บใจในชะตากรรมนัก มันเอาสร้อยไปขายแล้วเพราะเสียบอล แต่มันบอกแม่ ผ. ว่ามันเอามาเลี้ยงดิฉันให้ดิฉันค่ะ ตอนมันอยู่ ออสเตรเลีย มันเสียคาสิโนหลายแสน มันก้อโทรขอแม่มัน บอกว่า มันจะให้ดิฉันค่ะ อีแม่ ผ. ก้อเชื่อมัน มันรักลูกมันมากค่ะ หน้ามืด ตาบอด ..... ตอนท้อง 7 เดือน ดิฉันโดนทำร้ายร่างกายในรถ ต้องหนีลงมอร์เตอร์เวย์ ค่ะ ผู้หญิงท้องแก่เดินร้องไห้ตรงมอร์เตอร์เวย์ แถว ๆ เค เอฟ ซี อ่ะค่ะ ใครเดินมาเค้าคงเวทนาสงสาร ปนสมเพช ดิฉันโทรไปหาแม่ ผ. พอกลับบ้าน โดนแม่ผ. ด่าอีกค่ะ ว่าให้ดิฉันรับปากว่าจะไม่โทรไปฟ้องพ่อ กับแม่ ดิ ฉัน ที่ดิฉันไม่บอกเพราะอยากประคองชีวิตคุ่ แต่กลับกลายเป็นโดนด่าค่ะ หาว่าไม่ใช่รับปากไม่บอก แต่สุดท้ายไปบอกพ่อ แม่ตัวเอง ..... ตอนคลอดลูกก่อนที่จะออกจากบ้าน สัตว์นรก มา ดิฉันอาบน้ำลูกเสร็จ วางไว้บนเตียง ผ.ตัวดีจะไปกินเหล้ากะเพื่อนกลางวันแสก ๆ ดิฉันไม่อยากให้เค้าไป เลยมีปากเสียงกันขึ้น ผลนะเหรอคะ ดิฉันโดนซ้อม ปิดประตูบ้านทั้งตบ ทั้งเตะดิฉันติดมุมกำแพง ดิฉันก้มลงกราบเท้า ขอร้องไม่อยากให้ลูกตกใจ ปากก้อร้องให้คนช่วย แต่ไม่วายโดนมันตบซ้ก เอามืออุดปากอีก ดิฉันไม่รู้ทำไงพอได้สติ เลยวิ่งไปหยิบมีดค่ะ พอมันเห็นมีดมันก้อวิ่งไปหลบในห้องนอนล๊อคประตู แม่ ผ.มันกลับมาพอดี :-) ก้อเห็นดิฉันถือมีดค่ะ เลยโดนมันฟ้องกลับค่ะ ก้อเหมือนเดิมค่ะ ไม่พูดอะไรซักคำ และแก้ตัวกับเพื่อนบ้านว่า ดิฉันทะเลาะกับสามี น่าเบื่อ อยากให้ไปอยู่ไกล ๆ จากนั้นดิฉันไปโรงพยาบาลค่ะ คุณหมอลงบันทึกประจำวัน ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรค่ะ (แล้วถามดิฉันว่าจะเอาเรื่องขึ้นศาลมั๊ย จะได้เรียก นิติเวช) ..... คุณหมอโรงพยาบาลแห่งนึง ทราบดีค่ะ เนื่องจากดิฉันไปหาท่านประจำ เล่าให้ท่านฟังหมด เพราะตอนท้อง 6 เดือนมันพาดิฉันไปที่นั่น เพราะมันจะให้ดิฉันทำแท้งค่ะ หมอบอกว่าไม่รับทำ ไอ้บ้า ไอ้ชั่วชาติ ดิฉันเห็นลูกใน อัลตร้าซาวล์ น้ำตาไหล เค้ามีทุกอย่างครบแล้ว เค้าจมูก เหมือนดิฉันมากค่ะ ดิฉันสวดคาถาชินบัญชร กับ คาถาให้คลอดลูกง่ายค่ะ สวดให้ลูกปลอดภัย เพราะตอนท้อง ไอ้ผ.ตัวดี มันทำร้ายดิฉันทุกอย่าง แช่งให้ลูกพิการ แช่งให้ดิฉันแท้ง ตะโกนใส่ ทุกอย่างที่มันจะทำได้ ...... ดิฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้วค่ะ เล่าให้ สิบ กระทู้ไงก้อไม่หมดค่ะ ตอนนี้อยากปรึกษาท่านที่มีความรู้ค่ะ ว่าดิฉันจะพาลูกไปอยู่ต่างประเทศกันสองคนได้มั๊ย อยากหนีไปให้ไกล ๆ ที่ไทยดิฉันไม่มีใครแล้วค่ะ อีกอย่างดิฉันรักลูกมาก อยากเลี้ยงลูกเองให้ดีที่สุด (ตัวเล็กเป็นโรคหัวใจค่ะ เอากรรมพันธ์เชี่ย ๆ จาก พวกมันมา) ตอนนี้ให้กินนมแม่ มหัสจรรย์มากค่ะ เพิ่งไปตรวจมา หลอดเลือดหัวใจเท่าเดิมแล้วค่ะ ดิฉันเลยอยากไปทำงานที่ต่างประเทศค่ะ ดิฉันมีน้องอยู่ที่อเมริกา ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ อยากตายจากพวกมันไปเลย ไม่ต้องเหยียบผืนดินเดียวกันอีก --- คุณหมอบอกว่า ถ้าเด็กโต แล้วเค้ามีชื่อเสียง พวกมันจะมาอ้างตัวเป็นพ่อ ได้ ให้ระวังไว้ ค่ะ เรื่องแบบนี้มันมีจริง ๆ นะคะ สุดท้ายดิฉันขอให้คุณพระคุ้มครองตัวเล็กของดิฉัน และ คุณผู้หญิงทุกท่านที่เจอแบบดิฉัน และกำลังจะแต่งงานกับคนที่เจอที่เมืองนอกนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : new mom - [ 5 ก.พ. 51 11:43:52 A:124.121.240.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 อดีตคือบทเรียน   ที่เลวๆลืมเสียจะดีกว่า มีความรู้อยู่กับตัว  ใช้ความรู้หาเงินเลี้ยงลูก คนเขาไม่มีปริญญา ก็เลี้ยงลูกได้ แล้วก็เรียนรู้สังคมรอบๆตัวไปด้วย อยู่เมืองไทย  คิดว่าไม่อดตายนะ พยายามมองคนในแง่ลบไว้บ้างก่อนที่จะคบใคร หน้าตาดี  แต่งตัวทันสมัย  เราไม่รู้ว่าใจเขาจะเป็น คนดี  หรือ  เลว.... สู้นะคุณ  ส่งกำลังใจมาช่วย จากคุณ : ยิ้มไม่ออก (ยิ้มกันดีกว่า) - [ 5 ก.พ. 51 12:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คิดมานานแล้วว่า ทำไมเจ้าของกระทู้ไม่แจ้งความบ้าง หลักฐานก็น่าจะมีอยู่มากพอทุกอย่าง จากคุณ : แพนด้าหน้าใส - [ 5 ก.พ. 51 13:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผู้ชายแบบนี้มีจริง ๆ นะคุณ เลวยิ่งกว่าสัตว์ เราเคยเห็นกับตาเลยนะ แบบว่าผุ้หญิงส่งของให้แล้วมันไปเกี่ยวโดนอะไรมันไม่รู้แล้วบาดแขนมันมั่ง คือผุ้หญิงก็คงส่งให้แบบรีบ ๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจ มันตบเปรี้ยง ผุ้หญิงหน้าเป็นรอยเลยค่ะ ผู้ชายเรียนช่างกลที่ไหนไม่รู้แต่เป็นคนเชียงรายและก็นิสัยเกเรกะเลวกะลาดน่ะค่ะ พี่ชายเราเล่าว่าผุ้หญิงเหมือนจะโดนไอ้เชี่ยนี่ปล้ำน่ะค่ะ ดูแล้วไม่เหมาะกันเลย แล้วคงพากันหนีมาอยู่ด้วยกัน น่าสงสารผู้หญิงมากเลยค่ะ ตอนหลังเราถามน้าที่อยู่เชียงรายเค้าว่าที่บ้านผุ้หญิงไม่นานก็ตามหาลูกเจอและมาตามกลับ เห็นเค้าว่าพ่อผู้หญิงจ้างคนมายิงไอ้เชี่ยนั่นด้วยค่ะ คือมันซ้อมตบทุกตีผู้หญิงแทบทุกวันเลย และมีคนเห็น มีไปโรงพักด้วยนะ ผุ้หญิงก็ทำเสริฟร้านสุกี้น่ะค่ะ มันก็เหมือนให้ผู้หญิงทำงานเลี้ยงมันเลยอ่ะ เห็นมันเสริฟเหมือนกัน แต่ดูกินแรงแฟนมันยังไงไม่รู้อ่ะ อาเฮียเจ้าของร้านแกก็คุยกะแม่เรานะ ว่าสงสารผู้หญิงท่าทางจะมาจากครอบครัวมีฐานะด้วย ต้องออกเรียนกลางคัน แล้วก็เหมือนคุณเนี่ยแหล่ะ ไอ้เชี่ยนั่นก็พยายามทำให้ผู้หญิงคนนี้ท้อง คือถ้าเจอยาคุมที่ผู้หญิงแอบกินมันก็จะซ้อม เจ้าของร้านกับเมียเค้าก็ต้องไปกะคนงานคนอื่นไปดึงผู้หญิงออกมา เมียเจ้าของร้านก็บอกแม่เราว่าไม่กล้าให้ออกเพราะกลัวมันพาผุ้หญิงไปที่อื่นแล้วจะไปกระทืบจนตายก็ไม่รู้อีก อย่างน้อยอยู่ที่ร้านก็ยังช่วยดูได้/คือสองผัวเมียเจ้าของร้านสุกี้นี้เราว่าแกเป็นคนดีนะ แล้วไอ้เชี่ยนั่นก็ไม่ค่อยหยิบจับอะไร ทำงานแบบขี้เกียจมาก ๆ หน้าเหียกมาก ๆ แต่พยายามแต่งตัวพยายามเด่นน่ะ แต่ทำงานเสริฟในร้านสุกี้อ่ะนะ แต่งตัวเหมือนบ้านนอกจะเข้ากรุงอ่ะ เราเห็นแล้วอยากอ้วกมากเลย สงสารผุ้หญิงมากๆ ผู้ชายแบบนี้ เท่าที่คุณเล่ามามันสุดเยียวยาแล้วนะ ไม่มีความดีอะไรเลย เราว่าคุณคิดดีแล้วที่แยกลูกออกมาน่ะ แล้วคุณไม่มีพ่อแม่คุณแล้วเหรอ ไม่ลองกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่เหรอคะ ชีวิตที่เมืองนอกมันยิ่งเหงานะ แต่ถ้าคุณมีประสบการณ์ทำงานในด้านที่ออสเตรเลียต้องการ และผลสอบไอเอลคุณได้ตามเค้ากำหนด คุณก็แอพพลายขอวีซ่าพีอาร์ได้ ถ้าคุณได้ ลูกคุณก็ได้ตาม พอมาถึงออสคุณก็ได้เงินเลี้ยงดูบุตรทันที และถ้าคุณไม่ได้ทำงานเป็นซิงเกิลมัม คุณก็ได้เงินเลี้ยงดูลูกแน่นอน คุณก็อยู่ได้นะ ลูกคุณก็ได้เรียนฟรี หรือเข้าชายแคร์ก็จ่ายเท่าที่พลเมืองจ่าย เพราะรัฐจะออกให้ส่วนนึง คุณจ่ายส่วนนึง ถ้าอยู่แถวซิดนี่ซับเบิบ/ฝั่งที่ปลอดภัยหน่อยอ่ะนะ คนไทยเยอะ หน่วยงานต่าง ๆ ที่คุณจะโทรไปติดต่อเรื่องเงินช่วยเหลือลูกและแม่ ก้มีเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ จากคุณ : // - [ 5 ก.พ. 51 13:29:40 A:124.176.96.247 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะคะ เป็นอุธาหรณ์สอนใจเด็กๆจริงๆค่ะ จากคุณ : ลาทีมหาลัย - [ 5 ก.พ. 51 14:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นกำลังใจให้สู้นะคะ ...อดีต แก้ไขไม่ได้ ก็อย่าไปนั่งนึกเสียดาย เอามันมาเป็นบทเรียนไม่ให้ผิดอีกนะคะ   ...อนาคตอยู่ในมือเรา ทำให้ดีที่สุดนะคะ จากคุณ : BiG LittLe GirL - [ 5 ก.พ. 51 14:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สู้ต่อไปน่ะค่ะ  จขกท. ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ  อ่านแล้วชีวิตคล้ายกับ  ของแอร์กี่เลยค่ะ  สู้ๆๆๆน่ะค่ะ จากคุณ : panda_thailand - [ 5 ก.พ. 51 15:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านแล้วงงๆนะ ตกลงคุณบอกว่าตอนแรกเค้าอยากมีลูกกับคุณ ทำทุกวิถีทางเลยหรอ? แล้วพอรู้ว่าคุณท้องปึ๊บ กลับจะทำทุกวิถีทางให้เอาลูกออกให้ได้หรอ? ตกลงมันจะเอายังไงนะ? ละมันอยากให้คุณมีลูกกับมันเพื่ออะไรนะ? คือ อ่านๆดู ที่คุณบอกเหมือนคุณเป็นคนมีการศึกษาดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เทคนิคการเขียนเล่ารายละเอียดกับการใช้ภาษามันไม่รู้สิ เราว่าน่าจะดีกว่านี้อะ แค่อยากจะบอกว่าจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกอะนะ เอาเหอะ ยังไง ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์นี้จริงๆ ก็เป็นกำลังใจให้ละกัน ความรู้ความสามารถน่ะ ไอ้ผู้ชายเลวๆมันขโมยไปจากคุณไม่ได้หรอก เคยดูหนังเรื่อง ชอว์แชงค์ รีเดมพ์ชั่นมั้ย ขนาดพระเอกอยู่ในคุก ยังสร้างคุณงามความดีทำให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยในคุกเลย ถ้าคุณจะตั้งหน้าตั้งตาฮึดสู้เพื่อลูกอะ เราว่ายังพอมีความหวังและโอกาสรอคุณอยู่นะ ยังไงก็โชคดี จากคุณ : รุงรังจัง - [ 5 ก.พ. 51 15:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมมาอ่านและวิเคราะห์ดูแล้ว 1.  คุณก็เป็นคนมีความรู้ มีประสบการณ์ในการทำงาน ทั้งใน และต่างประเทศ คุณต้องเป็นคนมีความสามารถสูง หน่วยงานของคุณถึงจะส่งคุณไปประจำที่ต่างประเทศนะครับ ดังนั้นการประกอบอาชีพสำหรับคุณในเมืองไทย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ และที่คุณว่าคุณไม่มีใครที่เมืองไทย แล้วคุณพ่อ คุณแม่คุณไปไหนแล้วล่ะครับ คุณยังเขียนถึงอยู่ตอนที่คุณท้องเจ็ดเดือนอยู่เลยนี่ 2.  ผมไม่เห็นด้วยกับตรรกของคุณ ในเมื่อเขาไม่ต้องการคุณ คุณก็ออกไปซะซิ เขาคงไม่ตามคุณหรอกครับ เพราะเท่าที่อ่านเขาเห็นคุณเป็นภาระของเขานี่ครับ ก็ออกไปซะซิ คุณมีลูกเล็กๆแล้วจะไปหางานทำที่ต่างประเทศโดยเอาลูกไปด้วยยังงั้นหรือครับ คงยาก สมมุติว่าได้ไป เวลาคุณไปทำงาน ลูกคุณจะอยู่ยังไง ค่าเลี้ยงเด็กอาจจะแพงกว่างานที่คุณไปทำอีกก็ได้ 3.  คุณบอกมีพี่น้องอยู่อเมริกา ก็น่าจะให้เขาติดต่อให้เลยนะครับ พี่น้องกันน่าจะช่วยเหลือกันได้ดีกว่าคนอื่นนะครับ 4.  ผมเข้าใจในความหวังดีของคุณ ที่พยายามเตือนคนอื่นเรื่องมีแฟนที่เจอกันที่เมืองนอก แต่ผมว่าคุณไม่มีประสบการณืเรื่องนี้ที่จะแนะนำนะครับ ผมได้ copy ข้อความของคุณลงมาไว้ข้างล่างแล้ว คุณพบกับพ่อของเด็กที่เมืองไทย ไม่ได้ไปพบที่เมืองนอก ยิ่งไปกว่านั้น ก็อย่าไปอคติกับคนที่อยู่เมืองนอกนักเลยครับ คนเราจะดีจะเลว ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าอยู่ที่ไหน เรียนที่ไหนหรอกครับ เผอิญผมเพิ่งฉลองครบรอบแต่งงาน 35 ปีเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.พ. 2551 มานี่เองครับ ผมพบภรรยาผมที่ Baton Rouge, Louisiana และแต่งงานกันที่ Emporia, Kansas และเราก็มีเพื่อนๆที่แต่ละคู่พบกันที่โน้น แต่งงานกันที่โน้น เดี๋ยวนี้ยังอยู่ที่โน้นก็ยังมีครับ ขอให้คุณใช้ความสามารถขแงคุณอย่างมีสติ ปัญญาของคุณจะทำให้คุณมีความสุขกับลูกของคุณ และใครจะรู้วันหนึ่งคุณอาจจะมีพระเอกตัวจริงก็ได้ ขอให้โชคดีนะ New mom 0ld Dad ----------------------------------------------------------------------------- ตอนท้อง 7 เดือน ดิฉันโดนทำร้ายร่างกายในรถ ต้องหนีลงมอร์เตอร์เวย์ ค่ะ ผู้หญิงท้องแก่เดินร้องไห้ตรงมอร์เตอร์เวย์ แถว ๆ เค เอฟ ซี อ่ะค่ะ ใครเดินมาเค้าคงเวทนาสงสาร ปนสมเพช ดิฉันโทรไปหาแม่ ผ. พอกลับบ้าน โดนแม่ผ. ด่าอีกค่ะ ว่าให้ดิฉันรับปากว่าจะไม่โทรไปฟ้องพ่อ กับแม่ ดิฉัน --------------------------------------------------------------------------- จนกระทั่งวันนึงดิฉันได้พบกับ สัตว์นรกคนนึง ซึ่งตอนนี้เป็นพ่อของลูกดิฉันเอง เจอกันที่เมื่องไทยค่ะ เค้าเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เค้ากลับมาเพื่อมาเที่ยวค่ะ ก่อนหน้านี้เรารู้จักกันแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ---------------------------------------------------------------------------- และกำลังจะแต่งงานกับคนที่เจอที่เมืองนอกนะคะ ขอบคุณค่ะ ----------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : ไทยสยาม - [ 5 ก.พ. 51 16:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คิดเหมือน 50-51 ค่ะ ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริง ขอให้คุณ จขกท. มีสติปัญญาแก้ไขปัญหาได้เร็ววันนะคะ จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 5 ก.พ. 51 16:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านแล้วสุดจะบรรยาย ความเลวของผุ้ชายแบบนั้นเลยนะค่ะเนี่ย - -" เราขอภาวนาให้ลูกคุณปลอดภัยจาก พ่อ บังเกิดเกล้า ที่ไร้สมองคนนี้ด้วยนะค่ะ โหวตให้แล้วจ้า จากคุณ : ~Orange be Ora~ - [ 5 ก.พ. 51 17:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่า จขกท. คงจะหมายความถึงชีวิตตนเองที่โดนย่ำยีละมั๊งครับ คงไม่ได้หมายความถึงเกลียดหรือมีอคติต่อคนไทยในต่างแดน เท่าที่ผมอ่านจนตาลาย ก้อพอสรุปได้ว่า คุณยังอ่อนประสปการณ์เรื่องการใช้ชีวิตต่างแดนและชีวิตคู่นะครับ ในฐานะผมเป็นผู้ชายผมว่า ผมก้อเจ้าชู้กะล่อนแล้ว เจออย่างนี้ผมว่าคุณต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้สู้ แต่คุณยังมีพลังที่ต้องสู้เพื่อลูกนะครับ จากคุณ : เจ้าชู้ คู่คุณธรรม - [ 5 ก.พ. 51 19:47:50 A:124.120.75.48 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 โหวตให้ค่ะ เลี้ยงลูกให้ดีๆนะคะ จะเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : เอิง (myune) - [ 5 ก.พ. 51 19:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : extrajeab - [ 5 ก.พ. 51 20:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คิดอย่างนี้นะคะ   เรื่องที่เกิดขึ้น   มันเกิดขึ้นแล้วแก้ไขไม่ได้ ปัจจุบันคุณไม่ได้ตัวคนเดียว    ควรคิดถึงลูกให้มากๆ คิดถึงลูกนั้น   ไม่ได้หมายความว่าให้อดทนอยู่ในบ้านหลังนั้น แต่ให้ตั้งต้นชีวิตใหม่    เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าบ้านแม่สามีคุณ ไม่น่าอยู่    เด็กโตขึ้นมาก็ไม่มีความสุข ตั้งต้นใหม่อย่างไร   หางานทำให้ดีที่สุด   ลองขอความช่วยเหลือญาติพี่น้องดู    ใครจะช่วยรับคุณและลูก เข้าไปดูแลบ้างสักสามเดือน    ระหว่างสามเดือน ตั้งใจหางานให้ได้ ยืนบนขาตัวเอง    เพื่อดูแลลูกต่อไปค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 5 ก.พ. 51 20:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพิ่งเข้ามาอ่าน Oh!!  เรื่องราวชีวิตจริงยิ่งกว่าหนัง  อย่างน้อยคุณมีลูกอยู่เคียงข้าง ลูกคือกำลังใจของคุณ  แถมได้ลูกสาวด้วย เราว่าเด็กผู้หญิงอ่ะ ตอนเดินเตาะแตะ  จะน่ารักมากๆๆ คุณมีเป้าหมายในชีวิตคือเลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นคนดี ปัจจุบันก็มี single mom เยอะ คุณเองมีความสามารถ  พยายามสมัครงานดู ดิฉันคิดว่ารายได้คุณสามารถเลี้ยงตัวเองและลูกคุณได้ แล้วทางบ้านคุณเองล่ะคะ คุณพ่อคุณแม่ว่างัย พาหลานไปเยี่ยมกลับไปพูดคุยเล่าเรื่องให้ฟัง เห็นหลานแล้ว ตากับยายก็ใจอ่อนเอง คุณจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป เอาใจช่วย! จากคุณ : gumpy chic - [ 5 ก.พ. 51 20:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วดีใจอย่างหนึ่งที่คุณไม่ทำแท้งค่ะ สู้ๆนะคะ อย่ายอมแพ้ง่ายๆล่ะคะ สมัยก่อนแม่กับพ่อเราก็ลำบากมากๆ ไม่มีเงินเลย ยังสามารถเลี้ยงลูกจนโตได้เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 5 ก.