ความคิดเห็นที่ 1 ผมเข้าใจว่าถ้าคุณรับทุนเขา เขาก็จะเป็นคนจ่ายเรื่องให้คุณทำดุษฎีนิพนธ์    ซึ่งอาจารย์เขารับงานมาจากภาคเอกชนอีกที ดังนั้นคุณก็คงต้องทำงานวิจัยที่ที่เกี่ยวกับงาน คงไม่ได้กลับไปนั่งเทียนที่เมืองไทยหรอกครับ จะเรียน Ph.D. or D.B.A. ล่ะครับ เผื่อจะชี้ทางให้ได้บ้าง จากคุณ : ไทยสยาม - [ 7 ก.พ. 51 16:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คือ ยังไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้มากนักนะคะ ช่วยแนะนำได้มั้ยคะ ว่าควรจะเรียนเป็น Ph.D. or D.B.A. ป.ตรี จบสายคอมพิวเตอร์ ป.โท จบ mba ค่ะ ป.เอก อยากเรียนด้านบริหารธุรกิจต่อ แต่ยังไม่ได้เลือกสาขาค่ะ ถ้ากว้างไปขอโทษด้วยนะคะ หรือควรจะหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหนคะ จากคุณ : จขกท (allegretto) - [ 7 ก.พ. 51 19:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จบแล้สวอยากจะทำงานอะไรครับ? จากคุณ : ไทยสยาม - [ 7 ก.พ. 51 19:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ามีโอกาส ก็อยากเป็นอาจารย์ หรือที่ปรึกษาค่ะ กำลังคิดว่าอาจจะเจาะเป็น ธุรกิจบริการ แต่ปัญหาก็คือว่า ไม่มีทุนไปเรียนเองด้วยน่ะค่ะ ก็เลยต้องหาข้อมูลความเป็นไปได้ก่อน เพราะค่าใช้จ่ายเรียนปริญญาเอกค่อนข้างแพง และใช้เวลาเรียนนานมาก ปล. ขอบคุณคุณไทยสยามมากเลยนะคะ จากคุณ : จขกท (allegretto) - [ 7 ก.พ. 51 21:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าคุณอยากจะสอนหนังสือ คุณควรทำวิจัย ดังนั้นคุณควรทำ Ph.D ถ้าจะแล่นโลดในวงการธุรกิจ น่าจะทำ D.B.A. เพราะคุณจะได้practical มากกว่า แต่ถ้าคุณจะหาทุน ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น Ph.D ซะส่วนใหญ่ นอกจากจะเจอบางที่มีทุนให้เปล่าโดยยอมให้ทันเรียน D.B.A. ผมว่าลองหลายๆที่ ใน Australia ก็มีทุนให้เยอะครับ เราจะเอาทุน เราต้องทำตัวให้เขาเลือกเรา ดังนั้นต้องแสดงตัวให้เขารู้จักเรา และให้เขาอยากได้เรา จากคุณ : ไทยสยาม - [ 7 ก.พ. 51 21:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคุณไทยสยามมาก ๆๆ นะคะ ทำให้เห็นภาพขึ้นเลยค่ะ จากคุณ : จขกท (allegretto) - [ 7 ก.พ. 51 22:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตเข้ามาอ่านเพื่อเป็นความรู้ ... ขอบคุณครับ เรียนถามคุณไทยสยาม (และพี่ๆ ท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ) 1. จบแค่ ป.ตรี จะข้ามไปเรียน ป.เอก ได้เลยใหมครับ เห็นหลักสูตรบางมหาวิทยาลัยไม่ระบุคุณสมบัติ ป.เอก ว่าต้องจบโท 2. โอกาสได้ตอบรับมีมากแค่ไหน และขึ้นอยู่กับอะไรบ้างครับ 3. อยากเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยสายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ Ph.D. กับ Ed.D. เหมาะหรือเรียนแตกต่างกันยังไงครับ ขอบคุณอีกรอบครับ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 8 ก.พ. 51 00:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ ผมไม่ได้เรียนทางด้านบริหารธุรกิจหรอกนะครับ ผมเรียนทางด้านวิศวะฯ ครับ อยากจะมาแชร์ความคิดเห็นด้วยคนหนึ่ง ในฐานะนักเรียน Ph.D คนหนึ่งนะครับ ผมขอตอบแบบกว้างๆ สำหรับคุณ Coconut Dance นะครับ 1. จบ ปตรีแล้วไปเรียนต่อ ปเอกได้เลยครับ อันนี้ผมรับรองว่าได้ครับ ชัวร์ ประเทศอื่นนั้นผมไม่ทราบนะครับ แต่ที่อังกฤษสามารถข้าม ปโท ไปได้เลย ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ โดยคุณสมบัติที่ผมทราบคร่าวๆ คือว่า ต้องจบ first honour หรือ upper second class เป็นอย่างน้อยนะครับ แล้วก็ขึ้นอยู่กับมหาลัยด้วยว่าทางมหาลัยเขาต้องการคะแนนระดับไหน ต่างมหาลัยก็ต่างกฏเกณฑ์ ยิ่งเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงก็ย่อมต้อง require คะแนนสูงตามไปด้วย อันนี้เป็นคุณสมบัติข้อแรกครับ ข้อที่สอง ถ้าเป็นอังกฤษ ทุนที่เขาให้ทั้งหมดนั้น (ค่ากินอยู่ + ค่าเล่าเรียน + ค่าใช้จ่ายส่วนตัว) ส่วนใหญ่จะให้เฉพาะนักเรียนอังกฤษและนักเรียนในภาคพื้นยุโรปหรือ EU เท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะแฟร์กับนักเรียนต่างชาติแบบเราๆ สักเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย ถ้าทางมหาลัยเขาต้องการคุึณจริงๆ หรือทางมหาลัยคิดว่าคุณมีคุณสมบัติพอ เขาอาจเสนอทุนที่ให้เฉพาะค่าเล่าเรียนฟรีให้ แต่ค่าใช่จ่ายส่วนตัวและอื่นๆนั้น คุณต้องออกเองซึ่งมันก็ดูมากโขอยู่พอสมควร แต่หลังจากนั้นคุณต้องอาจต้องขอทุนเพิ่มจาก ORS (Oversea Research Student)ซึ่งไอ้ทุนนี้ นักเรียนต่างชาติขอเยอะมากๆ ครับ โอกาสได้ก็มี แต่กฏเกณฑ์นั้นผมไม่ทราบครับ 2. โอกาสตอบรับนั้น ถ้าเป็นที่อังกฤษ อย่างที่ผมบอกคร่าวๆ แล้วว่าหากจะสมัครขอทุนต้องดูว่าเป็นทุนแบบไหน ถ้าเป็นทุนแบบให้เปล่าก็ต้องต่อคิวจากนักเรียนอังกฤษและนักเรียนในภาคพื้นยุโรปไปก่อนละครับ เพราะพวกนี้มักจะได้รับพิจารณาก่อน เพราะเป็นกฏเกณฑ์ที่ตายตัว อีกอย่างต้องดูจำนวนนักเรียนที่สมัครขอทุนด้วยว่า มีจำนวนกี่ทุน สมัครกันกี่คน ปกติแล้วทางมหาลัยมักจะมีการสัมภาษณ์ก่อนด้วยแหละครับ แต่ผมแนะนำว่าถ้าเรียนอยู่ประเทศไหน สมัครทุนประเทศนั้นมันน่าจะง่ายกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอทุนมหาลัยที่ตังเองเรียนนั้นแหละ ง่ายมากๆ เพราะอาจารย์ที่ปรึกษามักจะเป็นคนเสนอชื่อให้ แต่ในกรณีที่ขอทุนมาจากประเทศอื่นก็ต้องพิจารณาคุณสมบัติกันทั้งทางวิชาการและทางปฏิบัติด้วย 3. ข้อนี้ผมไม่รู้จะแนะนำยังไงเพราะผมไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้ แต่ถ้าเป็นทางด้านวิศวะฯละก็ Ph.D น่าจะเวิร์คกว่าครับ ยังไงพี่ๆ น้องๆ คนไหนมาความรู้ก็ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้นะครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะเสนอแนะแนวทางให้ ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : Aero Eng - [ 8 ก.