ความคิดเห็นที่ 1 In fact, this kind of question can be consider as against the law Title VII that discrimination against race, color, gender, age, and national of orgin.  It's okay to do it in Thailand anyway. In fact you should include American born like Chinese, Japanese, Thai, Korean, and Hispanic na ka.... จากคุณ : Moo Aouan (The Pig Family) - [ 8 ก.พ. 51 02:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าไปถือสา เด็กเพิ่งแต่งงาน จากคุณ : อิสวาสุ - [ 8 ก.พ. 51 03:00:00 A:71.114.84.246 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Racism ในอเมริกาเป็นสิ่งที่ยังมีอยู่ และเป็นสิ่งที่ควรจะมีการกล่าวถึง เพื่อกำจัดให้น้อยลงหรือหมดไป เมืองที่อยู่นี่ (แอตแลนต้า) ก็คนดำ*เย้อะ*มาก ๆ ซึ่งก็ดีอย่างที่ทำให้เราเจอคนดำที่มีความสามารถ มีการศึกษา ดูดี สวย ๆ หล่อ ๆ เยอะแยะ ส่วนตัวเราเฉย ๆ นะ ในฐานะที่เป็นเพื่อนนักเรียน เพื่อนร่วมงาน เราก็ดูเค้าเป็นคน ๆ ไป ไม่ต่างกับคนผิวสีอื่น คนดำที่เราคลุกคลีอยู่ด้วยเกือบทุกวัน นี่ก็เป็นพวกมีการศึกษา ขยันทำงาน และค่อนข้างเปิดกว้างทางความคิด (บางทีมากกว่าคนขาวอีก) แต่ถ้าพูดถึงแบบรวม ๆ เราก็มีไอเดียเกี่ยวกับพวกเค้าบางอย่างที่เราไม่ค่อยชอบ เช่นบางครั้ง เราว่าคนดำนี่แหละ ตัวแบ่งสีผิวเลย (มันอาจจะเป็นเพราะพวกเค้า react จากสิ่งที่เค้าเจอ) พูดอะไร คิดอะไร ก็จะต้องบอกว่า ในฐานะที่เป็นblack man ในฐานะที่เป็นblack woman ในฐานะที่เป็น black single mom ฯลฯ คือเอาว่า black ไปขยายได้ทุกสถานการณ์ พับผ่าซิ ฟังมาก ๆ เราก็เบื๊อเบื่อ เพราะบางทีไม่เห็นมันจะต้องเน้นอะไรกันนักหนาเลยวุ้ย แต่อย่างว่าอ่ะนะ บางทีอะไรที่เราไม่ได้เจอกับตัวเอง เราก็ไม่รู้ว่าผลกระทบมันมีมากขนาดไหน เพราะเราอยู่เมืองไทยก็เป็นลูกจีนอยู่ในกรุงเทพฯ เราไม่เคยรู้สึกว่ามันต่างกันระหว่าง ไทยแท้ กับไทยจีน แต่พอเราไปทำงานเจอคนใต้คนนึงที่เราต้องร่วมงานด้วย แล้วเค้า(ตั้งใจ)พูด(ให้เราได้ยิน) ทำนองว่า ไอ้พวกตี๋หมวยนี่มันก็ไม่ใช่คนไทยซะหน่อย เรางี้งงไปเลย คือแบบก่อนหน้านั้น clueless จริง ๆ ว่ามีคนคิดยังงั้นในเมืองไทยด้วยเหรอ อีกทีก็เข้าไปที่ทำงานใหม่ เจอคนที่เค้าเป็นลูกจีนแต้จิ๋ว เค้าถามเราว่าเราจีนอะไร ก็บอกเค้าไป เค้าก็บอกว่า อืม แต้จิ๋วกับ ... เนี่ยไม่ถูกกันนะ เราก็แบบ เหรอคะ (ในใจคิดว่า จะมาไม้ไหนกันฟะเนี่ย) แล้วเค้าก็ไม่ค่อยชอบเราจริง ๆ ด้วยแหละ แต่พักหลังทำงานด้วยกันมากขึ้น เราอ่อนให้เค้าหน่อย (เพราะเค้าจะคิดแบบว่า ชั้นเป็นรุ่นพี่ เธอต้องเข้าหาชั้นอะไรทำนองนี้ ซึ่งเราไม่ค่อยอ่ะ) ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นแยะ ส่วนเรื่องภาษาไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดว่า สำเนียงเราก็ไม่ใช่ฝรั่งจ๋า อันนี้เป็นความแตกต่างที่ไม่น่าเอามาปิดกั้นการสื่อสาร แต่ที่ฟังแล้วรำคาญคือ คนดำวัยรุ่นมักจะพูดมี อั่ม..