ความคิดเห็นที่ 1 ซื้อคอนโดน่าจะได้นะคะ แถมถ้าไม่ค่อยอยู่ นานๆมาอยู่ทีนึง เราว่าคอนโดดูแลง่ายกว่า และเสื่อมสภาพยากกว่าเมื่อเทียบกับบ้าน จากคุณ : ยี่สิบสี่วันสุข - [ 12 ก.พ. 51 00:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคะคุณยี่สิบสี่วันสุข คือเรื่องของเรื่องที่เค้าอยากได้บ้านเพราะ 1.คือตั้งใจจะซื้อบ้านไว้ให้ทางครอบครัวของภรรยาได้อยู่อาศัยและดูแลบ้านไปในตัวด้วย เพราะทางครอบครัวของภรรยาก็ยังเช่าบ้านกันอยู่ ทางสามีของเพื่อนสาวก็เลยอยากมีบ้านไว้ให้พวกเค้าได้อยู่อาศัยกัน 2.ส่วนเวลากลับมาเยี่ยมเมืองไทยในแต่ละทีทางคุณสามีกับเพื่อนสาวจะได้ไม่ต้องไปนอนโรงแรมเหมือนทุกครั้ง เพราะคุณเธอกะว่าจะทำห้องไว้ห้องนึงสำหรับอาศัยเวลากลับมาเที่ยวเมืองไทยกัน จากคุณ : จขกท - [ 12 ก.พ. 51 01:03:22 A:74.72.122.241 X: TicketID:139253 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Perhaps you can read this topic from khun lawanwadee on her website 'ระเบียบเกี่ยวกับการถือครองที่ดินบุคคลสัญชาติไทยที่มี หรือเคยมีคู่สมรส เป็นคนต่างด้าว และบุตรผู้เยาว์คนต่างด้าว ที่มีสัญชาติไทย ขอได้มาซึ่งที่ดิน' http://lawanwadee.com/?p=88 จากคุณ : forbidden donut - [ 12 ก.พ. 51 01:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆถ้าให้ซื้อได้คงจะหายไปเยอะแล้ว เราไม่ทราบขอกฎหมายที่แน่นอนแต่เชื่อว่าซื้อบ้านเดี่ยวไม่ได้แน่ๆนอกเสียจากเงินเป็นของฝ่ายหญิง จากคุณ : Hotlver - [ 12 ก.พ. 51 01:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากที่ดิฉันศึกษามาคนต่างชาติ เช่าที่ปลูกบ้านได้ต้องเป็นในลักษณะชื่อบริบัทเท่านั้นค่ะนั่นหมายถึงต้องเปิดบ.จริงๆและมีเงินทุนเปิดบ.ตามกฏหมายไทยกำหนดค่ะ (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่คุณต้องเข้าไปดูเวบของที่ดินและรายระเอียดในเวบอีกทีค่ะ) ....... กรณีของเพื่อนคุณ ถ้าสามีอเมริกันอยากได้ที่พักอาศัยที่เป็นชื่อสามีจริงๆ วิธีที่ง่ายๆที่ไม่ซับซ้อน ก็คือซื้อคอนโดเท่านั้นค่ะ หากซื้อบ้านและที่ดิน ปลอดภัยขึ้นมาหน่อยก็ซื้อในนามภรรยาและสามีเช่าต่อจากภรรยาครั้งละ30ปี ซึ่งทำสัญญาที่ สำนักงานที่ดิน ในโฉนดจะระบุชื่อสามีของเพื่อนคุณเป็นผู้เช่า สามีเพื่อนคุณก็เก็บโฉนดที่ดินไว้กับตัวเองอาจจะทำให้อุ่นใจขึ้นมาบ้างค่ะ(ทำวันเดียวกันกับที่เพื่อนคุณรับโอนบ้านจากผู้ขายค่ะ) ดิฉันก็ซื้อบ้านไว้หลายๆหลัง(แพลนไว้ให้คนเช่า ในอนาคต ตอนนี้ก็ปิดๆไว้ค่ะ)แต่ซื้อในชื่อดิฉันเองและสามีเซ้นต์ยินยอมว่าเป็นสินส่วนตัวไม่ไช่สินสมรส ซึ่งตอนแรกอ่านข้อความก็สีหน้าเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยอมเซ็นต์เพราะดิฉันก็มีบ้านเดิมๆก่อนแต่งงานอยู่แล้ว สามีเลยวางใจว่าจะไม่เกิดปัญหาภายหน้าค่ะ และก็ไปติดต่อที่อำเภอทำเรื่องว่า สามี อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ด้วยได้ตามกฎหมายค่ะ(ยุ่งยากก็ตรงนี้ละ)......และมีบ้านบางหลังซื้อไว้ขายให้เพื่อนๆอเมริกัน ที่มีภรรยาคนไทยส่วนใหญ่ก็จะซื้อโดยใช้ชื่อภรรยาซื้อและสามีเช่าต่ออีกที เหมือนที่บอกไว้ข้างบนค่ะ จากประสบการณ์ซื้อบ้านทิ้งไว้แล้วมีญาติอยู่ด้วยดูแลให้ ปัญหาที่จะเกิดคือตอนคุณกลับไปพักผ่อนที่บ้านมืองไทย ความเป็นส่วนตัวจะไม่มีเลยค่ะ มีคนเข้าใน ออกนอกตลอดเวลา โดยไม่ได้นัดหมาย(รวมญาติในบ้านด้วย) นั่นคือปัญหาที่คนอเมริกันไม่ชอบเพราะชีวิตประจำวันของคนอเมริกันค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ ในสังคมไทยเรา เพื่อนฝูงหรือญาติ ผ่านมาก็แวะเยี่ยมเยียน (จริงๆก็หวังดีอยากแสดงน้ำใจ ในความรู้สึกของคนไทยค่ะ) นอกจากนั้นคุณยังต้องจ่ายค่าดูแลบ้านให้อีก.........