พ. 51 21:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คห6 คงจะเสียตัวตั้งแต่ประถม6 ถึงได้รู้ทันคนอื่นมากกว่าคนปกติเค้า จากคุณ : gg - [ 5 ก.พ. 51 21:37:51 A:122.104.48.124 X: TicketID:149040 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วหดหู่มากเลย เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับ จากคุณ : gorpor - [ 5 ก.พ. 51 22:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ได้จับผิดนะ แต่อ่านแล้ว บางทีให้สงสัยว่าถ้าทำงานดีจริงๆ ได้โปรโมทอะไรอย่างนั้น การเขียน การบอกเล่าทางภาษา น่าจะมีการแบ่งแยก เว้นวรรค ย่อหน้าอะไรต่างๆดีกว่านี้น่ะ อีกอย่าง ทำไมจขกทไม่เอ่ยถึงพ่อแม่หรือครอบครัวตัวเองเลยซักนิด ทางบ้านตัวเองไม่มีช่วยเหลือได้บ้างเลยหรือ หรือพ่อแม่ตัวเองเสียชีวิตไปหมดแล้ว แล้วไม่มีญาติหรือเพื่อนฝูงที่พอเข้าใจช่วยเหลือได้บ้างเลยหรือ ดีใจด้วยที่ย้ายออกมาอยู่เอง ถ้ามาอยู่ต่างประเทศแล้วไม่มีเน็ตเวิร์กคนรู้จักดีๆ อาจลำบากกว่าอยู่เมืองไทยนะ เพราะต้องมาหางาน เลี้ยงตัวเอง ต้องหาเงินเป็นค่าบ้าน ค่ากินอยู่ ค่านม ค่าเลี้ยงดูลูก ค่าchildcareกรณีตัวเองไปทำงานตอนกลางวัน ..ไม่ได้ว่าว่าเป็นไปไม่ได้ แต่รายละเอียดปลีกย่อย เราก็ต้องคิดด้วย ก่อนที่จะมา ถ้าจะมา ก็ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน ไม่ใช่สักแต่มาก็มา อย่างนั้น เดี๋ยวจะกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้ไป จากคุณ : Overseas - [ 6 ก.พ. 51 00:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตกลง ผ. เป็นคนไทยแต่เรียนที่ ตปท. เหรอค่ะ?   ผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ว่่าชาติไหน หรือเจอกันที่ใด คุณก็ต้องศึกษาให้แน่ใจก่อนตัดสินใจร่วมชีวิตหรือคิดมีลูกทั้งนั้นแหล่ะค่ะ  เสียใจด้วยที่คุณเจอเหตุการณ์แบบนี้   ตอนนี้ได้แต่แนะนำว่า ให้ลืมอดีตเสีย เลิกด่า ว่า ครอบครัวสามี และตั้งใจเลี้ยงลูกเถอะค่ะ เริ่มต้นชีวิตใหม่ และขอให้คุณจำไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน จากคุณ : fonpalita - [ 6 ก.พ. 51 01:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ คห6 ทำไมใจร้ายจังละคะ  ไม่ให้กำลังใจกัน เฉยๆไว้ก็ได้คะ เรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่ เพราะเราหลายๆคนไม่ได้อยุ่ในสถานการณ์ตอนนั้นกับคุณ จขกท. แต่ขอให้ จขกท ปลอดภัย และโชคดีนะคะ เลี้ยงให้ดีที่สุด อย่าได้มีนิสัยแบบคนประเภทนั้นติดมากับตัวลูกนะคะ   แล้วก็เห็นด้วยกับอีกหลายๆ คห.ว่า ติดต่อพ่อแม่คุณสิคะ ท่านคงไม่มีเวลามานั่งโกรธคุณแล้วละ อย่างน้อยมีที่ๆสุขกาย สบายใจอยู่นะคะ   ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองทั้งคุณและลูกนะคะ จากคุณ : mrsWday - [ 6 ก.พ. 51 01:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ในเมื่อเลวได้ใจขนาดนี้ เอาชื่อเอานามสกุลมันมาประจานไว้หน่อยจะเป็นไรไป เพื่อนเลวๆของมันด้วยก็ดี เป็นการยืนยันไปในตัวด้วยว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่า น่าจะตอบข้อข้องใจของใครหลายๆคนได้ไปในตัว จากคุณ : S(2) - [ 6 ก.พ. 51 04:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ดีแล้วค่ะที่ออกมา คุณเป็นคนที่เกร่งมากในความรู้สึกของเรา อยากให้มองไปที่อนาคตนะคะ อดีตผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป ขอเป็นกำลังใจ และ ขอให้ลูกน้อย แข็งแรง โตไวๆ เป็นเด็กดี น่ารัก นะคะ จากคุณ : Miwmilk - [ 6 ก.พ. 51 08:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้ว มึน เรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ถูกเลย ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็เอาใจช่วยแล้วกัน แต่ผู้ชายเลวๆ แบบนี้ยังมีอีกเยอะ จากคุณ : Scooterella - [ 6 ก.พ. 51 09:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คห. 6 ภาษา ส่อไปถึงสภาพจิตเลย สู้ๆนะ จขกท (กว่าจะอ่านจบตาลายเลย) จากคุณ : ก้มดูเท้ามองดูดาว - [ 6 ก.พ. 51 09:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 69 พยายามอ่านแล้ว แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณอยากจะสื่อเลยครับ ทำไมสามีคุณถึงต้องการ "มีลูก" กับคุณนัก ในเมื่อการมีลูกกับคุณไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อตัวเขาเลย กลับกลายเป็นภาระที่ต้องหาทางกำจัดด้วยซ้ำไป จากคุณ : ทอฟฟี่สีน้ำเงิน - [ 6 ก.พ. 51 14:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 70 As a father, I would like to encourage you to be a single mom.... I don't believe that your child would become a loving person under her father's nurturing. I realize that being a single mother is not easy, but, I believe, it would be the best solution for you and your child in a short, intermediate and far future. I am sorry about the unpleasant ordeal you've endured. I truly wish it could give you a good lesson to be a stronger person for yourself and your loving daughter. Best wishes, A.T. จากคุณ : amatuer translator - [ 6 ก.พ. 51 15:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 71 น่าเห็นใจ กลายเป็นไม่ไว้ใจคำพูดผู้ชายเลย จากคุณ : petrified - [ 6 ก.พ. 51 15:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมอ่านกระทุ้นี้แล้วรุ้สึกเห็นใจเจ้าของกระทุ้อย่างมาก ชีวิตส่วนตัวผมเองตรงข้ามกับกระทุ้อย่างมากทุกอย่างเลยครับ และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนที่ผมรักเลยครับ ขอเล่าชีวิตส่วนตัวให้ฟังคร่าวๆนะครับว่าแตกต่างยังไง ผมเองอายุ 26 มาเรียนโทด้านกฏหมายที่ฝรั่งเศศตั้งแต่อายุ 22 และผมเองไม่เคยมีแฟนเลยในชีวิตนี้ เพราะไม่ได้ชอบใครเลย แต่อยากมีลุกอยากมีครอบครัว เลิกงานกลับไปเล่นกับลุก สอนการบ้าน เจอภรรยา ชีวตน่าจะมีความสุขดี แต่ชีวิตเหมือนมีกรรมยิ่งไค่วคว้ายิ่งไกลห่างออกไปเรื่อยๆ ในชีวตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตามจีบผุ้หญิงที่รักมากที่สุดเลยแค่ 2 คน ในชีวิตนี้จีบแค่ 2 คน นี้จริง ถือว่ารักครั้งแรกของชีวิตเลย คือคนสวีเดนและคนเม็กซิโก เราเจอกนที่ฝรั่งเศส คนสวีเดนตอนนี้กลับไปบ้านเขาแล้วได้เป็นแค่เพื่อน ส่วนคนเม็กซิโกตอนนี้ก้อกลับไปบ้านเขาแล้วแต่ก็ติดต่อกันอยุ่และได้รับเมลจากเขาว่ามีแฟนแล้วอยุ่ด้วยกันมา 3 เดือนแล้ว ผมถึงกับร้องไห้เลย ผุ้หญิงคนนี้จบแค่มัธยม และคาดว่าคงไม่เรียนต่อแล้วมาทำงานแบบ au-pair ที่ฝรั่งเศส ผมก็งงทำไมเขาไม่อบเรา หน้าตา นิสัย การศึกษา ฐานะเราก็ไม่ได้ด้อยนะ เหล้า บุหรี่ไม่แตะ ผมเคยบอกเขาว่าถ้าไม่ชอบเมืองไทยเราไปอยุ่อเมกาด้วยกันได้นิ แต่ทุกอย่างไม่มีผล คนไม่รักจะทำยังไงก้อไม่รัก ผมเองเปนคนรักเด็กนะ เด็กๆชอบติดผม ถ้าว่างๆผมชอบไปเล่นบ้านเพื่อนคนรัสเซียที่แต่งงานกับคนฝรั่งเศส มีลุกสาวลุกครึง อายุสามขวบครึ่ง ชื่อ ซูซาน เด็กคนนี้ติดผมตั้งแต่อายุสองขวบ ถ้าผมไปหาเขา เขาจะดีใจมากบอกให้กินข้าวด้วยกัน พ่อแม่เขาบอกว่าถ้าผมมาที่ไรเด็กคนนี้จกินข้าวเยอะมาก อย่างถ้าเล็บมือเขายาวนะ ถ้าพ่อแม่ตัดให้เขาจะขัดขืนรองไห้ แต่ถ้ามตัดให้ไม่ร้องเลย อย่างถ้าเขากินข้าวหกผมก็เช้ดปากให้เขา แล้วก็ถักผมให้ มัดผมให้ ทำยังกะเป็นลุกเราจริงๆ ถ้าเป็นลูกเรา เรคงรักมากๆเลย ส่วนเพื่อนผมแต่ละคนที่เรียนด้วยกันมาแต่ละคนใช้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเปลืองมากๆ แต่ผมเองจะอยุ่คนเดียวมาตลอด จนพ่อแม่แทบจะหาผู้หญิงให้ เพราะบ้านผมเองพี่สาวคนโตก้ิอขอเป็นโสด พี่สาวคนรองก้ิอขอเป็นโสดผมเองก็มีแววว่าจะขอสันโดด พ่อแม่ด่าว่าทรัพย์สินที่หามาให้พวกแกจะทำไง ตระกูลนี้มันมีบาปจะสูญพันธ์ กันที่นี่แหละ พวกผมก็ไม่สนใจพอตายก็ทำพินัยกรรมสิง่ายนิดเดียว ผมเองก็หวังว่าผู้หญิงเม็กซิโกที่ผมรัก ขออย่าให้เขาเป็นแบบกระทุ้นี้เลย ขอให้เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ ผมเองตอนนี้ร้องเพลง ทั้งรู้ก็รัก ของชรัส เฟื่องอารมณ์ ทุกวันเลย มาเข้ากระทุ้ต่อนะ ผมว่าอดีตสามีคุณนะ สาระเลวมาก เลวทั้งโคตร มีเพชรอยุ่กบมือไม่เห็นค่า ขอให้ลี้ยงลุกให้ดีๆครับ เป็นคนดีของสังคม มันอาจจะเปลี่ยนนะแล้วสักวันคุณจะภูมิใจ ส่วนไอ้นักเรียนนอกอดีตสามีคุณนะ มันต้ิองเจอทนายนักเรียนนอกอย่างผม เสียดายไม่ได้อยุ่ไทยไม่งั้นจะฟ้องคดีเรียกค่าเลี้ยงดุบุตรให้ฟรีๆเลย จากคุณ : Le droit - [ 6 ก.พ. 51 17:26:32 A:193.52.234.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ คห 72 ค่ะ ดิฉันมีน้องสาว ค่ะ สนใจมั้ยค่ะ อิ อิ จากคุณ : fonpalita - [ 6 ก.พ. 51 18:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มันก้อพูดไปง้านไงค้าบ คุณท๊อฟฟี่ แบบ ถ้าไม่พูดว่าอยากมีลูกด้วย อยากแต่งงาน ก้อ ไม่ได้ฟันอ่ะสิ หุหุ เลวจิง ๆ จากคุณ : กะล่อน คุณภาพ - [ 6 ก.พ. 51 19:31:18 A:124.120.81.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 สะดุดเหมือนกับ คห 50 และ 51 เช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเพราะคุุณกำลังสับสนหรือเปล่า   ตอนนี้คุณออกมาอยู่กับลูก อยู่กับใคร  แล้วระหว่างนี้มีรายได้จากไหนบ้างคะ ได้ปรึกษาน้องที่อยู่อเมริกาหรือยัง ลูกยังเล็กอยู่เมืองไทยน่าจะดีกว่านะ  ให้พ่อแม่คุณช่วยเลี้ยง  ระหว่างนี้คุณก็หางานทำ  เศรษฐกิจอเมริกาช่วงนี้ก็ไม่น่าจะดีมากนะคะ  ไหนจะค่าใช้จ่าย ไหนจะค่ารักษาูลูกที่ว่าไม่ค่อยแข็งแรง(ถ้าไม่มีประกันสุขภาพอานแน่ๆค่ะ) จากคุณ : ลำดวนกวนลำใย - [ 6 ก.พ. 51 21:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กลับมาอ่านอีกที ถึง คห.เจ็ดสิบสอง ชีวิตเหมือนกับเรามากๆเลยค่ะ เราว่าเป็นเรื่อปกตินะคะ ที่คนอายุยี่สิบหกจะโสดค่ะ ถือว่าอายุยังน้อยค่ะ (ปลอบใจตัวเอง ฮ่า) เวลาเจอเพื่อนๆ มีแต่คนถามว่ามีแฟนรึยัง ตอบยากนะเนี่ย ไม่ใช่เรื่องมากนะ แต่ว่าหาดีๆถูกใจไม่ได้นี่สิ คนที่เราชอบเค้าก็ไม่ชอบเรา คนที่มาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเค้า เฮ้อ.... ใครถามเราก็ตอบว่าเตรียมเป็นโสดตลอดชาติหละค่ะ มีก็มี ไม่มีก็ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดีกว่าเนอะ กลายเป็นมาบ่นน้อยใจไปซะแล้ว ฮ่า จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 7 ก.พ. 51 01:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เฮ้อ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ในฐานะ ที่ทำงาน เคียงบ่าไหล่ กับพวกเศรษฐี ไฮโซ  นักลงทุน ไทย เทศ ระดับหมื่นล้าน ขึ้นไป มากว่า 7 ปี ก่อน แขวนนวม มาเป็นหุ่นกระป๋อง เจ้าของกิจการเล็กๆเองวันนี้ ขอบอกว่า . . . พวกนี้ ลูกหลาน มองผู้หญิงเป็นหญ้าริมทาง ใช้ผู้หญิงเปลืองเหมือน กระดาษทิชชู ตามอารมณ์ราคะ เด็กสาว 18 นางงามรอบ 10 คน บางคนได้ฟันถึง นางงาม 1 ใน 3 รอบสุดท้าย ... แล้วผู้บังคับบัญชา หัว ยัน หาง หาเด็กสาวไป ประเคนบ่อยๆเข้า ก็จ้องคอยขม้ำ เด็กใน deputy ตัวเอง แม้ช่วงเดียวของสนามกอล์ฟ ระดับเวิลด์คลาส แต่ก็ทำให้ ไม่คิดเลือกผู้ชาย ที่มีพฤติกรรม พรรณนั้น กลายเป็นพลิกวิกฤติ เป็นโอกาส  ได้มีโอกาส ซึมซับ " น้ำดี " คนเหล่านี้ เค้ามี ภรรยาตัวจริง ที่สามารถ สนับสนุนฐานทางสังคม หรือ ต่อยอดทางธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ฟันเบี้ยบ้าย รายทาง ไปเรื่อย เป็นน้ำจิ้ม  ในบรรดา 8 นักลงทุน . . . มีเพียงท่านเดียว ที่ไม่มีวิสัย เจ้าชู้ ฟันทิ้งเรี่ยราด เพราะเค้าเติบโต มาจาก ธุลี จน มีเป็น พันล้าน ในวันนี้ . .. อุทาหรณ์  สะท้อน ว่า สังคมสาวไทย ดารา นักร้อง ไฮโซ กำลัง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กันงวดขึ้นทุกวี่ ทุกวัน ฉาบฉวย คลั่งเปลือก และ สนใจกันที่ "ทรัพย์สินวันนี้"  หวังสบายกอบสุขเฉพาะหน้า ไว้ก่อน . . . จากคุณ : kuddle - [ 7 ก.พ. 51 04:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นใจและสงสัยค่ะ... ว่าทำไมต้องไปทนอยู่กะเค้าในระยะแรกด้วย พ่อ แม่ หรือพี่น้อง หรือญาติของจขกท. อยู่ที่ไหนค่ะ อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ สู้สู้ค่ะ จากคุณ : อมแล้วยิ้ม - [ 7 ก.พ. 51 04:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เรื่องขัดกันหลายตอนมาก แต่งรึเปล่าคะนี่ เมืองนอกนี่ เค้ามีมอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอยด้วยเหรอคะ แล้วเค้าก็ขายน้ำมะพร้าว อยู่หน้าปากซอยด้วย จริงเหรอคะ เราถามเพราะไม่รู้น่ะค่ะ คุณบอกว่าตอนแรกแม่สามีไม่ให้เอานมให้กิน คุณได้แต่เกาะเปลมองลูก คุณกล้าเก็บเด็กคนนี้ไว้แต่แรก แสดงว่าก็ไม่ค่อยหงออยู่แล้วนี่ อันนี้เค้าแค่ห้ามให้นมลูก ทำไมคุณยอมง่ายจัง จากคุณ : ลัลลา - [ 7 ก.พ. 51 05:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ^ ^ ^ ^ เมืองนอกไม่มีมอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอยหรือน้ำมะพร้าวขายหรอกครับ..เจ้าของกระทู้เขาบอกไว้แล้วว่า "หลังจากดิฉันกลับมาไทย ทุกอย่างเป็นปรกติค่ะ ดิฉันทำงานปรกติ" .....คุณอ่านข้ามไปเอง...... และเรื่องคงไม่ได้แต่งขึ้นเองอย่างที่คุณสงสัยหรอกครับ   คิดว่าคงจะไม่ว่างมากและก็ไม่มีเหตุผลที่จะแต่งมันขึ้นมาเพื่ออะไร คิดว่าคงจะโกรธและสับสนจนประติดประต่อไม่ค่อยถูก   สำหรับเจ้าของกระทู้   ถ้าคุณพยายามคิดว่าในส่วนนึงมันเป็นความผิดของคุณเองแทนที่จะพยายามโทษคนรอบข้าง มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตต่อไปนะครับ จากคุณ : boolee - [ 7 ก.พ. 51 07:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เข้มแข็งไว้ครับ เอาลูกออกมาเลี้ยงเอง ทำงานอยู่กันสองแม่ลูกดีที่สุดครับ จากคุณ : Dukhor - [ 7 ก.พ. 51 08:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นด้วยครับท่านด๊อกดุ๊กฮ่อ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 09:18:59 จากคุณ : baezae (baezae) - [ 7 ก.พ. 51 09:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เอาลูกออกมาแล้วกลับไปบ้านพ่อแม่ตัวเองนะคะ จากนั้นทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฏหมาย แล้วเก็บเป็นหลักฐานเอาไว้ให้ดี เพื่ออนาคตและสภาพจิตใจของลูกและของคุณค่ะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะอยู่ที่ไทยหรือไปอยู่กับน้องสาว จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 7 ก.พ. 51 11:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาเห็นใจค่ะ อ่านแล้วก็คิด.. ทำไมคุณอ่อนจัง กับคนเลวๆ พันธุ์นั้นทนอยู่กับพวกเขา ให้เขาข่มเหงจิตใจอยู่ได้ตั้งนาน พูดถึงหัวอกคนเป็นแม่ เราเข้าใจมากๆ เลยค่ะ เพราะเราเองก็เพิ่งคลอดลูกได้ยังไม่ครบเดือนเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาคอมเม้นต์อะไรมาก ว่างๆ เดียวค่อยเข้ามาอ่านละเอียดอีกครั้ง ขอแว๊ปไปทำงานจ๊อบ หาเงินค่านมลูกก่อนเด๊อ... จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) - [ 7 ก.