ขึ้นต้นมันทุกประโยค เหมือนว่าฟังดู cool ไม่ articulate แต่เราฟังแล้วอยากจะเบิ้ดกระโหลกคนพูดซักป้าบ แล้วบอกว่า จะพูดอะไรก็พูดสิ อ้ำอึ้งอยู่ได้ ส่วนเรื่องการแต่งตัว เราไม่มีปัญหา ก็ดูเป็นคน ๆ ไป ที่ไม่ชอบก็คือไอ้พวกเดินกุมเป้าหรือดึงกางเกงเนี่ย (ไม่ว่าดำหรือไม่ดำ) เห็นแล้วกลุ้ม - ยกเว้น Jacko. Just because imo, he's original :) จากคุณ : Genuine XXX - [ 8 ก.พ. 51 03:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าช่วงหลังนี่กลายเป็น Reversed racism 8nvคนดำนี่แหละที่ ที่เหยียดผิว อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกนั่นแหละ ธนาคารผิวดำ ไม่มีการแบ่งแยกทางนิตินัยหรอกครับ เป็นการแบ่งแยกทางพฤตินัยเท่านั้นเอง ผมว่าถ้าคุณและสามีคุณเข้าไปใช้บริการในธนาคารที่คุณอ้างว่าสำหรับคนขาว ผมว่าเขาก็บริการคุณ ถ้าไม่บริการ เขาก็โดน หนักๆเลยแหละครับ การเหยียดผิว เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ยังมีอยู่ทั่โลกครับ ไม่ใฉพาะในอเมริกาเท่านั้น ที่ประเทศไทยก็มีอยู่ตลอดมาตั้งแต่โบราณกาล และปัจจุบันก็กลายเป็น Reversed racism แล้วด้วยครับ กลุ่มที่เคยถูกเหยียดกลับมาเหยียดกลุ่มที่เหยียดพวกเขาแล้วครับ ขอให้ทุกคนนำธรรมติดตัวอยู่ตลอดเวลานะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 08:07:47 จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 07:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การเหยียดผิวยอมรับว่ายังมีอยู่ค่ะ อาจจะไม่โจ่งแจ้งแต่ก็รู้สึกได้ จากคุณ : ศรีธนา - [ 8 ก.พ. 51 07:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราชาวAtlantaมาขอแจมด้วยจ้ะ เราเองเห็นด้วยกับความคิดของคุณGenuine XXX โดยเฉพาะที่บอกว่า 'เช่นบางครั้ง เราว่าคนดำนี่แหละ ตัวแบ่งสีผิวเลย (มันอาจจะเป็นเพราะพวกเค้า react จากสิ่งที่เค้าเจอ) พูดอะไร คิดอะไร ก็จะต้องบอกว่า ในฐานะที่เป็นblack man ในฐานะที่เป็นblack woman ในฐานะที่เป็น black single mom ฯลฯ' บริษัทเราเองรับสมัครพนักงานในแผนก production พอสาวคนดำที่มาสมัุครไม่ได้งานก็หาเรื่องฟ้องบริษัทเราว่าไม่รับเธอเพราะเธอเป็นคนผิวดำ (ทั้งๆที่productionบริษัทเรานั้นมีหมดทั้ง ขาว ดำ เอเชียน..ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด) หรือเรื่องฟ้องแบบนี้เกิดกับกระทั่งตอนมหาวิทยาลัยเปิดรับตำแหน่งprofessor   สำหรับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเพื่อนๆคนดำที่เรารู้่จักเป็นคนที่อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มกว่าเพื่อนๆร่วมงานคนขาวที่เรารู้จักเสียอีก แต่เพื่อนๆคนขาวที่น่ารักก็หลายคนค่ะ ให้เราเลือกไม่ได้หรอกค่ะว่าชอบกลุ่มไหนมากกว่า ่เีรื่องอุปนิสัยของคนแต่ละกลุ่มเราว่ายังไงก็ไม่ขึ้นกับสีผิว แต่ขึ้นอยู่กับสังคมนั้นๆ เราเองไม่ขอโหวตที่คุณจขกท.ถามมานะคะ แต่ถ้าถามว่าชอบเพลงของคนดำคนขาวมากกว่ากัน เราตอบได้ว่าเราชอบเพลงคนดำมากกว่า(ณ ตอนนี้) อิอิ เพลงของ Timbaland นี่มันส์ดีจริงๆ จากคุณ : The way I are (forbidden donut) - [ 8 ก.