หากซื้อคอนโดทิ้งไว้ปัญหาเรื่องนี้ก็จะไม่เกิดค่ะ จากคุณ : Justmint - [ 12 ก.พ. 51 03:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่างชาติมีเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน1ไร่ แต่ต้องมีเงินลงทุนหรือซื้อตราสารในไทยจำนวน 1ล้านเหรียญยูเอส http://www.dol.go.th/guide/foreigner2_032545.htm จากคุณ : เสียงซึง - [ 12 ก.พ. 51 09:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรียนท่านเจ้าของกระทู้ ด้วยตัวเราเองเป็นผู้สนใจกฎหมาย  และด้วยความอยากเป็นนักกฎหมายจริงๆ  เมื่อได้เห็นคำถามตามกระทู้นี้แล้ว  เห็นว่าน่าสนใจ จึงอยากตอบเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่านเจ้าของกระทู้รวมท่านอื่นๆที่สนใจ  ดังต่อไปนี้ ***** ขออนุญาตตอบตรงเป้าตามคำถามที่มีมาแต่ละข้อ  ด้วยภาษาธรรมดา  ๆ ที่เข้าใจได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. คนต่างด้าวสามารถ lease หรือเช่าที่ดินในประเทศไทยเพื่ออยู่อาศัยได้  เพราะไม่มีกฎหมายไทยฉบับใดห้ามคนต่างด้าว  หรือคนต่างชาติเช่าที่ดิน  แต่ตามมาตรา 540  ของประมวลกฎหมายแพ่ง ฯ ห้ามมิให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นกำหนดเกินกว่า 30 ปี   ทั้งนี้ยกเว้นเป็นการเช่าตามกฎหมายเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542  ซึ่งบัญญัติให้สามารถทำสัญญาเช่าที่ดินเฉพาะเพื่อการดังกล่าวได้ไม่เกินกำหนด 50 ปี 2. คนต่างชาติ (คนต่างด้าว) สามารถซื้อ  " บ้าน "  ซึ่งอาจก่อสร้างด้วยอิฐ  หรือปูน  หรือไม้  หรือด้วยวัสดุอื่นใดที่สามารถซุกหัวนอนในประเทศไทย  ได้   ทั้งนี้เพราะจนถึงปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2551 ยังไม่มีกฎหมายไทยฉบับใดห้ามคนต่างชาติ  หรือคนต่างด้าวซื้อ " บ้าน " ในประเทศไทย 3. คนต่างชาติ ( คนต่างด้าว)   โดยหลัก  "ถูกห้าม" โดยพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497  มิให้ได้กรรมสิทธิที่ดินในราชอาณาจักรไทย  แต่มีข้อยกเว้น  โดยกฎหมายไทยได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวอย่างจำกัดเพื่อใช้ประโยชน์ต่างๆ เช่น  เพื่อการพาณิชยกรรม  หรือเพื่อการอุตสาหรรม  เป็นต้น 4. คนไทยที่สมรสกับคนต่างด้าว  สามารถมีกรรมสิทธิในที่ดินได้  คือสามารถมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินได้แน่นอน  แต่คนไทยผู้นั้นและคู่สมรสต่างชาติ  "ต้องมีหนังสือ" ยืนยันโดยลงชื่อร่วมกัน มีข้อความเป็นสาระสำคัญ  ว่า  เงินที่ฝ่ายคนไทยนำมาซื้อที่ดินทั้งหมดนั้น  เป็นสินส่วนตัว  หรือเป็นทรัพย์ส่วนตัวของคนไทยผู้นั้น (ในกรณีนี้ก็คือตัวภรรยา  นั่นเอง)  แต่เพียงฝ่ายเดียว  โดยเงินที่นำมาซื้อที่ดังกล่าวนี้มิใช่เงินจากสินสมรส  หรือไม่เป็นเงินที่ทำมาหาได้ร่วมกับสามีคนต่างชาติ  หรือไม่เป็นเงินของสามีต่างชาติให้มาซื้อ  ดังนี้  หากยื่นหนังสือยืนยันดังกล่าวมานี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดินตอนไปขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ เขาพิจารณาดูแล้วเชื่อว่าจริง  เจ้าหน้าที่ก็จะทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิให้มีชื่อคนไทย (ภรรยา ) ลงในโฉนดที่ดินที่ซื้อหามาได้ 5.ให้ระวัง  ระวัง !!!!!!   