พ. 51 15:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อืมมม... อ่านมาหลายวัน เข้าใจและเห็นใจนะคะ หัวอกลูกผู้หญิงเหมือนกัน เราเองก็มีประสบการณ์ไม่ต่างจาก จกขท.หรอกนะคะ แต่เรื่องทั้งหมดมันอยู่ในเมืองไทยนี่แหละ จริง ๆ เรื่องแบบนี้ ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ ว่าจะอยู่ที่ไหน ถ้าผู้หญิงเรามีสติ ไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ก็คงจะช่วยได้เยอะ ที่จะไม่เจอกับสภาพแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้ว่ากันไม่ได้หรอกค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดและตัดสินใจผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น เรื่องของเราเองก็เกิดขึ้นนานแล้ว ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด ด้วยความไว้ใจและเชื่อใจในขณะที่ยังรักกัน ก็คิดว่าเค้าเป็นคนดี แต่พอทุกอย่างผ่านไปแล้ว ลายมาออกทีหลัง ใครจะไปทราบได้ล่ะ แรก ๆ เราก็เหมือนคุณ จขกท. ที่รู้สึกเคียดแค้นชิงชังผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูก (ทุกวันนี้ก็ยังเกลียดนะ แต่อารมณ์ไม่รุนแรงเหมือนแรกๆ แล้ว) เมื่อกลับมาคิดย้อนไป มันก็เป็นความผิดของเราด้วยที่ชิงสุกก่อนห่ามเอง ไม่แข็งใจยึดมั่นในธรรมเนียมประเพณี วันนึงพลาดท้องขึ้นมา ผู้ชายออกลายจะให้ไปทำแท้ง เราไม่ยอม ยอมเสียศักดิ์ศรีขอร้องให้เค้าแต่งเพื่อให้ลูกได้ชื่อว่า มีพ่อ จากนั้นก็บอกเลยว่าเธอจะไปไหนก็ไป ฉันขอแค่ลูกมีพ่อ เพื่อรักษาหน้าพ่อแม่ตัวเองด้วย ยอมดิ้นรนหาสินสอดทองหมั้นแต่งงานตัวเอง น่าอนาจมั๊ยล่ะ แรก ๆ ก็หวังนะ ว่าลูกอาจทำให้เค้าดีขึ้น ด้วยที่เราเป็นผู้หญิงไทยนะ ก็ยังยึดมั่นแต่งงานครั้งเดียว มีสามีคนเดียว อยากประคับประคองชีวิตครอบครัวให้พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เรื่องความรักมันเริ่มเหือดหายไปตั้งแต่จะให้เราไปทำแท้งแล้ว หนึ่งปีที่ทนจนลูกคลอด ถูกทำร้ายสารพัด หน้าที่การงานดี ๆ ต้องเสียหาย เสียภาพพจน์ ขาดความไว้วางใจจากเจ้านายและความนับถือจากเพื่อนร่วมงาน หาว่าเรารักและหลงผู้ชายเลว ๆ คนนี้ รู้สึกกดดันจนต้องลาออก สูญเสียหน้าที่การงานดี ๆ ด้วยหวังว่าเค้าจะเห็นใจ หันกลับมารับชอบครอบครัวบ้าง แต่ก็เปล่าเลย สุดท้ายก็ต้องหอบลูกหนี ตัดใจได้แล้วจริง ๆ เข้าใจแล้วล่ะว่า ชีวิตคู่ที่ขาดความรัก ความเข้าซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง มันก็ไม่มีความอดทนที่จะอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ แรก ๆ นั้น เราทั้งโกรธเกลียดเคียดแค้นชิงชัง ไม่สนใจผู้ชายอีกเลย ยอมก้มหน้าเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่เคยคิดหาคนช่วยเลี้ยง ผ่านมาแล้ว 10 ปีค่ะ ต่อสู้กับความยากลำบากมาตลอดตั้งแต่ลูกยังแบเบาะ เพราะพื้นฐานครอบครัวเราก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย คล้ายกับปากกัด......มานั่นแหละ นี่คือเรื่องจริงของเรา ที่อยากให้ จขกท.ได้เห็นว่า ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างคุณ และผ่านความโชคร้ายมาแล้วเช่นเรา ดังนั้นจึงอยากให้กำลังใจ และขอให้เข้มแข็งค่ะ ชีวิตยังมีสิ่งดี ๆ รออยู่ข้างหน้าค่ะ ขอให้คิดแบบนี้ไว้ เช่นเราเอง ทุกวันนี้มีรักใหม่ พบคนดีและมีความสุขมาก ถึงแม้ต้องรอมานานถึง 10 ปี แต่ก็ได้เจอ ขอให้ จขกท. เข้มแข็งและอดทนนะคะ เลี้ยงลูกให้ดีวันนึงเราก็จะได้พบคนดีที่เห็นคุณค่าของเรา เราพบแฟนคนนี้ เค้าชอบเราก็เพราะเห็นคุณค่าในตัวเราที่ต่อสู้กับความยากลำบากเลี้ยงลูกมาคนเดียว เค้าชื่นชมในความเข้มแข็งอดทน นี่เองคือรางวัลที่ได้รับ ............ จากคุณ : My love - [ 7 ก.พ. 51 16:26:35 A:202.91.18.206 X: TicketID:167489 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นใจ มากกว่า สงสาร ค่ะ ชีวิตจริงก็ไม่ต่างจากละครเนอะ สู้ต่อไป แล้วกลับไปแก้แค้นล้างโคตร (อืม โทษค่ะ ดูหนังจีนมากไปหน่อย) ยังไงโลกในเนตก็เป็นที่พึ่งทางใจได้ จากคุณ : [[babeberry]] - [ 7 ก.พ. 51 19:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จาก จขกท. ค่ะ วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน รู้สึกตกใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะมีทั้งคนให้กำลังใจและสมเพศ เยอะแบบนี้ค่ะ ขอบพระคุณทุก ๆ คนนะคะที่ให้กำลังใจ อีกทั้งน้อมรับคำตำหนิด้วยความยินดีค่ะ ดิฉันมิได้แต่งเรื่องขึ้นมาแต่ประการใด ที่พิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเพิ่งเกิดเรื่อง ดิฉันไม่มีเวลามานั่งประติดประต่อ ย่อหน้า เว้นวรรค ใส่แต่อารมณ์อย่างเดียว เลยทำให้สับสนค่ะ ถ้าทำให้บางท่านอ่านแล้วสับสน ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ดิฉัน....ตอนนี้ ยากที่จะทำใจค่ะ ส่วนท่านที่ถามว่า ดิฉันไม่มีพ่อกับแม่หรือไง .... ตอบเลยว่ามีค่ะ พ่อดิฉันมีครอบครัวใหม่ ส่วนคุณแม่อยู่ต่างประเทศ กลับมาไม่ได้ ที่อยู่ที่กรุงเทพ ดิฉันไม่มีค่ะ เหตุที่คุณแม่กลับมาไม่ได้เพราะว่าเหตุผลทางเศรษฐกิจการเงินของท่านค่ะ และที่ดิฉันบินไปหาท่านไม่ได้เพราะ วีซ่า ไม่ผ่านแน่นอนค่ะ ท่านที่อยู่ต่างประเทศคงพอจะทราบดี คุณแม่ไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่กับบ้านเพื่อน ดิฉันคิดว่า ดิฉันตัดสินใจเลือกทางเดินนี้แล้ว ดิฉันสมควรรับผิดชอบชีวิตที่เหลืออยู่ของดิฉันกับลูกด้วยตัวดิฉันเอง ตอนที่พิมพ์ในกระทู้นั้น ดิฉันมืดแปดด้านจิง ๆ บวกกับอารมณ์ด้วย ตอนนี้เวลาทำให้ดีขึ้นเล็กน้อย ดิฉันอยู่บ้านน้าซึ่งคนในครอบครัวท่านอยู่กันเยอะมาก ....... ไม่มีใครอยากให้เราอยู่ฟรี ฟรี หรือมาเลี้ยงลูกให้เราหรอกค่ะ วันนี้ดิฉันรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ สังคมสมัยนี้ ล้มแล้วลุกยาก แต่ดิฉันต้องพยายาม ไม่รู้ว่าทำไม บาป บูญ เวรกรรม ที่เค้าบอกมันมีจริง คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่เกิดขึ้นในครอบครัวของสัตว์นรกนั่นเลย พวกมันยังสำเริงสำราญ มีเงินทองใช้จ่ายกันสุขสบาย เมื่อกำจัดเสี้ยนหนามให้หมดไป ดิฉันไม่อยากอาฆาตแค้นนะคะ ทุกวันนี้ได้แต่นั่งสวดมนต์แผ่เมตตา ขอให้ดิฉันหลุดพ้นจากความคิดชั่วร้ายแบบนี้ ที่คอยเคียดแค้นพวกมัน ขอให้พระคุ้มครอบ สาธุ จากคุณ : new mom - [ 7 ก.พ. 51 22:19:54 A:124.121.240.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 "เวลาไม่ช่วยอะไร หากใจยังคงฝังจำ" อยากบอกมันว่า เลวสาดดดดดดดดดด แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 22:24:51 จากคุณ : R-NO - [ 7 ก.พ. 51 22:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ในเมื่อเลวได้ใจขนาดนี้ เอาชื่อเอานามสกุลมันมาประจานไว้หน่อยจะเป็นไรไป เพื่อนเลวๆของมันด้วยก็ดี เป็นการยืนยันไปในตัวด้วยว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่า น่าจะตอบข้อข้องใจของใครหลายๆคนได้ไปในตัว จากคุณ : S(2)   - [ 6 ก.พ. 51 04:12:08 ]       ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ ..............agree.. S(2)...................... ขอให้ จขกท. เข้มแข็งและอดทนนะคะ เลี้ยงลูกให้ดีวันนึงเราก็จะได้พบคนดีที่เห็นคุณค่าของเรา แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 02:55:35 จากคุณ : this is jenni - [ 8 ก.พ. 51 02:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาโหวตให้ค่ะ สู้สู้นะคะ อย่ายอมแพ้ จากคุณ : an ya na ja - [ 8 ก.พ. 51 03:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านแล้ว  งง ไม่ค่อยเข้าใจ อะไรหลายๆๆอย่าง แต่ถึงอย่าไงเป็นกำลังใจให้นะค่า ล้มได้ก็ลุกได้ค่ะ จากคุณ : อชิรวัฑร์ - [ 8 ก.พ. 51 05:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอแนะนำให้ฟ้องหย่า แล้วเรียกค่าเลี้ยงดู คนเราพลาดในชีวิตเป็นเรื่องปกติครับ แต่คนที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราเดือดร้อน จำต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ต้องยอมรับว่า ล้มแล้วลุกยากจริงจริงครับ เป็นความจริงของเมืองไทยวันนี้ แต่คุณต้องเข้มแข็งและพยายาม แล้วจะผ่านไปได้ครับ จากคุณ : Dukhor - [ 8 ก.พ. 51 08:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อย่าไปคิดมาก...........ชีวิตยังอีกยาวไกล..............อยู่กับวันนี้...........เพื่อวันพรุ่งนี้ครับ จากคุณ : supanit_tone@hotmail.com - [ 8 ก.พ. 51 10:25:32 A:203.151.15.246 X: TicketID:111763 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ เวลาจะช่วยรักษาใจค่ะ จากคุณ : mootaeni - [ 8 ก.พ. 51 11:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป ตอนนี้คุณต้องเข้มแข็ง เพื่อตัวเองและที่สำคัญคือเพื่อลูก สวดมนต์แล้วก็แผ่เมตตาให้เค้าด้วย เรื่องร้ายๆจะได้เบาบาง จากที่อ่าน ใจคุณตอนนี้คงขุ่นมัว เคือดแค้น ยิ่งใจมืดมัวยิ่งดึงดูดเรื่องไม่ดีเข้ามา ลองทำใจให้สงบคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา แล้วพยายามทำบุญให้มากที่สุด เพื่อผลบุญจะได้ทำสิ่งดีๆเข้ามา เข้าใจว่าคงจะอภัยให้ยาก แต่อยากบอกว่าถ้าคุณให้ค่อยๆทำใจให้อภัยเค้าไปเรื่อยๆ สักวันใจคุณจะเบาสบายมากขึ้น มีความสว่างมากขึ้น ใจที่มีความสว่างจะดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา ระหว่างนี้ต้องอดทน ใช้สติปัญญา และทำความดีไปก่อน ความดีเล็กๆน้อยๆก็อย่ามองข้าม แม้แต่การพูด การใช้น้ำเสียงกับคนรอบข้างก็อย่ามองข้าม เมื่อใจมีความสว่างก็จะดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา ระหว่างนี้ก็พยายามดูแลลูกให้ดีที่สุด อย่าเผลอเอาความเครียด ความขุ่นมัวไประบายใส่เขา ไม่งั้นเด็กเค้าจะซึมซับไปเรื่อยๆ โตมาจะแก้ยาก อยากแนะนำเวปธรรมะให้คุณอ่านค่ะ www.dungtrin.com ลองเลือกเรื่องที่สนใจดู คงมีแง่คิดที่นำไปใช้ได้ หรือจขกท.ลองเอาเรื่องไปลงในลานธรรมไหมคะ http://larndham.net/index.php เข้าไปในชีวิตกับธรรมะนะคะ มีเพื่อนๆที่มีปํญหาเรื่องสามีเยอะทีเดียว ก็ได้กัลยาณมิตรมากมาย ที่เค้าให้คำแนะนำดีๆ จนห่างทุกข์ได้ ยังไงก็ขอให้มีสติพาตัวเองออกจากทุกข์นะคะ จำไว้ว่าทุกข์ไม่ได้อยุ่กับเราตลอดไป เหมือนกับสุขนั่นแหละค่ะ จากคุณ : peer - [ 8 ก.พ. 51 20:02:20 A:125.24.216.122 X: TicketID:010102 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ส่วนหนึ่งแล้ว ผมยังคิดว่า คุณผิดด้วย อย่างน้อยก้อครึ่งหนึ่ง ในกรณีที่ตั้งท้อง  จบ ป ตรี ถ้าไม่พร้อม ทำไมถึงอยากมีลูกละคับ หรือ การคุมกำเนิดแม้แต่หนึ่งวิธี คุณก้อไม่รู้เลยเหรอ อย่างง่ายๆ ก้อ ถุงยางให้ผู้ชายมันใส่ ถ้าไม่ยอม บอกอยากมีลูก ก้อไม่ต้องมีมันซะ เซกซ์น่ะคับ  เรื่องแบบนี้คุณควบคุมมันได้ แต่ คุณยอมปล่อยมันไปมากกว่า ตอนนี้เลยต้องมารับกรรมยังงัยล่ะคับ แต่การที่คุณมีลูกที่น่ารัก ประสบการณ์แย่ๆแบบนี้จะทำให้คุณแกร่งขึ้นนะคับ โตขึ้นมาก คิดอะไรรอบคอบขึ้น ซึ่งผมคิดว่า คุณจะผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ได้คับ เข้มแข็งไว้ให้มากนะคับ จากคุณ : ดวงตาเห็นธรรม (wazenteq) - [ 8 ก.พ. 51 23:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 98 #72 ไม่ลองมองๆสาวฝรั่งเศสดูล่ะครับ คนฝรั่งเศสนิสัยน่ารักดีนะ เข้ากับคนไทยได้ดี สบายๆ ไม่ค่อยหยิ่งเท่าไหร่ ^ ^ จากคุณ : S(2) - [ 9 ก.พ. 51 02:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อ่านแล้วก็สะดุดเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ขอเอาใจช่วยให้เจ้าของกระทู้ผ่านช่วงแย่ๆ ไปเร็วๆ นะคะ แต่ยังไงก็ตาม ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่คิดว่ามันจะเป็นความผิดมาจาก ความรักต่างแดนหรอกค่ะ ไม่คิดว่ามันใช่ประเด็นจริงๆ ของปัญหา เราว่า การที่คุณสองคนไม่ได้ทำความรู้จักกันให้ดีก่อนแล้วดันมีความสัมพันธ์จนท้องขึ้นมา มันน่าจะเป็นจุดเริ่มของปัญหามากกว่า ไงก็ขอให้เจ้าของกระทู้มีสติแล้วกันค่ะ จากคุณ : สเตสซ่า - [ 9 ก.พ. 51 03:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 100 กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ของคุณได้ไหมคะ แล้วหางานทำเป็น Single Mom จะดีกว่า เป็นเรานะ เราย้ายหนีแล้วอ่ะ เป็นแบบนี้เราไม่ทน ถ้ามีโอกาส พาลูกมาอยู่เมืองนอกก็น่าจะดีเหมือนกัน เพราะถ้าที่เมืองนอกโดนทำแบบนี้ คุณคงฟ้องแฟนคุณและ แม่ ผ. รวยเละไปแล้ว จากคุณ : [7th Heaven] - [ 9 ก.พ. 51 06:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 9 ก.พ. 51 07:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อ่านแล้วก็ แบบว่า "หนังไทย" มาก ๆ ครับ ระวังจะมีคนเอาไปทำละคร เหมือน "สงครามนางฟ้า" (แซวเล่นนิดหน่อยครับ) ผิดเป็นครูครับ ขอให้สู้ต่อไป ของคุณมันอาจจะหนักหน่อย แต่ผมคิดว่า ก็ต้องมีคนที่รักคุณอยู่บ้างหละ ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง มองไปที่คนพวกนี้ดีกว่า แล้วก็มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ตอนนี้คุณมีภาระที่ปลดเปลื้องไม่ได้ติดตัวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง ต่อจากพ่อ/แม่และผู้มีพระคุณก็คือลูก คุณจะอ่อนแอไม่ได้ ที่แล้วก็แล้วไป ตัวเราพลาดเอง เจ็บเอง ไม่ได้ไปกระทบใครให้เดือดร้อน ถ้าคนอื่นมันจะเดือนร้อนเสียเวลามาว่า ซุบซิบ นินทา ก็ยิ้มกลับไปเลย รับรองมัน เอ๋อ กลับไปเลยหละครับ อย่าไปคิดถึงคนจากตระกูลเฮงซวยนั่น รวมทั้งความเห็นข้างบนที่มันบั่นทอนจิตใจเราเลยครับ คนดีจริงมันเป็นพระบรรลุโสดาบันไปกันหมดแล้ว ที่มาเป็นนายก คนสอนหนังสือตั้งแต่อนุบาลถึงมหาวิทยาลัย คนทำงาน ทั้งงานตัวเอง และงานกุศล รวมไปถึงท่าน ดร. สาขาต่าง ๆ นี่ มันก็คนไม่ดีพร้อม กันทุกคน มีความใคร่อยากในความคิดกันทุกคน อยากให้คนรู้จักอยากทำผลงานวิจัย อยากเป็น ดร. อยากให้โลกดีกว่านี้ อยาก......... สมัยนี้ผู้ชายมีวิวัฒนาการไปหลายแบบเหมือน xmen ทั้งพวก เกย์ นักเลง ฆราพระ กท ฯลฯ อย่าง ผ. คุณ ก็แบบนึง (แต่เป็นวิวัฒนาการถอยหลัง) ผู้ชายดี ๆ ก็มีอีกเยอะ แต่อาจจะหายากหน่อย ชั้นหนึ่งคือพวก perfect หายากมาก ๆ ทั้งหล่อ ฉลาด แมนสุด ๆ ส่วนมากจะเจอในหนังฝรั่ง (แต่ชีวิตฝรั่งจริง ๆ ก็ไม่ต่างจากเมืองไทยหรอก) (ถ้าในหนังไทย ก็ประมาณ ผ. ของ จขกท.) ถ้าหาได้ชั้นหนึ่งก็เหมือนถูก lotto รางวัลที่หนึ่ง ชั้นสองนี่ ไม่เร้าใจ ไม่ตื่นเต้น ไม่ค่อยเที่ยว ไม่ชอปปิ้ง วัน ๆ เอาแต่ดูหนังสือ ไปวัด ติดคอมฯ ไม่ค่อยแสดงหรือพูดว่ารัก ทำให้ผู้หญิงไม่ค่อยสนใจ น่าเบื่อ ถ้าคำนวณง่าย ๆ ผู้ชายแก๊งหนึ่ง (5-6 คน) ก็จะมีประมาณ คนหรือสองคน ถ้าหาได้ก็เหมือนถูก lotto เหมือนกันแต่รางวัลไม่มาก ส่วนคุณผู้หญิงส่วนมากผม ติ อยู่อย่างเดียว มักติดรูปลักษณ์ เห็นกระเป๋าสวย ๆ รองเท้าสวย ๆ ก็มักจะซื้อเลย ไม่ได้หาข้อมูลประกอบหรอกว่าทำมาจากอะไร ใช้อย่างไรให้ดี ดูแลอย่างไร ใส่แล้วเหมาะกับตัวเอง เหมาะกับชุดไหม ซื้อแล้วตัวเองจะมีปัญญาเก็บ ดูแล บำรุงรักษา ให้มันอยู่กับเรานาน ๆ หรือเปล่า ถ้าซื้อแล้วไม่ดีก็มักจะโทษผู้ผลิตหรือผู้ขาย ความเคยชินอันนี้ก็เลยส่งผลมาถึงการเลือกคนมาเป็น ผ. เช่นนี้แล สาธุ...... ฝอยซะนาน เค้าถามว่าควรทำอย่างไรนี่นา 1. ออกจากที่นั่นหละดีแล้ว จากนั้นก็ทำใจ แล้วสู้ต่อไป ไปเรียน หางานทำ เลี้ยงเค้าให้ดี ๆ 2. ฟ้องเหรอ อาจไม่ดี ถ้ายังไม่มีงานคุณอาจเสียลูกให้อีกฝ่าย ถ้ามันซ่อนไม้เด็ดไว้ แต่ปรึกษาทนายไว้ก่อนก็ดีนะครับ เอาที่แบบปรึกษาฟรีด้วย (จะหาได้ไหมนี่) (ก็แค่ความคิดเห็นนึง) จากคุณ : Lybt (lybt) - [ 9 ก.