พ. 51 06:33:39 A:88.108.215.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราเรียนป.เอก เคมี ชีวเคมีอยู่ ที่อเมริกา ทางสายวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่แล้ว จะมีทุนให้ และสามารถเรียนโทควบเอกได้ อย่างของเรา ทางมหาลัยจ่ายค่าเรียนให้ และให้เงินเดือนใช้ แต่ปีแรกเราต้อง TA ส่วนปีต่อๆไปทำ RA มีบ้างเล็กน้อยที่ต้องออกเอง พวกค่าประกันสุขภาพ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก ปรกติแล้วทุนในอเมริกาจะจำกัดสำหรับนักเรียนต่างชาติ ยิ่งมาต่อสาขาบริหาร ยิ่งยาก เพราะคนเรียนกันเยอะมั้ง เราอาจไม่ได้ตอบคำถามเธอเท่าไหร่นัก แต่ก็ตอบเท่าที่รู้ โชคดีนะคะ ป.ล. คุณ Aero Eng เรียนปีไหนแล้วคะ จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 8 ก.พ. 51 07:27:05 A:66.57.181.177 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในอเมริกา จากปริญญาตรีก็สามารถต่อปริญญาเอกได้เลย หากคุณเข้า requirements ของเขา การจบปริญญาเอกในอเมริกเขาระบุว่าคุณต้องมี 75 - 90 Credit hours หน่วยกิต หลังจากปริญญาตรี ดังนั้นบางทีคนที่ไปเรียนปริญญาโทมาน้อย พอมาต่อปริญญาเอก ก็ต้องเรียนมาก และในทางตรงกันข้าม แต่การหาทุนเรียนปริญญาเอก โดยไม่มีปริญญาโท ก็คือการหาทุนเยอะ เพราะต้องใช้เงินและเวลาเยอะ ก็จะหายากกว่าธรรมดาเยอะ และคุณเองก็ต้องมี Exceptional records จริงๆนะ จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 07:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ขอบคุณครับ ดีใจจังเลยที่พี่ๆ มาช่วยตอบ พี่ Aero Eng เดาเอาจากชื่อพี่คงเรียนวิศวะการบิน ใช่หรือเปล่าครับ? ว้าว เป็นคณะในฝันของน้องมะพร้าวเลย แต่น่าเสียดายที่อุตส่าห์เรียนวิทย์-คณิตตอน ม.ปลาย แต่เอนท์สายศิลป์แทน แต่มีเพื่อนรุ่นน้องที่โรงเรียนคนหนึ่งครับ มาเรียน ป.ตรี วิศวะการบินที่อเมริกา ตอนนี้ทำอยู่ Boeing และบริษัทกำลังจะส่งไปเทรนที่ฝรั่งเศสปีหนึ่ง ภูมิใจกับคนไทยเก่งๆ จังครับ 1. น้องมะพร้าวจบ First Class Honors (ได้ทุนครับ ก็เลยต้องขยันหน่อย แฮ่ๆ) 2. ตอนนี้น้องอยู่อเมริกาแบบ Permanent Resident ครับ เท่าที่ลอง search ดู โอกาสจะได้ทุนมีมากกว่านักเรียนต่างชาติ แต่ก็อยากไปเรียนยุโรปเหมือนกันครับ ประเทศอังกฤษนี่หนึ่งในฝันเลย ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่นะครับ พี่อีฟ เคมี อยากได้ทุนเรียนฟรีและมีเงินเดือนให้อย่างพี่มั่งจังครับ น้องไม่อยากกู้เงินเรียนเลยครับ เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าจะเรียนไปทำไมและมีความจำเป็นแค่ไหน แต่คนมันมีความทะเยอทยานและความมุ่งมั่นอ่ะครับ ทำไงได้ ยังไงขอบคุณพี่อีฟมากๆ เลยนะครับที่ช่วยตอบ น้องลองอ่านเพิ่มเติมจากกระทู้นี้บ้างแล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6261170/H6261170.html คุณไทยสยาม Exceptional records ที่พี่บอก บวก Recommendations, essay และประวัติผลงานกิจกรรมตอนเรียนอยู่ได้หรือเปล่าครับ? เกรด ป.ตรี น้องผ่านเข้ารอบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแบบชิวๆ แต่ profile กิจกรรมไม่เป็นรองใครครับ (รางวัลนิสิตกิจกรรมดีเด่นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย โล่พระราชทานครับ) ขอบคุณพี่ๆ อีกครั้งครับ รบกวนชี้ทางสว่างเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 8 ก.พ. 51 13:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ : Coconut Dance ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า ห้าม "หวังต่ำ" เป็นอันขาด Aim high Shoot high จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 13:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมถามอีกคำถามหนึ่งครับ ถ้าเกิดเรียนเอกไม่รอด มหา'ลัยจะปล่อย ป.โท ให้หรือเปล่าครับ? แล้วจบเอกนี่ ส่วนใหญ่จะได้งานในมหา'ลัยที่เรียนเลยหรือเปล่า? แบบว่าจบแล้วกลัวตกงานครับ - -" จากคุณ : Coconut Dance : - [ 8 ก.พ. 51 13:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับคุณไทยสยาม น้องไม่คาดหวังมากหรอกครับ อยากเรียนที่ดีๆ และ ขอแค่ได้กลับไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่เมืองไทย ไปถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ชีวิตให้เด็กรุ่นหลังก็พอ แต่อย่างน้องนี่ ไม่รู้จะมีที่ไหนจ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ กลัวโดนซื้อตัวจากที่อื่นก่อนอ่ะครับ .. อิอิ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 8 ก.