หากคนไทย ซื้อที่ดินโดยมีเจตนาแอบแฝงเพื่อประโยชน์แก่คนต่างด้าว  ตอนไปขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิที่สำนักงานที่ดิน   หากพนักงานเจ้าหน้าที่เขาสงสัย  หรือมีเหตุเชื่อได้ว่า  คนไทยผู้นั้นประสงค์หลีกเลี่ยงกฎหมายด้วยการกระทำดังกล่าว(ซื้อที่ดินเพื่อถือครองแทนคนต่างด้าว)  พนักงานเจ้าหน้าที่เขามีสิทธิสอบสวน  และส่งเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อสั่งการ  ซึ่งจะทำให้เรื่องยืดยาวเป็นปี ๆ (ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 74) 6. กรณีสามีต่างด้าวได้เช่าที่ดิน   และซื้อบ้านโดยใช้ชื่อของสามี  นั้น  หากเขาเสียชีวิตลง  กรรมสิทธิในตัวบ้าน  และสิทธิการเช่าที่ดิน  จะตกแก่ผู้ใด  นั้น  คำตอบคือ ****  หากเป็นสามี-ภรรยาโดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายไทย  ก็ต้องใช้กฎหมายไทยบังคับถึงแม้สามีจะเป็นคนต่างชาติก็ตาม   (ยังจะไม่พูดถึงตามหลักกฎหมายขัดกัน  (พ.ร.บ.กฎหมายขัดกัน พ.ศ. 2481)  ที่ให้ใช้หลัก  "ถือกฎหมายของประเทศที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่ lex  situs มาใช้บังคับ " ในกรณีที่หากมีญาติฝ่ายสามีมาขอโต้แย้งสิทธิ  เราจะยังไม่พูดถึง  เพราะมันยาวไป  ในที่นี้ขออธิบายแค่เรื่องมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมแต่อย่างเดียว)**** 6.1 หากสามีต่างด้าวผู้นั้นมิได้ทำพินัยกรรมยกบ้านให้ผู้อื่น  กฎหมายไทยให้แบ่งส่วนมรดกตามลำดับชั้นต่างๆ ของทายาทโดยธรรม   คุณผู้หญิงไทยที่เป็นภรรยา  มีสิทธิได้รับมรดกจากสามีต่างด้าวที่ตายไป คือ  "บ้าน"  หลังนี้แน่นอน  ทั้งนี้  หลังจากหักส่วนของภรรยาที่เป็น " สินสมรส " ไปแล้ว  อีกต่างหาก 6.2 ส่วนเรื่องสิทธิการเช่าที่ดินนั้น  ถึงแม้  กฎหมายแพ่ง มาตรา 1600 จะบัญญัติไว้ว่า " บรรดาสิทธิ และหน้าที่  ตลอดจนความรับผิดชอบต่างๆทั้งหลายของผู้ตายเว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว  เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้  ให้ถือเป็น " กองมรดกของผู้ตาย " ด้วย   หมายความว่า  สิทธิการเช่าที่ดินผืนนี้  ก็เป็นมรดกซึ่งคุณภรรยาสามารถสืบสิทธิการเช่าของสามีต่อไปได้   แต่อย่างไรก็ตาม  เรื่องการขอสืบสิทธิการเช่าที่ดินต่อจากสามี นั้น ในทางปฎิบัติ  เราขอแนะนำให้คุณภรรยา โปรดเจรจากับเจ้าของที่ดินเป็นการส่วนตัวเพื่อขอเปลี่ยนชื่อผู้เช่าจากชื่อสามีเป็นชื่อตนเอง  ซึ่งน่าจะเป็นทางไมตรีกับเจ้าของที่ดินมากกว่าไปใช้หลักกฎหมายเพียงอย่างเดียว หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้  และผู้สนใจเรื่องนี้จะได้รับประโยชน์จากข้อมูลชิ้นนี้เป็นอย่างมาก แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 00:05:32 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 23:25:32 จากคุณ : อยากเป็นนักกฎหมายบ้าง (Detente) - [ 12 ก.พ. 51 17:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังจะซื้อบ้านแถวบางบัวทองเลย ขอบคุณ คุณ Detente จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส - [ 13 ก.พ. 51 07:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซื้อบ้านและรับโอนมาแล้วเป็นชื่อตน และจะให้แฟน (ไม่ได้จดทะเบียน) เช่าต่อ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ (ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ) ให้คนทำแทนได้ไหมคะ จากคุณ : ฝ้าย - [ 5 มี.ค. 51 01:12:13 A:87.21.199.153 X: TicketID:169879 ]