พ. 51 07:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยินดีด้วยครับคุณforbidden donut ที่กลับถึงบ้านแล้ว จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 08:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่สังเกตนะ ถ้าเป็นคนดำแล้วเป็นพวกมีหน้าที่การงานดี มีการศึกษาดี พวกนี้จะไม่ค่อยมี attitude เท่าไหร่ นิสัยดี เป็นกันเองคุยสนุก สังเกตจากพวกคนในออฟฟิตที่เจอมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับครอบครัวที่เลี้ยงดูมาด้วย แต่ก็มีเยอะที่ค่อนข้างมี Bad Attitude พอสมควร พวกนี้ประมาณว่ากลัวคนอื่นจะมาด่าหรือข่มตัวเองตลอดเวลา แต่เราเลือกคบคนที่ตัวบุคคลมากกว่าสีผิวนะ แต่แน่นอนของแบบนี้มัน Stereotype กันอยู่แล้วหละ จากคุณ : Scooterella - [ 8 ก.พ. 51 08:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเจอ White trash มาก็เยอะครับ ดี เลว ไม่ได้อยู่ที่สีผิวหรอกครับ จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 09:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คำถามแนว Cu Clux Clan จากคุณ : Black Bitch - [ 8 ก.พ. 51 09:51:23 A:58.10.77.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 I'm color blind. จากคุณ : gsd_trd - [ 8 ก.พ. 51 10:22:15 A:71.231.182.170 X: TicketID:154898 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คำถามไม่ได้ออกแนว KKK ยกเว้นว่าถ้าไปถามในอเมริกาก็ว่าไปอย่าง โดยส่วนตัวเรา เพื่อนผิวสีดีๆก็มีเยอะ แต่เราไม่เคยถูกเหยียดผิวจากคนผิวขาวเลย แต่ถ้าโดนเหยียดจากคนผิวสีนี่บ่อยมาก ไม่รู้ทำไม ไม่ว่าจะแกล้งว่าเราว่าพูดภาษาอะไรฟังไม่รู้เรื่อง โดนแซวโดยใช้คำไม่สุภาพ ที่แย่ไปกว่านั้น เราเคยทำงานเป็นพนักงานขายนาฬิกาแล้วโดนลูกค้าคนผิวสีเอานาฬิกาเขวี้ยงใส่หน้า แล้วพูดว่า พวกเอเชียนอย่างเราก็ทำได้แค่นี้ คือ มันก็เป็นไปได้ว่าเขาได้รับความเก็บกดมาจากการที่โดนคนผิวขาวดูถูก เลยมาลงที่เรา แต่ก็ไม่เข้าใจว่าคนผิวเหลืองมันผิดตรงไหน เคยไปดูถูกเขาหรือเปล่า ก็ไม่ จากคุณ : Left side heart - [ 8 ก.พ. 51 10:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Ku Klux Klan หรือที่เรียกว่า K K K นะครับ  ไม่ใข่ Cu Clux Clan จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 10:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่พูดมาทั้งหมด ถูกต้องแล้ว คร้า บ บ บ บ บ เราว่ารัฐบาลอเมริกันก็พยายามที่จะทำปัญหาเหยียดเชื้อชาติ สีผิว หมดไป โดยออกกฎหมายต่าง ๆ มากมาย จนกลายเป็นเสียว่า พวกคนดำถือโอกาสเอาเป็นประโยชน์ ในเชิงกฎหมายเรื่องการแบ่งแยกไม่มี แต่ในด้านทัศนคติของคน คิดว่ายังไงก็มี ตอนเด็กอาจถูกโรงเรียนสอนว่าเหมือนกัน แต่พอโตขึ้นจะยิ่งเห็นรายละเอียดปลีกย่อยว่ายังไงก็ไม่เหมือน เชื่อสิ เรื่องรสนิยมการแต่งตัว กับเพลง โดยเฉพาะ Jazz, Blue, Rapp นี่ต้องยกให้คนดำเค้าจริง ๆ อย่าไปว่า จขกท. เรื่อง KKK หรืออะไรเลย คนที่ไปอยู่อเมริกาใหม่ ๆ หรือไม่เคยไปเค้าไม่รู้หรอก ยังดีนะที่ จขกท. เป็นภรรยาคนดำแล้วถามแบบนี้ ...