พ. 51 17:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ยังไงก็อย่าให้เขากลับมารังควานเราได้อีกก็แล้วกัน ไม่แน่ใจว่าคุณจดทะเบียนสมรสหรือเปล่า เห็นหลายคนให้ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดู ถ้าคุณจะไปตั้งหลักใหม่ในต่างประเทศควรคิดให้ดี ดิฉันอยู่ต่างประเทศยังคิดอยากกลับไปอยู่เมืองไทย แต่เนื่องจากติดภาระกิจจำเป็น ไม่มีอะไรดีไปกว่าบ้านเรา เมืองไทยของเราหรอก จากคุณ : ไกลแต่ตัว (ไกลแต่ตัว) - [ 9 ก.พ. 51 17:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 104 คือ สามีของ จขกท นี่เป็นคนไทยใช่ป่ะคะ? ขอโทษที่อ่านมายังไม่เก็ท (ยังเซ่ออยู่ งิงิ) แค่สงสัยตรงจุดนี้เท่านั้นเองค่ะ   จากคุณ : cherry*viva - [ 9 ก.พ. 51 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 105 จาก จขกท. ค่ะ วันนี้เป็นอีกวันที่ว่างจากการเลี้ยงลูก เลยเข้ามาอ่านค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ LYBT คุณpeer และทุก ๆ ท่านเลยค่ะ ตอนนี้ดิฉันทำอะไรไม่ได้ค่ะนอกจากลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวที่บ้านหลังเล็ก ๆ แห่งนึง ของครอบครัวดิฉันซึ่งเมื่อก่อนสร้างไว้ให้เช่าค่ะ ตอนนี้คนเช่าออกไป เลยมาอยู่แทน ดิฉันไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ ไม่รู้จะฟ้องหย่าได้อย่างไร แต่จะหาทนายซักคนค่ะ เพื่อน ๆ ของดิฉันแนะนำว่าไม่ต้องรอให้กรรมตามพวกมันหรอกค่ะ บาปกรรมสมัยนี้ สำหรับคนพวกนี้ตามมันช้าค่ะ มีคนบอกให้ปรึกษาทนาย ท่านที่อ่านแล้ว งง สับสน ดิฉันขออภัยมากมากนะคะ ทักษะการเขียนบวกกับตอนที่เล่านั้น ใส่อารมณ์มากมาย เลยทำให้เนื้อหาดูวุ่นวายไปหมด แต่นั่นแหล่ะค่ะ คือเรื่องจริง ที่มิได้ปรุงแต่งถ้อยคำใดใดเลย .......ล่าสุดก่อนที่ดิฉันจะออกมา ดิฉันโดนมันตีอีก แล้วแม่มัน ก้อเข้าข้างลูกเค้า ดิฉันสงสารแม่มันค่ะ แม่ผ.ดิฉันสอนลูกเสมอค่ะ ว่าฟันใครแล้วก้อไม่ต้องไปรับผิดชอบมัน เพราะของงี้เป็นเรื่องสมยอม ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ผู้หญิงเค้ายอมเอง ไม่งั้นต้องไปรับผิดชอบมันทั้งบางเลยรือ !!! ด้วยความสัตย์จริง ดิฉันได้ยินกับหู มิได้แต่งเติมถ้อยคำใดใดทั้งสิ้น .......ล่าสุดได้ข่าวมา มันติดเด็กนั่งเล้า ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรค่ะ โคโยตี้หรืออะไรไม่รู้ แล้วอีแม่ผ. มันจะมาเอาลูกดิฉันไป มันบอกว่าคนแถวนี้เค้าถาม มันกลัวว่า เค้าคงด่ามันว่าไล่ดิฉันกับลูกไป มันเลยจะเอาลูกดิฉันไปเลี้ยงเอง มันจะจ้างพม่ามาเลี้ยง มันเพิ่งโทรมา แต่ดิฉันคงไม่ให้เปรตเดินดินตนนี้ ที่เคยรังแกทั้งแม่ และลูกดิฉันตั้งแต่อยู่ในท้อง บวกกับ ยุให้แท้งอีก !! ดิฉันทำใจให้มันไม่ได้จริง ๆ ถึงมันจะรวย ล้น ฟ้า แค่ไหนก้อตาม ดิฉันทำถูกแล้วใช่มั๊ยคะ......... แม่ทำถูกแล้วใช้มั๊ยลูกจ๋า ดิฉันร้องไห้ถามลูกทุกวัน แม่ขอโทษนะลูก ที่ทำให้ลูกต้องลำบาก น้ำอุ่นไม่มีอาบ ทนนะลูกจ๋า ไม่มีแอร์เย็น ๆ แม่ขอเป็นลมพัดให้ลูกนอนทุกคืนนะลูก แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ ลูกจะเกลียดแม่มั๊ย แม่ไม่มีอะไรให้ลูกเลยซักอย่าง ของเล่นก้อไม่มีเลย เตียง เปล ที่นอน แม่ไม่เอาอะไรมาเลยลูกจ๋า แม่จะทำอย่างไรดีให้ลูกสบาย แม่จะทำอย่างไร ............. แม่มีแต่น้ำนมจาก อก นะลูก แม่จะจ้างคนเลี้ยง แม่จะหางานทำ แม่จะต้องสู้เพื่อลูก นี่คื่อเสียงของแม่คนนึง กับน้ำตาทุกหยดที่เสียไป เพราะหลงเชื่อผู้ชาย ขอให้พวกมันจงรับกรรม ขอให้พวกมันโดนดีซักวัน ลาก่อน จากคุณ : new mom - [ 9 ก.พ. 51 18:47:40 A:124.120.70.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 อยากรู้มากว่ามันเป็นใคร เรื่องราวคล้าย ๆ กับเพื่อนเราคนนึงเลย บอกชื่อนามสกุลมัน จะเป็นไรมั๊ย มันจะมาทำอะไรคุณหรือป่าว ยังไงก้อขอให้กำลังใจนะครับ จากคุณ : bento - [ 9 ก.พ. 51 21:39:59 A:124.120.70.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 ทำใจนะคะ จขกท สู้ๆเข้า ไม่รู้จะปลอบยังไงดีเหมือนกันนะคะ แต่มีสติเยอะๆ จากคุณ : ยี่สิบสี่วันสุข - [ 10 ก.พ. 51 00:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 108 มาอีกครั้งค่ะ ยิ่งอ่านแล้วยิ่งสงสารหนูมาก ๆ เลย  ชีวิตจริงสาหัสหนักหนายิ่งกว่านิยายเสียอีก   ดีว่าหนูมีวิชาความรู้  คิดให้รอบคอบ ตั้งหลักชีวิตใหม่ให้ดีค่ะ  ตั้งต้นใหม่เลี้ยงลูกให้ดี คุณต้องเอาตัวรอดได้ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) - [ 10 ก.พ. 51 01:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านข้อความสุดท้ายของคุณ แทบร้องไห้ เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เลยค่ะ เพราะก็มีลูกสาวเหมือนกัน ตอนนี้ ดิฉันก็ยังให้นมแม่อยู่เลยค่ะ คุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับ ลูกคุณแล้วค่ะ จงภูมิใจเถิด สิ่งที่ลูกต้องการที่สุด ก็คือ ความรัก จากแม่ อ้อมกอดที่อบอุ่นจากแม่ ไม่ใช่ วัตถุสิ่งของใด ๆ ถึงแม้ไม่มี ของเล่น หรือ เปลนอน แต่ถ้าได้อยู่ในอ้อมกอดแม่แล้ว อะไรก็เทียบไม่ได้เลย อบอุ่นที่สุดแล้ว สู้ นะคะ สู้ เพื่อลูก ดิฉันเชื่อว่าคุณทำได้ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : MaeNean - [ 10 ก.พ. 51 05:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 110 จขกท. สู้ๆค่ะ ขอให้ลูก จขกท. เติบโตขึ้นมาเป็นคนดี น่ารัก กตัญญู และเป็นที่พึ่งสำคัญให้กับคุณแม่ได้ค่ะ จากคุณ : zizzi - [ 10 ก.พ. 51 10:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 111 บอกชื่อนามสกุลมันมาเลย ใบ้ หรือตัวย่อก้ได้ ถ้ามันจะเอาไปเลี้ยงแล้วจะจ้างคนมาเลี้ยงอีกทีน่ะน่ากลัวมาก แค่ตัวมันก็น่ากลัวแล้ว เราว่าไอ่ผู้ชายนั่นมันคงนิสัยซึมลึกเป็นสด.จริง ๆ น่ะ เค้าเรียกว่าผู้ชายเหงาเจี๊ยว มันเหงาตลอด แล้วดูจากที่คุณเล่าน่ะนะ ผู้ชายคนนี้สุดท้ายอาจจะได้กับพวกผู้หญิงอย่างว่าแล้วก็ติดโรค/มีความเป็นไปได้ เพราะคนที่เกิดมาเป็นแบบนี้จะมีรสนิยมชอบผู้หญิงอาชีพอย่างนี้ และสักวันถ้าพลาดพลั้งก็อาจจะติดโรค บุญคุณอาจจะยังดีอยู่ จึงไม่ต้องเสี่ยงตายกะเอดส์เพราะมัน รู้หรือเปล่า บางทีดวงวิญญาณบรรพบุรุษอาจจะคอยปกป้องคุณก็ได้ ดูจากพฤติกรรมแล้วผู้ชายคนนี้โง่เง่า เลว และมีพฤติกรรมเสียงโรคทางเพศมาก ๆ สงสัยคุณอาจจะได้เยาะเย้ยแม่สามีเร็ว ๆ นี้ ว่าสะใภ้ดี ๆ เป็นคนธรรมดา ๆ ไม่ชอบ อยากได้สะใภ้คุณโส เหอะ ๆ พวกแม่สามีมันจะมีทุกข์กรรมอย่างนี้แหล่ะ ล฿กสะใภ้คนนี้ไม่ดี หาเรื่องติได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ติไปถึงโคดเหง้าสักกะหลาด จนเค้ามีลูกกันแล้วยังจะไปพรากครอบครัวเค้าอีก มีอะไรยุแยงตะแคงได้ทำหมด โดยไม่นึกถึงชีวิตน้อย ๆ ตาดำ ๆ ที่มันจะขาดพ่อหรือขาดแม่ ขอแค่กรูชนะ/เพราะกะสามีตัวเองไม่เคยชนะไง แพ้ตลอด 55 เลยมาชิงความรักลูกชายนี่แหล่ะ ก็เข้าทางลูกชั่วของมันเพราะว่าอยากทำเลว ๆ โดยมีคนสนับสนุนอยู่แล้ว เราว่าแม่สามีคุณมีส่วนในพฤติกรรมของสามีคุณไม่น้อยเลย เลี้ยงลูกได้[^_^]มาก ๆ แทนที่จะสอนลูกว่าอย่าไปทำลูกสาวใครเค้าท้อง นี่กลับบอกว่าไม่ต้องไปรับผิดชอบทุกคนหรอก สอนลูกอย่างงี้ถ้าไปเจอลูกสาวบ้านนักเลงพ่อผู้หญิงขาดสติขึ้นมา ป่านนี้ลูกชายมันเป็นถูกกระทืบตายไปแล้ว สอนลูกอย่างงี้ ให้ท้ายลูกอย่างงี้ แถมไปยุแยงให้ครอบครัวเค้าแตกแยก/เท่าที่อ่านเราว่าแม่สามีให้ท้ายลูกผิด ๆ หลายอย่าง กรรมเวรจะมาถึง วันนึงลูกชายมันไม่ได้หรอกคนแบบคุณ จะไปคว้าพวกคุณโสมาทำเมียน่ะแหล่ะ แล้วคงจะล้างผลาญทั้งบ้าน เพราะคราวนี้ผู้หญิงคนใหม่นั่นมันอาจจะร้ายกว่าคุณเป็นร้อยเท่าก้ได้ ใครจะรู้ นี่แหล่ะหนา โบราณว่าเลือกนักมักได้แร่ ยายแก่เลือกสะใภ้ตรอมใจจนวันตาย เราว่าคุณควรจะเลี้ยงลูกเองนะ ไม่ก็กลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่สักพัก จนกว่าลูกจะสามขวบ ผลัดกันเลี้ยงกับแม่ และถ้าจะจ้างคนมาเลี้ยงให้พ่อแม่คุณคอยดูคนที่จ้างมาเลี้ยงอีกที ห้ามปล่อยให้เลี้ยงลูกคุณโดยที่ไม่มีใครดูแลอีกที อันตรายให้กลับไปเลี้ยงที่บ้าน ให้พ่อแม่คุณคอยดูคนเลี้ยงลูกอีกที อย่าให้คลาดสายตา แล้วนมแม่ควรจะให้ลูกดื่มนมแม่และนมขวดด้วย เพราะมันไม่พอหรอก แล้วอย่าลืมเค้าดื่มนมแล้วให้อุ้ม/คุณควรจะนั่ง อาจจะนั่งที่เตียง แล้วอุ้มเค้าพาดบ่าลูบหลังเบา ๆ จนเค้าเรอ ให้แน่ใจว่าเรอแล้วนะ แล้วก็ค่อยให้เค้านอนได้ ไม่งั้นจะอันตรายมากนอน ๆไปเค้าจะสำลักแล้วอาจจะหายใจติดขัด ถ้าคุณหลับอยู่ เค้าอาจจะถึงตายนะเพราะไม่มีใครช่วย เชื่อเรานะ ให้นมขวดเสริม เพราะนมแม่เค้าจะดูดตลอดอยู่แล้ว หิวไม่หิว เค้าก็อาจจะดูดนมแม่ได้ตลอด ซึ่งอันนี้ไม่ต้องห่วง ห่วงแต่ว่าให้นมขวดเสริมเถอะ หาขวดนมและจุกนมยี่ห้อดี ๆ ที่นึ่งได้ ต้มได้ ต้องต้มนะคะ เพื่อฆ่าเชื้อโรค ไม่งั้นท้องเสียแย่เลย แล้วควรจะมีครีมทาตูด สำหรับทารก ลองไปที่ร้านบูทส์ตรงเคานเตอร์ยาอาจจะมีค่ะ ครีมทาตูดของเด็ก ทาเคลือบน้องและตูดเค้าไว้ ส่วนที่คิดว่าจะโดยปัสสาวะหรืออุจจาระ เพราะครีมนี้จะช่วยรักษาเนื้ออ่อน ๆ ที่โดนฉี่กัด และป้องกันไปในตัว ดีมาก ๆ ค่ะ ทาเคลือบบาง ๆ ถ้าตรงแดง ๆ ข้อพับก็ทาให้หมด เค้าจะสบายตูดไม่แสบไม่เจ็บ นอนสบายค่ะ ก็จะสบายคุณด้วยหายห่วงไปอีกเรื่องค่ะ เชื่อเรานะ กลับไปอยู่บ้าน ให้พ่อแม่เราคอยดูคนเลี้ยงน้องอย่าให้คลาดสายตา อย่าให้เค้าเลี้ยงลูกเราตามลำพังนะคะ จากคุณ : 879788779 - [ 10 ก.พ. 51 12:42:49 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ขอภาวนานะ ให้คุณกลับบ้าน พ่อแม่จะได้ช่วยดูคนที่ว่าจะจ้างมาเลี้ยงลูกอีกทีนึง แต่เราว่าคุณเลี้ยงเองจะดีที่สุดค่ะ ไปอยู่บ้านเถอะ ห่วงลูกคุณ สงสารเด็กนะ จ้างคนมาเลี้ยงโดยที่ไม่มีใครคอยดูอีกที อันตรายมากนะ คุณไม่เห็นข่าวเหรอที่เด็กอายุสองสามเดือนเอง ซี่โครงหัก กะโหลกร้าว จำข่าวได้ไหม ที่พ่อแม่เด็กมีธรกิจตัวเองด้วยนะ ทำงาน แล้วจ้างคนมาเลี้ยงไม่มีใครดูคนที่เลี้ยงอีกที มันบอกว่าเผลอทำน้องหลุดมือในห้องน้ำ แต่จากแพทย์วินิจฉัยเด็กฟกช้ำหลายจุดไม่ใช้การหลุดมืออย่างแน่นอน เป็นรอบช้ำเขียวทั้งตัว เด็กรู้สึกยังทารกแบเบาะอยู่เลยคุณ สังคมเค้าก็ประณามพ่อแม่ด้วยว่าห่วงทำงาน ลูกเล็กขนาดนี้ทำไมไม่เลี้ยงเอง แล้วอย่างน้อยทำไมไม่ให้ปู่ย่าตายายคอยดูคนเลี้ยงอีกที ส่วนคนเลี้ยงเนี่ยมาจากศูนย์เลี้ยงเด็กที่ถือว่าชื่อนะ โฆษณาว่าคนที่จะมาเลี้ยงลูกคุณน่ะผ่านการอบรมมาอย่างดี เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการเลี้ยงเด็ก/มันไม่มีหรอกคุณ อย่าไปหลงลมคำโฆษณาเด็ดขาดเลย ลูกเราพิการหรือตายก็แทบจะทำอะไรมันไม่ได้ ได้แต่ฟ้องเรียกเงินหรือให้มันเสียชื่อเสียง ถ้าคนไม่ได้อ่านข่าวเค้าก็ไม่รู้อีก มันก็ยังเปิดศูนย์ส่งคนเลี้ยงเด็กจนทุกวันนี้ แล้วไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียวที่มีกรณีแบบนี้ ที่รับเลี้ยงเด็กบางที่มันผสมยานอนหลับให้เด็ก คุณรู้บ้างหรือเปล่า เด็กโตมากลายเป็นเอ๋อ ลองถามหมอเด็กที่โรงบาลไหนก็ได้ว่าเค้าเคยเห็นเคสที่เด็กโดนวางยานอนหลับจากสถานรับเลี้ยงมากี่รายแล้ว อาการเป็นอย่างไร บางรายอาการแสดงมาก บางรายได้รับผลกระทบน้อยลูกคุณจะช้า กลายเป็นเด็กช้า เรียนไม่ทันเด็กรุ่นเดียวกัน เด็กบางคนถูกวางยามากก็จะแสดงออกชัดเจนจนพ่อแม่รู้ แต่บางคนได้รับปริมาณน้อยกว่าพ่อแม่ก็จะไม่รู้ คุณลองหาข่าวเก่า ๆ มาอ่านละกัน พูดมากไปเดี๋ยวคิดว่าขู่อีก ลูกน่ะหัวเด็ดตีนขาดควรจะเลี้ยงเอง พวกสถานเลี้ยงเด็ก สถานส่งคนดูแลเด็กมันก็แค่ธุรกิจคุณรู้หรือเปล่า มันก็แค่ให้คนมาอบรมเลี้ยงเด็กแล้วก็ส่งคนไปเลี้ยงตามบ้านแล้วคอยหักค่าหัวคิวค่าจ้างเลี้ยงแค่นั้น คนที่จะมาเลี้ยงก็ไม่รู้คนอำมหิตที่ไหนมาหรือเปล่า มีปมปัญหาชีวิตอะไรมาเราก็ไม่รู้ ถ้าจะจ้างเลี้ยงให้พ่อแม่คุณช่วยดู ลองไปหาข่าวเด็กทารกคนที่ถูกคนเลี้ยงทำร้ายอ่านดูแล้วคุณจะร้องไห้ ใครเห็นก็ต้องร้องไห้ ฟกช้ำงตัว ซี่โครงหัก กะโหลกร้าว สมองบวม เด็กเพิ่งจะเดือนกว่าสองเดือนเองมั้งคุณ ตัวเล็กนิดเดียว พ่อแม่หัวใจสลาย คุณจะเสี่ยงเหรอ ถ้าคุณจะเสี่ยงอย่างงั้นเราว่าให้ลูกกับแม่สามีไปเลี้ยงดีกว่า จากคุณ : // - [ 10 ก.พ. 51 13:00:35 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แก้ไขพิมพ์ตกหล่น ส่วนคนเลี้ยงเนี่ยมาจากศูนย์เลี้ยงเด็กที่ถือว่ามีชื่อนะ คุณเลี้ยงเองก็ต้องระวังให้มาก ๆ เลย เพราะคุณจะนอนน้อยลง ให้พยายามงีบตามลูกเวลาลุกหลับก็งีบด้วย ลูกตื่นก็ตื่นด้วย จะได้พักผ่อนเยอะขึ้น แล้วเวลาอุ้มลูกอาบน้ำต้องระวังที่สุด เพราะเด็กเนี่ยถ้าหลุดมือไปทีนึงเหมือนแก้วคริสตัลน่ะคุณ หลุดมือก็คือแตกสลายเลยนะ ถ้าคุณเหนื่อยมากให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวลูก แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนูแห้งให้แน่ใจว่าตัวแห้งดี โรยแป้งหน่อย ก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้อาบน้ำตลอด ทำวิธีนี้ได้ ให้เค้านอนบนเตียง แล้วค่อยเช็ด แล้วตามด้วยผ้าขนหนูแห้ง เช็ดจนแน่ใจว่าแห้งจริง ๆ แล้วก็ตอนเช็ดห้ามเปิดพัดลมด้วย เดี๋ยวปอดบวม ถ้ามีใครมาช่วย มีเพื่อนมาก็ค่อยอาบน้ำให้เค้าจะได้ช่วย ๆ กันดูนะคะ จากคุณ : // - [ 10 ก.พ. 51 13:06:39 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 114 น้อง จขกท. คะ  พี่อ่านเรื่องราวของน้องที่โพสมาทั้งหมดนะ  ต้องบอกตามตรงว่า  เข้าใจบ้าง  ไม่เข้าใจบ้าง  โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยให้มีลูก  เท่าที่อ่านดูก็เดาได้ว่า น้องเป็นคนรุ่นใหม่  มีความรู้มีการศึกษา  เคยมีตำแหน่งหน้าที่การงานดี   แต่ก็เอาเถอะ  ไหนๆ เรื่องก็ผ่านมาแล้ว จะไปสืบสาวราวเรื่องต้นสายปลายเหตุอีก  ก็ไม่มีประโยชน์ พี่เชื่อว่า น้องคงมีอายุน้อยกว่าพี่  ไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่ๆ  เพราะลูกสาวของพี่ตอนนี้ก็ย่าง 12 ขวบแล้ว  ซึ่งพี่เองก็เลี้ยงลูกมาคนเดียวเหมือนกัน ตั้งแต่เค้ายังเดินไม่ได้  เรื่องมีลูกพี่ไม่คิดโทษผู้ชายหรอก  ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง  อันนี้พี่ไม่ได้จะตำหนิน้องนะคะ  แต่พี่คิดว่าเรื่องมีลูก ยังไงมันก็อยู่ที่ตัวผู้หญิงเราเองที่ต้องป้องกัน  เว้นเสียแต่ว่า จะถูกข่มขืนถูกคุมขังไม่ให้ออกไปไหน ไม่มีโอกาสจะซื้อยาอะไรมาป้องกัน  ตอนที่พี่ยังอยู่กับพ่อของลูก ก็ทะเลาะกันจนญาติผู้ใหญ่ตำหนิว่า เอ็งไม่รักกัน แล้วเอ็งปล่อยให้ลูกเกิดมาทำไม สงสารเด็กตาดำ ๆ มั่ง  ฝ่ายผู้ชายได้โอกาสด่าซ้ำว่า  ก็มันไม่ป้องกันเองนี่ ปล่อยให้มีลูกหวังจับมันไปโน่น  พี่ได้ยินแล้วก็เจ็บแค้นมากแต่ก็เถียงไม่ออก  ทั้งที่ความจริง ไม่ใช่เลยที่มาหาว่าเราปล่อยให้มีลูกหวังจะจับ  ไม่คิดเรียกร้องให้เค้ามารับผิดชอบเลย   พี่รักลูกมากถึงแม้เค้าจะป่วย มีโรคประจำตัว ต้องเข้าโรงพยาบาลพบแพทย์อยู่ตลอด รับเลือดจากสายยาง ตั้งแต่อายุ 5-6 เดือน หมอบอกว่าลูกพี่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน  แต่พี่ก็เลี้ยงเค้าจนอยู่มาได้เกือบ 12 ปีแล้ว จนปลงได้แล้วว่า  บางทีตัวเราอาจตายก่อนลูกด้วยซ้ำ เพราะชีวิตทุกวันนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ความปลอดภัยมีน้อย เหมือนเสี่ยงชีวิตอยู่ทุกวัน พี่เองเหมือนตัวคนเดียว แม่พี่ก็เสียตั้งแต่ลูกเกิด พ่อก็มีภรรยาใหม่ พี่อยู่กับลูก 2 คน เช่าห้องเล็ก ๆ ลงทุนขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ พอได้เลี้ยงลูก จะไปทำงานก็ไม่มีใครเลี้ยง จะจ้างก็ไม่มีเงินพอ แล้วลูกก็อ่อนแอมาก ไม่ไว้ใจว่าคนอื่นจะดูแลเค้าได้ดี  จะไปปล่อยตามสถานรับเลี้ยงเด็กก็ไม่ได้  พี่เองความรู้ก็น้อย ไม่ได้จบถึงปริญญาอย่างน้อง จขกท. ด้วย สมัยนั้นเน็ตก็ยังใช้ไม่เป็น  ไม่รู้จะไปปรับทุกข์ ตัดพ้อต่อว่ากับโชคชะตาชีวิตตัวเองกับใคร ความรู้สึกเจ็บช้ำขมขื่น  มันไม่ได้มีน้อยไปกว่าผู้หญิงทุกคนที่ต้องเผชิญชะตากรรม เหมือนน้องตอนนี้หรอกนะ  คนที่เค้าไม่เคยรู้จักชีวิตเรา ไม่ได้มารับรู้ความเป็นจริงอะไรด้วย  พูดไปเค้าก็จะหาว่าเรา พูดเอาดีใส่ตัว ใครจะเชื่อ  ว่าคนบางคนจะเลวได้ขนาดนี้ พี่เลิกกับพ่อของลูก  โดยที่เค้าไม่ได้แตะต้อง ทำร้ายร่างกายพี่เลยด้วยซ้ำ  พี่ก็ยังคิดว่า เค้าเลวเกินไปที่ทนอยู่กับเค้าเพื่อให้ลูกมีพ่อแบบนี้ และไม่ต้องการให้เค้ามายุ่งกับลูกเป็นดีที่สุด   อย่างของน้อง จขกท.