พ. 51 13:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าเป็นที่อเมริกาเขาคงไม่ให้ นอกจากขอเปลี่ยนโปรแกรมไปเรียนปริญญาโทแทน Australia น่าจะได้มั๊ง อังกฤษใครรู้ตอบหน่อยเร็ว จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 14:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้อง Coconut Dance ถ้าโพรไฟล์ระดับนี้ไม่ต้องห่วง น้องหาทุนได้ที่ได้ไม่ยากแน่นอน ใจเย็นๆ ค่อยๆหา เก็บข้อมูลให้มาก จากคุณ : บุ้ง (B Oprysk) - [ 8 ก.พ. 51 15:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก็ดีครับ มีใครมาแย่งตัวไปทำงานน่ะดีครับ ได้เงินเยอะๆ ยังไงก็อย่าลืมฝีกทำ tax return นะจ๊ะ จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 18:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าเรียกผมว่าพี่เลยครับ มันเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้อะครับ เพราะผมเพิ่งจบตรีเมื่อมิถุนา ปีที่แล้วนี่เองครับ คุณอีฟ เคมีครับ ผมเพิ่งเรียนปีแรกเองครับ อายุ 22 เพิ่งเริ่มเมื่อตุลาที่ผ่านมานี่แหละครับ ดีใจที่ได้รู้จักนะครับ คุณไทยสยามแล้วก็คุณ Coconut Dance ครับ ที่อังกฤษที่ผมรู้มาเนี้ยคือว่า ตอนที่เริ่มเรียนปเอก เขาจะ register ให้เข้าเรียน MPhil ก่อนนะครับ แล้วค่อย transfer ทีหลังน่าจะ 12 - 25 เดือนหลังจากที่เริ่มเรียนแล้วนะครับ จากนั้นก็จะได้เป็น PhD candidate แต่หากว่าเรียนไม่ไหวจริงๆ ทางมหลัยเขาก็จะให้หลักสูตรเป็น MPhil แทน PhD นะครับ ผมว่าหลักเกณฑ์นี้น่าจะเหมือนกันทุกประเทศนะครับ จากคุณ : Aero Eng - [ 8 ก.พ. 51 19:08:06 A:88.108.215.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่อเมริกา ถ้าเกิดมาเรียนเอกแล้วไม่ชอบ หรือไม่ไหว เค้าก็จะให้แค่โทค่ะ จบตรีแล้วสามารถต่อเอกได้เลยในบางคณะ ต้องสอบถามกับทางคณะดูนะคะ ทุนก็มี พวก stipend นักเรียนต่างชาตฺิก็ได้เหมืิอนกัน แต่ทุนอย่างอื่นให้แต่ American citizen and permanent resident เท่านั้น +++++++++++++++++++++++++ คุณ Aero Eng เหมือนกันค่ะ เพิ่งเรียนปีแรก อายุ 22 เหมือนกันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 8 ก.พ. 51 19:21:39 A:66.57.181.177 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลืมถามอีกคำถามหนึ่งครับ ถ้าเกิดเรียนเอกไม่รอด มหา'ลัยจะปล่อย ป.โท ให้หรือเปล่าครับ? แล้วจบเอกนี่ ส่วนใหญ่จะได้งานในมหา'ลัยที่เรียนเลยหรือเปล่า? แบบว่าจบแล้วกลัวตกงานครับ - -" จากคุณ : Coconut Dance : - [ 8 ก.พ. 51 13:29:40 ] ในออสเตรเลีย ถ้ารีเสิร์ชที่ทำมามีน้ำหนักและเข้าข่ายมากพอ อาจจะต้องรีเวิร์ค แล้วก็ผ่านให้คณะดูได้ว่าพอที่จะได้ โท by research ได้หรือเปล่า ต้องดูดีๆนะ เพราะบางยูในบางสาขา อาจจะไม่มี โท by research ในสาขานั้นๆ ถ้าเขาไม่มีก็คือไม่ได้ จากคุณ : yuy - [ 8 ก.พ. 51 19:31:27 A:124.121.19.102 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วจบเอกนี่ ส่วนใหญ่จะได้งานในมหา'ลัยที่เรียนเลยหรือเปล่า? แบบว่าจบแล้วกลัวตกงานครับ สาขาที่พี่เรียน คือ อีคอน ปกตินี่ไม่ค่อยมีนะครับ พี่เคยอ่านเค้าบอกว่า ถ้าจบยูท๊อปเทน จะต้องลงไปสอนยูท๊อป50ก่อนถึงจะไต่ขึ้นมาได้ จากคุณ : บุ้ง (B Oprysk) - [ 8 ก.พ. 51 21:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณอีกครั้งครับ น้อง Aero Eng น่าจะแลกอีเมลกับน้องอีฟ เคมีนะครับ อายุเท่ากันเลย เป็นเพื่อนกันได้ เผื่อจะเป็นตำนานหนุ่มวิศวะกับสาววิทยา แห่งห้องไกลบ้านคนต่อไป .... คิกๆ พี่อายุ 25 แล้วยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ ทำงานงกๆ ส่งตังค์กลับเมืองไทย เสียภาษีให้ลุงแซมอย่างที่คุณไทยสยามบอกอยู่เนี่ย ขอบคุณพี่ yuy และพี่ บุ้ง (B Oprysk) ด้วยครับ หูตาสว่างขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ ตอนนี้เบื่อๆ อเมริกา อยากหาทุนเรียนที่ออสหรือยุโรปอ่ะครับ ปีหน้าส่งน้อง 2 คนเรียนหนังสือจบ คงต้องเริ่มวางแผนชีวิตใหม่แล้วล่ะครับ ความฝันอันสูงสุด : Professor Coconut Dance, Ph.D. จากคุณ : Coconut Dance : - [ 9 ก.พ. 51 00:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ้อ ถ้าน้องจะหาทุน ลองมาแถวยุโรป ที่ไม่ใช่อังกฤษไหมล่ะ หมายถึงยุโรปmainlandน่ะ บางประเทศเขากันทุนไว้เลย ว่านักเรียนต่างชาติกี่ทุน ไม่ต้องรอต่อคิวคนของเขา จากคุณ : บุ้ง (B Oprysk) - [ 9 ก.พ. 51 01:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ohh.. Looks like I'm the oldest here (at least older than N'อีฟ  N'Aero Eng and N'Coconut Dance) Seems that khun จขกท got a good answer from khun ไทยสยาม in comment no. 5 already. But perhaps I can also share my opinion here. From the question 'ถ้าอยากเรียนปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจที่อเมริกา หาทุนยากมั้ยคะ' , I think it is possible if you are exceptional. I know a couple of my friends who are เรียนปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ and are getting assistantship here in USA. I do not know if you are already have TOEFL/GMAT test score or not. If not, this will be your time to do your best in these test. Because the results would help a lot in making a decision to apply to the school of your choice. Also.. All the best to the future 'Professor Coconut Dance' na ja :) And good luck to N'อีฟ and N'Aero Eng as well. จากคุณ : Chemical engineer ja :) (forbidden donut) - [ 9 ก.