ถ้าเป็นภรรยาคนขาวแล้วถามแบบนี้ เป็นเรื่องได้ (ที่ US) ฮ่า ฮ่า จากคุณ : ... - [ 8 ก.พ. 51 11:47:56 A:58.8.2.160 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อประมาณปี 1978 มีปัหาเกิดขึ้นที่ Californai ผมจำไม่ได้ว่าเป็น Stanford หรือ U ไหน เรื่องมีอยู่ว่า ทางU เขากลัวถูกฟ้อง เขาเลยตั้งเป็น Quota สำหรับรับคนผิวดำเข้า medical school ปรากฎว่า มีนักเรียนผิวขาวที่เข้า Med school ไม่ได้ เขาฟ้อง U ว่า Discriminated เพราะว่าไปเจาะจงว่าจะต้องรับนายผิวดำคนนั้นเข้า เขาเลยไม่ได้เขา The argument was the decision was predetermined by the quota.  If there were no quota he would have got in.  If my memory serve me correctly I think he won the case and was accepted to that Med school ครับระวังนะครับ เดี๋ยวนี้ ใครเหยียดผิวใครกันแน่ครับ ใครกันแน่ที่ทำตัวแปลกแยก ใครกันแน่ที่แบ่งแยก จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 13:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : ไทยสยาม เขียนไว้ใน ความคิดเห็นที่ 4 ชัดเจนดีมากครับ จากคุณ : อิสวาสุ - [ 8 ก.พ. 51 13:31:13 A:71.114.84.246 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณไทยสยามคะ เพิ่งเคยเห็นชื่อคุณในระยะเวลาวันสองวันนี้เอง รู้สึกเขียนอะไร ๆ ได้น่าสนใจดีค่ะ เลยอยากแลกเปลี่ยนความเห็นด้วย เคยอ่านเจอเรื่องที่นักเรียนผิวขาวร้องเรียนว่า ตัวเองมีคุณสมบัติดีกว่านักเรียนผิวดำทุกด้าน แต่ไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เพราะตัวเองต้องแข่งกับคนมหาศาล แต่นักเรียนผิวดำมีโควต้าให้ และแข่งกันในจำนวนคนที่น้อยกว่า (คล้าย ๆ เด็กกรุงเทพฯสมัยดิฉัน จะเอ็นท์ฯ มตจว (มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด อิอิ) อ่ะค่ะ พวกเราก็จะบ่นนว่า เป็นเด็กกรุงเทพฯ ไม่มีโควต้า แต่เด็ก ตจว ได้โอกาสสอบโควต้าหนนึง แล้วยังได้สอบรวมอีกหนนึง) แต่ทีนี้ ถ้าเรามองกลับไปถึงต้นตอว่า ทำไมนักเรียนผิวดำ เค้าถึงเรียนได้ไม่ดีเท่านักเรียนผิวขาว ก็เพราะว่า คนผิวดำถูกเหยียดผิว รายได้น้อยกว่า เขตบ้านที่อยู่ก็แย่กว่า โรงเรียนที่ลูกไปเรียน ก็มาตรฐานต่ำกว่า คุณภาพการศึกษาที่ลูกได้รับก็ด้อยกว่า ถ้าไม่ได้โอกาสแบบนี้ จบออกมาจากยูอันดับด้อยกว่า หรือไม่ก็ไม่ได้เรียนระดับปริญญาเลย เพราะเข้าไม่ได้ ออกมาทำงานก็ได้เงินน้อยกว่าอีก มันก็เป็นปัญหา catch-22 ตลอดไป วงจรนี้มันก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ไม่มีทางแก้ไขหรือพัฒนาได้ หรือเปล่า :) ปล. เคยฟังสัมภาษณ์หมอผ่าตัดฝีมือดีชื่อเสียงก้องโลกคนนี้อ่ะค่ะ Dr. Ben Carson ทำงานที่ Johns Hopkins Hospital ถ้าพูดภาษาไทยก็ประมาณเกิดมาในสลัมอ่ะค่ะ ตอนเด็กใคร ๆ ก็บอกว่าโง่สุดในห้อง แล้วชีวิตก็พลิกผันได้เหลือเชื่อ แต่ขนาดจบเยล จบ Med-school แล้วไปทำงาน ก็ยังเจอ racism "โอกาส" น่ะค่ะ สำคัญที่สุด สิ่งที่ดีที่สุดที่ระบบโควต้าทำได้ก็คือ "ให้โอกาส" คนที่ด้อยโอกาส แต่หลังจากได้รับโอกาสแล้ว เค้าจะใช้มันให้ได้ประโยชน์สูงสุด หรือจะทิ้งขว้างมันไป ตรงนี้ไม่ว่าสีผิวอะไรคงไม่ต่างกัน จากคุณ : Genuine XXX - [ 8 ก.