น่ะ  ผู้ชายไม่มีสิทธิ์ในตัวลูกเลยนะคะ  เพราะไม่ได้จดทะเบียน  ของพี่สิ  หลงผิดไปจดทะเบียนเข้า ลำบากมาก จะทำอะไรเด็ดขาดก็กลัวเค้ามาอ้างสิทธิ์ในความเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย อ้างสิทธิ์ในความเป็นพ่อของลูก  ตอนนี้หย่าได้แล้ว พี่ขอทำบันทึกกำกับเลยว่า  ลูกเป็นสิทธิ์ขาดของพี่คนเดียว ห้ามเค้ามาเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น เข้าใจในความรู้สึกตอนนี้ เจ็บปวด อดสู ที่ต้องมานั่งเลี้ยงลูกคนเดียว คลั่งแค้นถึงคนเป็นพ่อของลูก น้องจะโยนความผิดให้เค้าคนเดียวก็ได้  เพราะบางทีการมานั่งนึกถึงความผิดพลาดของตัวเอง ว่าไม่น่าหลงเชื่อ ไม่น่าจะอย่างนั้น ไม่น่าจะอย่างนี้ มันก็ยิ่งเจ็บใจ ตอนนี้พี่อยากให้น้องเข้มแข็งนะ  อย่ากลัวกับที่ต้องดำเนินชีวิตตามลำพัง  เชิดหน้าสู้ ไม่ต้องแคร์คำใครจะติฉินนินทา   มันก็ใช่นะ ที่ล้มแล้วมันลุกขึ้นลำบาก  เหมือนพี่เอง 10 กว่าปีที่ผ่านมา  ก็ใช่ว่าจะลุกเดินได้เหมือนเดิม สิ่งดี ๆ โอกาสดี ๆ มันสูญเสียไปแล้ว ไม่อาจได้กลับคืน ทุกวันนี้พี่ก็ยังลำบาก  ยังไม่รู้อนาคตตัวเองเหมือนกัน ก็ได้แต่พยายามสู้ชีวิต  ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้   การได้ออกมาระบายให้คนอื่นรับรู้บ้าง  มีคนสงสาร มีคนเห็นใจ มีคนปลอบโยน ก็อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่ที่สุดแล้ว เราก็ต้องยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่มีใครจะช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง   ยอมรับความจริงที่เผชิญอยู่ตอนนี้  ตั้งสติให้ดี จะอยู่อย่างไร จะเลี้ยงลูกอย่างไร   บางทีสิ่งดี ๆ ก็อาจรออยู่ข้างหน้า  อาจต้องใช้เวลารออีกสักหน่อย  อดทนนะ จากคุณ : single mom (thepariti) - [ 10 ก.พ. 51 13:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อ่านแล้วต้องเม้นท์หน่อยอดไมได้เลยจริงๆ... ใครที่คิดว่านี่เป็นนิยายน่ะ..ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกว่าคนประเภทนี้ หรือที่ เหี้.. กว่านี้ยังมีในประเทศไทยของเรา และรวมถึงในโลกนี้ด้วย แต่ในชีวิตจริงคนเราทุกคนจะมีทั้งด้านดีและเลวปะปนกันไป อยู่ที่อย่างไหนมันจะมากกว่ากันเพราะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานจิตใจ ไม่เกี่ยวกับการศึกษาหรือ ฐานะแต่อย่างใด เรื่องของดิฉันก็เคยเล่าไปในบอร์ดพันทิปเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับทั้งคำตำหนิ และคำปลอบโยนจากเพื่อนๆในนี้ ไม่ขอเล่าเรื่องตัวเองนะคะ เพราะจะยิ่งกว่านิยายเน่าเฟ่ะกว่าคุณ จขกท. เข้าทำนองดาวพระศุกร์ ผิดแต่ลูกดิฉันเป็นผู้ชายเท่านั้น รวมถึงคำแนะนำต่างๆที่ทำให้เรามีไอเดียบางอย่างขึ้นมาบ้าง ขอบอกค่ะ...ได้ประโยชน์จริงๆ หากคุณนำคำแนะนำเหล่านั้นไปใช้ให้ถูกวิธี ก่อนอื่นต้องถามว่าได้จดทะเบียนสมรสกับเค้า หรือได้ไปรับรองบุตรหรือไม่ หากไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ถึงมีชื่อพ่อเด็กในใบเกิดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะมีสิทธิชอบธรรมตามกฎหมาย ฉะนั้นคุณมีสิทธิเต็มที่ 100% ทุกอย่างในตัวบุตร (อันนี้พูดในแง่ของกฎหมายนะคะ) แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าอย่างไรแล้วเด็กก็ต้องมีพ่อ ไม่ว่าพ่อมันจะชั่ว จะดี จะเลว ยังไงก็สายเลือด จะตัดขาดไปเลยก็ไม่ถูก แค่เตือนว่าอย่าเอาความแค้นส่วนตัวระหว่าง ผัว-เมีย มาปะปนกับความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อ-ลูก จนให้ลูกคุณเกลียดพ่อตัวเอง ให้เค้ารู้เองเมื่อเค้าโตขึ้นค่ะ เค้าจะรับรู้ได้เองค่ะ เพราะในความเป็นจริงย่อมต้องไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาว่า พ่อ-แม่ตัวเอง ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม (หรือคุณจะเถียง) ตอนนี้เรื่องของดิฉันกำลังดำเนินการยื่นฟ้องอยู่ พอพวกเค้ารู้ก็เสี้ยมสอนให้ลูกเกลียดดิฉันไปเลย มีคำเด็ดคำนึงที่ออกมาจากปากลูก ตอนที่ดิฉันไปหาเค้าก่อนจะกลับอเมริกาว่า ดิฉัน "แม่จะกลับแล้ว ขอกอดหน่อยได้ไหมครับ" ลูก "แล้วคุณมีเงินมาให้ผมไหมล่ะครับ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องมากอด" ซึ้งมากค่ะคำๆนี้ ไม่ได้โกรธลูกนะคะ แต่โกรธที่เค้ากำลังทำลายอนาคตของชาติอยู่ เอาล่ะ...พอแค่นี้ก่อนดีกว่าไม่อยากเล่ามากจะเปลืองเนื้อที่คุณ จขกท. ไปมาก หากอยากรู้อะไรเพิ่มเติม แล้วจะเล่าให้ฟังค่ะ รู้ไว้แต่ว่า...ชีวิตนี้ เกิดหดเดียว..ตายหนเดียว ทำสิ่งทีดีจะถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อตนเองและลูก ไม่ต้องไปแคร์ใครค่ะ เข้มแข็งเอาไว้....เป็นกำลังใจให้ค่ะ อ้อ...อีกประโยคเด็ดที่ได้จากในพันทิปนี่แหล่ะค่ะคือ "ความดี กับความโง่ มันอยู่ใกล้กัน ด้วยบรรทัดฐานจิตใจของผู้รับเท่านั้นที่จะแยกออก" Cheers, จากคุณ : เกด (Anywhere But Here) - [ 10 ก.พ. 51 13:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 116 I've finally finished reading all comments. I'd say for those that keep asking questions like "is your exhusband Thai?" or "are you in Thailand?", you guys need to go back and read (yes, read because I don't think you really read her story before posting a comment) all her posts again. I don't find her story confusing at all. Also, I agree that education doesn't protect from madly falling in love with someone and we all know that mistakes could happen when you're blinded by love. She's known him for years and it was not like she decided to sleep with him the first time they met! People make mistakes, period. I think the best option for you at the moment is to ask your sister/brother for help (financially). Maybe, s/he could loan you some money for the time being until you find work or move to the US. At the very least, s/he should help you to get through these difficult times. I praise you for not giving in and getting an abortion. I'm sure that with your education and work experience, you could get back on your feet in no time. Good luck and stay strong/positive! จากคุณ : Rennis - [ 10 ก.พ. 51 15:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เห็นเหมือนๆกับ ความคิดเห็นที่ 34 + ความคิดเห็นที่ 51 + ความคิดเห็นที่ 77 ครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณ จขกท. มีสติ แก้ไขปัญหาลุล่วงได้ด้วยดีครับ ถ้าคุณพบกับพ่อของเด็กครั้งแรกที่เมืองไทย ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย และหันมาสนใจเมื่อเค้ากลับมาเยี่ยมเมืองไทย ........ขอให้คุณอย่ามีอคติแบบเหมารวมกับคนที่อยู่เมืองนอกเลยนะครับ คนเราจะดีหรือเลว ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าอยู่ที่ไหน เรียนที่ไหน...ระดับไหน รวยหรือจนหรอกครับ ไม่ว่าคุณนับถือศาสนาไหน ขอให้หันไปขอคำปรึกษาจากศาสนาครับ ความพยาบาทจะเป็นไฟเผาใจตัวคุณเองนะครับ คุณอย่าสร้างกรรมเพิ่มเลยครับ .....แค่คิดไม่ดีก็เป็นมโนกรรม พูดไม่ดีกับใครก็เป็นวจีกรรมแล้วครับ การพูดสิ่งไม่ดีผ่านเน็ต ถ้าสร้างกรรมได้ คนอ่านพันคน ก็เท่ากับสร้างกรรมพันครั้งครับ กรรมใดที่ผู้ชายคนนั้นก่อไว้ ..........ซักวันก็ต้องรับกรรมครับ พยายามนึกถึงลูกให้มากๆ ครับ ......ว่าคุณจะช่วยสร้างให้อนาคตเค้าดีได้อย่างไร .......อย่าพยายามนึกถึงอดีตที่คุณแก้ไขไม่ได้เลยนะครับ คิดเรื่องปัจจุบันและอนาคตของลูกดีกว่าครับ ตั้งจิต ตั้งสติ .....คิดเรื่องลูกนะครับ จากคุณ : academician - [ 10 ก.พ. 51 16:09:57 A:130.18.158.49 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 118 "ได้มีโอกาสไปต่างประเทศบ่อย ๆ " "เจ้านายดิฉันเสนอให้ดิฉันไปทำงานที่ยุโรปเป็นเวลา 2 ปี" "และติดต่อกับมหาวิทยาลัยที่ยุโรปอีก 6 เดือนดิฉันต้องบินไปเรียนค่ะ" "ดิฉันบินไปหาท่านไม่ได้เพราะ วีซ่า ไม่ผ่านแน่นอนค่ะ" ประโยคข้างบนทำให้ดิฉันงงๆน่ะค่ะ เพราะถ้าคุณเตรียมตัวจะไปเรียนต่อ คุณต้องมีวีซ่าแล้วใช่ไหมคะ "ดิฉันยอมรับนะคะว่าไม่ได้โดนข่มขืนแต่อย่างใด สมยอมค่ะ แต่ไม่ยอกรับเด็กที่จะเกิดขึ้นมาง่าย ๆ หรอกค่ะ ดิฉันเที่ยวหาโรงพยาบาล ที่เมืองไม่มียา ก้อไปหาอีกเมืองนึง เมืองที่มี Bondibeach อ่ะค่ะ แต่ดิฉันอายเพื่อนคนไทยที่โน่นเลยซื้อแค่ยาซักอย่างอ่ะค่ะมากิน หาหมอก้อแล้ว กินยา กินแอลกอฮอล์ค่ะ แต่ไม่ได้ผลค่ะ " สรุปคุณท้องรู้ว่าท้องตั้งแต่ที่โน่นหรือมารู้ที่เมืองไทยคะ เพราะเหมือนกับคุณพยายามทำให้ลูกแท้ง ตั้งแต่คุณอยู่กับเขาที่โน่นใช่ไหมคะ สรุปอีกครั้งว่าคุณอยู่กับเขาแค่เดือนเดียว แต่คุณมีเพื่อนๆต่างเมืองที่ต้องอายที่จะไปซื้อยาบางอย่างใช่ไหมคะ ไม่ได้จับผิดนะคะ เพียงแต่ไม่ค่อยเข้าใจที่คุณเขียนน่ะค่ะ เลยอยากขอความกระจ่างเท่านั้นเอง จากคุณ : Hergest - [ 10 ก.พ. 51 20:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 119 คุณยังตัดใจจากแฟนไม่ได้  ชิมิล่ะ  เพราะถ้าตัดใจได้  คุณคงย้ายไปอยู่ ตจว. ไปที่ไกลๆ  ตัดขาดไม่ต้องรับรู้เรื่องราวใดๆ เกี่ยวกับครอบครัวนั้น อยากแนะนำให้  หาทนายดีๆ  แล้วฟ้องกลับ  เรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตร  ถ้าไม่จ่ายก็ฟ้องร้องเป็นคดีข่มขืน  หรือหลอกลวง  อะไรก็ว่ากันไป  (ถ้ารวยนัก  ก็ฟ้องเยอะๆ หน่อย) อ่านมาถึง คห.105  ก็อยากจะหนุนใจ  ให้อดทน และถ้าเป็นไปได้  ไปอยู่ที่ไกลๆ  ไม่ต้องรับรู้เรื่องราว ข่าวสารของครอบครัวนี้อีก  ไปใช้ชีวิตชนบท ในอำเภอเล็กๆ ไกลๆ  ไปเริ่มต้นใหม่  หาคนข้างบ้านที่ไว้ใจได้ ช่วยเลี้ยงลูก  แล้วคุณก็หางานทำ บุญรักษานะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 51 23:38:48 จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 10 ก.พ. 51 23:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 120 บางทีผมก็สับสนกับชีวิตนะ ตามตำราว่าไว้ว่าเด็กจะเป็นคนยังใงขึ้นอยู่กับ พันธุกรรม+การเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม จขกท. ก็มาจากครอบครัวบ้านแตก ไอ่ ผ.  ก็มาจากครอบครัวที่เลี้ยงลูกชายด้วยทัศนะคติที่แย่มาก (สำหรับผมนี่เป็นครอบครัวที่บ้านแตกกลายๆ เพราะ พ่อ ผ. ไม่มีตัวตนในเรื่องนี้เลย) มันก็น่าคิดว่าเด็กคนนี้จะถูกเลี้ยงดูด้วยวิธีการและทัศนะคติยังใง ขออนุญาตเอาไปอภิปรายกันต่อที่หว้ากอนะครับ ขอให้เข้มแข็งนะครับ จากคุณ : โต้ บ้านกุดขนวน - [ 11 ก.พ. 51 00:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เฮ้อ..ขอโทษด้วยค่ะ เราเพิ่งอ่านความเห็นของคุณเจ้าของกะทู้ ที่บอกว่าเรื่องพ่อคุณมีครอบครัวใหม่ แม่คุณอยู่ที่เมืองนอก และเรื่องที่คุณอยู่บ้านญาติอีก เราว่าคุณลองทบทวนดูไหม เรื่องความเป็นไปได้ ลองตกลงกับทางบ้านสามีคุณได้ไหม อย่าใช้อารมณ์หรือทิฐิ คิดเสียว่าทำเพื่อลูกละกันนะ เราว่าคุณใช้อารมณ์มากไป บางอย่างนะ อย่างน้อยเราว่าคุณยังพึ่งพาแม่สามีเรื่องช่วยเลี้ยงลูกได้นะ แค่ช่วงกลางวันที่คุณจะไปทำงาน แล้วตอนเย็นคุณก็ไปรับลูกมาอยู่ด้วยก็ได้ หรือว่าเสาร์อาทิตย์ก็ได้ เราว่าถ้าแม่สามีคุณไม่มีทีท่าถึงกับว่าจะพรากลูกคุณไปเลย ก็คงจะพอไปฝากเค้าเลี้ยงได้นะ อย่างน้อยเค้าเคยเลี้ยงลูกคุณมา เค้าคงจะรักอยู่บ้างนะ ดีกว่าไปจ้างใครก็ไม่รู้ให้มาเลี้ยงลูกคุณ ตอนนี้คุณไม่มีที่พึ่งที่ไหน คุณก็ต้องใช้สมองมากกว่าอารมณ์รู้หรือเปล่า คิดว่ามันเป็นบททดสอบที่คุณจะต้องผ่านไปให้ได้ด้วยดี และคุณทำได้เพื่อลูก แม่สามีจะพูดเจ็บแสบยั่วโมโหอย่างไรให้เงียบเสียอย่าไปเถียงด้วย นึกเสียว่าชีวิตแม่สามีก็ไม่ได้มีความสุขอะไรนักเพราะอย่าลืมว่าสามีมีเมียน้อย คุณก็ลองคิดดูละกันว่าแม่สามีคุณจะมีความสุขในชีวิตแค่ไหน เราว่าเค้าไม่มีความสุขนักนะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนมีความสุขหรอกถ้าสามีมีเมียน้อยหรือสามีเลว คุณไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดแต่เพียงว่าอย่างน้อยแม่สามีจะดูแลลูกให้คุณได้ อย่างน้อยคุณก็รีบทำงานเก็บเงินเสียเร็ว ๆ เรื่องสามีก็ไม่ต้องไปคิดแล้ว คุณต้องทำใจนะ ถ้ามันเป็นอย่างนี้ไปแล้ว อย่างน้อย ๆ ให้คิดว่าคุณเหลืออะไรบ้าง คุณยังสาวนะ ยังมีเวลา และอย่างน้อยลูกคุณ ก็ยังมีแม่สามีที่เค้ายังรออยากจะเลี้ยง คุณต้องมองความจริงว่าพ่อคุณก็ช่วยไม่ได้ แม่คุณก็ช่วยไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ไปหาเค้า ถ้าเค้าอยากเลี้ยงลูกคุณจริง ๆ ก็คุยกับเค้าดี ๆ ว่าคุณจะมารับลูกไปนอนด้วย หรือมารับไปวันเสาร์อาทิตย์ก็ว่าไป แต่เรื่องลูกชายเค้าคือสามีคุณ ไม่ต้องไปเถียงอะไร ไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรแล้ว ไม่ต้องไปด่าอะไรแล้ว เพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา ห่วงแต่ว่าตอนนี้จะทำอย่างไรให้ลูกคุณอยู่รอด ตัวคุณอยู่รอด วันหน้าฟ้าใหม่ยังมี อย่าให้ลูกต้องมาทนลำบากด้วย ในเมื่อถ้าแม่สามีรักลูกคุณ อยากเลี้ยงก็พยายามตกลงกันนะ พบกันครึ่งทาง อย่างน้อยเค้าเป็นแม่คนเค้าก็คงเข้าใจความรู้สึกของแม่ เนี่ย เราว่าคุณกลับไปหาแม่สามีเถอะ ไม่ต้องโทรคุยนะ แต่ให้ไปหาเค้าเลย ไปรอคุนกับเค้าที่บ้าน แล้วก็ไม่ต้องไปคุยกับเค้าว่าจะกลับมาอยู่ด้วย คุณก็อยู่ของคุณที่บ้านญาติ กลางวันก็ให้แม่สามีเลี้ยงลุกคุณไป เย็นมาก็ไปรับหรือจะเสาร์อาทิตย์ก็ไปรับ ยังไง ๆ คุณเป็นแม่ มีสิทธิ์ขาดตรงนี้อยุ่แล้ว ให้เค้าเลี้ยงไปเหอะ เพราะถ้าทำท่าว่าจะพรากลูกเมื่อไหร่คุณก็สามารถฟ้องร้องได้ เพราะคุณเป็นแม่ แล้วไม่ได้จดทะเบียนกันด้วย แต่อย่าไปพูดอย่างงี้ให้เค้ารู้ เพราะถ้าคุณไม่มีท่าทีจะแยกลูกมา เค้าก็คงจะไม่คิดพรากลูกคุณไปไหนเหมือนกัน เพราะว่ายังไง ๆ เค้าก็ต้องคิดเหมือนกันว่าลูกก็ต้องมีแม่ ทำหัวอ่อนเข้าไว้ ไม่ต้องบ่น ไม่ต้องพูดอะไรถึงสามีคุณอีก คิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้เค้ายอมเลี้ยงลูกคุณและยอมให้คุณมารับลุกไปเลี้ยงด้วย แล้วอย่าลืมบอกเค้าไปด้วยว่าคุณจะไม่มาอยู่ที่บ้านเค้า แต่เพียงจะมาฝากลูกไว้กับย่าแล้วคุณจะได้ไปทำงาน เราว่าคุณเอาลูกไปตะลอน ๆ อย่างนี้ไม่ดีแน่ ๆ แล้วอย่างน้อย ๆ แม่สามีเค้าจะอยู่ดูแลลูกคุณด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่จ้างคนมาเลี้ยงแล้วตัวเองไม่ดูแลนะ เราว่าเค้าคงคอยดูคนที่จะมาเลี้ยงลูกคุณอีกที พยายามทำใจเย็นหน่อยละกัน คิดเสียว่าทำเพื่อลูก แล้วถ้าโมโหสามีขึ้นมาก็อย่าไปลงที่ลูกล่ะ เพราะเค้าไม่รู้อะไรด้วยเลย เค้าเกิดมายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดมาในครอบครัวที่พ่อจะไปทางแม่จะไปทาง เราว่าสามีคุณเห็นแก่ตัวมาก ๆ ไม่พร้อมจะเป็นพ่อคนเลยสักนิด น่าสงสารลูกคุณจริง ๆ คุณพยายามไปคุยกับแม่สามีดี ๆ แล้วอดทนไว้ ท่องไว้น่ะ อดทน ๆ ๆ ๆ ๆ แล้ววันนึงคุณจะมีความสุข ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาตอนนี้ให้ได้ รีบไปหาแม่สามีคุณเถอะ ด่วนเลย ถ้าที่คุณเล่ามาเป็นความจริงว่าเค้าอยากได้ลูกคุณไปเลี้ยง เราว่าป่านนี้เค้าคงอยากเห็นหลานแล้วล่ะ อย่างน้อยอดทนจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียนนะ จากนั้นคุณโอเคแล้วล่ะ เพราะว่าลูกไปโรงเรียนได้ คุยรู้เรื่องบ้างแล้ว คุณก็ไปทำงานได้ แม่สามีน่ะก็พยายามผูกมิตรนิดนึง แสดงให้เค้าเห็นว่าคุณไม่ต้องการอะไรจากบ้านเค้าจริง ๆ และเลิกกับสามีแล้วแน่นอน คือจบไปเลย ไม่ต้องพูดถึงสามีคุณอีก ทำได้หรือเปล่า เพื่อลูกแค่นี้ทำได้มั้ย จากคุณ : // - [ 11 ก.