พ. 51 03:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากแนะนำอีกนิดว่า ถ้าคิดจะเรียนป.เอก ขอให้เลือกที่งานวิจัย อาจารย์ ก่อนสถาบันนะคะ เราอยู่วงการวิทยา คำถามที่มักถามกันบ่อยๆคือ Who is your advisor? Who do you work with? ถ้าคิดจะศึกษาต่อปริญญาเอก หมายความว่าคุณสนใจด้านนี้จริงๆ เพราะคุณจะเรียนลึกมากๆ ปริญญาเอกอาจจะดูแคบกว่าปริญญาโทไปโดยปริยาย ประการหนึ่งที่อยากจะฝากไว้คือ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ แค่ชอบไม่ได้ ต้องรัก เพราะงานหนักมาก เหนื่อยด้วย หากคุณไม่รัก คุณจะเบื่อแล้วจะรู้สึกไม่อยากทำ ส่วยอาจารย์ ขอให้เลือกคนที่ดีๆ สามารถคุยด้วยได้ อาจารย์สำคัญมากๆนะคะเวลาเรียนป.เอก คุณต้องรู้จักเค้าให้ดีพอๆกับที่คุณรู้จักตัวเองกระจก ถ้าคุณได้อาจารย์บ้าๆ (มีนะ) ทีด่าคุณเวลาผลไม่ออก คุณจะไม่มีความสุขเวลาเรียนนะคะ you don't want to work with a JERK for 4-5 years, do you? ที่บอก เพราะเจอมาแล้ว เห็ฯมาแล้ว เราว่าเราเลือกจารย์ที่ดีที่สุด แล้วงานก็น่าสนใจแล้ว เรายังร้องไห้ในแล็บเลย คุณเรียนด้านไหน ลองเข้าไปดูที่เว็บมหาลัย หาอาจารย์ที่คุณสนใจ แล้วอีเมล์หาเค้า ทำให้เค้ารู้ว่าเราสนใจจริงๆ You need to introduce yourself. Don't let your application talk only. หากคุณชอบเค้า ลองเมล์คุยกับนักเรียนของเค้าดู ถามว่าอาจารย์ท่านนี้เป็ฯยังไง เค้าจะบอกคุณเอง สำหรับคนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ เคมี ชีวเคมี ถ้ามีโอกาสลองขอเค้าไปนั่งใน Group meeting สักสองสามครั้ง ธาตุแท้ของแต่ละคนจะออกมา มีอะไรเมล์มาถามได้ เราเป็น permanent resident เหมือนกัน โชคดีนะ supanika_s@hotmail.com จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 9 ก.พ. 51 06:31:17 A:66.57.181.177 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Also, special thank to COCONUT DANCE and CHEMICAL ENGINEER. I love your messages. :D จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 9 ก.พ. 51 06:34:42 A:66.57.181.177 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น้องมะพร้าวเต้น อยู่อเมริกาต่อ หรือไปยุโรป หรือไปแคนาดา ดีกว่าน้อง ออสเตรเลีย โอกาสน้อยกว่าทางฟากโลกนั้น จากคุณ : yuy - [ 9 ก.พ. 51 12:56:31 A:124.121.23.203 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ พี่บุ้ง (B Oprysk) ปีที่แล้วน้องมีโอกาสไปปารีส ติดใจจนไม่อยากกลับเลยครับ นี่ถ้าฟุตฟิตฟอไฟภาษาฝรั่งเศสหรือสักภาษาในยุโรปได้นะ จะหาโอกาสกลับไปเรียนต่อที่นั่นแน่นอนครับ คุณ forbidden donut ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ ถ้าได้เป็น Professor Coconut สมใจ งานนี้สงสัยจะต้อง “เซิ้งกะลา” แก้บน (ฮา) น้องอีฟ เคมี เรื่องเลือก advisor มีคนแนะนำมาเหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เดี๋ยวพี่จะ add msn ไปนะครับ Email address ของพี่ขึ้นต้นด้วย Woolloomooloo ที่ South Carolina หนาวหรือเปล่าเอ่ย? พี่ yuy ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ พี่น่ารักจังเลยครับ ติดตามให้คอมเมนต์น้องตลอดเลย (เป็นแฟนคลับซึ่งกันและกันที่เหนียวแน่นมาก ... หุหุ) ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ น้องรู้สึกว่าสไตล์การสอนของอาจารย์ที่จบมาจากแต่ล่ะที่จะต่างกัน ทั้งเมืองไทย เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร ฯลฯ อาจารย์สายจุฬานี่คนล่ะขั้วกับธรรมศาสตร์เลย ส่วนอาจารย์ที่จบจากเมืองนอก ยกตัวอย่างจากอาจารย์ที่คณะที่น้องมะพร้าวเคยเรียนมาทั้ง อังกฤษ (เคมบริดจ์) อเมริกา สวีเดน ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ฯลฯ น้องชอบอาจารย์ที่จบจากออสเตรเลียอ่ะครับ เคยไปเที่ยวที่นั่นครั้งหนึ่งและติดใจอยากกลับไปอีก ... อิอิ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 9 ก.พ. 51 15:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้าวววว คุณ allegretto (จขกท.) หายไปไหนเนี่ย กลายเป็นน้องมะพร้าวมาถามแย่งถามเลย ขอโทษนะครับ แต่ขอบคุณมากๆ .. คิกๆ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 9 ก.พ. 51 22:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีค่า เพิ่งได้กลับมาดูค่ะ (มาช้าไปมั้ยคะ) คุณ coconut dance ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่ตั้งคำถามที่เป็นประโยชน์ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นที่ทำให้เปิดโลกทัศน์ขึ้นมากๆๆๆๆ เลยค่ะ ว่าแต่เท่าที่อ่านดู ทุกคนเก่ง ๆ กันแบบไม่ธรรมดาเลยค่ะ อายุน้อย แถมใจดีมาก ๆ ด้วยค่ะ เข้ามาช่วยกันแชร์ข้อมูลเยอะแยะเลย เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่าน เรียนและทำงานให้สำเร็จสมใจนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ จากคุณ : จขกท (allegretto) - [ 10 ก.