พ. 51 14:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าที่คุณGenuine XXXกล่าวมาก็คงจะครบถ้วนถึงสาเหตุของปัญหาทั้งหมดแล้วแหละครับ ปัญหา Social Psychology เป็นปัญหาที่ต้องเยียวยากันนานครับ บางเรื่องอาจจะต้องเป็นชั่วอายุคนเลยล่ะครับ ปัญหาของคนผิวดำก็เหมือนกัน มันฝังลึกลงไปแล้ว เรียกว่าเด็กผิวดำเกิดมาส่วนใหญ่ก็ถูกปลูกฝังให้จงเกลียดจงชังคนผิวขาว และให้แบ่งแยกตัวเองออกจากคนผิวขาว ความสำเร็จในชีวิต ไม่ต้องพูดถึง แค่ให้เอาตัวรอดก็พอแล้ว ในบางชุมชนให้เอาชีวิตรอดก่อนก็แล้วกัน ระบบสังคมนิยมของรัฐไม่ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาขยัน สมัยผมเป็นนักเรียน Economic ผมเคยถามในชั้นเรียนว่าทำไมประเทศนี้ยังมี "ทาส"อยู่อีกหรือ? แทบทุกคนหัวเราะ อาจารย์ซึ่งเป็น Advisor ผมด้วยชื่อ George Washington Parker เป็นทหารเก่าหน้าแดง หันมาถามผมว่ามาจากไหน ผมก็ตอบว่ามาจากเมืองไทย เขาก็บอกว่าไม่รู้หรือยังไงว่าประเทศนี้เขาเลิกทาสแล้ว ผมก็บอกว่า เห็นตอนเรียน American History ตั้งแต่ High school เขาก็ว่ายังงั้น แต่ฟังวันนี้แล้วผมว่ายังมีทาสอยู่นะ You shall not do to other as  they not to do to you ผมบอกว่าเราไม่ควรทำกับผู้อื่นในสิ่งที่เราไม่อยากให้เขาทำกับเรา แต่ก่อนคนผิวดำ(ทาส)ทำงานในไร่ เพื่อเลี้ยงคนผิวขาว เดี๋ยวนี้คนผิวขาวทำงานในโรงงานเลี้ยงคนผิวดำ คนผิวดำ กับคนไทยในชนบทห่างไกล ห่างไกลนะครับ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน พวกเขา ไม่กล้าที่จะ "หวัง" เขาจึงอยู่กันไป just live their lives as it comes. ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา และมีโครงการทางสังคมต่างๆที่จะเขาไปช่วยเหลือพวกเขา The problem is most of them don't want to learn how to fish, they just want the fish! ให้เวลากับพวกเขาหน่อย ที่เมืองไทยก็เริ่มดีขึ้นแล้วเมื่อสัก 5 ปีก่อน ต่อไปนี้ก็น่าจะดีขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : ไทยสยาม - [ 8 ก.พ. 51 15:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คิดว่าเหมือนกับเวลาที่เห็นโฆษณา ครีมหน้าขาว รักแร้ขาว ขาวกระจ่าง ขาวอมชมพูในบ้านเราน่ะค่ะ แสดงออกแบบเป็นนัยว่าสีผิว มีอิทธิพลต่อชีวิตรักและความสำเร็จในชีวิต แต่ไม่มีการการพูดออกมาอย่างชัดเจน จากคุณ : yuy - [ 8 ก.พ. 51 19:21:46 A:124.121.19.102 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ : Genuine XXX พูดถึงการสอบเข้าของเด็กไทยต่างจังหวัด น่าคิดนะครับ เพราะเด็กต่างจังหวัดโอกาสน้อยกว่าเยอะมาก เพราะแวดล้อมต่างๆ ไม่มีโควต้า โอกาสก็ลดลง กลายเป็นวัฏจักรไปในที่สุด จากคุณ : อิสวาสุ - [ 8 ก.