พ. 51 00:28:45 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 122 แนะนำให้พึ่งตัวเองอย่างเดียว เท่าที่อ่านดู คุณจขกท.ก็เรียนมาค่อนข้างสูง หางานทำคงไม่ยาก เป็นเราจะหางานทำให้เร็วที่สุด ให้ไกลจากแม่ลูกนา-รก แล้วหาเช่าบ้านอยู่ เลี้ยงลูกคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะ แปลกใจกับความคิดที่ว่า อยากให้ลูกมีพ่อ เลยต้องทน ถ้ามีพ่อแบบนี้จะมีไปทำไม คุณต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่างแรกคือต้องมีรายได้ ถ้าประหยัด 2 คนแม่ลูก น่าจะพออยู่กันได้นะ อย่าไปข้องเกี่ยวกับครอบครัวนั้นอีกเลย แค่นี้คุณก็เสียใจมากพอแล้ว จากคุณ : นางเอกหนังไทย - [ 11 ก.พ. 51 01:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เข้ามาดูอีกรอบค่ะ เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 114 และ115 ค่ะ ให้ปล่อยวางจากครอบครัวนั้นไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวอีกคนที่มีอายุมากแล้วหากขาดความรับผิดชอบหรือมีนิสัยจิตสำนึกที่ไม่ดีก็ยากที่จะเปลี่ยนนิสัยหรือสันดาน คนพวกนี้เค้าจะรักแค่ตัวเองเท่านั้น หาหนทางค้าขายที่สามารถทำอยู่กับบ้านและเลี้ยงลูกได้ในเวลาเดียวกันอาจจะเริ่มจากการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนเมื่อมีหนทางค่อยขยับขยาย และให้หมั่นทำบุญสร้างความดีสวดมนต์ภาวนา สิ่งดี ๆ ในชีวิตจะเข้ามาหาคุณในวันข้างหน้าค่ะ จากคุณ : เพื่อน-แพง - [ 11 ก.พ. 51 04:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 124 My eyes  sore !!!!!!                       Su Su naa'  ka  ! จากคุณ : Opey - [ 11 ก.พ. 51 10:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ถ้าไม่ไปพึ่งทางบ้านสามี คุณก็ต้องมองหาอาชีพที่พอจะทำแล้วสามารถดูลูกไปด้วยได้ จ้างคนดูแลก้ได้ แต่ว่าให้อยู่ในสายตาคุณใกล้ ๆ พอจะมีมั้ย ลองกลับไปที่ทำงานเก่าสิ ความสามารถระดับที่คุณบอกมา ที่ทำงานเก่าเค้าคงแคร์คุณพอสมควรนะ อาจจะได้กลับเข้าทำงาน ไม่ก็ถ้าจ้างคนมาดูแลลูก ก็ต้องคอยแวะมาหาตอนพักเที่ยง ไม่ก็ต้องให้ญาติที่บ้านถ้ามีใครอยู่บ้านให้เค้าช่วยดู ๆ ให้ คิดว่าดีสำหรับลูกคุณไหมล่ะ หรือว่าไปพึ่งบ้านสามีดีกว่า ถ้าจะลดทิฐิเพื่อลูกน่ะ ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าคุณพิจารณาว่ามันปลอดภัยที่จะให้ทางบ้านสามีช่วยเลี้ยงอ่ะนะ ถ้าคิดว่าไม่ปลอดภัย ก็เลี้ยงเอง หางานที่จะดูแลลูกได้ เปิดร้านขายของเล็ก ๆ น้อย ร้านเสริมสวย ขายอาหาร ข้างแกงธรรมดาเนี่ยแหล่ะ คุณก็ดูแลลูกได้ หาคนงานมาทำอาหารตักขาย คุณคุมร้านและดูแลลูกไปด้วยยังได้เลย กำไรวันละสามสี่ร้อยก็พอเลี้ยงลูกแล้วนะ ประคับประคองไปก่อน พอลูกถึงวัยเข้าเรียนคุณก็กลับไปทำงานได้เต็มตัว ขายเสื้อผ้าก็ได้หนิ แถวซ.อารี เราเคยเห็นคนเค้าก็เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน แต่อยู่ในห้องแอร์นะ ขายเสื้อผ้า ก็ห้องเล็ก ๆ แต่เค้าติดแอร์ หลานก็อยู่สบาย กลางวันก็เห็นหลับอยู่กับย่าหรือยาย แม่ก็ขายของบ้างไปดูลูกบ้าง ผลัดกันขายกับย่าหรือย่าน่ะแหล่ะ พอตกเย็นก็กลับบ้านแล้ว เราว่าจ้างลูกจ้างมาช่วยคุณทำร้าน แล้วคุณดูแลลูก ยังดีกว่าคุณทำงานเองแล้วจ้างคนดูแลลูก จากคุณ : // - [ 11 ก.พ. 51 11:14:16 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 126 แล้วก็ถ้าจะหาเซ้งแผง เลือกที่มีแอร์ติดอยู่แล้วได้ก็ดีจะได้ไม่ยุ่งยากไปติดเอง แต่ว่าต้องหมั่นทำความสะอาดแอร์ด้วย เอาออกมาฉีดน้ำล้างตะแกรงกรองฝุ่นบ่อย ๆ ก็ยังดี แล้วให้ช่างแอร์มาจัดการทำความสะอาดเติมน้ำยาแอร์ด้วย ให้เค้าเติมน้ำแยแอร์ยี่ห้อที่ดี ๆ ไม่เป็นพิษนะ ลองถามที่ห้องชายคาสิ ว่านำยาแอร์ยี่ห้อไหนดี เพราะลูกต้องอยู่กับคุณตลอด แล้วแผงขายของพวกนี้ถ้าไม่ติดแอร์กับเครื่องกรองอากาศในตัวดี ๆ เด็กอยู่ไม่ไหวแน่ คุณจะไปเปิดร้านที่ไหนก็ต้องหาทำเลอากาศดี ๆ สักหน่อย ถ้าพอเลือกได้นะ หรือถ้าจะต้องติดแอร์ก็หายี่ห้อดี ๆ ที่กรองอากาศดี ๆ ในตัว แล้วก็หันไปทางฝั่งที่มีเขม่าควันรถหรือควันจากร้านอาหารน้อยที่สุดด้วย เป็นห่วงหนูน้อยลูกคุณจริง ๆ เด็กคนนี้มีพ่อก็ยิ่งกว่าคนที่ไม่มีพ่อเสียอีกนะ มีพ่อที่ทุบตีแม่ เฮ้อ แค่ช่วงไม่กี่ปีนี้เท่านั้นคุณ เค้าเข้าเรียนตอนสี่ขวบมั้ง คุณก็โล่งใจละ หาโรงเรียนดี ๆ หน่อยนะ ยอมจ่ายแพงขึ้นมาหน่อย เพื่อความสบายใจหลายอย่าง มาเข้าสวนบัวที่ซ.อารีก็ได้ ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพ เมืองไทยไม่มีเงินช่วยเหลือสำหรับซิงเกิลมัม ถ้าเป็นที่ออสเตรเลียคุณได้รับการช่วยเหลือเต็มที่ ยังไงก็พยายามนิดนึงช่วงสี่ปีนี้ อย่าลืมว่าถ้าโกรธอะไรสามี ก็อย่าลงที่ลูกเด็ดขาด เพราะเค้าไม่มีใครแล้ว เค้ามีแต่คุณคนเดียว เพราะคุณแยกออกมาแล้ว เค้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบ้านนั้นหรือผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป แล้วอีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยในความคิดเรา ก็คงจะไปทำอย่างงี้กับคนอื่นอีกน่ะแหล่ะ ฉะนั้นลูกก็คือลูกของคุณคนเดียว เค้าไม่มีใครอีกแล้ว ฉะนั้นเวลาโกรธขึ้นมาก็อย่าเห็นว่าเค้าเป็นสายเลือดสามีคุณ อย่าไปลงที่เค้า อย่าไปด่าเค้า ไม่อย่างนั้นพอโตเป็นผู้ใหญ่เค้าจะไม่รักแม่ อาจจะบกพร่องทางจิตไปเลย เพราะเค้าเหมือนไม่ได้ความรักจากใคร บอกตรง ๆ เราอ่านคห.คุณแล้ว เราเป็นห่วงเด็กมากเลย เรารู้สึกว่าคุณใช้อารมณ์มาก ๆ และไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้เลย เหมือนคุณรับมือกับปัญหาไม่ได้น่ะ เหมือนกำลังอยู่ในความเสียใจ ยังไม่พร้อมต่อสู้เท่าไหร่ สิ่งที่ผ่านไปแล้ว คนที่มันเลว มันแก้ไม่ได้นะ แต่ตอนนี้คุณก็ออกมาแล้ว มองไปข้างหน้า อย่าวนเวียนกับความแค้น อย่ามองกลับหลัง คุณต้องเปลี่ยนแนวคิด ไม่งั้นไม่มีความสุขนะ แล้วลูกก็จะเหมือนต้องได้รับผลกระทบจากอารมณ์โกรธเกลียดไปด้วย สงสารเด็กมาก ๆ เลย เราว่าแม้แต่จุดนึงเล็ก ๆ ว่าสามีคุณเป็นคนเลว ไม่สามารถเป็นพ่อของลูกคุณได้ คุณยังยอมรับไม่ได้เลย เพราะถ้าคุณยอมรับได้ว่ามันเลวชาติ คุณจะไม่พูดถึงมันคร่ำครวญแบบนี้ คนที่รู้และเห็นชัดแจ้งแล้วว่าคน ๆ นี้มันเลวชาติน่ะ เค้าจะแทบไม่อยากเอ่ยถึงด้วยซ้ำ เพราะเค้ารู้สึกขยะแขยง ท่าทางคุณคงยังอาลัยอาวรณ์สมัยที่คบกันอยู่หรือเปล่า ลองถ้ามันทิ้งลูกได้ขนาดนี้ เราว่าไม่มีค่าให้ไปนั่งนึกถึงด้วยซ้ำ พยายามเลิกคิดซะ แผ่เมตตา สวดมนต์อย่างที่คุณทำน่ะดีแล้ว แล้วที่ว่าปรึกษาทนาย จะเรียกค่าเลี้ยงดู ก็อาจจะทำได้นะ เพราะลูกก็ลูกเค้า แต่ว่าเรื่องกฏหมายเมืองไทยเราไม่แน่ใจนะว่ายังไง แต่เท่าที่เราเห็นศาลสั่งให้จ่ายค่าเลี้ยงดู แต่ถ้าคนมันไม่จ่าย ก็ต้องฟ้องกันต่อนะ ว่าไม่จ่ายตามที่ศาลสั่ง สงสารลูกคุณจริง ๆ แยกออกมาแล้วก็พยายามเลี้ยงลูกใหดีที่สุดนะ ไม่อย่างนั้นเราว่าไปฝากบ้านสามีเลี้ยงตอนกลางวันน่ะแหล่ะ อย่างน้อยแม่สามีก็ยังช่วยดูคนที่จะเลี้ยงลูกคุณให้ได้บ้าง ไม่งั้นคุณจะทำยังไง เราว่าไม่รู้สิ จากที่เค้าโทรมาถาม หรือที่เค้าช่วยเลี้ยงลูกคุณมา เราว่าแม่สามีก็ห่วงเด็กคนนี้เหมือนกันนะ จากคุณ : // - [ 11 ก.พ. 51 11:35:45 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เราว่าคุณต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนน่ะ อย่าไปด่า ไปว่าอะไรอีกเลย มันก็จบไปแล้วนะ สามีก็ไม่ได้สนใจคุณแล้วด้วย อย่าเอาลูกเป็นเครื่องมือต่อรอง เพราะลูกน่ะคนอย่างสามีคุณมันจะไปมีอีกสักกี่คนก็ได้ อย่างน้อย ๆ สงสารเด็กอ่ะ เค้าอยู่กับที่บ้านสามี อยู่กับย่า อาจจะสบายกว่าอยู่กับคุณจริง ๆ แหล่ะ ในเมื่อคุณก็จะไปทำงานจ้างคนมาเลี้ยงลูก แล้วทำไมต้องทำอย่างงั้น ในเมื่อบ้านสามีก็โทรมาตามอยู่จะเลี้ยงให้ เราว่าที่คุณหอบลูกมาเพราะหวังว่าสามีจะห่วงลูกแล้วก็ยอมทำตามที่คุณเรียกร้องต่าง ๆ คุณใช้ลูกมาต่อรองกะทางบ้านสามีกะตัวสามีมากกว่า คิดใหม่ซะนะ ไม่มีอะไรสมหวังไปซะทุกอย่างหรอก อย่าลืมว่าอย่างน้อยแม่คุณไม่อยู่ พ่อคุณมีครอบครัวใหม่ แต่เด็กคนนี้ยังมีย่าที่โทรมาตามเขานะ ความแค้นเก็บไว้ในใจ ถ้าจะมีทิฐิแต่ลูกต้องลำบากก็ไม่ไหวนะ ไปฝากเค้าเลี้ยงช่วงกลางวันเหอะ แล้วไม่ต้องไปพูดเรื่องสามีอะไรอีกเลยนะ แม้แต่คำเดียว นอกจากว่าแม่สามีจะพูดขึ้นมาก่อน ก็พูดเพียงแต่ว่าคุณตัดใจได้แล้วตอนนี้ห่วงแต่ลูกอย่างเดียวเท่านั้น เราว่าถ้าเค้าไม่ห่วงเค้าไม่โทรมาหรอก ที่บอกว่าข้างบ้านคิดว่าไล่ไปน่ะ เค้าคงอ้างน่ะแหล่ะ เวลาไปจะเอาลูกไปฝากก็พูดขอบคุณเค้า อย่าคิดว่าเป็นหน้าที่แกที่ต้องเลี้ยงหลาน เพราะแกสอนลูกให้เป็นผู้ชายสารเลว พยายามอย่าคิดแบบนั้นตอนนั้น มองความจริงว่าอย่างน้อยฝากลูกไว้กับย่าละกัน เค้าคงไม่โทรมาตามเพราะอยากเอาลูกคุณไปทรมานหรอก เค้าโทรมาก็เพราะห่วงน่ะแหล่ะ การพรากลูกไปเลยมันทำไม่ได้เพราะตามกฏหมายคุณไม่ได้จดทะเบียนคุณก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเต็มที่ แล้วถ้าไม่มีเหตุอะไรเค้าก็ไม่คิดอยากจะพรากหรอก อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้น ยอมรับความจริงซะ แล้วมองไปข้างหน้า เพื่อนเราคนนึง ก็ชีวิตคล้ายลูกคุณนะ แต่ว่าแม่เพื่อนตัดสินใจที่จะฝากลูกให้บ้านสามีเลี้ยง/รวยมาก ๆ พวกผู้ดีเก่า เพื่อนเราก็โตมาก็โอเคนะจะกินอะไร จะเรียนอะไร เค้าก็ส่ง และเค้าก็รักเพราะเป็นหลาน คนแก่ยิ่งเลี้ยงไป ๆ จะยิ่งเกิดความผูกพัน ส่วนแม่เพื่อนเรานะ เฮ้อ.. เราว่าอย่างน้อยดีแล้วล่ะที่เค้าไม่พาลูกไปลำบากด้วย อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา เราว่าอาจจะมีคนอิจฉา ไม่อยากให้คุณกลับไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านสามี เราว่าแม่สามีเค้าเคยเลี้ยงมาพักหนึ่งและโทรมาตาม เค้าคงห่วงนะ ถ้าไม่อะไรเลย เค้าคงไม่โทรมาหรอก คุณลองคิดทบทวนนะ ความสุขของเด็ก ในการดูแลของย่า กับการดูแลของใครก็ไม่รู้ที่จ้างมาเลี้ยง จากคุณ : // - [ 11 ก.พ. 51 11:50:04 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 128 อย่าลืมว่าตอนนี้คุณตัวคนเดียว พ่อก็มีครอบครัวใหม่ แม่ก็ไม่อยู่เมืองไทย สงสารเด็ก ลองคิดให้ดีว่าที่ทำแบบนี้เพื่อจะเอาชนะที่บ้านสามีหรือเพื่อความสุขของลูกกันแน่ ไม่รู้นะ เราว่าอย่างน้อยสักช่วงเวลานึงให้คุณพอเก็บเงินได้ หางานทำได้ ก็ยังดี อย่างน้อยเค้าไม่ได้ขับไล่ไสส่ง คุณจะเอาชนะไปเพื่ออะไร คนมันไม่รักแล้วไม่สนใจแล้ว แต่แม่สามียังห่วงหลานน่ะ คิดแค่นั้นพอ จากคุณ : // - [ 11 ก.พ. 51 11:53:33 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เข้าใจ ออกมาอะดีแล้ว ทำให้ให้สบาย คุณเป็นคนเก่ง รีบหาเงินซะ (เขียนนิยายแบบแอร์กี่ดิ คงมันแน่ๆ) เป็นกำลังใจให้ สู้ ๆ จากคุณ : Sonwy - [ 11 ก.พ. 51 13:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 130 วีซ่าไม่ผ่านแน่นอนเพราะเอาลูก ไปด้วยมั๊งคุณ ผมว่าผมอ่านละเอียดแล้วนะ แม่ไปเรียนแล้วลูกไปฐานะอะไร คุณ hergest ต้องศึกษาระบบการขอวีซ่าว่า ขอไปโดด ๆ กับขอไปกับเด็กทารกมันต่างกันมาก ๆ ผมอยู่เมืองนอกมานาน ผมเข้าใจดี ผมว่าคงไม่มีใครจะแต่งเรื่องประจานความโง่ของตัวเองหรอกครับ ผมว่าเราควรให้กำลังใจ แทนที่จะจับผิดดีกว่านะครับคุณ จากคุณ : กะล่อนค คุณภาพ - [ 11 ก.พ. 51 19:30:44 A:124.120.78.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 อ่านแล้วสงสารเห็นใจค่ะ แต่เยอะไปหน่อยค่ะ แล้วก้อไม่มีเว้นวรรคเลย สู้ ๆ นะคะคุณแม่ ส่วนคุณ // ค.ห. 127-128 คงผิดประเด็นไปนะคะ ดิฉันเป็นแม่คนเหมือนกัน ดิฉันคิดว่าไม่มีแม่คนไหนเอาลูกไปต่อรองกับคนที่ให้ทำแท้งแน่นอน เป็นดิฉันคงทำใจไม่ได้ที่ให้พวกเห็นแก่ตัวพวกนี้เอาลูกไปเลี้ยง สยองดอทคอมค่ะ เป็นดิฉันจะตบซะให้เข็ด ล้อเล่นนะคะ ดิฉันเป็นอีกคนที่หอบลูกมาอยู่เมืองนอก แต่ดิฉันแต่งงานใหม่ค่ะ ลูกก้อโตแล้ว ไม่น่าห่วง คืออยากหนีไอ้สามีเก่ามาก เพราะตามรังควาน ไม่เว้นวัน ลูกดิฉันน่ารักค่ะ เคยถ่ายลงหนังสือด้วยค่ะ มันเลยมาแสดงตน ขอเป็นพ่อ ชาติชั่วมากมาก แต่แพ้คุณค่ะ เข้มแข็งคุณ อย่าเอาลูกให้พวกมันเด็ดขาด ลำบากก้อต้องสู้ ลำบากก่อน สบายทีหลังหน่ะ ดีนะคุณ ใจเด็ดหน่อย เจ็บมาก แต่จะดีเองเชื่อเถอะค่ะ จากคุณ : sofar angle - [ 11 ก.พ. 51 22:12:59 A:124.120.78.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 132 จาก จขกท. ค่ะ ขอบคุณทุกท่านจริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนให้กำลังใจ และตำหนิ เยอะแบบนี้เลยค่ะ ขอบคุณ เว๊ปไซด์ดีดีอย่างพันทิบ ด้วยค่ะ ขอโทษบางท่านที่ดิฉันทำให้สบสน งงงวย เพราะดิฉันพิมพ์ด้วยอารมณ์ และมิได้มีเวลากรั่นกรอง เรียบเรียง หรือ preview เลยค่ะ วันนี้ ดิฉันได้ทราบข่าว ว่า มันไปติดผู้หญิงที่เล้าค่ะ ดิฉันทราบเรื่องได้เพราะว่า มันไปกับเพื่อนมัน แล้วแฟนเพื่อนมันก้อจับได้ (แฟนเพื่อนมันเป็นเพื่อนกับดิฉันค่ะ) ที่เล้าแถวเรียบทางด่วน มีคนแนะนำให้ฟ้องค่ะ ดิฉันไม่รู้จะรอให้กรรมตามพวกมัน หรือว่าจะเล่นงานด้านกฎหมายดี ***คูณ เกด ใน ค.