พ. 51 18:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หวัดดีครับ จขกท ไม่ได้เจอะเจอตั้งนาน อิอิ (มีแซว ๆ) ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ พี่ Chemical Engineering Ja อิอิ ใช่เลยครับ อีพ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยที่ว่าเลือกงานวิจัย อาจารย์ที่ปรึกษาก่อนสถาบัน ผมมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ จากเพื่อนในออฟฟิสที่ทำงานอยู่ด้วยกัน พอดีว่าเขาเลือกงานที่ถูกใจเขาแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเขาได้อาจารย์ที่ปรึกษาที่ไม่ดีเอาเสียเลย เพื่อนผมคนนี้มักจะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ หลังจากที่ได้ไปหาอาจารย์ที่ปรึกษามา ประมาณว่า weekly meeting แล้วก็เอางานไปให้อาจารย์ดู ประมาณนี้นะครับ แต่ว่าอาจารย์แกเป็นคนจีน แล้วจบมาจาก Cambridge ด้วย (ผมไม่ได้เอาสถบานมาเปรียบเทียบนะครับ เพียงแต่เป็นการยกตัวอย่างมาให้ดู) ผลก็คือว่า งานเพื่อนผมมันไม่ผ่านและไม่ถูกใจอาจารย์แก เพื่อนผมก็เลยโดนด่าซะยับเยิน แถมโดนเอาปากกาขว้างใส่หัวอีกต่างหาก เป็นแบบนี้มาตั้งสองปีกว่าๆ ได้แล้วครับ ผมฟังดูแล้ว ผมว่าผมนะโชคดีกว่าเพื่อนคนนี้มันเยอะเลย อาจารย์ที่ปรึกษาผม ใจดีมากๆ สุภาพเรียบร้อย แถมยังเป็นคนมาดูแลเรื่อง lab มาตรวจสอบ ดูแลว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า แถมตอน presentation กับทาง department ผมเจอคำถามที่ไม่รู้จะตอบยังไงดี แกก็ยังอุตส่าห์ช่วยตอบ ดูสิว่าอาจารย์ผมดีขนาดไหน เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกอาจารย์นั้นสำคัญมากโขทีเดียวเลยครับ อีกอย่างการเลือกงานวิจัยที่ถนัดและชอบก็มีผลด้วยเหมือนกัน อันนี้ขอยกตัวอย่างพี่คนไทยที่ผมรู้จักแล้วกัน อะอะ สมมติชื่อนะครับว่า พี่โนเน๊ะ พอดีว่าพี่โนเน๊ะ เนี้ย เขารับทุนมาจากรัฐบาลไทย แต่มาจากส่วนไหนนั้นผมไม่ขอเอ่ยดีกว่า ตอนที่พี่โนเน๊ะ เลือกหัวข้อกับอาจารย์ที่ปรึกษามาจากเมืองไทยนั้นนะ ทุกอย่างไม่มีปัญหาครับ ผ่านฉลุย แต่พอมาถึงที่มหาลัยแล้วกำลังจะเริ่มทำงานวิจัย อาจารย์ที่ปรึกษากลับเปลี่ยนหัวข้อไปอีกหัวข้อหนึ่งซึ่งพี่โนเน๊ะบอกว่าไม่เคยเรียนมาก่อนแล้วไม่ถนัดเอาเสียเลย อย่างเช่นว่าพี่โนเน๊ะแกเรียนจบมาทางด้านวิศวะไฟฟ้า แต่กลับต้องมาทำเรื่องที่เกียวข้องกับชีวะฯ ประมาณนี้ ผลก็คือว่าพี่แกจะกลับก็กลับไม่ได้ จะไปต่อก็ไปได้แต่มันหนักและต้องมาเริ่มเรียนในเรื่องที่ไม่เคยเรียนมาก่อน มันก็ค่อนข้างเสียเวลา แถมตัวทุนที่มาจากเมืองไทย ก็มีระยะเวลากำหนดว่ากี่ปี ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้พี่โนเน๊ะต้องจำใจทำ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกนะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว การเรียนป.เอก ต้องเลือกในสิ่งที่ชอบเสียก่อน ผมว่ามันสำคัญนะ แล้วก็อาจารย์ที่ปรึกษาด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่งครับอีฟ พี่ yuy ที่พี่บอกว่า Australia มีโอกาสน้อยกว่าทางโลกฟากทางโน้นนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ โอกาสทางด้านไหนมั่งเหรอครับ เผื่อว่าจะได้เป็นความรู้ติดตัว จากคุณ : Aero Eng - [ 10 ก.พ. 51 19:09:38 A:77.103.167.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบ 1. แคนาดายากแน่นอน อเมริกาใช้เวลา 4 ปีถึงจบ นานมาก 2. อยากเรียนอยู่เมืองไทย แบบไปบ้าง ถ้าเป็นที่ออสเตรเลียนี่ได้หลาย มหาวิทยาลัยอยู่เหมือนกัน เพราะเจรจากับซุปเปอร์ไวเซอร์แต่ละคน มีคน ทำได้เหมือนกันหลายคน 3. เรียนปริญญาตรีแล้วต่อเอกได้ มีออสเตรเลียและนิวซีแลนด์บางที่ (เยอะ เหมือนกัน) ในกฎของมหาวิทยาลัยจะเขียนว่า ถ้าได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ไม่ ต้องเรียนปริญญาโทแล้ว เรียนเอกได้เลย 4. เรียนตรี เรียนโท ไม่ตรงกับสาขาที่เรียนเอกก็ได้แต่ต้องลงวิชาพื้นฐาน บางตัว เช่นมีเด็กจุฬาฯ จบครุศาสตร์ ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ด้านธุรกิจ เขาบังคับให้ลงวิชาธุรกิจ 5 ตัวแล้วเรียนต่อ คนนี้ก็เรียนได้ (แต่ไม่ค่อยเก่ง เลข ไปเรียนธุรกิจเน้นไปทางเรื่องธุรกิจบริการ) 5. ดีบีเอ ส่วนใหญ่เอาประสบการณ์ 5 ปีเป็นอย่างน้อย พีเอชดีไม่ต้องก็ได้ 6. อยากรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไรก็ไปดูวิชา บวกกับเจอรนัลที่ชอบ อ่านก็ได้ อยากกลับไปนั่งเขียนที่เมืองไทย ก็ต้องวางโครงร่าง เขียนให้มัน เยอะ ๆ แสดงภูมิว่าเรารู้แล้วตอบได้ทุกอย่าง มีพี่คนไทยทำแบบนี้ตอนเรียน (ตามหลักต้องเรียน 4 ปี) แต่คนนี้เรียนจบ 3 ปีได้ อยู่ออสเตรเลียแค่ปีกว่า ๆ(คนนี้ได้ทุนก.