พ. 51 19:28:09 A:71.114.84.246 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เฮ้อ ปัญหาโลกเกือบแตก เห็นด้วยกับทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : chicky freaky - [ 8 ก.พ. 51 21:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เล่าที่ไปเห็นมานะคะ เคยไปงานวันเกิดคนดำครั้งเดียวกับเพื่อนคนขาว 4-5 คน คนดำเยอะมากๆเต็มบ้านเลยค่ะ เปิดเพลงดังสนั่น มี dance floor เพื่อนคนขาวคนนึงเค้าไปดูอาหาร แล้วเค้ามาเล่าให้ฟังว่า มีคนดำมาถามว่า มาจากไหน มายังไง เพื่อนเลยออกมา ไม่ได้หยิบอาหารมาด้วย (อดกินว่างั้น) ดิฉันสังเกตุการณ์รอบๆตัว คนดำพูดคุยกันสนุกสนานเฮฮา สำเนียงก็แบบคนดำเลยค่ะ เห็นมีอยู่คนเดียวที่เป็นสาวดำ สวย แต่ออกสำเนียงเป็นคนขาว เพื่อนๆสงสัยว่า เธอคนนี้อาจได้รับการศึกษาที่ดีมา (ไม่รู้ว่าเกี่ยวหรือเปล่า แต่เค้าสรุปมาเช่นนั้น) คนดำแต่งตัวมีเฟอร์นิเจอร์ตรึม แหวนเพชร ทอง สร้อยคอ กำไล ต่างๆ วิบวับแวววาว ผู้ชายจะชอบสูบไปป์บ้องโต แต่งตัวกันด้วยสีสันฉูดฉาด ลวดลายต่างๆ แล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมแบบแปลกๆ เพื่อนๆที่เป็นคนขาวบอกว่า วัฒนธรรมคนดำนี่เค้าแปลกดี ภายในบ้านเค้าจะมีแต่ของหรูๆ งามๆ เอาไว้ต้อนรับแขก แต่ถ้าดูจากภายนอกดูสกปรก และเหมือนว่าเค้าชอบที่จะเอาของมาโชว์กัน ง่ายๆก็คือ ขอให้ดูดีไว้ก่อน สรุปแล้ว ดิฉันคิดว่า ก็คนเหมือนๆกัน แค่ความคิด สังคม วัฒนธรรมต่างกัน การมาอยู่รวมกัน จึงเกิดความขัดแย้งในบางครั้ง จากคุณ : thaispicy - [ 8 ก.พ. 51 23:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 นอกเรื่องนิดนึงนะ อยากรู้ว่าให้โหวตไรอะ จากคุณ : my-kokoro - [ 8 ก.พ. 51 23:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ***ณ  วันนี้  สำหรับประเทศ  USA  ขอยืนยันว่า  คนอเมริกันยังไม่พร้อม(หรือยอมรับ)ที่จะมีประธานาธิบดีผิวสีอื่น  นอกจากผิวขาว ***คอยดูแล้วกัน  โปรดจดจำ  และโปรดบันทึกความเห็นนี้ไว้ด้วย OBAMA  ก็คือ  OBAMA  ของพรรค Democrat ที่ได้รับการเสนอเป็นตัวเลือกคนหนึ่งในการเลือกตั้ง  the  US President ในเดือนพฤศจิกายน 2008  ก็แค่นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 23:46:34 จากคุณ : ก็แค่นั้นเอง (Detente) - [ 8 ก.พ. 51 23:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คนขาวกับคนดำต่างกันตรงไหน มันขึ้นกับคนนะคะ เราว่า แต่คนส่วนใหญ่ก็เหมารวม แม้แต่เราเอง ซึ่งก็ต้องคอยย้ำเตือนตัวเอง ว่า ไม่ให้คิดอย่างนั้น เพราะเป็นการดูถูกสติปัญญาตัวเอง และเป็นสิ่งไม่ดี เวลาเริ่มคิดอะไรเหมารวม เช่น คนดำส่วนใหญ่ไม่มีมารยาท คนดำส่วนใหญ่ ชอบอวดรวย ขับรถหรูหรา ใช้ของแบรนด์เนม แต่จริงๆ หาได้ไม่พอยาไส้ อย่างไรก็ตามแต่ มันติดในสายเลือด พยายามลบมันออกเหมือนกัน เราคุยเล่นกับเพื่อนคนไทย (ทั้งชายและหญิง) แซวเล่นเรื่องมีแฟน ซึ่ง เพื่อนกับเรามั่นใจเหมือนกันว่า ถ้าพาแฟนหรือ แต่งงานกับคนดำ พ่อแม่ช็อคตายแน่ (เราหวังว่าจะไม่ offensive ใครนะคะ ถ้าเกิดทำไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ขอโทษล่วงหน้า) เพื่อนก็บอกไม่มีทาง เค้าไม่ชอบ สาวผิวดำอยู่แล้ว ให้ตายก็ไม่ชอบ ส่วนเพื่อนผู้หญิง เราเสนอเล่นๆ ว่า เกิดไทเกอร์ วู้ดมาหลงรัก จะรักเค้าตอบไม๊ เพื่อนปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาด ส่วนเรา คงรีบไปกอดขา ไทเกอร์ วูด กลัวเค้าเปลี่ยนใจ 55555 คุยกับเพื่อนคนขาว ซึ่งสนิทสนมกับสแปนิชและเอเชียมาก เค้าก็ถามเราย้ำ ถึงความมั่นใจว่า เค้ารู้สึกมาตลอดว่า คนดำจะครองรักกับคนเชื่้อสายเอเชีย หรือสแปนิชยากมาก แทบไม่เคยเห็นเลย  ถามความคิดเรา เราก็อธิบายว่า มันเป็น เรื่องงี่เง่า ที่ต้องพยายามลบ อย่าว่าแต่ รังเกียจสีผิวดำเลย แค่ชั้นผิวแทนเนี่ย ชั้นรู้สึกเป็นปมด้อยตลอดว่าชั้นตัวดำ แล้วก็ดูถูกตัวเองอยู่เนืองๆ อย่าว่าแต่คนอื่นแซวเลย มาอยู่นี่ก็ตั้งหลายปี ไม่เคยปลื้ม ดาราผิวดำเลย เพราะมองอย่างไรเค้าก็ไม่หล่อ แต่พออยู่ๆ ไป ความคิดเปลี่ยน ตอนนี้ปลื้ม Tyson Beckford ที่เป็นนายแบบอยู่ ยิ้มแต่ละที ใจจะละลาย หากมีโอกาสก็ดูรายการ Make Me a Super Model Bravo TV แล้วจะรู้ว่า พี่เค้ายิ้มสวยมากๆ วันนี้ดูข่าว เค้าวิเคราะห์ ว่าทำไมแคลิฟอร์เนีย คลินตัน ถึงชนะ เพราะมีเอเชียนอเมริกัน กับลาติโนอยู่มาก จากนั้นไปสัมภาษณ์ คนในรัฐวอชิงตัน ที่ได้สถิติว่า มี เอเชียนอเมริกัน มากที่สุดในประเทศ ผลการสำรวจ เป็นดังคาด คือ คนส่วนใหญ่สนับสนุนฮิลลารี่ บางคน( เอเชียนอเมริกัน) ถึงกับให้สัมภาษณ์ ว่าชอบเพราะเป็นคอเคเชียน ก็เท่านั้น แล้วไม่รู้สึก comfortable กับผุ้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่ทราบประวัติมาก อย่าง โอบามา Obama has joked that he worried his political career was over after 9/11 because his name sounded too much like Osama. In fact, it's better than that: Named after his father, his full name is Barack Hussein Obama Jr. credit: http://corner.nationalreview.com ในความเห็นเรานะ อเมริกันส่วนใหญ่ รับไม่ได้หรอก ที่จะให้ประธานาธิบดี ชื่อ Hussein จะแค่ชื่อกลางก็เหอะ คนอเมริกันส่วนใหญ่ คอนเซอร์เวทีฟจะตาย แค่เรื่องทำแท้งกับ stem cell เนี่ย ก็ยังไม่เปิดรับอีก ยุโรปเค้าไปถึงไหนกันแล้ว แต่รีพับลิกันอยากมาก ให้ฮิลลารี่ได้เป็นตัวแทน เพราะ คนส่วนใหญ่เกลียดฮิลลารี่ ฝั่งริพับบลิกันมีทางเอาชนะได้ By the way, I wish Obama became the President in the 2008 Election. However, it'll be just a dream, I think. จากคุณ : อยู่ไกล๊...ไกลจากบ้าน - [ 9 ก.พ. 51 13:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 He is  Tyson Beckford. So Handsome and has a very beautiful smile. จากคุณ : อยู่ไกล๊...ไกลจากบ้าน - [ 9 ก.