ห. 115 ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยได้มั๊ยคะ ว่าเรื่องราวของคุณ แก้ปัญหาอย่างไร ถ้าคุณกรุณาให้อีเมลล์ดิฉันถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัว ดิฉันเชื่อว่าเพื่อน ๆ ในโลกอินเตอร์เน็ต ในเว๊ปพันทิบที่เข้ามาในกระทู้นี้ จริงใจและมีตัวตน มิได้หลอกลวงแน่นอน เพราะคงไม่มีใครมานั่งเสียเวลา อ่านเรื่องราวผู้หญิง ซวย ๆ คนนึง ที่ชีวิตล้มไม่เป็นท่าแบบนี้ แถมตาลายกันเป็นแถวอีก ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงค่ะ ถ้าเอาเด็กทารกไปต่างประเทศด้วย จะขอวีซ่าลำบาก แต่ถ้าให้ดิฉันไปคนเดียว ดิฉันต้องตายทั้งเป็นแน่แน่ค่ะ ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ ตอนนี้ดิฉันมีอะไรให้ทำมากขึ้น ตอนนี้กำลังบ้าส่งรูปเจ้าตัวเล็กไปประกวด ตามเว๊ปไซด์ตามหนังสือ หรือ งานนิทรรศการต่าง ๆ ค่ะ เดี๋ยววันที่ 14 - 17 นี้ก้อจะพาไปที่ศูนย์สิริกิต จะพาไปแข่งคลานค่ะ ไม่รู้จะให้เพื่อน ๆ ช่วยโหวดรูปตัวเล็กให้ดีหรือปล่าว ไม่กล้าโพสลงค่ะ ตอนนี้ขอเวลาไปโหวดให้ลูกก่อนนะคะ ไม่อยากร้องไห้แล้วค่ะ ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจนะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครองลูกด้วย จากคุณ : new mom - [ 11 ก.พ. 51 22:58:38 A:124.120.78.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 133 โห..จะให้หลังไมค์ได้ไหมล่ะคะ ได้เป็นสมาชิกหรือเปล่า ถ้าไม่มีจริงๆเดี๋ยวเกดจะมาเล่าให้ฟังนะ เพราะโพสต์อีเมล์ไปนี่ ไม่ค่อยดีนา... จากคุณ : Anywhere But Here - [ 12 ก.พ. 51 02:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 134 never poste the picture of your chidren . too dangererous kha.try to stand in this world by yourself and you 'll pround it. be strong na kha. จากคุณ : parisa92 - [ 12 ก.พ. 51 07:22:45 A:86.69.197.20 X: TicketID:148808 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คุณ จขกท  ตามความเห็นที่ ๑๓๒ น่ะ ขอเตือนหน่อยได้ไหม อย่าไปสนใจกับเขาเลย  ว่าเขาจะทำอะไร ....     ทำใจให้เข้มแข็ง  เลี้ยงลูกไปดีกว่า ถ้าไม่ถูกใจ  ก็ขอโทษนะ ขอให้โชคดีนะ จากคุณ : ยิ้มกันดีกว่า - [ 12 ก.พ. 51 08:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เห็นด้วยกับคุณ ความเห็นที่ ๑๓๐ มากมาก ทำไม๊ ทำไม คนหลายๆ คน ถึงมานั่งคิดสงสัย ว่าคนอื่นเค้าจะมาตั้งเรื่องเลวร้ายแบบนี้ หนุกๆ งั้นหรือคะ เค้าจะทำไป เพื่อประโยชน์อะไรกันคะคุณ คนเป็นทุกข์บางทีเค้าก็อยากหาที่ระบาย ข้อความคุณ จขกท หลายข้อความที่เห็น ก็น่าจะสรุปได้แล้วว่าเป็นเรื่องจริง   การเล่าเรื่องบนเน็ท เนี่ยะ ไม่ได้ง่ายนักหรอกนะคะ เพราะเธอมาเขียนข้อความแค่ ย่อหน้าสั้นๆ แต่เล่าเรื่องทีเกิดขึ้นกับเธอเยอะแยะมากมาย เหตุการณ์ใช้เวลาเป็นปีๆ แน่ๆ เพราะฉะนั้น จะให้เธอมานั่งสาธยาย เล่าเรื่องอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม อย่างหลายๆ ท่านข้างบนตั้งแง่  ดิฉันว่าเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ  ตัวดิฉันเองก็เป็นบ่อย เวลาเขียนอะไรบนบอร์ด พอกลับมาอ่าน รู้สึกว่า เล่าวกไป วนมา บางที ตกๆ หล่นๆ เพราะฉะนั้นคุณๆ ที่น่าจะให้กำลังใจ คุณจขกท แต่ไม่เลย เข้ามาทำลายกำลังใจกันมากกว่า น่าจะมองอีกมุมนึงนะคะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 14:38:41 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 14:20:04 จากคุณ : vanillabean - [ 12 ก.พ. 51 14:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 137 คุณ จขกทคะ เห็นใจอย่างที่สุด ดิฉันเอง ก้อเคยมีปัญหาบางส่วนคล้ายๆ คุณ ท้อง ขณะที่พ่อเด็กยังเรียนอยู่ ดิฉันก็วุ่นๆ ทำงานอยู่ งานกำลังรุ่งมากๆ ต้องลาออก เพื่อแต่งงาน แล้วย้ายตัวเองไปอยู่ในต่างประเทศ แต่ดิฉันโชคดีกว่าคุณ ตรงที่สามี รักดิฉันและลูกมากๆ ดิฉันเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกของคุณมากๆ ขอให้เข้มแข็งนะคะ สิ่งไม่ดีๆ ที่เกิดกับคุณอยู่ตอนนี้ ในที่สุดแล้ว มันก็จะผ่านไป เหมือนเรื่องอื่นที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตคุณมาก่อน หางานใหม่ไม่น่าจะยากนะคะ แต่ติดเรื่องคนเลี้ยงลูก(ดิฉันก็เข้าใจคุณอีกแหละ) แต่ดิฉันกลับคิดว่า น่าจะหางานนะคะ คุณหางานดีๆ ได้ไม่ยากแน่นอน พอหางานได้แล้ว แล้วก่อนเริ่มทำงาน ก็ลองหาคนเลี้ยงดู ขอแนะนำให้ลองไปโรงพยาบาลที่คุณคลอดน่ะค่ะ หรือ โรงพยาบาลรัฐที่น่าเชื่อถือ ติดต่อแผนกเด็กอ่อนดู ลองคุยกับพยาบาลหัวหน้าตึก หรือหัวหน้าแผนก ขอจ้าง พยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล ที่รับงานพาร์ทไทม์ ดูสิคะ (ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นไปได้แค่ไหน ขอเสนอความคิดเห็นเท่านั้น) อยากเป็นที่ปรึกษาให้จริงๆ ถ้าต้องการความคิดเห็น คำแนะนำใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับวีซ่าเมกา หรือการดูแลลูก โดยที่เราต้องทำงานด้วย ติดต่อมาหลังไมค์นะคะ หรือที่ margie_black_blueeyes@yahoo.com แหะๆๆ ชื่อสตอ ไปนิ๊ด (ตั้งไว้ตั้งแต่สมัยสาวๆ น่ะค่ะ เลยสตอไปหน่อย) แต่จริงใจนะคะ แล้วอยากเป็นที่ปรึกษาเป็นเพื่อนคุยด้วย เราคุยกันเรื่องลูก คงจะน่าเข้าใจกันดี  โชคดีนะคะ แล้วติดต่อกลับมานะคะ ถ้าอยากคุยกะเรา แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 14:47:31 จากคุณ : มาร์กี้ (vanillabean) - [ 12 ก.พ. 51 14:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 138 อ้อ ก่อนนอนสวดมนต์แผ่เมตตาให้คนที่ทำร้ายเราน่ะ ประเสริฐที่สุดแล้วค่ะ เค้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา อย่าไปผูกพยาบาทนะคะ แล้วเรื่องลูกของเราไป เรากลับคิดว่า ถ้าเค้าต้องการช่วย ก็ควรช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการดูแลลูก มากกว่าการที่ต้องการพรากเด็กไปจากแม่นะคะ เพราะฉะนั้น ถ้าเค้าหวังดีจริง ๆ เค้าน่าจะคิดแบบนี้ ถ้าคิดจะให้เค้าช่วยก็ลองคุยกับเค้าแบบนี้ดูแต่อย่ายอมให้เด็กไปอยู่กับเค้านะคะ ถึงเราจะลำบากยังไง แม่ก็ยังเป็นคนที่รักลูกมากที่สุด และแน่นอนว่าต้องเลี้ยงลูกได้ดีกว่าคนอื่นแน่น่อน ความอบอุ่นมันต่างกันค่ะ จากคุณ : มาร์กี้ (vanillabean) - [ 12 ก.พ. 51 14:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เรามีของเล่นของเด็ก หรือ ของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก ถ้าคุณติดต่อมา (บอกบนหน้าบอร์ดก่อนนะคะ ว่าจะติดต่อมาหรือป่าว ดิฉันจะได้ทราบว่าคนที่ติดต่อกลับมาเป็นคุณจริงๆ) ดิฉันจะลองดูค่ะ ว่ามีอะไรที่พอจะส่งไปให้คุณได้บ้าง บางอย่างของยังดีๆ อยู่เลยค่ะ แต่ในรายละเอียดว่าเป็นอะไร ยังไงบ้าง เราไว้คุยกันส่วนตัวดีกว่านะคะ ของบางอย่างที่เรามีอาจเป็นประโยชน์กับคุณบ้างไม่มากก้อน้อย จริงๆนะคะ จากคุณ : มาร์กี้ (vanillabean) - [ 12 ก.พ. 51 14:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 140 bigfootbunny@gmail.com เมล์หาด้วยค่ะ มีของเล่นไปฝากตัวเล็กค่ะ คนเลวๆๆอย่างนั้นไม่ต้องไปสนค่ะ ถึงดิฉันจะไม่เคยปรสบกับเหตุการณ์ อย่างคุณแต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ยังไงอย่าลืมติดต่อกันนะค่ะ จะได้ส่งของเล่นไปให้ตัวเล็กเล่นค่ะ จากคุณ : mimimomon (mimimomon) - [ 13 ก.พ. 51 04:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ดูข่าวบุ๋ม ปนัดดารึเปล่า คนฉลาด ๆ น่ะ เค้ารู้จักใช้สมองมากกว่าเอาชนะเพื่อทิฐิ แหม..ถ้าคุณมีแม่คอยช่วยดูจะไม่ว่าเลย นี่เหมือนพาลูกมาลำบากหรือเปล่าเนี่ย สงสารเด็ก ตัวเองจะไปทำงานแล้วจะเอาลูกไปฝากใครเลี้ยงก็ไม่รู้ ถ้าจะจ้างคนเลี้ยงก็จ้างสิ ออกเงินเองนะอย่าให้ค้าดูถูกเราได้สิ แล้วให้ไปเลี้ยงที่บ้านสามีคุณ แม่สามีคุณจะได้ช่วยดูคนเลี้ยงเด็กอีกทีนึง ถ้าจะให้บ้านแม่สามีหรือสามีส่งเงินค่าเลี้ยงดู คุณจะได้เลี้ยงลูกอย่างเดียวก็ดีกว่า แต่เค้าจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ไหมล่ะ แล้วที่พาลูกออกมาเนี่ยก็เพราะทิฐิไม่ใช่เหรอ แล้วจะไปฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูกะเค้าเหรอ ทิฐิยังไงไม่เข้าใจเหมือนกัน ไปทำงานแล้วจ้างคนเลี้ยงลูก แต่ให้ไปเลี้ยงที่บ้านแม่สามีให้เค้าช่วยดูไป๊ แล้วตัวเองก้ไปทำงาน แต่งตัวสวย ๆ ไปรับลูกกลับบ้านทุกวัน เผื่อสามีจะเห็นแล้วอาลัยอาวรณ์กลับมาสนใจมั่ง ตอนนี้ก็ยังคิดเรื่องเค้าอยู่ตัดใจไม่ขาดไม่ใช่เหรอ จะบอกให้ถ้าจะให้แม่สามีดูคุณดีขึ้น ก็จ่ายค่าจ้างคนเลี้ยงลูกเองนะ เรื่องจะขอวีซ่าไปอยู่เมืองนอก โห...คุณนี่กะเอาลูกมาทรมานเพราะต้องการแก้แค้นสามีแน่ ๆเลย คุณไม่ใช่พีอาร์หรือพลเมือง เวลาไปฝากเลี้ยงตามชายแคร์ไม่ได้จ่ายเรทผู้อยุ่อาศัยถาวรหรือเรทของพลเมืองจ่ายนะ คุณทำงานทั้งวันมันอาจจะเท่ากับค่าลูกไปชายแคร์ ถ้าจะเอาลูกไปลำบากทรมานขนาดนั้น ให้เค้าอยู่ล้านย่าเค้าดีกว่า ถึงตอนท้องเค้าบอกให้คุณไปทำแท้ง แต่ที่คุณเล่า เค้าก็ช่วยเลี้ยงไม่ใช่เหรอ ที่บอกว่าให้กินนมชงจนท้องผูกน่ะ แล้วไม่ให้กินนมแม่ แสดงว่าเค้ามาเจ้ากี้เจ้าการเพราะเค้าสนใจเหมือนกันนะ แต่มันก็เป็นความเชื่อที่ไม่ดีที่ไม่ให้กินนมแม่ จริง ๆ ควรกินทั้งนมแม่และนมขวดเสริมด้วย บางทีนมแม่อย่างเดียวไม่พอนะ แต่ก็ไม่ควรไว้ใจให้แต่คนบ้านสามีเลี้ยง ถึงว่าคุณต้องจ้างคนเลี้ยงเอง แต่ให้ไปเลี้ยงอยู่บ้านแม่สามีน่ะแหล่ะ ให้แม่สามีคอยดูอีกที เค้าโทรมาตามอีกหรือเปล่าล่ะ แล้วจะไปอยู่เมืองนอกเพื่ออะไร ไม่เข้าใจ เพื่อให้เหนือกว่าสามีเหรอ คงเอาคำพูดที่แม่สามีพูดมาเก็บมาคิดเยอะล่ะสิ เหอะ ๆ พอจะเดาได้ จะมีชีวิตเพราะลมปากคนอื่นงั้นเหรอ ตอนนี้มันไปได้มั้ย ลูกเล็กขนาดนี้ แถมบ้านสามีมีก็ไม่ไปขนาดแม่สามีก็เคยช่วยเลี้ยงและโทรมาตาม แต่จะไปให้ใครไม่รู้เลี้ยงลูก แปลกเนาะ นี่ถ้าแม่คุณช่วยเลี้ยง หรือว่าแม่สามีคุณไม่โทรมาตามไม่เคยช่วยเลี้ยงไม่เคยแยแส ไล่ออกจากบ้าน จะไม่พูดอย่างงี้เลย นี่เค้าก็ไม่ได้ไล่ แถมมาเจ้ากี้เจ้าการให้ลูกกินนมขวด/แสดงว่าเค้าสนใจนะ หาเรื่องออกมาจากบ้านสามีหรือเปล่าเนี่ย คุณนี่โง่ เพื่อตัวเองจะเอาชนะเลยเอาลูกออกมา ทั้งตัวเองก็ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีพ่อแม่คอยช่วยอีก สงสารลูกคุณจริง ๆ เลย คนที่รักลูกจริงน่ะเค้าไม่ทำอย่างคุณหรอก เค้าจะจ้างคนเลี้ยง เค้าก็จะจ้างแต่ให้ไปเลี้ยงที่บ้านสามี ไม่อย่างงั้นก็ไม่ใครดูคนเลี้ยงสิ มันเลี้ยงยังไงก็ไม่ใครคอยดู ถามตัวเองดู ว่าที่ทำอย่างนี้เพื่อลูกหรือเพื่อตัวเองกันแน่ ชั้นอย่างงั้น ชั้นอย่างงี้ ชั้นอยากไปเมืองนอก ชั้นไม่อยากอยู่บ้านนั้น ชั้น ฯลฯ มีแต่ตัวเองทั้งนั้น เคยคิดมั้ยว่าแต่ละอย่างที่จะทำหรือที่ทำไปแล้วน่ะ มันดีกับลูกเหรอ โง่ จากคุณ : // - [ 13 ก.พ. 51 06:19:56 A:121.217.244.245 X: TicketID:136834 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เข้ามาดูคุณ //- หลอกด่าคนอื่นได้เนียน และแสบจริงๆ #141  เค้าเอาเด็กออกมา ไม่อยากฆ่าคน ก็ไปหาว่าเค้าโง่ ซะงั้น การฆ่าลูกในท้องตัวเอง  มันเป็นอะไรที่หลอนจิตใจตัวเองไปจนวันตาย  ยิ่งกว่าโดนผัวทิ้งซะอีก   ผัวทอ้งยังมีวันลืมได้  แต่ฆ่าลูกในท้องตัวเองจำไปจนตาย  เรื่องแบบนี้ แม่ยายเคยเล่าให้ฟัง  มันหลอนจริงๆ กลับมาที่เรื่องของ จขกท. #132  คุณเริ่มที่จะมีความสุข และมีเวลาให้กับลูกมากขึ้น  แหม..น่าอิจฉาจัง  พาลูกไปประกวด  ไปแข่งขันคลานกะเค้าด้วย  ดีครับ  หาอะไรทำเยอะๆ จะได้ลืมอดีต  ลืมเรื่องราวร้ายๆ ลงไปได้บ้าง   เรื่องเลี้ยงลูก  ผมคงไม่ขอแนะนำอะไรมาก  เพราะแต่ละคนก็มีวิธีการที่ต่างกันออกไป ผมอยากหนุนใจ จขกท. ครับ  มีผู้หญิงอีกมากมาย ที่ต้องโดนกระทำเช่นคุณ  แต่เค้าสามารถอยู่ได้   มีแม่ค้าขายลูกชิ้นที่ผมเคยอุดหนุนอยู่เป็นประจำ  แกเล่าให้ฟังว่า  ผัวเอาแต่กินเหล้า ไม่ช่วยทำมาหากิน  ลูก 3 คน คนนึงแขวนเปลอยู่ในรถ (มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง) อีกคนนึง นอนอยู่ใต้ท้องรถ  อีกคนนึง วิ่งเล่นอยู่แถวๆ นั้น  เลี้ยงลูกไป ขายลูกชิ้นไป  เงินได้มา ผัวทุบตีเอาไปกินเหล้าหมด  ที่อดทนอยู่ได้ก็เพราะลูก ลูกคือสายเลือด  คือชีวิตของเรา อีกชีวิตหนึ่ง ที่แยกออกมาจากตัวเรา คุณคิดถูกแล้ว  ที่ไม่ทำแท้ง   เห็นมั้ยล่ะ  ตอนนี้คุณกำลังมีความสุขกับลูก เรื่องไปเมืองนอก  จะลำบากตรงที่ คุณไม่มีทะเบียนสมรส  เจ้าหน้าที่จะหาว่าคุณอาจเป็นแก้งลักพาเด็กได้ครับ  ลองติดต่อทนายดูครับ ผมเห็นด้วยครับ เอาเด็กไปอยู่เมืองนอก เข้าโรงเรียนตั้งแต่เนิ่นๆ จะไม่ลำบาก แถมเรียนฟรีอีกต่างหาก  อนาคตของเด็กครับ  ไม่ใช่เรียกร้องความสนใจ หรือหนีผัวอย่างที่#141 เค้าเหน็บมา    คุณเคยอยู่เมืองนอกมาแล้ว เชื่อว่า น่าจะมีคนรู้จักที่ไว้ใจได้ และคุณ อาจจะสามารถหางานทำที่นั่นได้สบายๆ บุญรักษาครับ จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 13 ก.พ. 51 10:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ไปเจอบล็อกๆ นึง  ลงรูปเด็กแข่งคลาน เลยขอเอามาลงให้ชม คลายเครียด นะครับ จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 13 ก.พ. 51 10:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ไม่รู้ว่าเป็นการทรามานเด็กอ๊ะป่าว  5555+ ผู้ใหญ่ ดูน่าสนุก  แต่เด็ก งง อ่ะ เค้าเล่นไรกันเหรอ จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 13 ก.พ. 51 10:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ผมได้ไอเดียแล้ว  ปกติเด็กๆ จะติดของใช้ส่วนตัว  เช่น. ผ้าอ้อม หมอน หรือของเล่น  ลองเอาสิ่งนั้น ไปล่อให้เค้าคลานมาหาครับ  อาจได้ผลดีกว่าการเรียกแบบธรรมดาๆ เอาผ้าอ้อม แกว่งๆ  แล้วเรียก  มาม่ะ  จุ๊ๆๆๆ (เหมือนเรียกไอ้ตูบที่บ้านเลยแฮะ 555+) ปายยยล่ะ  ลูกร้องกินแตงโม  ต้องไปแคะเม็ดออกให้อีก  จะอ่านกระทู้ซักหน่อย  (เซ็งอีกแล้วสิเรา   อ๊ะ เพื่อลูกๆๆ) จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 13 ก.พ. 51 10:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 146 เอรู้สึกว่า ไอ้ ค.ห. ที่ 141 คงเป็นพันธ์เดียวกะสามี จขกท. เลวโดยสันดานหรือไม่เป็นพวกผู้ชายเห็นแก่ได้ อีกจำพวกนึงแน่แน่ ถ้าไม่มีอะไรทำ ผมคิดว่าคุณกลับไปกินนมแม่ แล้วนอนพักซะนะครับ อย่าเข้ามาด่าคนโน่นคนนี้ เว๊ปนี้ เค้าไว้ให้กำลังใจกันครับ ไม่ใช่สาระแน แถมกระทืบคนอื่นซ้ำ ตามความเห็นอีกหลาย ๆ ท่านและจากที่ผมอ่านกระทู้ซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ รู้ได้ว่า สัตว์นรก ที่แฝงตัวในคราบมนุษย์เนี่ยมันเป็นยังไง เฮ่อ น่าเห็นใจครับ เอ สู้ ๆ นะครับกับโลกใบนี้ แล้วก้อกับไอ้พวกเดนสังคมที่ชอบทับถมคนอื่น จากคุณ : กะล่อน คุณธรรม - [ 13 ก.พ. 51 12:16:55 A:124.120.79.203 X: ]