พ. จบแล้วไม่ได้รับปริญญาด้วย เขาว่ามีกฎบังคับให้รีบกลับ หลังจากจบภายในไม่ถึงเดือน (กี่วันไม่แน่ใจ)) 7. เรื่องงานเขามีให้ในมหาวิทยาลัย บางคนเขาก็ทำให้ห้องสมุดบ้าง (ถ้าไม่ ได้ช่วยสอนและได้ตัง) แต่ตามหลักเรียน ดร. ต้องเป็นทีเอกันอยู่แล้ว 8. เรียนเอกไม่จบหลาย ๆ ที่เขาจะปัดให้เป็นปริญญาโทด้านการวิจัยไปเลย หรือไม่ก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง (ดูได้ในกฎหรือถามคนอื่น ๆ ก่อน) 9. วิธีหาข้อมูลที่ดีที่สุดคือ ถามในเว้ปดีหรือ ดูในเว้ปไซต์มหาวิทยาลัย ถาม อาจารย์ที่จบจากที่นั่นโดยตรง หรือคณบดี (เพราะถึงอย่างไรก็ต้องให้เขา เขียนจดหมายรับรองให้เราอยู่ดี) การคุยกับคณบดีอย่างน้อยก็ช่วยให้เราคิด นานขึ้น เช่น เลือกมหาวิทยาลัยที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่เลือกอะไรก็ได้ 10.หลาย ๆ มหาวิทยาลัยในยุโรปค่าเทอมไม่แพง และสามารถเรียนเป็น ภาษาอังกฤษได้ น้องไปเรียนเยอรมัน วิศวะบอกว่าไม่แพง มีเพื่อนไปฝรั่ง- เศสก็บอกว่าไม่แพง และเรียนเป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษราคาก็ไม่ต่างกัน เท่าไหร่ 11.สำหรับออสเตรเลีย อันนี้ลองไปดู ส่วนใหญ่ที่ให้ทุนเป็นวิศวกรรม เช่น นิวเซ้าส์เวลมหาวิทยาลัย 12.มีบางคนเขาหาตังด้วยการเป็นติวเตอร์ ส่วนใหญ่เป็นพวกเรียนจบคณิต ศาสตร์ เห็นเด็กจีนแดงหลาย ๆ คนรับจ้างสอนชั่วโมงหนึ่งได้หลายเรียน เหมือนกัน สอนปริญญาตรี ส่วนใหญ่ฝรั่งไม่ค่อยเก่งเลขกัน 13.ในออสเตรเลียบางทีเขาไม่มีอาจารย์ที่เก่งด้านนั้น เช่น เรียนมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิ่ล ด้านดอกเตอร์ธุรกิจ เน้นการบริการบางอย่าง เขาให้ซุปเปอร์ ไวเซอร์เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ 14.ออสเตรเลียโอกาสน้อยกว่าอเมริกาจริง ๆ แหล่ะ 15.แนะนำให้เรียนด้านพวกกฎหมายเพื่อเป็นที่ปรึกษาหรือสอนหนังสือ รายได้ดี โพลิติค่อลไซน์ไม่ค่อยแนะนำ เรียนยาก ไม่ค่อยได้ใช้ เคยลงไปตัว เซ็งมาก สอนแต่เรื่องในอังกฤษ ยุโรป ไม่ค่อยสอนเรื่องในภูมิภาคเรา 16.เรียนที่เมืองไทย เอกสารน้อย สิ่งแวดล้อมไม่ค่อยเอื้ออำนวยนะ จากคุณ : ฟ้าลั่น - [ 11 ก.พ. 51 05:38:34 A:192.168.0.113 X:124.120.147.140 TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอถามอีกหน่อยนะคะว่า ถ้า profile ธรรมดามาก ๆ ป.ตรี จบคอม 2.95 ป.โท จบบริหาร 3.95 1. มีโอกาสสมัครเรียนต่อป.เอกได้มั้ยคะ 2. มีโอกาสได้ทุนมั้ยคะ จากคุณ : จขกท (allegretto) - [ 11 ก.พ. 51 10:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าน้องมะพร้าวเต้นบอกว่าชอบแนวอาจารย์ของทางออส พี่ว่าลองดูที่อังกฤษก็ได้ แนวทางวิจัยเหมือนกัน ที่ว่าออสโอกาสน้อยกว่านั้น คิดดูทางภูมิศาสตร์ ออสเตรเลียไกลกว่าประชาคมอื่นๆ ในแง่ตลาดทุน เศรษฐกิจ metalityในการสนับสนุนคน ศูนย์กลางธุรกิจ ก็ไม่ได้อยู่ในออสเลย บริษัทใหญ่ๆที่โตจากออส เมื่อโตได้ระดับแล้วจะย้ายHQ ไปตั้งทางโซนอเมริกา อังกฤษ ยุโรป เพราะเหตุผลต่างๆเหล่านี้ ที่ออสนั้นมีแต่ระดับ regional ทั้งนั้น มหาวิทยาลัยก็ไม่ต่างกัน มหาวิทยาลัยในออสมีไม่ถึงห้าสิบที่ การที่จะไต่เต้าขึ้นไปนั้น วิธีที่ดีคือการหมุนตัวไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ จะได้ก้าวกระโดดเลื่อนขั้นเร็ว การที่มหาวิทยาลัยน้อย โอกาสหมุนก็มีน้อยกว่า ยังไม่นับคู่แข่งที่อิมพอร์ตมาจากอังกฤษหรือแคนาดาอีก แม้นถ้าไม่คิดเรื่องเลื่อนขั้นคิดแต่เรื่องรีเสิร์ช เงินทุนวิจัยสนุบสนุนกร๊าทต่างๆก็มีน้อยกว่าอีกโซน ถ้าคิดจะเติบโตระดับอินเตอร์แล้ว เอาตัวไปอยู่ทางโซนนั้นจะดีกว่า โอกาสเรียกตัว โอกาสคอนเน็คชั่นมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับศาสตร์ด้วย อันนี้พูดโดยรวมๆ จากคุณ : yuy - [ 11 ก.พ. 51 13:03:19 A:124.121.24.58 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณคุณฟ้าลั่นและพี่ yuy ด้วยครับ คำตอบของพี่ทั้งสองทำให้น้องเห็นภาพได้ชัดขึ้นมากเลยครับ สำหรับคนเก่งอย่างคุณ จขกท. น่าจะหาทุนได้ไม่ยากนะครับ เป็นกำลังใจให้เหมือนกันครับ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 11 ก.พ. 51 14:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุญาตคุณ allegretto แจมกระทู้ด้วยคนนะคะ กำลังจะสมัครเรียนป.เอกเหมือนกันค่ะ (ที่อเมริกา) จะสมัครปลายปีนี้เพื่อเรียน fall ปีหน้า ตอนนี้กำลังเตรียมตัวสอบ GRE อยู่ค่ะ ขอถามคุณอีฟและคุณ Aero Eng หน่อยค่ะว่า นอกจากอีเมลหาอาจารย์ที่เราสนใจแล้ว ได้ไปคุยกับอาจารย์ตัวเป็นๆ ก่อนสมัครเรียนหรือเปล่าคะ แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าเลือกถูกคน (คือเป็นอาจารย์ที่คอยช่วยเหลือและ nice ไม่ใช่ jerk) คุณอีฟ ได้ขอเข้า group meeting ก่อนเลือกอาจารย์หรือเปล่าคะ คล้ายๆ กับไปขอ sit in ในคลาสหรือเปล่า ตอนนี้อยู่อเมริกา เป็น PR เหมือนกันค่ะ อยากเข้าไปคุยกับมหาวิทยาลัยใกล้ๆ นี้ แต่ว่ามหาวิทยาลัยที่ไกลๆ อยู่รัฐอื่น อาจจะไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะไปทุกที่ ต้องขอโทษคุณ allegretto ด้วยหากทำให้กระทู้กลายพันธุ์ อยากเขียนอีเมลไปหาคุณอีฟเป็นการส่วนตัว แต่คิดว่าเผื่อมีคนที่อยากรู้เหมือนกันจะได้ประโยชน์ไปด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Loon - [ 12 ก.