พ. 51 13:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนไปอยู่เมกา เจอทั้งคนผิวสีไฮโซและคนผิวสีฐานะล่างหน่อยแต่เค้า ไนซ์กับเรามากๆ  ทุกคนเลยคะ  เลยรู้สึกดีกับคนดำ คิดว่าจริงๆ แล้ว คนดำ สุภาพ  และตลกมากๆ  ยิ่งคนดำทางใต้(ที่เรารู้จัก) เค้าอารมณ์ดี  ร่าเริ่ง  จริง ใจ  แต่ถ้าคนดำวัยรุ่นก็จะบลิงๆ หน่อย  ทำตัวคูลๆ ก็โอเค จริงๆ   เราน่าจะเป็นเพื่อนกับเค้านะ  เพราะเราเอเชียก็โดนดิสเครมิเนตจาก คนขาว ไม่น้อยเหมือนกัน  น่าจะเห็นอกเห็นใจกัน  ส่วนตัวไม่ชอบคนขาว เหยียดผิวเลย ปล เห็นด้วยที่ว่าคนอเมริกันยังไม่พร้อมมีประธานาธิบดีผิวสี   แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 51 14:20:42 จากคุณ : หนูยิ้ม (sweetkiwi) - [ 9 ก.พ. 51 14:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คงขึ้นอยู่กับคนครับ โดยส่วนตัวเคยเจอคนดำทำไม่ดีด้วย แม้เธอจะเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟในโรงแรม และผมเป็นแขก และโรงแรมก็ไม่ใช่โรงแรมห่วย ก็พยายามจะไม่คิดเหมารวม แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันถ้าเจออีกอาจมีอคติถาวร โดยส่วนตัวคิดว่าพวกที่ชอบดูถูกจะเป็นพวกที่ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศมาก หูตาแคบ จากคุณ : Aeotera - [ 9 ก.พ. 51 20:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 By the way, I am rooting for Clinton eiei จากคุณ : Aeotera - [ 9 ก.พ. 51 20:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Hate Americans, doesn't matter what race they are. white, black , hispanic. and asian people who try to act like farang. จากคุณ : 9-11-2001 - [ 10 ก.พ. 51 02:52:07 A:69.34.243.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ^ ^ ฮ่า ฮ่า แล้วไปเกลียดเค้าทำไมล่ะ โรคจิตหรือเปล่า จากคุณ : ... - [ 10 ก.พ. 51 10:46:41 A:58.8.2.34 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มาแอบอ่านด้วยคนคะ ^^ มีแฟนเป็นคนผิวสีเหมือนกันคะ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะเขาบอกว่า เขาอยากได้แฟนเป็นคนขาว แล้วก็เป็นชาวเอเชีย เพราะผู้หญิงเอเชียจะออกแนวแม่บ้านมากกว่า คือ อ่อนหวานและอ่อนโยน และที่สำคัญเขาอยากให้ลูกของเขาผิวขาว แต่พอถามถึงเรื่องความภูมิใจในสีผิวของเขา เขาก็บอกว่า เขาภูมิใจเป็นอย่างมาก ก็เลยยัง งง ๆ อยู่ว่า สรุปแล้วว่ายังไงกันเนี่ย ภูมิใจในสีผิวของตัวเอง แต่อยากให้ลูกผิวขาว - -" แต่ถ้าถามความรู้สึกของเรานะคะ เราว่า คนผิวสีส่วนใหญ่ จะมีความเป็นเอเชียมากกว่าคนผิวขาวนะคะ คือ รู้สึกการเห็นอกเห็นใจ สุภาพ แล้วก็มนุษยสัมพันธ์ดีกว่าคะ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีแฟนผิวสีก็เลยออกมาบอกว่า เขาดีไปเสียหมดนะคะ คือ ก่อนหน้านี้ก็คบกะคนผิวขาวมาบ้างเหมือนกันคะ เลยเห็นความแตกต่าง แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 51 18:46:06 จากคุณ : วิหคลม - [ 10 ก.พ. 51 18:45:05 ]