ความคิดเห็นที่ 147 ไม่ได้เข้ามาจับผิดนะคะ แต่ทำไม คห 105 และ 106 ตัวเลขมันเหมือนกันเลยค่ะ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ขอให้กำลังเจ้าของกระทู้ค่ะ ความคิดเห็นที่ 105 จาก จขกท. ค่ะ วันนี้เป็นอีกวันที่ว่างจากการเลี้ยงลูก เลยเข้ามาอ่านค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ LYBT คุณpeer และทุก ๆ ท่านเลยค่ะ ตอนนี้ดิฉันทำอะไรไม่ได้ค่ะนอกจากลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวที่บ้านหลังเล็ก ๆ แห่งนึง ของครอบครัวดิฉันซึ่งเมื่อก่อนสร้างไว้ให้เช่าค่ะ ตอนนี้คนเช่าออกไป เลยมาอยู่แทน ดิฉันไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ ไม่รู้จะฟ้องหย่าได้อย่างไร แต่จะหาทนายซักคนค่ะ เพื่อน ๆ ของดิฉันแนะนำว่าไม่ต้องรอให้กรรมตามพวกมันหรอกค่ะ บาปกรรมสมัยนี้ สำหรับคนพวกนี้ตามมันช้าค่ะ มีคนบอกให้ปรึกษาทนาย ท่านที่อ่านแล้ว งง สับสน ดิฉันขออภัยมากมากนะคะ ทักษะการเขียนบวกกับตอนที่เล่านั้น ใส่อารมณ์มากมาย เลยทำให้เนื้อหาดูวุ่นวายไปหมด แต่นั่นแหล่ะค่ะ คือเรื่องจริง ที่มิได้ปรุงแต่งถ้อยคำใดใดเลย .......ล่าสุดก่อนที่ดิฉันจะออกมา ดิฉันโดนมันตีอีก แล้วแม่มัน ก้อเข้าข้างลูกเค้า ดิฉันสงสารแม่มันค่ะ แม่ผ.ดิฉันสอนลูกเสมอค่ะ ว่าฟันใครแล้วก้อไม่ต้องไปรับผิดชอบมัน เพราะของงี้เป็นเรื่องสมยอม ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ผู้หญิงเค้ายอมเอง ไม่งั้นต้องไปรับผิดชอบมันทั้งบางเลยรือ !!! ด้วยความสัตย์จริง ดิฉันได้ยินกับหู มิได้แต่งเติมถ้อยคำใดใดทั้งสิ้น .......ล่าสุดได้ข่าวมา มันติดเด็กนั่งเล้า ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรค่ะ โคโยตี้หรืออะไรไม่รู้ แล้วอีแม่ผ. มันจะมาเอาลูกดิฉันไป มันบอกว่าคนแถวนี้เค้าถาม มันกลัวว่า เค้าคงด่ามันว่าไล่ดิฉันกับลูกไป มันเลยจะเอาลูกดิฉันไปเลี้ยงเอง มันจะจ้างพม่ามาเลี้ยง มันเพิ่งโทรมา แต่ดิฉันคงไม่ให้เปรตเดินดินตนนี้ ที่เคยรังแกทั้งแม่ และลูกดิฉันตั้งแต่อยู่ในท้อง บวกกับ ยุให้แท้งอีก !! ดิฉันทำใจให้มันไม่ได้จริง ๆ ถึงมันจะรวย ล้น ฟ้า แค่ไหนก้อตาม ดิฉันทำถูกแล้วใช่มั๊ยคะ......... แม่ทำถูกแล้วใช้มั๊ยลูกจ๋า ดิฉันร้องไห้ถามลูกทุกวัน แม่ขอโทษนะลูก ที่ทำให้ลูกต้องลำบาก น้ำอุ่นไม่มีอาบ ทนนะลูกจ๋า ไม่มีแอร์เย็น ๆ แม่ขอเป็นลมพัดให้ลูกนอนทุกคืนนะลูก แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ ลูกจะเกลียดแม่มั๊ย แม่ไม่มีอะไรให้ลูกเลยซักอย่าง ของเล่นก้อไม่มีเลย เตียง เปล ที่นอน แม่ไม่เอาอะไรมาเลยลูกจ๋า แม่จะทำอย่างไรดีให้ลูกสบาย แม่จะทำอย่างไร ............. แม่มีแต่น้ำนมจาก อก นะลูก แม่จะจ้างคนเลี้ยง แม่จะหางานทำ แม่จะต้องสู้เพื่อลูก นี่คื่อเสียงของแม่คนนึง กับน้ำตาทุกหยดที่เสียไป เพราะหลงเชื่อผู้ชาย ขอให้พวกมันจงรับกรรม ขอให้พวกมันโดนดีซักวัน ลาก่อน จากคุณ : new mom - [ 9 ก.พ. 51 18:47:40 A:124.120.70.114 X: ] ความคิดเห็นที่ 106 อยากรู้มากว่ามันเป็นใคร เรื่องราวคล้าย ๆ กับเพื่อนเราคนนึงเลย บอกชื่อนามสกุลมัน จะเป็นไรมั๊ย มันจะมาทำอะไรคุณหรือป่าว ยังไงก้อขอให้กำลังใจนะครับ จากคุณ : bento - [ 9 ก.พ. 51 21:39:59 A:124.120.70.114 X: ] จากคุณ : คนไทยใจดี - [ 13 ก.พ. 51 13:27:33 A:59.134.116.138 X: TicketID:090573 ]

ความคิดเห็นที่ 148 อันนี้ตัวเลขก็เหมือนกัน ต้องขอโทษมากๆนะคะถ้าดิฉันเข้าใจผิด เพียงแค่อยากรู้ว่าตัวเลขมันซ้ำกันได้หรือเปล่าคะ ความคิดเห็นที่ 130 วีซ่าไม่ผ่านแน่นอนเพราะเอาลูก ไปด้วยมั๊งคุณ ผมว่าผมอ่านละเอียดแล้วนะ แม่ไปเรียนแล้วลูกไปฐานะอะไร คุณ hergest ต้องศึกษาระบบการขอวีซ่าว่า ขอไปโดด ๆ กับขอไปกับเด็กทารกมันต่างกันมาก ๆ ผมอยู่เมืองนอกมานาน ผมเข้าใจดี ผมว่าคงไม่มีใครจะแต่งเรื่องประจานความโง่ของตัวเองหรอกครับ ผมว่าเราควรให้กำลังใจ แทนที่จะจับผิดดีกว่านะครับคุณ จากคุณ : กะล่อนค คุณภาพ - [ 11 ก.พ. 51 19:30:44 A:124.120.78.167 X: ] ความคิดเห็นที่ 131 อ่านแล้วสงสารเห็นใจค่ะ แต่เยอะไปหน่อยค่ะ แล้วก้อไม่มีเว้นวรรคเลย สู้ ๆ นะคะคุณแม่ ส่วนคุณ // ค.ห. 127-128 คงผิดประเด็นไปนะคะ ดิฉันเป็นแม่คนเหมือนกัน ดิฉันคิดว่าไม่มีแม่คนไหนเอาลูกไปต่อรองกับคนที่ให้ทำแท้งแน่นอน เป็นดิฉันคงทำใจไม่ได้ที่ให้พวกเห็นแก่ตัวพวกนี้เอาลูกไปเลี้ยง สยองดอทคอมค่ะ เป็นดิฉันจะตบซะให้เข็ด ล้อเล่นนะคะ ดิฉันเป็นอีกคนที่หอบลูกมาอยู่เมืองนอก แต่ดิฉันแต่งงานใหม่ค่ะ ลูกก้อโตแล้ว ไม่น่าห่วง คืออยากหนีไอ้สามีเก่ามาก เพราะตามรังควาน ไม่เว้นวัน ลูกดิฉันน่ารักค่ะ เคยถ่ายลงหนังสือด้วยค่ะ มันเลยมาแสดงตน ขอเป็นพ่อ ชาติชั่วมากมาก แต่แพ้คุณค่ะ เข้มแข็งคุณ อย่าเอาลูกให้พวกมันเด็ดขาด ลำบากก้อต้องสู้ ลำบากก่อน สบายทีหลังหน่ะ ดีนะคุณ ใจเด็ดหน่อย เจ็บมาก แต่จะดีเองเชื่อเถอะค่ะ จากคุณ : sofar angle - [ 11 ก.พ. 51 22:12:59 A:124.120.78.167 X: ] ความคิดเห็นที่ 132 จาก จขกท. ค่ะ ขอบคุณทุกท่านจริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนให้กำลังใจ และตำหนิ เยอะแบบนี้เลยค่ะ ขอบคุณ เว๊ปไซด์ดีดีอย่างพันทิบ ด้วยค่ะ ขอโทษบางท่านที่ดิฉันทำให้สบสน งงงวย เพราะดิฉันพิมพ์ด้วยอารมณ์ และมิได้มีเวลากรั่นกรอง เรียบเรียง หรือ preview เลยค่ะ วันนี้ ดิฉันได้ทราบข่าว ว่า มันไปติดผู้หญิงที่เล้าค่ะ ดิฉันทราบเรื่องได้เพราะว่า มันไปกับเพื่อนมัน แล้วแฟนเพื่อนมันก้อจับได้ (แฟนเพื่อนมันเป็นเพื่อนกับดิฉันค่ะ) ที่เล้าแถวเรียบทางด่วน มีคนแนะนำให้ฟ้องค่ะ ดิฉันไม่รู้จะรอให้กรรมตามพวกมัน หรือว่าจะเล่นงานด้านกฎหมายดี ***คูณ เกด ใน ค.ห. 115 ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยได้มั๊ยคะ ว่าเรื่องราวของคุณ แก้ปัญหาอย่างไร ถ้าคุณกรุณาให้อีเมลล์ดิฉันถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัว ดิฉันเชื่อว่าเพื่อน ๆ ในโลกอินเตอร์เน็ต ในเว๊ปพันทิบที่เข้ามาในกระทู้นี้ จริงใจและมีตัวตน มิได้หลอกลวงแน่นอน เพราะคงไม่มีใครมานั่งเสียเวลา อ่านเรื่องราวผู้หญิง ซวย ๆ คนนึง ที่ชีวิตล้มไม่เป็นท่าแบบนี้ แถมตาลายกันเป็นแถวอีก ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงค่ะ ถ้าเอาเด็กทารกไปต่างประเทศด้วย จะขอวีซ่าลำบาก แต่ถ้าให้ดิฉันไปคนเดียว ดิฉันต้องตายทั้งเป็นแน่แน่ค่ะ ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ ตอนนี้ดิฉันมีอะไรให้ทำมากขึ้น ตอนนี้กำลังบ้าส่งรูปเจ้าตัวเล็กไปประกวด ตามเว๊ปไซด์ตามหนังสือ หรือ งานนิทรรศการต่าง ๆ ค่ะ เดี๋ยววันที่ 14 - 17 นี้ก้อจะพาไปที่ศูนย์สิริกิต จะพาไปแข่งคลานค่ะ ไม่รู้จะให้เพื่อน ๆ ช่วยโหวดรูปตัวเล็กให้ดีหรือปล่าว ไม่กล้าโพสลงค่ะ ตอนนี้ขอเวลาไปโหวดให้ลูกก่อนนะคะ ไม่อยากร้องไห้แล้วค่ะ ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจนะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครองลูกด้วย จากคุณ : new mom - [ 11 ก.พ. 51 22:58:38 A:124.120.78.167 X: ] จากคุณ : คนไทยใจดี - [ 13 ก.พ. 51 13:35:21 A:59.134.116.138 X: TicketID:090573 ]

ความคิดเห็นที่ 149 หางานค่ะ สู้ สู้ จากคุณ : มิว - [ 13 ก.พ. 51 18:20:59 A:202.183.217.56 X: TicketID:058626 ]

ความคิดเห็นที่ 150 #148  คุณคนไทยใจดี ตัวเลขซ้ำกันได้ถ้าใช้ที่ Internet Cafe หรือ Broad Band จากคุณ : ยิ้มกันดีกว่า - [ 13 ก.พ. 51 21:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 151 อ่านแล้วก็เข้าใจค่ะว่าตอนเขียนน่ะ จขกท คงกำลังสับสนเลยจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก ให้กำลังใจ จขกท นะคะ ในฐานะดิฉันก็เป็นแม่หม้ายลุกสองเหมือนกันค่ะ(ลูกสาวทั้งคู่)เลี้ยงเองตั้งแต่เค้าเกิดสู้ทนลำบากมากับเค้าเลิกกับสามีมาหลายปีตอนนี้ลุกๆ13-14แล้วค่ะดิฉันอยู่ไทยค่ะไม่เคยไปเมืองนอกแต่อ่านแล้วก็คิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่เกี่ยวว่าจะเกิดที่นอกหรือในถ้าผู้ชายมันเลวมันก็เลวได้ทั้งนั้น สู้ๆนะคะเพื่อลูกที่เป็นลมหายใจของคนเป็นแม่ค่ะ..ปล เท่าที่อ่านดู จขกท มีความรู้และความสามารถพอสมควรไม่น่าจะหางานทำยากนะถ้าไม่เลือกงาน เพื่อลูกอย่าเลือกงานนะคะทำอะไรได้ทำไปก่อน เพื่อที่จะได้มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายไม่รบกวนญาติตัวเองมากเกินไป..ให้กำลังใจค่ะสู้เท่านั้นเราถึงจะชนะมันเพื่อลุกค่ะ...ดอกใม้สวยๆค่ะในวันแห่งความรักรักลุกให้มากๆนะคะสู้ๆค่ะ... จากคุณ : ดัชนีความสุขติดลบ - [ วันวาเลนไทน์ 11:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 152 คุณเป็นคนเก่งจบนอก หน้าที่การงานดี เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เพราะยังไม่แต่งงาน งั้นขอแนะนำในความเห็นของเราแล้วกันนะว่า เลี้ยงลูกคนเดียวดีที่สุดแล้ว ถ้าคุณรักลูกของคุณอยู่ ถ้านังแม่ ผ มันเลวขนาดนั้น อย่าบอกว่าลุกต้องการพ่อ ให้คิดกลับกันว่าถ้าพ่อมันเลวขนาดนี้ ลูกจะต้องการหรือเปล่า หรือเป็นตัวเราเองกันแน่ที่ต้องการพ่อของลูก เราเห็นบ้านที่มีทั้งพ่อแม่พร้อมสรรพ เด็กก็ยังใจแตก  ความรู้และหน้าที่การงานของคุณเลี้ยงลูกได้สบายอยู่แล้ว จะดีกว่าที่มีพ่อมันอยู่ด้วยซ้ำ ลูกยังเด็กอยู่ตอนนี้เค้าไม่รู้จักหน้าพ่อหรอก ถ้า ผ มันเลวมากก็คิดซะว่า อย่ามีมันเลยดีกว่า แล้วลูกก็จะมีแต่คุณที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน จากคุณ : ดึ่งดึ้ง (ดึ่งดึ้ง) - [ วันวาเลนไทน์ 13:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 153 หลายๆคน อ่านไม่ดี ก็มาตอบ ยอมรับว่า จขกท เขียนแบบ งงๆ แต่ก็เข้าใจ คนเก็บกดมานาน เรื่องราวเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง พอจะตั้งกระทู้เล่าเรื่องราว มันก็เรียบเรียงไม่ถูก อ่านมาตั้งนาน บางคนยังจะบอกอีกว่า ให้ไปอยู่กับพ่อแม่ ถ้างั้น ก็ลองย้อนกลับไปดูที่ คห87 นะครับ ส่วนคุณ // อย่างที่ข้างบนเค้าบอกไว้ ก็คงเป็นกำพืดเดียวกันกับไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น เลยเข้าใจกันดี ก็มีไอ้ 2 ขีดนี่แหละ ที่ด่า จขกท ทิฐิ ที่ออกมา ไหนจะโดนซ้อม โดนกดขี่ ข่มเหง บังคับทำแท้ง แล้วใครจะไปทน (วะ) ทุเรศกับความคิดผู้ชายเฮงซวย เห็นแก่ตัว จะ comment ทั้งที login เข้ามาเลย เอ หรือว่า มันเป็นคนเดียวกันกับไอ้ผุ้ชายสารเลวคนนั้นหว่า จากคุณ : LAPD21 - [ วันวาเลนไทน์ 13:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 154 จาก จขกท. ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกตกใจค่ะ ว่าคุณเพื่อนพระเอก คห.ที่ใช้ชื่อ // เนี่ย คุณรู้เรื่องดิฉันดีเกินไป ดีมากมาก รู้ถึงเรื่องราวที่ดิฉันไม่ได้เขียนลงไป เช่น การเรียกร้องค่าเลี้ยงดู ดิฉันมิได้เขียนลงไปเลย และมิได้มีเจตนาอย่างนั้นด้วยค่ะ เอ ทำไมถึงเหมือนกับตอนที่ไอ้ ผ. สารเลวของดิฉันกล่าวหาเลย รู้สึกว่าคุณจะรู้เรื่องราวดิฉัน และสรุปเรื่องได้ดีกว่าดิฉันเองเสียอีก ขอขอบคุณมากนะคะ ที่ให้คำแนะนำ ดิฉันซาบซึ้งที่คุณสละเวลา ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร......... หรือว่าเป็นพระเอกของเรื่อง นามว่า :-)นรก เลือดชั่วก้อนนึงที่แต้มในตัวเด็กน้อย ขอให้เลือดสีนี้จางหายไปในไม่ช้า บาป กรรม ตามทันแน่นอน ที่ผ่านมา อโหสิๆๆๆๆๆๆๆ สาธุ จากคุณ : new mom - [ วันวาเลนไทน์ 21:50:35 A:124.120.82.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 155 คุณ // คุณนั่นล่ะที่ โง่ น้ำนมแม่อย่างเดียวเลี้ยงลูกได้อย่างพอเพียง จนลูกถึง 4 เดือนจึงจะเริ่มลองป้อนอาหารเสริมจำพวกข้าวบดละเอียด เพื่อให้เค้าคุ้นเคยกับการทานอาหารบ้าง แต่จริงๆเลี้ยงนมแม่อย่างเดียวจนถึง 6 เดือนยังได้ แล้วค่อยเริ่มป้อนอาหารบดเพิ่มเมื่อ 6 เดือน ดิฉันเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวจนถึง 6 เดือน ไม่ต้องซื้อขวดนมเลยด้วยซ้ำ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ขวดเลยค่ะ น้ำเปล่าก็ไม่ต้องให้ลูกนะคะ ในน้ำนมแม่มีส่วนผสมของน้ำที่พอกับความต้องการของลูกแล้วค่ะ ให้น้ำเปล่าจะเป็นการทำให้เด็กอิ่มโดยไม่ได้สารอาหารอะไรเลย มันเป็นธรรมชาติของร่างกาย แม่จะผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูก นมแม่จะยิ่งมีมากขึ้นเมื่อลูกต้องการมากขึ้น ให้ลูกดูดบ่อยตามที่เค้าต้องการ น้ำนมยิ่งมามากขึ้น ไม่มีคำว่าไม่พอค่ะ นมขวดยังไงก็สู้นมแม่ไม่ได้ นมแม่เป็นอาหารอันดับหนึ่งของลูก ลูกจะได้ภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆจากนมแม่ สุขภาพเด็กจะแข็งแรงกว่ามาก การป้อนนมขวด ทำให้เด็กอิ่มแล้วไม่ดูดนมแม่ เมื่อเด็กไม่ดูดนม แม่ก็ผลิตน้ำนมน้อยลง สุดท้ายก็เลยไม่พอจริงๆ แล้วก็ต้องไปพึ่งขวดแทน เด็กที่กินนมขวดมักมีปัญหาน้ำหนักตัวมาก แต่สุขภาพไม่แข็งแรง ท้องผูก ฟันผุง่าย ดิฉันดีใจที่ลูกคุณ new mom ได้ดื่มนมแม่ค่ะ เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับลูกค่ะ ได้ทั้งความอบอุ่นจากอ้อมกอดแม่และน้ำนมอุ่นๆ สดใหม่เสมอ เหมาะกับความต้องการของลูกทุกประการ อย่ากลับไปให้ย่าเขาเลี้ยงเลย การเลี้ยงแบบที่ย่าเคยทำเป็นการเลี้ยงที่ผิดค่ะ ไม่รู้จะมีอะไรผิดๆอีกหรือเปล่า เดี๋ยวลูกคุณจะแย่ แล้วอีกอย่างคนที่ใจร้ายให้ฆ่าเด็กมาแล้วถึง 2 คนนี่ไม่เหมาะเป็นย่าคนเลยค่ะ สมควรอยู่แบบเดียวดายไร้ลูกหลานสืบสกุลเป็นที่สุด ดิฉันเป็นกำลังใจให้คุณสู้ต่อไปนะคะ จากคุณ : Arlington Girl - [ 15 ก.พ. 51 03:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 156 คุณ //  เป็นไรมากมะคะ รู้สึกว่างงาน + เก็บกดมากแน่ๆ พิมพ์ยาว + หลายกระทู้มั่กๆๆ และจ้ำจี้จ้ำไช + ย้ำคิด ย้ำพิมพ์ละเกินนน อ่านแล้ว มีความรู้สึกเหมือนมียายแก่ มาตะโกนบ่นปาวๆ อยู่ข้างหูอ่ะค่ะ แถม จขกท. ไม่ได้เอ่ยถึง เลยปล่อยหมัดเด็ด....ความเห็นล่าสุด ด่าซะเรยยย...เหอๆๆๆ จากคุณ : อ่านที่บ่นจนปวดตาเรย (a_woman) - [ 15 ก.พ. 51 22:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 157 เรื่องจริงยิ่งกว่าอิงนิยายจริงๆ เพิ่งตามอ่านเรื่องจริงผ่านคอมของคุณแอร์กี่ ย้อนหลังไปไม่นานเพราะกระแสละคร สงครามนางฟ้า สู้สึกว่าเรื่องราวมีส่วนคล้ายกันมากเลยและโดยเฉพาะจุดเริ่มที่ความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของมนุษย์เพศชายที่ไม่มีวันหมดสิ้นตราบใดที่ผู้หญิงยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบทางเพศ อยากให้คุณตัดใจและเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด คนแบบนั้นไม่สมควรให้เด็กคนไหนยกย่องเป็นพ่อ หรือผู้หญิงใจอำมหิตอย่างแม่ผัวคุณก็ไม่สมควรแก่คำว่าย่าเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าใช้กรรมให้เขาแต่ปางก่อนแล้วกัน ทำชีวิตที่เหลือของคุณและลูกให้พบกับวันที่มีฟ้าหลังฝนให้ได้ ขอเป็นอีกกำลังใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 51 10:03:14 จากคุณ : numkung - [ 16 ก.พ. 51 10:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เป็นครอบครัวที่ชั่วมาก เห็นแก่ตัวสุดๆ ค่ะ สู้ต่อไปนะคะ คุณ จขกท. จากคุณ : teneh - [ 16 ก.พ. 51 23:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ทำบุญทำทานทำใจและให้อภัยทานเสียเถิดนะคะ จงเลี้ยงเจ้าตัวน้อยให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จงทำทุกวิถีทางให้เค้าเข้าใจเมื่อโตขึ้นมา เพราะเราไม่รู้ว่าครอบครัวสัตว์นรกจะใส่ไคล้อะไรอีก หลักฐานอะไรมีก็เก็บๆไว้แบล็คเมล์ในวันที่พวกมันคิดจะแย่งลูกเราไป หรือคิดจะฟ้องลูกเราว่าพวกมันทั้งรักและห่วงใยแต่เราเลวพรากไปจากอกมัน เราต้องเก็บหลักฐานไว้พิสูจน์ว่าจริงๆไม่ได้เป็นอย่างนั้น คนชั่วมากๆนี่เมื่อไหร่ก็ชั่วนะคะ วางใจไม่ได้ ก็ให้ระวังไว้นะคะ เดี๋ยวจะเหมือนนิยายน้ำเน่าที่ลูกคิดว่าแม่ใจแตกหอบลูกหนี พวกคนชั่วมีอิทธิพลทำอะไรได้สารพัดค่ะ เราต้องไม่ให้มันมีโอกาสทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย แม้จะมาใส่ไคล้เราก็อย่าเปิดโอกาส ต้องรัดกุมค่ะ (มองการณ์ไกลไปมั้ยเนี่ย) ทำบุญแผ่เมตตาให้ครอบครัวตัวชั่วเยอะๆนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอะเจออีกทั้งชาตินี้ชาติหน้า อโหสิกรรมไปเลย ชีวิตคุณและลูกจะได้สงบสุข ขอให้หาทางออกให้กับชีวิตได้ค่ะ จากคุณ : Fortunecookie - [ 25 ก.พ. 51 15:43:45 ]