พ. 51 22:05:36 A:146.151.116.182 X: TicketID:093826 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีครับ คุณ Loon ผมไม่ได้อีเมลล์คุยกับอาจารย์ก่อนเลยครับ ผมมี interview กับอาจารยท่านแค่ครั้งเดียวเอง แล้วอาจารย์ก็ขอดูแคู่ CV กับ transcript จากมหาลัย เท่านั้นเองครับ แต่หลังจากที่รู้ผลแล้ว ก็คุยกับอาจารย์เรื่องหัวข้อวิจัยทีหลังนะครับ ในกรณีผมเนี้ย มันไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ครับ ขั้นตอนของผมแบบคร่าวๆ คือ apply + interview + CV, transcript = discuss research topic แค่นี้เองครับ จากคุณ : Aero Eng - [ 13 ก.พ. 51 02:36:19 A:88.108.250.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 อีฟไปสัมภาษณ์อาจารย์สองครั้ง รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปนั่งใน Group meeting ถึงอยากบอกให้รุ่นต่อไปทำ Group meeting ไม่เหมือนห้องเรียนค่ะ เป็นแค่คนในกลุ่มเอางานมาพรีเซนต์ ของเรามีอาทิตย์ละสองครั้ง ครั้งแรกเป็น chalk talk อธิบายว่าอาทิตย์นี้ทำอะไรไปบ้าง ครั้งที่สองเป็ฯ power point presentation อันนี้ผลัดกันทำค่ะ เวียนกันไปจนครบทุกคน อันนี้แหละค่ะสำคัญ เพราะจารย์จะถาม จะด่า ฉีกหน้า สารพัด เราเพิ่งจะได้เห็นว่าจารย์เราเป็นแบบยาพิษในน้ำผึ้งก็ตอนนี้แหละค่ะ ตอนสัมภาษณ์ ตอนคุยกัน จารย์อัธยาศัยดีมาก แต่พอมีงานพรีเซนต์เท่านั้น อาจารย์เป็นคนละคนเลย เรายังนึกเลยว่าถ้าเรายืนอยู่ตรงนั้น คงร้องไห้ไปแล้ว แค่มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ คิดให้ดีๆ เลือกให้ดีๆนะคะ เลือกอาจารย์ที่คุยกับคุณได้ ไม่น่ารักจนเกินไป ไม่งั้นคุณจะขี้เกียจแล้วจะจบช้าค่ะ โชคดีนะคะ ............................................ คุณ Coconut Dance ที่ South Carolina อากาศเย็นๆค่ะ ไม่หนาวจัด จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 13 ก.พ. 51 06:55:59 A:66.57.187.191 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคุณอีฟและคุณ Aero Eng มากค่ะสำหรับคำตอบ จากคุณ : Loon - [ 13 ก.พ. 51 07:12:51 A:146.151.116.182 X: TicketID:093826 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อเทียบกับอีฟแล้ว ผมว่าผมก็โชคดีกว่าอีฟเหมือนกันนะเรื่องของอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ไม่เป็นไรนะอีฟ สู้ต่อไป สักวันหนึ่งมันก็ต้องเป็นวันของเธอแหละ อย่าท้อนะ คิดซะว่าก็ยังมีเราเรียนเป็นเพื่อน เพราะเราเริ่มเรียนพร้อมกัน จากคุณ : Aero Eng - [ 13 ก.พ. 51 17:16:27 A:88.108.250.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมลืมบอกคุณ Loon ไปอีกหน่อยตรงที่คุณ Loon ถามมาว่า แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าเลือกถูกคน (คือเป็นอาจารย์ที่คอยช่วยเหลือและ nice ไม่ใช่ jerk) ผมว่าโลกมันแคบเอาเสียมากๆ ด้วย เพราะอาจารย์คนหนึ่งในจำนวนสองคนที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผมอยู่ (แล้วก็ตอนสัมภาษณ์ผมด้วย) เป็นคุณพ่อของเพื่อนผมที่เรียนคณะเดียวกัน แต่ต่างมหาลัย ผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังเนี้ยแหละครับเพราะเพื่อนผมมันบอกมาว่าเจ้าคุณพ่อของมันนะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผมเอง ผมว่าด้วยเหตุนี้ด้วยแหละมั้งครับอาจารย์ที่ปรึกษาผมเลยดูแลผมอย่างดี ผมถึงว่าโลกมันแคบเอาเสียมากๆด้วย ยังไงคุณ Loon ตอนสัมภาษณ์หรือสมัครก็ลองเช็คดูคร่าวๆ ตามความรู้สึกของคุณดูก่อนว่าพฤติกรรมของอาจารย์ท่านเป็นไปในลักษณะไหน ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : Aero Eng - [ 13 ก.พ. 51 17:25:54 A:88.108.250.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณค่ะคุณ Aero Eng อาจารย์อีฟไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอก เพียงแต่เค้าคาดหวังกับนักเรียนเยอะค่ะ อีฟประหม่าเวลาจะถามอะไรเค้า เพราะถามทีไรเค้าตอบกลับด้วยยี่สิบคำถามทุกที คณะเธอใช้เวลาเรียนกี่ปีคะ ของอีฟใช้เวลาประมาณ สี่ปีครึ่งถึงห้าปีค่ะ วันนี้เลิกเรียนแล้ว ไปทานข้าวกันมั๊ยเพื่อน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อีฟ เคมี - [ 13 ก.พ. 51 20:00:39 A:66.57.187.191 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โห คุณ Aero Eng โลกมันกลมมากๆ โชคดีจังเลยค่ะ ช่วงที่อ่านหนังสือสอบนี้ก็แว่บๆ เปิดเว็บมหาลัยที่นั่นที่นี่บ้าง เวลาเค้าลิสต์ faculty มา ในเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะมีรูปด้วย บางทีมันอดที่จะมีความลำเอียงไม่ได้นะ คนนี้ในรูปยิ้มดู friendly ดี คนนี้ไม่ยิ้มเลยท่าทางจะดุ คนนี้ดูอาวุโสมากๆ ท่าทางทรงความรู้ เราจะเข้าถึงหรือเปล่าเนี่ย อะไรทำนองนี้ ไม่รู้ใครเป็นแบบนี้บ้างไหม ถามคุณอีฟต่ออีกนิดว่า คุณอีฟจบตรีจากเมืองไทยหรือที่นี่คะ ถ้าจบจากเมืองไทยเวลาสมัครเรียน คนที่ถือ PR ต้องแข่งกับ domestic students หรือว่า international students คะ คือตัวเองจบจากเมืองไทย แต่รู้สึกคุณสมบัติจะก้ำกึ่ง จากคุณ : Loon - [ 13 ก.พ. 51 21:06:19 A:146.151.116.182 X: TicketID:093826 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หวัดดีอีฟ คือว่าเราไม่มีทางเลือกหรอกว่าจะจบกี่ปี คือทุนเราให้มาแค่ 3 ปีเท่านั้นเอง นั้นก็หมายความว่าเราต้องบังคับตัวเองให้จบภายใน 3 ปีให้ได้อะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงต่อได้อีกสัก 6 เดือนมั้ง อันนี้ยังไม่แน่ใจเลย แต่ปกติทุนที่นี่มักจะให้ 3 ปีอะ แต่หลังจากนั้นก็ค่อยคุยกับทางเจ้าของทุนอีกทีหนึ่ง ยกเว้นคนที่เรียน EngD นักเรียน EngD จะเรียนกัน 4 ปี เรานะอยากเรียน EngD มากๆ เพราะได้ประสบการณ์จากทางด้าน practical มากกว่า PhD จากคุณ : Aero Eng - [ วันวาเลนไทน์ 00:57:14 A:88.108.250.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่เคยตอบกระทู้ไหนได้นานขนาดนี้ คุณ Loon อีฟจบตรีที่อเมริกาค่ะ เรื่องการแข่งขันนี่ไม่ค่อยทราบอ่ะค่ะ แต่เด็กต่างชาติเรียนเยอะมากๆเลยนะคะ คณะอีฟเต็มไปด้วยจีน i might pick up some chinese accent by the time i graduate. คิดว่าเค้าดูที่ผลงาน ผลการเรียนคุณมากกว่าค่ะ พูดถึงเรื่องผลงาน คนที่เรียนสายวิทยา แนะนำให้ทำวิทยานิพนธ์ หรืองานวิจัยตอนเรียนตรีด้วยนะคะ จะช่วยได้มากเลย อีฟทำไว้เรื่องนึงตอนเรียนตรี แล้วก็ตีพิมพ์ด้วย เครดิตเลยค่อนข้างดีค่ะ โชคดดีในการสอบนะคะคุณ Loon ......................................... Aero Eng อย่างนี้เธอก็จบก่อนเราสิ อะไรกัน เป็นด๊อกเตอร์ตอนอายุ 25 ฉันไม่ยอมๆๆๆ คณะเราสามปีจบไม่ได้อ่ะ ไม่มีแนวโน้มเลย เพราะต้องทำ proposal ตอนอยู่ปีสอง ถ้าไม่ผ่านก็โดนไล่ออก เธอต้องทำ TA or TA หรือเปล่า เทอมนี้เราทำหมดเลย เราสอนเคมีปีสอง สามตัว เหนื่อยมากๆ โชคดี จากคุณ : อีฟ เคมี - [ วันวาเลนไทน์ 07:56:05 A:66.57.187.191 X: TicketID:162406 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะคุณอีฟ ขอให้ทั้งคุณอีฟและคุณ Aero Eng จบเร็วๆ ตามที่คาดหวังไว้นะคะ โชคดีทุกคนเช่นกันค่ะ จากคุณ : Loon - [ 15 ก.พ. 51 00:50:49 A:146.151.116.182 X: TicketID:093826 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็คงประมาณนั้นแหละอีฟ ที่มหาลัยเรา เราไม่ได้ทำ TA หรอก เพราะมันทำไม่ได้ มหาลัยเราไม่มีเด็ก undergrad เลย มีแต่เฉพาะนักเรียน research เท่านั้น เหมือนกับว่าไม่ได้เรียนในมหาลัยหรอก ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสถาบันวิจัยมากกว่า ประมาณนั้น ขอบคุณครับคุณ Loon จากคุณ : Aero Eng - [ 15 ก.พ. 51 02:29:03 A:88.108.250.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่แน่ใจว่าคุณ allegretto จะเข้ามาเช็คในกระทู้นี้อยู่อีกหรือเปล่า เพราะเห็นว่าโพสต์ไว้หลายอาทิตย์แล้ว พอดีปกติผมไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านหรอกครับ นี่พอดีเบื่อกับการเขียน paper กับอ่านหนังสือก็เลยเข้ามานั่งอ่านเล่น ตอนนี้ผมกำลังเรียน Ph.D. ทางด้าน Business ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาอยู่ เพิ่งจะเรียนเป็นเทอมที่สองเอง ก็จะตอบเท่าที่พอตอบได้นะครับ ถามว่าหาทุนยากมั๊ย ผมว่าไม่น่าจะยากมากนะ แต่ต้องดูที่ profile คุณด้วย เกรดคุณโอเคแล้ว ทีนี้ก็ต้องอยู่ที่คะแนน GMAT ของคุณ แล้วก็ดูว่าจดหมาย recommend ของคุณเนี่ย strong แค่ไหน ระยะเวลาในการเรียนอยู่ที่ประมาณสี่ปี ถ้าเกิดว่าสามารถเก็บข้อมูลได้เร็วในช่วงทำ dissertation คุณก็อาจจะจบได้ภายในสามปีครึ่งหรือ สามปีซึ่งมีน้อยมาก ๆ ในกรณีนี้ ส่วนที่ว่าคุณจะกลับไปเขียน dissertation ที่เมืองไทยได้หรือไม่ ผมตอบว่าได้ครับ ถ้าคุณไม่มีข้อผูกมัดกับทางมหาวิทยาลัยนะ หมายความว่าถ้าคุณไม่ต้องทำงานในกับอาจารย์ เพราะว่าถ้าคุณได้ทุนในลักษณะที่เป็น assistantship คุณก็ต้องทำงาน อาจจะทำวิจัย สอนหนังสือ หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ซึ่งไม่สามารถทำให้คุณกลับไปเมืองไทยได้ แต่ข้อดีคือ คุณจะได้ waive ค่าเทอม แล้วก็ได้เงินเดือนใช้ (stipend) แต่ในกรณีที่ว่าถ้าคุณได้ fellowship ซึ่งเป็นทุนที่คุณไม่ต้องทำงานเนี่ย ผมบอกตรง ๆ ว่าผมไม่แน่ใจนะ ว่าหลังจากจบ coursework แล้วเนี่ย คุณจะกลับได้หรือเปล่า โดยปกติเนีย residency requirement จะแค่สองปีแรก พอคุณสอบ comprehensive ผ่านแล้ว, defense dissertation proposal แล้ว คุณจะไปทำ dissertation ต่อที่ไหนก็ได้ แล้วค่อยกลับมา defend งานของคุณ คุณอาจจะกลับมาเป็นอาจารย์ที่เมืองไทย แล้วเก็บ data ที่เมืองไทยเพื่อทำ dissertation ก็ได้ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่คุณทำ พวกนี้หน่ะ เค้ามักจะเรียกว่า ABD ซึ่งย่อมาจาก All But Dissertation ผมยังเคยเห็นอาจารย์บางคนสมัยที่ผมเรียน MBA อยู่ เค้าใช้ ABD ต่อท้ายชื่อเค้าก็มีเหมือนกัน แต่ตรงนี้มีข้อเสียอย่างนึงนะ คือ ถ้าคุณออกจากมหาวิทยาลัยมาโดยที่ยังไม่จบหน่ะ คุณอาจจะขึ้เกียจแล้วก็ไม่กลับไป defend dissertation ของคุณแล้วก็ได้ อ่านแล้วอย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะ มีนะครับที่เป็นแบบนี้ ข้อเสียอีกอย่างก็คือว่า เวลาคุณอยู่ไกลอาจารย์ที่ปรึกษาคุณ หรือที่เราจะเรียกว่า dissertation chair การติดต่อจะลำบากหน่อย เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะจบช้าลงก็จะมีมากกว่าครับ ไม่รู้ว่าที่ตอบไปจะช่วยได้มากแค่ไหนนะครับ ถ้าอยากทราบอะไรเพิ่มเติมก็ ลองเขียนมาถามละกัน ถ้าตอบได้จะตอบให้ จากคุณ : The SouThern Guy - [ 10 มี.ค. 51 15:39:14 A:12.206.240.162 X: TicketID:170376 ]